สุดยอดความสร้างสรรค์ ณ ใจกลางมหานคร ที่งาน ‘มหานครไอเดีย’ช่อง 3

แวะเวียนไปเดินเล่น เผื่อฟลุกเจอ ณเดชน์ หรือ เจมส์จิ แถวอาคารมาลีนนท์ตอนเช้าวันนี้ ก็ต้องแปลกใจเมื่อได้พบกับงานเทศกาลอะไรบางอย่าง คล้ายกับตลาดนัดอินดี้ที่เดี๋ยวนี้วัยรุ่นนิยมกัน เราแหงนหน้ามองป้ายหน้างานสีเหลืองอันใหญ่ที่เด่นเป็นสง่าที่เขียนว่า “มหานครไอเดีย” จึงลองแวะไปเยี่ยมเยือนดูสักที แล้วก็ต้องพบกับความคิดสร้างสรรค์ดีๆ ของคนไทยเพียบ!

มหานครไอเดีย
มหานครไอเดีย

มหานครไอเดียมหานครไอเดียbrainchild_2885

หลายครั้งหลายคราเราเห็นคลิปวีดีโอไวรัล ความคิดเจ๋งๆ ของชาวต่างชาติมากมาย ที่เห็นแล้วต้องร้องว้าว! กับสุดยอดไอเดียที่พวกเขาคิดได้ และครั้งนี้คงต้องใช้คำว่า “คนไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก” เช่นเดียวกัน เมื่อ รายการสมรภูมิไอเดีย และอาวุธไอเดีย ขนทัพสุดยอดไอเดียของคนไทยมาโชว์ที่งานนี้มหานครไอเดีย

สินค้ามากมายหลากหลายไม่ว่าจะเป็นที่หั่นเปลือกไข่ ให้เรียบสวยจากภาคใต้ หรือจะเป็นขนมเค้กสุดแสนน่ากินในกะลามะพร้าว รวมไปถึง น้ำส้มสายชูหมักจากดอกมะพร้าวอินทรย์ผสมน้ำหวานดอกมะพร้าวอินทรีย์ ที่สำคัญยังมีผู้ชายหน้าตาดีมากมาย!

มหานครไอเดีย
ขนมเค้กสุดแสนน่ากินในกะลามะพร้าว

มหานครไอเดียมหานครไอเดีย

แม้เหลียวซ้าย แลขวาเราจะไม่เจอเจมส์จิ แต่เรากลับได้เจอหนุ่มๆบาริสต้าสุดหล่อจากร้านกาแฟ 10Thirty Cafe ซึ่งหากคุณคิดว่ากาแฟของร้านนี้แซ่บแล้ว ขอบอกว่าบาริสต้าร้านนี้แซ่บสะท้านทรวงยิ่งกว่า!

มหานครไอเดีย
10Thirty Cafe
มหานครไอเดีย
10Thirty Cafe

มหานครไอเดียมหานครไอเดียมหานครไอเดียมหานครไอเดีย

นอกจากหนุ่มหล่อแล้ว การแสดงบนเวทีก็น่าดูไม่แพ้กัน เมื่อน้องๆจากซีรี่ส์ Crazy Love มาเยี่ยมเยียนเวทีกันอย่างคึกคัก งานนี้มีแฟนๆ หน้าใสตามมาให้กำลังใจกันเพียบ!มหานครไอเดียมหานครไอเดียมหานครไอเดียมหานครไอเดีย มหานครไอเดียมหานครไอเดียมหานครไอเดียมหานครไอเดีย

‘มหานครไอเดีย’ นอกจากได้ความสนุก ความอร่อย ความฟินแล้ว บอกเลยว่า ได้ไอเดีย และความคิดสร้างสรรค์กลับบ้านเพียบ แอบไปถามข้อมูลมาเขาบอกว่าพรุ่งนี้ (22 มี.ค. 2559) เจอกันได้อีกวันที่อาคารมาลีนนท์ ช่อง 3 พระรามสี่นะจ๊ะ

บอย โกสิยพงษ์ จับมือบีอีซี – เทโร จัดคอนเสิร์ตใหญ่ส่งท้ายปี ขนทัพศิลปินจัดปาร์ตี้พรมแดงสีเลือดเป็ด!!

