ดอยปุย

หน้าฝนน่าเที่ยว “ดอยปุย-บ้านม้งดอยปุย”

หน้าฝนน่าเที่ยว เดินทางต่อจากวัดผาลาด รีวิวไว้ที่นี่ หน้าฝนน่าเที่ยว “วัดผาลาด” ลงตัวท่ามกลางธรรมชาติ จากวัดผาลาดเรามุ่งหน้าไปยังดอยปุยต่อค่ะ ซึ่งจะผ่านพระตําหนักภูพิงค์ด้วย แต่เราตั้งใจขึ้นดอยปุยก่อนค่อยลงพระตําหนักภูพิงค์ค่ะ

ดอยปุย-ดอยสุเทพ
ทางระหว่างขึ้นดอย โค้งมากค่ะ แต่ไม่น่ากลัว

ระหว่างเดินขึ้นไปบนดอยก็จะต้องเดินผ่านหมู่บ้านม้ง จะพบวิถีความเป็นอยู่ของชาวม้ง

หมู่บ้านม้งดอยปุย หมู่บ้านม้งดอยปุยมีตลาดขายสินค้าของชาวบ้าน ทั้งงานฝีมือ ของพื้นบ้าน เสื้อผ้า ผ้าฝ้ายทอมือ เครื่องประดับเงิน ชา และอีกมากมายหมู่บ้านม้งดอยปุย pageมีชุดชาวเขาให้เราได้เช่าใส่ด้วยค่ะ คนละ 50 บาท จะมีเด็กๆมาคอยต้อนรับและอาสาเป็นไกด์ให้ (แต่อาจจะต้องมีค่าตอบแทนให้น้องด้วยนะคะ 🙂 ) น้องๆจะวิ่งมาต้อนรับและพูดกับคุณว่า “พี่สาวคะ สนใจให้หนูเป็นมัคคุเทศน์น้อยพาเที่ยวมั้ยคะ แล้วแต่พี่จะให้ค่าขนมหนูค่ะ” ประมาณนี้ น่ารักค่ะ หรือจะถ่ายรูปกับเด็กดอยก็ได้ค่ะ น้องๆก็จะหารายได้จากนักท่องเที่ยวจากการนำเที่ยวหรือถ่ายรูปคู่กับเราค่ะ แล้วแต่เราจะให้เขาค่ะ

อ้อลืมบอกไปว่าต้องมีค่าเข้าชมดอกไม้ด้วยค่ะ คนละ 10 บาทหมู่บ้านม้งดอยปุยดอยปุยดอยปุยดอยปุย DSCF1052

ดอยปุย
ดอกไม้ในหน้าฝนก็สวยงามไม่แพ้หน้าหนาวนะคะ
ดอยปุย
พึ่งพาอาศัย

ดอยปุยเก็บภาพหมู่ดอกไม้มาฝากล้วนๆเลยค่ะ ไม่รู้จะบรรยายอะไร ให้ภาพบอกแทนแล้วกันค่ะดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุยดอยปุย DSCF1093 ดอยปุย

อากาศเย็นสบายมากค่ะ ดอยปุยดอยปุย ดอยปุย ดอยปุยหน้าฝน

ด้านบนมีร้านกาแฟค่ะ ชื่อร้าน กาแฟม้งดอยปุย 

ร้านกาแฟม้งดอยปุย
ร้านกาแฟม้งดอยปุย

ดอยปุยหน้าฝน

มีหลากหลายเมนูให้เลือกสรร ราคาไม่แพงค่ะ รสชาดดีร้านกาแฟม้งดอยปุย ร้านกาแฟม้งดอยปุย ร้านกาแฟม้งดอยปุยร้านกาแฟม้งดอยปุย

ร้านกาแฟม้งดอยปุย
ลาเต้ร้อนแก้วละ 60 บาท

จากร้านกาแฟม้งดอยปุย เราจะมองเห็นวิวทั้งหมด คือดีมากค่ะ ดอยปุยหน้าฝนจากการอยู่เชียงใหม่ในหน้าฝน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สองทำให้รู้ว่า เมฆหมอกที่หนามากขนาดนี้อีกไม่นานฝนก็ตก แต่ฝนที่ตกพร้อมเมฆหมอกเหล่านี้จะเป็นละอองฝนค่ะ ไม่ใช่ฝนเม็ดโตๆ แบบที่เคยเจอค่ะและไม่ได้ตกบริเวณนี้แต่จะตกบริเวณที่หมอกเหล่านี้ไปเยือนค่ะ ส่วนฝั่งเราก็ได้เห็นวิวดี ภาพสวยๆค่ะ 🙂ดอยปุยหน้าฝน ดอยปุยหน้าฝนดอยปุยหน้าฝนนั่งกินกาแฟ ชมบรรยากาศไปซักพัก ก็ได้เวลากลับเพื่อที่จะลงไปยังพระตําหนักภูพิงค์ต่อ เราเดินลงอีกด้านหนึ่งของร้านกาแฟค่ะ

