ร้านเด็ดสิงคโปร์ ฟินปูก้ามโต Chilli crab ที่ Jumbo Seafood

ไปเยือนสิงคโปร์ทั้งที จะพลาดของอร่อยได้อย่างไร! วันนี้ Thailandindy ขอพาไปชิมสุดยอดเมนูที่ต้องไปกินบนเกาะสิงคโปร์ เพราะนอกจากข้าวมันไก่แล้ว ก็ต้องลอง ปูผัดพริก หรือ Chilli crab ที่เป็นของเด็ดของดี ที่คนรักปูไม่ควรพลาด ว่าแล้วก็ไปชิมกันเลย!!

Jumbo Seafood @The Riverwalk

ที่ตั้ง: 20 Upper Circular Road #B1-48 The Riverwalk, Singapore 058416

เบอร์โทรศัพท์: +65 6534 3435

การเดินทาง: นั่ง MRT มาลงสถานี Clarke Quay ออก Exit The Central ร้านอยู่ริมแม่น้ำที่ Clark Quay

ขอแนะนำว่าต้องจองล่วงหน้าผ่านเว็บของร้านกันไปก่อนนะจ๊ะ ไม่งั้นไปแล้วอาจพลาดเพราะโต๊ะเต็ม โดยเฉพาะมื้อเย็น

ถึงแล้วววว Jumbo Seafood
หน้าร้านเป็นแบบนี้
ฮอตจริง ฮอตจัง ลูกค้าเต็มร้านเลย
วิวช่วงเย็นๆหลังเลิกงาน

ช่วงกลางคืน เต็มทุกโต๊ะ วิวริมแม่น้ำ บรรยากาศชิลล์ๆ

 

เมื่อได้โต๊ะแล้ว พนักงานก็จะเตรียมอุปกรณ์การกิน ผ้ากันเปื้อน และมาเล่นมายากล อ้าว ไม่ใช่ จะมีการนำผ้าแดงมาคลุมกระเป๋าให้เรา เพราะป้องกันการกระเด็นนั่นเอง เพราะการกินปูแบบนี้ต้องแกะกันเมามัน แล้วต้องกระเด็นถึงจะอร่อย

ผ้าแดงคลุมกระเป๋าแบรนด์เนมสำเพ็งของเรา ไม่ให้ปูกระเด็น

 

ผ้ากันเปื้อนลายปู ยิ่งลักษณ์ เอ๊ย ไม่ใช่ ปูก้ามโตใหญ๊ใหญ่ โลโก้ร้าน
จาน ชาม ตะเกียบ อุปกรณ์การโซ้ย พร้อมผ้าเย็น และน้ำล้างมือ

เตรียมตัวกันพร้อมแล้ว ก็มาชิมอาหารกันเลยดีกว่า เริ่มจากเบาๆ

ผัดผักโขม ก็ถือว่ารสชาติไม่เลว
เต้าหู้หน้าสาหร่าย จานนี้อร่อยสำหรับคนชอบเต้าหู้ น้ำเหมือนน้ำราดหน้า อร่อยเข้มข้น

มาถึงจานเด็ด ปูผัดพริก signature ของร้าน เนื้อปู แน่น กล้ามใหญ่ กรรเชียงแน่นมาก รสหวาน ชุ่มฉ่ำ สดมาก กัดไปตรงไหนก็เนื้อๆๆๆ น้ำซอสจริงๆอร่อยน่ะ กลมกล่อม เผ็ดนิดหน่อย จานนี้ 10 เต็ม 10
ก้ามใหญ่มากกกก

 

ฟินถึงก้ามสุดท้าย

เห็นรีวิวอย่างนี้แล้ว ถือว่าแค่เรียกน้ำย่อย บอกเลยใครไปสิงคโปร์ห้ามพลาด!

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก -คุณเต้บางแค-

แบ็คแพ็คเที่ยวสิงคโปร์ ราคาถูก

ชีวิตโดนเท…เลยเซไปสิงคโปร์ กับงบติดตัวหลักพัน

ประสบกาณ์เที่ยวเองครั้งแรก!! ที่สิงคโปร์!! เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเราเพิ่งเฮิร์ทผลพวงจากการเลิกกับแฟนค่ะ!!  ตอนนั้นคิดได้อย่างเดียวคือ อยากไปที่ไหนก็ได้!! … เลยเปิดเลยค่ะตอนนั้น หาตั๋วบินก่อน พอดีเห็นและว่ามีตั๋วลดราคา ช่วง เดือน ม.ค. ที่จะถึงพอดี นั่งไล่ดูไปที่ไหนบ้าง

ไหนๆลดทั้งที ราคาดีขนาดนี้ ออกนอกประเทศไปเลยค่ะ!! แต่จะไปไกลเกิน ยังไม่เคยแบคแพคก็ไม่กล้าไปไกลเกิ้นน ง้านนน!!! ใกล้และปลอดภัยกับชีวิตน่าจะเป็น สิงคโปร์!!

