ไม่ต้องกลัวจม! ชวนไปลอยตัวเหนือผืนน้ำ ‘ทะเลเดดซี’ แห่งใหม่ในจีน

นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างได้ยินชื่อเสียงและอยากไปลองสัมผัสความมหัศจรรย์ของ ทะเลเดดซี ทะเลสาบน้ำเค็มที่มีความเข้มข้นของเกลือสูงในประเทศอิสราเอล กันสักครั้ง

แต่สำหรับชาวไทยอย่างเราๆไม่ต้องเดินทางไปไกลแล้วจ้า เพราะที่สวนน้ำไห่หนาน (Haiyan World Park) ในเมืองต้าเหลียน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ก็มีทะเลเดดซี ให้ได้สัมผัสกันแล้ว!

ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย ได้ไปสัมผัสและผ่อนคลายกันในช่วงซัมเมอร์ โดยที่ชายหาดแห่งนี้จะมีส่วนผสมของน้ำเกลือในระดับเข้มข้นสูง ทำให้เราสามารถลอยตัวได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าคุณจะว่ายน้ำไม่เป็น แต่ก็ไม่มีทางจมแน่นอน!

ภาพและข้อมูลจาก CHINADAILY

แบ็คแพ็คเที่ยวสิงคโปร์ ราคาถูก

ชีวิตโดนเท…เลยเซไปสิงคโปร์ กับงบติดตัวหลักพัน

ประสบกาณ์เที่ยวเองครั้งแรก!! ที่สิงคโปร์!! เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเราเพิ่งเฮิร์ทผลพวงจากการเลิกกับแฟนค่ะ!!  ตอนนั้นคิดได้อย่างเดียวคือ อยากไปที่ไหนก็ได้!! … เลยเปิดเลยค่ะตอนนั้น หาตั๋วบินก่อน พอดีเห็นและว่ามีตั๋วลดราคา ช่วง เดือน ม.ค. ที่จะถึงพอดี นั่งไล่ดูไปที่ไหนบ้าง

ไหนๆลดทั้งที ราคาดีขนาดนี้ ออกนอกประเทศไปเลยค่ะ!! แต่จะไปไกลเกิน ยังไม่เคยแบคแพคก็ไม่กล้าไปไกลเกิ้นน ง้านนน!!! ใกล้และปลอดภัยกับชีวิตน่าจะเป็น สิงคโปร์!!

โลเคชั่นได้แล้ว หาเดอะเเก๊งค์ค่ะ ซึ่งทริปนี้ไปกัน 3 คน… กดจองตั๋วบินราคาถูกที่เราดูไว้ก่อนแล้วจาก Traveloka เหมือนเราผูกขาดเว็บนี้เลย เพราะได้ของมีคุณภาพเทียบไปมา ก็มาตกที่เว็บไซต์นี้ตลอด ไม่ได้อวยนะ แต่มันทุกครั้งเลย ครั้งนี้ก็ได้ของ Jetstar ไป-กลับ ในราคา 2,756 บาท ต่อ คน (รวมค่าโหลดกระเป๋าและค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต) ….ตั๋วมี!! เพื่อนเดินทางพร้อม เหลือแค่แพลนการเดินทางกับที่พักเท่านั้น ซึ่งทริปนี้เป็นทริปปุบปับ ถึงกับต้องทุบกระปุกมาเป็นพ็อคเก็ตมันนี่ จึงต้อง save cost กันนิดนึง

แบ็คแพ็คเที่ยวสิงคโปร์ ราคาถูก

เลยตามล่าหาอ่านรีวิวเที่ยวเองแบบถูก ซึ่งที่พักเคยอ่านตาม พันทิพ ว่าเค้าพัก hostel จะถูกกว่าโรงแรม เพราะเราวางแผนจะไป 4 วัน 3 คืนค่ะ ดังนั้นเราจึงไปหาเปรียบเทียบไปเรื่อยๆ จนไปได้ของที่ Traveloka อีกแล้ว!! ที่พักชื่อ Mercury Backpackers Hostel โลเคชั่นดี อยู่แถว Lavender MRT รีวิวเลิศ แถมราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์ด้วยราคา 1,565 บาท ต่อคน อะไรจะเป็นใจขนาดนี้คะซาร่า…กดจอง!! พร้อมจ่ายเลยค่ะ ซึ่งใครสนใจที่พัก Mercury Backpackers Hostel เหมือนกัน ก็ลองกดเข้าไปดูได้ที่ >> https://www.traveloka.com/th-th/hotel/singapore/mercury-backpackers-hostel-408797

ห้องพัก traveloka ราคาถูก
ที่พักที่เราไปก็จะเป็นเเบบในรูปนี้เลย  เราได้ห้องนึงนอนกัน 3 คน

หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย…เราก็แพลนการเดินของแต่ละวันกับเพื่อนๆ ว่าแต่จะสนุก ขาลากกันขนาดไหนก็เลตสะโกลุยกันเล้ยยย!!

Day 1  : Let’s go to Singapore

แก๊งชะนี 3 นาง เช็คอินกันพร้อมบินอย่างนกค่ะ!! โดยการเดินทางบนเครื่องใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ก็ถึงสิงคโปร์เมืองสิงโตพ่นน้ำกันแล้วจ้า เมื่อถึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางไปมาเลยค่ะ เพราะประเทศนี้การเดินทางเชื่อมต่อกันแถบจะทุกจุดดด ขอย้ำว่าแถบจะทุกจุดจริงๆ

แบ็คแพ็คเที่ยวสิงคโปร์ ราคาถูก

ว่าแล้วก็ว้าปขึ้น MRT ไปลง ที่ Lavender ดูแมพจากที่ปักหมุดมาก่อน อ้อ ลืมบอก อินเตอร์เน็ตเราซื้อมาจากบนเครื่องบิน ซึ่งเป็นแพคเก็จที่เค้านำเสนอขายบนเครื่องเลย ราคา 32$ แถมกาแฟค่ะ!! ขอบคุณ!!

ต่อๆ เราก็เดินตามแมพ งงๆนิดนึง แต่ก็มีอาตี๋หล่อเข้ามาช่วย คนที่นี่เค้าจิตใจดีเหมือนหน้าตาจริงๆนะคะ  >_<  เค้าก็ชี้โบ้ชี้เบ้ นู่นนี่ๆให้เราเดินไปจริงๆแล้ว ที่พักหาง่ายมาก ตรงออกจาก สถานีแล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ 3 นาทีก็ถึง แบบในรีวิวเค้าว่าไว้เลย คือมันสะดวกจริงๆอ่ะ ว่าแล้วก็เข้าไปเช็คอินที่ Mercury Backpackers Hostel เพื่อรับห้องกับเจ้าของ เจ้าของทักทาย “สวัสดีครับ”  อ้าวเฮ้ยย!! คนไทยเหรอ เราก็ใส่ภาษาไทยใส่เลย สรุปรู้แค่คำเดียว คือ “สวัสดีครับ” 5555 จบสนทนาเพียงเท่านี้ค่ะ เลยต้องฟุตฟิต อังกฤษใส่ไปแทน แล้วก็เอาของไปเก็บที่ห้องพักเพื่อเริ่มการผจญภัยกันอย่างจริงจัง

พร้อม Let’s go China Town จ้า สะดวกเช่นเคย เดินทางโดย MRT ลงสถานี China Town จุดประสงค์หลักของเราคือมาเดินซื้อ บัตรผ่านเข้า USS และ Garden by the bay ที่ตึก People’s Park Centre แต่หาตึกไม่เจอค่ะ!! แต่อีกแล้วค่ะ คนที่นี่น่ารักมากจริงๆ อาแปะขี่รถจักรยานสี่ล้อเล็กๆพร้อมเปิดเสียงเพลงแบบที่เปิดในวัดจีน นัมมอ ฮาไน ตัน นา.. ตอ ลา ยา.. เยยย  พอเห็นว่าเราเป็นนักเที่ยวเดินงงๆ เค้าขี่จักรยานน้อยเข้ามาถามว่าเราจะไปไหน พร้อมอาสาพาพวกเราไปส่งถึงตึกกันเลยทีเดียว!! เมื่อถึงตึก ก็เซี่ยเซี่ยอาแปะ!! แล้วอาแปะก็ขี่จากไปพร้อมเสียงเพลงเจ้าแม่กวนอิมดังก้องในหัว นัมมอ ฮาไน ตัน นา.. ตอ ลา ยา.. เยยย  55555 ว่าแล้วก็เข้าตึกมา ซึ่งตึกนี้อย่างกับรวมการขายทัวร์ประเทศเค้าโดยเฉพาะ เลือกได้เลยจ้า ถูกและคุ้ม แต่เราได้ของร้าน Sea Wheel Travel มา เพราะเค้าแถมค่าอาหารใน USS ให้ด้วย ก็เลยรีบคว้า

หมดห่วงได้ของครบ ก็ตะลุยเดินถ่ายรูปสวยๆกันเลยจ้าและแวะพักหาของกินแถวนั้น อาหารที่นี่จะเป็นแนวคล้ายๆอาหารจีนๆ ก็ดูรูปเอาค่ะ ชี้ๆ อั๊วเอานี่ๆ ได้ราเมงน้ำมาราคา 5$ รสชาติออกจัดๆนิดนึง แต่ซุปราเมงเค้ามันได้ใจมากค่ะ เส้นก็เหนียวนุ่ม คือโดยรวมก็ผ่านนะ

แบ็คแพ็คเที่ยวสิงคโปร์ ราคาถูก
อาหารที่สิงคโปร์

กินๆเสร็จอิ่มท้องก็พร้อมลุยตามแพลนไป วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic) กันต่อ ตอนเดินหาก็งงๆอยู่วัดอยู่ไหน!!? เดินถามทางเรื่อยๆค่ะ คนที่นี่เค้ายินดีช่วยเหลือจริงๆ จนหาทางมาจนได้ค่ะ วัดนี้เป็นเหมือนแลนด์มาร์คนึงของสิงคโปร์เช่นกันค่ะ เราก็เดินถ่ายรูปแล้วสักการะเที่ยวแบ็คแพ็ควัดพระเขี้ยวเเก้ว สิงคโปร์ ราคาถูก

เที่ยวแบ็คแพ็ควัดพระเขี้ยวเเก้ว สิงคโปร์ ราคาถูก

เดินไปมาก็จะค่ำและ ก็เดินเข้าตลาด china town กันละ คือแบบว่า คนเยอะมากกก อาหารก็เช่นกัน ละลานตา  ถ้ามาสิงคโปร์ china town คือแลนด์มาร์คที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ ทั้งแสงสี และของฝาก โดยเฉพาะหมูแผ่น เห็นคนต่อแถวเยอะมาก แต่เราคงสู้อาม่าไม่ไหว

เที่ยวแบ็คแพ็ค China Town สิงคโปร์ ราคาถูกเลยขอเดินเล่นซอยอื่น ซึ่งถ้าเดินทะลุไปมาก็จะคล้ายๆเยาวราช + สำเพ็งบ้านเราหน่อยๆ จึงขอเดินถ่ายรูปรอบๆดีกว่าเพราะบรรยากาศดีงาม เเละเรามาใกล้ช่วงจัดงานเทศกาลตรุษจีนพอดี เเล้วก็หาอาหารใส่ปากแบบที่เราถนัด เท่านี้ก็จบไปอีกวัน
เที่ยวแบ็คแพ็ค China Town สิงคโปร์ ราคาถูก

เที่ยวแบ็คแพ็ค China Town สิงคโปร์ ราคาถูก

เที่ยวแบ็คแพ็ค China Town สิงคโปร์ ราคาถูก
อาหารสิงคโปร์

Day 2 : USS makes me want to be a kid again!!

