ค่ายกล ‘นินจา เมซ เดอะ บิ๊ก แอดเวนเจอร์’ ชวนบุกตะลุยทุกด่านความสนุกก่อนใคร ที่เซ็นทรัล เวสต์เกต

เปิดให้เข้าชมแล้ว สำหรับสุดยอดประสบการณ์ความมันส์และความสนุกส่งตรงจากญี่ปุ่น กับงาน “นินจา เมซ เดอะ บิ๊ก แอดเวนเจอร์” (NINJA MAZE…THE BIG ADVENTURE) ครั้งแรกในโลกที่ทุกคนจะได้สัมผัสกลไกลับในบ้านนินจาอิงะนอกญี่ปุ่น สนุกไปกับการใช้ไหวพริบและพละกำลัง เพื่อผ่านด่าน ค่ายกลต่างๆ ตามแบบวิถีนินจาต้นตำรับ โดยทุกคนสามารถเข้าทดสอบความแกร่งลองเป็นนินจาก่อนใคร   ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 31 พฤษภาคม ณ เวสต์เกต ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซา  เวสต์เกต มอบประสบการณ์สุดท้าทายโดยผู้จัดคุณภาพ เซ็นทรัลพัฒนา และ บีอีซี – เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์

บรรยากาศการเปิดงานวันแรกต่างคึกคักและเต็มไปด้วยครอบครัวดาราและคนดัง ที่มาร่วมเปิดประสบการณ์การผจญภัยสุดมันส์ในครั้งนี้กันมากมาย อาทิ พลอย – พลอยพรรณ และ น้องพูม่า – น้องแพนเตอร์, แอนนี่ บรู๊ค และ น้องฑีฆายุ, กุน กิตติคุณ และ ดุ่ย ฐานทรัพย์ จาก The Face Men, แคร์ ฉัตรฑริกา, มิลค์ ภัทลดา และ ไดร์ จิณณ์ณิตา จากเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ น้องแม็ค ณัฐพัชร์ และ น้องอันดา กุลฑีรา

ซึ่งภายในงานทุกคนจะได้ผจญภัยสนุกสนานฝ่าด่านค่ายกลลึกลับและกับดักต่างๆที่มีทั้งในระดับความยากสำหรับเด็กๆ อย่าง ด่านอุโมงค์นินจา, ด่านกำแพงปริศนา, ด่านบาทาไร้เงา, ด่านเสาสยบ, ด่านตาข่ายตะปบ, ด่านวงกตพิชิตใจ, ด่านพสุธากลืนพลัง, ด่านสะพานวัดใจ และ เพลย์ กราวนด์ ที่ให้เด็กๆ ได้สนุกกับกิจกรรมพับดาวกระจายกระดาษและวิ่งเล่นตามอัธยาศัย และในส่วนระดับความยากที่เหมาะสำหรับเด็กโตและผู้ใหญ่ ที่ต้องใช้ทั้งทักษะทางกายและไหวพริบทางสมองในการที่จะผ่านไปให้ได้ในแต่ละด่าน ทั้ง ด่านกำแพงปริศนา, ด่านหลังคาแสนกล, ด่านประตูสุดฉงน, ด่านสองทิศพลิกแผน, ด่านกำแพงพิฆาต, ด่านฉากพรางพิชิต, ด่านพสุธากลืนพลัง และ โซนเขาวงกต ที่ต้องใช้ทักษะการวิเคราะห์แบบนินจาเพื่อหาทางออกจากเขาวงกตไม้สุดลึกลับไปยังปราสาทเอโดะให้ได้

งานนี้ นอกจากทุกคนจะได้สนุกสนานผจญภัยไปกับค่ายกลนินจาต่างๆ แล้ว ทุกคนยังจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับอาวุธและอุปกรณ์ที่นินจาอิงะใช้ในการปฏิบัติภารกิจจริง อีกทั้งยังได้สัมผัสบรรยากาศตลาดนัดญี่ปุ่นที่จำลองมาไว้ให้ทุกคนได้ ถ่ายรูป เช็คอิน ชิม ช็อป และ สวมชุดนินจา เปิดประสบการณ์วิถีแห่งนินจา อิงะและวัฒนธรรมญี่ปุ่นอีกด้วย