ดอยปุยหน้าฝน
น่าจะเป็นเครื่องตำข้าวมั้งคะ

ริมทางเดินลงจากร้านกาแฟ ด้วยความชุ่มชื้นของป่าไม้ ทำให้เห็นมอสตามโขดหินและต้นไม้มากมายค่ะดอยปุยหน้าฝนดอยปุยหน้าฝน ดอยปุยหน้าฝนเราจะต้องเดินอีกทางจากทางขึ้น จะมีป้ายบอก ว่าเป็นทางลงค่ะ ระหว่างทางก็มีตลาดขายของเช่นเดียวกับทางขึ้นค่ะ

ขับรถออกจากดอยปุยมาซักพัก แวะถ่ายรูปซักหน่อย เพราะตื่นเต้นกับหมอกเหล่านี้มากๆค่ะ ดอยปุยหน้าฝนมีรถมา ดอยปุยหน้าฝนถ้าหากเราไม่ได้เอารถมาเองก็มีรถแดงพาเที่ยวนะคะหรือหากขับไม่เก่งไม่ชำนาญเพราะทางค่อนข้างแคบและชันนิดหนึ่งค่ะ จะเหมารถสองแถวแดงหรือมาเป็นรถโดยสารกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆก็ได้ค่ะ ตรงพระตําหนักภูพิงค์จะมีรถสองแถวแดงจอดรอเรียกนักท่องเที่ยวอยู่หลายคันค่ะดอยปุยหน้าฝน

ดูรีวิวหน้าฝนน่าเที่ยวอื่นๆ

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด

หน้าฝนน่าเที่ยว “วัดผาลาด” ลงตัวท่ามกลางธรรมชาติ

หน้าฝนน่าเที่ยว อีกตอนวันที่สองของการเที่ยวหน้าฝนที่เชียงใหม่ แวะริมทางก่อนขึ้นดอยสุเทพ-ดอยปุย

หลายคนที่ไปเชียงใหม่จะต้องขึ้นดอยสุเทพอย่างแน่นอน เพราะเป็นสถานที่เที่ยวที่อยู่ใกล้ตัวเมืองมากที่สุด เดินทางสะดวกและง่าย แต่ไหนๆก็ไปทางนั้นแล้ว ถ้าไม่แวะ วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด ก็น่าเสียดายนะคะ เพราะที่นี่คุณจะได้เห็นการผสมผสานงานศิลปะกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืมลงตัวมากๆ ซึ่งสิ่งปลูกสร้างของที่นี่เป็นศิลปะร่วมสมัยระหว่างล้านนาและพม่า

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด

เมื่อเห็นป้ายต้องขับรถลงไปอีก 200 เมตรวัดสกิทาคาหรือวัดผาลาดลงจากรถปุ๊บ จะได้ยินเสียงน้ำไหล เพราะมีน้ำตกอยู่ในวัดด้วยวัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
พระวิหาร สถาปัตยกรรมล้านนาผสมพม่า ฝีมือช่างชาวพม่า
พระประธานภายในพระวิหาร วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
พระประธานภายในพระวิหาร

จะเห็นรูปปั้นช้างอยู่หลายจุดมาก คงเป็นเพราะว่าช้างมีความสำคัญในการทำให้เกิดวัดนี้ขึ้นมา จากเรื่องเล่าตามตำนานการสร้างดอยสุเทพ เล่าว่า “ในการเสี่ยงทายหาสถานที่สร้างพระธาตุ ได้ปล่อยให้ช้างเดินไป หากช้างหยุดที่ใดก็จะประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่นั่น ซึ่งช้างได้ย่อเข่าลงบริเวณที่ตั้งวัดผาลาดในปัจจุบัน แต่ก็ลุกเดินต่อไปจนถึงดอยอ้อยช้างซึ่งก็คือพระธาตุดอยสุเทพ จึงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ ณ พระธาตุดอยสุเทพ ส่วนบริเวณที่ช้างหยุดย่อเขาลงครั้งแรกก็สร้างเป็นวัดผาลาดเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสี่ยงทายหาสถานที่สร้างพระธาตุ”
วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาดพระเจดีย์ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนา ศิลปะแบบล้านนาผสมศิลปะพม่า

