เปิด 14 พิกัดห้ามพลาดในไต้หวัน

เปิด 14 พิกัดที่ห้ามพลาดในไต้หวัน

ไต้หวันเป็นเป็นประเทศที่ไม่ใหญ่ แต่มีที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆ ไปอบเที่ยวอาจจะเก็บ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำที่ท่องเที่ยวที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เป็นพิกัดห้ามพลาดของที่นี่..

ก่อนจะไปก็ต้องจองตั๋วเครื่องบินทริปที่เราไปก็จองผ่าน traveloka เปรียบเทียบราคาตั่วเครื่องบินต่างๆ หรือจองโรงแรมไปพร้อมกันด้วยก็ได้

เราพักที่ Hostel ย่าน Ximending ที่นี่ก็เป็นที่นึงที่คนนิยมมาช้อปกัน คล้ายกับสยามสแควร์บ้านเรา

Day 1
– Longshan Temple (วัดหลงซาน)
– Bopiliao historical block
– Liberty Square (จัตุรัสเสรีภาพแห่งไทเป)
– World Trade Center Station / Military Village (หมู่บ้านทหาร)
– Xiangshan (Elephant Mountain / เขาช้าง

Day 2
– National Palace Museum (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู่กง)
– Beitou Thermal Valley
– Tsumsui Old Street
– Tsumsui Lover’s Bridge

Day 3
– The Red House
– Huashan 1914 Creative Park
– Houtong Cat Village
– Jiufen Old Street
– Taipei Fish Market
—————
จบทริป 3 วันแต่ 4 คืน นะครับเพราะคืนสุดท้ายนอนสนามบินเอา ที่สนามบิน Taoyuan เขามีห้องอาบน้ำให้อย่างดี

ส่วนสถานที่แต่ละเป็นยังไง มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง จะมีคำอธิบายอยู่ใต้ภาพแต่ละภาพเพื่อนๆสามารถกดเข้าไปดูแต่ละสถานที่ได้เลย บ้างอันก็จะรีวิวเต็มๆไปบ้างแล้วก็จะแปะ Link ไว้ที่ใต้ภาพนะครับ

DAY 1

Longshan Temple – เป็นวัดเก่าแก่ของไต้หวัน และเป็นที่รู้จักกันดีของชาวไทย โดยเฉพาะชาวโสด 555 มาขอแฟนขอเนื้อคู่ ได้กันไปหลายคู่กันเลยทีเดียว
การเดินทางก็ง่ายมากลง MRT Longshan Temple ซึ่งสถานีนี้ก็ออกแบบใน Theme วัดอีกต่างหาก

剝皮寮歷史街區 Bopiliao Historic Block – ที่นี่เมื่อก่อนเป็นตึกเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ หลังจากนั้นได้เปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความสวยงามของตึกอิฐแดงที่มีความสวยงาม และร่องรอยความคลาสสิคของบ้านเมืองในอดีต สามารถเดินทางมาเก็บรูปสวยๆ หลังจากไหว้พระวัดหลงซานเรียบร้อยแล้วได้เลย อยู่ไม่ไกลกันสามารถเดินมาได้เลย

Liberty Square (Taipei) – จัตุรัสเสรีภาพแห่งไต้หวัน เป็นสถานที่ที่ต้องห้ามภาพอีกที่หนึ่ง โดยจัตุรัสแห่งนี้มีพื้นที่มาก 160 ไร่ เป็นสถานที่จัดกิจกรรมาสำคัญๆต่างๆของที่นี่เลย และภายในจัตุรัสแห่งยังประกอบไปด้วย

– อาคารอนุสรณ์เจียงไคเชค 中正紀念堂 Chiang Kai-shek Memorial Hall

– ซุ้มประตูจตุรัสเสรีภาพ Freedom Square Memorial Arch

–  โรงละครและคอนเสิร์ตแห่งชาติNational Theater and Concert Hall

การเดินทาง ลง MRT สถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall ออก Exit 5

MRT Taipei101/ World Trade Center Station – ตอนแรกจุดมุ่งหมายของเราคือไปเที่ยว หมู่บ้านทหาร แต่ว่าพอโผล่ขึ้นมาจาก MRT ก็เห็นความชิคของวิวบริเวณสถานีนี้ ทั้งตึก World Trade Center สีออกชมพูๆ รวมถึงรูปทรงของตึกก็ดูแปลกตาตัดกับตึก Taipei101 และท้องฟ้าสีฟ้า รวมถึงฟุตบาทรอบๆบริเวณนี้ยังคุมโทนอีกด้วย(อยากให้บ้านเราทำฟุตบาทดีดี สวยๆได้แบบนี้บ้าง) เห็นแล้วก็เลยต้องเก็บภาพไว้เลย นับว่าเป็นอีกมุมนึงที่เหมาะแก่การถ่ายกับตึก Taipei101 ด้วยนะ

Si Si Nan Cun Village – หรือ Old Military Village คืออดีตหมู่บ้านทหารตั้งแต่สมัย ก๊ก มิน ตั๋ง ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไต้หวันเป็นอย่างมาก ทางรัฐบาลได้อนุรักษ์ไว้ และเปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชมความน่ารักๆ ของหมู่บ้านแห่งนี้อีกด้วย ในวันอาทิตย์ก็ยังมีตลาดนัดที่ชาวไต้หวันมาขายของกันด้วย

การเดินทาง นั่ง MRT มาลงสถานี Taipei101 / World Trade Center ได้เลยง่ายมั่กๆ

Xiangshan, Taipei – Elephant Mountain หรือเขาช้างที่คนไทยเรียกกัน เป็นสถานที่ยอดฮิตที่คนนิยมขึ้นไปถ่ายรูปมุมสูงของ Taipei โดยเฉพาะเวลาพระอาทิตย์ตกดินนี่สวยสุดยอดมาก ในแต่ละเวลาก็จะได้บรรยากาศต่างๆกันไป

สามารถเข้าไปดูรูปเพิ่มเติมได้ตาม Link นี้เลย
https://www.facebook.com/346849988825274/posts/1170481426462122/