วันนี้สู้ตาย!! เดินทางกันไปตั้งแต่ 9 โมง ประตูสวนสนุกเปิด 10 โมงค่ะ แต่แนะนำไปก่อนเวลาจะดีมาก เพราะคนต่อแถวยาวเพื่อเข้าเหมือนกัน แต่ก่อนจะไปเข้าคิวก็ต้องถ่ายรูปเก๋ๆกับลูกโลก USS ซะหน่อย เหมือนแลนด์มาร์คถ้าใครไม่ถ่ายเหมือนมาไม่ถึงที่นี่นะจ๊ะ

เที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

เที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

มาถึงแนะนำว่าถ้าอยากเล่นเครื่องไหนให้รีบวิ่งไปต่อคิวด่วนเลยค่ะ เพราะคนจะเยอะแบบมากๆๆๆ ตอนแรกเราไม่รู้ก็เดินชิวไปสิ ถ่ายรูปเก๋ๆได้อี้กก เพิ่งเข้ามาคนโล่งไงเที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

เที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

พอตั้งใจจะไปเริ่มเล่นจริงๆก็งงเลยค่ะ คนมาจากไหนเยอะแยะ แถวยาวมาก เราเลยวิ่งไป Transformer ก่อนเลยเพราะดูมาก่อนแล้วว่าอยากเล่นมาก แล้วก็ต้องอึ้ง!! แถวแบบเยอะจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคุ้มการรอคอยทั้งวัน วันนั้นก็อยู่แต่ที่ USS และต่อแถวเล่นเครื่องเล่นวนไปค่ะ แค่มาถ่ายรูปก็คุ้มแล้ว แถมเครื่องเล่นยังมันส์หยดตึ๋งๆ

เที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

เที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว เราก็รอเวลาหัวค่ำเพื่อดูการแสดงจุดพลุไฟซึ่งเป็นไฮไลท์ของค่ำคืนที่นี่เลยค่ะ

เที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

 

Day3 : Let’s go to shopping …. go to The Singapore Botanic Gardens and Garden by the bay where are awesome places!!

วันนี้ตื่นเช้าค่ะไปนั่งทานอาหารแถวที่พัก  ว่าแล้วก็สั่งข้าวมันไก่ อาแปะ อาตี๋ที่ขายก็ทักทาย อัธยาศัยดี เค้าคิดว่าเราเป็นคนฟิลิปปินส์ ซึ่งมาที่นี่ก็โดนทักเป็นหลายประเทศมากค่ะ เว้นประเทศตัวเอง 55555 ส่วนมาที่นี่ก็กินข้าวมันไก่ไปหลายจานแล้ว แต่ละร้านก็ต่างกันออกไป ส่วนใหญ่จะเป็นตัวข้าวที่ต่าง ข้าวจะแข็งไปหน่อยสำหรับเรา ครั้งนี้เลยเปลี่ยนจากข้าวมาเป็นเส้นๆเเทน เส้นอันนี้ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไร เเต่เหนียวนุ่มดีมากๆเลยล่ะ สั่งเต้าหู้ใส่เพิ่มเข้าไปอีก เข้ากันมากๆ

แบ็คแพ็คเที่ยวสิงคโปร์ ราคาถูก
อาหารสิงคโปร์

หลังจากท้องอิ่มเราก็ MRT ไปลงสถานี Botanic Gardens เดินขึ้นมาก็จะเจอ The Singapore Botanic Gardens กันเลยค่ะ เป็นจุดผ่านถ่ายรูปสวยๆ

แบ็คแพ็คเที่ยว botanic garden สิงคโปร์ ราคาถูก

แบ็คแพ็คเที่ยว botanic garden สิงคโปร์ ราคาถูก

แบ็คแพ็คเที่ยว botanic garden สิงคโปร์ ราคาถูก

เราเดินทะลุ The Singapore Botanic Gardens ออกไปด้านหลังเพื่อหารถโดยสารไปยังย่าน orchard ซึ่งถ้าเทียบกับไทยก็เป็นสยามนั่นแหละ มีห้างตลอดย่านนั้นเลยค่ะ ของแถวนั้นก็ไม่ได้ถูกสักเท่าไหร่เลย เราเลยนั่งรถโดยสารไปต่อยังย่าน Little India เป็นชุมชนคนแขกค่ะ แค่ก้าวขาลงไปนี่สัมผัสไปถึงกลิ่นเครื่องเทศจริงๆ สมเป็นย่านคนแขกเลย ว่าแล้วเราเสาะหาตึก “มุสตาฟา” พอดีเพื่อนที่ไทยแนะนำมาว่าของที่นี้ถูก เราก็เลยกวาดน้ำหอมไป ซึ่งถูกกว่าไทยเยอะมากๆ

เที่ยวแบ็คแพ็ค ช็อปปิ้ง สิงคโปร์ ราคาถูก

พอซื้อหนำใจเราก็เดินทางต่อค่ะ ไปยัง Garden by the bay ด้วย MRT ลงที่ Bayfront  ถึงเลย

ในที่สุด!!! Garden by the bay ก็อยู่ตรงหน้าแล้วค่ะ เข้าไปข้างในนี่มีอึ้ง!! เหมือนในฝันอ่ะ ดอกไม้เต็มไปหมดเลย คือเป็นสวนดอกไม้นานาพันธุ์ที่ถูกดูแลอย่างดีในห้องเย็นที่ควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งแบ่งเป็น 2 โซน  โซนแรกก็จะเป็น พื้นที่เปิดกว้างให้เดินดูดอกไม้นานาพันธุ์ไปเรื่อยๆ

แบ็คแพ็คเที่ยว Garden by the bay สิงคโปร์ ราคาถูก

แบ็คแพ็คเที่ยว Garden by the bay สิงคโปร์ ราคาถูก

โซนที่สองจะว้าวหน่อย เป็นโดมกระจกค่ะ เป็นพื้นที่ควบคุมแสงและอุณหภูมิ โซนนี้จะหนาวกว่าโซนแรก เพราะมีผาน้ำตกสวยมากกกกก ทางเดินก็จะเป็นเดินไต่ระดับขึ้นไปสูงเรื่อยๆจนด้านบนของโดมเลย ซึ่งสวยมากๆๆๆเช่นกัน…. ไม่ต้องอธิบายมากดูภาพแล้วจะเข้าใจเลยค่ะ

แบ็คแพ็คเที่ยว Garden by the bay สิงคโปร์ ราคาถูก

แบ็คแพ็คเที่ยว Garden by the bay สิงคโปร์ ราคาถูก

แต่ถ้าเดินออกมาด้านนอกของ Garden by the bay ตรงทางออก จะเป็นทางเดินไป Marina Bay Sands ได้เลย เพราะทางอยู่ต่อกัน แต่ก่อนถึง Marina Bay Sands  จะเจอสะพาน Helix แน่นอนค่ะ ต้องถ่ายรูปชิคๆสักหน่อย เป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คเช่นกัน แต่ถ้าให้สวยมาช่วงใกล้คำ่ เพราะละแวกนั้นจะเปิดไฟรวมถึงสะพานด้วย

แบ็คแพ็คเที่ยว Marina Bay Sands สิงคโปร์ ราคาถูก
Helix Bridge

ตอนนั้นรับรองจะได้ภาพสวยเก๋ๆกลับไปแน่นอนจ้า พอถ่ายภาพหนำใจแล้วเราก็เดินต่อไปเลียบทางแม่น้ำไปเรื่อยๆก็จะเจอที่จัดแสดง Marina Bay Sands และฝูงชนนั่งรอกันเพื่อรับชม  ซึ่งจะเป็นการแสดงโชว์แสงสีบนน้ำเล่าเรื่องราวของคนสิงคโปร์ พร้อมวิวเป็นฉากหลังตระการตากันเลยทีเดียวค่ะ โดยการแสดงนี้จะมีเวลาเริ่มการแสดงเป็นรอบๆต้องเช็คเวลากันให้ดีน้า รอบที่เราไปเป็นช่วง 2 ทุ่ม รอบสุดท้ายพอดี แต่ถ้าไปดูแนะนำไปก่อนเวลาเพื่อสะดวกต่อการจับจองที่นั่งและมุมดีๆ เพราะคนก็เยอะพอสมควรเลยล่ะ


แบ็คแพ็คเที่ยว Marina Bay Sands สิงคโปร์ ราคาถูก

 

Day 4 : Time to say goodbye Singapore

วันนี้ตื่นแต่ตี 3 เพื่อเตรียมตัวไปยังสนามบิน เป็นครั้งแรกที่เรามีโอกาสได้นั่งแท็กซี่ของที่นี่ ก็สำรวจดูที่คอนโซลหน้ารถเค้าจะมีเหมือนเป็นระบบตัดบัตรเครดิตอะไรประมาณนั้น ซึ่งรวมทั้งบัตร EZ Link ก็สามารถใช้จ่ายค่าโดยสารได้ แต่กรณีของพวกเราคือ!! ไปนั่งนับเหรียญกันจ่าย ซึ่งเค้าก็รับชำระเช่นเดียวกันค่ะ

“จะบอกว่าการเดินทางและการชำระค่าโดยสารที่นี่สะดวกมากจะจ่ายแบบ เงินสด เครดิต หรือผ่านบัตร EZ Link ก็ได้หมดค่ะ “

ว่าแล้วเราก็ไปรอเวลาไฟลท์บินกันค่ะ แต่ระหว่างนั้นก็ช็อปปิ้งไปเพลินใน Duty Free ที่สนามบินไปค่ะ เค้าว่ามาที่นี่ต้องฟาดกระเป๋า Charles and Keith ค่ะ เราก็จัดไปสองใบ ซึ่งราคาก็ถูกกว่าไทยนะ และที่สำคัญ!! ดีไซน์ไม่เข้าในไทยด้วยจ้า ถือเป็นสินค้า High End จริงๆเลย คิดถูกและตาดี ว่าแล้วทริปเทใจของเราก็จบแค่นี้  ไว้โอกาสหน้าได้กลับไปเยือนอีกครั้งจะมารีวิวเพิ่มเติมให้นะจ๊ะ เพราะยังเที่ยวไม่ครบเลย!! ใครว่าสิงคโปร์ไม่มีอะไร….นี่ไปสามวันยังไปแลนด์มาร์คสำคัญๆอย่าง Merlion , Esplanade , Clark quay ,  Fountain of Wealth @Suntec ยังไม่เก็บแต้มไม่ครบเลย ต้องกลับไปแน่ๆ พร้อมกับใจที่ไม่โดนเทแล้วครั้งนี้ สัญญา!!