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
พระเจดีย์

วิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ภายในประดิษฐานพระพุทธเจ้า 5 พระองค์

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
วิหารพระพุทธเจ้า 5
วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
วิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
พระพุทธรูปหน้าผา

พระพุทธรูปหน้าผา เดิมคาดว่าที่ตั้งวิหารแบบพม่าที่ตั้งนิยมสร้างบนแนวผา ปัจจุบันหลงเหลือให้เห็นเพียงส่วนฐาน เคยประดิษฐานพระพุทธรูปเชียงแสน หนึ่งในนั้นคือ “พระไล่กา” ว่ากันว่าคนโบราณลงอาคมเอาไว้ในพระพุทธรูปดังกล่าว เพื่อไม่ให้อีกา สัตว์แห่งความโชคร้าย บินผ่านวัด ต่อมาถูกทำลายไปสมัยทำสงครามกับพม่า ภายหลังชาวไทใหญ่ที่อพยพลี้ภัยสงครามมาอาศัยในบริเวณนี้ได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่ แต่เป็นศิลปะแบบไทใหญ่

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
น้ำตกไหลผ่าน

บ่อน้ำทิพย์ ซึ่งจากการสังเกตทำให้ทราบว่ามีการสร้างทับขึ้นหลายครั้ง จึงสันนิษฐานว่า ครั้งที่หนึ่งสร้างขึ้นโดยชาวเมืองสุโขทัย ที่ติดตามงานบุญอัญเชิญพระธาตุร่วมกับพระเจ้ากือนา เพื่อเอาน้ำไว้กิน อาบ โดยเป็นวิธีการกรองน้ำอย่างหนึ่งของคนโบราณ จะได้ไม่ต้องใช้น้ำจากลำห้วยโดยตรง ครั้งที่สองน่าจะเป็นสมัยที่พม่าครองเมืองเชียงใหม่ (ดูจากอิฐที่ปากบ่อ น้ำ) และครั้งที่สามในสมัยครูบาศรีวิชัย การสร้างมณฑปครอบบ่อน้ำนี้ เป็นประเพณีที่นิยมทำกันในถิ่นชาวไทใหญ่และทางภาคเหนือของพม่า

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
บ่อน้ำทิพย์
วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
บ่อน้ำทิพย์
วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
บ่อน้ำทิพย์

เดินชมความงามของศิลปะโบราณและความงามของธรรมชาติกลางป่า

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
แทรกอยู่กับธรรมชาติทุกอณู

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
ห้องน้ำที่กลมกลืนกับธรรมชาติ
วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
คติเตือนใจที่แทรกไว้ บริเวณต่างๆ

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
น้ำตกที่วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด

ถ้าได้ผ่านไปก็อย่าลืมแวะชมความงามนะคะ “อยู่ใต้ฟ้าอย่าไปกลัวฝนค่ะ” หน้าฝนน่าเที่ยว เที่ยวเชียงใหม่กันค่ะ

ดูรีวิวหน้าฝนน่าเที่ยวอื่นๆ หน้าฝนน่าเที่ยว “ม่อนแจ่มม่วนใจ๋”

 

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.tripchiangmai.com/, http://www.chiangmaitouring.com/

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่

หน้าฝนน่าเที่ยว “ม่อนแจ่มม่วนใจ๋”

ถึงช่วงนี้จะเป็นหน้าฝนหลายคนอาจจะกลัวเปียกไม่อยากออกไปไหน อยากเที่ยวแต่ก็กลัวฝน ส่วนเราคิดว่าความสวยของแต่ละฤดูคงให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปแน่นอนค่ะ เหมือนทริป “หน้าฝนน่าเที่ยว” นี้ เราเองก็อยากสัมผัสความรู้สึก อารมณ์ของการเที่ยวหน้าฝน และก็ประทับใจมากเลยต้องบอกต่อ ต้องลองค่ะ

“หน้าฝนน่าเที่ยว” ทริปแรกคือ ม่อนแจ่มม่อน” หมายถึง ดอยที่มีขนาดเล็ก “ม่อนแจ่ม” ตั้งอยู่ในตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที
ม่อนแจ่มมีอากาศเย็นสบายตลอดปีและมีหมอกในยามเช้า มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ ทิวภูเขาสลับกันไกลสุดลูกหูลูกตา ยอดเขาทางทิศตะวันออกมีจุดชมวิวม่อนล่อง เหมาะสำหรับชมทิวทัศน์ของพื้นที่โครงการหลวง ส่วนทางด้านทิศใต้เป็นไหล่เขามองลงไปจะเห็นหมู่บ้านม้งหนองหอยและพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยโดยรอบ ซึ่งเป็นแปลงปลูกผักและวิจัยพืชผักเมืองหนาว เช่น อาติโช๊ค แปลงสมุนไพรเลมอนทาร์ม มิ้น คาร์โมมายด์ โรสแมรี่ ไม้ผล เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอเบอรี่พันธุ์ 80 แปลงผักไฮโดรโพนิค การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น โอ้คลีฟแดง และผักตระกูลสลัด มะเขือเทศดอยคำ ฯลฯ

