[Dudes Next Door]ญี่ปุ่น คันไซ อุ่นไอรัก : ดอกไม้ผลิบานที่โกเบ #kobe01

Thailand Indy สวัสดีต่างแดน : DUDES NEXT DOOR

ตอน ญี่ปุ่น คันไซ อุ่นไอรัก : ดอกไม้ผลิบานที่โกเบ #kobe01

kobe-nunobiki-herb03

ตะวันบ่ายคล้อย แสงแดดอ่อนๆรำไรลอดไม้ไผ่มากระทบที่ดวงตา โอโต้ซังกำลังเปิดแผนที่เมืองใกล้กับที่เราอยู่ในตอนนี้ โอโต้ซังเล่าว่าเมืองนี้จากที่นี่คงเดินทางไปไม่ไกล เราจึงเริ่มวางแผนเรื่องราวของวันพรุ่งนี้กัน

แม้ว่าเกียวโตจะเป็นที่แรกที่เราได้ทำความรู้จัก (หลายครั้งหลายคราแล้วก็ตาม) แต่ครั้งนี้อยากจะเริ่มทักทายกับอีกเมืองน่ารักของดินแดนอาทิตย์อุทัยก่อน เชื่อว่าหลายคนคงเคยแวะมาลองลิ้มชิมรสเนื้อยากินิขุขึ้นชื่อของที่นี่บ้างแล้ว แต่ด้วยความที่เราไม่กินเนื้อวัว ประเด็นนี้จึงพับไป ถึงอย่างไร “โกเบ” แห่งนี้ ก็ไม่ได้สวยงามน้อยลงเลย

ใช่แล้ว…วันนี้จะพาไปเที่ยวโกเบกัน

kobe-nunobiki-herb08

เมืองโกเบเป็นเมืองญี่ปุ่น แต่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเป็นตะวันตก เพราะหากย้อนอดีตไปแล้ว ยามที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศเพื่อเริ่มทำการค้าขายกับตะวันตก ท่าเรือโกเบเป็นท่าเรือสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่เหมือนเป็นศูนย์รวมแหล่งการค้านานาชาติ หลังจากนั้นก็มีชาวต่างชาติเริ่มเข้ามาอาศัยอยู่ที่เมืองโกเบ

kobe-nunobiki-herb27

โกเบนั้นขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวัว หลายคนมักจะอยากไปอิ่มอร่อยกับรสชาติอันนุ่มลิ้นที่ขึ้นชื่อของที่นี่ แต่ครั้งนี้อย่างที่บอกด้วยความที่เราไม่ทานเนื้อวัวเลยอดพาไปรีวิว ขออภัยท่านผู้อ่านมา ณ ที่นี้ แต่ไม่ต้องเสียดายไป ครั้งนี้เราจะพาท่านไปอิ่มอร่อยกับอีกหนึ่งสุดยอดเมนูของโกเบ ที่อยากจะแนะนำให้ไปลองในตอนถัดไปเราจะแนะนำให้ท่านได้รู้จักกับสิ่งนั้น!

kobe-nunobiki-herb17

kobe-nunobiki-herb02

เริ่มต้นเดินทางมาที่แรกที่ Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway แปลเป็นไทย(ด้วยตนเอง)เล่นๆว่า สวนสมุนไพรนุโนบิขิ และกระเช้าลอยฟ้าแห่งโกเบ ถ้าหากขึ้นไปที่นี่ในช่วงหน้าซากุระก็จะเป็นซากุระบานสะพรั่งเลยทีเดียว ดอกไม้ผลิผลัดตามฤดูกาลที่ผันผ่าน แต่ไม่ว่าเช่นไรที่นี่ดูเหมือนถูกวางแผนมาเป็นอย่างดีในการจัดแสดงความสวยงามตามธรรมชาติ แย้มบานยิ้มหวานให้กับผู้คนที่มาเที่ยวได้เชยชมกับดอกไม้นานาพรรณในแต่ละช่วงของปีอยู่แล้ว  แม้บางพื้นที่ บุษบาเหล่านั้นจะยังไม่บานสะพรั่ง แต่ด้วยอากาศหนาวนิดๆ และบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาทำให้ที่นี่ดูโรแมนติกจับใจทีเดียว

kobe-nunobiki-herb14

kobe-nunobiki-herb04

kobe-nunobiki-herb10

kobe-nunobiki-herb25

การวางพื้นที่ของที่นี่ดูลำดับสัดส่วนได้กำลังดีนัก เมื่อนักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปชมวิวบนยอดสูงแล้ว เราอาจจะสามารถแวะทานร้านอาหารที่ View Rest House ด้านบน ที่หน้าต่างเป็นกระจก และเห็นวิวทิวทัศน์งดงามของบ้านเมืองเขาได้ หรือจะเดินลงมาอีกนิดหนึ่งเพื่อที่จะมาจิบชาในเรือนกระจก ซึ่งส่วนนี้ก็มีอาหารขายเล็กน้อย แต่เน้นที่ชาสมุนไพรมากกว่า แล้วนอกจากนั้นเดินผ่านเรือนกระจกเข้ามาอีกนิดยังมีพื้นที่ให้ออนเซ็นเท้า ท่ามกลางกลิ่นหอมของพฤกษานานาพรรณที่มนุษย์ได้สร้างสรรค์พร้อมกับธรรมชาติที่แสนสวยให้เราได้พักผ่อน และหย่อนลมหายใจ

kobe-nunobiki-herb26

หากใครอยากไปเพลิดเพลิน เจริญธรรมชาติแล้วที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากจะแนะนำ ถ้าให้อธิบายก็คล้ายกับเมืองเหนือของบ้านเรา ดอกไม้ของบ้านเราบางพื้นที่อาจจะสวยกว่า แต่ชอบฟังก์ชั่นต่างๆของที่นี่ มีทั้งร้านอาหารดูวิวริมยอดเขา กระเช้าลอยฟ้า ไอติมลาเวนเดอร์ หรือแม้กระทั่งฮอลล์จัดแสดงคอนเสิร์ตเขาก็มีให้นะเออ

