ชาวจีนฮิตเที่ยวตรุษจีนนอกประเทศ เทใจให้ไทยเป็นจุดหมายอันดับ 1

China Daily นำเสนอข้อมูลการท่องเที่ยวของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ปัจจุบันนิยมหันมาท่องเที่ยวต่างประเทศเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนกันมากขึ้น  ซึ่งจุดหมายยอดฮิตได้แก่ประเทศและหมู่เกาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย

อันดับ 10 ศรีลังกา เข้ามาติดอันดับเป็นครั้งแรก หลังนักท่องเที่ยวมีความกังวลด้านความปลอดภัย ทำให้ถูกเลือกมาแทนที่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างบาหลี อินโดนีเซียและมาเลเซีย

อันดับ 9 แคนาดา นักท่องเที่ยวจีนกระเป๋าหนักหลายคนเลือกที่จะท่องเที่ยวแบบระยะยาวในทวีปอเมริกาเหนือ

อันดับ 8 สวิตเซอร์แลนด์ ความสวยงามของภูมิประเทศของสวิตฯ ยังคงเป็นจุดหมายยอดนิยมของชาวจีนจำนวนมาก

อันดับ 7 ญี่ปุ่น อีกหนึ่งชาติมหาอำนาจของเอเชีย ที่มีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนมองข้ามความขัดแย้งในอดีต และเลือกเดินทางไปเยือน

อันดับ 6 นิวซีแลนด์ ความสวยงามของธรรมชาติในเกาะเหนือ เกาะใต้ ดึงดูดใจชาวจีนแผ่นดินใหญ่ได้พักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวได้เป็นอย่างดี

อันดับ 5 ฝรั่งเศส แหล่งท่องเที่ยวในยุโรปที่ครองใจชาวจีนจำนวนมาก เห็นได้จากการหลั่งไหลไปเยือนอย่างไม่ขาดสาย

อันดับ 4 ฟิลิปปินส์ ความสวยงามของทะเล เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กที่ดึงดูดให้ชาวจีนไปเยือน

อันดับ 3 เวียดนาม การผสมผสานของสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เวียดนามกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตของชาวจีน

อันดับ 2 ฮ่องกง หนึ่งในเขตปกครองพิเศษของจีน ที่พัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งระยะทางที่ไม่ไกล ทำให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่จำนวนมากเลือกที่จะไปพักผ่อนช่วงปีใหม่

อันดับ 1 ไทย ธรรมชาติที่ตื่นตา อาหารที่อร่อย วัฒนธรรมที่สวยงามและค่าครองชีพที่ไม่แพง เป็นเหตุผลอันยอดเยี่ยมให้ชาวจีนเทใจเลือก ประเทศไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวอันดับ 1

 

ข้อมูลจาก CHINA DAILY

โอ้โห! ‘ปักกิ่ง’ แปรเปลี่ยนเป็นเมืองร้าง หลังชาวเมืองกลับไปฉลองตรุษจีนที่บ้านเกิด

เพจ China Xinhua News นำเสนอภาพหาดูยากของมหานครปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน เมื่อแปรเปลี่ยนสภาพจากเมืองที่ผู้คนแออัดพลุกพล่าน กลายเป็นเมืองร้าง

หลังจากประชาชนพากันเดินทางกลับบ้านเพื่อไปใช้เวลาร่วมกับครอบครัวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ย่านการค้าสำคัญๆ หรือแม้แต่บนถนนใหญ่ก็ยังเงียบเชียบไร้วี่แววทั้งรถและผู้คน กลายเป็นเมืองร้างที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ

 

ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุดในปี 2017 ที่ผ่านมา พบว่าปักกิ่งมีพื้นที่ 16,808 ตารางกิโลเมตร มีประชากรอาศัยทั้งสิ้น 21.7 ล้านคน ซึ่งมากกว่าลอนดอน และนิวยอร์ครวมกันเสียอีก

เห็นแล้วก็ทำให้นึกถึงบรรยากาศวันปีใหม่หรือสงกรานต์ในกรุงเทพฯบ้านเรา ที่ก็ถนนโล่งไม่แพ้กันเลยเนอะ