“นินจา เมซ เดอะ บิ๊ก แอดเวนเจอร์” (NINJA MAZE…THE BIG ADVENTURE) เปิดให้ทุกคน สัมผัสประสบการณ์ผจญภัยสุดยิ่งใหญ่แล้ว ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 31 พฤษภาคม ที่ เวสต์เกต ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต บัตรเข้าชมราคา 450 บาท ซื้อบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขาและเคาท์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์หน้างาน ติดตามส่วนลดโปรโมชั่นสปอนเซอร์ ได้ที่  www.thaiticketmajor.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2262-3838

ชาวจีนฮิตเที่ยวตรุษจีนนอกประเทศ เทใจให้ไทยเป็นจุดหมายอันดับ 1

China Daily นำเสนอข้อมูลการท่องเที่ยวของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ปัจจุบันนิยมหันมาท่องเที่ยวต่างประเทศเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนกันมากขึ้น  ซึ่งจุดหมายยอดฮิตได้แก่ประเทศและหมู่เกาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย

อันดับ 10 ศรีลังกา เข้ามาติดอันดับเป็นครั้งแรก หลังนักท่องเที่ยวมีความกังวลด้านความปลอดภัย ทำให้ถูกเลือกมาแทนที่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างบาหลี อินโดนีเซียและมาเลเซีย

อันดับ 9 แคนาดา นักท่องเที่ยวจีนกระเป๋าหนักหลายคนเลือกที่จะท่องเที่ยวแบบระยะยาวในทวีปอเมริกาเหนือ

อันดับ 8 สวิตเซอร์แลนด์ ความสวยงามของภูมิประเทศของสวิตฯ ยังคงเป็นจุดหมายยอดนิยมของชาวจีนจำนวนมาก

อันดับ 7 ญี่ปุ่น อีกหนึ่งชาติมหาอำนาจของเอเชีย ที่มีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนมองข้ามความขัดแย้งในอดีต และเลือกเดินทางไปเยือน

อันดับ 6 นิวซีแลนด์ ความสวยงามของธรรมชาติในเกาะเหนือ เกาะใต้ ดึงดูดใจชาวจีนแผ่นดินใหญ่ได้พักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวได้เป็นอย่างดี

อันดับ 5 ฝรั่งเศส แหล่งท่องเที่ยวในยุโรปที่ครองใจชาวจีนจำนวนมาก เห็นได้จากการหลั่งไหลไปเยือนอย่างไม่ขาดสาย

อันดับ 4 ฟิลิปปินส์ ความสวยงามของทะเล เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กที่ดึงดูดให้ชาวจีนไปเยือน

อันดับ 3 เวียดนาม การผสมผสานของสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เวียดนามกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตของชาวจีน

อันดับ 2 ฮ่องกง หนึ่งในเขตปกครองพิเศษของจีน ที่พัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งระยะทางที่ไม่ไกล ทำให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่จำนวนมากเลือกที่จะไปพักผ่อนช่วงปีใหม่

อันดับ 1 ไทย ธรรมชาติที่ตื่นตา อาหารที่อร่อย วัฒนธรรมที่สวยงามและค่าครองชีพที่ไม่แพง เป็นเหตุผลอันยอดเยี่ยมให้ชาวจีนเทใจเลือก ประเทศไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวอันดับ 1

 

ข้อมูลจาก CHINA DAILY

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เยี่ยมชมนิทรรศการพิเศษ ‘วิถีแห่งศรัทธาจากศิลปทัศน์ญี่ปุ่น’

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) ได้เยี่ยมชมนิทรรศการพิเศษเนื่องในโอกาสครบ 130 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – ญี่ปุ่น “วิถีแห่งศรัทธาจากศิลปทัศน์ญี่ปุ่น” ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