บอย โกสิยพงษ์ จับมือบีอีซี – เทโร จัดคอนเสิร์ตใหญ่ส่งท้ายปี
ขนทัพศิลปินจัดปาร์ตี้พรมแดงสีเลือดเป็ด!! ในคอนเสิร์ตใหญ่
“สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พรีเซ้นส์ เดอะ บอย โก อวอร์ด” 26 ธันวาคมนี้ อิมแพ็ค อารีน่า
เรียกได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตส่งท้ายปีที่แฟนๆสแตนบายรอ ซึ่งปีนี้ เลิฟ อิส โดย “บอย โกสิยพงษ์” และบีอีซี – เทโร   ผุดไอเดียเก๋ในธีมสุดเริ่ดปูพรมแดงเข้าฮอลล์อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ในบรรยากาศงานประกาศผลรางวัลระดับโลก ให้แฟนๆทุกคนประหนึ่งเป็นแขกระดับฮอลลีวูดในคอนเสิร์ต “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พรีเซ้นส์ เดอะ บอย โก อวอร์ด” (Singha Corporation Presents The BOYd Ko AWARDS) เปิดแสดงวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคมนี้ ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เปิดขายบัตรวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคมนี้!! 

โดยปีนี้ “บอย โกสิยพงษ์” การันตีความสุขที่ทุกคนจะได้รับเป็นของขวัญส่งท้ายปีอย่างแน่นอน ซึ่งในคอนเสิร์ตครั้งนี้เรียกได้ว่าจัดเต็มขนทัพศิลปินมาทั้งในค่ายนอกค่าย ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่มากันให้พรึบ! เพื่อร่วมคอนเสิร์ตสุดเริ่ดในแบบฉบับงานประกาศรางวัลระดับอินเตอร์ antibiotics for sale online โดยในงานมีการเดินพรมแดงของเหล่าศิลปิน ชมโชว์ในรูปแบบการแบทเทิลกัน พร้อมประกาศผลรางวัลเด็ดๆที่คุณคาดไม่ถึง! งานนี้พี่บอยการันตีว่าใครที่ซื้อบัตรเข้ามาชมจะไม่ผิดหวังแน่นอนเพราะนอกจากจะได้ฟังเพลงเพราะๆจากเหล่าศิลปินมากคุณภาพ คุณยังจะได้ใกล้ชิดศิลปินที่คุณชื่นชอบยิ่งกว่าที่เคยได้สัมผัสมาบอกได้คำเดียวว่า “คุ้มมาก”

บอย โกสิยพงษ์ กล่าวว่า “คอนเสิร์ตที่เราจัดทุกสิ้นปีเหมือนทุกคนได้มางานรวมญาติ เป็นโอกาสที่เราได้มาเจอกันเหมือนเรามาเจอญาติพี่น้อง ซึ่งญาติเราจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปี ทั้งญาติคนเดิมและญาติคนใหม่ modalert 200mg ที่จะมารวมตัวสร้างความสนุก แถมญาติๆยังได้นำเพลงเพราะๆที่ทุกคนชื่นชอบมาร้องมาเต้น มาสุขมาซึ้ง มาฮากรามค้างกันแน่นอนครับ อย่าพลาดนะครับ รับรองว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นของขวัญส่งท้ายปีที่ทุกคนต้องมีความสุขแน่นอน”
นอกจากนี้ buy tramadol ยังมีกิจกรรมพิเศษเชิญชวนแฟนๆจากทางบ้านร่วมสนุกด้วยการคัฟเว่อร์เพลงของ บอย โกสิยพงษ์ พร้อมกับติดแฮชแท็ก #THEBOYdKOAWARDS เพื่อหาผู้ชนะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย ติดตามข้อมูลรายละเอียดและกติกาการร่วมสนุกได้ที่ www.facebook/LoveisFanpage

คอนเสิร์ต“สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พรีเซ้นส์ เดอะ บอย โก อวอร์ด” (Singha Corporation Presents The BOYd Ko AWARDS) เปิดแสดงวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคมนี้ ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี บัตรราคา 3,500 / 3,000 / 2,700 / 2,200 / 1,700 / 1,200 บาท เปิดขายบัตรวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคมนี้!! ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.thaiticketmajor.comและwww.bectero.com ,http://www.qikplay.com/concerts-events/theboydkoawards/ เฟสบุค www.facebook/bectero.com และ www.facebook/LoveisFanpageทวิตเตอร์ @BEC_Tero_Ent และ @LOVEis_News อินสตราแกรม BECTERO_ENTERTAINMENT และ LOVEiS_News