 

การเดินทาง

เราแนะนำให้ใช้ บัตร EZ Link (Easy link) เลยค่ะเพราะบัตรเดียวใช้ได้กับทุกเครือบนประเทศนี้ค่ะ!! ตั้งแต่ ร้านค้า , รฟฟ , รถโดยสาร , แท็กซี่ บ้านเค้าพัฒนาแล้วค่ะ และจะช่วย Save Cost ได้เยอะมากกกกก ราคาบัตร $12 จ้า เหมือนบัตร BTS บ้านเราแบบเติมเงินใช้เติมเงินไปเรื่อยๆ ซึ่งถูกกว่าการซื้อเป็นรอบๆ เพราะว่าตอนแรก

เราไม่รู้พลาดไปซื้อเป็นบัตร Standard Ticket ซึ่งจะเหมือนบัตร BTS บ้านเราที่จ่ายขาเดียว แต่บ้านเค้าต่างตรง บัตรนี้ใช้ได้ 6 ครั้ง ซึ่งทุกเที่ยวการซื้อที่ 1 3 6 จะมีการ discount ให้ 0.1$ค่ะ หลังจากครบ 6 เที่ยว บัตรก็ Deactivate ตัวมันเองไม่ให้ใช้ต่อแล้ว เก็บเป็นฉลากต่างหน้าไป แต่ถ้าเดินทางไปไหนตลอด ราคาแพงกว่าด้วยเมื่อมาเทียบกันแล้ว

Internet

อินเตอร์เน็ตจำเป็นมากค่ะ เพราะ WiFi ที่นั่นยังไม่ค่อยเปิดให้ใช้ในพื้นที่ทั่วไป ต้องไปเกาะตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งก็ต้องเสี่ยงดวงเอา แต่แนะนำซื้อเถอะ!! เราซื้อมาจากบนเครื่องบิน ซึ่งเป็นแพคเก็จที่เค้านำเสนอขายบนเครื่องเลย ราคา 32$ แถมกาแฟค่ะ

แต่ถ้าเดินหาซื้อซิมในตัวเมืองแล้วมาเปิดใช้ก็ได้นะคะ

อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารเริ่มต้นเฉลี่ยจานละ 5$

เครื่องดื่มแนะนำให้บริโภคน้ำเปล่าค่ะแล้วเติมเอา ราคาเริ่มที่ 1$

บัตรเข้า USS และ GBB

Universal Studio Singapore (USS) 62$(ประมาณ 1,488 บาท) เราซื้อพร้อมคูปองอาหารราคาพิเศษ ซื้อ 15$ ใช้ได้ 20$ / Garden by the bay(GBB) 19$ (ประมาณ 456 บาท)

สรุปงบประมาณ

  • ค่าเดินทาง ส่วนมากจะหมดไปกับค่า MRT หากไม่ใช้ EZ Link เพราะเราใช้เเบบเติมเที่ยว ส่วนเพื่อนใช้  EZ Link ดังนั้นจะเห็นส่วนต่างกันมาก เป็นเท่าตัว
  • ค่าใช้จ่ายหลัก (เเยกคน) ค่าเครื่อง + ค่าที่พัก  + บัตรเข้า USS/GBB
  • ค่า Internet + taxi เเชร์กันออกประหยัดขึ้นเยอะ
  • ค่ากิน เรา save cost กินขั้นตำ่ที่ 5$ – 7$ ได้ของกินดีอยู่ อิ่มท้องด้วย (ประมาณ 1,200 บาท)
  • น้ำซื้อขวดใหญ่ 1$ เติมเเบ่งใส่ขวดพกระหว่างวันเอา
  • พ็อคเก็ตมันนี่ เราติดตัวไป 8,000 บาทไทย ยังเหลือใช้เลยขนาดใช้ซื้อนำ้หอมเเละช็อปปิ้งด้วย
เที่ยวสิงคโปร์

สิงคโปร์หลักพัน 4 วัน 3 คืน แผนการเงินและแผนการเที่ยว

จะไปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยเงินหลักพัน ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่พลาดจุดหมายสำคัญอย่าง Universal studio Singapore(USS) แถมเก็บครบ จบในทริปเดียว เพียงแค่วางแผนให้ดีแค่นี้ก็เหลือเงินช็อปและเที่ยวได้สบาย

การวางแผนถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ไม่ใช่แค่การวางแผนสถานที่ที่เราจะไปหรือวิธีการเดินทาง แต่การท่องเที่ยวในแต่ละครั้งแน่นอนว่าปัจจัยหลักที่เราควรมีนั่นก็คือเงินนั่นเอง การจะเที่ยวอย่างสบายใจและสบายกระเป๋าต้องเกิดจากการวางแผนที่ดีด้วย

วันนี้มีเทคนิคเล็กน้อยจากการเดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์ ที่จะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การกิน และที่พัก

เริ่มจากการวางแผนการเงิน

  1. ตั๋วเครื่องบิน
    หาตั๋วเครื่องบินราคาถูก อันนี้สำคัญมาก ถ้าได้ตั๋วเครื่องบินราคาถูก เราจะสามารถประหยัดไปได้เยอะมาก เดี๋ยวนี้มีโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินราคาถูกมากมายมาเสนอจูงใจนักเดินทางอย่างเรา
    สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เราเจอตั๋วราคาถูกที่ Traveloka ตามไปเช็คได้ที่นี่ https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Singapore.SIN/1
    เนื่องจากการเดินทางไปสิงคโปร์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่นานนัก เราจึงเลือกสายการบิน low cost อย่าง Jetstar ได้ตั๋วไป-กลับ ในราคา 2,756 (รวมค่าโหลดกระเป๋า) บริการดี ห้องโดยสารสะอาดTraveloka Singapore
  2. ที่พัก
    สำหรับการเลือกที่พักก็สำคัญไม่แพ้ค่าเครื่องเช่นกัน ซึ่งถ้าเราได้ที่พักราคาถูกก็จะช่วยประหยัดลงไปได้เยอะมากเช่นกัน สำหรับที่พักเอาไว้นอนพอ เพราะเราตั้งใจไปเที่ยว ไม่ได้ไปนอน ทริปนี้ไปกัน 3 คน เลยเลือกที่พักในรูปแบบ Hostel เพราะถูกกว่าโรงแรม เจอที่พักราคาถูกในเว็บ Traveloka ในราคา 1,566 บาท 3 คืน ต่อคน จองได้ที่นี่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/singapore/region/singapore-107493
  3. สถานที่ที่จะไป ที่ต้องซื้อบัตรเข้า
    เราต้องรู้ว่าสถานที่ที่เราจะไปนั้นต้องเสียค่าเข้าหรือไม่
    อย่างของเรา จุดประสงค์หลักของการมาเที่ยวสิงคโปร์ครั้งนี้คือ Universal Studio Singapore (USS) และอีกสถานที่ที่อยากไปคือ Garden by the bay(GBB) ซึ่งต้องมีค่าบัตรในการเข้า ซึ่งเราก็ต้องหาข้อมูลว่าสามารถซื้อบัตรที่ไหนได้บ้างแล้วที่ไหนราคาถูกที่สุด จากการค้นหาทั้งใน Internet และเพื่อนที่เคยไปมาแล้ว ก็พบว่าที่ Sea Wheel Travel ได้ราคาดีสุดละ
    Universal Studio Singapore (USS) 62$(ประมาณ 1,488 บาท) เราซื้อพร้อมคูปองอาหารราคาพิเศษ ซื้อ 15$ ใช้ได้ 20$
    Garden by the bay(GBB) 19$ (ประมาณ 456 บาท)

    ***ทริคเล็กๆ ราคาอาหารที่ USS เริ่มต้นที่ 11$ ซึ่งอาหารเป็นเซ็ต อิ่มแน่นอน คูปองอาหารที่เราซื้อไปไม่สามารถทอนเป็นเงินได้นะและแลกคืนไม่ได้ด้วย จึงอยากแนะนำว่า ถ้าไป 2 คนก็ซื้อ ซื้อ 15$ (ใช้ได้ 20$ ) แล้วที่เกินก็ใช้เงินสดเอาดีกว่า

    ข้อมูล Sea Wheel Travel
    ตั้งอยู่ที่ People’s Park Centre ชั้น 3 ล็อกที่ #03-61
    Website : http://www.seawheel.com.sg/
    Facebook : www.facebook.com/SeaWheelTravel
    เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ 9.00 – 20.00 น., เสาร์ – อาทิตย์ 9.00 – 18.00 น.
    เบอร์โทร : (65) 6538 5557

  4. การเดินทางในสิงคโปร์
    บัตรรถไฟฟ้ามี 2 แบบ หลักๆที่เหมาะกับนักท่องเที่ยว
    – บัตร EZ Link (Easy link) : ใช้ได้สารพัดประโยชน์ ร้านค้า, รถไฟฟ้า, รถเมล์, แท็กซี่ ราคาบัตร 12$ ใช้ได้ 7$ อีก 5$ เป็นค่าบัตร เติมเงินตามจุดให้บริการ ขั้นต่ำ 10$ เหมาะสำหรับการอยู่หลายวัน เดินทางบ่อย เราก็ไม่เข้าใจการคำนวณการเดินทางเท่าไหร่ แต่จากการเปรียบเทียบ ค่าเดินทางจากเพื่อนที่ใช้บัตรนี้ คือใช้ไปค่าเดินทางยิ่งถูกลงกว่าบัตรอีกแบบ ไม่สามารถคืนบัตรได้ บัตรมีอายุ 5ปี
    – บัตร Standard Ticket : ใช้ได้กับรถไฟฟ้า เป็นบัตรเที่ยวต่อเที่ยว โดย 1 บัตร ใช้ได้ 6 ครั้ง ทุก 1,3,6 เที่ยว จะลด 10cen สามารถเติมเงินเข้าไปได้ สำหรับการไป 4วัน และเดินทางประมาณเราจะเหมาะกับแบบนี้มากกว่า
    ราคารถไฟฟ้า เริ่มต้นที่ 0.90$ ถึง SGD 1.80$ นั่นหมายความว่าเที่ยวแรกสมมติค่ารถ 1$ เราได้รับส่วนลด 10cen จะเหลือค่ารถครั้งนี้ 0.9$ ส่วนครั้งที่ 2 ก็จ่ายราคาเต็ม แต่ครั้งที่ 3 จะได้ลดอีก 10cen
  5. Sim card สำหรับ Internet
    สิงคโปร์ไม่มี Internet ฟรีเท่าไหร่นัก เพราะฉะนั้นการมีซิมสำหรับใช้อินเทอร์เน็ตถือว่าจำเป็นมาก เผื่อหลงทาง
    เราซื้อซิมบนเครื่องเลย ได้แถมกาแฟ 1 แก้ว 555
    ราคาซิม 32$(ประมาณ 768 บาท หาร 3 นะ) ไปกัน 3 คนก็แชร์เนตกันอ่ะ ประหยัดได้อีก

แผนการเที่ยว

วันที่ 1
เดินทางถึงสิงคโปร์ ประมาณเกือบบ่ายโมง
เราเดินทางด้วย MRT จากสนามบินถึงที่พักประมาณบ่ายโมงกว่าๆ เราพักที่  Mercury Backpackers Hostel ที่เลือกที่นี่เพราะไม่ไกลจากสถานี MRT เดินทางสะดวก
หลังจากเช็คอินเสร็จเก็บข้าวของ ออกไปหาอะไรกิน เนื่องจากที่พักอยู่ใกล้ MRT สถานี Lavender ตรงนี้มีศูนย์อาหารรวมถึงห้างร้านค้าเยอะมาก สะดวกทั้งการเดินทางและอาหารการกิน รู้สึกโชคดี 🙂 บางวันก็กลับมากินข้าวแถวที่พักก่อนเข้าที่พักทุกครั้งเลย เพราะมีอาหารให้เลือกหลากหลายมากแถมราคาถูกด้วย
China Town
จากนั้นเดินทางไปซื้อตั๋ว USS และ Garden by the bay ที่ China Town ซึ่งสามารถเดินทางด้วย MRT ลงสถานี Chinatown ได้เลย
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จก็มาเดิน China Town ต่อ
วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic)

วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic)
วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic)

ตรงนี้มีวัดที่เป็น Landmark ที่หลายๆคนมา คือวัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic) ที่นี่เป็นวัดจีน และจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ด้วย

China Town

Chaina Town singapore
China Town

บรรยากาศที่นี่ดูจะคึกคักที่สุดละ หนาแน่นไปด้วยผู้คน หลากหลายเชื้อชาติ มีร้านอาหาร ร้านขายของฝากเยอะมากๆ ระหว่างเดินจะมีหลายๆร้านให้ชิมอาหาร ขนมฟรี นี่ชิมจนอิ่มเลย 555
มีของสารพัดอย่าง ตั้งแต่เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกิน และของฝากของที่ระลึก ใครหาของฝากมาที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการหาซื้อของฝาก

วันที่ 2
เดินทางไป USS อยู่นี่ทั้งวัน ไปกันตั้งแต่ 9 โมงเช้า รอประตูเปิด ตอน 10 โมง

Universal Studio Singapore (USS)
Universal Studio Singapore

การแสดง stuntman ดีงาม อลังการมาก

Universal Studio Singapore (USS) – ประทับใจของเล่นในโซน Transformers รอคิวนานมาก แต่คุ้มค่ามากๆ
– ตอนเย็นก่อนสวนสนุกปิด มีจุดพลุปิดสวนสนุก บริเวณ Hollywood Street (มุมฝั่งรูปปั้นดีที่สุด ฝั่งเดียวกับถนน หันหน้าเข้าหาน้ำ)

วันที่ 3
Singapore botanic garden

Singapore botanic garden
Singapore botanic garden

ตอนเช้าไป Singapore botanic garden สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่มาก มีต้นไม้น้อยใหญ่ตกแต่งได้สวยงาม แนะนำว่าไปเช้าๆจะสดชื่นมากๆ แต่ที่นี่อากาศก็ไม่ร้อนนะคะ เพราะต้นไม้ใบหญ้า ร่มรื่นตลอดทาง ชอบที่นี่มาก ถ้ามีเวลาก็อยากจะอยู่ทั้งวัน
ตามไปดูรีวิวและภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่จ้า https://goo.gl/4WWLfg
Garden by the bay

Garden by the bay
Garden by the bay

สถานที่จัดแสดงพืชพันธุ์นานาชนิด จากทั่วทุกมุมของโลกก็ว่าได้ อยู่ในโดมขนาดใหญ่โตมโหฬาร อลังการ โดยที่เราไปจะมีสองส่วน
สวนแรกเป็นไม้ดอกมี 2 ชั้น

Garden by the bay สิงคโปร์
Garden by the bay

อีกโซนเรียกว่า OCBC Skyway อันนี้มีหลายชั้นมากต้องอาศัยลิฟต์ในการขึ้นไป ใหญ่โตอลังการ พืชพันธุ์อยู่ในโดมที่มีการควบคุมอุณภูมิและแสง
Marina Bay Sands

Marina Bay Sands สิงคโปร์
Marina Bay Sands

Marina Bay Sands สิงคโปร์
ไปดูโชว์แสงสีไฟ กลางอ่าว Marina ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Garden by the bay สามารถเดินไปได้ ตรงนี้มีจุดน่าถ่ายรูปหลายจุด มีจุดที่เราพลาดคือ Merlion เสียดายเหมือนกัน เพราะถือเป็น Landmark ใครไม่มาถ่ายตรงนี้แปลว่ามายังไม่ถึงสิงคโปร์นะจ๊ะ แบบนี้แปลว่าเราต้องไปแก้ตัวใช่มั้ย อิอิ
ปล.เช็ครอบการแสดงด้วยนะ เราไปรอบสุดท้ายเลย คือ 2ทุ่ม

วันที่ 4

เดินทางกลับ
มาช็อปที่สนามบิน ปล.สาวๆคนไหนเป็นชอบแบรนด์ charles and keith รับรองถูกใจแน่ๆ เพราะเราเช็คมาแล้ว
Shop ที่สนามบินถูกว่า Shop ในไทย 2เท่าเลยนะ”
จบทริปสิงคโปร์เที่ยวงายสบายใจ ตังไม่รั่วไหลถ้าวางแผนดี

สรุปเพิ่มเติม

  • อาหาร+น้ำ มื้อละประมาณ 4$-10$ (4วัน 3คืน ประมาณ 1,500 บาท)
  • พกเพื่อนไปด้วย ไปช่วยกันแชร์
  • อินเตอร์เน็ตฟรีไม่ค่อยมี
  • ความรู้สึกส่วนตัว ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่าน ทั้งผู้คนและรถรา ดูเป็นเมืองเงียบๆ ยกเว้นบริเวณ China town และตามสถานที่ท่องเที่ยว คนจะเยอะเป็นพิเศษ และมีต่างชาติค่อนข้างเยอะ
  • พกแบตไปเยอะๆจะได้ไม่พลาดโอกาสเก็บภาพสวยๆ
  • ใช้เงินไปทั้งสิ้นประมาณ 8,000 บาท (ไม่รวมค่าช็อปปิ้ง 😉 )
จับพิรุธ คนแบบไหนที่จะไม่ผ่าน ตม.เกาหลี !

จับพิรุธ คนแบบไหนที่จะไม่ผ่าน ตม.เกาหลี !

จับพิรุธ คนแบบไหนที่จะไม่ผ่าน ตม.เกาหลี !

พิรุธ คนแบบไหนที่จะไม่ผ่าน ตม.เกาหลี

ข่าวนักท่องเที่ยวไทยโดนส่งตัวกลับจากเกาหลีใต้ อย่างไร้เหตุผล ทำให้หลายคนที่อยากจะไปเที่ยวเกาหลีเริ่มหวาดผวา กับกิตติศัพท์ความโหดของ ตม.เกาหลี อันเนื่องมาจากคนไทยใช้ช่องทางของฟรีวีซ่า 90 วัน ลักลอบไปทำงานผิดกฎหมาย

เราเคยไปเที่ยวเกาหลีแบบกรุ๊ปทัวร์ ได้ข้อมูลมาบ้าง เดี๋ยวจะแชร์ให้ฟัง ตามจริงแล้ว ในกรุ๊ปทัวร์เราแบ่งเป็น 2 บัส เราอยู่บัส 1 ลงชื่อไว้ 26 คน ทำไปทำมาเหลือเที่ยวไม่ถึงสิบคน

(ก่อนเดินทางมีเหตุฉุกละหุกกับสายการบิน มีคนขอแคนเซิลตั๋วประมาณ 3-4 คน นอกนั้นติด ตม. บางคนก็ผ่าน ตม.แต่หายตัวแว้บช่วงรอกระเป๋า เพื่อโดดไปทำงาน) จากจำนวนคนที่เหลือน้อยเลยต้องรวมกับบัส2 ทำให้เหลือเที่ยวจริงๆ 29 คนจากทั้งหมดเกือบ 50 คน

เวลาไปกับกรุ๊ปทัวร์ ทางทัวร์จะขอเรียกเก็บค่าทิปคนละ 1,200 บาทก่อนเลยตั้งแต่อยู่ที่สนามบินไทย พร้อมทั้งให้เซ็นสัญญาว่าหากติด ตม.ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้ จะไม่มีการคืนเงินใดๆทั้งสิ้น

แว้บแรกที่เห็นเราจะดูออกเลยว่าคนไหนแฝงไปกะทัวร์เพื่อไปทำงาน คนพวกนี้จะลักษณะแบบบ้านๆ หน้าตาผิวพรรณกรำแดด ไม่มีลุคนักท่องเที่ยว ดูก็รู้เลยว่าตั้งใจไปขายแรงงานชัวร์ บางคนจะใส่เสื้อกันหนาวฟรุ้งฟรุ้ง รองเท้าบูทจัดเต็มตั้งแต่สุวรรณภูมิเพื่อให้เนียนที่สุด แต่….ใช้กระเป๋าไซส์กลางถึงเล็ก สัมภาระน้อย เน้นคล่องตัว

พิรุธ คนแบบไหนที่จะไม่ผ่าน ตม.เกาหลี

เมื่อถึงที่สนามบินอินชอน เข้าแถวช่อง ตม. แน่นอนว่าครอบครัวเราผ่านอย่างไม่มีปัญหา จนท.พลิกดูหน้าพาสปอร์ต2-3ที แล้วก็ปั๊มผ่าน ใบรับรองการทำงานที่เตรียมมา ไม่ต้องแสดงเป็นหลักฐานแต่อย่างใด

แต่มีเคสหนึ่งเป็นผู้หญิง 2 คน อายุประมาณ 40 กว่า มาเป็นเพื่อนกัน ใส่เสื้อขนเป็ดกันตั้งแต่อยู่สุวรรณภูมิ แล้วก็เป็นคนที่แสดงตัวว่าพร้อมบินต่อเป็นคนแรกๆ แม้เครื่องบินจะมีปัญหา ลักษณะแบบดูออกว่ามาทำงานแน่นอน ทีนี้เพื่อนผ่านไปได้ แต่อีกคนไม่ผ่าน ดูเงอะงะ สื่อสารอังกฤษไม่ได้ โดนเรียกเข้าห้องเย็น เพื่อนที่ผ่านขอร้องให้ไกด์ไปการันตี แต่ทางไกด์ก็ปฏิเสธ สุดท้ายเพื่อนได้ไปต่อคนเดียว ป้าคนนั้นโดนส่งกลับ

อีกเคสมากัน 3 คน น้าผู้หญิง-หลานผู้หญิง-แฟนหลาน มาจากโคราช ตัวน้าบอกว่า หลานอยากมา ตอนเครื่องมีปัญหา ยังมาถามเราว่าไปต่อไหม ดูเขาก็หวั่นใจ เพราะเดินทาง ตปท.ครั้งแรก พอผ่าน ตม.ได้เท่านั้นแหละ ขอแยกตัวจากกลุ่ม ไม่ขอเที่ยวด้วยซะงั้น

อีกเคสเป็นแฟนกัน ใช้มุกใส่เสื้อคู่ คือเราดูออกอ่ะว่ามาทำงานแน่ๆ แต่ ตม.เกาหลีพลาดปั๊มให้ผ่านจ้า โธ่เอ๊ย

คุณแก้ม หัวหน้าทัวร์เล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า คนไทยลักลอบเข้ามาทำงานในเกาหลีใต้เยอะมาก เรียกว่าไกด์ต้องเจอทุกกรุ๊ปทัวร์เลย บางครั้งรุนแรงขนาดหายหมดทั้งกรุ๊ป ไม่เหลือสักคน ไกด์ก็นอนโรงแรมสบาย ไม่ต้องทำงานตลอด 5 วัน

นอกจากคนไทยแล้วยังมีคนในแถบอาเซียน เวียดนาม อินโด ฟิลิปปินส์ (พม่า เขมร ลาว ไม่ฟรีวีซ่า) ส่วนใหญ่จะมาทำงานในไร่ เก็บผัก เลี้ยงหมูในแถบบ้านนอก พวกสาวๆหน่อยก็ทำงานร้านนวดแฝงค้าบริการ

