songs for sleep

[What’s to read]20 บทเพลงที่จะช่วยให้คุณนอนหลับในคืนนี้!

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.spotify.com และ The Guardian

ใครมีปัญหานอนไม่หลับยามคำ่คืน หรือ หลับๆตื่นๆ เพราะกระวนกระวายใจบ้างยกมือขึ้น วันนี้เรามีบทเพลงฮิตยุคปัจจุบันที่เหล่าคอดนตรีเลือกฟังในหัวข้อของการนอนมากที่สุดมาฝาก! เชื่อได้เลยว่าทั้ง 20 บทเพลงนี้จะต้องมีสักเพลงที่ถูกใจคุณ

โดยSpotify เผยถึง 20 อันดับบทเพลงที่คนเลือกฟังในหัวข้อของการ “นอนหลับ” ว่าเพลงของ Ed Sheeran เป็นเพลงที่ถูกคนเลือกฟังมากที่สุด  นอกจากนั้นยังมีเพลงฮิตของ Sam Smith อย่าง I’m Not The Only One และ Stay With Me รวมไปถึงเพลงจากภาพยนตร์สุดเซ็กซี่ Fifty shades of grey อย่าง Love me like you do อีกด้วย โดยมีคนเลือกฟังเพลงของหนุ่มเสียงดีอย่าง Ed Sheeran มากกว่า 2.8 ล้านครั้งทีเดียว

โดยเพลงในประเภทของการนอนหลับนั้นถือเป็นเพลงหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดที่ถูกฟังจากผู้คนทั่วโลก เพราะนอกจากจะช่วยในเรื่องของการนอนหลับแล้วบางครั้งผู้คนรับฟังบทเพลงเหล่านี้เพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าบางครั้งหากใครที่เกิดอาการนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายลองหาเพลงสบายๆที่ถูกใจฟังก่อนนอนดูนะคะ หากยังไม่รู้ว่าจะฟังเพลงอะไรดี คืนนี้ฟังบทเพลงเหล่านี้ที่Thailandindy ขอยืมข้อมูลมาจาก Spotify  จัดลำดับมาให้กล่อมนอนกันไปก่อน หากมีบทเพลงในดวงใจที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายได้อย่าลืมมาแชร์กันบ้างนะคะ

หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

20 เพลงฮิตที่คนฟังมากที่สุดในหัวข้อ “นอนหลับ”

1. Thinking Out Loud – Ed Sheeran

ขอขอบคุณ : Ed Sheeran

2. Stay With Me – Sam Smith

ขอขอบคุณ : SamSmithWorldVEVO

3. Love Me Like You Do (from Fifty Shades of Grey) – Ellie Goulding

ขอขอบคุณ : EllieGouldingVEVO

4. I See Fire – Ed Sheeran

ขอขอบคุณ : CLS Videos

5. I’m Not the Only One – Sam Smith

ขอขอบคุณ : SamSmithWorldVEVO

6. Rain for Sleep – Rain Sound

ขอขอบคุณ​ : Brad McBride

7. All of Me – John Legend

ขอขอบคุณ : johnlegendVEVO

8. Earned It (from Fifty Shades of Grey) – The Weeknd

ขอขอบคุณ : TheWeekndVEVO

9. Let Her Go – Passenger

ขอขอบคุณ : Passenger

10. Skinny Love – Birdy

ขอขอบคุณ : Birdy

11. Say Something – A Great Big World, Christina Aguilera

ขอขอบคุณ : AGreatBigWorldVEVO

12. FourFiveSeconds – Rihanna, Paul McCartney, Kanye West

ขอขอบคุณ : RihannaVEVO

13. The A Team – Ed Sheeran

ขอขอบคุณ : Ed Sheeran

14. Tenerife Sea – Ed Sheeran

ขอขอบคุณ : dylan

15. Give Me Love – Ed Sheeran

ขอขอบคุณ : Ed Sheeran

16. Lay Me Down – Sam Smith

ขอขอบคุณ : SamSmithWorldVEVO

17. Fix You – Coldplay

ขอขอบคุณ​ : Coldplay Official

18. Photograph – Ed Sheeran

ขอขอบคุณ : Ed Sheeran

19. Kiss Me – Ed Sheeran

ขอขอบคุณ : vidsareforfags

20. Latch (Acoustic) – Sam Smith

ขอขอบคุณ : SamSmithWorldVEVO

สิงห์ คอร์เปอเรชั่น นำสุดยอดวงร็อคระดับโลก “บอง โจวี่” เปิดคอนเสิร์ตใหญ่ในประเทศไทยอีกครั้ง 15 กันยายนนี้

สิงห์ คอร์เปอเรชั่น นำสุดยอดวงร็อคระดับโลก “บอง โจวี่”
เปิดคอนเสิร์ตใหญ่ในประเทศไทยอีกครั้ง 15 กันยายนนี้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.bectero.com

 

สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ร่วมกับ ไลฟ์ เนชั่น บีอีซี-เทโร เอาใจแฟนเพลงชาวไทย นำสุดยอดวงร็อคชั้นยอดของโลก บอง โจวี่ (Bon Jovi) เจ้าของเพลงฮิต อิตส์ มาย ไลฟ์ (It’s My Life), ออลเวย์ส (Always), ยู กีฟ เลิฟ อะ แบด เนม (You Give Love A Bad Name), ลีฟวิ่ง ออน อะ เพรเยอร์ (Livin’ On A Prayer) และอีกมากมายที่ฮิตติดหูและอยู่ในความทรงจำของชาวร็อคตลอดกาล มาเปิดการแสดงสดในประเทศไทยอีกครั้ง กับคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบ “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พรีเซ้นท์ส บอง โจวี่ ไลฟ์ อิน แบงค็อก” (Singha Corporation presents Bon Jovi Live in Bangkok) ในวันอังคารที่ 15 กันยายนนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

“พวกเราเปิดทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกตั้งแต่ปี 1995 และตื่นเต้นมากที่จะได้พบกับแฟนเพลงชาวไทยของเราอีกครั้ง แล้วมาสนุกไปกับการแสดงสดของพวกเรา ในวันอังคารที่ 15 กันยายนนี้ด้วยกันนะครับ” จอน บอง โจวี่ (Jon Bon Jovi) กล่าว

บอง โจวี่ (Bon Jovi) เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่มีความสำคัญมากที่สุดวงหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการเพลงร็อคและป็อป ด้วยความสำเร็จอย่างท่วมท้น กระแสนิยมอย่างล้นหลามทั่วโลก และต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 ปีของ บอง โจวี่ เรียกได้ว่ามาจากเพลงสุดฮิตจำนวนมากของพวกเขาที่ฮ็อตติดท็อปชาร์ต และแฟนๆ ทั่วโลกต่างร้องตามได้แทบทั้งสิ้น จึงไม่แปลกที่พวกเขาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวงการเพลงร็อคอเมริกัน และเลื่องชื่อลือชาในเรื่องฝีไม้ลายมือทางการแสดงสด ซึ่งแน่นอนว่าแฟนเพลงในบ้านเรา จะได้ชมคอนเสิร์ตครั้งนี้แบบเต็มอิ่ม สุดพลัง และจะจดจำไปอีกนานกับเพลงฮิตอันโด่งดัง ที่พวกเขาเตรียมขนมามอบให้แฟนเพลงชาวไทย อย่าง ลิฟวิ่ง ออน อะ เพรเยอร์ (Livin’ On A Prayer), ยู กีฟ เลิฟ อะ แบด เนม (You Give Love A Bad Name), อิตส์ มาย ไลฟ์ (It’s My Life), แฮฟ อะ ไนซ์ เดย์ (Have a Nice Day) รวมถึงเพลงที่ทำให้พวกเขาได้รับรางวัลแกรมมี่ อย่าง ฮู เซย์ส ยู คานท์ โก โฮม (Who Says You Can’t Go Home) และอีกหลายๆ เพลงที่คุ้นเคย

วง บอง โจวี่ (Bon Jovi) ซึ่งนำโดยนักร้องนำเจ้าเสน่ห์ จอน บอง โจวี่ (Jon Bon Jovi) นอกจากได้ร่วมกันผลิตผลงานอันเป็นตำนานของพวกเขามากถึง 12 สตูดิโออัลบั้ม กับยอดขายทั่วโลกสูงกว่า 130 ล้านแผ่นแล้ว วงร็อคยอดนิยมวงนี้ยังสร้างความแข็งแกร่งให้กับชื่อเสียงของพวกเขาจากสุดยอดฝีไม้ลายมือทางด้านงานดนตรีร็อค และการแสดงสดอันยอดเยี่ยมเข้มข้นเป็นที่กล่าวขานถึงความมันส์มากว่า 2,900 รอบ และได้รับรางวัลทางดนตรีมากถึง 21 รางวัล ทั้งจาก แกรมมี่ อวอร์ดส, บิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ดส, อเมริกัน มิวสิค อวอร์ดส และ เอ็มทีวี อวอร์ดส

คอนเสิร์ตครั้งนี้ของพวกเขาจะเป็นประสบการณ์ทางดนตรีที่แฟนๆ ยากที่จะลืมเลือน ด้วยความเป็นเลิศในหลายๆ ด้านของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเพลงฮิตอันยาวเหยียด การมีหนึ่งในนักร้องที่ดีที่สุดแห่งวงการดนตรีป็อปมาร้องนำให้กับวง การเป็นศิลปินมืออาชีพมากฝีมือ และความนิยมอันแข็งแกร่งยาวนานทั่วโลก

เมื่อปี 1995 หรือ 25 ปีที่แล้ว บัตรชมคอนเสิร์ตของ บอง โจวี่ (Bon Jovi) ในเมืองไทยได้ถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยง ซึ่งครั้งนั้นพวกเขาได้เปิดการแสดงสดต่อหน้าแฟนเพลงที่เมืองไทยมากกว่า 10,000 คน และในปีนี้ สิงห์ คอร์เปอเรชั่่น และ ไลฟ์ เนชั่น บีอีซีเทโร รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำประสบการณ์ทางดนตรีอันทรงพลังกลับมามอบให้แฟนเพลงในเมืองไทยอีกครั้ง

เราภูมิใจมากที่ได้นำสุดยอดการแสดงของ บอง โจวี่ (Bon Jovi) วงดนตรีชั้นนำระดับโลกมาสู่ประเทศไทย และตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้สร้างปรากฏการณ์ทางดนตรีร็อคอันน่าทึ่งร่วมไปกับแฟนๆ ที่นี่นีล ทอมป์สัน ซีอีโอ ของ ไลฟ์ เนชั่น บีอีซีเทโร กล่าว

