เกาะพะงัน

มนต์เสน่ห์พะงัน เกาะแห่งพลังจันทรา วันไร้ฟูลมูน

พระจันทร์หลากสีที่เกาะพะงัน หลายๆคนคงรู้จักพะงันในเรื่องของปาร์ตี้ฟูลมูน แต่พะงันไม่ได้มีดีแค่ฟูลมูน ทะเลที่พะงันก็สวยงามไม่แพ้ที่อื่น และเรื่องราวของที่นี่ก็มีเสน่ห์และควรค่าแก่การมาสัมผัสซักครั้ง

เกาะพะงันถูกแบ่งแนวคิดในการท่องเที่ยวออกทั้งหมด 5 โซน รอบเกาะ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่างกันไป โดยแบ่งตามนี้

  • ผสมผสาน lifestyle ทันสมัย-สะดวก-ปลอดภัย
  • โซนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและประวัติศาสตร์
  • โซนวิถีชีวิต
  • โซนสุขภาพ จิต วิญญาณ
  • โซน Night Life สนุกสนาน บันเทิง

ไทยแลนด์อินดี้ขอนำเสนอรูปแบบการเที่ยวตามแนวคิดพระจันทร์หลากสี บนเกาะพะงัน เพื่อให้ผู้อ่านได้เลือกเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวตามสไตล์ที่ตัวเองชอบค่ะ โดยทั้งหมดนี้ใช้เวลาอยู่บนเกาะ 3 วัน 2 คืนค่ะ

ผสมผสาน lifestyle ทันสมัย-สะดวก-ปลอดภัย

โซนนี้จะประกอบไปด้วย กลุ่มหาดในวก, หาดท้องศาลา, หาดบางจะรุ, หาดบ้านใต้, หาดบางน้ำเค็ม, บ้านค่าย และหาดหินล่อ

ที่หาดบ้านใต้มีวิวทะเลที่สวยงาม

หาดบ้านใต้
หาดบ้านใต้

ไกลสุดลูกหูลูกตาเราจะมองเห็นเกาะสมุย

หาดบ้านใต้
หาดบ้านใต้ วิวจากจันทรมัส รีสอร์ต แอนด์ สปา ในตอนเย็น

เราพักที่หาดบ้านใต้ รีสอร์ทจันทรมัส พักที่นี่ก็เต็มอิ่มกับบรรยากาศแล้ว รีวิวไว้ด้านล่างค่ะ


 

โซนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและประวัติศาสตร์

ประกอบไปด้วย กลุ่มหาดท้องนายปานน้อย, หาดท้องนายปานใหญ่, หาดธารเสด็จและหาดทองเหรง

พะงันเป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประภาสถึง 14 ครั้ง และได้ทรงจารึกตราประจำพระองค์ไว้ด้วย

พลับพลาที่ประทับ
พลับพลาที่ประทับ
อ่าวธารเสด็จ
ธารเสด็จ ตราประทับประจำพระองค์, อักษรจีน และพลับพลาที่ประทับ

อ่าวธารเสด็จ
อ่าวธารเสด็จ

อ่าวธารเสด็จ เป็นอีกหนึ่งสถานที่บนเกาะพะงันที่สวยมาก น้ำใสน่าเล่นมากๆค่ะ อ่าวธารเสด็จ


 

โซนวิถีชีวิต

ประกอบด้วย กลุ่มหาดสลัด, หาดแม่หาด, หาดทองหลาง, อ่าวหินงาม, อ่าวโฉลกหลำ, หาดขอม, และหาดขวด

หาดแม่หาด ตอนน้ำลงเราจะสามารถเดินแหวกทะเลไปยังเกาะม้าได้ เราจะได้เห็นทะเลแหวกในช่วงที่น้ำลง แนะนะช่วง 9-10 โมงเช้ากำลังดี

หาดแม่หาด ทะเลแหวก เกาะพะงัน
หาดแม่หาด ทะเลแหวก เกาะพะงัน
หาดแม่หาด ทะเลแหวก เกาะพะงัน
โรแมนติกเกิ๊นนน เราอิจฉาค่ะ
หาดแม่หาด ทะเลแหวก เกาะพะงัน
หันไปทางไหนก็มีแต่คนมีคู่

เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นที่สวยที่สุด ทั้งปะการังอ่อน ปะการังโขด ปารังสมองร่องยาว ปะการังผิวยู่ยี่ และฝูงปลาหลากหลายชนิด หาดแม่หาด ทะเลแหวก เกาะพะงัน

น้ำน่าโดดมากๆ
หาดแม่หาด ทะเลแหวก เกาะพะงัน

แวะสักการะ เสี่ยงเซียมซีที่ศาลเจ้าแม่กวนอิม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บนเกาะพะงัน ตั้งอยู่ที่บ้านโฉลกหลำ

ศาลเจ้าแม่กวนอิม
ศาลเจ้าแม่กวนอิม

ศาลเจ้าแม่กวนอิม

พะงันเพียบพร้อมทั้งในด้านวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ อาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์

อาหาร เกาะพะงัน
อาหารหลากหลายมาก น่ากินทุกอย่างเลย

มาดูการถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตของเกาะพะงัน ผ่านรูปภาพทั้งภาพถ่าย ภาพวาด และงานศิลปะอื่นๆ ถูกจัดแสดงไว้บนเรือรบหลวงพะงันเรื่องราววิถีชีวิตเกาะพงัน

การทำผ้ามัดย้อม ผ้ามัดย้อม

ผ้าแต่ละผืนจะมีเพียง 1 ตัวในโลกเท่านั้น เพราะทุกผืนจะเป็นการทำมือ ไม่มีซ้ำแน่นอนค่ะ

ผ้ามัดย้อม
ผ้ามัดย้อม

แวะชมสวนลุงสฤษด์ โชติช่วง ลุงทำเกษตรอินทรีย์แบบไม่ใช้สารเคมี วันนี้ลุงมาสาธิตวิธีการเก็บผึ้งโพรง ซึ่งผึ้งโพรงที่สวนลุงจะเลี้ยงแบบธรรมชาติ ให้ผึ้งหากินน้ำหวานเอง โดยในสวนลุงจะมีต้นมะพร้าว น้ำหวานที่ผึ้งกินส่วนใหญ่จึงเป็นน้ำหวานจากจั่วมะพร้าวผึ้งโพรง

ผึ้งโพรง
ผึ้งโพรง

ผึ้งโพรง


 

โซนสุขภาพ จิต วิญญาณ 

โซนนี้จะประกอบไปด้วยกลุ่มหาดเจ้าแหลม หาดวกตุ่ม หินกอง, หาดศรีธนู, หาดเจ้าเภา, หาดสน, หาดดาวดึก, หาดยาว, หาดเทียน, และหาดกรวด

เกาะราฮัม หาดสน

เกาะราฮัม หาดสน
เกาะราฮัม เรสเตอรอง หาดสน
เกาะราฮัม หาดสน
สะพานในร้านเกาะราฮัมเรสเตอรอง สามารถข้ามไปดูวิวสวยๆได้
เกาะราฮัม หาดสน
หาดสวยน้ำใสมากค่พ
เกาะราฮัม หาดสน
น้องหมาวิ่งเล่นสนุกใหญ่เลย

เกาะราฮัม หาดสนมีร้านอาหารที่มีหลายมุมให้เลือก บรรยากาศริมทะเล วิวดีมากค่ะ
เกาะราฮัม หาดสน

หาดเจ้าเภา ที่นี่มีโรงเรียนสอนโยคะที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดีหาดเจ้าเภา

หาดเจ้าเภา
น้ำมะม่วง เด็ดดี คู่พะงัน

พะงันมีโรงเรียนสอนโยคะมากมายเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เป็นกิจกรรมที่อยู่คู่กับเกาะพะงันมายาวนาน เราได้เก็บบรรยากาศการเล่นโยคะริมทะเลมาฝาก รับพลังจากแสงอาทิตย์ยามเย็น

กิจกรรมโยคะ เกาะพะงัน
กิจกรรมโยคะ เกาะพะงัน

กิจกรรมโยคะ เกาะพะงัน

เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมเป็นอย่างมากกิจกรรมโยคะ เกาะพะงัน

หาดเจ้าเภา
เก็บบรรยากาศรอบหาดมาฝาก

นอกจากกิจกรรมโยคะแล้ว ยังมีโรงเรียนสอนมวยไทยอยู่ประปรายบนเกาะ ถ้านั่งรถผ่านก็จะเห็นหนุ่มๆต่างชาติกับชุดมวยไทย ดูน่ารักไปอีกแบบนะคะ


 

โซนสุดท้าย Night Life สนุกสนาน บันเทิง

กลุ่มหาดบางสน, หาดริ้นใน, หาดสีกันตัง, หาดลีลา, หัวแหลม, หาดริ้นนอก, หาดคนที, หาดยวน, หาดเทียนตะวันออก, หาดยาวตะวันออก, และหาดหวายน้ำ