kobe-nunobiki-herb15

kobe-nunobiki-herb21

พอเราเดินทางด้วยลมพัดเย็นนิดๆ โชคดีที่ฝนไม่ตก (ใจเต้นๆต่อมๆอยู่รอมร่อ) แต่สุดท้ายฟ้าฝนก็เป็นใจ อากาศกำลังเย็นสบายทำให้เราเดินชิวกันเพลิน ดอกไม้ริมสองข้างทางดูสวยดี ที่นี่เขาจะจัดดอกไม้ตามฤดูกาลค่ะ คือจริงๆแล้วก็ปลูกไว้หมดแหละ แต่ดอกไม้ก็จะบานตามฤดูของเค้าเอง อย่างเราไปเจอปลายๆซากุระ ก็ยังมีสองสามต้นที่มีดอกบานให้เห็น ถ้าถามว่าจริงๆสวยขนาดนั้นมั้ย เอาไว้ถ่ายรูปลงบนเฟซบุ๊คก็ยังพอไหว แต่ถ้าจะให้ตราตรึงใจคงจะต้องมาเร็วกว่านี้สักสองอาทิตย์​น่าจะบานสะพรั่งให้ได้ยลกันเลยทีเดียว สำหรับตารางการบานของดอกไม้ก็ตามรูปด้านล่างนี้เลยจ่ะ ซึ่งหากดูตามฤดูกาลแล้ว เชื่อได้เลยว่าฤดูอากิ หรือ ฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีน่าจะสวยไม่แพ้ที่ไหน

herb-calenderCredits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

kobe-nunobiki-herb11

kobe-nunobiki-herb12

kobe-nunobiki-herb09

ที่นี่แบ่ง Facilities เป็นหลายส่่วน เดี๋ยวเราจะแอบยกข้อมูลจากเว็บ Original มาฝากทุกท่านไว้ในอ้อมอกอ้อมใจละกันนะคะ

ไม่ว่าจะเป็น

View Rest House

view-rest-house

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

View Rest House เป็นสถานที่ที่คุณสามารถอิ่มเอมไปกับอาหารแสนอร่อยที่มีส่วนผสมของสมุนไพร และร้านรวงต่างๆมากมาย ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็น Indoor แต่คุณก็สามารถสัมผัสการตกแต่งด้วยสมุนไพรต่างๆ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ

Mori no Hall (Concert Hall in Forest)/ Fragrance Museum

mori-no-hall

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

เป็นฮอลล์ที่สร้างขึ้นจากไม้ สถานที่ยอดฮิตสำหรับแสดงคอนเสิร์ตแนวอะคูสติก รวมไปถึงที่แห่งนี้ยังเป็นพิพิธภัณฑ์น้ำหอมที่จัดแสดงน้ำหอมทางประวัติศาสตร์ไว้มากมายอีกด้วย

Glasshouse

glass-house

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

สามารถเยี่ยมชมพันธุ์ดอกไม้นานาชนิด รวมถึงผลไม้ต่างตลอดทั้งปีได้ที่เรือนกระจกแห่งนี้

Hanging Baskets (Glasshouse)

hanging-basket

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

สามารถถ่ายรูปกับพวงดอกไม้ที่ห้อยระยะจัดแสดงอยู่ในเรือนกระจกอีกด้วย

Herbal Footbath

footbaht

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

นอกจากนั้น ยังเพลิดเพลิน ผ่อนคลายไปกับออนเซ็นเท้าที่อยู่ติดกับเรือนกระจก ที่นี่ยังแสดงทัศนียภาพของเมืองโกเบไว้อีกด้วย

ต่อมาเราได้มารับประทานอาหารกันที่สวนสมุนไพรแห่งนี้นี่แหละ อาหารรสชาติกำลังโอเค เราสั่งข้าวแกงกะหรี่ไก่มากิน อาหารจานพอเหมาะ แต่ทีเด็ดเห็นจะเป็นชาสมุนไพรเต็มไม่อั้น มองข้างหลังเห็นเกิร์ลแก๊งแห่งแดนอาทิตย์อุทัยกำลังจิบชาพร้อมหัวร่อต่อกระซิก คิกคักกันอย่างสนุกสนาน นอกจากเหมาะแก่การมาแฮงเอ้าท์กับเพื่อนแล้ว ยังเป็นบรรยากาศที่สบายๆ คล้ายอยากให้เรานั่งทอดตัวอยู่ตรงนี้ไปอีกนานๆทีเดียว เพราะกระจกใสที่โอบรอบร้านนั้นทำให้เราเห็นบรรยากาศไปทั่วทั้งเมืองโกเบ

kobe-nunobiki-herb03

kobe-nunobiki-herb23

kobe-nunobiki-herb20

หลังจากผ่อนคลายที่สวนสมุนไพร เราเดินทางต่อเข้าสู่อารยธรรมแห่งตะวันตกอย่างแท้จริง ติดตามเรื่องราวของโกเบได้ในตอนต่อไปนะจ๊ะ.

Sandp1989

kobe-nunobiki-herb19

kobe-nunobiki-herb24

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่อยากเดินทางไปเยี่ยมชม

ค่่าขึ้นกระเช้า + ค่าชมสวน
ผู้ใหญ่(ไปกลับ) : 1,400 เยน
เด็กนักเรียน (ไปกลับ) : 700 เยน
ผู้ใหญ่(เที่ยวเดียว) : 900 เยน
เด็กนักเรียน (เที่ยวเดียว) : 450 เยน
ราคาหลัง 5 โมงเย็น
ผู้ใหญ่(ไปกลับ) : 800 เยน
เด็กนักเรียน (ไปกลับ) : 500 เยน

Screen shot 2015-11-05 at 9.45.35 PM

วิธีการไป

หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index4.html

Screen shot 2015-11-05 at 9.45.54 PM Screen shot 2015-11-05 at 9.45.42 PM

คลายเครียด

5 วิธีฉุกเฉินคลายเครียดเมื่อมีเรื่องกระทบใจ

relieve-stress

บางครั้งความเครียด ความทุกข์ ความเสียใจมักจะมาแบบฉุกเฉินเสมอ บางเวลาเราโดนจู่โจมด้วยสิ่งเหล่านี้แบบยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ จนทำให้ความรู้สึกของเราเสียหายหลายครั้งหลายครา วันนี้แอดมินเอาวิธีที่ศึกษามาจากหลายๆศาสตร์ที่ลองใช้แล้วได้ผลมาฝากชาวไทยแลนด์อินดี้กันค่ะ