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ไปถึงประมาณบ่ายโมง แต่หมอกหนาตามากค่ะ
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
หมอกหนาตามากค่ะ
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
แผงขายผักจากชาวบ้าน
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
มันเผา หอมมาก
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
มะเขือเทศปลอดสารพิษ
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
อะโวคาโด จากชาวบ้าน
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ถ่ายกับป้ายม่อนแจ่มนิดนึง เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง 🙂

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ชมวิวโครงการหลวง ที่ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
เด็กๆที่ม่อนแจ่ม รอยยิ้มที่เกิดจากความสุข

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ดอกไม้ ที่ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ไปไหนกันน๊า

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
มีรอยยิ้มจากเจ้าถิ่นส่งให้
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ชมวิวผ่านกระจกรถ ตอนลงจากม่อนแจ่ม
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ภาพจากจุดชมวิวม่อนล่อง มองเห็นพื้นที่โครงการหลวงและหมู่บ้านม้ง

มีฝนตกลงมาเล็กน้อย เราก็หลบฝนกันใต้หลังคามุงจากม่อนแจ่ม เชียงใหม่หลังฝนตก ท้องฟ้าเปิด ฟ้าใสมากค่ะม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ระหว่างทางลงจากม่อนแจ่ม ก็มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทางให้ได้กดชัตเตอร์รัวๆ ขับมาได้สักพัก จะมีจุดชมวิวม่อนล่อง ที่สามารถแวะเพื่อชมวิว ซึ่งจากจุดนี้สามารถมองเห็นพื้นที่โครงการหลวงและหมู่บ้านม้งม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ภาพจากจุดชมวิวม่อนล่อง มองเห็นพื้นที่โครงการหลวงและหมู่บ้านม้ง
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ภาพจากจุดชมวิวม่อนล่อง มองเห็นโครงการหลวง
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ภาพจากจุดชมวิวม่อนล่อง
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ภาพจากจุดชมวิวม่อนล่อง
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ระหว่างทางลงจากม่อนแจ่ม
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
แปลงกะหล่ำของชาวบ้าน

หลังจากฝนตกถนนอาจจะลื่นนิดหนึ่ง หากใครไปเที่ยวก็ขับรถด้วยความระมัดระวังด้วยนะคะม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่มถึงจะเป็นดอยขนาดเล็ก ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ไปแล้วสิ่งที่เราได้เห็นคือภาพทั้งหมดนี้ ประทับใจค่ะ ถ่ายรูปเพลินมาก

ขอบคุณข้อมูลจาก http://thai.tourismthailand.org/

เมืองโบราณ เที่ยวทั่วไทยที่เดียวจบ

หลายคนเคยฝันจะไปเที่ยวให้ทั่วไทย แต่ไม่มีเวลาสักที จากนี้ไปคงไม่ใช่เรื่องยากแล้วหลังจากที่คุณได้ไปเมืองโบราณ

เมืองโบราณ เป็นสถานที่รวบรวมวัฒนธรรม สถานที่สำคัญ ของไทยทั่วทุกภูมิภาค อาทิ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคอีสาน บนเนื้อที่กว่า 800 ไร่ มีรูปร่างคล้ายด้ามขวานทองของประเทศไทย ซึ่งจะแบ่งสัดส่วนตามภูมิภาคของประเทศไทย สถาปัตยกรรมบางอย่างเป็นการจำลองจากของจริง แต่บางอย่างได้นำของจริงมาบูรณะให้เหมือนเดิมมากที่สุด

เรียกได้ว่าถ้าไปเมืองโบราณถือว่าไปที่เดียวเที่ยวครบทั่วไทยจริงๆค่ะ

ทางเข้าเมืองโบราณ
ทางเข้าเมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ

หลายคนสงสัย เนื้อที่ตั้ง 800 ไร่ จะเดินยังไงไหว ไม่ต้องกังวลไป ที่นี่เขาอนุญาตให้ขับรถเที่ยวได้ รถรางก็มีให้ขึ้นค่ะ แถมมีจักรยานให้เช่าด้วย ก่อนเข้าชมเราจะต้องไปซื้อบัตรก่อนนะคะ เมื่อซื้อบัตรเสร็จเราจะได้รับกระดาษมา 1 แผ่น ซึ่งก็คือแผนที่นั่นเองค่ะ