มีเคสนึงสาหัสมากมากันเป็นครอบครัว พ่อ-แม่-ลูกวัยอนุบาล-ยาย โดยทั้งหมดลงทุนซื้อทัวร์รวมกันก็หลายหมื่น แล้วก็ค่านายหน้าหางานอีก โดยหวังว่าจะได้เที่ยวจนถึงวันสุดท้ายกับทัวร์ จากนั้นพ่อแม่ที่ยังหนุ่มสาวค่อยหลบไปทำงาน แล้วฝากลูกกลับเมืองไทยไปกับยาย ทีนี้ช่วงต้องเข้าช่อง ตม.ตัวพ่อกับแม่ผ่านไปได้ เพราะทำทีว่าจะพาลูกมาเที่ยว แต่ตัวยายไม่ผ่านจ้า สุดท้ายพ่อแม่ต้องยอมทิ้งลูกกลับเมืองไทยกับยาย เพื่อให้ตัวเองได้ทำงาน ตัวเด็กก็ร้องไห้โยเยลั่นสนามบินที่ต้องห่างพ่อแม่ ช็อตนั้นดราม่ามาก

ที่ผ่านมาทางไกด์ต้องถ่ายพาสปอร์ตผู้มาลักลอบทำงานไว้ตรวจสอบ เพราะถ้ามีใครอยู่เกินกำหนด 90 วัน เป็นจำนวน 50 คนเมื่อไหร่ ทางไกด์โดนติดแบล็คลิสต์ห้ามเข้าเกาหลีตลอดชีวิตเช่นกัน

คุณแก้มเล่าอีกว่า จะมีนายหน้าติดต่อมากับบริษัททัวร์อยู่ตลอด ซึ่งทุกอย่างโยงกันเป็นขบวนการ โดยมีสาเหตุมาจากคำว่า ‘เงิน’ และ ‘ความเห็นแก่ตัว’ เข้ามาเกี่ยวข้อง

ทางลูกค้าก็อยากทำงานเมืองนอก หาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง โดยใช้วิธีสกปรก ทางนายหน้าก็อยากได้เงินจากลูกค้า จากนายจ้างที่อยากจ้างแรงงานถูกๆเพื่อลดต้นทุน

ทางบริษัททัวร์ก็อยากจะขายแพ็คเก็จออก อยากให้มีคนจองทัวร์เยอะๆ ทุกคนจึงพยายามหลับหูหลับตากับปัญหานี้กันไปหมด

ล่าสุดมีข้อมูลอ้างอิง จากนายธาตรี เชาวชตา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ว่า ที่ผ่านมาทางการไทยได้มีความพยายามเจรจาทางการทูต แต่ทางเกาหลีใต้ปฏิเสธ และไม่อนุญาตให้สถานทูตไทยมาร่วมสอบสวนหากมีคนไทยถูกกักตัว เมื่อสอบถามหลักเกณฑ์ในการพิจารณาบุคคล ก็ไม่ได้รับการเปิดเผย ซึ่งจากสถิติพบว่าพลเมืองไทย ติดอันดับ 1 ในการถูกส่งตัวออกจากเกาหลีใต้มากที่สุด โดยจะเพ่งเล็งที่หญิงไทย พร้อมมีรายงานว่ามีคนไทยถูกส่งตัวกลับไทยเฉลี่ย 28,000 คนต่อปี หรือราววันละ 76 คนเลยทีเดียว

เกาหลีใต้ให้ฟรีวีซ่าคนไทย90วัน เพราะเป็นการขอบคุณที่ทางการไทยเคยส่งทหารไปร่วมรบในช่วงสงครามเกาหลี แต่ทุกวันนี้คนไทยที่เห็นแก่ตัวทำเสียชื่อเสียง และทำลายสิ่งที่บรรพบุรุษสั่งสมมากันเสียหมด แล้วก็ไปกระทบกับคนที่ตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าปัญหานี้จะหมดไปเมื่อไหร่ หรือต้องรอให้ยกเลิกฟรีวีซ่าเสียก่อนก็ไม่รู้

 

ทำยังไงให้ผ่าน ตม.เกาหลี

1.เตรียมเอกสารแสดงตนให้พร้อม ใครเคยเปลี่ยนชื่อ ก็ต้องเตรียมเอกสารมาด้วยนะ ส่วนเรื่องพาสปอร์ตหน้าขาว อันนี้ก็แล้วแต่ดวง เพราะเพื่อนเราบางคนขาวมาก แต่ ตม.ก็ปั๊มผ่านเลย ไม่ถามใดๆ

2.เอกสารแสดงอาชีพ เช่นใบรับรองการทำงาน บัตรพนักงาน นามบัตร ถ้าทำงานอิสระก็ต้องมีตัวอย่างงานติดๆมาด้วย

3.เงินสดแลกติดตัวไว้เลย (อย่าไปรวมกับเพื่อน เพราะบางทีเพื่อนผ่าน เราอาจไม่ผ่าน) แล้วก็บัตรเครดิต ให้รู้ว่าเรามีทุนทรัพย์พร้อมเปย์นะ ไม่ได้มาเล่นๆ

4.โปรแกรมทัวร์/ใบจองโรงแรม/เอกสารการนำเที่ยว/ตั๋วเครื่องบินขากลับ เอาให้ชัด ว่ายังไงเราก็ไม่โรบินฮู้ดแน่นอน

5.แต่งตัวเรียบร้อย ดูดี เหมาะกับการท่องเที่ยว ไม่เซ็กซี่ หวือหวา สร้างลุคให้ดูน่าเชื่อถือหน่อย

6.สื่อสารภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานได้

7. อันนี้เป็นอีกทริค เพื่อนเราไปกับแก๊งเพื่อน แล้วเพื่อนผ่าน นางดันติดอยู่คนเดียว เข้าห้องเย็น พอ จนท.ถามว่ามากับใคร ก็ เปิดรูปพาสปอร์ตเพื่อนๆที่ถ่ายเตรียมไว้ในมือถือ ยื่นให้ดู แล้วก็สะกดชื่อเพื่อนให้ถูก ตอบคำถามแบบมีสติ ไม่ลุกลี้ลุกลน ติดอยู่ 30 นาทีก็ผ่านเลยจ้า

สุดท้ายถ้าเราบริสุทธิ์ใจว่าไปเที่ยวชัวร์ๆ ยังไงก็ผ่าน เชื่อสิ

รีวิวเกาหลี โดยอาจุมม่า =>  หนาวติดลบกับวิวหิมะหลักล้านที่’ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท’ ณ เกาหลีใต้

-อาจุมม่า ซารางเฮ-

[Dudes Next Door]พาเที่ยวป่าต้องห้าม ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ณ warner studio! [ภาค1]

หลังจากเรียนหนังสือที่ประเทศนี้มาได้สักระยะ วันหยุดที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสตีตั๋วไปเที่ยว warner studio ณ สหราชอาณาจักรค่ะ จริงๆอยากไปนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสซะที รอบนี้พอมีวันว่างเลยรีบจองตั๋วกับเพื่อนไต้หวันไปเที่ยวกัน แล้วที่น่าสนใจคือ สตูดิโอเพิ่งเปิดโซนใหม่คือ โซนป่าต้องห้าม (Forbidden Forest) งานนี้สาวกแฮร์รี่ พอตเตอร์อย่างเราเลยไม่พลาด  จริงๆอยากจะไปตั้งนานแล้ว แต่จองตั๋วไม่ทัน ใครที่จะมาอังกฤษแล้วอยากไปสตูดิโอ อย่าลืมจองตั๋วกันก่อนนะคะ ไม่งั้นตั๋วเต็มยาวเลย นี่เราจองเป็นเดือนเลยแหนะ

ตีตั๋วได้ที่นี่เลย : https://www.wbstudiotour.co.uk/

ตอนที่แอดจอง (ประมาณเดือนเมษายน 2560) ราคาอยู่ที่ 37 ปอนด์ หรือเป็นเงินไทย ประมาณ 1,600 บาทค่ะ (แต่คุ้มมากๆเลยนะ)

วิธีการไป (จากลอนดอน) : ตีตั๋วจากสถานี Euston ไปลงที่สถานี Watford junction (ราคาตั๋วรถไฟไปกลับประมาณไม่เกิน 20 ปอนด์ (แพงเหมือนกันเนาะ ฮ่าๆ) หลังจากนั้นไปลงที่สถานี Watford junction แล้วต่อรถบัส (หาง่ายค่ะ อยู่หน้าสถานีเลย มีป้ายบอก ค่ารถบัส 2.50 ปอนด์ ส่งถึงสตูดิโอเลยค่ะ)

อันนี้เป็นรูปโปรโมทโซนใหม่ในสตูดิโอค่ะ เก๋ไก๋สไลด์เดอร์มาก

EDITORIAL USE ONLY L-R Warwick Davis, James Phelps, Oliver Phelps and Evanna Lynch who play Professor Flitwick, the Weasley Twins and Luna Lovegood in the Harry Potter film series during an exclusive visit to the new Forbidden Forest expansion at Warner Bros. Studio Tour London – The Making of Harry Potter, which opens to the public on March 31st. PRESS ASSOCIATION Photo. Picture date: Tuesday March 28, 2017. Photo credit should read: David Parry/PA Wire
เหล่านักแสดงมาเยี่ยมชมโซนใหม่ในวอเนอร์สตูดิโอค่ะ ขอบคุณภาพจาก https://www.wbstudiotour.co.uk

เริ่มต้นเข้าไปก็จะเป็นการแนะนำว่าแฮร์รี่พอตเตอร์ดังไปไกลถึงประเทศไหนบ้าง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะพาเราเข้าไปในโรงหนังให้เราได้ดูภาพความประทับใจ และเบื้องหลังการทำงานทั้งหมด หลังจากนั้นก็

ขอต้อนรับสู่ดินแดนแห่งเวทย์มนตร์เลยยย!

ที่นี่แบ่งเป็นสองฮอลล์ค่ะ

ส่วนใหญ่เป็นการจัดแสดงเบื้องหลังของภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ค่ะ ของที่จัดแสดงเป็นคนที่ใช้ในการถ่ายทำจริงๆ และเทคนิคการถ่ายทำ สเปเชียลเอฟเฟ็คต่างๆ ซึ่งเราประทับใจมากเลยนะ เราว่ามันอลังการ  คนทำต้องตั้งใจและมีแรงบันดาลใจอย่างสูงในการทำสิ่งต่างๆ ซึ่งแบบ เขาบอกว่าใช้เวลาทั้งหมดในการเดินดูทั้งสตูดิโอประมาณ 3 ชั่วโมง แต่เราเดินแค่ฮอลล์แรกก็ปาเข้าไป เกือบสามชั่วโมงแล้ว ฮ่าๆๆ จริงจังแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง ตื่นเต้นกับทุกสิ่งอย่างเลย

HarryPotter_WB-2
เปิดมาทางเข้าเป็นอย่างนี้เลยจ้า

HarryPotter_WB-3

HarryPotter_WB
คิดถึงพวกเขามั้ย
HarryPotter_WB-4
ห้องใต้บันไดของแฮร์รี่

HarryPotter_WB-5

‘ไม่เคยมีความคิดไหนที่ทำให้ฉันมีปฎิกริยาทางร่างกายได้เท่านี้มาก่อน มันเป็นความรู้สึกปิติอย่างเหลือเชื่อ ราวกับว่าคุณได้พบกับใครคนหนึ่งที่ในที่สุดแล้วคุณจะตกหลุมรักเขา’ – เจ เค โรว์ลิ่ง –

 

 

HarryPotter_WB-6
เตรียมตัวเข้าสู่โลกแห่งเวทย์มนตร์กัน
HarryPotter_WB-7
อันนี้ตรงที่ว่าใครเกิดวันนั้น ให้แสดงตัวนะเจ้าหน้าที่จะให้เป็นคนเปิดประตูเข้าสู่โถงใหญ่

พร้อมหรือยังงงง

1

2

3!