 

โดยนายพนมบุตร จันทรโชติ ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ให้การต้อนรับและนำชมห้องจัดแสดงภายในหมู่พระวิมานวังหน้า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ปรับปรุงใหม่ จำนวน 4 ห้อง คือ พระนครพระที่นั่งอุตราภิมุข (จัดแสดงเรื่องอิสริยพัสตราภูษาภัณฑ์) พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข (จัดแสดงเรื่องโลหศิลป์ : ประณีตศิลป์ในงานโลหกรรม) พระที่นั่งบูรพาภิมุข (จัดแสดงเรื่องศัสตราวุธ : ศาสตร์และศิลป์ในการสงคราม) และพระที่นั่งทักษิณา ภิมุข (จัดแสดงเรื่องนาฏดุริยางค์ : มหรสพและการละเล่นของหลวง)

 

นับเป็นครั้งแรกที่มีการนำศิลปะญี่ปุ่นครบถ้วนทุกยุคสมัยมาจัดแสดงในประเทศไทย  ภายในนิทรรศการพิเศษครั้งนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นได้คัดเลือกโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ชิ้นสำคัญตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยโจมน จนถึงยุคประวัติศาสตร์ สมัยเอโดะ ประกอบด้วยหลักฐานที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดี ประติมากรรม จิตรกรรม และประณีตศิลป์ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่น เพื่อนำเสนอเรื่องการเริ่มต้นของศิลปะญี่ปุ่น ความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา ตระกูลขุนนาง และนักรบ นิกายเซนกับพิธีชงชา และความหลากหลายทางวัฒนธรรมในสมัยเอโดะ รวมจำนวน 106 รายการ (130 ชิ้น)

ที่สำคัญและหาดูได้ยากยิ่งคือ โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติ 3 รายการ และมรดกวัฒนธรรมสำคัญ 25 รายการรวมอยู่ด้วย เพื่อช่วยส่งเสริมให้ชาวไทยสนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มพูนสัมพันธภาพของทั้งสองประเทศให้มั่นคงยั่งยืน

ในการนี้ รมว.กก.ได้สำรวจสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับผู้พิการ และบุคคลทั่วไป เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มให้สามารถเดินทางมาใช้บริการได้อย่างสะดวก

ทั้งนี้ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม กำหนดจัดนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “วิถีแห่งศรัทธาจากศิลปทัศน์ญี่ปุ่น” (The History of Japanese Art: Life and Faith) ในโอกาสครบรอบ 130 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – ญี่ปุ่น ตั้งแต่วันนี้ ถึง 18 กุมภาพันธ์ 2561 ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 2224 1402, 0 2224 1370

 

ปาร์ตี้ครั้งหน้าอย่าพลาด! ชวนให้ลอง ‘เหล้าอาวาโมริ’ ของเด็ด ของดีเมืองโอกินาวา

สำหรับสาวกประเทศญี่ปุ่นแล้ว เชื่อได้ว่าจุดหมายใหม่ที่กำลังฮอตฮิตคงหนีไม่พ้น เกาะโอกินาวา ดินแดนที่อยู่ทางทิศใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น ที่นอกจากจะมีทะลสวยๆให้ได้สัมผัสกันในช่วงฤดูร้อนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งของเด็ดของดี นั่นคือ ‘เหล้าอาวาโมริ’ (AWAMORI) ให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย

เหล้าอาวาโมริ ถือเป็นต้นสายของเหล้าโชชูญี่ปุ่น เป็นเหล้ากลั่นที่มีประวัติยาวนาน สันนิษฐานว่ามาจากประเทศจีน, เกาหลี และชาติในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงศตวรรษที่ 13-14

มีวิธีการผลิตที่ไม่เหมือนใคร วิธีการผลิตคือการหมักข้าว จากนั้นนำข้าวมอลต์ที่ได้จากการหมักนำมาหมักผสมกับน้ำ โดยใช้เครื่องกลั่นแบบง่ายในการกลั่น ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่มีพื้นฐานแบบเดียวกันกับเมื่อ 600 ปีก่อน