งานนี้ พลาดไม่ได้เด็ดขาดกับสุดยอดการแสดงสดของปรมาจารย์ทางดนตรี บอง โจวี่ (Bon Jovi) และการกลับมาของพวกเขาอีกครั้งใน “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พรีเซ้นท์ส บอง โจวี่ ไลฟ์ อิน แบงค็อก (Singha Corporation presents Bon Jovi Live in Bangkok) ในวันอังคารที่ 15 กันยายนนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี บัตรราคา 2,000 / 2,500 / 3,500 / 4,000 / 5,000 และ 6,000 บาท เปิดจำหน่ายบัตรในวันเสาร์ที่ 12 กันยายนนี้ ตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป ที่ไทยทิคเก็ตเมอเจอร์ทุกสาขา หรือ www.thaiticketmajor.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 0-2262-3838 ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ที่www.bectero.com/ www.facebook.com/bectero/

The Ritz-Carlton, Osaka ความหรูหราระดับห้าดาว ณ โอซาก้า

สวัสดีทุกท่านอีกครั้งนะคะ สำหรับคอลัมน์สัญจรเล็กๆ ของ Saturday Night เมื่อครั้งมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่โอซาก้า ณ เมืองอาทิตย์อุทัยมา  ด้วยเหตุที่โอนี่ซังพี่ชายชาวญี่ปุ่นสุดหล่อของเราแต่งงาน และได้มีโอกาสได้พักผ่อนที่โรงแรม The Ritz Carlton ใจกลางเมืองโอซาก้า

จริงๆแล้ว The Ritz Carlton นี่มีหลายสาขานะ แต่ก่อนยังไม่ค่อยรู้จักแต่พอได้มาพักเลยต้องรีบไปทำความรู้จักทันที ฮ่าๆ หลังจากที่เข้าไปก็พบกับความโ่อ่อ่าของล๊อบบี้ที่เน้นโทนสีน้ำตาลขอไม้ต้นใหญ่ ดวงไฟสีส้มจากแชนเดอร์เลียร์ตรงกลางทำให้ห้องดูสว่างไสวในฟีลอบอุ่น แขกเหรื่อที่มาพักส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจ เพราะเห็นใส่สูทเดินไปมาขวักไขว่อยู่หลายท่าน และสำหรับ The Ritz Carlton นี่ที่ดีมากกว่าความสวยคือทำเลอยู่ใจกลางโอซาก้า และห่างจากสถานีรถไฟไม่ไกลเลยค่ะ  เดินจากสถานีรถไฟใต้ดิน Nishi Umeda (西梅田) โดยเดินเพียงแค่ 5นาที อีกทั้งสถานี Nishi Umeda นี้ยังเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟอื่นๆที่สำคัญ โดยเฉพาะ สถานี Umeda (梅田)(สามารถหาข้อมูลเพิ่มได้ที่ >> https://en.wikipedia.org/wiki/Nishi-Umeda_Station) ซึ่งเป็นสถานีท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้าทีเดียวค่ะ

 

 

ritz-carlton21

 

ritz-carlton26

 

ritz-carlton27

สำหรับThe Ritz Carlton ใครอยากช๊อป ชม ชิว ไม่ต้องห่วงเลยนะคะ เพราะใกล้กับห้างที่เชื่อมกับสถานีอุเมดะที่ได้บอกไปคือห้างชื่อดังอย่าง Hanshin และ Daimaru ซึ่งจริงๆแล้วใครอยากได้บรรยากาศอารมณ์เหมือนเป็นแม่บ้านญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ แนะนำที่ชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าต่างๆเลยค่ะ ที่นั่นคุณจะได้พบกับซุปเปอร์มาเก็ต ที่เรียงรายไปด้วยร้านขายอาหารอร่อย สุดยอดขนมชิ้นโต สตอเบอรี่ชิ้นอวบ พูดไปก็น้ำลายสอ แล้วอย่าลืมนะคะ ใครที่ไปช๊อปปิ้งอย่าลืมไปเอา Tax Refund ลองเช็คกับประชาสัมพันธ์แต่ละห้างดูว่าอยู่ที่ชั้นไหน ที่ห้างเขาเคยชินกับการขอคืนภาษีของเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสะดวกดีค่ะ อาจจะต่อคิวนิดหน่อยแต่ได้เงินคืนเอาไปซื้อขนมอร่อยๆได้นะ

ritz-carlton22

 

ritz-carlton25

 

ข้ามเรื่อง The Ritz Carlton มานานเชียว เล่าให้ฟังต่อสำหรับใครที่อยากจะช๊อปปิ้งเรื่องของเครื่องใช้ไฟฟ้า ตรงข้ามโรงแรมเยื้องไปหน่อยจะมีร้านที่ชื่อ Yodobashi ค่ะ แนะนำให้ซื้อที่ร้านนั้นเพราะราคาไม่แพง และทำ Tax Refund  ได้เช่นเดียวกัน แต่อาจจะมีความกังวลตรงที่ว่าเวลาเราซื้อกล้อง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้ามา เขาจะรับประกันเฉพาะแต่ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่ได้เป็น World Insurance ยังไงก็ชั่งใจให้ดีนะคะ แต่ถ้าเราคิดว่าเรารักษาของได้ดี แนะนำค่ะ ราคา และคุณภาพที่นี่จัดว่าเด็ดทีเดียว

 

ritz-carlton28

 

เล่ามา 3 พารากราฟยังไม่ได้เข้าเรื่องตัวโรงแรมเสียที คิคิ ของข้างนอกมันน่าตื่นตาตื่นใจพอๆกับโรงแรมเลยค่ะ ภายในโรงแรมก็เน้นโทนสีน้ำตาลค่ะ ชั้นต่างๆก็จะประดับประดาไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ประดับชิ้นโต โอ่อ่า ดูอย่างตู้วางจานด้านล่างนี่ประดับอยู่ในชั้นที่เราพัก ก็เป็นสไตล์ของที่นั่น หรูหรา ดูเป็นยุโรเปี้ยนสมัยโบราณกาล ตามคอนเซ็ปที่เขาได้กล่าวไว้ในเว็บไซต์​ (http://www.ritzcarlton.com/en/Properties/Osaka/Default.htm)