1.จินตนาการถึงคนตัวเล็กในใจ แล้วกอดตัวเองไว้ให้แน่นๆ

tjacket2-537x407

cr photo. http://assets.inhabitots.com/

เวลาเรามีเรื่องมากระทบใจทุกสิ่งรอบกายดูเหมือนจะใหญ่เกินไปที่จะรับมือไหวเสมอ เราคล้ายกับเป็นคนตัวเล็กๆในสังคมคนหนึ่งที่บางครั้งจะไม่รู้จะหาทางออกตรงไหน ณ เวลานั้นให้หาเวลาให้ตัวเองค่ะ นั่งจินตนาการมองเข้าไปมองพื้นที่ว่างในจิตใจ มองหาตัวเองในความรู้สึกนั้นๆ มองตัวเองว่ากำลังรู้สึกอย่างไรอยู่ ตัวเรากำลังหัวเราะอยู่ หรือร้องไห้อยู่ มองให้เห็นภาพของเราในใจ แล้วสร้างตัวเราอีกคนนึงในจินตนาการมาแล้วให้คนๆนั้นเข้าไปกอดตัวเองไว้ค่ะ กอดตัวเองไว้ให้แน่นที่สุด ทั้งกอด และปลอบ ให้รู้ว่าต่อให้ใครไม่รักเราก็ยังรักตัวเองได้นะ เมื่อเรากอดและปลอบตัวเราเองในความรู้สึกนั้น ความรู้สึกที่เราไม่เหลือใครจะบรรเทาลง และทำให้เรารู้สึกดีขึ้นนะ

2.เล่าให้ใครสักคนฟัง

tell-someone

cr photo. https://castlepersonaltraining.files.wordpress.com

การเล่าให้ใครสักคนฟัง หากเป็นเพื่อนสนิทที่คอยรับฟังเราทุกเรื่องคงจะดี ใครสักคนที่คุณเชื่อใจว่าเขาจะรับฟังคุณได้ ขอเวลาเขาสักครู่แล้วระบายออกมาให้เขาฟังค่ะ บอกเขาว่าแค่ขอให้รับฟัง แค่ได้พูดออกมาก็ทำให้ปัญหาในใจเราเบาลงได้นะคะ หากถ้าวันนั้นไม่รู้จะหันไปหาใคร ลองเขียนระบายความในใจออกมาค่ะ เขียนออกมาให้หมด แต่เมื่อเขียนระบายออกมาหมดแล้ว ตอนสุดท้ายต้องเขียนปิดจบความรู้สึกพวกนั้นด้วยการให้ บอกรัก และให้กำลังใจตัวเองนะคะ เช่น “รักเธอนะ เธอทำได้ เชื่อเรา เธอทำได้ รักเธอจริงๆ เราจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอนะ” เราลองแล้ว มันดีจริงๆค่ะ

3.ฟังเพลงดังๆ ไปพร้อมการออกกำลังกาย

listentomusicandworkout

cr photo. http://www.gannett-cdn.com

หา Playlist ที่ชอบเลยค่ะ สร้าง Playlist ได้ง่ายๆใน Youtube ขอเป็น Playlist มันส์ๆ เพลงจังหวะโดนๆที่เขย่าอะดรีนาลีนในร่างกายพลุ่งพล่านไปเลยนะคะ! แล้วออกไปวิ่งค่ะ วิ่งหรือตีแบดกับเพื่อนก็ได้ ให้ร่างกายขยับ และโฟกัสกับสิ่งที่เราทำจนลืมเรื่องเครียดไปก่อน เมื่อเราเหงื่อออก และลืมเรื่องคิดไปพักนึงแล้ว เอ็นโดรฟินของเราจะหลั่งออกมา รวมถึงทำให้สมองเราปลอดโปร่ง อาจจะคิดหาวิธีแก้ไขเรื่องราวต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ

4.ร้องไห้

cry

cr photo. http://www.papermag.com/

ร้องไห้ไปเลยค่ะ บางครั้งความอึดอัดก็ต้องขับออกมาทางน้ำตานะคะ มีผลวิจัยหลายอันที่บอกว่าเมื่อร้องไห้แล้วเราจะรู้สึกผ่อนคลายลง การร้องให้ไม่ใช่ไม่ดีนะคะ สังเกตตัวเองจะพบว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้ร้องไห้เพราะทุกข์ใจเสมอไปเท่านั้น เวลาเราสุขใจสุดๆ หรือดูหนังที่เรารู้สึกซาบซึ้งใจสุดๆ บางครั้งเราก็จะเกิดความรู้สึกที่น้ำตามันจะไหลออกมาใช่มั้ยคะ นั่นแหละค่ะ นั่นคือกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกาย อธิบายง่ายๆคือ เมื่อร่างกายเกิดความรู้สึกต่างๆขึ้นมา สารในสมองก็จะสั่งการให้เกิดปฎิกริยาต่างๆแก่ร่างกาย รวมไปถึงต่อมน้ำตาด้วย ต่อมน้ำตานี้เป็น ซึ่งนักชีวเคมีแห่งศูนย์วิจัยน้ำตา William Frey ซึ่งศึกษาวิจัยเรื่องของน้ำตามานานกว่า 15 ปี รายงานว่าการหลั่งน้ำตาถูกควบคุมโดยต่อมน้ำตา ซึ่งจะกำหนดความเข้มของน้ำตา และควบคุมปริมาณการขับถ่ายธาตุต่างๆที่ร่างกายสร้างขึ้นขณะในช่วงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆไม่ว่าจะเป็น เศร้า ทุกข์ สุข เหงา ซาบซึ้งใจ ฯลฯ และเนื่องจากมีปริมาณธาตุในน้ำตานั้นมีมาก เวลาเสียน้ำตาผู้ที่ร้องไห้จะรู้สึกสบายขึ้น เพราะร่างกายได้ขจัดสารเคมีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะที่มีความทุกข์ออกไปจากร่างกายพร้อมน้ำตา เพราะฉะนั้นการร้องไห้ทำให้เราคลายเครียดได้นะคะ (ขอบคุณข้อมูลจากhttps://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20091015082832AATdNJT)