ปาร์ตี้ฟูลมูนที่พะงันนับเป็นบีชปาร์ตี้ชั้นนำของโลก ทุกวันนี้ปาร์ตี้ฟูลมูนได้รับการเจียรไนให้มีคุณค่ามากขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สนุกสนานและปลอดภัยแน่นอนค่ะ ปาร์ตี้ฟูลมูนจะจัดที่หาดริ้น เกาะพะงัน
หาดริ้น เกาะพะงัน

วันที่เราไปแม้จะไม่มีปาตี้ฟูลมูน แต่เราก็สามารถไปสัมผัสกับชายหาดสีขาวและทะเลน้ำใสๆ มุมสงบในวันที่ไม่มีฟูลมูนปาร์ตี้

หาดริ้น เกาะพะงัน
หาดริ้น เกาะพะงัน

มุมกีฬาก็มา

หาดริ้น เกาะพะงัน

แม้จะเป็นหาดที่ใช้จัดฟูลมูนปาร์ตี้ แต่ในวันที่ไม่มีปาร์ตี้ที่นี่ก็มีเสน่ห์ไม่เบานะคะ เงียบสงบ น่าพักผ่อนหาดริ้น เกาะพะงัน

 


 

พักที่ไหน “จันทรมัส รีสอร์ต แอนด์ สปา” (Chantaramas Resort & Spa)

นี่เลย “จันทรมัส รีสอร์ต แอนด์ สปา” โรงแรมติดหาดบ้านใต้ บรรยากาศเงียบสงบ วิวดี เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่งจันทรมัส รีสอร์ต แอนด์ สปา

จันทรมัส รีสอร์ต แอนด์ สปาเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นไม้ ห้องตกแต่งได้อบอุ่นดี ด้วยแสงไฟสีส้ม แต่เรารู้สึกว่ายากกับการแต่งหน้านิดนึง เพราะแสงไฟในห้อง อาจต้องเปิดผ้าม่านเพื่อให้ได้แสงธรรมชาติจันทรมัส รีสอร์ต แอนด์ สปาห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน มีอ่างอาบน้ำ ห้องส้วมและห้องอาบน้ำเป็นกระจกใส นอกจากนี้ยังสามารถเปิดออกไปด้านนอกได้ ซึ่งจะมีโซนให้สามารถยืนอาบน้ำท่ามกลางวิวสวนได้จันทรมัส รีสอร์ต แอนด์ สปา

สำรวจรอบๆจันทรมัส รีสอร์ต แอนด์ สปา

มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งริมชายหาด

จันทรมัส รีสอร์ต แอนด์ สปา

ชอบโซนริมหาด ตกแต่งด้วยผ้าสีขาวดูน่ารักดีค่ะ มีหลายส่วนให้เลือกใช้สอย

ห้องอาหารเปิดโล่ง พื้นที่กว้างพอสำหรับแขก จันทรมัส รีสอร์ต แอนด์ สปา สำหรับมื้อเช้าที่โรงแรม เริ่ม 07:00 – 10:00 น. มีอาหารให้เลือกหลากหลายมีทั้งสไตล์ไทยและเทศ จันทรมัส รีสอร์ต แอนด์ สปา

ชอบสไตล์การตกแต่งค่ะ น่ารักดี

กินอะไรดีที่พะงัน พะงันเป็นแหล่งอาหารทะเลที่สมบูรณ์มากแห่งหนึ่งของอ่าวไทย มาพะงันไม่กินอาหารทะเล ถือว่าพลาดค่ะ ร้านเด็ดขึ้นชื่อที่อยากแนะนำ ตามนี้เลยค่ะ

  • ร้านน้องวิว แถวหาดบ้านใต้ เกาะพะงัน ร้านนี้จุดเด่นคือ มีอาหารจานเดียว ราคาเดียวที่ 50 บาท ส่วนอาหารอื่นๆก็ราคาปกติ ส่วนตัวชอบแกงส้มน้ำข้นอร่อยมาก และเผ็ดมากเช่นกัน
ร้านอาหารน้องวิว เกาะพะงัน
ร้านอาหารน้องวิว เกาะพะงัน
  • ร้านอาหารอุ่นใจซีฟู๊ด อยู่แถวหาดโฉลกหลำ ที่นี่ซีฟู้ดเด็ดทุกอย่าง สด ใหม่ เนื้อแน่นๆ
    สัมผัสบรรยากาศริมทะเล มองออกไปเป็นทะเลน้ำใสมาก
    เมนูเด็ดที่ชอบคือปลาหมึกทอดกระเทียม buy tramadol ด้วยความที่เราจัดฟัน จะไม่ค่อยชอบกินปลาหมึกเพราะเคี้ยวยาก แต่ปลาหมึกที่นี่ไม่เลย เคี้ยวง่ายไม่เหนียว อร่อยด้วย , กุ้งย่างเกลือ เนื้อกุ้งสดมากหวานๆ เค็มๆ เข้ากันดีค่ะ, เมนูปลาอะไรซักอย่าง รสชาติคล้ายฉู่ฉี่ อร่อยมากเช่นกัน
ร้านอาหารอุ่นใจซีฟู๊ด เกาะพะงัน
ร้านอาหารอุ่นใจซีฟู๊ด เกาะพะงัน
  • Fisherman’s Restaurant & Bar ตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านชาวประมง บนถนนเลียบหาดบ้านใต้ ที่นี่ตกแต่งร้านได้น่ารักและโรแมนติกมาก กับบรรยากาศริมทะเล ในคืนที่ไร้ดวงจันทร์ มองออกไปที่ทะเลเราจะเห็นดาวเยอะมาก เต็มท้องฟ้า
    ถ้าพูดถึงรสชาติอาหาร ที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้ที่อื่นๆ นอกจจากนี้ยังมีระดับความเผ็ดของอาหาร เป็นคนไทยหรือต่างชาติ พนักรับออเดอร์จัดให้ค่ะ ที่สำคัญที่นี่บริการดีมากค่ะ
Fisherman's Restaurant & Bar
Fisherman’s Restaurant & Bar
  • ร้านขนมจีนป้าตุ๋ย เกาะพะงัน แม่ค้าน่ารักอารมณ์ดี แวะกินก่อนขึ้นเรือกลับสมุย
    ขนมจีนน้ำยา มี 3 อย่าง คือ กะทิ น้ำพริก แกงไตปลา ส่วนผักเป็บแบบบุฟเฟต์ ยกมาทั้งถาด มีถั่วงอกดองที่เข้ากันดีกับน้ำยาขนมจีน ป้าตุ๋ยจะราดน้ำยากะทิให้ก่อน แล้วตักน้ำยาไตปลาและน้ำพริกเป็นถ้วยมาเสิร์ฟทีหลัง ผสมกินกับน้ำยากะทิ อร่อยดีค่ะ modalert 200mg น้ำแกงไตปลาก็อร่อย แต่เผ็ดมากสำหรับคนไม่ทานเผ็ดอย่างเรา
ร้านขนมจีนป้าตุ๋ย เกาะพะงัน
ร้านขนมจีนป้าตุ๋ย เกาะพะงัน
  • มาต่อกันที่ของหวานกันหน่อย สุดท้ายจริงๆ ก่อนกลับกรุงฯ ร้าน Nira’s Home Bakery ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือท้องศาลา สำหรับใครที่มารอเรือนาน สามารถแวะมานั่งกินกาแฟและขนมได้ แนะนำ antibiotics for sale online บลูเบอรี่ชีทเค้กและเค้กกล้วยหอมโฮมเมด เนื้อเนียนละเอียดอร่อยมากค่ะ ที่นี่มี wifi และหนังสือให้หยิบอ่านได้ ร้านมีขนาดใหญพอสมควร สามารถรองรับการมาเป็นหมู่คณะได้ค่ะ

    Nira's Home Bakery
    Nira’s Home Bakery

บายๆเกาะพะงัน สัญญาเราจะกลับไปอีก

เรือเร็วเกาะพะงัน-สมุย
วิวบนเรือ

ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ

ราคาเรือจากเกาะสมุยไปพะงัน 300 บาท ส่วนเวลาเดินเรือ ตามภาพเลยค่ะเรือไปเกาะพะงัน

เที่ยวพะงันรอบนี้เรียกว่าคุ้ม ไปที่เดียวแต่ได้เที่ยวเยอะมาก ไม่ว่าจะด้านบันเทิง ด้านประวัติศาสตร์ และอื่นๆ รีวิวหน้าพบกันใหม่นะคะ sunday.morning