ส่วนเราเช่าจักรยานค่ะ เพื่อความอินดี้ 🙂  เราจะได้รับบัตรนักปั่น 1 ใบ เพื่อไปรับรถจักรยาน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เราก็ลุยเลย…

หอพระแก้ว เมืองโบราณ
หอพระแก้ว เมืองโบราณ

หอพระแก้ว สวยจริงๆค่ะ

เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
พระปรางค์ยอดกลีบมะเฟือง เมืองโบราณ
พระปรางค์ยอดกลีบมะเฟือง เมืองโบราณ

นอกจากจะเป็นที่เที่ยวเพื่อความเพลิดเพลินใจแล้ว เราว่าที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ดีสำหรับเด็กเลยแหละ การอ่านหนังสือท่องจำในห้องเรียน ยังไงก็คงไม่สำคัญเท่าการให้เด็กๆได้มาเห็นและสัมผัสของจริงว่ามั้ยคะ

ศาลาพระอรหันต์ เมืองโบราณ
ศาลาพระอรหันต์ เมืองโบราณ

post09

 

กลางวันแบบนี้ หลายท่านอาจคิดว่าคงร้อนน่าดู ไม่ต้องคิดหรอกค่ะ ร้อนแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้ร้อนมาก เพราะตลอดเส้นทางที่เราปั่นจักรยานจะมีต้นไม้เยอะแยะไปหมด พอมีลมมาเราก็จะเย็นสบาย

แอบเห็นหลายคนเอาอาหารมานั่งปิคนิคกันเป็นครอบครัว ไอ้เรามาครั้งแรกก็ไม่ได้เตรียมของมาเหมือนคนอื่น เห็นแล้วก็หิว

ปั่นจักรยานมาได้สักพักก็พบโซนขายอาหาร เพียบเลย ฮ่าๆ
post10 post11

สวนพฤษชาติในวรรณคดี เมืองโบราณ
สวนพฤษชาติในวรรณคดี เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เรือสำเภาไทย เมืองโบราณ
เรือสำเภาไทย เมืองโบราณ

เรือสำเภาไทยโบราณ สามารถขึ้นเพื่อไปดูข้างในได้

วิถีชีวิตอีสาน เมืองโบราณ
วิถีชีวิตอีสาน เมืองโบราณ

โซนวิถีชีวิตชาวอีสาน ทุกอย่างดูสมจริงมาก ไก่ก็เป็นไก่จริง มาโซนนี้รับรองตื่นเต้น เพราะมีเสียงไก่ขันด้วย

วิถีชีวิตชาวเหนือ เมืองโบราณ
วิถีชีวิตชาวเหนือ เมืองโบราณ

โซนนี้มีขายของที่ระลึกด้วย

เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณ

ทั้งปราสาท เมืองเก่า ที่นี่มีครบ เป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปะ วัฒนธรรมอย่างดี เพราะสถานที่หรือสิ่งปลูกสร้างแต่ละอย่างจะมีการให้ข้อมูลความรู้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งในรูปแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ถ้าไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหน ลองแวะที่นี่ดูค่ะ ได้ความรู้ด้วย

เมืองโบราณเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.
โดยสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ค่าธรรมเนียม :
– ชาวไทย ผู้ใหญ่ 350 บาท เด็ก 175 บาท
– ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 250 บาท
– สำหรับคนสมุทรปราการหรือผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 250 บาท

**ถ้าต้องการนำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไป มีค่าธรรมเนียมคันละ 300 บาท

วิธีการเดินทาง

รถยนต์ส่วนตัว :
ใช้เส้นทางด่วน ปลายทางที่สำโรง-สมุทรปราการ ถึงสามแยกสมุทรปราการ เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุขุมวิท (ไปทางบางปู) ประมาณ กม. 33 เมืองโบราณจะอยู่ทางซ้ายมือ
รถโดยสารสาธารณะ :
ใช้รถโดยสารปรับอากาศ สาย ปอ. 511 (สายใต้ใหม่-ปากน้ำ) ลงที่สุดทางแล้วต่อรถสองแถวสาย 36 ซึ่งจะวิ่งผ่านหน้าทางเข้าเมืองโบราณ