5.เขียน mind map ชีวิต กำหนดเป้าหมาย แล้วมุ่งตรงไปหามัน

SuccessMindMap_iStock_000017205914XSmall-300x207

cr photo. http://www.creativeimplementations.com

เป้าหมายคือสิ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนทุกๆวันของชีวิตให้มีความหมายนะคะ พยายามหาเป้าหมายที่ไม่ต้องไกลมาก วางแผนชีวิตในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี แล้วค่อยวางเป้าหมายในสเต็ปต่อไป มองเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ แล้วเขียนช่องทางรอบตัวที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมายนั้น พร้อมทั้งเขียนอุปสรรค และส่ิงที่ทำให้เราเกิดความเครียดลงไปในนั้น ก่อนจะเขียนตัวเลือกทางแก้ปัญหา สรุปคือวาดแผนผังเกี่ยวกับสิ่งที่มีอยู่รอบตัวที่สามารถนำมาปรับใช้ให้เราไปถึงเป้าหมายได้ เมื่อเราเห็นเป้าหมายใหญ่ขึ้น ปัญหาและอุปสรรคของเราก็จะลดลง และเห็นภาพในชีวิตเป็นระบบมากขึ้น นำไปแปะไว้ที่โต๊ะทำงาน หรือที่ไหนก็ได้ที่เรามองเห็นได้บ่อยๆ แล้วปัญหา หรือความเครียดก็จะลดลงเหลือนิดเดียวค่ะ

เอาล่ะค่ะ 5 ข้อนี้ เราพยายามจะรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ รวมไปถึงการทดลองทำด้วยตัวเองเอามาฝากชาวไทยแลนด์อินดี้ทุกคนคะ ด้วยสภาพสังคมที่มีภาวะการแข่งขันกันสูง ในทุกๆวันเราต้องแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิต ดังนั้นแล้วบางทีเราก็ต้องหาวิธีคลายเครียดในแบบฉบับที่ตัวเองใช้แล้วเวิร์ค! มาพกติดตัวกันเอาไว้บ้างนะจ๊ะ

อย่างไรก็ตามไทยแลนด์อินดี้ขอสนับสนุนให้คนไทยยิ้มในทุกๆวันนะคะ และแน่นอนเลยใครอยากคลายเครียด แวะไปเยี่ยมชมเรื่องราวเที่ยวทั่วไทย ที่เราไปแบบอินดี้มาฝากทุกคนก็ได้ในคอลัมน์ต่างๆได้เลยค่า

Saturday Night.

นิมานรดี รีสอร์ท

นิมมานรดี รีสอร์ท อ่าวปะการัง เกาะเสม็ด เด็ดจริงๆ

ใครที่กำลังมองหาที่พักที่เกาะเสม็ด เราขอนำเสนอ “นิมมานรดี รีสอร์ท” ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการพิจราณานะคะ

“นิมมานรดี รีสอร์ท” ตั้งอยู่บนเกาะเสม็ด ที่พักติดหาด เป็นรีสอร์ทที่มีความเป็นส่วนตัว ห้องพักมองเห็นวิวทะเล บรรยากาศดี มีกิจกรรมพายเรือคายัค สามารถดำน้ำดูปะการังได้บริเวณรีสอร์ทโดยไม่ต้องออกเรือไปไกล ให้เราได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมากที่สุดและมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่โรแมนติกมาก

การเดินทางไปยังเกาะเสม็ดและนิมมานรดี รีสอร์ท
1. สามารถเดินทางโดยเรือโดยสารและไปลงท่าเรือกลางของเกาะเสม็ดแล้วต่อรถไปยังอ่าวปะการังได้
2. โดยสารโดยเรือโดยสารของทางรีสอร์ทเลยราคาเที่ยวเดียว 120 บาท/คน
เราเลือกโดยสารโดยวิธีที่ 2. เพราะคำนวณแล้วถูกกว่าวิธีที่ 1. โดยจะต้องไปขึ้นเรือที่ ท่าเรือโชคกฤษดา ซึ่งเรือของทางรีสอร์ทจะวิ่งแค่วันละ 1 เที่ยว โดยออกจากท่าเรือโชคกฤษดาเวลา 12:00 น. (หากขับรถยนต์ไปที่ท่าเรือมีที่จอดรถ ค่าบริการวันละ 60 บาท) เมื่อเรือมาถึงจะมีพนักงานมาเรียก

ท่าเรือโชคกฤษดา
ท่าเรือโชคกฤษดา

เรือออกแล้ว….!!!

ท่าเรือโชคกฤษดา
เดินทางจากท่าเรือโชคกฤษดาไปเกาะเสม็ด

วิวจากเรือมองไปยังท่าเรือโชคกฤษดา

อ้อลืมไป มีอีก 1 วิธี สำหรับการเดินทางไปยังเกาะเสม็ด สามารถเหมาเรือสปีดโบ๊ทไปได้ค่ะ

เกาะเสม็ด
ชมวิวระหว่างเดินทาง
เรือโดยสารนิมมานรดี รีสอร์ท
เรือโดยสารนิมมานรดี รีสอร์ท

พอมาเกือบใกล้ถึงฝั่ง เราจะต้องลงจากเรือเพื่อโดยสารด้วย “โป๊ะ”  ไปยังรีสอร์ท เนื่องจากเรือขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปเทียบฝั่งได้

โป๊ะ นิมมานรดี รีสอร์ท
โป๊ะ นิมมานรดี รีสอร์ท

จะมีรอกคอยดึงเราไปยังฝั่ง ตอนแรกก็ตกใจนิดหน่อยที่ต้องลงไปยังโป๊ะ เพราะส่วนตัวว่ายน้ำไม่เป็น 😉 แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

โป๊ะ นิมมานรดี รีสอร์ท
โป๊ะ นิมมานรดี รีสอร์ท

 ถึงแล้ว นิมมานรดี รีสอร์ท

นิมมานรดี รีสอร์ท
นิมมานรดี รีสอร์ท

วิวจากห้องพัก มองไปเห็นทะเล วิวสวยมากค่ะ

นิมมานรดี รีสอร์ท
วิวจากห้องพัก นิมมานรดี รีสอร์ท

ห้องพักจะมีลักษณะเป็นบ้าน สีสันน่ารัก มีเก้าอี้หน้าบ้านให้นั่งชมวิวทะเล

นิมมานรดี รีสอร์ท
ห้องพัก นิมมานรดี รีสอร์ท
นิมมานรดี รีสอร์ท
มุมน่ารัก ที่นิมมานรดี รีสอร์ท
นิมมานรดี รีสอร์ท
ชิงช้า นิมมานรดี รีสอร์ท