สะพานข้ามแม่น้ำแคว

ไปเที่ยวกัน ไปเที่ยวกาญ

ทริปนี้ไม่มีแพลน ทริปนี้อยากไปก็ไป เนื่องด้วยเราไม่ว่างวางแผนการเที่ยวรอบนี้ มีเวลาเข้าไปค้นหาแผนที่สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี และได้ดาวน์โหลดมาจากเว็บไซต์ http://www.paiduaykan.com/

เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ เราขับรถไปกันเอง ออกเดินทางประมาณ 7โมงเช้า

สถานที่แรกเริ่มต้นที่ “อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์” สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แหล่งเรียนรู้ความเป็นมาจากสถาปัตยกรรมการสร้างปราสาทขอม ที่นี่จะต้องเสียค่าธรรมเนียมสำหรับการเข้าชมด้วยค่ะ โดยเราจะได้แผนที่มาคนละ 1 ใบ

อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์

อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์

ที่นี่บรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ อากาศเย็นสบาย
อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์

ต่อกันเลยกับสถานที่ที่ 2 “สถานีรถไฟถ้ํากระแซ” อยู่ไม่ห่างกันมากนักขับรถออกจากอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ จะมีป้ายบอกทาง ไปง่ายๆเลยค่ะไม่ยาก สถานีรถไฟถ้ํากระแซ เป็นอีกหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะ

จะต้องข้ามทางงรถไฟไปอีกฝั่งแล้วเลี้ยวซ้ายขขับเลียบทางรถไฟ ตรงไปเลยค่ะ สถานีรถไฟถ้ํากระแซ

มาถึงแล้ว แต่รถไฟยังไม่มา ก็เดินสำรวจชมสถานที่รอบๆ ที่  “สถานีรถไฟถ้ํากระแซ” มีรีสอร์ทอยู่ด้วย และก็มีกิจกรรมให้ทำ เช่นโดดหอ และอื่นที่จำไม่ได้ (แฮ่ๆ)
สถานีรถไฟถ้ํากระแซ

รอรถไฟขาไปนานมาก ซักพักก็มีรถไฟขากลับ ก็วิ่งไปแชะภาพ

สถานีรถไฟถ้ํากระแซ
รถไฟสายมรณะ

จริงๆตั้งใจไปขึ้นรถไฟสายมรณะมาก แต่เรารอนานเกินไป ถึงแม้ว่าจะตรวจสอบเวลาเดินรถแล้ว แต่ก็พลาด เพราะข้อมูลที่มีในหลายๆเว็บก็ยังไม่ถึูกกต้อง หรือแม้แต่ข้อมูลเวลาเดินรถที่สถานีเองก็ตาม ถ้าใครมีข้อมูลที่ถูกต้องอัพเดทช่วยบอกด้วยนะคะ เพื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆที่ต้องการไปเที่ยว

แม้ว่าจะพลาดการขึ้นรถไฟในครั้งนี้ แต่ก็ไม่เสียดายกับการเห็นรถไฟวิ่งผ่านเส้นทางที่รู้สึกว่าหวาดเสียวที่สุดแล้ว amazing จริงๆนะเออ

นี่ก็บ่าย 3 แล้ว ไปดีกว่า มุ่งหน้าตรงไปที่น้ำตกไทรโยค ระหว่างทางก็เก็บวิวบรรยากาศข้างทางไปด้วย ช่วงนี้อากาศก็เริ่มเย็นแล้ว อากาศดีมากๆกาญจนบุรี กาญจนบุรี

ขับรถค่อนข้างไกลพอสมควร กว่าจะถึง สุดท้ายเราก็มาถึงแล้ว ในใจก็ผิดหวังนิดนึงเพราะรู้สึกว่าน้ำน้อยไป

น้ำตกไทรโยค
น้ำตกไทรโยค

ที่นี่มีแพลากให้เราได้เล่นน้ำด้วย ซึ่งความสนุกน่าจะอยู่ที่ตรงนั้นน้ำตกไทรโยคน้ำตกไทรโยค

สะพานข้ามไปอีกฝั่งเพื่อจะได้เห็นวิวน้ำตกในมุมที่สวยขึ้น

ที่นี่มีโซนให้กางเต้นท์นอนด้วยนะคะ แต่เราเห็นค่อนข้างมืดทีเดียวและยุงก็เยอะมาก ห้องน้ำไฟไม่ติดบางห้อง จะได้เข้าห้องน้ำที่ดูสลัวๆหน่อย สำหรับใครจะเตรียมอาหารมาจากข้างนอกก็มีโต๊ะม้านั่งให้นั่งอยู่ข้างน้ำตกด้วยค่ะ ส่วนข้างในก็มีอาหารขาย แต่จะอยู่ข้างนอกบริเวณที่จอดรถ

เล่นน้ำตกกันจนมืด ก็ได้เวลากลับ แต่ปัญหาคือยังไม่มีที่พัก เราก็ขับรถตั้งใจกลับเข้าไปในตัวอำเภอไทรโยค ขับไปได้ซักพักยังไม่ถึงตัวอำเภอ ก็เจอป้ายบอกรีสอร์ทหนึ่ง เราก็จอดรถ แล้วเข้าไปถาม โชคดีจริงๆมีห้องว่างพอดี คืนละ 500 บาท ก็ไม่รอช้าจ่ายเงินแล้วเข้าพักทันที

ตื่นเช้ามาอีกวันเราแพลนไปน้ำตกเอราวัณค่ะ ซึ่งต้องย้อนขึ้นไปอีก ถ้าใครจะตามก็ดู google map ได้เลยค่ะ ไปไม่ยากเพราะป้ายบอกทางมีบอกชัดเจนนอยู่แล้ว

แต่ลืมไปว่าก่อนถึงน้ำตกเอราวัณ เราก็ขอแวะไปชมวิวเขื่อนศรีนครินทร์ซักหน่อย บรรยากาศข้างทางยามเช้า เคล้ากับสายหมอกบางๆ อากาศดีๆค่ะกาญจนบบุรี

กาญจนบบุรี

ระหว่างทางเจอควานช้างเอาช้างออกมาหากินด้วย

กาญจนบบุรี ทางขึ้นเขื่อนศรีนครินทร์

ถึงแล้วเขื่อนศรีนครินทร์ แม้ว่าจะเริ่มสาย แดดออกแล้ว แต่วิวก็ยังสวยอยู่ดี

เขื่อนศรีนครินทร์
เขื่อนศรีนครินทร์

เขื่อนศรีนครินทร์

ออกจากเขื่อนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าต่อไปยังน้ำตกเอราวัณ

มาถึงที่จอดรถแล้ว ต้องเดินไปอีกประมาณ 1กิโลเมตร ถึงจะถึงน้ำตกชั้นที่ 1

น้ำตกเอราวัณ
น้ำตกเอราวัณชั้นที่ 1

น้ำตกเอราวัณ

น้ำใสมากและปลาก็เยอะมากเช่นกันน้ำตกเอราวัณน้ำตกเอราวัณมีทั้งหมด 7 ชั้น ใครสามารถก็ลุยเลยค่ะ ส่วนเราเดินถึงชั้นที่ 5 ก็จอดแล้ว อีกอย่างรู้สึกว่ายิ่งไปชั้นที่สูงขึ้นเท่าไหร่ก็รู้สึกว่าน้ำน้อยลงเรื่อยๆ เลยไม่เดินต่อ ทางขึ้นจากชั้นที่ 2 ขึ้นไป จะมีช่วงที่ค่อนข้างชันพอสมควร อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่ระหว่างทางขึ้นก็จะมีจุดพักบ้าง มีวิวให้ชมบ้าง เพลินๆค่ะ ถ้าชอบถ่ายรูป

น้ำตกเอราวัณ
น้ำตกเอราวัณชั้น 4

ชั้น 4 มีสไลด์เดอร์จากธรรมชาติให้เล่นด้วย สนุกกันใหญ่เลยน้ำตกเอราวัณ

กลับแล้ว แอบเห็นรถโดยสารด้วย สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถโดยสารก็ไม่ต้องกังวลเพราะมีบริการอยู่แล้ว สำหรับที่น้ำตกชั้นที่ 1 จะมีร้านค้าขายน้ำและอาหารด้วย หากใครไม่ได้เตรียมไปสามารถไปซื้อที่นั่นได้ ราคาก็ปกติทั่วไป

มาตอนนี้ก็เริ่มเหนื่อย หิว และขี้เกียจแล้ว แต่ยังไงก็ต้องผ่านตัวเมืองอยู่แล้ว ก็เลยขอแวะซักหน่อย สะพานข้ามแม่น้ำแคว

สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว

มีอีกสถานที่ก็คือ สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก แวะซักหน่อย (ตรงข้ามกับสุสานมีร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อย)

สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก
สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก

จบแล้วทริปนี้ บายๆกาญจนบุรีนะจ๊ะ ยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ในจังหวัดกาญจนบุรีที่อยากไป แต่ด้วยเวลาที่มีอย่างจำกัด ก็จบทริปกาญด้วยเวลา 2 วัน 1 คืน กับ 7 สถานที่

ปล.ใครไม่อยากเสี่ยงหาที่พักดาบหน้าเหมือนเรา แนะนำจองที่พักก่อนก็ได้ค่ะ เพราะมืดๆต่างจังหวัดก็ลำบากไม่น้อยนะ โดยเฉพาะกับหญิงล้วนอย่างเรา

ที่พักกาญจนบุรี แนะนำเว็บจองผ่าน Traveloka  คลิกนี่ได้เลย https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/region/kanchanaburi-10000176 จองง่าย ไม่มีค่าธรรมเนียมในการจอง โปรโมชั่นเยอะด้วย

เกาะเกร็ด

เกาะเกร็ด เที่ยวชมชุมชนชาวมอญเก่า

เกาะเกร็ด ชุมชนชาวมอญเก่า มนต์เสน่ห์ของเมืองนนท์ ชุมชนเก่าแก่ ล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา

วันนี้มีโอกาสต้อนรับแขกผู้มาเยือนจากต่างจังหวัด เราต้องเดินทางไปรับเพื่อน แถวปากเกร็ด ในเวลาครึ่งวันเช้าของวันอาทิตย์ เรามีเวลาอีกครึ่งวันบ่าย ก็คิดว่าจะพาเพื่อนไปเที่ยวไหนดี สถานที่แรกที่นึกถึงเลย “เกาะเกร็ดไงเพื่อน” ไหนๆก็มาแถวนี้แล้ว ก็ไปสิ พูดแล้วก็หยิบมือถือ ค้นหาใน google ก่อน “การเดินทางไปเกาะเกร็ด” ก็เจอว่าจะต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือ “วัดสนามเหนือ” จากนั้นก็ทำการเปิด google map แล้วก็ตาม GPS เลย

มาถึงซอยทางเข้าแล้ว แต่ว่ารถติดมากกก ขับเข้าไปในซอย จะมีที่จอดรถหลายที่ทั้งในวัดและบ้านของชาวบ้านแถวนั้นที่เปิดบริการให้จอดรถ แต่ก็มีค่าบริการประมาณ 40-50 บาท แต่วันนี้ เราหาที่จอดรถไม่ได้เลย วิ่งเข้าไปในซอยลึกเรื่อยๆก็ไม่มีที่จอด เลยวนรถกลับคืนมาหน้าวัดก็ยังไม่มี สักพักมีลุงคนนึงยืนโบก เราก็รับบึ่งรถไปเลย ซึ่งตรงนั้นเป็นร้านขายเครื่องปั้นดินเผา ที่ใหญ่พอสมควร ลุงแกก็โบกรถเข้าไป ข้างในจะมีลานกว้าง และมีโรงจอดรถของร้านด้วย เราเข้ามามีรถจอดอยู่2-3คัน เดาว่าน่าจะเพิ่งเปิดให้เข้ามาจอด ซึ่งเราก็โชคดีมากที่ได้จอด จอดเสร็จก็จ่ายเงินไป 50 บาท

เดินเข้าไปที่ท่าเรือข้างวัดสนามเหนือ

ท่าเรือวัดสนามเหนือ ท่าเรือไปเกาะเกร็ด
ท่าเรือวัดสนามเหนือ ท่าเรือไปเกาะเกร็ด

คิวยาวมากๆเลย ระหว่างยืนต่อแถว ข้างๆก็มีอุปกรณ์กันแดดขายมากมาย ตั้งแต่แว่นตา หมวกหลากหลายแบบ บ่ายๆแบบนี้ อย่าถามว่าร้อนมั้ย ขอตอบเลยว่า มากกก

ขึนเรือไปเกาะเกร็ด
ขึนเรือไปเกาะเกร็ด

ยืนรอคิวซักพัก ก็ถึงคิวขึ้นเรือแล้วว คนเยอะมาก เรือไปเกาะเกร็ด

นู่นไงเกาะเกร็ดอยู่ไม่ไกล นั่งเรือไม่ถึง 5 นาที

ชุมชนริมน้ำเจ้าพระยา เกาะเกร็ด
วิวชุมชนริมน้ำเจ้าพระยา เกาะเกร็ด

ระหว่างทาง ชมวิวรอ

พอไปถึงเกาะแล้วก็ขึ้นฝั่ง จ่ายเงินค่าโดยสารคนละ 2 บาท

บนเกาะมีจักรยานให้เช่า 40 บาท หรือใครจะนั่งเรือเที่ยวชมรอบเกาะก็ได้ ราคาเท่าไหร่จำไม่ได้ ส่วนเราขอเดินแล้วกัน

วัดปรมัยยิกาวาส (วัดปากอ่าว)
วัดปรมัยยิกาวาส (วัดปากอ่าว)

วัดแรกที่เจอ “วัดปรมัยยิกาวาส (วัดปากอ่าว)” จะเจอเจดีย์ทรงรามัญที่จำลองแบบมาจากพระธาตุเจดีย์มุเตา เกาะเกร็ด

มีของขายมากมาย ของเล่นโบราณ ขนมโบราณ งานฝีมือ หยูกยาสมุนไพร พืชผลจากชาวบ้านในชุมชนร้านอาหารเกาะเกร็ด

เดินมาซักพัก เริ่มหิวละ แวะร้านก๋วยเตี๋ยวหน่อยนะ ชามที่เห็นในภาพ 30 บาท คีบประมาณ 3 คำ หมดละ คือมันน้อยมาก ชามเดียวพอ ตั้งใจจะเดินชิมอาหารแปลกๆ ที่ไม่เคยกินด้วย รองท้องไปก่อน เสร็จแล้วก็เดินต่อไป

งานฝีมือที่เกาะเกร็ด
งานฝีมือที่เกาะเกร็ด หัวโขน

เจอพี่เขาวาดหัวโขนอยู่ สวยๆมากๆ ค่ะ ส่วนด้านซ้ายล่าง เป็นการนำขยะมารีไซเคิล ใส่ไอเดียออกมา กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์เก๋ๆ

 

ขนมไทยเกาะเกร็ด
ขนมไทยโบราณ เกาะเกร็ด

ขนมไทยหน้าตาดีมาก บางอย่างไม่เคยได้ยินชื่อ ไม่เคยกินมาก่อน

เกาะเกร็ด
คุณยายนั่งทำขนมบ้าบิ่นจากเตาถ่าน
เกาะเกร็ด
ยาสมุนไพร เครื่องสำอางจากธรรมชาติ
ขนมไข่ปลา เกาะเกร็ด
การทำขนมไข่ปลา เกาะเกร็ด

เกาะเกร็ด

เดินชมนั่น ชมนี่จนเหนื่อยละ ก็เหลือบไปเห็นในซอยเล็กๆ มีท่าน้ำเขาเรียกอะไรไม่รู้ ที่เป็นศาลายื่นออกไป เราก็ไปนั่งพัก ก็ได้เห็นวิวสวยๆ จากฝั่งตรงข้าม

โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม
โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม

เดินสักพัก เจอป้าย เขียนประมาณว่า ศูนย์การเรียนรู้เครื่องปั้นดินเผา ประมาณนี้ เราก็เดินเข้าในซอย ตามป้าย จะเจอ “โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม” มายืนดูลุงเขาปั้น อยากลองทำมั่ง ดูสนุกดีค่ะ

โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม
โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม

เหนื่อยแล้วได้ ก็กลับกัน เดินย้อนกลับไปที่เดิม จริงๆมีท่าเรือหลายที่ แต่เรายังไม่แวะหลายที่เลย เดินย้อนกลับไปที่เดิม

เกาะเกร็ด
เกาะเกร็ด

บายๆ เกาะเกร็ด

เก็บตก

  1. ใครคิดจะเช่าจักรยาน อาจจะได้จูงในบางช่วง เพราะคนเยอะ ปั่นไม่ได้ ถ้ามาช่วงคนไม่เยอะน่าจะดีกว่า
  2. มีวัดเยอะมาก เดินไปไม่กี่เมตรก็มีวัด
  3. พืชทอดอร่อย ไม่แพง ซื้อเดินกิน ชิวๆ (เป็นการนำดอกไม้ใบไม้ อาทิ ดอกอัญชัน ใบชะพลู กุ้ง ปู หน่อกะลาทอด ฯลฯ ชุบแป้งทอด)
  4. ไอศกรีมกะทิสดรถเข็นก็อร่อย
  5. ควรเตรียมอุปกรณ์กันแดดไปนิดนึง แต่ช่วงเดินเข้าชุมชนไม่แดดแล้ว

 