[Dudes Next Door] เดินเที่ยวคริสมาสต์ที่ Winter Wonderland ใจกลางลอนดอน

ล่าสุดเห็นเพื่อนหลายคนโพสกันให้แซ่ด (สำนวนนี้ใช้ได้กับการโพสหรือเปล่านะ) บน facebook มากมายว่าที่ลอนดอนหิมะตก จริงๆแล้วหลายคนอาจจะมีความคิดว่าหิมะมันน่าจะตกบ่อยๆ หรือที่นั่นจะมีความงดงามขาวโพลน อะไรทำนองนี้  แต่จริงๆแล้วเปล่าเลยยยย อยู่ลอนดอนมาปีกว่าไม่ยักกะเห็นหิมะตกเท่าไหร่นัก เห็นตกแบบกระปอดกระแปดอยู่วันสองวันเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้กลับไปอีกรอบกะว่าจะเจอหิมะเสียหน่อยอย่างที่เพื่อนๆเจอกัน แต่ก็ไม่เจอ เห้อ วัยรุ่นเซ็ง~

แต่ก็เอาเถอะ รอบนี้ชวนเพื่อนไต้หวัน เพื่อนญี่ปุ่น เพื่อนจีน ไปเดินเล่นสวนสนุกยักษ์ใจกลางกรุงที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ซะทู้กปีอย่าง Winter Wonderland ปีที่แล้วไม่ได้ไปเพราะกลับเมืองไทย ปีนี้ได้ไปเพราะกลับไปลอนดอน ฮ่า!  สนุกสนานดี กลับไปรับปริญญาแหละตัวเอง แอดเรียนจบกับเขาแล้ว ดีใจกับแอดหน่อยเร็ว กว่าจะเรียนจบมาได้ ใบนี้หน้าเขียวไปเลยทีเหมือนกัน  วันนี้ไปเดินเล่นมาเลยอยากเอารูปของ Winter Wonderland มาฝากกันว่าสวนสนุกที่นั่นหน้าตาเป็นยังไง  ตามไปดูกันเลยยย

 

 

 

 

Winter Wonderland นั้นเป็นงานประจำปีในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ที่มีสวนสนุกขนาดยักษ์ จัดอยู่ที่สวนสาธารณะใหญ่ใจกลางกรุงลอนดอนอย่าง Hyde park  งานนี้จะมีเฉพาะในช่วงวันคริสต์มาสซึ่งปีนี้งานจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2017 ถึง 1 ม.ค. 2018  อย่างที่บอกไปในงานมีเครื่องเล่นมากมาย ตั้งแต่หวาดเสียว ยังเด็กน้อย จุดเด่นคือมีชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่(แต่แน่นอนว่าเล็กกว่าลอนดอนอาย)ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง นอกจากนั้นแล้วยังมีของเล่นหวาดเสียวจำพวกรถไฟเหาะ หรือพวกเครื่องเล่นดิ่งพสุธา กลับหัวกลับหางทั้งหลายด้วย แต่เดินไปชมรอบๆงานสักหน่อยก็จะพบว่าบางส่วนก็คล้ายกับงานเทศกาล งานวัดบ้านเรานี่แหละ เพราะแทนที่จะมีปาโป่งก็จะมีเกมโยนลูกบาสให้เล่นกันแทน แล้วแถมยังมีโยนห่วงลงขวดแบบบ้านเราด้วยแหนะ แอดไปเล่นมา 30 ห่วง 5 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยก็ 200 กว่าบาท ก็มานั่งเสียดายตังค์ทีหลัง เพราะโยนยังไง๊ ยังไงก็เด้งออกไปที่อื่นทู้กที เรื่องมันเศร้า T.T  นอกจากโยนห่วงแล้ว ก็ยังมีโซนของเล่นเด็ก ชิงช้าสวรรค์บนต้นคริสต์มาสของเด็กช่างน่ารัก

 

 

 

 

 

ส่วนผู้ใหญ่ที่ไม่สนใจเครื่องเล่น ไม่ได้พกเด็กมาด้วย ก็ยังมีโซนอาหาร รวมถึงคริสต์มาสมาร์เก็ต หรือ ตลาดคริสต์มาสให้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ จิบ mulled wine ไม่ใช่ไวน์ที่กินแล้วเมานะ เอิ๊กๆ เป็นไวน์ผสมเครื่องเทศน์ต่างหาก กลิ่นหอมของเครื่องเทศผสมความหวานของน้ำตาล และรสองุ่น มีเฉพาะหน้าหนาวให้จิบความร้อน ความหอมหวานท่ามกลางลมพัด แหมมันช่างฟินเหลือใจ ราคาของ mulled wine ก็พอกับโยนห่วงนั่นแหละ 5 ปอนด์ แต่อันนี้ยอมจ่าย แลกกับรสชาติอันโอชะ!