Pass through the Gateway of Western Japan and marvel at ancient traditions and accents that punctuate the ultra-modern landscape. The Ritz-Carlton, Osaka business hotel is a place of elegant serenity and ease, yet is perfectly placed amidst the bustling activity of the city’s center.

ritz-carlton14

 

ritz-carlton34

 

ritz-carlton12

 

เมื่อเดินเข้ามาในห้องนอนก็จะพบกับเตียงไม้สุดคลาสสิคที่ถูกคลุมด้วยผ้าคลุมเตียงครึ่งผืนสีทองขาว พอวางกับหมอนอิงสีฟ้าอ่อนโทนเดียวกับผ้าม่านแล้วดูเข้ากันได้ดีมากเลย ด้วยส่วนตัวอาจจะชอบสีฟ้าอยู่ด้วแล้ว ทำให้เข้าห้องนอนมาแล้วรู้สึกสบายใจอยากจะหลับใหลอยู่บนเตียง ส่วนตามห้องก็ประดับประดาไปด้วยภาพเขียนสีน้ำเป็นรูปดอกไม้นานาชนิด เพลิดเพลินเจริญใจดีนะ ที่ประทับใจยิ่งกว่าคือทั้งห้องเขาสามารถหาเฟอร์นิเจอร์ ของประดับตกแต่งเป็นสีโทนเดียวกันหมด พอเอามารวมกันหมดแล้วทำให้เรารู้สึกว่าเป็นห้องที่คล้ายกับอยู่บ้าน รู้สึกน่าพักผ่อน และหย่อนตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม นอกจากนั้นแล้วมุมด้านข้างก็จะพบโซฟาตัวเดี่ยวที่ยืดขาได้อย่างสบายในสีโทนเดียวกัน  หลังจากนั้นพอมองผ่านกระจกบานใหญ่ออกไป แล้วก็พบกับวิวของเมืองโอซาก้า ตึกสูงระฟ้าแต่ไม่ได้ดูขัดหูขัดตาเพราะท้องฟ้าเป็นใจ ฮะ ฮิ้ววว คือท้องฟ้ากว้างใหญ่พออยู่กับวิวตีก และแม่น้ำ การมองเห็นบนชั้นสูงของโรงแรมนี้ทำให้ภาพนี้ดูเข้ากันดีไม่ขัดใจ จัดว่าชอบ ฮ่าๆๆ

ritz-carlton09

 

ritz-carlton08

 

ritz-carlton02

 

ritz-carlton03

 

ritz-carlton10

 

ritz-carlton11

 

ritz-carlton07

 

ritz-carlton06

 

ritz-carlton04

 

ที่ประทับใจนอกจากห้องนอนแล้ว เห็นจะเป็นห้องน้ำนี่แหละค่ะ โอ่อ่า สีสะอาดตา น่าแหวกว่ายมาก คือบอกเลยว่าครั้งนี้ไปใช้เวลากับห้องน้ำนานมากมีการแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน เป็นห้องส้วม ห้องอาบน้ำแบบชาวเวอร์ และ โซนอาบน้ำที่เป็นแบบอ่าง เลือกไม่ถูกเลย แต่งานนี้ขอเข้าห้องที่นั่งได้ก่อนละกัน อุอิ บรรยากาศแสงไฟ ทุกอย่างในห้องน้ำเป็นใจมาก นอกจากนั้นแล้ว เขายังใช้ครีมอาบนำ้ที่ชื่อว่า Asprey กลิ่นหอมอ่อนๆ ราวกับอยู่ในสปาทำให้เราถึงขั้นต้องออกค้นหาว่ามีขายที่ไหน (ข้างล่างตรงล๊อบบี้มีช๊อปนะคะ แต่ราคาเอาเรื่องเลยกลับมาอุดหนุนสินค้าคล้ายๆกันบ้านเราแทน อิอิ)

สำหรับเราแล้วส่วนตัวเลยชอบในความละเอียดของโรงแรม ไม่วาจะชุดนอนที่เตรียมให้ (ส่วนใหญ่โรงแรมญี่ปุ่่นจะมีชุดนอนเตรียมไว้ให้นะ) ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ขวดน้ำ แก้ว และทุกๆอย่างมีตราสัญลักษณ์ของโรงแรมประทับไว้หมด ไม่ว่าจะเป็นการปัก เย็บ ถักร้อย สกรีน ทุกอย่าง เรารู้สึกว่าเขาให้ Branding และของใช้ทุกชิ้นเป็นอย่างดี เลยทำให้ยิ่งรู้สึกว่าเขาพิถีพิถันในเรื่องต่างๆมากเลย

 

ritz-carlton-bathroom

 

ritz-carlton15

 

ritz-carlton38

 