รีวิวหน้าจะเป็นอะไรอย่าลืมมาติดตามกันนะคะ บายๆ sunday.morning

เชียงใหม่หน้าฝน ชิลไปตามสภาพอากาศ2วัน2คืน(วันที่2)

มาต่อวันที่ 2 ตามที่นัดไว้กับเพื่อนเป็นเวลา 8:00 น. แต่ก็เลทกันนิดหน่อย
ร้านโจ๊กต้นพยอม
เริ่มต้นมื้อเช้ากันที่ร้านโจ๊กต้นพยอม ซึ่งหมายตาไว้ตั้งแต่เมื่อวานแต่คิวยาวมาก วันนี้คนไม่ค่อยเยอะ จริงๆก็เยอะ แต่ยังพอมีโต๊ะว่าง
ร้านโจ๊กต้นพยอม ตั้งอยู่บนถนนสุเทพ ทางขึ้นดอยสุเทพ ร้านตั้งอยู่ซ้ายมือ สังเกตง่ายๆจะมีต้นพยอมอยู่หน้าร้าน

ร้านโจ๊กต้นพยอม
ร้านโจ๊กต้นพยอม

อาหารราคาไม่แพงค่ะมื้อนี้ประมาณ 160 บาทค่ะ มีโจ๊ก 3 ถ้วย และปาท่องโก๋ชุดนี้ ร้านนี้ไม่ได้มีแค่โจ๊กนะคะ ยังมีเครื่องดื่มอย่างชา กาแฟสด ด้วยค่ะ

วัดผาลาด
หลังจากทานมื้อเช้ากันเรียบร้อย อิ่มท้องเบาๆ ก็เดินทางมุ่งหน้าสู่ดอยสุเทพ ระหว่างทางขึ้นดอยสุเทพ จะมี “วัดผาลาด” หลายคนอาจไม่ได้สนใจกับวัดเล็กๆแห่งนี้ ที่ข้างทางดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เราก็ไปเจอว่าข้างในมีน้ำตกไหลผ่านด้วย

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
วิหารพระพุทธเจ้า 5

มีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา สร้างได้ลงตัวกลมกลืนกับธรรมชาติมากๆ

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาดถ้าอยากอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่ หน้าฝนน่าเที่ยว “วัดผาลาด” ลงตัวท่ามกลางธรรมชาติ (ถ้าไม่เขียนแยกรีวิวจะยาวเกินไป)

ดอยปุย

หลังจากเดินเที่ยวชมไหว้พระเรียบร้อยแล้ว ก็ไปต่อที่ดอยปุย ทางขึ้นดอยปุยจะค่อนข้างแคบหน่อยหากใครไม่มั่นใจจะขับเองก็สามารถจอดรถไว้แถวพระตำหนักภูภิงคฯ แล้วเหมารถแดงขึ้นไปก็ได้ค่ะ แต่จริงๆทางก็ไม่ได้น่ากลัวมากขนาดนั้นนะคะ ยังขับเองได้ ส่วนเรากับเพื่อนก็ขับไปกันเอง(หญิงแกร่ง)

ดอยปุยหน้าฝน
รถแดงพาเที่ยวดอยปุย

ที่ดอยปุยจะมีหมู่บ้านม้ง ระหว่างทางขึ้นไปดอยจะมีร้านค้าขายของงานฝีมือของชาวม้ง ตลอดทาง

หมู่บ้านม้งดอยปุย
หมู่บ้านม้งดอยปุย

จะต้องมีค่าขึ้นดอยด้วยคนละ 10 บาท บนดอยก็จะมีดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิดดอยปุย

ร้านกาแฟดอยปุย
ด้านบนมีร้านกาแฟดอยปุย ซึ่งวิวสวยมากถ้ามองจากร้าน ราคากาแฟอยู่ที่แก้วละ 60 บาท ซึ่งเทียบกับวิวและบรรยากาศแบบนี้ ถือว่าไม่แพงเลยค่ะ

ร้านกาแฟม้งดอยปุย
ร้านกาแฟม้งดอยปุย

นั่งจิบกาแฟไป ชมวิวไป สักพักก็มีหมู่ก้อนเมฆที่เคลื่อนมาบดบังภูเขาอีกลูกนึง ทำให้ได้เห็นภาพที่สวยงามมาก แต่ภาพที่เห็นนี้อีกไม่นาน ฝนก็ตก เราก็เลยรีบลงจากดอยเพราะเกรงว่าจะติดฝนอีกนาน กลัวจะเป็นอันตรายตอนเดินทาง

ดอยปุย
ดอยปุย

ดูรีวิวและภาพจากดอยปุยเพิ่มเติมได้ที่ หน้าฝนน่าเที่ยว “ดอยปุย-บ้านม้งดอยปุย”

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
กลับมาจากดอยปุยเราก็แวะพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ที่นี่จัดแสดงสวนดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิดมาก บนเนื้อที่ประมาณ 400 ไร่ ไปถึงพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ แปบนึงฝนก็ตกปรอยๆ ตกๆหยุดๆค่ะ แต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะไม่ได้ตกหนักเป็นแค่ละอองฝน แต่ถ้าใครจะพกผ้ากันฝนหรือร่มไปก็ดีค่ะDSCF1316

สำหรับภาพจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ทั้งหมดสามารถดูได้ที่  หน้าฝนน่าเที่ยว “ชมดอกไม้งามที่พระตําหนักภูพิงค์” 

หลังจากเดิมชมดอกไม้ ถ่ายภาพกันจุใจแล้วก็กลับ จริงๆจุดหมายต่อไปคือวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร แต่เนื่องด้วยน้ำมันรถที่ใกล้หมด เพราะลืมเช็คก่อนออกเดินทาง ประกอบกับหิวข้าวกันแล้ว เราเลยเปลี่ยนแผนกลับเข้าไปในตัวเมือง บริเวณที่จอดรถนอกพระตำหนักมีร้านขายอาหารของกินอยู่หลายร้าน ก็รองท้องเบาๆกันไป เพราะจุดหมายหลักของมื้อนี้ที่เพื่อนไกด์แนะนำคือ ส้มตำหลวงพระบาง

ส้มตำหลวงพระบาง
ที่นี่มีอาหารลาว แบบสไตล์หลวงพระบางแท้ๆ โดยเมนูเด็ด 2 ศรีพี่น้องที่พลาดไม่ได้คือ ส้มตำหลวงพระบางและส้มตำเวียงจันทร์ 

ส้มตำหลวงพระบาง ส้มตำเวียงจันทร์
ส้มตำหลวงพระบาง(ซ้าย)  ส้มตำเวียงจันทร์(ขวา)

ซึ่งจากการลงคะแนนเสียงของทั้ง 3 สาว โหวตเป็นเสียงเดียวกันว่า ส้มตำหลวงพระบาง(ซ้าย) ชนะเลิศค่ะ
ส้มตำหลวงพระบาง ใส่น้ำปูเข้มข้น ไม่มีปลาร้า รสชาดไม่เผ็ด ตัวเส้นส้มตำจะบางและแผ่นใหญ่ ส่วนส้มตำเวียงจันทร์(ขวา) เส้นจะเล็ก คล้ายๆแบบที่เห็นทั่วไปรสชาดคล้ายส้มตำปูปลาร้า เผ็ดนิดหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆให้อีกมากมาย อาทิ ไคแผ่น, ต้มแซ่บ ฯลฯ

ส้มตำหลวงพระบาง
เมนูอาหารร้านส้มตำหลวงพระบาง

ซึ่งทั้งหมดนี้คิดค่าเสียหายแล้วอยู่ที่ประมาณ 400++ บาท อิ่มกันถ้วนหน้า

อิ่มหนำสำราญกันด้วยเวลาประมาณ 14:00 น. ก็กลับที่พัก นั่งพักชาร์ตแบตกันสักพัก ก็ออกไปเที่ยวต่อ โดยทริปจากนี้ไปก็คือไหว้พระในตัวเมืองเชียงใหม่

วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
เชียงใหม่มีวัดเยอะมาก  ด้วยเวลาที่ยังเหลืออีกเยอะ ตอนเย็นเราจะไปเดินถนนคนเดินที่ใหญ่กว่าเมื่อวาน เรียกว่าถนนคนท่าแพ เพื่อนไกด์เลยแนะนำให้จอดรถไว้ในซอยแถวๆถนนคนเดิน ซึ่งวัดที่เราจะไปก็อยู่บนถนนคนเดินด้วย ดังนั้นเราก็จะได้เดินถนนนคนเดิน พร้อมกับแวะไหว้พระไปด้วย ขณะนี้เวลาประมาณ 16:00 น. ร้านหลายๆร้านบนถนนคนเดิน ตั้งร้านยังไม่เสร็จ เราจึงแวะเข้าวัดกันก่อน โดยเริ่มต้นกันที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร พระอารามหลวงเก่าแก่ของเชียงใหม่ เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ วัดเจดีย์หลวง