DAY 2

國立故宮博物院 National Palace Museum – พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพระราชวังกู้กง เป็นหนึ่งสถานที่ Landmark ห้ามพลาดของไต้หวันเลย โดยตัวพระราชวังออกแบบสวยงามตามแบบจีนโบราณ ภายในพิพิธภัณฑ์มีจัดแสดงวัตถุโบราณหายากจากพระราชวังต้องห้ามจากเมืองจีน(อันนี้ต้องเสียค่าเข้าชมนะ เราไม่ได้เข้าไปดู)

การเดินทาง นั่ง MRT สายสีแดง ลงสถานี Shiling ออก Exit 1 และต่อรถเมล์สาย R30 ลงป้าย national Palace Museum ได้เลย

北投地熱谷 – Beitou Thermal Valley​ – เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีความเป็นธรรมชาติ เดินเข้ามาจะสัมผัสได้ถึงควัน และไอร้อนมาปะทะร่างกาย บางทีควันลอยสูงเหนือหัวคนเลยนะ เพราะว่าน้ำพุร้อนแห่งนี้มีอุณหภูมิสูงกว่าร้อยองศาเลยทีเดียว

เพื่อนๆสามารถเข้าไปดูรูปเพิ่มเติม และการเดินทางได้ที่โพสนี้เลยครับ
https://www.facebook.com/thailandIndyOfficial/posts/1166800066830258

Tumsui Old Street – ที่นี่เป็นตลาดแหล่งรวมของกิน ของช้อปอีกแหล่งนึงของไต้หวันเลยก็ว่าได้ ดูซิ ไก่ทอดแผ่นใหญ่เท่าหน้า, หมืกชุบแป้งทอดร้านดังก็มีอยู่ที่นี้ และอื่นๆอีกมากมาย แถมยังมาสะดวกเดินทางง่ายอีกต่างหาก

การเดินทางนั่ง MRT ลงสถานี Tumsui ก็ถึงแล้ววว

Lover’s Bridge Tamsui, New Taipei City – สะพานแห่งความรักของไต้หวัน อยู่บริเวณ Tamsui fisherman’s wharf (ท่าเรือประมง Tumsui) คู่รักนิยมเดท ชมวิวพระอาทิตย์ตก และแสงไฟยามค่ำคืนให้บรรยากาศโรแมนติกมากก ซึ่งในวันเปิดตัวสะพานแห่งนี้ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และมีคู่รักมาเริ่มงานเปิดตัวจำนวนหลายคู่

การเดินทาง นั้ง MRT สายสีแดงลงสถานี Tumsui (แวะเดินเล่น Tumsui Old Street ก่อนก็ได้) จากนั้นเดินมาซื้อตั๋วที่ท่าเรือไป Tamsui fisherman’s wharf

DAY 3

The Red House – ตึกสีแดงแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน Ximen เป็นอาคารทรงแปดเหลี่ยม สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณานิคมญี่ปุ่นเข้ามาครอบครองไต้หวัน โดยในปัจจุบันภายในเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะ และละครเวที ส่วนลานด้านหน้าจะมีตลาดในวันเสาร์ อาทิตย์อีกด้วย

การเดินทางนั่ง MRT ลงสถานี Ximending ออก Exit 1

華山1914文創園區 Huashan1914 – เป็นแหล่งรวมตัวงานสร้างสรรค์ของชาวไต้หวัน เมื่อก่อนที่นี่เขาเป็นโรงผลิตไวน์ และบุหรี่แต่เมื่อโรงงานถูกทิ้งร้างไป ก็ได้ถูกปรับปรุงให้เป็น Creative Park แบบเก๋ๆ มีที่สวยๆให้ถ่ายรูปมากมายๆ รวมถึงได้ชมงานศิลปะไปอีกด้วย งานเขาดีจริงๆ

การเดินทาง ลง MRT สถานี Zhongxiao Xingsheng ออก Exit 1 และเดินตรงมาเรื่อยๆ ข้ามถนนใต้ทางด่วนก็ถึงแล้วครับ

Houtong Cat Village – ในอดีตที่เมือง Houtong แห่งนี้เคยเป็นเหมืองมาก่อน แต่เมื่อเหมืองยุติลง ผู้คนก็ต่างย้ายเข้าไปทำงานกันในเมือง ทำให้เกือบกลายเป็นหมู่บ้านร้าง แต่ด้วยคนเก่าแก่ที่นี่ชอบเลี้ยงแมวกัน เมื่อผู้คนย้ายออกไปแต่แมวยังอยู่ น้องเหมียวทั้งหลายก็ออกลูกออกหลานกันมากมาย จนกลายเป็นหมู่บ้านแมว ทางไต้หวันจึงได้เข้ามาพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว น่ารักๆ ที่ทาสแมวต้องห้ามพลาด

ในรูปนี้เอาภาพน้องน้องจอมกวนมาเป็น Presenter ถ้าใครอยากดูรูปเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูโพสต์นี้ได้เลย
https://www.facebook.com/thailandIndyOfficial/posts/1050446501798949

Jiufen, Taipei, Taiwan – เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของไต้หวัน โคมสีแดงๆตามทางเดินแบบ Spirited Away เมืองแบบขั้นบันไดตามเชิง ของกินอร่อยๆ บัวลอยสุดฮิตก็หาได้ที่นี่

เพื่อนๆสามารถเข้าไปดูรีวิวแบบเต็มพร้อมรูปอีกเพียบตาม Link นี้เลย

ไต้หวันวันไร้ฝน ทอดน่องดูโคมแดง ตามรอย Spirited Away ที่เมืองโบราณ ‘จิ่วเฟิ่น’ (九份)

Taipei Fish Market – สายกินต้องมาห้ามพลาดที่นี่ อาหารทะเลสดๆ ราคาไม่แพง แถมอร่อยอีกต่างหาก ซูชิ ซาชิมิ ปู หอย กุ้ง จัดเต็ม เรียกได้ว่าเป็นน้องๆญี่ปุ่นได้เลยทีเดียว แต่ราคาถูกกว่ามากกกก น่าจะถูกว่าบ้านเราอีกนะ

การเดินทางเพื่อนๆสามารถขึ้นรถเมล์สาย 49 มาได้เลยตอนเราไปเราขึ้นจากป้าย Ximen ป้ายจะอยู่ระหว่าง Exit 1 และ Exit 2 เมื่อขึ้นไปก็สามารถดูจากป้ายบอกสถานีที่จะถึงบนรถเมล์ได้เลยไม่ต้องกลัวหลง ลงที่สถานี Taipei Fish Market

เที่ยวเกาหลีกับ 3 มุมลับวิวดี 4 ร้านอร่อย ตามแนวรถไฟฟ้า พร้อมเทคนิคผ่าน ตม.ฉลุย!