 

[Dudes Next Door]ญี่ปุ่น คันไซ อุ่นไอรัก : ดอกไม้ผลิบานที่โกเบ #kobe01

Thailand Indy สวัสดีต่างแดน : DUDES NEXT DOOR

ตอน ญี่ปุ่น คันไซ อุ่นไอรัก : ดอกไม้ผลิบานที่โกเบ #kobe01

kobe-nunobiki-herb03

ตะวันบ่ายคล้อย แสงแดดอ่อนๆรำไรลอดไม้ไผ่มากระทบที่ดวงตา โอโต้ซังกำลังเปิดแผนที่เมืองใกล้กับที่เราอยู่ในตอนนี้ โอโต้ซังเล่าว่าเมืองนี้จากที่นี่คงเดินทางไปไม่ไกล เราจึงเริ่มวางแผนเรื่องราวของวันพรุ่งนี้กัน

แม้ว่าเกียวโตจะเป็นที่แรกที่เราได้ทำความรู้จัก (หลายครั้งหลายคราแล้วก็ตาม) แต่ครั้งนี้อยากจะเริ่มทักทายกับอีกเมืองน่ารักของดินแดนอาทิตย์อุทัยก่อน เชื่อว่าหลายคนคงเคยแวะมาลองลิ้มชิมรสเนื้อยากินิขุขึ้นชื่อของที่นี่บ้างแล้ว แต่ด้วยความที่เราไม่กินเนื้อวัว ประเด็นนี้จึงพับไป ถึงอย่างไร “โกเบ” แห่งนี้ ก็ไม่ได้สวยงามน้อยลงเลย

ใช่แล้ว…วันนี้จะพาไปเที่ยวโกเบกัน

kobe-nunobiki-herb08

เมืองโกเบเป็นเมืองญี่ปุ่น แต่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเป็นตะวันตก เพราะหากย้อนอดีตไปแล้ว ยามที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศเพื่อเริ่มทำการค้าขายกับตะวันตก ท่าเรือโกเบเป็นท่าเรือสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่เหมือนเป็นศูนย์รวมแหล่งการค้านานาชาติ หลังจากนั้นก็มีชาวต่างชาติเริ่มเข้ามาอาศัยอยู่ที่เมืองโกเบ

kobe-nunobiki-herb27

โกเบนั้นขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวัว หลายคนมักจะอยากไปอิ่มอร่อยกับรสชาติอันนุ่มลิ้นที่ขึ้นชื่อของที่นี่ แต่ครั้งนี้อย่างที่บอกด้วยความที่เราไม่ทานเนื้อวัวเลยอดพาไปรีวิว ขออภัยท่านผู้อ่านมา ณ ที่นี้ แต่ไม่ต้องเสียดายไป ครั้งนี้เราจะพาท่านไปอิ่มอร่อยกับอีกหนึ่งสุดยอดเมนูของโกเบ ที่อยากจะแนะนำให้ไปลองในตอนถัดไปเราจะแนะนำให้ท่านได้รู้จักกับสิ่งนั้น!

kobe-nunobiki-herb17

kobe-nunobiki-herb02

เริ่มต้นเดินทางมาที่แรกที่ Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway แปลเป็นไทย(ด้วยตนเอง)เล่นๆว่า สวนสมุนไพรนุโนบิขิ และกระเช้าลอยฟ้าแห่งโกเบ ถ้าหากขึ้นไปที่นี่ในช่วงหน้าซากุระก็จะเป็นซากุระบานสะพรั่งเลยทีเดียว ดอกไม้ผลิผลัดตามฤดูกาลที่ผันผ่าน แต่ไม่ว่าเช่นไรที่นี่ดูเหมือนถูกวางแผนมาเป็นอย่างดีในการจัดแสดงความสวยงามตามธรรมชาติ แย้มบานยิ้มหวานให้กับผู้คนที่มาเที่ยวได้เชยชมกับดอกไม้นานาพรรณในแต่ละช่วงของปีอยู่แล้ว  แม้บางพื้นที่ บุษบาเหล่านั้นจะยังไม่บานสะพรั่ง แต่ด้วยอากาศหนาวนิดๆ และบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาทำให้ที่นี่ดูโรแมนติกจับใจทีเดียว