พระวิหาร พระอุโบสถ พระวิหารหลวง หรือพระวิหารกลาง งดงามตระการตามากกับศิลปะแบบล้านนา

วัดเจดีย์หลวง
วัดเจดีย์หลวง

เดินไปด้านหลังพระอุโบสถ จะมีพระธาตุเจดีย์หลวง พระธาตุเก่าแก่ สมัยพระเจ้าแสน เป็นพระธาตุที่มีความสูงใหญ่ที่สุดในอาณาจักรล้านนา อายุกว่า 600 ปี

พระธาตุเจดีย์หลวง
พระธาตุเจดีย์หลวง
พระมหาสังกัจจายน์
พระมหาสังกัจจายน์

ที่นี่มีสถาปัตยกรรมหลายอย่างที่เก่าแก่ให้เราได้ชม ไม่ว่าจะเป็น พระนอน หรือ พระพุทธไสยาสน์, พระมหาสังกัจจายน์, ต้นยางใหญ่ 3 ต้น อายุกว่า 200 ปี, หอธรรม (หอพระไตรปิฏก), กุฏิแก้วนวรัฐ กุฏิหลังแรกของวัด สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง, เสาอินทขีล เชื่อกันว่าเป็นหลักเมืองเชียงใหม่ ฯลฯ

วัดพันเตา
ออกจากวัดเจดีย์หลวงก็เดินมาไม่กี่ก้าว ข้างๆก็มีอีกวัดหนึ่งคือ วัดพันเตา เดิมเป็นพื้นที่ในเขตวัดเจดีย์หลวง สร้างจากไม้สักทั้งหลัง ที่มีสภาพสมบูรณ์และสวยงามที่สุดของเชียงใหม่ เพื่อนไกด์เล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนบริเวณนี้เป็นที่ตั้งเตาหลอม ในการหล่อพระอัฏฐารสในวิหารวัดเจดีย์หลวง

วัดพันเตา
วัดพันเตา

ฝนเริ่มลงเม็ดมาแล้ว เพื่อนไกด์บอกว่า ถ้าฝนไม่ตก ตอนกลางคืนวัดพันเตาจะจุดเทียนตามทาง สวยงามมากวัดพันเตา

วัดพันเตา
วัดพันเตา

อนุสาวรีย์สามกษัตริย์
ฝนปรอยๆไม่หนักมาก สักพักก็หยุด เราก็เดินออกจากวัด ผ่านถนนคนเดิน แวะดูร้านนั้นร้านนี้ เพื่อเดินต่อไปยัง อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ซึ่งไม่ไกลจากกันมากนัก
พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ หรือ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทย 3 พระองค์ ผู้สร้างเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ คือ พญามังราย, พญางำเมือง และ พ่อขุนรามคำแหง เป็นที่นิยมในการมาสักการะบูชากัน

อนุสาวรีย์สามกษัตริย์
อนุสาวรีย์สามกษัตริย์
อนุสาวรีย์สามกษัตริย์
อนุสาวรีย์สามกษัตริย์

ตรงข้ามกับอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จะเป็นศาลแขวงเชียงใหม่เก่า

ศาลแขวงเชียงใหม่เก่า
ศาลแขวงเชียงใหม่เก่า

จะเห็นว่าพื้นถนนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ เพราะฝนตกๆหยุดทั้งวันค่ะ และตอนนี้ฝนก็ลงเม็ดอีกแล้ว เดินมาถึงตรงนี้ก็สุดทางถนนคนเดินแล้ว เราก็เดินกลับทางเดิม เพื่อเดินถนนคนเดินด้วย แต่ระหว่างทางฝนตกหนัก ซึ่งถ้าเดินฝ่าต้องเปียกแน่ๆ ระหว่างถนนคนเดิน ก็อย่างที่บอกว่ามีวัดอยู่ติดๆกันเยอะแยะไปหมด เราก็เลยแวะที่วัดอินทขีลสะดือเมือง

วัดอินทขีลสะดือเมือง

วันอินทขีลสะดือเมือง
วันอินทขีลสะดือเมือง

ด้านข้างจะเห็นร่มและเต้นท์ที่กางอยู่มากมาย ซึ่งก็คือตลาดถนนคนเดินนั่นเอง

วันอินทขีลสะดือเมือง
หลวงพ่อขาว วันอินทขีลสะดือเมือง

ภายในวัดอินทขีล มีพระพุทธรูปสำคัญอยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มาเป็นเวลานาน ซึ่งก็คือ หลวงพ่อขาว อายุกว่า 700 ปี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปแบบล้านนา มีพระพักตร์อิ่มเอิบ ตั้งอยู่ภายในวิหารทรงล้านนาที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง

อยู่ในอุโบสถกันสักพัก ฝนไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย เราก็เลยตัดสินใจส่งตัวแทนวิ่งไปซื้อเสื้อกันฝนมา แล้วก็เดินกลับกันไปที่รถ เพื่อไปหาอะไรกินกัน ด้วยเวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ ตัดสินใจกันยังไม่ได้ว่าจะกินไร ขับรถไปกับสายฝนที่ตกปรอยๆตลอดทาง สุดท้ายเพื่อนเสนอร้านแถวกาดมอ ซึ่งก็คือตลาดหลังมอนั่นเอง (คนเชียงใหม่เรียก ตลาด ว่า กาด) ด้วยเวลาประมาณ 2 ทุ่ม

ร้านท่าช้าง
หลังจากอิ่มท้องแล้ว เพื่อนไกด์ได้พูดถึง เมนูใหม่สูตรหมาใจดำ แค่ชื่อก็น่าสนใจแล้ว ไม่รอช้า ขณะนี้เวลา 3 ทุ่ม บึ่งรถไปที่ร้านท่าช้าง ที่ถนนแถวเจเจมาร์เก็ต เพื่อนไกด์บอกว่า ร้านท่าช้าง เป็นสถานที่เที่ยวกลางคืนยอดฮิตของวัยรุ่นเชียงใหม่ มีเครื่องดื่มรสชาดดีๆ ชื่อแปลกๆให้ได้ลองกัน ไหนก็มาแล้วเนอะ สัมผัสให้ครบทุกบรรยากาศ ทุกไลฟ์สไตล์ จะได้คุ้มกับการมาเที่ยว

ร้านท่าช้าง
ร้านท่าช้าง

บรรยากาศในร้านตกแต่งเก๋ๆแนวๆ ออกแนวย้อนยุคสไตล์วินเทจหน่อยๆ ประดับด้วยโคมไฟที่เป็นชื่อปั๊มน้ำมัน ใช้ถังน้ำมันมาเป็นโต๊ะ ทาสีเข้มจัดสะดุดตา ลูกค้ามีตั้งแต่เด็กวัยรุ่น ไปจนถึงคนวัยทำงาน

สำหรับรีวิวนี้ประสบการณ์ที่เชียงใหม่ 2 วัน 2 คืน เราไม่สามารถไปได้ครบทุกที่ เชียงใหม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าหากมีโอกาสเราจะกลับไปเยี่ยมเชียงใหม่อีกแน่นอนค่ะ

เชียงใหม่ทำให้เราได้สัมผัสกลิ่นอายความเป็นล้านนา วัฒนธรรมที่แม้ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปกี่ยุคกี่สมัย แต่เมืองนี้ก็ยังสามารถบอกเล่าเรื่องราวของคนรุ่นเก่าให้คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี  แม้ว่าจะมีวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่เข้ามา แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันกับวัฒนธรรมเก่าและผสานกันได้อย่างลงตัว

ที่สำคัญคือมิตรภาพ ที่ได้รับจากเพื่อนไกด์ ขอบคุณที่เสียสละเวลาพาเราเที่ยว ไม่บ่นซักคำ 🙂

สามารถดูรีวิววันที่ 1 ได้ที่ เชียงใหม่หน้าฝน ชิลไปตามสภาพอากาศ(วันที่1)

สำหรับแผนที่หากมีเวลาจะมีอัพเดทเพิ่มเติมค่ะ หรือใครอยากได้เป็นพิเศษ สามารถคอมเม้นถามได้เลยค่ะ

sunday.morning

เชียงใหม่หน้าฝน ชิลไปตามสภาพอากาศ2วัน2คืน(วันที่1)