HarryPotter_WB-8

HarryPotter_WB-9
โถงใหญ่ของฮอกวอร์ตโต๊ะกินข้าวแต่ละบ้านเรียงรายเลย
HarryPotter_WB-11
เอ้าใครอยู่กริฟฟินดอร์ยกมือขึ้นนน
HarryPotter_WB-10
โต๊ะกินข้าว ดูดีนะว่ามั้ย
HarryPotter_WB-16
อาจารย์ใหญ่ของเราเอง ดัมเบิลดอร์
HarryPotter_WB-15
คิดถึงเขาเสมอ โปรเฟสเซอร์สเนป
HarryPotter_WB-14
อาร์กัส ฟิลช์ คนดุคนเดิม
HarryPotter_WB-17
วิงการ์เดียม เลวิโอซ่าาา

 

HarryPotter_WB-13
มายกแก๊ง

เดินต่อสู่ฮอลล์แรกเลย ที่นี่ก็จะมีเรื่องของเบื้องหลังการถ่ายทำ รวมถึงฉากบางฉากที่เซ็ตไว้ให้ได้ดู เรื่องของสเปเชี่ยล เอฟเฟ็ค และชุดด้วยค่ะ

HarryPotter_WB-19

HarryPotter_WB-18

HarryPotter_WB-21
ฉากงานเต้นรำวันคริสมาสต์ จำกันได้มั้ย

 

HarryPotter_WB-28

HarryPotter_WB-26
เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของลูน่า เลิฟกู้ด

HarryPotter_WB-25

HarryPotter_WB-23

HarryPotter_WB-29
ชุดขุ่นพ่อไง จำได้ป่าว
HarryPotter_WB-27
ชุดแฮร์รี่ต่อสู้ในฉากสุดท้าย
HarryPotter_WB-22
ชุดงานเต้นรำล่ะ
HarryPotter_WB-31
ห้องนอนหอชายในฮอกวอร์ต

 

HarryPotter_WB-30
แอดขอไปทำความสะอาดได้ไหม ได้ไหมม

HarryPotter_WB-32

HarryPotter_WB-35
ห้องนั่งเล่นรวม

HarryPotter_WB-34

HarryPotter_WB-36

HarryPotter_WB-33

HarryPotter_WB-37
ทางเข้าคุ้นๆ อ่อ ไปห้องอาจารย์ใหญ่ไง
HarryPotter_WB-38
สวัสดีค่ะอาจารย์ ยื่นใบสมัครเข้าโรงเรียนที่ไหนดีคะ

HarryPotter_WB-39

HarryPotter_WB-40
พร้อมถูกดูดความทรงจำกันหรือยังมักเกิ้ล

เดินดูศาสตร์มืดต่อ พร๊อพแต่ละอย่างในฉากคือทำละเอียด อลังการ ประทับใจมากกก

HarryPotter_WB-44

HarryPotter_WB-43

HarryPotter_WB-42

HarryPotter_WB-41
ไข่ทองคำ
HarryPotter_WB-49
ศิลาอาถรรพ์ตัวจริงเสียงจริง

HarryPotter_WB-47

HarryPotter_WB-46
สนิชชชช คว้าหมับเลย

HarryPotter_WB-45

HarryPotter_WB-53

HarryPotter_WB-52

HarryPotter_WB-51
ป้ายนักโทษอัซคาบัน

HarryPotter_WB-50

HarryPotter_WB-58
เดินมาถึงบ้านแฮกริดแล้วววว
HarryPotter_WB-57
มีคุณฟางนั่งรออยู่หน้าบ้านด้วยแหนะ

HarryPotter_WB-56

HarryPotter_WB-55
แวะไปเรียนวิชาปรุงยากัน
HarryPotter_WB-63
อันนี้คืออะไรใครจำได้บ้างง
HarryPotter_WB-61
ประตูทางเข้าห้องแห่งความลับ
HarryPotter_WB-62
ต้นวิลโลว์จอมหวดดด
HarryPotter_WB-60
รถเหาะะะ

HarryPotter_WB-59

HarryPotter_WB-68
ศูนย์รวมศาสตร์มืด

HarryPotter_WB-67

HarryPotter_WB-66
แวะเที่ยวบ้านวีสลีย์กันหน่อยยย

HarryPotter_WB-65

HarryPotter_WB-64
นิตติ้งกำลังถักเองด้วยเวทย์มนตร์

HarryPotter_WB-69

 

เดินต่อไปสักพัก…มาคฤหาสน์มัลฟอยบ้าง..อื้อหืมมม

 

HarryPotter_WB-72
ฉากสำคัญของแชร์ริตี้ เบอร์เบจ
HarryPotter_WB-71
คฤหาสน์มัลฟอย

HarryPotter_WB-74

HarryPotter_WB-73

HarryPotter_WB-70
เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะศาสตร์จารย์ (หรอออ)
HarryPotter_WB-77
เดินต่อมายังกระทรวงเวทย์มนตร์

HarryPotter_WB-76

HarryPotter_WB-75

HarryPotter_WB-78
เอาล่ะ ขอต้อนรับสู่ป่าต้องห้ามมมม
HarryPotter_WB-80
แผ่เยื่อใยให้อย่างคุ้นตา
HarryPotter_WB-82
สวัสดีอาราก๊อกเพื่อนยาก
HarryPotter_WB-81
รอนคงคิดถึงนายมากแน่ๆเลย

HarryPotter_WB-84

HarryPotter_WB-84

HarryPotter_WB-79
อยากให้เห็นวีดีโอ พี่เขาขยับได้ด้วยคือดีงาม เดี๋ยวเอาวีดีโอมาฝากนะะ

 

มาต่อกันที่ชานชาลา 9 เศษ 3 ส่วน 4

HarryPotter_WB-86
กระเป๋าใบนี้เป็นของใครให้ทาย..ใบ้ให้ มีกล้องถ่ายรูปด้วยยย

 

HarryPotter_WB-85
ใบนี้หล่ะะ..G…W ใบ้ให้ว่ามีฝาแฝด
HarryPotter_WB-87
ขอบคุณนางแบบจำเป็นของเรา ฮ่าๆ
HarryPotter_WB-91
ภายในรถไฟมุ่งไปฮอกวอตส์

HarryPotter_WB-91

HarryPotter_WB-89
แต่ละปีจะมีของต่างๆกันออกไป

HarryPotter_WB-88

HarryPotter_WB-93

HarryPotter_WB-92
รอนนางไปสลักอะไรไว้ไม่รู้น่ะดูสิ

HarryPotter_WB-96

HarryPotter_WB-97
ยามเราพบกันครั้งแรก

HarryPotter_WB-95

HarryPotter_WB-94
ชุดคอสตูมสุดท้ายในฉากสุดท้ายที่เขามาส่งลูกๆขึ้นรถไปเรียนกัน จินนี่-แฮร์รี่-รอน-เฮอร์ไมโอนี่ (เรียงจากซ้ายไปขวา)
HarryPotter_WB-99
ก่อนจบภาคแรกขอเชิญจิบบัตเตอร์เบียร์เย็นๆดับกระหายกันจ่ะ

เอาล่ะะะะ จบภาคแรกของการเยี่ยมชมไปเกือบร้อยกว่ารูป นี่ยังเหลืออีกฮอลล์ให้ชื่นชม แต่ให้ทุกคนได้พักผ่อนกันสักหน่อย เดี๋ยวพบกันตอนหน้าจะพาไปเที่ยวด้านนอก พาไปเยี่ยมชมบ้านเลขที่ 4 ซอยพรีเว็ตกันนะจ๊ะ

ลูมอส~!

แอดชิวหา

เวียดนามใต้

ตะลุยฝูงมอเตอร์ไซค์ ดื่มด่ำวิวทะเลทราย ใส่ชุดอ๋าวหญ่ายที่ ‘เวียดนาม’

‘เวียดนาม’ ประเทศที่หลายคนวางไว้เป็นคู่แข่งไทยในหลายๆด้าน ตั้งแต่แข่งกันส่งออกข้าว ไปจนถึงแข่งกันเป็นเจ้าอาเซียนในกีฬาฟุตบอล และการเกทับกันในวงการนางงาม

ทริปนี้จึงเกิดขึ้น เพราะอยากไปสัมผัสด้วยตัวเองว่าเวียดนามจะเป็นอย่างไร? เทียบแล้วเจริญเท่าไทยไหม? พร้อมแล้วก็ไปพิสูจน์กันเลย!

บินไปกับVietJet Air
ทริปนี้เราจองตั๋วของVietJet Air โลว์คอสสัญชาติเวียดนาม ที่นางเพิ่งมาเปิดตลาดในไทยไม่นาน ได้ราคาไปกลับ2พันกว่า แต่!ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตแพงไป เลยไปจบที่3พันต้นๆ
ไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ สภาพเครื่องก็พอถูๆไถๆได้ ถ้าไม่คิดมาก เบาะก็กว้างพอประมาณ อย่าคาดหวังเยอะกับราคาเท่านี้

VietJet Air
ทีเด็ดอยู่ที่สจ็วตของเขาที่เลือกหนุ่มๆสไตล์ Dark Tall Handsome กล้ามแน่น คือไม่ขาวตี๋แบบสายการบินอื่น มาในยูนิฟอร์มเสื้อยืดสีแดงทะมัดทะแมง บางเที่ยวบินไม่มีแอร์ชะนีเลยจ้า มีแต่ผู้ อื้อหือออออ นั่งไปชม.นิดๆ แลนดิ้งถึงสนามบินในโฮจิมินห์ปลอดภัยจ้า

โฮจิมินห์ถิ่นลุงโฮโฮจิมินห์
ด้วยขนาดของเวียดนามที่ก็ไม่เล็กนะครับ มีการแบ่งภูมิประเทศเป็นเวียดนามเหนือ-ใต้ ซึ่งจากข้อมูลแล้วพบว่าเมืองเอกของประเทศคือโฮจิมินห์ อยู่ในเขตเวียดนามใต้ (นางไม่ใช่เมืองหลวงนะจ๊ะ เมืองหลวงนางคือฮานอย อยู่ทางเหนือ)

โฮจิมินห์

โฮจิมินห์ถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ผู้คนพลุกพล่านมากสุด
มีสนามบินซึ่งถือว่าใหญ่สุดของประเทศแล้ว แต่ในสายตาเราและเพื่อนก็ว่ายังเล็กกว่าดอนเมือง นี่ให้เทียบเท่าประมาณสนามบินเชียงใหม่ ภูเก็ตไรงี้ ร้านDuty Freeน้อยนิด จัดที่นั่งให้คนรอเก้าอี้แบบหมอชิต ยังไม่ค่อยInternationalเท่าไร