โลเคชั่นได้แล้ว หาเดอะเเก๊งค์ค่ะ ซึ่งทริปนี้ไปกัน 3 คน… กดจองตั๋วบินราคาถูกที่เราดูไว้ก่อนแล้วจาก Traveloka เหมือนเราผูกขาดเว็บนี้เลย เพราะได้ของมีคุณภาพเทียบไปมา ก็มาตกที่เว็บไซต์นี้ตลอด ไม่ได้อวยนะ แต่มันทุกครั้งเลย ครั้งนี้ก็ได้ของ Jetstar ไป-กลับ ในราคา 2,756 บาท ต่อ คน (รวมค่าโหลดกระเป๋าและค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต) ….ตั๋วมี!! เพื่อนเดินทางพร้อม เหลือแค่แพลนการเดินทางกับที่พักเท่านั้น ซึ่งทริปนี้เป็นทริปปุบปับ ถึงกับต้องทุบกระปุกมาเป็นพ็อคเก็ตมันนี่ จึงต้อง save cost กันนิดนึง

แบ็คแพ็คเที่ยวสิงคโปร์ ราคาถูก

เลยตามล่าหาอ่านรีวิวเที่ยวเองแบบถูก ซึ่งที่พักเคยอ่านตาม พันทิพ ว่าเค้าพัก hostel จะถูกกว่าโรงแรม เพราะเราวางแผนจะไป 4 วัน 3 คืนค่ะ ดังนั้นเราจึงไปหาเปรียบเทียบไปเรื่อยๆ จนไปได้ของที่ Traveloka อีกแล้ว!! ที่พักชื่อ Mercury Backpackers Hostel โลเคชั่นดี อยู่แถว Lavender MRT รีวิวเลิศ แถมราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์ด้วยราคา 1,565 บาท ต่อคน อะไรจะเป็นใจขนาดนี้คะซาร่า…กดจอง!! พร้อมจ่ายเลยค่ะ ซึ่งใครสนใจที่พัก Mercury Backpackers Hostel เหมือนกัน ก็ลองกดเข้าไปดูได้ที่ >> https://www.traveloka.com/th-th/hotel/singapore/mercury-backpackers-hostel-408797

ห้องพัก traveloka ราคาถูก
ที่พักที่เราไปก็จะเป็นเเบบในรูปนี้เลย  เราได้ห้องนึงนอนกัน 3 คน

หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย…เราก็แพลนการเดินของแต่ละวันกับเพื่อนๆ ว่าแต่จะสนุก ขาลากกันขนาดไหนก็เลตสะโกลุยกันเล้ยยย!!

Day 1  : Let’s go to Singapore

แก๊งชะนี 3 นาง เช็คอินกันพร้อมบินอย่างนกค่ะ!! โดยการเดินทางบนเครื่องใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ก็ถึงสิงคโปร์เมืองสิงโตพ่นน้ำกันแล้วจ้า เมื่อถึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางไปมาเลยค่ะ เพราะประเทศนี้การเดินทางเชื่อมต่อกันแถบจะทุกจุดดด ขอย้ำว่าแถบจะทุกจุดจริงๆ

แบ็คแพ็คเที่ยวสิงคโปร์ ราคาถูก

ว่าแล้วก็ว้าปขึ้น MRT ไปลง ที่ Lavender ดูแมพจากที่ปักหมุดมาก่อน อ้อ ลืมบอก อินเตอร์เน็ตเราซื้อมาจากบนเครื่องบิน ซึ่งเป็นแพคเก็จที่เค้านำเสนอขายบนเครื่องเลย ราคา 32$ แถมกาแฟค่ะ!! ขอบคุณ!!

ต่อๆ เราก็เดินตามแมพ งงๆนิดนึง แต่ก็มีอาตี๋หล่อเข้ามาช่วย คนที่นี่เค้าจิตใจดีเหมือนหน้าตาจริงๆนะคะ  >_<  เค้าก็ชี้โบ้ชี้เบ้ นู่นนี่ๆให้เราเดินไปจริงๆแล้ว ที่พักหาง่ายมาก ตรงออกจาก สถานีแล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ 3 นาทีก็ถึง แบบในรีวิวเค้าว่าไว้เลย คือมันสะดวกจริงๆอ่ะ ว่าแล้วก็เข้าไปเช็คอินที่ Mercury Backpackers Hostel เพื่อรับห้องกับเจ้าของ เจ้าของทักทาย “สวัสดีครับ”  อ้าวเฮ้ยย!! คนไทยเหรอ เราก็ใส่ภาษาไทยใส่เลย สรุปรู้แค่คำเดียว คือ “สวัสดีครับ” 5555 จบสนทนาเพียงเท่านี้ค่ะ เลยต้องฟุตฟิต อังกฤษใส่ไปแทน แล้วก็เอาของไปเก็บที่ห้องพักเพื่อเริ่มการผจญภัยกันอย่างจริงจัง

พร้อม Let’s go China Town จ้า สะดวกเช่นเคย เดินทางโดย MRT ลงสถานี China Town จุดประสงค์หลักของเราคือมาเดินซื้อ บัตรผ่านเข้า USS และ Garden by the bay ที่ตึก People’s Park Centre แต่หาตึกไม่เจอค่ะ!! แต่อีกแล้วค่ะ คนที่นี่น่ารักมากจริงๆ อาแปะขี่รถจักรยานสี่ล้อเล็กๆพร้อมเปิดเสียงเพลงแบบที่เปิดในวัดจีน นัมมอ ฮาไน ตัน นา.. ตอ ลา ยา.. เยยย  พอเห็นว่าเราเป็นนักเที่ยวเดินงงๆ เค้าขี่จักรยานน้อยเข้ามาถามว่าเราจะไปไหน พร้อมอาสาพาพวกเราไปส่งถึงตึกกันเลยทีเดียว!! เมื่อถึงตึก ก็เซี่ยเซี่ยอาแปะ!! แล้วอาแปะก็ขี่จากไปพร้อมเสียงเพลงเจ้าแม่กวนอิมดังก้องในหัว นัมมอ ฮาไน ตัน นา.. ตอ ลา ยา.. เยยย  55555 ว่าแล้วก็เข้าตึกมา ซึ่งตึกนี้อย่างกับรวมการขายทัวร์ประเทศเค้าโดยเฉพาะ เลือกได้เลยจ้า ถูกและคุ้ม แต่เราได้ของร้าน Sea Wheel Travel มา เพราะเค้าแถมค่าอาหารใน USS ให้ด้วย ก็เลยรีบคว้า