แผนที่ไปเมืองโบราณ
แผนที่ไปเมืองโบราณ

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ancientcitygroup.net/

เที่ยวรอบเขื่อนแก่งกระจานสัมมนาที่แจ่มจันทร์รีสอร์ท

ทริปนี้เป็นทริปจัดสัมมนาของแผนก เราเลือกพักที่แจ่มจันทร์ รีสอร์ท 2 วัน 1 คืน โดยเลือกแพคเก็จที่รีสอร์ทจัดไว้ให้แล้ว คือ แพคเก็จ 2 วัน 1 คืน พร้อมอาหาร 2 มื้อ 1,600 บาท/ท่าน ในแพคเก็จประกอบไปด้วยกิจกรรม ดังนี้
– เล่นน้ำหน้าแจ่มจันทร์รีสอร์ท
– ล่องแก่งเรือยาง แม่น้ำเพชร
– นั่งเรือยนต์รอบเขือน ชมพระอาทิตย์ตก
– รับประทานอาหารเย็น
– ขึ้นเขาพระเนินทุ่ง ชมทะเลหมอก ชมผีเสื้อ
– รับประทานอาหารเช้าบนยอดเขา

ออกเดินทางจากออฟฟิศแถวพระราม 4 ตอนเวลาประมาณ 9:30 น. ถึงที่พักประมาณ 12:00 น.

แจ่มจันทร์ รีสอร์ทแก่งกระจาน
แจ่มจันทร์ รีสอร์ทแก่งกระจาน
ห้องพักแจ่มจันทร์ รีสอร์ท
ห้องพักแจ่มจันทร์ รีสอร์ท

แจ่มจันทร์ รีสอร์ท ที่พักสไตล์โมเดิร์นตกแต่งด้วยปูนดิบเก๋ๆ ใช้เฟอร์นิเจอร์สีเข้มตัดกับสีของปูนดิบทำให้ดูสดุดตามากค่ะ เนื่องจากเรามากันเป็นหมู่คณะ เลยเช่าแบบทั้งหลังค่ะ ในรูปถ่ายมาจาก 2 ห้อง บางห้องจะเป็นเตียง 2 ชั้น

ห้องพักแจ่มจันทร์ รีสอร์ท
ห้องพักแจ่มจันทร์ รีสอร์ท เตียงสีแดงแจ่มจันทร์จริงๆค่ะ
แจ่มจันทร์ รีสอร์ทแก่งกระจาน
สำรวจ รอบๆ แจ่มจันทร์ รีสอร์ทแก่งกระจาน

รีสอร์ทติดกับแม่น้ำ ทำให้เห็นวิวสวยมาก มีมินิมาร์ทของรีสอร์ทด้วย ในโซนนี้จะให้เราได้นั่งทานอาหารหรือสังสรรค์ไปพร้อมกับการชมบรรยากาศแม่น้ำและภูเขาไปด้วย เราใช้พื้นที่ส่วนนี้ด้านบนในการสัมมนากันค่ะ เราใช้เวลาในการสัมมนาประมาณ 3 ชั่วโมง

สไลเดอร์ที่แจ่มจันทร์ รีสอร์ท
สไลเดอร์ที่แจ่มจันทร์ รีสอร์ท

สามารถลงเล่นน้ำที่หน้ารีสอร์ทได้ และทางรีสอร์ทยังมีสไลเดอร์ให้ได้เล่นกันฟรีๆด้วยค่ะ

แจ่มจันทร์ รีสอร์ทแก่งกะจาน
แจ่มจันทร์ รีสอร์ทแก่งกะจาน
ล่องเรือยางแม่น้ำเพชรบุรี
กิจกรรมล่องเรือยางแม่น้ำเพชรบุรี

พอถึงเวลา 16:00น. ก็เปลียนชุดเพื่อไปทำกิจกรรมล่องเรือยางแม่น้ำเพชรบุรี ด้วยระยะทาง 8 กิโลเมตร มากันหลายคน แข่งกันมันส์เลยค่ะ ประมาณ 1 ชั่วโมง

พระอาทิตย์ตกที่เขื่อนแก่งกะจาน
เดินทางไปชมพระอาทิตย์ตกที่เขื่อนแก่งกะจาน

หลังจากล่องเรือยางแล้ว ก็นั่งรถกลับมาที่รีสอร์ท ประมาณ 17:00 น. ก็จะมีรถมารอรับเพื่อเดินทางไปนั่งเรือยนต์ชมบรรยาการรออบเขื่อนและชมพระอาทิตย์ตก

“อากาศดีมากและวิวก็ดีมากด้วย ลมพัดเย็นสบาย เหมือนได้มาฟอกอากาศบริสุทธิ์ให้กับปอด หลังจากที่อยู่แต่ในเมือง เหมาะสำหรับท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างมาก บรรยากาศ ณ เวลานี้ คือโรแมนติกมากๆ”