เอาใจสายติ่ง หรือสายซีรีส์ กับที่เที่ยวยอดฮิต ‘เกาหลีใต้’ ประเทศแนวหน้าของเอเชีย ที่อยู่ไม่ไกลจากไทย เที่ยวง่าย ค่าเงินไม่แพง จนเป็นจุดหมายปลายทางในใจใครหลายๆคน วันนี้เราจะแนะนำที่กินที่เที่ยวแบบชิลล์ๆ พร้อมเทคนิคจองสายการบิน+ที่พัก ที่บอกเลยว่ามือใหม่หัดเที่ยวก็ทำได้!

Let’s Go Korea!

เตรียมความพร้อมทริปเกาหลีของเราด้วยการจองตั๋วเครื่องบิน ที่เรามีตัวช่วยดีๆมาบอก นั่นคือ Traveloka เว็บไซต์และแอปจองตั๋วเครื่องบินและที่พักราคาถูก ที่มีมากกว่า 1 เส้นทาง และ 1 แสนโรงแรมทั่วโลก ที่บอกเลยว่ายิ่งโหลดแอปลงเครื่อง ยิ่งสะดวกสุดๆ ยกให้เป็นสุดยอดตัวช่วยเดินทางแห่งยุคเลย

เปรียบเทียบราคาสายการบินได้ตามใจ มีทั้งแบบ direct flight  และ transit จะ full service หรือ low cost ก็มีให้เลือกหลากหลาย ที่สำคัญคือราคาที่โชว์ เป็นราคาสุทธิแล้ว ไม่มีชาร์จเพิ่มให้จุกจิกกวนใจ

เราเลือกบิน Jeju Air สายการบินโลว์คอสต์เกาหลีสีส้ม ส่วนใหญ่คนเกาหลีบินเกือบยกลำ ตั๋วตอนโปรคนละ 9 พันกว่า บาท ได้น้ำหนักกระเป๋า 15 กิโลกรัม

ข้อดีคือขึ้นที่สุวรรณภูมิ (เราชอบที่นี่มากกว่าดอนเมือง เพราะเดินทางไปกลับสะดวกด้วยแอร์พอร์ตลิ้งก์) เวลาบินดี บินดึกถึงเช้า วันกลับก็เที่ยวได้เต็มวัน เครื่องลำใหญ่ ขึ้นลงสมูท ที่นั่งไม่แคบขาไม่ติดเบาะ สจ๊วตโอปป้ากล้ามใหญ่ แต่…โลว์คอสต์ก็คือโลว์คอสต์เนอะ ได้กินแค่น้ำฟรี = =”

เที่ยวเกาหลี…พักไหนดี

ที่พักในเกาหลียอดฮิตของคนไทยต้องยกให้ K-Guesthouse Myeongdong 3 เดินทางสะดวกมากติดใต้ดินเมียงดงทางออก 8 , จุดรอรถบัสสนามบิน และแหล่งช็อปปิ้ง แค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงเมียงดงแล้ว ข้างล่างเป็นคาเฟ่นั่งรอฆ่าเวลา

แม้ว่าขนาดห้องจะเล็กไปหน่อย แต่ก็มีของครบครัน ทั้ง ตู้เย็น ทีวี ไดร์ ปลั๊ก ห้องสะอาด แอร์ฉ่ำ WiFi แรง สต๊าฟใจดี ค่าห้องคืนละพันกว่าบาท

มีอาหารเช้าที่ห้องใต้ดิน อาหารเช้าทำเอง มีไข่ ซีเรียล ขนมปัง กินเสร็จก็ล้างเองด้วย มีที่กดน้ำร้อนให้ต้มมาม่าได้ในแต่ละชั้น ใครกระเป๋าใหญ่ต้องกางบนเตียง ผ้าเช็ดตัวมีแต่ผืนเล็ก ต้องแต่งตัวในห้องน้ำซึ่งแคบไปหน่อย แต่ชอบยาสระผม+ครีมนวดมาก ใช้แล้วผมเด้ง จัดทรงง่าย ไปเที่ยวทั้งวันผมก็ไม่มัน อยากได้กลับบ้านเลย

พิกัด: K-Guesthouse Myeongdong 3 รถไฟใต้ดินสถานี Myeongdong ทางออก 8 (ตรงข้าม Daiso) เดินต่อประมาณ 500 เมตร เจอสี่แยกตรงร้าน Nature Republic แล้วเลี้ยวเข้าไปทางขวามือ โรงแรมอยู่ด้านหลังจ้า

แน่นอนว่าตัวช่วยในการเลือกที่พักของเราในทริปนี้คือ Traveloka อีกเช่นเคย เพราะติดใจในความสะดวกมากกก นอกจากนี้ยังมีโค้ดส่วนลดมาแจกกันไม่ยั้ง ส่วนใครที่ไม่มีบัตรเครดิตก็หายห่วง เพราะ Traveloka มีช่องทางการชำระเงินอย่างหลากหลาย จ่ายสะดวก ทั้งร้านสะดวกซื้อ เคาน์เตอร์ธนาคาร หรือจะไปจ่ายสดเมื่อถึงที่พักเลยก็ทำได้ หากอยากเปลี่ยนวันเข้าพักหรือยกเลิกก็ทำได้ฟรี!