เก็บของเสร็จก็หิวสิคะ ทำการสำรวจค่ะ ร้านอาหารน่ารักมาค่ะ ทานอาหารไปชมวิวไป

ร้านอาหาร นิมมานรดี รีสอร์ท
ร้านอาหาร นิมมานรดี รีสอร์ท

สำหรับอาหารมื้อแรก อิ่มอร่อย ราคาสบายกระเป๋า  ตอนแรกคิดว่าอาหารจะต้องแพงแน่ๆเลย เพราะเคยมาเกาะเสม็ดแล้วรอบหนึ่ง แต่พักที่อื่น อาหารแพง แต่สำหรับที่นี่ถือว่าถูกมาก และอาหารก็อร่อยทุกอย่าง นี่พูดจากใจเลย

อาหาร นิมมานรดี รีสอร์ท
อาหาร นิมมานรดี รีสอร์ท

เมื่ออิ่มแล้ว ก็ขอสัมผัสน้ำทะเลสักหน่อย

อ่าวปะการัง เกาะเสม็ด
อ่าวปะการัง เกาะเสม็ด

น้ำใสมาก สงบเงียบคนไม่เยอะ เพราะเป็นหาดส่วนตัว

อ่าวปะการัง เกาะเสม็ดสามารถนอนอาบแดดได้ จะมีเตียงแบบนี้หลายๆจุด ให้นอนอาบแดด ชมวิวทะเลสวยๆ

อ่าวปะการัง เกาะเสม็ด

กิจกรรมพายเรือคายัก
กิจกรรมพายเรือคายัค
กิจกรรมพายเรือคายัก
กิจกรรมพายเรือคายัค

ไม่มีภาพตอนพายเรือคายัคเพราะเก็บของทุกอย่างเพื่อลงเล่นน้ำ สนุกสนานมากค่ะ
ถึงเวลานัดหมายสำหรับการดูพระอาทิตย์ตก เดินไปด้านหลังรีสอร์ท จะมีป้ายบอกจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก
วิวสวยมากค่ะ ลมพัดเย็นสบาย ปล.ภาพที่ได้อาจไม่สวยเท่าของจริงที่เห็น เพราะมีการปรับแต่ง

จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก เกาะเสม็ด
จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก เกาะเสม็ด
จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก เกาะเสม็ด
จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก เกาะเสม็ด
จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก เกาะเสม็ด
จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก เกาะเสม็ด

ชมพระอาทิตย์ตกแล้ว ก็ถึงเวลาสุขสันต์กับการกิน!!! มื้อเย็น
วิวร้านอาหารตอนเย็นก็แสนจะโรแมนติกค่ะ

ร้านอาหาร นิมมานรดี รีสอร์ท
ร้านอาหาร นิมมานรดี รีสอร์ท วิวกลางคืน
อาหารเย็น ที่นิมมานรดี รีสอร์ท
อาหารเย็น ที่นิมมานรดี รีสอร์ท

ปล.แกงส้มอร่อยมากค่ะ

ตอนเช้าตื่นมารอดูพระอาทิตย์ขึ้น อากาศดีมากกกก
พระอาทิตย์ขึ้น ที่นิมมานรดี รีสอร์ท พระอาทิตย์ขึ้น ที่นิมมานรดี รีสอร์ท

พระอาทิตย์ขึ้น ที่นิมมานรดี รีสอร์ท
พระอาทิตย์ขึ้น ที่นิมมานรดี รีสอร์ท
พระอาทิตย์ขึ้น ที่นิมมานรดี รีสอร์ท
พระอาทิตย์ขึ้น ที่นิมมานรดี รีสอร์ท

 วิวตอนเช้า ที่อ่าวปะการัง

ชิงช้า
ชิงช้าก็มีมาก

DSCF3958 DSCF3964

จะมีเปลอยู่แทบทุกจุดบนหาด

DSCF3967

วิวจากจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น มองไปยังรีสอร์ท

DSCF3906

ที่ชื่ออ่าวปะการังเพราะมีปะการังเยอะ จึงทำให้เราสามารถเห็นปะการังได้ทั่วไปบนหาด

DSCF3995 DSCF3938

อ่าวปะการัง เกาะเสม็ด อ่าวปะการัง เกาะเสม็ด

นิมมานรดี รีสอร์ท อ่าวปะการัง เกาะเสม็ด
นิมมานรดี รีสอร์ท อ่าวปะการัง เกาะเสม็ด

นิมมานรดี รีสอร์ท อ่าวปะการัง เกาะเสม็ด

และสุดท้ายก่อนจากทะเล ไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป เอาภาพอีกมุมจากท่าเรือโชคกฤษดามาฝาก

ท่าเรือโชคกฤษดา
ท่าเรือโชคกฤษดา
อุปกรณ์การทำสวนขวด หรือ Terrarium

จัด “สวนขวดเเก้ว” Terrarium ได้ด้วยตัวเอง

ช่วงนี้เป็นกระเเสนิยม อินเทรนด์ ด้วยความเก๋ไก๋ น่ารัก กะทัดรัดของสวนจิ๋วในขวดเเก้ว หรือ Terrarium  ที่สาวๆส่วนใหญ่เห็นเป็นต้อง อยากได้เป็นเเน่!!  วันนี้ ต่ายน้อยก็เลยมานำเสนอวิธีการจัด สวนขวดเเก้ว หรือ Terrarium เเสนง่าย ไม่ยากอย่างที่คิด ว่าเเล้วเรามาเริ่มกันเลย!!

ขั้นเเรก จะเริ่มไม่ได้เลย ถ้ายังไม่มีอุปกรณ์นะจ้ะ ง้านมาดูกันเลยว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง

อุปกรณ์การทำสวนขวด หรือ Terrarium
อุปกรณ์การทำสวนขวด หรือ Terrarium

ทั้งหมดนี้ต่ายน้อย กว้านซื้อมาจาก ตลาดเจเจ (จตุจักร) เลยจ้า เพราะมีครบทุกอย่างเลย!! ไปดูกันมีอะไรบ้าง

1. ขวดเเก้ว

2. ชุดช้อนส้อม

3. ตะเกียบ

4. กาบมะพร้าว [หรือจะใช้ สแฟ็กนัม มอส ก็ได้นะ]

5. หินกรวด

6. ต้นไม้ขนาดเล็กที่ต้องการจัด [ต่ายน้อยจะจัดเเบบระบบเปิด เพราะรดน้ำบ่อยเเละความชื้นจะไหลเวียนออกไปได้]

7. มอส

ง้านมาเริ่มกันเลย!!