(มีทริคการแลกเงินคือที่สนามบินเรทดีกว่าร้านข้างนอก เพราะฉะนั้นแลกไปเลยค่ะ แต่อย่าเทหมดหน้าตัก เหลือไว้เป็นUSดอลลาร์บ้าง ค่าเงินก็คิดยากชิบหาย จ่ายกันเป็นหมื่นเป็นแสนแบบแบงค์กงเต๊ก อย่าถามว่าคิดเป็นเงินไทยยังไง เพราะนี่ก็มั่ว55555)

ส่วนในเมืองไม่ค่อยมีตึกสูง แหล่งช็อปปิ้ง หรือโรงแรมหรูยังน้อย ร้านสะดวกซื้อแทบไม่ค่อยมี ยังเป็นมินิมาร์ทท้องถิ่นขายผ้าอนามัยโกเต็ก (โกเต็กที่บ้านเราเลิกขายไปแล้วอ่ะ) แต่เริ่มมีคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟสวยๆเอาใจวัยรุ่นมาเปิดเยอะขึ้น แต่สรุปแล้วกรุงเทพเราศิวิไลซ์กว่าโฮจิมินห์ เวียดนาม

(เออ ว่าแต่ลุงโฮเป็นใครวะ นี่ก็ไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์เขามาก รู้แค่เป็นผู้นำคนสำคัญเคยไปอยู่ไทย แล้วไงต่อไม่รู้ ไปหาอ่านที่อื่นเอานะ5555)

ตะลุยฝูงมอเตอร์ไซค์

vietnam
เกิดมาไม่เคยเจอะเคยเจอ ขอยกเป็นประเทศที่มี ฝูงมอเตอร์ไซค์เยอะที่สุดในโลกกกกก ขอเรียกว่าฝูง เพราะมันไม่ได้มากัน5-6คัน มันมากันเป็นฝูงจริงๆ ยิ่งในเขตโรงเรียนนะ แล้วตอนโรงเรียนเลิก นักเรียนขี่กรูกันออกมาเต็มถนน เมิงเอ๊ยยยยฝูงซอมบี้ จยย.ชัดๆ จะขี่กันตามใจฉัน บีบแตรกันจนปวดกระดูกหูชั้นที่4 ถ้าต้องข้ามถนนคนเดียวนี่คิดหนัก เพราะรถมันไม่หยุดให้จ้า ก่อนข้ามก็ต้องสูดหายใจลึกๆ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วเดินจ้ำๆไปเลย ห้ามหยุดชะงักเด็ดขาด! แล้วคุณจะพิชิตเป้าหมายได้สำเร็จ!!

แต่…แว้นของเขาคือแว้นคุณภาพ แว้นกันเพื่อเลี้ยงชีพไปทำมาหากิน ทุกคนจะใส่หมวกกันน็อกเปิดหน้า ใช้ความเร็วต่ำ ไม่ได้บิดเอาเป็นเอาตาย แว้นกวนเมืองแบบไทย เชื่อไหมว่าถึงรถจะเยอะ แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาเกิดอุบัติเหตุเลยนะ นี่ว่ายอดอุบัติเหตุช่วง7วันอันตรายไทยคงชนะเขาแหละ

ดินแดนมิจฉาชีพ ??

เที่ยวเวียดนามใต้

เรามักจะได้ยินข่าวคนเวียดนามเป็นมิจฉาชีพอยู่บ่อยๆ แม้กระทั่งมากรีดกระเป๋าในงานหนังสือบ้านเรา
ทริปนี้เราไปกัน6คน ชะนี5 ชาย1 (เอาไปยกของ ขี่ จยย.กับหารค่าข้าว) ระหว่างทริปก็ช่วยกันระแวดระวัง เดินคุมหน้าคุมหลัง เอากระเป๋าของมีค่ามาไว้ข้างหน้า สรุปทั้งทริปก็ไม่มีอะไรหาย ไม่เจอเหตุร้ายใดๆ เราว่าเรื่องแบบนี้มีอยู่ในทุกสังคมแหละ จะไทย เวียดนาม หรือประเทศยุโรปอย่างฝรั่งเศสก็ยังมีกระทู้เตือนภัยเลย เพราะฉะนั้นเราในฐานะนักท่องเที่ยวก็ต้องระวังตัวเองเป็นดีที่สุด

(อ่อ!มีโดนลุงเฝ้าที่จอดรถโกงค่าจอดครั้งหนึ่ง แต่พอเราบอกว่าเพื่อนจ่ายแค่นี้ นางก็ทำหน้างี้ดๆ ประมาณว่า อุ่ยตายแล้ว! โดนจับได้ แล้วก็รีบโบกมือให้เราเข้าจอดฟรีเลย)

อาหารการกิน

เฝอ เวียดนาม
เราขอแนะนำให้คุณพกน้ำปลา น้ำจิ้มแจ่ว สุกี้ ซีฟู้ดไปด้วย เพราะ80%ของอาหารเวียดนามคือจืด! ของขึ้นชื่อของประเทศนางคือ เฝอ ก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวจืดๆบ้านเราอ่ะแก มีหมู ไก่ เนื้อ ให้เลือก บางร้านก็ดี๊ดีสั่งเฝอไก่ เพราะไม่กินเนื้อ แต่ทางร้านก็ใช้น้ำซุปเนื้อราดมาให้เลยจ้าาาา

ขนมปังเวียดนาม
อีกอย่างที่ขึ้นชื่อคือแซนวิชพื้นเมืองที่ทำจากขนมปังฝรั่งเศสบ้องใหญ่ๆมาหั่น ใส่ผัก ใส่ไก่ ใส่หมู ราคาไม่แพง มีขายเกือบทุกมุมถนน
พิซซ่าเวียดนาม
พิซซ่าเวียดนามห่อหนังสือเรียน พิซซ่าเวียดนาม เป็นแผ่นแป้งกรอบ ราดซอสพริก โรยผัก โรยถั่ว ก็อร่อยดี ร้านนี้ขายหน้าโรงเรียน ป้าก็เอากระดาษหนังสือเรียนมาห่อซะเลย

จะกินไรก็ดูร้านนิดนึง พยายามเข้าร้านที่ดูสะอาด เชื่อถือได้ แล้วก็สังเกตป้ายเวลาสั่งอาหารด้วย เพราะคำว่าThit cho มันคือเนื้อหมาค่ะเมิงงงงง

อาหารเวียดนาม
เวลากินอะไรก็ตาม เขาจะเสิร์ฟคู่ผักสด เพราะเวียดนามคือดินแดนเกษตรกรรม
IMG_6060
ผักที่นี่จะดูสด ขนาดใหญ่เบิ้มมาก กะหล่ำปลีสามารถฟาดหน้าคนตายได้ เพราะมันใหญ่มากกกกกก ก็ไม่รู้ว่าปุ๋ยชั้นดีคือขี้หรือเปล่า 55555 แต่ขอเตือนอย่ากินผักมั่วซั่ว เพราะอาจมีสารพิษตกค้าง พี่เราเคยไปทำงานเวียดนาม ได้กินผักสดแล้วเกิดอาหารเป็นพิษ เข้าโรงพยาบาลกันยกคณะมาแล้ว

แต่ขอแนะนำนมดาลัท อร่อยจริงจัง สดจากเต้าจริงๆ แล้วถ้าไปเมืองชายทะเลอย่างมุยเน่ อย่าลืมไปกินอาหารทะเลรสชาติแปลกๆ หอยย่างโรยถั่ว ต้มยำกุ้งน้ำข้นหนืดเหมือนราดหน้ากันดูนะ

รีวิวเวียดนาม

สำรวจประชากร
คนเวียดนามจะจีนก็ไม่ใช่จีนจ๋าอ่ะ คือมีความตี๋หมวยนะ แต่ก็ไม่ใช่จีนอ่ะ บอกไม่ถูก ส่วนใหญ่จะร่างเล็กทั้งหญิงและชาย ไม่ค่อยสูง แต่สิ่งนึงที่ชนะเลิศของชะนีเวียดนามคือผิวพรรณจ้า ผิวนางดี ขาวเหลือง ฮาดะลาโบะมาก ไม่ค่อยมีใครเป็นสิวเป็นฝ้า แล้วชะนีบางคนแต่งตัวแรง ใส่ชุดรัดรูปสีสดตัดกับสีผิวขาวๆ เอ็กซ์แตกมาก ส่วนผู้ชายก็จะแอบมีความล่ำกรำแดดประปรายประชากรเวียดนาม

เหนือสิ่งอื่นใด อิประเทศนี้ไม่มีคนอ้วนค่ะ เดินมา100คนนี่แทบไม่เจอคนอ้วน เราคนไทยที่ไปเรานี่แหละอ้วนสุดในประเทศ ณ จุดนี้ต้องกราบความผัก ความสู้ชีวิตของคนในชาตินี้ที่ทำให้พวกนางหุ่นดีกันนะคะ

ส่วนใหญ่ก็สื่อสารภาษาอังกฤษรู้เรื่องกันนะ บางคนก็รู้ภาษาไทยด้วย แต่ถ้านอกๆเมืองหน่อยก็ใช้ภาษามือโบ๊เบ๊กันไป วัยรุ่นที่นี่ก็ติดสมาร์ทโฟน ก็ใช้ชีวิตชิคๆเก๋ๆไม่ต่างจากไทย แต่คนเวียดนามจะหน้านิ่ง ไม่ค่อยยิ้ม ไม่บ้าเหมือนคนไทยเอะอะๆยิ้มทุกเรื่อง

รถนอนในตำนาน

รถนอน เวียดนาม
รถนอน เวียดนาม

อีกหนึ่งประสบการณ์ที่อยากให้ได้ลองกันคือการนั่งรถนอนในตำนาน! ที่จะพาเราออกจากโฮจิมินห์ไปเมืองรอบนอก บอกเลยว่ามันเป็นการเดินทางบนพาหนะที่อเมซิ่งมาก ลองนึกภาพเตียง2ชั้นเรียงกันสิบ ยี่สิบเตียง อยู่บนรถที่เคลื่อนที่ได้

ขึ้นไปปุ๊ปสิ่งแรกที่ต้องทำคือการถอดรองเท้าใส่ถุงก๊อปแก๊ปที่เขาเตรียมไว้ให้ เพื่อไม่ให้กลิ่นรบกวนผู้โดยสารคนอื่น มีการแจกน้ำดื่ม แล้วก็ขึ้นประจำที่บนเตียง ซึ่งแล้วแต่ดวงว่าอิเด็กรถจะเลือกให้คุณอยู่ชั้นบนหรือล่าง ถ้าอยู่ชั้นบนก็ปีนขึ้นระวังๆหน่อย อย่าไปเหยียบหัวอิคนข้างล่างล่ะ 55555

ตอนแรกก็กังวลว่าจะนอนได้ไหม แต่พอได้สัมผัสแล้วบอกเลยว่าสบายมาก คือเราสามารถเหยียดได้ทั้งตัว หรือใครไม่อยากนอนก็ปรับเอนเบาะได้ตามสะดวก มีผ้าห่ม(ที่ไม่รู้ว่าซักล่าสุดเมื่อไหร่)ให้บริการ พอถึงครึ่งทางก็มีพักรถให้ลงไปเข้าห้องน้ำล้างอ้วก (ล้างอ้วกจริงๆ เพราะบนรถที่เรานั่งมีคนเมารถอ้วกจริงๆ เสียงดังมาก โอ้กอ้ากขากถุย อื้อหือ ดีที่กลิ่นไม่สาหัส)
เวลาลงรถเขาก็มีรองเท้าแตะไว้บริการ เราไม่ต้องแกะห่อรองเท้าให้ยุ่งยาก
ความอเมซิ่งยังไม่จบเพราะบนรถมีWiFiฟรีให้เล่นด้วยจ้า ไม่ว่ารถจะขับขึ้นเขาลงห้วยลัดเลาะไปไหนต่อไหน สัญญาณก็ยังไม่หลุด อเมซิ่งมาก เห็นอย่างนี้แล้วอยากให้เจ๊เกียวและบริษัทรถทัวร์ในไทยมาดูงานซะจริงๆ