มีรีวิวจากผู้ใช้จริงเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจอีกด้วย 

เห็นข้อดีขนาดนี้แล้ว บอกเลยว่าต้องห้ามพลาดกดไลค์เพจ Traveloka  เพื่อติดตามกิจกรรมดีๆและโค้ดส่วนลดที่เอามาแจกกันแบบไม่มีกั๊ก

3 มุมลับวิวดีในเกาหลี

อุโมงค์ร้าง วิวสวยระดับ 10

ไปถ่ายรูปที่สถานีรถไฟร้างพยอกเจ (Byeokje Station) วิวสวยระดับ 10 คู่รักมากันเยอะมาก (คนโสดได้แต่มองบน) เวลาถ่ายต้องต่อแถว ก็จะรู้สึกกดดันหน่อยๆเพราะมีคนรออยู่ วิวดีลงตัวทุกอย่าง มีทางรถไฟ อุโมงค์ เถาไอวี่ แสงสวย มีภูเขาบุคฮันเป็นฉากหลัง อยู่ไกลเมืองหน่อยแต่คุ้ม แฟนๆ GOT7 คงคุ้นตากันดีเพราะเป็นฉากใน MV เพลง Nobody Knows ของยองแจนั่นเอง

พิกัด: ใต้ดินสาย 3 สถานี Samsong แล้วต่อรถเมล์สาย 053 หรือ 033 ประมาณ 9 ป้าย เจอที่กั้นรถไฟแล้วเลี้ยวซ้าย เดินตามรางรถไฟ ข้างทางจะมีหญ้าขึ้นรก ถ้ามาตอนเย็นๆโพล้เพล้ก็จะดูวังเวงหน่อย

เดินไปฝั่งตรงข้ามจะเจอป้ายสถานี Byeokje ที่ถูกทิ้งร้างกลายเป็นอดีต มีรางรถไฟ ต้นไม้ข้างทาง ไม้กั้นรถไฟ และนาฬิกาตาย มาตอนเย็นๆจะได้อารมณ์เหงาๆเหมือนฉากในซีรีส์

เที่ยวคุกเกาหลีใจกลางกรุงโซล

ได้อารมณ์เหมือนฉากในซีรีส์แนวสืบสวน กับการชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เรือนจำซอแดมุน (Seodaemun Prison History Museum) หรือเรียกสั้นๆว่า คุกเกาหลี นั่นเอง ที่นี่คือคุกจริงที่ทางการญี่ปุ่นใช้ขังและทรมานนักโทษเกาหลีสมัยสงครามโลกครั้งที่1 ตั้งอยู่ในสวนอิสรภาพซอแดมุน (Seodaemun Independence Park) ถูกสร้างขึ้นในช่วงใกล้สิ้นสุดราชวงศ์โชซอน

พิกัด: รถไฟฟ้าใต้ดินสถานี Dongnimmun สายสีส้มทางออก 5 แล้วเดินตรงขึ้นเนินมาอีกประมาณ 5 นาที  ก็เจอเลย อยู่ไม่ไกลจากอินซาดง ถนนช็อปปิ้งอีกสายที่สำคัญของเกาหลี

ค่าเข้าชมคนละ 3,000₩ เมื่อได้เข้าไปพ้นกำแพงสูง จะเห็นบรรยากาศภายในกว้างขวางมาก มีต้นไม้ปลูกเป็นแนว ยิ่งช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะยิ่งสวย บวกกับตึกสีอิฐหลายหลังตั้งกระจายกันภายในรั้ว ให้ความรู้สึกสวยงาม และเงียบสงบวังเวง ไปในเวลาเดียวกัน

เยือนถิ่นสตรี ม.อีฮวา 

แวะไปแชะภาพที่ มหาวิทยาลัยอีฮวา (Ewha Womans University) มหาลัยหญิงล้วนใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่งสังเกตว่าเลือกใช้คำว่า Womans แทน Women นอกจากมุมบันไดมหาชนแล้ว ข้างในก็สวยมากกก ต้นไม้เยอะ ตึกสวยคลาสสิคเหมือนในยุโรป มีปรัชญาประจำมหาวิทยาลัยคือ Truth, Goodness and Beauty ชอบที่บอกตรงๆว่าที่นี่คือสวยทั้งมอและคนเรียนเลย

พิกัด: รถไฟใต้ดินสายสีเขียว สถานี Ewha University ทางออกที่ 2 หรือ 3

4 ร้านอร่อยในเกาหลี

เผ็ดๆลื่นๆกับจิมดัก

ประเดิมอาหารเกาหลีกันด้วย จิมดัก หรือไก่ผัดซอสดำวุ้นเส้นเกาหลี จากร้านดัง Andong Jjimdak ให้ชิ้นส่วนไก่มาเต็มแทบจะทุกส่วน หรือใครอยากแบบซีฟู้ดก็มีให้ชิม วุ้นเส้นลื่นมากแต่เหนียวนุ่มสุดๆ ตะเกียบเหล็กก็คีบยากไปอีก อยากกินของอร่อยก็ต้องพยายามหน่อยเนอะ รสชาติจัดจ้านเผ็ดกำลังดี จานใหญ่มากสั่งแบบ half ราคา 21,000₩ กินกัน 2 คนยังแทบไม่หมด

พิกัด: ร้าน Andong Jjimdak ย่านเมียงดง รถไฟฟ้าใต้ดินสถานี Myeongdong ทางออก 8 เดินเข้าซอยมาเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาที  ร้านอยู่ขวามือ

มาม่าเกาหลี…ฮอตดัง Fireeee

มากินมาม่าเกาหลีถึงถิ่น ตอนเอาหม้อมาตั้งจะมีวุ้นเส้นผักหมูไส้กรอกน้ำซุป แล้วจะมีห่อมาม่าให้เราใส่เอง พอเส้นหมดก็เอาข้าวมาคลุกต่อ มีขวดสาหร่ายตั้งที่โต๊ะใส่ได้ไม่ยั้ง เตาเดือดแรงเว่อ อร่อยคล่องคอ ถ้าอยากจะเอาข้าวไปคลุกต่อก็ไม่ว่ากัน คิดราคาเป็นคนๆละ8,000₩