kobe-nunobiki-herb14

kobe-nunobiki-herb04

kobe-nunobiki-herb10

kobe-nunobiki-herb25

การวางพื้นที่ของที่นี่ดูลำดับสัดส่วนได้กำลังดีนัก เมื่อนักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปชมวิวบนยอดสูงแล้ว เราอาจจะสามารถแวะทานร้านอาหารที่ View Rest House ด้านบน ที่หน้าต่างเป็นกระจก และเห็นวิวทิวทัศน์งดงามของบ้านเมืองเขาได้ หรือจะเดินลงมาอีกนิดหนึ่งเพื่อที่จะมาจิบชาในเรือนกระจก ซึ่งส่วนนี้ก็มีอาหารขายเล็กน้อย แต่เน้นที่ชาสมุนไพรมากกว่า แล้วนอกจากนั้นเดินผ่านเรือนกระจกเข้ามาอีกนิดยังมีพื้นที่ให้ออนเซ็นเท้า ท่ามกลางกลิ่นหอมของพฤกษานานาพรรณที่มนุษย์ได้สร้างสรรค์พร้อมกับธรรมชาติที่แสนสวยให้เราได้พักผ่อน และหย่อนลมหายใจ

kobe-nunobiki-herb26

หากใครอยากไปเพลิดเพลิน เจริญธรรมชาติแล้วที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากจะแนะนำ ถ้าให้อธิบายก็คล้ายกับเมืองเหนือของบ้านเรา ดอกไม้ของบ้านเราบางพื้นที่อาจจะสวยกว่า แต่ชอบฟังก์ชั่นต่างๆของที่นี่ มีทั้งร้านอาหารดูวิวริมยอดเขา กระเช้าลอยฟ้า ไอติมลาเวนเดอร์ หรือแม้กระทั่งฮอลล์จัดแสดงคอนเสิร์ตเขาก็มีให้นะเออ

kobe-nunobiki-herb15

kobe-nunobiki-herb21

พอเราเดินทางด้วยลมพัดเย็นนิดๆ โชคดีที่ฝนไม่ตก (ใจเต้นๆต่อมๆอยู่รอมร่อ) แต่สุดท้ายฟ้าฝนก็เป็นใจ อากาศกำลังเย็นสบายทำให้เราเดินชิวกันเพลิน ดอกไม้ริมสองข้างทางดูสวยดี ที่นี่เขาจะจัดดอกไม้ตามฤดูกาลค่ะ คือจริงๆแล้วก็ปลูกไว้หมดแหละ แต่ดอกไม้ก็จะบานตามฤดูของเค้าเอง อย่างเราไปเจอปลายๆซากุระ ก็ยังมีสองสามต้นที่มีดอกบานให้เห็น ถ้าถามว่าจริงๆสวยขนาดนั้นมั้ย เอาไว้ถ่ายรูปลงบนเฟซบุ๊คก็ยังพอไหว แต่ถ้าจะให้ตราตรึงใจคงจะต้องมาเร็วกว่านี้สักสองอาทิตย์​น่าจะบานสะพรั่งให้ได้ยลกันเลยทีเดียว สำหรับตารางการบานของดอกไม้ก็ตามรูปด้านล่างนี้เลยจ่ะ ซึ่งหากดูตามฤดูกาลแล้ว เชื่อได้เลยว่าฤดูอากิ หรือ ฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีน่าจะสวยไม่แพ้ที่ไหน

herb-calenderCredits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

kobe-nunobiki-herb11

kobe-nunobiki-herb12

kobe-nunobiki-herb09

ที่นี่แบ่ง Facilities เป็นหลายส่่วน เดี๋ยวเราจะแอบยกข้อมูลจากเว็บ Original มาฝากทุกท่านไว้ในอ้อมอกอ้อมใจละกันนะคะ

ไม่ว่าจะเป็น

View Rest House

view-rest-house

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

View Rest House เป็นสถานที่ที่คุณสามารถอิ่มเอมไปกับอาหารแสนอร่อยที่มีส่วนผสมของสมุนไพร และร้านรวงต่างๆมากมาย ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็น Indoor แต่คุณก็สามารถสัมผัสการตกแต่งด้วยสมุนไพรต่างๆ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ

Mori no Hall (Concert Hall in Forest)/ Fragrance Museum

mori-no-hall

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

เป็นฮอลล์ที่สร้างขึ้นจากไม้ สถานที่ยอดฮิตสำหรับแสดงคอนเสิร์ตแนวอะคูสติก รวมไปถึงที่แห่งนี้ยังเป็นพิพิธภัณฑ์น้ำหอมที่จัดแสดงน้ำหอมทางประวัติศาสตร์ไว้มากมายอีกด้วย

Glasshouse

glass-house

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

สามารถเยี่ยมชมพันธุ์ดอกไม้นานาชนิด รวมถึงผลไม้ต่างตลอดทั้งปีได้ที่เรือนกระจกแห่งนี้

Hanging Baskets (Glasshouse)

hanging-basket

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

สามารถถ่ายรูปกับพวงดอกไม้ที่ห้อยระยะจัดแสดงอยู่ในเรือนกระจกอีกด้วย

Herbal Footbath

footbaht

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

นอกจากนั้น ยังเพลิดเพลิน ผ่อนคลายไปกับออนเซ็นเท้าที่อยู่ติดกับเรือนกระจก ที่นี่ยังแสดงทัศนียภาพของเมืองโกเบไว้อีกด้วย

ต่อมาเราได้มารับประทานอาหารกันที่สวนสมุนไพรแห่งนี้นี่แหละ อาหารรสชาติกำลังโอเค เราสั่งข้าวแกงกะหรี่ไก่มากิน อาหารจานพอเหมาะ แต่ทีเด็ดเห็นจะเป็นชาสมุนไพรเต็มไม่อั้น มองข้างหลังเห็นเกิร์ลแก๊งแห่งแดนอาทิตย์อุทัยกำลังจิบชาพร้อมหัวร่อต่อกระซิก คิกคักกันอย่างสนุกสนาน นอกจากเหมาะแก่การมาแฮงเอ้าท์กับเพื่อนแล้ว ยังเป็นบรรยากาศที่สบายๆ คล้ายอยากให้เรานั่งทอดตัวอยู่ตรงนี้ไปอีกนานๆทีเดียว เพราะกระจกใสที่โอบรอบร้านนั้นทำให้เราเห็นบรรยากาศไปทั่วทั้งเมืองโกเบ

kobe-nunobiki-herb03

kobe-nunobiki-herb23

kobe-nunobiki-herb20

หลังจากผ่อนคลายที่สวนสมุนไพร เราเดินทางต่อเข้าสู่อารยธรรมแห่งตะวันตกอย่างแท้จริง ติดตามเรื่องราวของโกเบได้ในตอนต่อไปนะจ๊ะ.

Sandp1989

kobe-nunobiki-herb19

kobe-nunobiki-herb24

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่อยากเดินทางไปเยี่ยมชม

ค่่าขึ้นกระเช้า + ค่าชมสวน
ผู้ใหญ่(ไปกลับ) : 1,400 เยน
เด็กนักเรียน (ไปกลับ) : 700 เยน
ผู้ใหญ่(เที่ยวเดียว) : 900 เยน
เด็กนักเรียน (เที่ยวเดียว) : 450 เยน
ราคาหลัง 5 โมงเย็น
ผู้ใหญ่(ไปกลับ) : 800 เยน
เด็กนักเรียน (ไปกลับ) : 500 เยน

Screen shot 2015-11-05 at 9.45.35 PM

วิธีการไป

หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index4.html

Screen shot 2015-11-05 at 9.45.54 PM Screen shot 2015-11-05 at 9.45.42 PM

SOUNDBOX หูสดับ ปิดตารับ เปิดใจฟัง เมื่อเราลอยอยู่ท่ามกลางเสียงดนตรี

 

ในห้วงขณะแห่งเสียงดนตรี….