หมดห่วงได้ของครบ ก็ตะลุยเดินถ่ายรูปสวยๆกันเลยจ้าและแวะพักหาของกินแถวนั้น อาหารที่นี่จะเป็นแนวคล้ายๆอาหารจีนๆ ก็ดูรูปเอาค่ะ ชี้ๆ อั๊วเอานี่ๆ ได้ราเมงน้ำมาราคา 5$ รสชาติออกจัดๆนิดนึง แต่ซุปราเมงเค้ามันได้ใจมากค่ะ เส้นก็เหนียวนุ่ม คือโดยรวมก็ผ่านนะ

แบ็คแพ็คเที่ยวสิงคโปร์ ราคาถูก
อาหารที่สิงคโปร์

กินๆเสร็จอิ่มท้องก็พร้อมลุยตามแพลนไป วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic) กันต่อ ตอนเดินหาก็งงๆอยู่วัดอยู่ไหน!!? เดินถามทางเรื่อยๆค่ะ คนที่นี่เค้ายินดีช่วยเหลือจริงๆ จนหาทางมาจนได้ค่ะ วัดนี้เป็นเหมือนแลนด์มาร์คนึงของสิงคโปร์เช่นกันค่ะ เราก็เดินถ่ายรูปแล้วสักการะเที่ยวแบ็คแพ็ควัดพระเขี้ยวเเก้ว สิงคโปร์ ราคาถูก

เที่ยวแบ็คแพ็ควัดพระเขี้ยวเเก้ว สิงคโปร์ ราคาถูก

เดินไปมาก็จะค่ำและ ก็เดินเข้าตลาด china town กันละ คือแบบว่า คนเยอะมากกก อาหารก็เช่นกัน ละลานตา  ถ้ามาสิงคโปร์ china town คือแลนด์มาร์คที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ ทั้งแสงสี และของฝาก โดยเฉพาะหมูแผ่น เห็นคนต่อแถวเยอะมาก แต่เราคงสู้อาม่าไม่ไหว

เที่ยวแบ็คแพ็ค China Town สิงคโปร์ ราคาถูกเลยขอเดินเล่นซอยอื่น ซึ่งถ้าเดินทะลุไปมาก็จะคล้ายๆเยาวราช + สำเพ็งบ้านเราหน่อยๆ จึงขอเดินถ่ายรูปรอบๆดีกว่าเพราะบรรยากาศดีงาม เเละเรามาใกล้ช่วงจัดงานเทศกาลตรุษจีนพอดี เเล้วก็หาอาหารใส่ปากแบบที่เราถนัด เท่านี้ก็จบไปอีกวัน
เที่ยวแบ็คแพ็ค China Town สิงคโปร์ ราคาถูก

เที่ยวแบ็คแพ็ค China Town สิงคโปร์ ราคาถูก

เที่ยวแบ็คแพ็ค China Town สิงคโปร์ ราคาถูก
อาหารสิงคโปร์

Day 2 : USS makes me want to be a kid again!!

วันนี้สู้ตาย!! เดินทางกันไปตั้งแต่ 9 โมง ประตูสวนสนุกเปิด 10 โมงค่ะ แต่แนะนำไปก่อนเวลาจะดีมาก เพราะคนต่อแถวยาวเพื่อเข้าเหมือนกัน แต่ก่อนจะไปเข้าคิวก็ต้องถ่ายรูปเก๋ๆกับลูกโลก USS ซะหน่อย เหมือนแลนด์มาร์คถ้าใครไม่ถ่ายเหมือนมาไม่ถึงที่นี่นะจ๊ะ

เที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

เที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

มาถึงแนะนำว่าถ้าอยากเล่นเครื่องไหนให้รีบวิ่งไปต่อคิวด่วนเลยค่ะ เพราะคนจะเยอะแบบมากๆๆๆ ตอนแรกเราไม่รู้ก็เดินชิวไปสิ ถ่ายรูปเก๋ๆได้อี้กก เพิ่งเข้ามาคนโล่งไงเที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

เที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

พอตั้งใจจะไปเริ่มเล่นจริงๆก็งงเลยค่ะ คนมาจากไหนเยอะแยะ แถวยาวมาก เราเลยวิ่งไป Transformer ก่อนเลยเพราะดูมาก่อนแล้วว่าอยากเล่นมาก แล้วก็ต้องอึ้ง!! แถวแบบเยอะจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคุ้มการรอคอยทั้งวัน วันนั้นก็อยู่แต่ที่ USS และต่อแถวเล่นเครื่องเล่นวนไปค่ะ แค่มาถ่ายรูปก็คุ้มแล้ว แถมเครื่องเล่นยังมันส์หยดตึ๋งๆ

เที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

เที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว เราก็รอเวลาหัวค่ำเพื่อดูการแสดงจุดพลุไฟซึ่งเป็นไฮไลท์ของค่ำคืนที่นี่เลยค่ะ

เที่ยวแบ็คแพ็ค Universal Studios Singapore สิงคโปร์

 

Day3 : Let’s go to shopping …. go to The Singapore Botanic Gardens and Garden by the bay where are awesome places!!