ในเซ็ตจะมีข้าว+กิมจิสีไม่แดงให้ด้วย แต่เห็นสีจืดๆแบบนี้แต่รสชาติเปรี้ยวมากกก
หน้าตาตอนเอามาตั้งตอนแรก นึกว่าต้มจืด พอคนเครื่องปรุงเท่านั้นแหละ ไฟลุก

พิกัด: ร้าน WANBEAK ชั้นใต้ดินห้างที่มีรูปกระต่าย ย่านอินซาดง รถไฟใต้ดินสาย 3 สถานี Anguk Station ทางออก 6

ไก่ทอดอาจุมม่า

มากินไก่ทอดร้านอาจุมม่าแบบในซีรีส์ ร้านไม่หรูแต่เด็ด! เห็นป้ายว่าเคยออกช่อง KBS2 ด้วย สั่งไก่ทอดแบบธรรมดาและสไปซี่อย่างละครึ่ง ราคา 11,000₩ ป้าให้เยอะมากต้องห่อกลับบ้าน แบบว่าไก่มาทั้งตัว ปีกน่องอกคอ ทอดแบบไม่อมน้ำมันเลย แบบธรรมดาอร่อยมาก หนังกรอบ แต่สไปซี่ซอสหวานไปหน่อย

ไข่เจียวป้าก็ดีมาก มีชีสด้วยจานละ 7,000₩ ทางร้านมีเมนู ไก่ทอด บะหมี่ พิซซ่าเกาหลี ไก่ตุ๋นโสม ราคาไม่แพง ป้าใจดีพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย

พิกัด: รถไฟฟ้าใต้ดินสถานี Dongdaemun ทางออก 7 เดินมานิดเดียวเจอป้ายร้าน แล้วขึ้นไปชั้น 2 จ้า

แซ่บไฟลุกกับปลาหมึกผัดเผ็ด

ปลาหมึกผัดเผ็ด ร้านดังย่านฮงแด Hong’s Jjukkumi 홍스쭈꾸미(ฮงซึจูกุมิ) สั่งแบบหมึก+หมูสามชั้น คนละหมื่นกว่าวอน สีร้อนแรงมาก แต่เราว่าไม่ค่อยเผ็ดนะ ห่อกินกับเครื่องเคียงพวกใบชา ถั่วงอก อย่าลืมสั่งไข่ตุ๋นมากินแก้เผ็ดด้วยนะ

ทีเด็ดตอนทำข้าวผัด ตอนเรากินใกล้จะหมด พนักงานจะมาผัดข้าวให้กับน้ำแกงที่เหลือแล้วใส่สาหร่าย+ไข่กุ้งไม่ยั้ง อร่อยยยหนึบหนับ ไปแล้วอยากไปซ้ำ

พิกัด: ร้าน Hong’s Jjukkumi สถานี Hongik University Station ทางออก 8 เดินไปเรื่อยๆผ่านวงเวียน หน้าร้านเป็นป้ายสีแดง คนรอคิวเพียบ

แถม…คาเฟ่สวยที่ innisfree

กินขนมที่ Innisfree Green Cafe ที่ตั้งอยู่ชั้น 2 ในช็อป Innisfree สาขาใหญ่ที่เมียงดง (ชั้นล่างขายเครื่องสำอางปกติ) จริงๆอยากกินแพนเค้กเด้งดึ๋งที่คนรีวิว แต่ต้องรอ 50 นาที เลยเปลี่ยนมาสั่งบราวนี่ จัดจานสวยมาก แต่เนื้อขนมขมๆหน่อย ให้ 7/10 ราคาหลักพันวอน

คาเฟ่ที่นี่สวยมากกก คอนเซ็ปต์กรีนๆ มีต้นไม้เขียวสบายตา มีสเปซให้นั่งชิลหลายมุมเลย
(ช็อปเครื่องสำอาง innisfree จะมีสาขาเยอะมากในเมียงดง แทบจะเจอในทุกซอย บางจุดนี่เปิดตรงข้ามกันเลย แต่คาเฟ่จะมีที่สาขาใหญ่ที่เดียว พนักงานเฟรนด์ลี่พูดอังกฤษได้ ร้านดูหรูแต่ราคาขนมไม่ได้แพงอย่างที่คิด)

พิกัด: รถไฟใต้ดินสถานี Myeongdong ทางออก6

ทริคเที่ยวเกาหลี

-ถ้าไปเกาหลีแล้วเจอปัญหาลองไปที่ Myeongdong Tourist Information Center เป็นศูนย์ใหญ่ใจกลางเมียงดง มีเจ้าหน้าที่สแตนบายหลายภาษา อังกฤษ-จีน-ญี่ปุ่น ให้ความช่วยเหลือดีมาก เราเข้าไปถามเรื่อง T-Money เดินออกมาแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงวิ่งตามมาอธิบายต่อ น่ารักมาก

-แนะนำการเดินทางออกจากสนามบินอินชอน ถ้าใครกระเป๋าใหญ่ ลองนั่งรถบัสลิมูซีนของแอร์พอร์ต จ่ายแพงกว่ารถไฟใต้ดิน แต่สะดวกกว่ามากๆ เพราะถ้าไปใต้ดินชีวิตลำบาก บางสถานี บางทางออกไม่มีบันไดเลื่อน เรานั่งบัสจากแอร์พอร์ตไปเมียงดงสาย 6015 นั่งยาวววว ไม่แวะรับตามทาง มีคนยกกระเป๋าให้ สะดวกมาก ค่าโดยสารคนละ 14,000 ₩ มีเคาน์เตอร์สอบถามเส้นทางที่ทางออกสนามบินเลยจ้า