ด้วยวิธีการผลิตนี้ เหล้าอาวาโมริจึงเป็นเหล้ากลั่นแท้ 100% โดยไม่มีการปรุงแต่งใดๆ เพียงแค่จิบก็สดชื่นได้กลิ่นหอม และรสเข้มของเหล้า นุ่มลิ้น ดื่มง่าย ไร้อาการเมาค้าง เป็นที่ชื่นชอบในบรรดาหนุ่มสาว

นอกจากนี้เหล้าอาวาโมริหลังจากการกลั่น จะถูกนำไปบ่มไว้เป็นเวลานาน ยิ่งบ่มนานยิ่งได้รสละมุน กลายเป็นเหล้าอาวาโมริชั้นยอด

ปัจจุบันมีผู้ผลิตเหล้าอาวาโมริในโอกินาวามากถึง 46 ราย ที่สามารถผลิตได้ทั้งปี มีรสชาติและกลิ่นของเหล้าให้ลิ้มลองมากมาย อาทิ กลิ่นกุหลาบ วานิลลา คาราเมล เห็ดมัตสึทาเกะ น้ำตาลอ้อย แอปเปิ้ล ลูกแพร์ ช็อกโกแล็ต กาแฟ ฯลฯ

นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำ ปราศจากน้ำตาล ทำให้ไม่เป็นภาระแก่ผู้ที่รักสุขภาพ นอกจากนี้ยังดื่มได้เข้ากันกับอาหารไทย อาทิ ไก่ย่าง ส้มตำ ทอดมัน ได้อย่างลงตัว

ทั้งนี้ใครจะรู้บ้างว่าเหล้าอาวาโมริ ผลิตจากข้าวที่ปลูกในประเทศไทย ที่มีความแข็ง เม็ดเรียบ ซึ่งจะเป็นการดีอย่างยิ่ง หากคนไทยจะหันมานิยมเหล้าอาวาโมริกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะได้รสชาติแท้ๆแบบญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้มีการส่งออกข้าวจากไทยไปสู่ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย

เห็นอย่างนี้แล้ว ครั้งหน้าอย่าลืมเลือก ‘เหล้าอาวาโมริ’ เป็นตัวสร้างสีสันและมิตรภาพให้กับปาร์ตี้ของคุณนะคะ!

 

เที่ยวแบบความเร็วสูงจากโตเกียว ถึงโอซาก้า ด้วย Shinkansen

เที่ยวแบบความเร็วสูงจากโตเกียว ถึงโอซาก้า ด้วย Shinkansen

          เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไปเพียงแค่ฝั่งคันโต (โตเกียว) หรือฝั่งคันไซ   (โอซาก้า) ฝั่งใดฝั่งหนึ่งเท่านั้น แต่หลายคนอยากจะล้ำกว่านั้น ด้วยการไปทั้งทีเอาให้ครบสิ่ แน่นอนว่าญี่ปุ่นประเทศที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำ และการเดินทางแสนสะดวกสบายด้วยรถไฟหัวกระสุน ที่ได้ชื่อว่าเป็นรถไฟที่เร็วที่สุดในโลกอย่าง “ ชินคันเซ็น ” (Shinkansen) ที่จะทำให้เราสามารถเที่ยวได้ทั้งโตเกียวและโอซาก้าได้ในทริปเดียว น่าสนใจใช่ไหมคะ? แล้วถ้าไปแล้วต้องไปโดนที่ไหนบ้างนะ ? วันนี้เราได้รวบรวมจุดเช็คอินสุดฮิตจากโตเกียวถึงโอซาก้า ที่ไปแล้วต้องห้ามพลาด ตามมาดูพร้อมกันเลย! 