วันนี้ตื่นเช้าค่ะไปนั่งทานอาหารแถวที่พัก  ว่าแล้วก็สั่งข้าวมันไก่ อาแปะ อาตี๋ที่ขายก็ทักทาย อัธยาศัยดี เค้าคิดว่าเราเป็นคนฟิลิปปินส์ ซึ่งมาที่นี่ก็โดนทักเป็นหลายประเทศมากค่ะ เว้นประเทศตัวเอง 55555 ส่วนมาที่นี่ก็กินข้าวมันไก่ไปหลายจานแล้ว แต่ละร้านก็ต่างกันออกไป ส่วนใหญ่จะเป็นตัวข้าวที่ต่าง ข้าวจะแข็งไปหน่อยสำหรับเรา ครั้งนี้เลยเปลี่ยนจากข้าวมาเป็นเส้นๆเเทน เส้นอันนี้ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไร เเต่เหนียวนุ่มดีมากๆเลยล่ะ สั่งเต้าหู้ใส่เพิ่มเข้าไปอีก เข้ากันมากๆ

แบ็คแพ็คเที่ยวสิงคโปร์ ราคาถูก
อาหารสิงคโปร์

หลังจากท้องอิ่มเราก็ MRT ไปลงสถานี Botanic Gardens เดินขึ้นมาก็จะเจอ The Singapore Botanic Gardens กันเลยค่ะ เป็นจุดผ่านถ่ายรูปสวยๆ

แบ็คแพ็คเที่ยว botanic garden สิงคโปร์ ราคาถูก

แบ็คแพ็คเที่ยว botanic garden สิงคโปร์ ราคาถูก

แบ็คแพ็คเที่ยว botanic garden สิงคโปร์ ราคาถูก

เราเดินทะลุ The Singapore Botanic Gardens ออกไปด้านหลังเพื่อหารถโดยสารไปยังย่าน orchard ซึ่งถ้าเทียบกับไทยก็เป็นสยามนั่นแหละ มีห้างตลอดย่านนั้นเลยค่ะ ของแถวนั้นก็ไม่ได้ถูกสักเท่าไหร่เลย เราเลยนั่งรถโดยสารไปต่อยังย่าน Little India เป็นชุมชนคนแขกค่ะ แค่ก้าวขาลงไปนี่สัมผัสไปถึงกลิ่นเครื่องเทศจริงๆ สมเป็นย่านคนแขกเลย ว่าแล้วเราเสาะหาตึก “มุสตาฟา” พอดีเพื่อนที่ไทยแนะนำมาว่าของที่นี้ถูก เราก็เลยกวาดน้ำหอมไป ซึ่งถูกกว่าไทยเยอะมากๆ

เที่ยวแบ็คแพ็ค ช็อปปิ้ง สิงคโปร์ ราคาถูก

พอซื้อหนำใจเราก็เดินทางต่อค่ะ ไปยัง Garden by the bay ด้วย MRT ลงที่ Bayfront  ถึงเลย

ในที่สุด!!! Garden by the bay ก็อยู่ตรงหน้าแล้วค่ะ เข้าไปข้างในนี่มีอึ้ง!! เหมือนในฝันอ่ะ ดอกไม้เต็มไปหมดเลย คือเป็นสวนดอกไม้นานาพันธุ์ที่ถูกดูแลอย่างดีในห้องเย็นที่ควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งแบ่งเป็น 2 โซน  โซนแรกก็จะเป็น พื้นที่เปิดกว้างให้เดินดูดอกไม้นานาพันธุ์ไปเรื่อยๆ

แบ็คแพ็คเที่ยว Garden by the bay สิงคโปร์ ราคาถูก

แบ็คแพ็คเที่ยว Garden by the bay สิงคโปร์ ราคาถูก

โซนที่สองจะว้าวหน่อย เป็นโดมกระจกค่ะ เป็นพื้นที่ควบคุมแสงและอุณหภูมิ โซนนี้จะหนาวกว่าโซนแรก เพราะมีผาน้ำตกสวยมากกกกก ทางเดินก็จะเป็นเดินไต่ระดับขึ้นไปสูงเรื่อยๆจนด้านบนของโดมเลย ซึ่งสวยมากๆๆๆเช่นกัน…. ไม่ต้องอธิบายมากดูภาพแล้วจะเข้าใจเลยค่ะ

แบ็คแพ็คเที่ยว Garden by the bay สิงคโปร์ ราคาถูก

แบ็คแพ็คเที่ยว Garden by the bay สิงคโปร์ ราคาถูก

แต่ถ้าเดินออกมาด้านนอกของ Garden by the bay ตรงทางออก จะเป็นทางเดินไป Marina Bay Sands ได้เลย เพราะทางอยู่ต่อกัน แต่ก่อนถึง Marina Bay Sands  จะเจอสะพาน Helix แน่นอนค่ะ ต้องถ่ายรูปชิคๆสักหน่อย เป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คเช่นกัน แต่ถ้าให้สวยมาช่วงใกล้คำ่ เพราะละแวกนั้นจะเปิดไฟรวมถึงสะพานด้วย