 

 

 

 

 

 

 

นอกจากนั้นแล้วยังมีขนมอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือแพนเค้กจิ๋ว นี่ชอบมากจ้าาา ไปตลาดทีไรต้องหากินทุกที เป็นแพนเค้กชิ้นเล็กๆ ที่ทำในพิมพ์ที่เหมือนที่ทำขนมครกบ้านเรา เป็นชิ้นขนาดหนึ่งส่วนสามของฝ่ามือได้มั้ง แล้วราดด้วยหน้าต่างๆไม่ว่าจะเป็นหน้าสตอเบอรี่ ช็อกโกแลต หรือนูเทล่า พิมพ์ไปนี่ก็นั่งปาดน้ำลายไปอยู่ แพนเค้กร้อนๆท่ามกลางอากาศเย็นๆ เครื่องล่งเครื่องเล่นพี่ไม่สนใจแว้วววว  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าแพนเค้กจิ๋วที่อร่อยน่ะ (นี่แอบกินมาหลายที่) ไม่มีที่ไหนอร่อยเท่าตลาดคริสต์มาสในเมืองเบอร์มิ่งแฮม (BirminghamXอีกแล้ววว แอดชอบมาก รสชาติของแพนเค้กหอมหวานอย่างลงตัว แล้วทำแบบสดๆ ราดด้วยวิปครีมเล็กน้อย และช็อกโกแลต กินเข้าไปแบบไม่เสียดายกระเพาะเลย ใครอยู่ Birmingham ขอให้ได้ไปลองงงง หร่อยเฟ่อออ แต่ที่นี่ก็พอได้อยู่เหมือนกันนน่ะะ

ขนมที่นี่มีเยอะมากมายหลากหลายแบบก็อย่างที่เล่าให้ฟังนั่นแหละ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นขนมในหน้าหนาว ขนมแบบอุ่นร้อน มีอันนึงที่เริ่มโด่งดังในไทย ที่เขาเรียกกันว่า สมอร์ (S’more) เป็นมาชเมลโล่ย่างที่กินรอบกองไฟ ที่นี่เขาจะมีบริการมาชเมลโล่เสียบไม้ขาย แล้วให้เราไปสนุกกับการย่างให้มันไหลเยิ้มๆได้ด้วยตัวเอง เห็นเด็กๆกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ น่าลองๆ หนุ่มข้างหน้าน่ะน่าลอง เอ๊ย ไม่ใช่สิ มาชเมลโล่ข้างหน้าตะหากกกก~

 

จริงๆแล้วลอนดอนก็เป็นเมืองหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการจัดเทศกาลคริสต์มาสเหมือนกันนะฮะ ปีนี้ถนนชื่อดังอย่าง Oxford street ก็ยังจัดไฟสวยเช่นเคย เดี๋ยวตอนหน้าจะเอารูป การจัดไฟ และมาเล่าเรื่องคริสต์มาสในเมืองลอนดอนให้ฟังกัน เพลินเนาะตัวเองเอง

 

ป.ล.ค่าเข้าชมฟรีนะจ๊ะ ใครไปเที่ยวลอนดอนช่วงนี้อยากหาข้อมูลเพิ่มเติมแวะเข้าไปได้เลยที่เว็บไซต์ http://hydeparkwinterwonderland.com/

ป.ล.2 เห็นพักนี้งานแฮร์รี่ พอตเตอร์มาแรง ใครอยากอ่านเรื่องเกี่ยวกับแฮร์รี่ เชิญที่นี่เลยนะจ๊ะ >>

[Dudes Next Door]พาเที่ยวป่าต้องห้าม ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ณ warner studio! [ภาค1]
ถึงเวลาเสพย์งานศิลปะในโลกแห่งเวทย์มนตร์ของฮอกวอตส์!