ทำยังไงให้ผ่าน ตม.เกาหลี

1.เตรียมเอกสารแสดงตนให้พร้อม ใครเคยเปลี่ยนชื่อ ก็ต้องเตรียมเอกสารมาด้วยนะ ส่วนเรื่องพาสปอร์ตหน้าขาว อันนี้ก็แล้วแต่ดวง เพราะเพื่อนเราบางคนขาวมาก แต่ ตม.ก็ปั๊มผ่านเลย ไม่ถามใดๆ

2.เอกสารแสดงอาชีพ เช่นใบรับรองการทำงาน บัตรพนักงาน นามบัตร ถ้าทำงานอิสระก็ต้องมีตัวอย่างงานติดๆมาด้วย

3.เงินสดแลกติดตัวไว้เลย (อย่าไปรวมกับเพื่อน เพราะบางทีเพื่อนผ่าน เราอาจไม่ผ่าน) แล้วก็บัตรเครดิต ให้รู้ว่าเรามีทุนทรัพย์พร้อมเปย์นะ ไม่ได้มาเล่นๆ

4.โปรแกรมทัวร์/ใบจองโรงแรม/เอกสารการนำเที่ยว/ตั๋วเครื่องบินขากลับ เอาให้ชัด ว่ายังไงเราก็ไม่โรบินฮู้ดแน่นอน

5.แต่งตัวเรียบร้อย ดูดี เหมาะกับการท่องเที่ยว ไม่เซ็กซี่ หวือหวา สร้างลุคให้ดูน่าเชื่อถือหน่อย

6.สื่อสารภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานได้

7.อันนี้เป็นอีกทริค เพื่อนเราไปกับแก๊งเพื่อน แล้วเพื่อนผ่าน นางดันติดอยู่คนเดียว เข้าห้องเย็น พอ จนท.ถามว่ามากับใคร ก็ เปิดรูปพาสปอร์ตเพื่อนๆที่ถ่ายเตรียมไว้ในมือถือ ยื่นให้ดู แล้วก็สะกดชื่อเพื่อนให้ถูก ตอบคำถามแบบมีสติ ไม่ลุกลี้ลุกลน ติดอยู่ 30 นาทีก็ผ่านเลยจ้า

สุดท้ายถ้าเราบริสุทธิ์ใจว่าไปเที่ยวชัวร์ๆ ยังไงก็ผ่าน เชื่อสิ!

ไต้หวันวันไร้ฝน ทอดน่องดูโคมแดง ตามรอย Spirited Away ที่เมืองโบราณ ‘จิ่วเฟิ่น’ (九份)

ใครที่เคยดู Spirited Away ต่างต้องประทับใจกับโลกวิญญาณของการ์ตูนเรื่องนี้ ซึ่งแรงบันดาลใจของโลกวิญญาณนี้ก็คือเมือง ‘จิ่วเฟิ่น’ นี่เอง ทั้งโคมแดงตามทางเดิน หรือเมืองที่เป็นขั้นบันไดตามเนินเขา ใครมาเที่ยวที่นี่ต้องนึกถึงบรรยากาศของ Spirited Away แน่นอน

‘จิ่วเฟิ่น’ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมในหมู่ชาวไทยมาก จนบางร้านถึงกับมีป้ายเป็นภาษา เช่น ร้านขนมบัวลอย ที่ใครมาที่นี่ต้องแวะชิม ซึ่งก็อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ อีกอย่างคือไอติมถั่วตัดผักชี ที่ไม่น่าเชื่อว่าผักชีกับไอติมจะไปด้วยกันได้ (ชิมมาแล้ว^^)

นอกจากจะมีวิวเมืองบนเขา มีโคมแดง มีร้านอาหารอร่อยๆแล้วนั้น ก็ยังมีวัด มีวิวทางธรรมชาติ มองออกไปเห็นทะเล อีกต่างหาก ใครมีแพลนไปไต้หวัน แนะนำว่าห้ามพลาด ‘จิ่วเฟิ่น’ กันนะครับ

เที่ยวคุกเกาหลีใจกลางกรุงโซล ‘พิพิธภัณฑ์เรือนจำซอแดมุน’ (Seodaemun Prison History Hall)

พามาเที่ยวเกาหลีในอีกมุมมอง ได้อารมณ์เหมือนฉากในซีรีส์แนวสืบสวน กับการชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เรือนจำซอแดมุน (Seodaemun Prison History Museum) หรือเรียกสั้นๆว่า ‘คุกเกาหลี’ นั่นเอง ที่นี่คือคุกจริงที่ทางการญี่ปุ่นใช้ขังและทรมานนักโทษเกาหลีสมัยสงครามโลกครั้งที่1

ตั้งอยู่ในสวนอิสรภาพซอแดมุน (Seodaemun Independence Park) ถูกสร้างขึ้นในช่วงใกล้สิ้นสุดราชวงศ์โชซอน การเดินทางง่ายมาก สถานี Dongnimmun สายสีส้มทางออก 5 แล้วเดินตรงขึ้นเนินมาอีก ประมาณ 5 นาที  ก็เจอเลย อยู่ไม่ไกลจากอินซาดง ถนนช็อปปิ้งอีกสายที่สำคัญของเกาหลี

ค่าเข้าชมคนละ 3,000₩ เมื่อได้เข้าไปพ้นกำแพงสูง จะเห็นบรรยากาศภายในกว้างขวางมาก มีต้นไม้ปลูกเป็นแนว ยิ่งช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะยิ่งสวย บวกกับตึกสีอิฐหลายหลังตั้งกระจายกันภายในรั้ว ให้ความรู้สึกสวยงาม และเงียบสงบวังเวง ไปในเวลาเดียวกัน วันที่เราไปมีเด็กๆมาทัศนศึกษาด้วย

คุกแห่งนี้ถูกญี่ปุ่นใช้เป็นที่คุมขังและทรมานนักโทษเกาหลีหลายพันคน ที่พยายามปฏิวัติในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ต่อเนื่องเกือบ 80 ปี (1908-1987) ถ้าคนเกาหลีได้ไปเที่ยวคงมีอารมณ์เกลียดชังชาวญี่ปุ่นมากๆเลยทีเดียว