แบ็คแพ็คเที่ยว Marina Bay Sands สิงคโปร์ ราคาถูก
Helix Bridge

ตอนนั้นรับรองจะได้ภาพสวยเก๋ๆกลับไปแน่นอนจ้า พอถ่ายภาพหนำใจแล้วเราก็เดินต่อไปเลียบทางแม่น้ำไปเรื่อยๆก็จะเจอที่จัดแสดง Marina Bay Sands และฝูงชนนั่งรอกันเพื่อรับชม  ซึ่งจะเป็นการแสดงโชว์แสงสีบนน้ำเล่าเรื่องราวของคนสิงคโปร์ พร้อมวิวเป็นฉากหลังตระการตากันเลยทีเดียวค่ะ โดยการแสดงนี้จะมีเวลาเริ่มการแสดงเป็นรอบๆต้องเช็คเวลากันให้ดีน้า รอบที่เราไปเป็นช่วง 2 ทุ่ม รอบสุดท้ายพอดี แต่ถ้าไปดูแนะนำไปก่อนเวลาเพื่อสะดวกต่อการจับจองที่นั่งและมุมดีๆ เพราะคนก็เยอะพอสมควรเลยล่ะ


แบ็คแพ็คเที่ยว Marina Bay Sands สิงคโปร์ ราคาถูก

 

Day 4 : Time to say goodbye Singapore

วันนี้ตื่นแต่ตี 3 เพื่อเตรียมตัวไปยังสนามบิน เป็นครั้งแรกที่เรามีโอกาสได้นั่งแท็กซี่ของที่นี่ ก็สำรวจดูที่คอนโซลหน้ารถเค้าจะมีเหมือนเป็นระบบตัดบัตรเครดิตอะไรประมาณนั้น ซึ่งรวมทั้งบัตร EZ Link ก็สามารถใช้จ่ายค่าโดยสารได้ แต่กรณีของพวกเราคือ!! ไปนั่งนับเหรียญกันจ่าย ซึ่งเค้าก็รับชำระเช่นเดียวกันค่ะ

“จะบอกว่าการเดินทางและการชำระค่าโดยสารที่นี่สะดวกมากจะจ่ายแบบ เงินสด เครดิต หรือผ่านบัตร EZ Link ก็ได้หมดค่ะ “

ว่าแล้วเราก็ไปรอเวลาไฟลท์บินกันค่ะ แต่ระหว่างนั้นก็ช็อปปิ้งไปเพลินใน Duty Free ที่สนามบินไปค่ะ เค้าว่ามาที่นี่ต้องฟาดกระเป๋า Charles and Keith ค่ะ เราก็จัดไปสองใบ ซึ่งราคาก็ถูกกว่าไทยนะ และที่สำคัญ!! ดีไซน์ไม่เข้าในไทยด้วยจ้า ถือเป็นสินค้า High End จริงๆเลย คิดถูกและตาดี ว่าแล้วทริปเทใจของเราก็จบแค่นี้  ไว้โอกาสหน้าได้กลับไปเยือนอีกครั้งจะมารีวิวเพิ่มเติมให้นะจ๊ะ เพราะยังเที่ยวไม่ครบเลย!! ใครว่าสิงคโปร์ไม่มีอะไร….นี่ไปสามวันยังไปแลนด์มาร์คสำคัญๆอย่าง Merlion , Esplanade , Clark quay ,  Fountain of Wealth @Suntec ยังไม่เก็บแต้มไม่ครบเลย ต้องกลับไปแน่ๆ พร้อมกับใจที่ไม่โดนเทแล้วครั้งนี้ สัญญา!!

 

การเดินทาง

เราแนะนำให้ใช้ บัตร EZ Link (Easy link) เลยค่ะเพราะบัตรเดียวใช้ได้กับทุกเครือบนประเทศนี้ค่ะ!! ตั้งแต่ ร้านค้า , รฟฟ , รถโดยสาร , แท็กซี่ บ้านเค้าพัฒนาแล้วค่ะ และจะช่วย Save Cost ได้เยอะมากกกกก ราคาบัตร $12 จ้า เหมือนบัตร BTS บ้านเราแบบเติมเงินใช้เติมเงินไปเรื่อยๆ ซึ่งถูกกว่าการซื้อเป็นรอบๆ เพราะว่าตอนแรก

เราไม่รู้พลาดไปซื้อเป็นบัตร Standard Ticket ซึ่งจะเหมือนบัตร BTS บ้านเราที่จ่ายขาเดียว แต่บ้านเค้าต่างตรง บัตรนี้ใช้ได้ 6 ครั้ง ซึ่งทุกเที่ยวการซื้อที่ 1 3 6 จะมีการ discount ให้ 0.1$ค่ะ หลังจากครบ 6 เที่ยว บัตรก็ Deactivate ตัวมันเองไม่ให้ใช้ต่อแล้ว เก็บเป็นฉลากต่างหน้าไป แต่ถ้าเดินทางไปไหนตลอด ราคาแพงกว่าด้วยเมื่อมาเทียบกันแล้ว