มาถึงโซนฟิตเนส เข้ามาก็ยังเจอแชนเดอร์เลีย ราวกับ Sia มาร้องเพลงให้ฟัง…อ๊ะไม่เกี่ยวสินะ ฮ่าๆๆ ทุกพื้นที่ของที่นี่ไม่หลุดคอนเซ็บของความหรูหราและโอ่อ่าค่ะ ทางเข้าฟิตเนส และสปายังคงอลังการงานสร้าง ราวกับผู้ดีอังกฤษในยุคกาลก่อนมาก่อนสร้างสิ่งงดงามนี้ไว้ ศิลปะที่ใช้โคมใหญ่ รูปปั้น และวอลเปอเปอร์สุดอลังการ รวมถึงไม้สีเข้ม  แถมด้วยเตาผิง ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนเขาก็ยังทำออกมาได้อย่างไม่หลุดคอนเซ็ป ฟิตเนสก็เช่นเดียวกัน แม้ไม่ได้เล่น แต่รักหมดใจ พูดเลยยย จริงๆมีสระว่ายน้ำด้วยนะคะ แต่เห็นหนุ่มยุ่นว่ายน้ำอยู่ไม่กล้าถ่ายมา กลัวเลือดกำเดาพุ่ง เอ๊ย ไม่ใช่ กลัวละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเขามาเกินไป ใครอยากเห็นสระว่ายน้ำสามารถคลิกเข้าไปดูที่เว็บ http://www.ritzcarlton.com/en/Properties/Osaka/Default.htm ได้เลย หรูหราดีงามทีเดียว


ritz-carlton32

 

ritz-carlton31

 

ritz-carlton29

 

ritz-carlton30

ปิดท้ายกันด้วยเรื่องของอาหาร อาหารเช้ามีให้เลือกสารพัดสารเพ ทั้งเจแปนนิสสไตล์ และเวสเทิร์นสไตล์ มี EGG STATION แปลสั้นๆว่าสถานีไข่ ให้เราได้เลือกเมนูไข่ที่เราชื่นชอบแล้วคุณเชฟก็จะทำให้เดี๋ยวนั้น มีตั้งแต่ไข่ดาว ยันเอ้กเบเนดิกส์ แถมมี โคลด์คัทวางให้เราได้ไปกวาดทั้งพาร์ม่าแฮม ซาลามี่ มารับประทานกันให้เพลิดเพลินปาก แถมไปปิ้งขนมปังนานาชนิดมาให้เพลิดเพลินใจ อาหารอร่อยจนต้องตักแล้วตักอีก อันนี้ไม่ได้อวย แต่กินไปเยอะจริงๆ คือชอบมากกกฮ่ะะะะ

 

ritz-carlton-breakfast

 

ritz-carton39

 

ritz-carlton24

 

 

ถ้าจะให้พูดความประทับใจสำหรับ The Ritz Carlton แห่งเมืองโอซาก้า แล้ว ต้องบอกเลยว่าประทับใจในการให้สีสัน และสไตล์ที่ชัดเจน ถ้าจะเปรียบกับคาแร็คเตอร์ของคน The Ritz Carlton แห่งเมืองโอซาก้า ทำให้เราคิดถึงชายหนุ่มผู้ดีอังกฤษที่มีความสุขุม เข้มแข็งด้วยความโอ่อ่า และโทนสีที่ใช้ หากแต่อบอุ่น และละเอียดอ่อน ด้วยรายละเอียดภายในห้องต่างๆ รวมถึงการให้ความสำคัญกับเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น และการเลือกสรรเมนูอาหารอย่างที่ได้เล่าให้ฟังไปเช่นเดียวกัน หากใครมีโอกาสได้ไปก็อยากให้ได้ไปพักผ่อน และเดินเล่นชมโรงแรมกันนะคะ แต่ถ้าหากจะให้พูดถึงข้อเสียเปรียบของโรงแรมนี้แล้ว The Ritz Carlton ถ้ามองในมุมที่ยามนี้มีคู่แข่งเป็นโรงแรมสวยๆที่ถูกผลิตในหัวเมืองใหญ่ขึ้นมามากมายแล้ว The Ritz Carlton ถือว่าราคาค่อนข้างสูงทีเดียวสำหรับยุคดิจิตัลนี้ที่มีดีลออนไลน์ของโรงแรมผุดขึ้นมากมาย อย่างไรก็ตามเมื่อเราลองดูช่วงเดือน พฤศจิกายน  (ประมาณวันที่ 8 พ.ย.นี้ เพราะว่าที่เกียวโตจะมีเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีที่ Arashiyama)ราคาของ The Ritz Carlton จะอยู่ที่ประมาณ​ 15,000++ เปรียบเทียบจากตารางด้านล่างนี้ด้วยเว็บไซต์ www.hotelscombined.com 

 

 

 

Screen shot 2015-09-01 at 12.47.23 AM

cr. http://kyoto.travel/en/planyourvisit/events/schedule/75

Screen shot 2015-09-01 at 12.49.47 AM

 

 

แผนที่โรงแรม 

 

Screen shot 2015-08-31 at 11.49.26 PM

 

 

     ระยะทางระหว่างสนามบิน และโรงแรม 

  • Osaka International Airport (11.2Km)
  • Kansai International Airport (37.1Km)

 

ทั้งนี้ใครอยากลองไปสัมผัสบรรยกาศหรูหราสไตล์ยุโรปใจกลางเมืองญี่ปุ่นดูสักที จะยกมือบอกว่าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ใครเคยบอกว่าโรงแรมญี่ปุ่นจะต้องเล็กและแคบ งานนี้คุณจะบอกได้ว่ามันไม่จริง! (แล้วแต่ที่น่ะน่ะ ฮ่าๆๆ) อย่างไรก็ตามคิดว่า The Ritz Carlton เป็นโรงแรมที่ดีอีกแห่งหนึ่งที่ใส่ใจทั้งคุณภาพ และบริการ หากใครมีโอกาสไปอย่าลืมกลับมาเล่ามาแชร์ให้ฟังนะคะ เปิดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ritzcarlton.com/en/Properties/Osaka/Default.htm เลย วันนี้ขอตัวไปเขียนสถานที่เที่ยวต่างๆเพิ่มเติมก่อนนะคะ แล้วจะกลับมาหาใหม่

สวัสดี แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า

Saturday Night.