คำนี้ดังก้องอยู่ในหัวเมื่อได้เห็นวีดีโอของงานเทศกาลดนตรีเล็กๆเทศกาลหนึ่ง ที่เมื่อครั้งที่แล้วได้มีโอกาสไปสัมผัส เยี่ยมชม และอิ่มใจกับเสียงดนตรีที่ซึมลึกเข้าไปในทุกโสตหู

SOUND BOX

soundbox

 

ชื่อนี้อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยเท่าไหร่นัก แถมยังน่าเสียดายที่รอบที่แล้วคนน้อยไปหน่อย อาจจะดีตรงที่มีพื้นที่ให้ขยับแข้ง ขยับขาเยอะ แต่ในทางกลับกันความเสียดายเกิดเมื่อวัยรุ่นไม่ได้เสพย์อะไรดีๆแบบนี้เท่าที่ควรนักในครั้งที่แล้ว แต่พูดได้เลยว่างานดนตรีของศิลปินทั้งสามวงยังมันส์…มันส์จับใจ ไม่ว่าจะเป็นสองหนุ่มจากฝั่งAMERICA อย่าง Twenty one pilots หรือคุณพ่อขาร๊อคอย่าง MIYAVI  รวมถึงดีเจชื่อดังอย่าง DJ ONOที่นำความมันส์มาระเบิดบนเวทีเมืองไทย GMM LIVE HOUSE ให้คนทั้งฮอลล์โยกกันหัวแทบหลุดออกจากบ่าเลยทีเดียว

สารภาพตามตรงว่า รอบนี้ไม่ได้รู้จักศิลปินดีเท่าที่ควรนัก แต่แอบชอบเพลง Real ของMIYAVIค่อนข้างมากเลยตัดสินใจไปดูตามคำชวนเพื่อน(ซึ่งปกติก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว) กอปรกับพักนั้นไม่ได้เสพย์ดนตรีของเมืองนอกมาสักพักใหญ่ ก็เลยคิดว่าเฮ้ย ปะ ไปกัน

ก่อนหน้านั้นสักพักนึงก็เลยลองฟังของ Twenty one pilots มา แล้วพี่ชายที่สนิทกันก็แนะนำให้ฟัง Guns For Hands และ Car radio แถมยังแนะนำให้เรารู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า Drum Surfing เป็นครั้งแรก เฮ้ยมันดีอะ คือเพลงมันดี มีหลายรส ผสมผสานหลายความรู้สึก ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นเพลง Rock หรือ Electronic หรือ Indy ที่มีส่วนผสมของ HIPHOP หรือแม้กระทั่ง Reggaeดี น่าจะเรียกว่าเป็นภาษาของ Twenty One Pilots เองคงได้ พอได้ฟังก็เกิดญาณทิพย์ขึ้นมาว่า ถ้าได้ฟังของจริงมันต้องได้ปลดปล่อยอะไรสักอย่างในตัววันนั้นแน่ๆ

ซึ่งมันก็จริง..

Sound Box เป็นงานที่ผสมผสานดนตรี ที่จะเรียกว่าแปลกประหลาดก็ได้มั้ง เหมือนเขาเอาพรมแดนที่ขีดคั่นแนวดนตรีออกไปเสียหมด เปิดงานด้วย DJ ONO เรียนตามตรงว่าไม่ค่อยฟังไปงานที่ดีเจสปินแผ่นเท่าไหร่ เพราะไม่อินกับ EDM และก็ขอสารภาพตามตรงอีกเพราะตอนแรกนึก(เอาเอง)ว่า DJ ONO จะเป็นดีเจสายนั้น แต่กลับค้นพบความเป็นจริงว่าเฮียแกเป็นสาย HIPHOP ก็งานนี้นี่แหละ! คือมันตึ๊ดๆดีมากครัชพี่น้อง ขาสองข้างนี่เต้นตามจังหวะของหัวใจเลยทีเดียว หลังจากนั้นต่อกันที่ MIYAVI SAN คือพี่มิบิ (เราแอบเรียกแบบนี้ตามเพื่อน) พี่มิบิเนี่ย เคยมาเล่นที่เมืองไทยหลายรอบแล้ว แต่ไม่เคยจะไปดูจริงๆจังๆ ซักที พอได้พบหน้าค่าตา

อื้อหือ…

พี่ชายไม่น่ามีเมียเลย (คือไร?!) ฮ่าๆ คือพี่แกหล่อไส้ติ่งสั่นมากครัช เท่ห์ที่สุดในสามสิบโลก ลีลา(เกากีต้าร์)ของพี่เขาเรียกได้ว่าเห็นแล้วอยากเกิดเป็นกีต้าร์เลยทีเดียว! คือมันต้องเป็นเห็นอะ นิ้วแบบสะบัดอย่างกับจะละลายเครื่องดนตรีให้แหลกคามือ เราแอบไปค้นในยูทูปมาฝาก
เชิญยลให้ใจสั่นกันดู