Internet

อินเตอร์เน็ตจำเป็นมากค่ะ เพราะ WiFi ที่นั่นยังไม่ค่อยเปิดให้ใช้ในพื้นที่ทั่วไป ต้องไปเกาะตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งก็ต้องเสี่ยงดวงเอา แต่แนะนำซื้อเถอะ!! เราซื้อมาจากบนเครื่องบิน ซึ่งเป็นแพคเก็จที่เค้านำเสนอขายบนเครื่องเลย ราคา 32$ แถมกาแฟค่ะ

แต่ถ้าเดินหาซื้อซิมในตัวเมืองแล้วมาเปิดใช้ก็ได้นะคะ

อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารเริ่มต้นเฉลี่ยจานละ 5$

เครื่องดื่มแนะนำให้บริโภคน้ำเปล่าค่ะแล้วเติมเอา ราคาเริ่มที่ 1$

บัตรเข้า USS และ GBB

Universal Studio Singapore (USS) 62$(ประมาณ 1,488 บาท) เราซื้อพร้อมคูปองอาหารราคาพิเศษ ซื้อ 15$ ใช้ได้ 20$ / Garden by the bay(GBB) 19$ (ประมาณ 456 บาท)

สรุปงบประมาณ

  • ค่าเดินทาง ส่วนมากจะหมดไปกับค่า MRT หากไม่ใช้ EZ Link เพราะเราใช้เเบบเติมเที่ยว ส่วนเพื่อนใช้  EZ Link ดังนั้นจะเห็นส่วนต่างกันมาก เป็นเท่าตัว
  • ค่าใช้จ่ายหลัก (เเยกคน) ค่าเครื่อง + ค่าที่พัก  + บัตรเข้า USS/GBB
  • ค่า Internet + taxi เเชร์กันออกประหยัดขึ้นเยอะ
  • ค่ากิน เรา save cost กินขั้นตำ่ที่ 5$ – 7$ ได้ของกินดีอยู่ อิ่มท้องด้วย (ประมาณ 1,200 บาท)
  • น้ำซื้อขวดใหญ่ 1$ เติมเเบ่งใส่ขวดพกระหว่างวันเอา
  • พ็อคเก็ตมันนี่ เราติดตัวไป 8,000 บาทไทย ยังเหลือใช้เลยขนาดใช้ซื้อนำ้หอมเเละช็อปปิ้งด้วย
เที่ยวสิงคโปร์

สิงคโปร์หลักพัน 4 วัน 3 คืน แผนการเงินและแผนการเที่ยว

จะไปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยเงินหลักพัน ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่พลาดจุดหมายสำคัญอย่าง Universal studio Singapore(USS) แถมเก็บครบ จบในทริปเดียว เพียงแค่วางแผนให้ดีแค่นี้ก็เหลือเงินช็อปและเที่ยวได้สบาย

การวางแผนถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ไม่ใช่แค่การวางแผนสถานที่ที่เราจะไปหรือวิธีการเดินทาง แต่การท่องเที่ยวในแต่ละครั้งแน่นอนว่าปัจจัยหลักที่เราควรมีนั่นก็คือเงินนั่นเอง การจะเที่ยวอย่างสบายใจและสบายกระเป๋าต้องเกิดจากการวางแผนที่ดีด้วย

วันนี้มีเทคนิคเล็กน้อยจากการเดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์ ที่จะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การกิน และที่พัก

เริ่มจากการวางแผนการเงิน

  1. ตั๋วเครื่องบิน
    หาตั๋วเครื่องบินราคาถูก อันนี้สำคัญมาก ถ้าได้ตั๋วเครื่องบินราคาถูก เราจะสามารถประหยัดไปได้เยอะมาก เดี๋ยวนี้มีโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินราคาถูกมากมายมาเสนอจูงใจนักเดินทางอย่างเรา
    สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เราเจอตั๋วราคาถูกที่ Traveloka ตามไปเช็คได้ที่นี่ https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Singapore.SIN/1
    เนื่องจากการเดินทางไปสิงคโปร์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่นานนัก เราจึงเลือกสายการบิน low cost อย่าง Jetstar ได้ตั๋วไป-กลับ ในราคา 2,756 (รวมค่าโหลดกระเป๋า) บริการดี ห้องโดยสารสะอาดTraveloka Singapore
  2. ที่พัก
    สำหรับการเลือกที่พักก็สำคัญไม่แพ้ค่าเครื่องเช่นกัน ซึ่งถ้าเราได้ที่พักราคาถูกก็จะช่วยประหยัดลงไปได้เยอะมากเช่นกัน สำหรับที่พักเอาไว้นอนพอ เพราะเราตั้งใจไปเที่ยว ไม่ได้ไปนอน ทริปนี้ไปกัน 3 คน เลยเลือกที่พักในรูปแบบ Hostel เพราะถูกกว่าโรงแรม เจอที่พักราคาถูกในเว็บ Traveloka ในราคา 1,566 บาท 3 คืน ต่อคน จองได้ที่นี่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/singapore/region/singapore-107493
  3. สถานที่ที่จะไป ที่ต้องซื้อบัตรเข้า
    เราต้องรู้ว่าสถานที่ที่เราจะไปนั้นต้องเสียค่าเข้าหรือไม่
    อย่างของเรา จุดประสงค์หลักของการมาเที่ยวสิงคโปร์ครั้งนี้คือ Universal Studio Singapore (USS) และอีกสถานที่ที่อยากไปคือ Garden by the bay(GBB) ซึ่งต้องมีค่าบัตรในการเข้า ซึ่งเราก็ต้องหาข้อมูลว่าสามารถซื้อบัตรที่ไหนได้บ้างแล้วที่ไหนราคาถูกที่สุด จากการค้นหาทั้งใน Internet และเพื่อนที่เคยไปมาแล้ว ก็พบว่าที่ Sea Wheel Travel ได้ราคาดีสุดละ
    Universal Studio Singapore (USS) 62$(ประมาณ 1,488 บาท) เราซื้อพร้อมคูปองอาหารราคาพิเศษ ซื้อ 15$ ใช้ได้ 20$
    Garden by the bay(GBB) 19$ (ประมาณ 456 บาท)