 

ยังไงก็ Merry X’mas ย้อนหลังเด้อค่ะเด้อ ;D

 

ปาร์ตี้ครั้งหน้าอย่าพลาด! ชวนให้ลอง ‘เหล้าอาวาโมริ’ ของเด็ด ของดีเมืองโอกินาวา

สำหรับสาวกประเทศญี่ปุ่นแล้ว เชื่อได้ว่าจุดหมายใหม่ที่กำลังฮอตฮิตคงหนีไม่พ้น เกาะโอกินาวา ดินแดนที่อยู่ทางทิศใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น ที่นอกจากจะมีทะลสวยๆให้ได้สัมผัสกันในช่วงฤดูร้อนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งของเด็ดของดี นั่นคือ ‘เหล้าอาวาโมริ’ (AWAMORI) ให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย

เหล้าอาวาโมริ ถือเป็นต้นสายของเหล้าโชชูญี่ปุ่น เป็นเหล้ากลั่นที่มีประวัติยาวนาน สันนิษฐานว่ามาจากประเทศจีน, เกาหลี และชาติในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงศตวรรษที่ 13-14

มีวิธีการผลิตที่ไม่เหมือนใคร วิธีการผลิตคือการหมักข้าว จากนั้นนำข้าวมอลต์ที่ได้จากการหมักนำมาหมักผสมกับน้ำ โดยใช้เครื่องกลั่นแบบง่ายในการกลั่น ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่มีพื้นฐานแบบเดียวกันกับเมื่อ 600 ปีก่อน

ด้วยวิธีการผลิตนี้ เหล้าอาวาโมริจึงเป็นเหล้ากลั่นแท้ 100% โดยไม่มีการปรุงแต่งใดๆ เพียงแค่จิบก็สดชื่นได้กลิ่นหอม และรสเข้มของเหล้า นุ่มลิ้น ดื่มง่าย ไร้อาการเมาค้าง เป็นที่ชื่นชอบในบรรดาหนุ่มสาว

นอกจากนี้เหล้าอาวาโมริหลังจากการกลั่น จะถูกนำไปบ่มไว้เป็นเวลานาน ยิ่งบ่มนานยิ่งได้รสละมุน กลายเป็นเหล้าอาวาโมริชั้นยอด

ปัจจุบันมีผู้ผลิตเหล้าอาวาโมริในโอกินาวามากถึง 46 ราย ที่สามารถผลิตได้ทั้งปี มีรสชาติและกลิ่นของเหล้าให้ลิ้มลองมากมาย อาทิ กลิ่นกุหลาบ วานิลลา คาราเมล เห็ดมัตสึทาเกะ น้ำตาลอ้อย แอปเปิ้ล ลูกแพร์ ช็อกโกแล็ต กาแฟ ฯลฯ

นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำ ปราศจากน้ำตาล ทำให้ไม่เป็นภาระแก่ผู้ที่รักสุขภาพ นอกจากนี้ยังดื่มได้เข้ากันกับอาหารไทย อาทิ ไก่ย่าง ส้มตำ ทอดมัน ได้อย่างลงตัว

ทั้งนี้ใครจะรู้บ้างว่าเหล้าอาวาโมริ ผลิตจากข้าวที่ปลูกในประเทศไทย ที่มีความแข็ง เม็ดเรียบ ซึ่งจะเป็นการดีอย่างยิ่ง หากคนไทยจะหันมานิยมเหล้าอาวาโมริกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะได้รสชาติแท้ๆแบบญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้มีการส่งออกข้าวจากไทยไปสู่ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย

เห็นอย่างนี้แล้ว ครั้งหน้าอย่าลืมเลือก ‘เหล้าอาวาโมริ’ เป็นตัวสร้างสีสันและมิตรภาพให้กับปาร์ตี้ของคุณนะคะ!

 