พอมาถึงจะเห็นเรือยนต์ที่จอดเทียบท่ามากมายหลายลำ บนเรือจะมีเสื้อชูชีพให้ใส่ด้วย ซึ่งทุกคนจะต้องใส่ เพื่อความปลอดภัยค่ะ

เรือพาชมพระอาทิตย์ตกที่เขื่อนแก่งกะจาน
เรือพาชมพระอาทิตย์ตกที่เขื่อนแก่งกะจาน สีสันน่ารักบาดใจ
วิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน
วิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน

 “ภาพน้ำสีเขียวเข้มถูกแสงจากพระอาทิตย์ตกกระทบ ตัดกับภูเขาที่สลับกัน ไล่สีสัน ตามระยะสายตา เหมือนกับภาพวาดสีน้ำ ที่ดูแล้วสบายตามากๆ”

โชคดีมากที่วันนั้นได้เจอรุ้งกินน้ำ ในระหว่างที่นั่งเรือชมวิวรอบๆเขื่อน ในใจรู้สึกว่ามันน่ารักมาก

ทำให้คิดถึงตอนที่ยังเป็นเด็ก เห็นรุ้งกินน้ำแล้ววิ่งตาม อยากจับรุ้งให้ได้ อยากรู้ว่ารุ้งกินน้ำที่ไหน กินยังไง ใช้อะไรกิน คำถามที่เกิดขึ้นมากมายสำหรับเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง ณ ตอนนี้รู้สึกขอบคุณทุกคนที่ได้ให้ความรู้แก่เรา ดีใจที่ได้เรียนหนังสือ ได้รู้ว่าจริงๆแล้วรุ้งที่เราเห็นคืออะไร

 “ยังมีอีกหลายสิ่งบนโลกใบนี้ ที่เรายังไม่รู้ ยังไม่เห็น และยังรอให้เราออกไปค้นหาคำตอบ “

วิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน
นั่งเรือชมวิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน และชมพระอาทิตย์ตก
นั่งเรือชมวิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน และชมพระอาทิตย์ตก
นั่งเรือชมวิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน และชมพระอาทิตย์ตก
นั่งเรือชมวิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน และชมพระอาทิตย์ตก
นั่งเรือชมวิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน และชมพระอาทิตย์ตก

 

ฟินกับวิวสวยๆ อากาศดีๆ ไปตามๆกันค่ะ

อ้อ มีสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังค่ะ คนที่นั่งด้านข้างนี่ เปียกนะคะ น้ำกระเด็นใส่ค่ะ ตอนที่เรือแล่น แต่คนขับเขาก็จะมีจังหวะช่วงเร็วช้าให้ค่ะ ถ้าขับเร็วก็กระเด็นใส่กันถ้วนหน้า

ถ้าเอากล้องไปก็คงต้องระวังค่ะ จริงๆเห็นกับตาสวยกว่าเยอะค่ะ

“ธรรมชาติเขาไม่อยากให้เราเก็บภาพใส่กล้อง เพราะเมื่อไหร่ที่วิวสวยๆเราจะเจออุปสรรคมากมายกว่าจะเก็บภาพได้ เขาคงอยากให้เรามาเห็นเขากับตา ว่ามั้ยคะ เก็บไว้ในใจในความทรงจำดีกว่าค่ะ”

ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน
พระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน
ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน
ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน

แสงสีทองจากท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์ตกดินนี่สวยเกินบรรยายจริงๆนะคะ

ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน
ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน
ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน
ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน

หลังจากฟินกับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินแล้ว เราก็กลับมาอาบน้ำ ทานอาหารเย็น พร้อมปาร์ตี้ตอนเย็นค่ะ ไม่มีภาพเลยค่ะ ขอบรรยายด้วยคำพูดแทนค่ะ ที่นี่มีคาราโอเกะให้ได้ร้องกันถึง 23:00 น. ค่ะ

ส่วนใครอยากต่อก็ไปต่อกันที่ห้อง ส่วนใครใคร่นอนก็ไปหลับฝันดีกันค่ะ จบแล้วกับ 1 วันเต็มๆ

ในตอนเช้าของวันที่ 2 เราตื่นกันตั้งแต่ 04:30 น. เพื่อที่จะออกไปชมผีเสื้อ และทะเลหมอกที่เขาพะเนินทุ่ง ซึ่งจะต้องออกเดินทางตอนตี 5 ด้วยระยะทาง 50 กิโลเมตร ถ้าหากว่าช้ากว่านี้เราจะไม่ได้เห็นทะเลหมอก ที่นี่ขึ้นชื่อว่านักท่องเที่ยวสามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทุกฤดู ไม่จำเป็นจะต้องเป็นฤดูหนาว