    ***ทริคเล็กๆ ราคาอาหารที่ USS เริ่มต้นที่ 11$ ซึ่งอาหารเป็นเซ็ต อิ่มแน่นอน คูปองอาหารที่เราซื้อไปไม่สามารถทอนเป็นเงินได้นะและแลกคืนไม่ได้ด้วย จึงอยากแนะนำว่า ถ้าไป 2 คนก็ซื้อ ซื้อ 15$ (ใช้ได้ 20$ ) แล้วที่เกินก็ใช้เงินสดเอาดีกว่า

    ข้อมูล Sea Wheel Travel
    ตั้งอยู่ที่ People’s Park Centre ชั้น 3 ล็อกที่ #03-61
    Website : http://www.seawheel.com.sg/
    Facebook : www.facebook.com/SeaWheelTravel
    เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ 9.00 – 20.00 น., เสาร์ – อาทิตย์ 9.00 – 18.00 น.
    เบอร์โทร : (65) 6538 5557

  4. การเดินทางในสิงคโปร์
    บัตรรถไฟฟ้ามี 2 แบบ หลักๆที่เหมาะกับนักท่องเที่ยว
    – บัตร EZ Link (Easy link) : ใช้ได้สารพัดประโยชน์ ร้านค้า, รถไฟฟ้า, รถเมล์, แท็กซี่ ราคาบัตร 12$ ใช้ได้ 7$ อีก 5$ เป็นค่าบัตร เติมเงินตามจุดให้บริการ ขั้นต่ำ 10$ เหมาะสำหรับการอยู่หลายวัน เดินทางบ่อย เราก็ไม่เข้าใจการคำนวณการเดินทางเท่าไหร่ แต่จากการเปรียบเทียบ ค่าเดินทางจากเพื่อนที่ใช้บัตรนี้ คือใช้ไปค่าเดินทางยิ่งถูกลงกว่าบัตรอีกแบบ ไม่สามารถคืนบัตรได้ บัตรมีอายุ 5ปี
    – บัตร Standard Ticket : ใช้ได้กับรถไฟฟ้า เป็นบัตรเที่ยวต่อเที่ยว โดย 1 บัตร ใช้ได้ 6 ครั้ง ทุก 1,3,6 เที่ยว จะลด 10cen สามารถเติมเงินเข้าไปได้ สำหรับการไป 4วัน และเดินทางประมาณเราจะเหมาะกับแบบนี้มากกว่า
    ราคารถไฟฟ้า เริ่มต้นที่ 0.90$ ถึง SGD 1.80$ นั่นหมายความว่าเที่ยวแรกสมมติค่ารถ 1$ เราได้รับส่วนลด 10cen จะเหลือค่ารถครั้งนี้ 0.9$ ส่วนครั้งที่ 2 ก็จ่ายราคาเต็ม แต่ครั้งที่ 3 จะได้ลดอีก 10cen
  5. Sim card สำหรับ Internet
    สิงคโปร์ไม่มี Internet ฟรีเท่าไหร่นัก เพราะฉะนั้นการมีซิมสำหรับใช้อินเทอร์เน็ตถือว่าจำเป็นมาก เผื่อหลงทาง
    เราซื้อซิมบนเครื่องเลย ได้แถมกาแฟ 1 แก้ว 555
    ราคาซิม 32$(ประมาณ 768 บาท หาร 3 นะ) ไปกัน 3 คนก็แชร์เนตกันอ่ะ ประหยัดได้อีก

แผนการเที่ยว

วันที่ 1
เดินทางถึงสิงคโปร์ ประมาณเกือบบ่ายโมง
เราเดินทางด้วย MRT จากสนามบินถึงที่พักประมาณบ่ายโมงกว่าๆ เราพักที่  Mercury Backpackers Hostel ที่เลือกที่นี่เพราะไม่ไกลจากสถานี MRT เดินทางสะดวก
หลังจากเช็คอินเสร็จเก็บข้าวของ ออกไปหาอะไรกิน เนื่องจากที่พักอยู่ใกล้ MRT สถานี Lavender ตรงนี้มีศูนย์อาหารรวมถึงห้างร้านค้าเยอะมาก สะดวกทั้งการเดินทางและอาหารการกิน รู้สึกโชคดี 🙂 บางวันก็กลับมากินข้าวแถวที่พักก่อนเข้าที่พักทุกครั้งเลย เพราะมีอาหารให้เลือกหลากหลายมากแถมราคาถูกด้วย
China Town
จากนั้นเดินทางไปซื้อตั๋ว USS และ Garden by the bay ที่ China Town ซึ่งสามารถเดินทางด้วย MRT ลงสถานี Chinatown ได้เลย
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จก็มาเดิน China Town ต่อ
วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic)

วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic)
วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic)

ตรงนี้มีวัดที่เป็น Landmark ที่หลายๆคนมา คือวัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic) ที่นี่เป็นวัดจีน และจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ด้วย

China Town

Chaina Town singapore
China Town

บรรยากาศที่นี่ดูจะคึกคักที่สุดละ หนาแน่นไปด้วยผู้คน หลากหลายเชื้อชาติ มีร้านอาหาร ร้านขายของฝากเยอะมากๆ ระหว่างเดินจะมีหลายๆร้านให้ชิมอาหาร ขนมฟรี นี่ชิมจนอิ่มเลย 555
มีของสารพัดอย่าง ตั้งแต่เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกิน และของฝากของที่ระลึก ใครหาของฝากมาที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการหาซื้อของฝาก

วันที่ 2
เดินทางไป USS อยู่นี่ทั้งวัน ไปกันตั้งแต่ 9 โมงเช้า รอประตูเปิด ตอน 10 โมง

Universal Studio Singapore (USS)
Universal Studio Singapore

การแสดง stuntman ดีงาม อลังการมาก

Universal Studio Singapore (USS) – ประทับใจของเล่นในโซน Transformers รอคิวนานมาก แต่คุ้มค่ามากๆ
– ตอนเย็นก่อนสวนสนุกปิด มีจุดพลุปิดสวนสนุก บริเวณ Hollywood Street (มุมฝั่งรูปปั้นดีที่สุด ฝั่งเดียวกับถนน หันหน้าเข้าหาน้ำ)

วันที่ 3
Singapore botanic garden

Singapore botanic garden
Singapore botanic garden

ตอนเช้าไป Singapore botanic garden สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่มาก มีต้นไม้น้อยใหญ่ตกแต่งได้สวยงาม แนะนำว่าไปเช้าๆจะสดชื่นมากๆ แต่ที่นี่อากาศก็ไม่ร้อนนะคะ เพราะต้นไม้ใบหญ้า ร่มรื่นตลอดทาง ชอบที่นี่มาก ถ้ามีเวลาก็อยากจะอยู่ทั้งวัน
ตามไปดูรีวิวและภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่จ้า https://goo.gl/4WWLfg
Garden by the bay

Garden by the bay
Garden by the bay

สถานที่จัดแสดงพืชพันธุ์นานาชนิด จากทั่วทุกมุมของโลกก็ว่าได้ อยู่ในโดมขนาดใหญ่โตมโหฬาร อลังการ โดยที่เราไปจะมีสองส่วน
สวนแรกเป็นไม้ดอกมี 2 ชั้น

Garden by the bay สิงคโปร์
Garden by the bay

อีกโซนเรียกว่า OCBC Skyway อันนี้มีหลายชั้นมากต้องอาศัยลิฟต์ในการขึ้นไป ใหญ่โตอลังการ พืชพันธุ์อยู่ในโดมที่มีการควบคุมอุณภูมิและแสง
Marina Bay Sands

Marina Bay Sands สิงคโปร์
Marina Bay Sands

Marina Bay Sands สิงคโปร์
ไปดูโชว์แสงสีไฟ กลางอ่าว Marina ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Garden by the bay สามารถเดินไปได้ ตรงนี้มีจุดน่าถ่ายรูปหลายจุด มีจุดที่เราพลาดคือ Merlion เสียดายเหมือนกัน เพราะถือเป็น Landmark ใครไม่มาถ่ายตรงนี้แปลว่ามายังไม่ถึงสิงคโปร์นะจ๊ะ แบบนี้แปลว่าเราต้องไปแก้ตัวใช่มั้ย อิอิ
ปล.เช็ครอบการแสดงด้วยนะ เราไปรอบสุดท้ายเลย คือ 2ทุ่ม

วันที่ 4

เดินทางกลับ
มาช็อปที่สนามบิน ปล.สาวๆคนไหนเป็นชอบแบรนด์ charles and keith รับรองถูกใจแน่ๆ เพราะเราเช็คมาแล้ว
Shop ที่สนามบินถูกว่า Shop ในไทย 2เท่าเลยนะ”
จบทริปสิงคโปร์เที่ยวงายสบายใจ ตังไม่รั่วไหลถ้าวางแผนดี

สรุปเพิ่มเติม

  • อาหาร+น้ำ มื้อละประมาณ 4$-10$ (4วัน 3คืน ประมาณ 1,500 บาท)
  • พกเพื่อนไปด้วย ไปช่วยกันแชร์
  • อินเตอร์เน็ตฟรีไม่ค่อยมี
  • ความรู้สึกส่วนตัว ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่าน ทั้งผู้คนและรถรา ดูเป็นเมืองเงียบๆ ยกเว้นบริเวณ China town และตามสถานที่ท่องเที่ยว คนจะเยอะเป็นพิเศษ และมีต่างชาติค่อนข้างเยอะ
  • พกแบตไปเยอะๆจะได้ไม่พลาดโอกาสเก็บภาพสวยๆ
  • ใช้เงินไปทั้งสิ้นประมาณ 8,000 บาท (ไม่รวมค่าช็อปปิ้ง 😉 )