 

the man from U.N.C.L.E

[REVIEW] The man from U.N.C.L.E คู่หู คู่เดือด ที่ร้อนแรงที่สุดแห่งศตวรรษ! [สปอยล์เล็ก เล็กนิดเดียวจริงๆ]

[REVIEW]The man from U.N.C.L.E คู่หู คู่เดือด ที่ร้อนแรงที่สุดแห่งศตวรรษ! [สปอยล์เล็ก เล็กนิดเดียวจริงๆ]

man from uncle
cr.http://www.majorcineplex.com/news/review-the-man-from-u-n-c-l-e

ถ้าพูดถึงเรื่อง The man from U.N.C.L.E สามคำแรกที่ปรากฎในหัว หล่อ กวน เท่ห์! สามคำที่ชัดเจน และแทบจะเป็นคำจำกัดความของตัวละครหลักสองคนในเรื่องนี้ อ๊ะไม่สิ! อาจจะสามด้วยซ้ำ เพราะบางครั้งนางเอกของเราก็กวนไม่แพ้กัน แต่ต้องยอมรับอย่างนึงเลยว่าเป็นภาพยนตร์ที่ผกก. และทีมแคสติ้งเลือกตัวแสดงออกมาได้ดีมากกก โดนใจใช่เลยยย คือแบบตามประสาคนบ้าคนหน้าตาดีนะคะ ขอบอกว่าสามคนนี้ ผ่าน ผ่าน และ ผ่านค่ะ!!!

cr. http://www.majorcineplex.com/news/60th-the-man-from-u-n-c-l-e
cr. http://www.majorcineplex.com/news/60th-the-man-from-u-n-c-l-e

The man from U.N.C.L.E เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งของกาย ริชชี่ ซึ่งเสน่ห์การกำกับของเขาก็ยังไม่แปรเปลี่ยนไปไหน สามารถทำหนังออกมาได้ แซ่บ อร่อย เก๋ไก๋ สไลเดอร์เหมือนเดิม หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราประทับใจมู้ด แอนด์โทนของหนังมากทีเดียว  ด้วยเนื้อเรื่อง และจังหวะจะโคนของหนังมันกำลังดี กำลังอร่อย และไม่มากเกินไป 

the man from U.N.C.L.E
cr.Warner Bros. Entertainment Inc.

ใช่เลย สายลับมันต้องหนี! หลายครั้งหลายฉากที่ทำออกมาแล้วรู้สึกว่าต่างกับอีกเรื่องในโรง(ไม่อยากจะเอ่ยว่าเรื่องไหน) แต่เรื่องนี้คือถ้าจำเป็นต้องฆ่าก็ฆ่าแต่ถ้าไม่จำเป็นต้องฆ่าก็จะปล่อยไปเน้นให้ความสำคัญกับเนื้อเรื่องมากกว่าการไล่ล่ามากกว่า

แต่ที่ประทับใจไปยิ่งกว่าการยิงเปรี้ยงปร้าง หรือฉากบู๊แอ็คชั่นแล้ว  ประทับใจคาแร็คเตอร์ของตัวแสดงมากกกกก กอไก่ล้านตัว โดยเฉพาะอิลยา เคอร์ยากินรับบทโดย อาร์มี่ แฮมเมอร์  ชายหนุ่มซึนเดเระ(ภาษาญี่ปุ่นเขาเรียกกันอย่างนี้ใช่ไหม) เป็นคนเถรตรงแต่บางครั้งก็ปากไม่ตรงกับใจ  ในคาแร็คเตอร์เท่ห์มาก แมนมากสไตล์หนุ่มรัสเซีย คือเอาความบู๊เข้าสู้มาก ต่างจาก นโปเลียน โซโล รับบทโดยเฮนรี คาวิลล์ ซึ่งรอบนี้มาในมาดหนุ่มขี้เล่นเพลย์บอย มือฉกระดับพระกาฬ  รูปหล่อ คารมคมคาย และเป็นคนมีกึ๋น ใช่แล้วเขาฉลาด อาจจะแกมโกงและเจ้าเล่ห์นิดๆ ซึ่งนั่นเป็นข้อดีในการที่ทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตการณ์ต่างๆมาได้ ซึ่งหนุ่มเฮนรีตีบทแตก เพราะเขาทำให้เราเชื่อจริงๆแม้กระทั่งการยิ้มแบบยียวนของเขาก็ตาม

uncle01

cr.Warner Bros. Entertainment Inc.

สำหรับเรื่องนี้ มีหลากอารมณ์ ทั้งอารมณ์ซึ้ง เครียด มันส์ บู๊ แอ็คชั่น ยียวน กวนพระบาท ที่สำคัญ ตลกได้หลายฉากที่เดียว บางฉากก็แอบทำให้เรารู้สึกเป็นภาพทับซ้อนกับละครหลังข่าวขึ้นมาในหัว แต่พอเห็นภาพแบบนี้ในมุมมองของชาวตะวันตกแล้วดูน่ารักมุ้งมิ้งจิงกะเบลล์ขึ้นมาทันที ฮ่าๆๆ

อยากให้ทุกคนได้ไปดูค่ะ เรื่องนี้คลายเครียดได้จริงๆ แล้วแถมยังให้อารมณ์เก๋ไก๋ สไลเดอร์ในชีิวิตยามขาดสีสันด้วยนะ สำหรับส่วนตัว ทั้งมู้ดแอนด์โทนของเรื่องงเตะตา และประทับใจมากทีเดียว ใครยังไม่ได้ตีตั๋ว ขอบอกเลยแค่เข้าไปดูพระเอกกล้ามโตสองคนนี้ก็คุ้มค่าบัตรล้าวววว ส่วนใครไปดูมาแล้ว มาคุยกันได้นะเออ สำหรับเรื่องหน้า insideout ไม่พลาดแน่นอน แล้วเจอกัลลล.