ส้วมเวียดนาม
ยินดีด้วยค่ะ เพราะห้องพักที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชักโครก มีที่ฉีดตูด แต่ อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะคุณจะได้เจอประสบการณ์แปลกใหม่จากส้วมบางแห่ง เพราะนางจะไม่มีน้ำให้ค่ะ!
ที่จุดพักรถนอกเมืองไกลๆ ทุรกันดาร จะมีห้องน้ำแบบนั่งยอง ซึ่งในห้องจะไม่มีน้ำ ไม่มีจริงๆ ไม่ได้หลอก คือมันเนียนเหมือนห้องน้ำปกติมาก มีประตู มีโถส้วม แต่ แต่ แต่เมื่อคุณเสร็จภารกิจแล้ว จะต้องสะดุ้งโหยงและกวาดสายตาหาว่าน้ำอยู่ไหนนนนน? 55555

ส้วมเวียดนาม

ก่อนที่คุณจะต้องเดินออกมาอย่างเหนียมอาย และมาพบว่าน้ำมันอยู่ในถังใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้าส้วมนั่นเอง! โดยมีถังสีวางข้างๆให้ตักหิ้วเข้าไปในห้องน้ำเอง ฮัลโหลลลล นวัตกรรมอะไรของเมิงงง นี่ก็แยกไม่ออกว่าเขายังสร้างส้วมไม่complete ยังวางท่อน้ำไม่เสร็จ หรือว่ามันเป็นสไตล์ของเขาหว่า? ดูแลตัวเองกันนะคะ นัดแนะเพื่อนที่ต่อแถวกันดีๆ ว่าอย่าเพิ่งจ๊ะเอ๋ไป ขอเราตักน้ำไปราดก่อน ไม่งั้นจะเจอของดี เห็นขี้ฝรั่งเหมือนเรา

ทะเลทรายAEC
ใครจะไปคาดคิดว่าภูมิภาคASEANของเราก็มีทะเลทราย! ถ้าอยากสัมผัสต้องนั่งรถไปที่เมืองมุยเน่ จากนั้นก็ซื้อทัวร์ มีรถจี๊ปขับพาเที่ยว พาไปเดิน Fairy Stream (Suoi Tien) อารมณ์เดินเล่นหิ้วรองเท้าบนทางน้ำขังตอนน้ำท่วมหลังบ้าน แต่ข้างๆจะมีวิวดินแดงโดนกัดเซาะเหมือนแพะเมืองผีบ้านเรา

Fairy Stream (Suoi Tien)
Fairy Stream (Suoi Tien)

จากนั้นจะพาไปดูหมู่บ้านชาวประมง และขับรถทางไกลไปดูไฮไลท์ของเรา นั่นคือทะเลทรายนั่นเอง ซึ่งจะมี2แห่งที่แรกคือ White Sand Dunes (Mui Ne, Vietnam) เลอค่าาาาาฟ้าจรดทรายมาก ประหนึ่ง วิ่งหยอกกับท่านชีคบนเนินทรายในอาหรับ ขาดแต่เพียงอูฐเท่านั้นแหละ ทรายขาวละเอียดกองเป็นภูเขาสุดลูกหูลูกตา แต่อย่าถามเรื่องอากาศเพราะแดดเปรี้ยง ร้อนมากเช่นกัน

หมู่บ้านชาวประมง มุยเน่ เวียดนาม
หมู่บ้านชาวประมง
ทะเลทราย เวียดนาม
White Sand Dunes (Mui Ne, Vietnam)

(ขอเตือนคนผิวบอบบางแพ้ง่าย ให้โบกครีมกันแดดให้ทั่วตัวนะคะไม่เฉพาะแค่หน้า เพราะแดด ที่นี่ความเข้มข้นสูงมาก สูงกว่าไทย เรากลับมาแล้วเป็นกระขึ้นเต็มหลังมือเหมือนคนแก่เลย ไปหาหมอ หมอบอกเป็นเอฟเฟ็คจากแดดทะเลทรายนี่แหละ

แต่ในจุดนี้ เราจะโพสต์ท่าเอ้อระเหยมากไม่ได้นะคะ เพราะอิคนขับรถจี๊ปมันจะเร่งเรา ให้เราอยู่ในที่สวยๆได้ไม่นาน มันจะพาเรามาปล่อยที่ทะเลทรายแดง Red Sand Dunes Mui Ne ซึ่งไม่สวยเท่าขาว ด้วยเหตุผลที่ว่าจะให้เราได้ดูดดื่มกับวิวพระอาทิตย์ตก (แต่ความจริงแล้ว มันอยากจะเสร็จงานไวๆต่างหาก)

Red Sand Dunes Mui Ne
Red Sand Dunes Mui Ne

ที่นี่ก็จะสไตล์บ้านๆมีคนหอบของมาขาย เด็กมาหลอกขายแผ่นเล่นสไลเดอร์ ทิ้งตัวจากเนินทราย มีคนให้เช่าเสื่อปูนั่งปิคนิคกินไข่ปิ้ง กินข้าวหลาม อารมณ์แบบบางแสนบ้านเรา ทรายตรงนี้ก็จะสกปรกกว่า ไม่หรูเท่าทะเลทรายขาว แต่เราก็จะได้วิวพระอาทิตย์ตก ซึ่งเมื่อหมดแดดแล้วอากาศจะเย็น สดชื่นขึ้นเยอะเลย

ชิลล์ๆที่ดาลัท
นี่ชอบชื่อเมืองนี้นะ รู้สึกว่าเพราะ รู้สึกเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน ช้าๆเนิบๆ ซึ่งบรรยากาศในเมืองนี้ก็ดูอ่อนหวาน บ้านตุ๊กตา สโลว์ไลฟ์สมชื่อจริงๆ ที่นี่เป็นเมืองตากอากาศยอดฮิต เป็นเมืองที่อากาศดีมาก อุณหภูมิตอนเช้านี่แค่สิบต้นๆ มีหมอกจางๆ ต้องใส่เสื้อกันหนาวกันเลยทีเดียว มีที่เที่ยวที่หลากหลาย ทั้งสวนดอกไม้ ไร่สตรอเบอร์รี่ น้ำตกโรลเลอร์โคสเตอร์ โบสถ์ บ้านประหลาด มีทะเลสาปกลางเมืองที่ขี่มอเตอร์ไซค์วนรอบแล้วจะเป็นลม เพราะกว้างมากกก มีที่พักสวยๆให้นักท่องเที่ยวเลือกเยอะแยะเลย เท่าที่สังเกตจะมีชาวต่างชาติมากันเยอะ การจราจรก็ไม่แออัดเท่าโฮจิมินห์ เหมาะสำหรับการมาพักชิลล์ๆไม่เร่งรีบ สูดอากาศดีๆ ฟอกปอดก่อนต้องกลับไปผจญภัยในเมืองใหญ่

ดาลัด เวียดนาม
ดาลัด เวียดนาม

เก็บตกเวียดนาม
-สื่อที่นี่ เช่น ช่องทีวียังไม่ทันสมัยเท่าไทย ละครยังดูโปรดักชั่นต้นทุนต่ำ MV เพลงยังดูตลกๆอยู่
-แต่อินเทอร์เน็ตที่นี่เร็ว แรงกว่าไทย แม้จะในเขตทุรกันดารก็ยังมีสัญญาณครอบคลุม
-เวียดนามยังไม่มีรถไฟฟ้าทั้งใต้ดิน บนดิน ได้ข่าวว่ามีแพลนจะสร้างเร็วๆนี้(มั้ง)เวียดนาม
-ผู้คนเดินทางส่วนใหญ่ด้วยมอเตอร์ไซค์ รถยนต์บ้างประปราย มีรถเมล์ แท็กซี่ และอูเบอร์ให้บริการ
-นอกเมืองของเวียดนามยังล้าหลัง เป็นดินแดง บางจุดมีขยะเต็ม2ข้างทางรีวิวเวียดนาม
-ห้องน้ำบางจุดจะถูกถอดฝาชักโครกออกทุกห้องเหลือแต่โถ
-ตามตลาด ตจว.มีการแขวนขายเนื้อสุนัข
-ผลไม้ที่นี่มีคล้ายๆไทย ทั้งน้อยหน่า มะม่วง แก้วมังกร สับปะรด เงาะ รสชาติใกล้เคียงกัน
-เบเกอรี่วางแบในตู้โชว์ บางอันก็วางบนกระดาษ ไม่มีถาดใดๆ ดูไม่ค่อยน่ากินอ่ะ

รีวิวเวียดนาม
-ชุดอ๋าวหญ่าย ชุดประจำชาติของชาวเวียดนาม ราคาไม่ใช่ถูก ขนาดไซส์ก็รองรับหุ่นชาวเวียดนาม ผอมๆเล็กๆ ใครอ้วนใส่ไม่ได้นะจ๊ะ

ชุดอ๋าวหญ่าย
ชุดอ๋าวหญ่าย

-ไปเวียดนาม แต่ก็ไม่ได้เจอแหนมเนืองขายตามร้านนะ คาดว่าคนไทยน่าจะมาประยุกต์กันเอง
– เบียร์เวียดนามถูกมาก ถูกยังกะน้ำเปล่า รสชาติมีตั้งแต่อ่อนๆกินนุ่มๆ ไปยันเข้ม แก้วเดียวก็ได้ความมึน

ส่งท้ายเวียดนาม
การมาเปิดประสบการณ์ที่เวียดนามครั้งนี้ ได้รู้ได้เห็นอะไรเยอะแยะเลย นั่งเครื่องบินจากไทยแค่ชั่วโมงกว่าๆ นาฬิกาก็ไม่ต้องปรับ เพราะเวลาตรงกับไทย วีซ่าก็ไม่ต้องทำ ใช้เงินก็ไม่เปลือง ทริปนี้รวมแล้วหมดแค่หลักพันเอง
หากอยากลองเที่ยวทะเลทรายในงบประหยัด ไม่ต้องเสียค่าเครื่องไปดูไบ ที่นี่ก็เป็นชอยส์ที่ดีเลยแหละ หรือหากใครชอบธรรมชาติภูเขา ป่า นาขั้นบันได สถาปัตยกรรมสวยๆ ก็ลองไปเวียดนามเหนือ จะได้อีกรสชาติที่แตกต่างไปอีก

รีวิวเวียดนาม

ขอฝากเวียดนาม อีกหนึ่งประเทศไว้ในอ้อมใจขาลุยชาวไทย เพราะเราคือ…อาเซียนร่วมใจ อาเซียนเรามาร่วมใจ (จับมือคล้องกันแบบผู้นำตอนประชุมอาเซียน) ขอดุ๋มได๋ด๋าวเพียงเท่านี้ สวัสดีจ้าาาา

-อาจุมม่า-