พอถึงเวลา 05:00 รถก็มารับตามนัดหมายที่หน้ารีสอร์ท เป็นรถกระบะ มีที่นั่ง 2 ข้างเหมือนรถสองแถว มีหลังคา โดยจำกัดจำนวนคนต่อคันไม่เกิน 10 คน

ถนนจากรีสอร์ทไปถึงอุทยานเป็นทางเรียบสวย ชมบรรยากาศถนนสวย ที่มีอุโมงต้นไม้ตลอดทาง

เราออกเดินทางจากได้ซักพัก ฝนก็เริ่มตก พี่คนขับรถก็มากเรียกให้ไปขึ้นที่ cap ด้านหน้า ซึ่งแคบและนั่งได้ 4 คน ส่วนที่เหลือก็นั่งด้านนอก

พอไปถึงด่านของอุทยานก็จะมีที่พักรถ และเจ้าหน้าอุทยานมาตรวจคน และก็เดินทางต่อไป ฝนไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตก ยังคงตกเรื่อยๆ ซึ่งรถไม่มีกันสาด ทำให้คนที่นั่งด้านหลังเปียกกันหมด เราไม่สามารถย้อนกลับไปได้เนื่องจากทางขึ้นเขาแคบมากต้องวิ่งทางเดียว ค่อนข้างอันตราย ไม่ได้เรียบเหมือนต้นทางที่ผ่านมา ทางเป็นหลุมบ่อ และชัน พร้อมด้วยโค้งที่เยอะพอสมควร ซึ่งคนที่จะขับได้ต้องมีความชำนาญพอสมควร

ขึ้นเขาไปได้ซักพัก โชเฟอร์ก็ต้องหยุดรถ เพราะมีช้างป่าเดินข้ามถนน โชเฟอร์ต้องดับไฟและเครื่องยนต์เพื่อไม่ให้ช้างตื่นตัว เพราะค่อนข้างอันตราย แต่เราตื่นเต้นมากเลยนะ ช้างตัวใหญ่มาก

ระหว่างทางเราต้องข้ามลำธารเล็กๆ ประมาณ 3 ลำธาร ถ้าฝนไม่ตกเราว่าจะต้องเป็นอะไรที่ดีมากๆ เราไม่สามารถเก็บรูปมาให้ได้แต่เราจำทุกเหตุการณ์ได้

ในที่สุดเราก็มาถึงจุดชมผีเสื้อ ใช้เลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ฝนก็ยังไม่หยุดตก และไม่สามารถลงจากเขาไปได้ เพราะจะมีเวลาขึ้น-ลง และยังคงมีรถตามขึ้นมาเรื่อยๆ มีหลายคณะที่มาเจอชะตากรรมเดียวกับพวกเรา ผิดหวังไปตามๆกัน

ที่นำเรื่องนี้มาเล่าเพราะอยากให้เป็นตัวอย่างกับหลายๆคน เราอาจจะต้องดูเรื่องของฝนฟ้าอากาศนิดนึงนะคะ ถ้ามีโอกาสเราก็อยากจะไปอีกครั้ง ไปชมผีเสื้อให้ได้ และวิวข้างทางค่อนข้างสวย แต่เราไม่สามารถถ่ายรูปมาได้เลย ): แต่เราก็ไม่เสียใจนะ เพราะมันคือ

สีสันของการเดินทาง

ภาพสุดท้ายก่อนออกเดินทางจากรีสอร์ทกลับกรุงเทพฯ

แจ่มจันทร์รีสอร์ท
ภาพสุดท้ายที่แจ่มจันทร์รีสอร์ท นายแบบหล่อ นางแบบสวย 🙂

ปล.หลายคนสงสัยว่ามาสัมมนาแต่ไม่มีรูปสัมมนาเลย เรามาสัมมนาจริงนะ แต่ไม่ได้ลงรูปนะคะ

วัน เวลา 

ต้นเดือน กรกฎาคม 2558

การเดินทางไปแจ่มจันทร์รีสอร์ท

แผนที่จากโลตัสพระรามสี่-แจ่มจันทร์รีสอร์ท
แผนที่จากโลตัสพระรามสี่-แจ่มจันทร์รีสอร์ท
แผนที่จากโลตัสพระรามสี่-แจ่มจันทร์รีสอร์ท
การเดินทางจากโลตัสพระรามสี่-แจ่มจันทร์รีสอร์ท