ทริปนี้จัดเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาค่ะ แน่นอนว่าช่วงนี้มันฤดูฝน ใครจะอยากเที่ยว ช่วงนี้ก็เลยเป็นช่วง low season สำหรับการท่องเที่ยว ด้วยความที่อยากเที่ยว เงินในกระเป๋าก็น้อยนิด เราก็ถือโอกาสนี้แหละ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินราคาเท่าตั๋วรถทัวร์ ที่พัก ลดครึ่งราคา ลดกระหน่ำกันจริงจัง รอช้าอยู่ใยแพคกระเป๋าโลด
ออกเดินทางในวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม ค่ะ โดยสายการบินราคาประหยัด Airasia เราจองไป-กลับ ได้ในราคาประมาณ 1,800 บาท จองผ่านเว็บไซต์ https://www.traveloka.com/th-th/airasia ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่ต้องรูดบัตรเครดิต เพราะใช้วิธีโอนเงินเอาผ่านตู้ ATM ได้ตั๋วราคาถูกไม่ชาร์ทเพิ่ม

พร้อมกันนั้น หลังจองตั๋วเสร็จ ก็มีหน้าจอโรงแรมเด้งขึ้นมาแนะนำ ราคาแบบล่อตามากคืนละ 400 บาท ซึ่งลดจากราคา 1,200 บาท แต่ยังไม่จอง ขอเอาชื่อโรงแรมไปหาข้อมูลก่อนว่าเป็นยังไง หลังหาข้อมูลแล้ว ทั้งการเดินทาง สภาพโรงแรม และอื่นๆที่เราพอใจ เราก็ตกลงจองโรงแรม โรยัล เพนนินซูลา

ออกจากดอนเมือง 6.40 น. ถึงสนามบินเชียงใหม่ 7.45 น. นั่งรอเพื่อนมารับ หากใครไม่มีเพื่อนหรือคนรู้จักที่จะพาเราเที่ยวได้ ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ มีรถแดงโดยสารเข้ามาถึงสนามบินเลยค่ะ เท่าที่นั่งสังเกตมีทุกๆ 5 นาที สามารถนั่งโดยสารประจำทางหรือเหมาเที่ยวก็ได้ค่ะ รถแดงพาเราไปได้ทุกที่ ราคาก็ตามที่ตกลงกับโชเฟอร์

รถโดยสารเชียงใหม่
รถแดงโดยสารเชียงใหม่

เรายังไม่เข้าโรงแรม เพราะโรงแรมให้เช็คอินเวลา 14:00 น.เป็นต้นไป จึงแพลนไปเที่ยวกันก่อน แต่ท้องก็ร้องหาอาหารแต่เช้า เพื่อนผู้น่ารัก จึงจัดให้ พาเราไปหามื้อเช้ากินกัน

อาหารมื้อแรกที่เชียงใหม่ที่ร้าน “BOAT BAKERY CHIANGMAI” ร้านเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนห้วยแก้ว ทางมุ่งหน้าไปดอยสุเทพ ร้านอยู่ซ้ายมือ ก่อนถึงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บรรยากาศตกแต่งด้วยโทนสีขาว เรียบง่ายมีสองโซน ด้านหน้าติดถนน ด้านหลังประดับตกแต่งด้วยไม้ประดับ ให้ความรู้สึกสดชื่น

ร้าน Boat Bakery chiangmai
ร้าน Boat Bakery chiangmai
ร้าน Boat Bakery chiangmai
บรรยากาศภายในร้าน Boat Bakery chiangmai

ที่นี่มีหลากหลายเมนู ทั้งของคาวของหวาน อาหารไทย หรือเทศ เรียกได้ว่าครบครบครัน ส่วนเซ็ทที่เป็นที่นิยมกันที่สุดสำหรับมื้อเช้าก็คือเซ็ทอาหารเช้า มีอาหารให้เลือก อาทิไส้กรอก แฮม ไข่ดาว ขนมปังปิ้ง เลือกผสมได้ตามใจชอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับกาแฟ และนม

เซ็ทอาหารเช้า
เซ็ทอาหารเช้าร้าน Boat Bakery chiangmai

อาหารมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้ม สเต็ก อาหารตามสั่ง ฯลฯ Boat Bakery chiangmai

อิ่มหนำสำราญกับอาหารมื้อเช้ากันเรียบร้อย มื้อนี้จ่ายไปประมาณ 350 บาท มีเซ็ทอาหารเช้า 3 ที่ ข้าวผัดน้ำพริกหนุ่ม ไก่ทอด เฟรนฟราย อิ่มมาก

อิ่มแล้วก็ออกเดินทางต่อเลย มุ่งหน้าไปยังม่อนแจ่มตามที่ได้หาข้อมูลกันมาก่อน ในระหว่างทางเพื่อนผู้น่ารักใจดี ทำหน้าที่ไกด์ที่ดี พาเราแวะสถานที่ที่เราไม่รู้จักมาก่อน แต่ยังไงก็เป็นทางผ่านก่อนขึ้นม่อนแจ่มอยู่แล้ว (ได้กำไรมา 1 สถานที่)

พระตำหนักดาราภิรมย์ เป็นที่ประทับของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่นี่ถูกตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆระหว่างบรรพชนในอดีต กับอนุชนรุ่นหลัง มีการจัดห้องพักผ่อนพระอิริยาบถ จัดแสดงจานชาม เครื่องเสวย ของใช้ส่วนพระองค์ และเครื่องดนตรี ให้เหมือนเดิมมากที่สุด

พระตำหนักดาราภิรมย์
พระตำหนักดาราภิรมย์

พระตำหนักดาราภิรมย์

มีคนเข้ามากราบไหว้ ขอพรกันประปราย ส่วนใหญ่ถวายดอกกุหลาบ ขอกระซิบว่าเพื่อนผู้น่ารัก ก็อธิษฐานและก็ได้สมหวังตามที่อธิษฐานด้วย (ความเชื่อส่วนบุคคล)พระตำหนักดาราภิรมย์ พระตำหนักดาราภิรมย์ พระตำหนักดาราภิรมย์

แวะสักการะและถ่ายรูปเสร็จก็ออกจาก พระตำหนักดาราภิรมย์ เพื่อนผู้น่ารักก็พาแวะอีกสถานที่ ทางผ่านอีกแล้ว “ศาลากาแฟ” (กำไรอีกแล้ว) ร้านกาแฟที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติมากๆ นอกจากจะมีกาแฟและเครื่องดื่ม ของหวานแล้ว อาหารคาวก็มีให้เลือกหลากหลายศาลากาแฟ ศาลากาแฟ ศาลากาแฟ

สำหรับรีวิวร้าน ศาลากาแฟ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ  “ศาลากาแฟ” ชิวกับธรรมชาติ

เราชิลถ่ายรูปกันที่ร้านศาลากาแฟ กันสักพัก ประมาณบ่ายโมงก็ไปกันต่อ คราวนี้ไม่ได้แวะแล้ว ตรงดิ่งไปที่ม่อนแจ่ม ไปถึงม่อนแจ่มก็บ่ายแก่ๆ แต่เราตื่นเต้นมาก เพราะหมอกที่หนาตาเอามากๆ คิดว่าเป็นหน้าหนาว แต่อากาศไม่หนาว เย็นสบาย สำหรับที่ม่อนแจ่มจะต้องจ่ายค่าจอดรถประมาณ 20 หรือ 40 บาท จำไม่ได้ค่ะ แล้วก็เดินขึ้นไปอีกนิดหน่อย

ก่อนที่เราจะมาม่อนแจ่มก็ศึกษาข้อมูลมาก่อน เห็นหลายรีวิวบอกม่อนแจ่มไม่มีอะไร แต่เราไม่เชื่อค่ะ ต้องมาเห็นกับตา

ท้องฟ้าดูครึ้มๆ ฝนใกล้มาแล้ว ก็หน้าฝนเราจะไปห้ามไม่ให้ฝนตกคงไม่ได้ เราลุยกันต่อค่ะ
มีของขายจากชาวบ้านริมทาง

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
มันเผา หอมมาก
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ดอกไม้ ที่ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
มีรอยยิ้มจากเจ้าถิ่นส่งให้

ที่นี่มีดอกไม้และรอยยิ้ม น้องๆเขาน่ารักมากเลยนะคะ ถ้าคนที่มีเที่ยวแล้วกลับไปพูดว่าที่นี่ไม่มีอะไรน่าเที่ยว เด็กและชาวบ้านที่นี่เขาก็น่าจะได้รับผลกระทบนะคะ ยังไงก็อยากให้มาเห็นกันเองกับตา ก่อนตัดสินใจอะไร

สำหรับรีวิวม่อนแจ่มทั้งหมดสามารถดูได้ที่นี่ค่ะ หน้าฝนน่าเที่ยว “ม่อนแจ่มม่วนใจ๋

กลับจากม่อนแจ่มประมาณห้าโมงเย็น เอากระเป๋าไปเก็บ เช็คอินที่โรงแรม โรยัล เพนนินซูลา  และนั่งพักสักพักโรงแรม โรยัล เพนนินซูลา