ผ่านเข้าห้องโถงใหญ่มีรูปคนติดเต็มผนังนับพันๆภาพ เมื่อดูใกล้ๆก็คือรูปของชาวเกาหลีที่เคยถูกคุมจงขังที่นี่ นอกจากผู้ชายแล้ว ยังมีเด็ก ผู้หญิง คนแก่ มีการเปิดคลิปเสียงของนักโทษ เป็นอะไรที่ขนลุกและสะเทือนใจสุด แล้วบรรยากาศวังเวงมาก เราทนอยู่ได้ไม่นานก็ต้องเดินออกไป เพราะเกิดความรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก

เดินต่อไปเจอห้องประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ บรรยากาศห้องมืดๆทึมๆ ใครขวัญอ่อนจะรู้สึกกลัวเลยทีเดียว มีภาพของนักโทษที่ต้องจบชีวิตที่นี่ คือแค่ห้องมืดอย่างเดียวก็น่ากลัวแล้ว นี่ยังมีคลิปเสียงมาบิ้วให้น่ากลัว×10ไปอีก

มีการจำลองวิธีทรมานนักโทษ เช่นห้อยหัวราดน้ำร้อน ตอกเล็บ อุปกรณ์ทำร้ายและใช้คุมขัง โซ่ตรวน ฯลฯ

อีกหนึ่งการทรมานคือตู้ห้องขังเดี่ยวซึ่งแคบและมืดมาก แล้วก็เปิดคลิปเสียงนักโทษกรีดร้องตอนทรมาน มีการจำลองชีวิตนักโทษในห้องขัง ซึ่งดูเหมือนคนจริงๆเลย หันไปเจอนี่หัวใจจะวาย

ตัวอย่างของใช้ของนักโทษ เราเคยอ่านเจอชีวิตนักโทษที่นี่ลำบากมาก โดนทรมานสารพัด ต้องถูกใช้แรงงานทาส แล้วอากาศก็หนาวติดลบ ทรมานแสนสาหัส โดยเฉพาะนักโทษหญิง บางคนต้องคลอดลูกในคุก แล้วยิ่งช่วงนั้นมีโรคเรื้อนระบาด ยิ่งทำให้หดหู่ไปกันใหญ่

เดินต่อมาอีกอาคารจะเป็นห้องคุมขังนักโทษ ภายในบางห้องจะจัดนิทรรศการบรรยายเรื่องราวที่เกี่ยวกับนักโทษ

แหงนหน้ามองตรงเพดาน มีผู้คุมเข้าเวรคอยจ้องมองนักโทษอยู่ตลอดเวลา

เดินมาด้านนอกจะมีลานให้นักโทษออกกำลังกาย ซึ่งเป็นช่องแคบมากได้แค่คนเดินสวนกัน และกำแพงหลังมีประตูช่องเล็กๆเอาไว้ขนศพนักโทษที่เสียชีวิตนั่นเอง

ปิดท้ายบรรยากาศรอบๆทั้งสวยทั้งวังเวง มุมมหาชนคือธงชาติเกาหลีผืนยักษ์ ที่ใครมาถึงก็ต้องแวะแชะภาพเป็นที่ระลึก

และนี่เป็นอีกสถานที่เที่ยวเกาหลีอีกรูปแบบที่อยากให้ได้ลองไปสัมผัส เพราะจะได้เห็นอีกมุมของเกาหลีในมิติที่ไม่เคยรู้จัก ได้เห็นบาดแผลและคราบน้ำตาของประวัติศาสตร์ ที่จะให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ และระลึกถึงความทรงจำนี้ตลอดไป

พาเที่ยวถ้ำในอาเซียน ทั้งสวย ทั้งใหญ่ติดอันดับโลก

ว่าด้วยเรื่องถ้ำ…หลังจากมีข่าวดังของเด็กๆและโค้ชเอกจากทีมหมูป่าอคาเดมี่ รวม 13 ชีวิตติดในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

ทำให้ถ้ำหลวงกลายเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเชียงรายไปโดยปริยาย ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก เดินทางมาสัมผัสถ้ำหลวงจากข่าวดังในช่วงเวลาที่ปลอดภัยอีกแน่นอน

ทั้งนี้ถ้ำหลวง เป็นวนอุทยานในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอน มีเนื้อที่ 5,000 ไร่ จัดตั้งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2529 โดยกรมป่าไม้ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 60 กม. มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาขนาดใหญ่หลายลูกติดต่อกัน มีความสูงโดยเฉลี่ย 779 เมตร และลาดชันมาทางทิศตะวันออก และทางตะวันตกติดกับชายแดนประเทศเมียนมา

ความลึกลับภายในถ้ำหลวง

ถ้ำหลวงยังถูกจัดให้เป็น 1 ใน 5 ถ้ำสวยในไทย ลึกลับ แต่น่าค้นหา นอกจากนี้นักธรณีวิทยาได้จัดลำดับให้ถ้ำหลวงเป็นถ้ำที่ยาวเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทยอีกด้วย

ถ้ำ Son Doong ประเทศเวียดนาม

อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดเรื่องถ้ำแล้ว หลายคนยังไม่รู้ว่าถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ไม่ไกลจากไทย นั่นคือถ้ำ Son Doong ในเวียดนาม อยู่ จ.Quang Binh ติดชายแดนลาว นักสำรวจอังกฤษค้นพบในปี 2009

นทท.ตั้งเต็นท์พักค้างคืนในถ้ำ Son Doong
ขั้นบันไดธรรมชาติในถ้ำ Son Doong

ภายในเป็นถ้ำใหญ่มาก ยาว 9 กม. กว้าง 200 เมตร และสูง 150 เมตร แยกเป็นถ้ำอื่นได้อีก มีแม่น้ำผ่ากลางสวยมาก การเดินทางแอดเวนเจอร์สุดๆ ต้องจอดรถแล้วเดินประมาณ 10 กิโลเมตรถึงปากถ้ำ แล้วก็เดินเข้าข้างในซึ่งมีความลึกมาก ใช้เวลาหลายวัน