ขั้นเเรก :  ใส่หินกรวดลงขวดเเก้วประมาณนิ้วครึ่ง หรือ  เทียบจากฝาขวดเอาก็ได้นะ

สวนขวดเเก้ว
เททรายลงขวดเเก้ว ประมาณครึ่งนิ้ว หรือ ขนาดเท่าฝาขวด

2. นำกาบมะพร้าวมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อเอาไว้รอองดูดความชื้น ป้องกันน้ำเเละดินไหลลงใต้ขวด เเละเทลงขวดต่อจากหินกรวดเป็นชั้นที่ 2

2015-02-15 13.05.22
ตัดกาบมะพร้าวเป็นชิ้นเล็กๆ
2015-02-15 13.13.05
นำกาบมะพร้าวที่ตัดเเล้ว ไปรองชั้นที่ 2

3. เทดินลงในขวดประมาณ 1-2 นิ้ว ควรใช้ดินร่วนสำหรับการปลูกต้นไม้นะจ๊ะ ที่สำคัญไม่ควรใส่ปุ๋ยลงไป เพราะเราต้องการจำกัดให้ต้นไม้ไม่ต้องโตมาก เดี๋ยวเเออัดจะไม่สวยนะจ๊ะ 🙂

Tips : ใช้ช้อนทำรูไว้สำหรับเป็นช่องให้ต้นไม้ลง อย่าขุดลึกมากนะจ๊ะ!! เดี๋ยวจะไปโดนส่วนของกาบมะพร้าวที่จะอุดดินไหลไว้ จะพังซะก่อน 🙂

4. เสร็จเเล้วเราก็เตรียมจัด ต้นไม้กันเลย ว่าต้องการให้ต้นไหน อยู่ส่วนไหน เเล้วจัดวางลงขวดกันเลย

Tips : เราจะใช้ตะเกียบคีบต้นไม้เพื่อนำลงไปในขวด กรณีที่ขวดปากเเคบ มือเราไม่สามารถลงไปได้หรอกเนอะ ^^ พอวางไปที่ต้องการ เราก็ใช้ช้อนช่วยกลบดินให้มิด ดูให้รากต้นไม้โดนกลบก็พอเเล้ว ใช้ก็ช้อนกดดินรอบๆต้น ให้ต้นไม้ยืนต้นได้ ไม่ล้ม

มุมบนขวด

 

5. เเปะเเผ่นต้นมอสบนดิน เเล้วใช้ช้อนหรือปลายตะเกียบกดลงเบาๆ ให้ต้นมอสเเกะบนดินอยู่

สวนขวด
สำเร้จเเล้ว เย้!
ต้นมอส
ต้นมอส

Tips :

– การเลือกใช้ขวดเเก้ว สำหรับคนเริ่มเเรก ต่ายน้อยเเนะนำว่า ขวดปากกว้างจะเวิคกว่าค่ะ

– ชุดช้อนส้อม เห็นเเบบนี้ไม่ใช่ว่าต่ายน้อยจะชวนกินผักนะคะ555 เพียงเเต่มันเป็นอุปกรณ์อย่างง่ายที่สามารถหาได้ใกล้ตัว ใช้ตักดินเเละเกลี่ยหน้าดินค่ะ

– ตะเกียบที่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวสำคัญที่ช่วยในการส่งต้นไม้ เเละจัดต้นไม้เลยก็ว่าได้ ที่สำคัญมันยังเป็นอุปกรณ์อย่างง่ายที่สามารถหาได้ใกล้ตัวอีกเช่นกัน

– กาบมะพร้าว ต่ายน้อยใช้กาบมะพร้าว เพราะช่วยดูดความชื้นได้เหมือนกัน ที่สำคัญหาง่ายด้วย พอดีเอามาประยุกต์ใช้ได้เลยอ่ะ

– ภายหลังจัดสวนขวดแก้วเสร็จหากมีไอน้ำเกาะที่ภายในโหล ให้เปิดขวดโหลทิ้งไว้จนไอน้ำระเหยออก แล้วจึงปิดขวดโหลตามเดิม หลังจากนั้นหากเกิดไอน้ำอีกให้ปล่อยไว้ เพราะภายในโหลกำลังสร้างระบบนิเวศน์และจะคายน้ำออกมาตามปกติของวงจรสวนแบบระบบปิด

นมัสการรอยพระพุทธบาท

นมัสการรอยพระพุทธบาท ที่เขาคิชฌกูฏจันทบุรี

นมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาสูงเทียมฟ้า พระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี

นมัสการรอยพระพุทธบาท
นมัสการรอยพระพุทธบาท

การนมัสการรอยพระพุทธบาท เปรียบเหมือนได้เข้าเฝ้าองค์พระศาสดา ซึ่งถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ ผู้คนนับพันจึงพากันดั้นด้นมาที่นี่ จุดหมายคือยอดเขาคิชฌกูฏอันสูงลิบเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาทอันงดงาม

อุทยานแห่งชาติเขาคิชณกูฏ นั้นมีความอุดมสมบูรณ์ เขียวขจี ใครชอบเที่ยวน้ำตก ที่นี่มีน้ำตกคลองช้างเซ น้ำตกกระทิง และน้ำตกคลองกระสือ ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ที่สำคัญบนยอดเขาคิชฌกูฏอันสูงลิบนั้นมีผู้คนเป็นจำนวนมากที่พยายามจะขึ้นไปให้ถึงสุดปลายยอดเขา เพื่อกราบนมัสการรอยพระพุทธบาท ซึ่งถือเป็นงานประเพณีที่สำคัญประจำปี และได้ปฏิบัติสืบทอดกันมานาน โดยมีความเชื่อว่าจะได้บุญสูงสุด และเป็นการฝึกจิตใจให้มีความอดทนไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก

การเดินทางเริ่มต้นที่วัดพลวง ต้องขึ้นรถกระบะโฟว์วีลไปตามถนนที่ลาดชันมาก ระยะทางราว 8 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร

รถกระบะโฟว์วีล
รถกระบะโฟว์วีล
การเดินทางขึ้นเขาคิชกูฎ
การเดินทางขึ้นเขาคิชกูฎ

บนยอดเขายังมีปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่มาผูกกับตำนานทางพระพุทธศาสนาอยู่มากมาย ทั้งศิลาเจดีย์ หินรูปบารตคว่ำ ถ้ำฤาษี ลานแข่งรถพระอินทร์ หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่าและช้างขนาดยักษ์ บนยอดเขาพระพุทธบาทอากาศเย็นสบาย สามารถมองเห็นทิวทัศน์ตัวเมืองจันทบุรีได้อย่างชัดเจน ใครยังไม่เคยไป ไม่ควรพลาดครั้งหนึ่งในชีวิต รับรองไม่ผิดหวัง

DSC04443

DSC04470

DSC04475

ของอร่อยประจำถิ่นเมืองจันท์ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมานมัสการรอยพระพุทธบาท เขาคิชฌกูฏ อย่าพลาดเมนูเด็ดอย่างแกงหมูชะมวง กระวานผัดฉ่า ไก่บ้านต้มกระวาน ปกงป่าปลาเห็ดโคน น้ำพริกปูหลน ส้มตำ ทุเรียนหมอนทอง

งานนมัสการรอยพระพุทธบาท ณ เขาคิชฌกูฏ จัดเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในเทศกาลตรุษจีนถึงช่วงวันมาฆบูชาของทุกปี (ปลายเดือนมกราคม – มีนาคม) รวมระยะเวลา 2 เดือน

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook เขาพระบาทพลวง จันทบุรี

ขอบคุณข้อมูลจาก http://thai.tourismthailand.org/

หัวหิน

เที่ยวหัวหิน 1 วัน ไป-กลับ ทริปประหยัดเวลาและเงินในกระเป๋า

สำหรับคนที่มีเวลาไม่มากนัก(รวมทั้งเงินในกระเป๋าที่ไม่มาก) แต่อยากเที่ยว เราขอเสนอทริปนี้เลย

“เที่ยวหัวหิน วันเดียวไป-กลับ”

หลังจากที่ศึกษาเส้นทางคร่าวๆและสถานที่ที่ต้องการไป  ในเย็นของวันศุกร์ (29 ส.ค. 57) เช้าวันเสาร์เราก็ออกเดินทาง โดยมีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 5 คน

ทริปนี้รู้สึกเสียดายมากที่ไม่มีเวลาจริงๆ แต่ใครมีเวลาหน่อยค้างคืนก็จะได้เที่ยวพักผ่อนแบบสบายๆหน่อย ที่พักหัวหินน่าพักหลายที่เลย ลองไปดูในเว็บ Traveloka ได้ จองมาหลายทริปแล้ว จองง่ายสะดวก มีโปรโมชั่นส่วนลดบ่อยมาก

แถมใครไม่มีบัตรเครดิตก็จองได้อีกต่างหาก เพราะเค้ามีช่องทางการโอนเงิน

ตอบโจทย์วัยรุ่นสุดๆ

08:00 ออกเดินทาง

จากถนนรามคำแหง ขึ้นทางพิเศษศรีรัชค่าทางด่วน 50 บาท ไม่เคยไป ไปไม่เป็น google map ช่วยคุณได้

แผนที่ไปหัวหิน
แผนที่จับจากถนนรามคำแหงไปหัวหิน

ตรงไปยังสมุทรสาคร

แผนที่ไปหัวหิน
เกาะทางด่วนไปยังสมุทรสาครไว้

ถึงชะอำเมื่อเวลาประมาณ 10:30 น. 
เนื่องจากเป็นห่วงน้องๆพยาธิที่ดิ้นอยู่ในท้อง เพราะฉะนั้น เป้าหมายแรกที่เราจะไปก็คือ

“สะพานปลา”

เลี้ยวซ้ายจากถนนเพชรเกษมไปยังชายหาดชะอำ ตรงไปยังสะพานปลาซึ่งอยู่ติดกับชายหาดชะอำ ข้างในจะมีร้านขาย

อาหารทะเลสด กุ้ง หอย ปลาหมึก ปู

ตัวเป็นๆ ให้เลือกเอง ที่ร้านจะมีบริการทำให้ทุกอย่างค่ะ ตั้งแต่ ปิ้ง ย่าง หรือนึ่ง (ค่าทำอย่างละ 20 บาท) พร้อมน้ำจิ้มรถเด็ด(ฟรี)

ส่วนจะนั่งทานที่ร้านหรือนำไปทานริมหาดก็ได้ค่ะ มีถ้วยโฟมให้(สามารถขอเพิ่มกับทางร้านได้ฟรีไม่คิดตังค์) รอประมาณ 40-60 นาที เช็คบิลทั้งหมด 1010 บาท โดยสิ่งที่ได้มาคือ

  • ปู 1.5 กก.
  • หอยแครง 1 กก.
  • ปลาหมึก 1 กก.
  • กุ้ง 1 กก.

จากนั้นก็ไม่รอช้าไปเช่าที่นั่งริมหาดเหมา 200 บาท พร้อมด้วยกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ได้มาจากสะพานปลา และสั่งอาหารเพิ่มนิดหน่อยสำหรับ 5 ที่(ไม่อั้น) ราคาอาหารไม่แพงมาก

ริมหาดชะอำ
ริมหาดชะอำ
ทะเลหัวหิน
ทะเลหัวหิน
ริมหาดชะอำ
ที่นั่งริมหาดชะอำ เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ

ด้วยความที่ต่างคนต่างหิว ก็ไม่ได้สนใจถ่ายรูปแต่อย่างใด มุ่งหน้ากับอาหารมากกว่า ดีที่ยังได้ภาพมานิดหน่อยมากๆ คือรูปเดียวค่ะ แฮ่ๆ 😉

อาหารทะเลจากสะพานปลาหัวหิน
อาหารทะเลจากสะพานปลาหัวหิน

พอลงมือกับอาหารข้างหน้า ส่วนอาหารที่สั่งเพิ่มจากร้านริมหาดก็ลืมถ่าย ถ่ายอีกทีก็ได้รูปนี้แล้วค่ะ 🙂

อาหารริมชายหาดชะอำ
เศษซากที่เหลือ

โดยอาหารที่สั่งมาทานเพิ่มก็มี

  • ส้มตำ 50 บาท
  • ข้าวผัดจานใหญ่ 200 บาท 
  • ต้มยำหม้อไฟ 150 บาท

หลังจากกำจัดอาหารจนสิ้นซาก ก็นอนพักผ่อนรับลมทะเลงีบคนละนิดคนละหน่อยก็ได้เวลาออกเดินทาง

15:00 น.