โรงแรม โรยัล เพนนินซูลา
ภายในห้องพักของโรงแรม โรยัล เพนนินซูลา

วันนี้ยังพอมีเวลา เพื่อนไกด์ผู้น่ารัก ก็พาไปไหว้พระที่วัดเก่าแก่ประจำเมืองเชียงใหม่ พระพุทธสิหิงค์ พระธาตุประจำปีมะโรง ณ วัดพระสิงห์ ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องสุพรรณหงส์และสังข์ทอง ซึ่งพบเพียงที่นี่แห่งเดียววัดพระสิงห์
วัดพระสิงห์

ไหว้พระเสร็จก็ถึงเวลามื้อเย็นของวันแล้ว  กินอีกแล้นน เพื่อนไกด์ที่น่ารักก็ถามเราว่าอยากกินอะไร เราก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารเมือง นางเลยจัด พาเราไปร้าน “เฮือนม่วนใจ๋” ร้านชื่อดัง เก่าแก่กว่า 100 ปี โดยเชฟก็เป็นถึงผู้ท้าชิงเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทยด้วย

มาถึงร้านกล้องถ่ายรูปแบตหมด โทรศัทพ์แบตก็หมด เลยเก็บภาพบรรยากาศมาได้นิดหน่อย
ตัวร้านเป็นเรือนไม้ ทางเข้าประดับไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับ บรรยากาศในร้านดูอบอุ่น ตกแต่งด้วยโคมแบบชาวเชียงใหม่ การประดับตกแต่งผนังด้วยรูป เหมือนบ้านเรือนสมัยก่อน

เฮือนม่วนใจ๋
ร้านเฮือนม่วนใจ๋

ถึงเวลาสั่งอาหาร มีกันสามคนแต่ด้วยความหิวและเมนูที่เพื่อนไกด์แนะนำ ก็สั่งกันมาเยอะมาก 😉

อาหารเมือง เฮือนม่วนใจ๋
อาหารเมือง เฮือนม่วนใจ๋

นี่ไม่ได้อวยนะ จะบอกว่าอาหารอร่อยมาก อร่อยทุกอย่าง อาทิ
ชุดออเดิฟเมือง ก็จัดเต็มทั้งน้ำพริกหนุ่ม, น้ำพริกอ่อง, แคปหมู, ไส้อั่ว, หมูทอด, แกงฮังเล(อร่อยมาก) พร้อมกับผักเครื่องเคียง
แอ๊บหมู ซึ่งก็คือหมกหมู คือแบบว่ามันอร่อยมากเราติดใจ แกงฮังเล อร่อยมากกกก ก็ไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้กินไปได้ยังไง ถ้าท้องยังรับไหวนี่คงสั่งเพิ่มแน่ๆ สำหรับมื้อนี้จ่ายไปประมาณ 450 บาท แต่อิ่มมากกกก อร่อยมากกกกกกกกกก

อิ่มกันแล้วก็ไปเดินย่อยต่อที่ถนนคนเดิน ซึ่งถ้าใครมาเชียงใหม่แล้วไปเดินนี่เรียกได้ว่าไปไม่ถึงเชียงใหม่แน่นอนค่ะ

ถนนคนเดิน
ถนนคนเดิน

บรรยากาศที่นี่ก็เหมือนตลาดนัด ของที่ขายส่วนใหม่เป็นงานฝีมือ มีการแสดงความสามารถ ศิลปะวัฒนธรรมของคนบางกลุ่ม ส่วนใหญ่คนที่เห็นจะเป็นท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

หมดไปแล้ว 1 วัน รู้สึกเหนื่อยและเพลียมาก เราก็เลยกลับไปพักผ่อนกัน

สำหรับวันที่สองของทริปนี้เราจะเขียนแยกโพสต์นะคะ เพราะไม่อย่างนั้นหน้าจะยาวมากๆ จนคุณขี้เกียจอ่าน 🙂

แผนที่การเดินทางทั้งหมดmap01

map01

map02

map03

map04

รีวิววันที่ 2  เชียงใหม่หน้าฝน ชิลไปตามสภาพอากาศ(วันที่2)

sunday.morning

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

หน้าฝนน่าเที่ยว “ชมดอกไม้งามที่พระตําหนักภูพิงค์”

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงยอดฮิต ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
หมอกลงหนามาก

ในช่วงนี้ฤดูฝน ดอกไม้ใบหญ้าที่นี่เขียวชะอุ่มชุ่มชื่น อากาศเย็นสบาย ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกที่คิดว่าอีกไม่นานฝนคงตก เหมือนทริปอื่นๆที่ผ่านมา

สำหรับการเข้าชมสถานที่แห่งนี้ จะต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่โป๊ ใครใส่เสื้อแขนกุด กางเกงหรือกระโปรงสั้น รวมถึงกางเกงยืนแฟชั่นที่ฮิตทำให้ขาดด้วย จะต้องเช่าชุดที่เขาเตรียมไว้ให้เพื่อใส่ก่อนเข้าไปด้านใน

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ถังขยะที่ตกแต่งได้น่ารักมากค่ะ

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
อากาศเย็นสบายมาก กับไอหมอกก่อนฝนตก หมอกฟุ้งๆ รู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์เลยค่ะ 🙂
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ที่นี่รายล้อมไปด้วยดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิด แข่งกันเบ่งบานต้อนรับนักท่องเที่ยว เราก็ไม่ค่อยจะรู้จักชื่อดอกไม้แต่ละชนิดเท่าไหร่ แต่พยายาม รวบรวมข้อมูลรายชื่อดอกไม้เมืองหนาวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ดอกกุหลาบ
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ดอกกุหลาบ

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ไฮเดรนเยีย
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ดอกไฮเดรนเยีย
ดอกไฮเดรนเยีย
ดอกไฮเดรนเยีย
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่
Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่
Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่
Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่
Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่

นอกจากจะได้เห็นดอกไม้สวยๆแล้ว เรายังได้เห็นการจัดแต่งสวนสวยๆ ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญช่วยให้ดอกไม้ดูสวยมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

มีต้นไม้ทั้งเล็กใหญ่ตลอดทาง ชมดอกไม้ไป ช่วงไหนที่ฝนตกลงมาเราก็หลบฝน แต่ฝนตกแป๊ปเดียวก็หยุดแล้ว จึงไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆกับเราสำหรับการเที่ยวหน้าฝนนี้

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ใบไม้หลังฝนตก ก็ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

เดินไปเรื่อยๆจะมีทางเดินสำหรับขึ้นไปดูอ่างเก็บน้ำ จะเจอสะพานข้าม ค่อนข้างสูง มองลงไปด้านล่างจะเห็นถนน ก็สวยไปอีกแบบค่ะพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ดอกรักเร่ที่มีน้ำเกาะอยู่ตามกลีบหลังจากฝนตก

Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่
Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ทางขึ้นไปดอ่างเก็บน้ำ
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
มุมจากบนลงล่างบ้าง

ดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว DSCF1412

ดอกไม้เมืองหนาว
ธรรมชาติสรรค์สร้าง

ตามโขดหินจะมีมอสเกาะอยู่มากมายค่ะ บ่งบอกว่าที่นี่มีความชุ่มชื่นมากๆดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว

เดินมาถึงจุดนี้ฝนทำท่าจะตกอีกแล้ว แต่เราก็ไม่หวั่น ยังคงสนุกกับการถ่ายรูป ถ่ายเพลินๆก็ขึ้นมาถึงอ่างเก็บน้ำแล้วอ่างเก็บน้ำพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ อ่างเก็บน้ำพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นการตกแต่งสวนดอกไม้เป็นชั้นๆ แต่ตอนนี้ฝนเริ่มลงเม็ดอีกรอบ เราเลยถ่ายภาพมาได้เท่านี้แล้วต้องรีบวิ่งไปหลบฝนในศาลาอ่างเก็บน้ำพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ตกได้ประมาณ 5 นาที ฝนก็หยุด เราก็ออกเดินทางต่อ

ต้นไม้แกะสลัก
ต้นไม้แกะสลัก

ต้นไม้แกะสลักที่สวยและงดงามมาก เราก็ทึ่งในความสามารถของคนเหมือนกัน เพราะแกะได้เนี๊ยบและละเอียดมากค่ะ

มีหลายต้นเลยค่ะ

ต้นไม้แกะสลัก
ต้นไม้แกะสลัก

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

สำหรับทริปนี้ จุใจไปด้วยธรรมชาติ ของหน้าฝนมากๆค่ะ

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
เก็บรายละเอียดริมทาง

การเดินทางมีคุณค่าทางจิตใจเสมอ

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ค่าใช้จ่าย

ค่าเข้าชม : คนละ 20 บาท
ค่าเช่าชุด : ชิ้นละ 10 บาท

ดูรีวิวหน้าฝนน่าเที่ยวอื่นๆ