SATURDAY NIGHT.

the man from U.N.C.L.E
Cr.dailymotion.com
hitman-agent-47

[Review]Hitman Agent 47 : จากเกมส์สู่จอกว้าง ไร้หัวใจ ไล่ล่า ฆ่าให้สุด!

ไปดูมาแล้วครัชพี่น้อง สำหรับหนังเรื่องHitman Agent 47  ฮิทแมน สายลับ 47 หลังจากดูตัวอย่างหนังตอนที่ได้ไปดู Mission Impossible 5 ขออนุญาตรีวิวตามความรู้สึกล้วนๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะฮ้าา ส่วนตัวคิดว่า

สนุกดีนะ ดูเพลิน ดูมันส์ แอบลุ้นอยู่หน่อยๆ แล้วก็ฉากบู๊ แอคชั่นก็ทำได้ดี แต่ด้วยความที่ทราบมาก่อนอยู่แล้วว่าหนังเรื่องนี้มีพื้นเพมาจากเกมส์ Hitman : Codeman 47 เลยอาจจะทำให้รู้สึกขัดๆอยู่บางอย่างเหมือนกัน

ขอบคุณรูปจาก  : http://www.majorcineplex.com/

hitman-03

มาพูดถึงนักแสดงก่อนดีกว่า ส่วนตัวชอบเสน่ห์ของคาเทีย นางเอก  (รับบทโดย ฮันนาห์ แวร์) สวย คมเข้ม มีเสน่ห์ แววตาที่สื่อออกมาแต่ละครั้งถึงความรู้สึกกลัว เหงา กังวลใจ ที่ถูกฝังโปรแกรมเข้าไปคือดี คือชัด คือปรบมือข่าา พอแปรเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่น แววตาเธอก็เป็นประกายวาบเลยทีเดียว ประทับใจ มาถึงคุณพ่อพระเอกหน้าเดียว ผมทรงพระอาทิตย์มีบาร์โค้ดปาดอยู่ด้านหลังกันบ้าง งานนี้รับบทโดย รูเพิร์ต เฟรนด์ หนุ่มหล่อวัย 34 ปีสุดฮอต ผู้ที่รับบทมิสเตอร์วิกแฮมในอหังการ และอคติ (Pride and Prejudice)  เขารับบทเป็น 47 ชายหนุ่มผู้โดนฝังโปรแกรมให้ไร้หัวใจ ให้ไร้ความรู้สึก และมีความสามารถมากกว่าคนทั่วไป (มากกกกกกกก) การแสดงของหนุ่มรูเพิร์ตก็จัดว่าโอเค โดยเฉพาะฉากบู๊ และฉากใน T-Ser ที่แอ่นตัวราวกับจะทำสะพานโค้ง ทำให้คิดไปถึงภาพคีอานู รีฟฟ์ใน The Matrix ทีเดียว แอคชั่นหน้าเดียวก็โอเคนะ คือยังไงดีต้องบอกว่าจริงๆพระเอกเรื่องนี้ต้อง (เกือบ) หน้าเดียว เพราะต้องเล่นเป็นคนไร้หัวใจไร้ความรู้สึก แต่จุดหลักที่แอบซ่อนอยู่ของเรื่อง หรือจริงๆแล้วอาจจะเป็นจุดที่เรื่องนี้อยากบอกก็คือ ชีวิตของใครคนนั้นก็ต้องกำหนดเอง จิตใจมนุษย์ ต่อให้ถูกฝังโปรแกรม ยังไงก็คือจิตใจมนุษย์ ใจตนเอง ของตนเองมิใช่ใครอื่น ดังนั้นต่อให้จะบอกว่าเธอนั้นไร้ความรู้สึกนะรู้ปล่าว? แต่จริงๆแล้วความรู้สึกนั้นมันก็เกิดขึ้นจากหัวใจเธอใครจะไปห้ามความรู้สึกได้อย่างไรอารมณ์นั้นซึ่งมิสเตอร์โฟร์ตี้เซเว่นก็แอบทำหน้าเดียวที่มีความรู้สึกปะปนอยู่มาให้เราเห็นหลายครั้งหลายครา