 

โตเกียว (Tokyo)

พิกัด : โตเกียว ญี่ปุ่น  

            เมืองหลวงมหานครแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย ที่มักเป็นจุดเริ่มต้นของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวญี่ปุ่น แหล่งรวบรวมทั้งที่เที่ยว กิน ช้อป ครบทุกรูปแบบ ซึ่งหากมาที่นี่แล้วต้องห้ามพลาดที่ไหนบ้างไปดูกัน

 

วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple)

อาซากุสะ

ที่มีชื่อเป็นทางการว่าวัดเซนโซจิ วัดพุทธที่ตั้งอยู่ที่ย่านอาซากุสะ หากมาแล้วก็อย่าพลาดที่จะถ่ายรูปคู่กับ “โคมแดง” ขนาดใหญ่ยักษ์ และแวะชิม ช้อปที่ถนนนากามิเสะ ระหว่างทางเข้าวัด โดยเฉพาะขนมปังเมล่อนเจ้าเด็ด ที่เขาว่ามาถึงแล้วต้องกินให้ได้เลยหล่ะ

อาซากุสะ

 

โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)

โตเกียวสกายทรี

ไม่ไกลจากวัดอาซากุสะ เราสามารถมองเห็นหอคอยกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์ที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 634 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่กลางโตเกียว ตอนเห็นไกลว่ายิ่งใหญ่แล้ว พอเข้ามาใกล้ๆมันยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ ที่นี่เราสามารถขึ้นลิฟท์ความเร็วสูงไปชมวิวของเมืองโตเกียวแบบ 360 องศา หรือแวะจิบเครื่องดื่มร้อนๆที่คาเฟ่ด้านบนก็ไม่เลวนะคะ

 

ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)

            ขยับออกมานอกโตเกียวกันสักนิด เพื่อชื่นชมความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวากุจิโกะ ทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 จากทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ ดื่มด่ำกับความสวยงามและบริสุทธิ์ของธรรมชาติ กับทัศนียภาพที่ยิ่งใหญ่ ถ้าคิดว่าภาพที่เราได้เห็นจากในอินเตอร์ว่าสวยแล้ว ของจริงสวยกว่าหลายเท่ามาก ของแบบนี้ต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ

            เดี๋ยวนี้การเที่ยวทั้ง 2 เมืองใหญ่ สำหรับคนที่ไม่มีเวลาก็ไม่ต้องจองหรือวางแผนเองให้เหนื่อยแล้วค่ะ เพราะบริษัท ทัวร์ครับ เขามีบริการทัวร์โอซาก้าและโตเกียวในทริปเดียว ที่รวมค่าบัตรชินคันเซ็นเรียบร้อยแบบเบ็ดเสร็จ พร้อมด้วยไกด์คอยบริการตลอดทริป ไม่ว่าจะขึ้นหรือลงรถไฟ เที่ยวสบายหายกังวลในราคาสบายกระเป๋า

 

จองแพ็คเกจทัวร์เที่ยวโตเกียว – โอซาก้า ได้ที่นี่

 

โอซาก้า (Osaka)

พิกัด : โอซาก้า , ญี่ปุ่น

นั่งรถไฟชินกันเซ็นประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อมายังอีกเมืองเศรษฐกิจสำคัญของประเทศญี่ปุ่นในภูมิภาคคันไซ และเป็นเมืองประวัติศาสตร์สำคัญในอดีต ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงมากมาย และห้ามพลาดต้องแวะ…

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

ปราสาทโอซาก้า

ปราสาทโบราณที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1583 อดีตเคยเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของปราสาท ที่ตื่นตาและน่าสนใจทีเดียว

 

ชินไซบาชิ (Shinsaibashi Shopping Street)