เที่ยวแบบความเร็วสูงจากโตเกียว ถึงโอซาก้า ด้วย Shinkansen

เที่ยวแบบความเร็วสูงจากโตเกียว ถึงโอซาก้า ด้วย Shinkansen

          เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไปเพียงแค่ฝั่งคันโต (โตเกียว) หรือฝั่งคันไซ   (โอซาก้า) ฝั่งใดฝั่งหนึ่งเท่านั้น แต่หลายคนอยากจะล้ำกว่านั้น ด้วยการไปทั้งทีเอาให้ครบสิ่ แน่นอนว่าญี่ปุ่นประเทศที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำ และการเดินทางแสนสะดวกสบายด้วยรถไฟหัวกระสุน ที่ได้ชื่อว่าเป็นรถไฟที่เร็วที่สุดในโลกอย่าง “ ชินคันเซ็น ” (Shinkansen) ที่จะทำให้เราสามารถเที่ยวได้ทั้งโตเกียวและโอซาก้าได้ในทริปเดียว น่าสนใจใช่ไหมคะ? แล้วถ้าไปแล้วต้องไปโดนที่ไหนบ้างนะ ? วันนี้เราได้รวบรวมจุดเช็คอินสุดฮิตจากโตเกียวถึงโอซาก้า ที่ไปแล้วต้องห้ามพลาด ตามมาดูพร้อมกันเลย! 

 

โตเกียว (Tokyo)

พิกัด : โตเกียว ญี่ปุ่น  

            เมืองหลวงมหานครแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย ที่มักเป็นจุดเริ่มต้นของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวญี่ปุ่น แหล่งรวบรวมทั้งที่เที่ยว กิน ช้อป ครบทุกรูปแบบ ซึ่งหากมาที่นี่แล้วต้องห้ามพลาดที่ไหนบ้างไปดูกัน

 

วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple)

อาซากุสะ

ที่มีชื่อเป็นทางการว่าวัดเซนโซจิ วัดพุทธที่ตั้งอยู่ที่ย่านอาซากุสะ หากมาแล้วก็อย่าพลาดที่จะถ่ายรูปคู่กับ “โคมแดง” ขนาดใหญ่ยักษ์ และแวะชิม ช้อปที่ถนนนากามิเสะ ระหว่างทางเข้าวัด โดยเฉพาะขนมปังเมล่อนเจ้าเด็ด ที่เขาว่ามาถึงแล้วต้องกินให้ได้เลยหล่ะ

อาซากุสะ

 

โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)

โตเกียวสกายทรี

ไม่ไกลจากวัดอาซากุสะ เราสามารถมองเห็นหอคอยกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์ที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 634 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่กลางโตเกียว ตอนเห็นไกลว่ายิ่งใหญ่แล้ว พอเข้ามาใกล้ๆมันยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ ที่นี่เราสามารถขึ้นลิฟท์ความเร็วสูงไปชมวิวของเมืองโตเกียวแบบ 360 องศา หรือแวะจิบเครื่องดื่มร้อนๆที่คาเฟ่ด้านบนก็ไม่เลวนะคะ

 

ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)

            ขยับออกมานอกโตเกียวกันสักนิด เพื่อชื่นชมความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวากุจิโกะ ทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 จากทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ ดื่มด่ำกับความสวยงามและบริสุทธิ์ของธรรมชาติ กับทัศนียภาพที่ยิ่งใหญ่ ถ้าคิดว่าภาพที่เราได้เห็นจากในอินเตอร์ว่าสวยแล้ว ของจริงสวยกว่าหลายเท่ามาก ของแบบนี้ต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ

            เดี๋ยวนี้การเที่ยวทั้ง 2 เมืองใหญ่ สำหรับคนที่ไม่มีเวลาก็ไม่ต้องจองหรือวางแผนเองให้เหนื่อยแล้วค่ะ เพราะบริษัท ทัวร์ครับ เขามีบริการทัวร์โอซาก้าและโตเกียวในทริปเดียว ที่รวมค่าบัตรชินคันเซ็นเรียบร้อยแบบเบ็ดเสร็จ พร้อมด้วยไกด์คอยบริการตลอดทริป ไม่ว่าจะขึ้นหรือลงรถไฟ เที่ยวสบายหายกังวลในราคาสบายกระเป๋า

 

จองแพ็คเกจทัวร์เที่ยวโตเกียว – โอซาก้า ได้ที่นี่

 

โอซาก้า (Osaka)

พิกัด : โอซาก้า , ญี่ปุ่น

นั่งรถไฟชินกันเซ็นประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อมายังอีกเมืองเศรษฐกิจสำคัญของประเทศญี่ปุ่นในภูมิภาคคันไซ และเป็นเมืองประวัติศาสตร์สำคัญในอดีต ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงมากมาย และห้ามพลาดต้องแวะ…

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

ปราสาทโอซาก้า

ปราสาทโบราณที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1583 อดีตเคยเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของปราสาท ที่ตื่นตาและน่าสนใจทีเดียว