เป้าหมายต่อไปคือ “เพลินวาน” ค่ะ

เส้นทางไปเพลินวาน
เส้นทางไปเพลินวาน

จับ google map เหมือนเดิมค่ะ มาถึงเพลินวานจะมีที่จอดรถหลายที่ค่ะ เราจอดห่างจากเพลินวานประมาณ 300 เมตร ถ้าใครไม่อยากเดินไกล อาจขับเข้าไปอีกนิดนึงเพราะที่จอดที่ติดกับเพลินวานเลยก็มี แต่ด้วยความที่มาครั้งแรกและไม่รู้ว่ามีที่จอดรถใกล้ๆด้วย ส่วนราคาที่จอดรถอยู่ที่ 40 บาท

สังเกตจากพี่คนนี้ก็ได้ค่ะ จะคอยโบกรถเรียกลูกค้าให้เข้ามาจอด สร้างสีสันมากค่ะ

พนักงานโบกรถที่เพลินวาน
พนักงานโบกรถที่เพลินวาน

เพลินวาน

ถึงแล้ว!!! บรรยากาศที่เห็นก็จะดูแบบย้อนยุคหน่อยค่ะตกแต่งด้วยไม้เก่าๆ และสังกะสีเก่าๆ

เพลินวาน
เพลินวาน

เสน่ห์ของที่นี่ก็คงจะเป็นบรรยากาศย้อนยุคนี่แหละค่ะ มีขายของที่ละลึก และขนมโบราณต่างๆมากมาย

เพลินวาน
ห้องจัดรายการวิทยุแบบย้อนยุคที่เพลินวาน
เพลินวาน
ขนมโบราณเพลินวาน

เพลินวาน

เพลินวาน
บรรยากาศที่เพลินวาน

เพลินวาน

เพลินวาน
ร้านขายแผ่นเพลงเก่าๆ
เพลินวาน
ของขายเก๋ๆ

เพลินวานบรรยากาศชิวๆ ที่เพลินวานค่ะ เหมือนเดินเที่ยวงานวัด
เพลินวาน เพลินวาน

หลังจากที่เพลิดเพลินอยู่กับเพลินวานได้สักพัก เราใช้เวลาอยู่ที่เพลินวานประมาณ 1ชั่วโมง ก็เดินจนทั่วแล้ว เพราะไม่ได้ใหญ่มาก เดินหน้าไปยังสถานีต่อไปค่ะ

16:00 น.

มุ่งหน้าต่อไปที่ “for art’s sake” ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ 4D แห่งแรกในประเทศไทย

แผนที่ไปfor art's sake
แผนที่ไปfor art’s sake

สังเกตด้านซ้ายมือ ดูจากข้างนอกแล้วเหมือนยังไม่เสร็จดี พอเลี้ยวซ้ายเข้าไปจะมีพนักงานมาคอยโบกรถให้ (ที่จอดรถฟรี)

for art's sake
ทางเข้า for art’s sake

ราคาบัตรเข้าสำหรับผู้ใหญ่ 180 บาทค่ะ

จะมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ประจำจุด คอยแนะนำว่าจะต้องทำท่ายังไง มีเสียงประกอบในแต่ละโซน ส่วนภายในก็ยังไม่เสร็จดี แต่ก็มีนักท่องเที่ยวประปราย

for art's sake for art's sakeที่นี่ก็เพลิดเพลินไปกับการเล่นและถ่ายรูปกับงานอาร์ต 3D และมีเสียงประกอบในทุกโซนfor art's sake for art's sake for art's sake for art's sake for art's sake for art's sake for art's sakeสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปน่าจะถูกใจค่ะ เล่นสนุกดีค่ะ

เราใช้เวลาอยู่ที่ for art’s sake  ประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ก็เดินทางกลับ

ระหว่างทางกลับกรุงเทพฯ ก็จะผ่าน santorini สำหรับใครที่เที่ยวยังไม่จุใจก็แวะได้ค่ะ แต่เราเหนื่อยกันแล้วเลยไม่ได้แวะ 😉

santorini
santorini

แวะที่สุดท้าย ซื้อของฝากกลับบ้าน

แม่กิมลั้ง

ร้านขายของฝากชื่อดัง มีของฝากมากมายทั้งของคาวและของหวาน อาทิ ขนมหม้อแกง ของฝากชื่อดัง บ้าบิ่น  ขนมเปี๊ยะนมสด เค้กฝอยทอง ชิฟฟ่อนลูกตาลสด และอีกมากมาย มีให้ชิมก่อนซื้อ ขนมหวานอร่อยทุกอย่างคอนเฟิร์ม ( ชิมมาเยอะ 🙂  )

แม่กิมลั้ง
แม่กิมลั้ง

สรุปค่าใช้จ่าย(ไม่รวมของฝาก)
[table  width=”500″ colwidth=”10|490″ colalign=”left|left|”]
,
1. ,ค่าน้ำมัน 800 บาท
2. ,ค่าทางด่วน 50 บาท ไป-กลับ x 2 = 100 บาท
3. ,อาหาร(ไม่อั้น)สำหรับ 5 คน 1810 บาท
4., ค่าจอดรถ 40 บาท
[/table]
รวมค่าใช้จ่าย 2,750 บาท (550 บาท/คน)

 สรุปแผนที่เที่ยวหัวหินสำหรับทริป 1 วัน

แผนที่เที่ยวหัวหิน
แผนที่เที่ยวหัวหินทั้งหมด

ติดตามรีวิวและข่าวสารของเราได้ผ่าน https://www.facebook.com/thailandIndyOfficial , IG: thailand.indy ค่ะ

สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยค่ะ  สามารถแนะนำเพิ่มเติมได้ผ่านทาง facebook: thailandIndyOfficial  หรือ thailandindy.contact@gmail.com