hitman-47-2

ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเลยรู้สึกว่าโอเค รายละเอียดเหล่านี้ทำให้ข้ามความไม่สมบูรณ์บางอย่างของหนังเรื่องนี้ได้ หากถามว่าตรงส่วนไหนที่ยังไม่ตรงใจ  อาจจะเป็นความรู้สึกที่ว่าเหมือนกำลังดูเกมส์มากกว่าภาพยนตร์พระเอกต่อสู้ และฆ่าทุกคนราวกับจะต้องฝ่าไปหาด่านสุดท้ายเพื่อตามหาบอส คนที่มาตามล่าคือทุกคนที่ต้องเก็บ ต้องฆ่า คือรู้สึกมันฆ่าเยอะเกินไปนิดนุง ได้อารมณ์ตั้งใจฆ่ามากเกินไป ต้องวางแผนการฆ่า และจัดการให้เรียบ ไม่ใช่ฆ่าเพื่อเอาตัวรอด ฆ่าแล้วจะได้แต้ม อารมณ์นั้นเลย ก็เลยรู้สึกว่ากำลังดูเกมส์มากกว่าดูหนัง อารมณ์ในตัวละครค่อนข้างดี แต่อารมณ์ร่วมไหนหนังค่อนข้างมีไม่มาก ดูเอาเพลิน ดูเอามันส์ ก็ถือว่าผ่าน แต่ถ้าจะดูให้อินสำหรับเรายังถึงว่าหนังเรื่องนี้อาจจะยังไม่ได้ให้อารมณ์ร่วมเท่าที่ควรนัก  ไม่ว่าจะเป็นฉากที่เจอพ่อ หรือการตามหาพ่อ รู้สึกบทเบาไปหน่อย เกือบจะอร่อย อาจจะขาดรสชาติบางอย่าง ถ้าเทียบกับ MI5 หรืออีกหลายๆเรื่อง

hit-man-47

ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้ารู้สึกว่าพักนี้ไม่มีอะไรเร้าใจ หรืออยากจะเพลิดเพลินไปกับฉากบู๊แอคชั่น ยิงระห่ำ ก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องนึงที่แนะนำค่ะ

แต่ถ้าจะเอาแบบได้อารมณ์ร่วม น้ำตาไหล ใจสั่นระรัว ก็อาจจะพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เดี๋ยวจะหาเวลาไปดู U.N.C.L.E อีกเรื่อง แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะว่าเป็นยังไง วันนี้ขอตัวไปดูซีรีส์เบาๆก่อนนะ ราตรีสวัสดิ์

– Saturday Night-

เหตุผลที่เราจึงยังมีชีวิตอยู่

[What’s to read]เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ หนังสือดีอีกเล่มที่น่าอ่านจากพี่เอ๋ นิ้วกลม

นิ้วกลม,เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
หนังสือดีๆอีกเล่มที่น่าอ่านจากนิ้วกลม

Credit ภาพ : KOOB

ชื่อหนังสือ : เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

ผู้เขียน :  นิ้วกลม

ราคา : 195 บาท

Review  : หลายครั้งหลายคราที่ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลากหลายรูปแบบเกี่ยวกับงานเขียนของนิ้วกลม แต่กระนั้นคนชื่นชมและมีพี่เอ๋เป็น inspiration ในการใช้ชีิวิตก็มากมาย ผู้ชายคนนี้มีแนวคิดที่เรียกว่า “แนวคิดดีๆ” ที่สร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ขึ้นเสมอ เขาไ่ม่เพียงแต่มองในมุมของตัวเอง หลายครั้งหลายครานิ้วกลมมองมุมกลับ กลับมุมมอง มองในมุมของผู้คนที่เขาได้พบเห็น ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นสัตว์ตัวเล็กๆด้วยซ้ำ เล่มนี้ก็เช่นเดียวกัน นิ้วกลมพูดถึงคนรอบกายในชีวิตบ้าง นอกชีวิตบ้างที่ผ่านเข้ามาเป็นหนึ่งในประสบการณ์ของเขา เรื่องราวเล็กๆที่หลายคนมองข้ามมันไป รวมไปถึงเรื่องของการทำงานหนัก การรักในงานที่ทำ การเห็นคุณค่าของตัวเองในแง่มุมต่างๆของชีวิต จนเป็นคำตอบว่า “เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่”

             ลีลาการเขียนอันสนุกสนานอ่านลื่นของเขายังเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของงานเขียนชนิดนี้ที่ทำให้น่าอ่านยิ่งนัก นิ้วกลมใช้ภาษาได้สละสลวย และบรรยายจนราวกับไปเป็นส่วนหนึ่งของตัวอักษรที่เขาเขียนออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ก้าวรอก้าว การเดินก้าวนึง แต่รออีกก้าวนึงเพื่อจะได้เดินเคียงคู่กัน หรือเรื่องชะตากรรมของเสือ ที่พูดถึงมนุษย์บางคนที่แม้จะไม่รู้วิธีการดำเนินชีวิตที่มากมายนักแต่ก็ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เป็นต้น หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มนึง (ในบรรดางานเขียนหลายเล่ม) ของนิ้วกลมที่อยากให้ทุกคนได้ลองหามุมสงบๆเล็กๆ อ่านสักครั้ง แล้วคุณก็จะได้พบกับสมบัติที่ควรค่าแก่การเก็บรักษาอีกชิ้นในการดำรงชีวิตอยู่ในทุกๆวันของคุณเอง และในบางครั้งหนังสือเล่มนี้ อาจจะตอบคำถามในใจของใครหลายคนได้ว่า เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ 😉

หลังปกหนังสือ : หนังสือเล่มนี้พยายามตอบคำถามสำคัญ อันน่าข้องใจว่าเหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ ผ่านการสังเกตชีวิตที่หลากหลาย ของผู้คนมากมายบนโลกใบนี้ ตั้งแต่โสกราติสมาจนถึงพนักงานฉีกตั๋วหน้าโรงหนัง มีคำตอบของชีวิตหลายแง่มุมให้คุณเลือกนำไปใช้ อ่านแล้วคุณอาจคล้อยตามกับบางความหมาย หรือแปลกใจในความแตกต่าง แต่เมื่อเดินทางมาถึงหน้าสุดท้าย คุณอาจพบคำตอบของตัวเองในใจว่า เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่