 

ชินไซบาชิ (Shinsaibashi Shopping Street)

Cr.https://flic.kr/p/R9ivXf

ชินไซบาชิ

แวะช้อปปิ้งก่อนกลับที่ถนนชินไซบาชิ เต็มไปด้วยร้านค้าของใช้ ของฝาก ตลอดถนนที่ยาวถึง 580 เมตร ทั้งร้านขนม สินค้าชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ชีสเค้กในตำนานอย่าง Pablo Cheesecake รสชาตินุ่มลิ้นที่ใครไปแล้วต้องกิน หรือจะเป็นร้าน Luke’s กับเมนูแซนวิสกุ้งล็อบเตอร์และปูแบบจัดเต็ม ที่ต้องต่อแถวยาวกว่าจะได้กิน แค่คิดก็หิวจนน้ำลายไหลแล้วค่ะ

 

โดทงบุริ  (Dotonburi)

กูลิโกะแมน

เดินมาอีกนิดนึง ก็จะเจอกับอีกหนึ่งย่านช้อปปิ้งที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของโอซาก้า ถ้าเอ่ยถึง “ป้ายกูลิโกะ” (Gulico Running Man) ต้องร้อง อ๋อกันอย่างแน่นอน เพราะว่าใครที่นี่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ ใครไปโอซาก้าต้องไปถ่ายรูปคู่กับป้ายกูลิโกะกันเกือบทุกคน ต่อด้วยแวะชิม “ทาโกะยากิ” หรือ “โอโคโนมิยากิ”  (พิซซ่าญี่ปุ่น) ชื่อดังในดินแดนต้นตำหรับ ให้เลือกกินกันหลายร้านเลยค่ะ

ยังมีที่เที่ยวหลายแห่งในโตเกียว – โอซาก้าที่น่าสนใจ แต่ถ้าใครอยากจะไปดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมืองอย่างจริงจัง ก็สามารถเลือกไปเที่ยวเมืองใดเมืองหนึ่งก็ได้นะคะ ทัวร์ครับ ยังมีแพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่นราคาประหยัดอีกมากมาย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ https://tourkrub.co/recommend/ทัวร์ญี่ปุ่น-โตเกียว-โอซาก้า

ตะลุย ‘ไต้หวัน’สวรรค์ของ STREET FOOD

 ไปหาของกินที่ ‘ไต้หวัน’ กันเถอะ!! นอกจากชาไข่มุกแล้ว ที่นี่ยังเป็นสวรรค์ของ street food ให้ได้ชิมเยอะแยะเลย พร้อมแล้วไปลัดเลาะหาของกินยามค่ำคืนที่ตลาดในไต้หวันกันดีกว่า!!

ชาไข่มุก ที่มีร้านอยู่แทบจะทุกมุมเมือง ถ้าจะให้ดีต้องซื้อชิมร้านละแก้วไปเลย

 

สุดยอดเอกลักษณ์ของไต้หวัน ‘เต้าหู้เหม็น’ เหม็นแค่ไหนถามใจดู??

 

เกี๊ยวน้ำ ลูกชิ้นไส้ต่างๆ กินกับน้ำซุปร้อนๆ คล่องคอดีทีเดียว

 

อันนี้ดูเหมือนเหมือนพวกกุ่ยช่ายบ้านเราเลย

 

ทำกันสดๆ พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้ชิม

 

ข้าวโพดปิ้งราดซอสรสต่างๆ ทั้งแบบคาว และะแบบหวาน อร่อยเว่อๆๆๆ

 

ไอติมถั่วตัดผักชี เป็นของที่ไม่น่าเข้ากัน แต่รับประกันอร่อยสุดๆ

 

ปลาหมึกทอดตัวใหญ่ไซส์บิ๊กบึ้ม ฟินสะใจมาก

 

ผลไม้สด มีชมพู่ น้อยหน่า เหมือนบ้านเราเลย
น้ำมะระ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่เห็นแล้วขมคอเลย
ปลาหมึกตัวใหญ่ราดซอสสูตรเฉพาะ น่ากินจัง

 

ไส้กรอกสารพัดแบบ มีหลายเนื้อให้เลือกเลย
กุนเชียงย่าง มันก็จะเลี่ยนๆหน่อย