ปากถ้ำ Son Doong

เวลาไปต้องจองทัวร์ข้ามปี ราคาประมาณ 140,000 บาท ต้องจอยกรุ๊ปกับ นทท.ต่างชาติ มีไกด์ฝรั่งนักสำรวจถ้ำ มีลูกหาบเป็นคณะใหญ่เลย ใช้เวลาไปกลับประมาณ 5 วัน กินนอนในถ้ำ ถ้าวันแรกเดินไม่ถึงจุดหมาย ก็ส่งกลับแถมไม่มีการคืนเงินใดๆทั้งสิ้น

วิวของถ้ำ Son Doong จากรายการเถื่อน Travel
คาราวานสำรวจถ้ำ Son Doong ภาพจากรายการเถื่อน Travel

มีคลิปจากรายการเถื่อน Travel เคยไปถ่าย การเดินทางทรหดสุดๆ ใครอยากตามรอยลองชม…

นอกจากนี้หลายคนยังไม่รู้ว่า ถ้ำใหญ่ติดอันดับโลกอยู่ในอาเซียนหลายที่เลย เพราะถ้ำที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก คือ Deer Cave เป็นส่วนหนึ่งของถ้ำซาราวัค แซมเบอร์ ในอุทยานแห่งชาติกุนุงมูลู (Gunung Mulu)บนเกาะบอร์เนียว มาเลเซีย ที่นี่มีที่เที่ยวธรรมชาติหลายอย่างเลย สวยๆทั้งนั้น

Deer Cave มาเลเซีย
ความยิ่งใหญ่ของ Deer Cave มาเลเซีย
ความสวยงามของอุทยานแห่งชาติกุนุงมูลู (Gunung Mulu)
วิวภูเขาหินของอุทยานแห่งชาติกุนุงมูลู (Gunung Mulu)

หากใครสนใจ ลองหาเวลาว่างไปสัมผัสประสบการณ์การเที่ยวถ้ำทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่ต้องระมัดระวังไปในช่วงฤดูที่เหมาะสม พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญ ไม่ให้ติดถ้ำซ้ำรอยน้องๆทีมหมูป่ากันนะจ๊ะ

ร้านเด็ดสิงคโปร์ ฟินปูก้ามโต Chilli crab ที่ Jumbo Seafood

ไปเยือนสิงคโปร์ทั้งที จะพลาดของอร่อยได้อย่างไร! วันนี้ Thailandindy ขอพาไปชิมสุดยอดเมนูที่ต้องไปกินบนเกาะสิงคโปร์ เพราะนอกจากข้าวมันไก่แล้ว ก็ต้องลอง ปูผัดพริก หรือ Chilli crab ที่เป็นของเด็ดของดี ที่คนรักปูไม่ควรพลาด ว่าแล้วก็ไปชิมกันเลย!!

Jumbo Seafood @The Riverwalk

ที่ตั้ง: 20 Upper Circular Road #B1-48 The Riverwalk, Singapore 058416

เบอร์โทรศัพท์: +65 6534 3435

การเดินทาง: นั่ง MRT มาลงสถานี Clarke Quay ออก Exit The Central ร้านอยู่ริมแม่น้ำที่ Clark Quay

ขอแนะนำว่าต้องจองล่วงหน้าผ่านเว็บของร้านกันไปก่อนนะจ๊ะ ไม่งั้นไปแล้วอาจพลาดเพราะโต๊ะเต็ม โดยเฉพาะมื้อเย็น

ถึงแล้วววว Jumbo Seafood
หน้าร้านเป็นแบบนี้
ฮอตจริง ฮอตจัง ลูกค้าเต็มร้านเลย
วิวช่วงเย็นๆหลังเลิกงาน

ช่วงกลางคืน เต็มทุกโต๊ะ วิวริมแม่น้ำ บรรยากาศชิลล์ๆ

 

เมื่อได้โต๊ะแล้ว พนักงานก็จะเตรียมอุปกรณ์การกิน ผ้ากันเปื้อน และมาเล่นมายากล อ้าว ไม่ใช่ จะมีการนำผ้าแดงมาคลุมกระเป๋าให้เรา เพราะป้องกันการกระเด็นนั่นเอง เพราะการกินปูแบบนี้ต้องแกะกันเมามัน แล้วต้องกระเด็นถึงจะอร่อย

ผ้าแดงคลุมกระเป๋าแบรนด์เนมสำเพ็งของเรา ไม่ให้ปูกระเด็น

 

ผ้ากันเปื้อนลายปู ยิ่งลักษณ์ เอ๊ย ไม่ใช่ ปูก้ามโตใหญ๊ใหญ่ โลโก้ร้าน
จาน ชาม ตะเกียบ อุปกรณ์การโซ้ย พร้อมผ้าเย็น และน้ำล้างมือ

เตรียมตัวกันพร้อมแล้ว ก็มาชิมอาหารกันเลยดีกว่า เริ่มจากเบาๆ

ผัดผักโขม ก็ถือว่ารสชาติไม่เลว
เต้าหู้หน้าสาหร่าย จานนี้อร่อยสำหรับคนชอบเต้าหู้ น้ำเหมือนน้ำราดหน้า อร่อยเข้มข้น

มาถึงจานเด็ด ปูผัดพริก signature ของร้าน เนื้อปู แน่น กล้ามใหญ่ กรรเชียงแน่นมาก รสหวาน ชุ่มฉ่ำ สดมาก กัดไปตรงไหนก็เนื้อๆๆๆ น้ำซอสจริงๆอร่อยน่ะ กลมกล่อม เผ็ดนิดหน่อย จานนี้ 10 เต็ม 10
ก้ามใหญ่มากกกก

 

ฟินถึงก้ามสุดท้าย

เห็นรีวิวอย่างนี้แล้ว ถือว่าแค่เรียกน้ำย่อย บอกเลยใครไปสิงคโปร์ห้ามพลาด!

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก -คุณเต้บางแค-