Cr.https://flic.kr/p/R9ivXf

ชินไซบาชิ

แวะช้อปปิ้งก่อนกลับที่ถนนชินไซบาชิ เต็มไปด้วยร้านค้าของใช้ ของฝาก ตลอดถนนที่ยาวถึง 580 เมตร ทั้งร้านขนม สินค้าชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ชีสเค้กในตำนานอย่าง Pablo Cheesecake รสชาตินุ่มลิ้นที่ใครไปแล้วต้องกิน หรือจะเป็นร้าน Luke’s กับเมนูแซนวิสกุ้งล็อบเตอร์และปูแบบจัดเต็ม ที่ต้องต่อแถวยาวกว่าจะได้กิน แค่คิดก็หิวจนน้ำลายไหลแล้วค่ะ

 

โดทงบุริ  (Dotonburi)

กูลิโกะแมน

เดินมาอีกนิดนึง ก็จะเจอกับอีกหนึ่งย่านช้อปปิ้งที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของโอซาก้า ถ้าเอ่ยถึง “ป้ายกูลิโกะ” (Gulico Running Man) ต้องร้อง อ๋อกันอย่างแน่นอน เพราะว่าใครที่นี่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ ใครไปโอซาก้าต้องไปถ่ายรูปคู่กับป้ายกูลิโกะกันเกือบทุกคน ต่อด้วยแวะชิม “ทาโกะยากิ” หรือ “โอโคโนมิยากิ”  (พิซซ่าญี่ปุ่น) ชื่อดังในดินแดนต้นตำหรับ ให้เลือกกินกันหลายร้านเลยค่ะ

ยังมีที่เที่ยวหลายแห่งในโตเกียว – โอซาก้าที่น่าสนใจ แต่ถ้าใครอยากจะไปดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมืองอย่างจริงจัง ก็สามารถเลือกไปเที่ยวเมืองใดเมืองหนึ่งก็ได้นะคะ ทัวร์ครับ ยังมีแพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่นราคาประหยัดอีกมากมาย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ https://tourkrub.co/recommend/ทัวร์ญี่ปุ่น-โตเกียว-โอซาก้า

สาวญี่ปุ่นกินจุ โชว์สวาปาม 10 อาหารไทยจานเด็ด

ยูกะ คิโนชิตะ (Yuka Kinoshita) สาวแดนปลาดิบที่มีชื่อเสียงในการกินจุ อัดคลิปโชว์กินสารพัด อาทิ บะหมี่ 10 ห่อ, นักเก็ต 100 ชิ้น, แกงกะหรี่ 12 ปอนด์, เบอร์เกอร์ 100 ชิ้น, ไข่ต้ม 4.5 กก., ซูชิ 200 ชิ้น, สเต็ก 1.5 กก., ไก่ทอด KFC 48 ชิ้น เป็นต้น

ส่งผลให้ใครที่ได้เห็นต้องตะลึงไปพร้อมๆกัน เพราะการสวาปามของเธอช่างขัดกับหน้าตาอันคิกขุอาโนเนะสไตล์สาวญี่ปุ่น และหุ่นที่ผอมบาง โดยมีข้อมูลว่าเธอมีน้ำหนักตัวแค่ 47 กก.เท่านั้น

มาคราวนี้เธอจะมาชิมอาหารไทย 10 ชนิด เอาใจแฟนคลับชาวไทย โดยเมนูเด็ดทั้ง 10 จาน ประกอบด้วย

ข้าวมันไก่ 

ไข่เจียวกุ้งสับ  

ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน  

แกงเขียวหวาน  

ผักบุ้งไฟแดง 

ยำวุ้นเส้นทะเล

ต้มยำกุ้ง  

ไก่ผัดซอส  

หมูปิ้งห่อใบตอง 

ข้าวต้มมัด

แน่นอนว่าการกินเยอะไม่ใช่อุปสรรคสำหรับสาวกระเพาะยักษ์อย่างเธอ แต่ความเผ็ด ความแซ่บ ของอาหารไทยนี่สิ ที่ทำเอาสาวยูกะ ถึงกับซี้ดไปเลย ว่าแต่ลีลาของเธอจะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมกันเลยดีกว่า

คลิปจาก youtube : Yuka Kinoshita

https://www.youtube.com/watch?v=OTK_Paw_NaY&feature=youtu.be