ขอบคุณเจ้าของ Youtube ด้วยนะค

และอีกหนึ่งวง…ที่รอคอยจะได้ดูคือ Tyler กับ Josh (ศึกษามาแล้วเรียบร้อย)จาก Twenty One Pilots
ดนตรีแปลกดี หรือว่าเราเสพย์ดนตรีน้อยเกินไปก็ไม่รู้จนรู้สึกดีที่ได้ฟังอะไรแบบนี้ คือมันเป็นแนว…แนวอะไรไม่รู้ที่มีหลายอย่างมารวมกันอย่างที่บอกไว้ในเบื้องต้น ผสานกับอารมณ์ของศิลปินที่ถ่ายทอดออกมาจากใจ จริงๆศิลปินทุกท่านก็คงเล่นจากใจนั่นแหละ แต่ครั้งนี้พอเราเปิดหู เปิดตา ลองฟังอะไรใหม่ๆที่ไม่ค่อยได้ลองลิ้มชิมรสความเมามันส์ตรงหน้า เลยรู้สึกว่าเป็นรสชาติที่น่าเสพย์ แล้วนำไปสร้างสรรค์ต่อ เคยเป็นมั้ยเวลาอยู่ในงานคอนเสิร์ต ฟังเพลงดีๆ ที่มันบิ๊วอารมณ์แล้วรู้สึกว่า เสียงนั้นไหลไปตามสายเลือดในตัว…

ต้องลองเฮ้ย ต้องลองจริงๆ

soundbox02

เอาความรู้สึกของตนเองจดจ่อกับเวที แล้วเอาวิญญาณของตัวเองไหลไปกับทุกเมโลดี้ ทุกจังหวะในฮอลล์ มันเป็นการปลดปล่อยภาวะทางอารมณ์อย่างหนึ่งได้เป็นอย่างดี และหลังจากนั้นอะดรีนาลีนจะหลั่ง และปลดปล่อยสิ่งที่เรียกว่าความสุขออกมาให้เราต่อยอดกลายเป็นความคิดสร้างสรรค์มากมาย

บางทีเกินจะจินตนาการไว้ด้วยซ้ำ…

ขอบคุณเจ้าของ Youtube ด้วยนะค

 อย่างที่งานเทศกาลดนตรีนี้เขาเรียกว่า SOUNDBOX Moment เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในกล่องแห่งเสียงเพลงสักครั้ง ปลดปล่อยไปตามกระแสความถี่จากเครื่องดนตรีทุกชิ้นที่บรรเลงขึ้นภายในฮอลล์

ให้ร่างกายทำตามใจตัวเองให้สุดๆ

แล้วคุณจะพบกับ ‘ช่วงเวลาแห่งความพิเศษ’ อันน่าประหลาดใจของตัวคุณเอง ลองดูสิ

เห็นว่าจะจัดอีกครั้งวันที่ 24 พฤศจิกายน นี้ มีวงมาจาก New Zealand ชื่อ Broods โปรดิวเซอร์คนเดียวกับ Lorde แถมเคยเล่นเปิดให้ Sam Smith อื้อหือ Sam Smith เชียว…ดูดีนะ

broods-soundbox

 

broods-soundbox2

ถ้าจะให้อธิบาย เราว่างาน SOUNDBOX เหมือนร้านอาหารฟิวชั่นแบบนานาชาติ ที่มีหลากหลายชนิดอาหารให้ลองลิ้ม และอิ่มเอมไปกับรสชาติใหม่ๆอยู่เสมอ รสชาติที่บางครั้งรับประทานไปแล้วยังต้องแปลกใจ เพราะมันใหม่มากเกินกว่าจะเคยลิ้มลอง อาจจะเจอเพลงบางเพลงที่ถูกใจบ้าง หรือเพลงที่ไม่ถูกใจบ้าง แต่การได้ดูดนตรีหลากหลายรูปแบบ ได้ดูPerformanceของศิลปินที่กำลังจะเติบโตบนเส้นทางดนตรีระดับโลกที่มาโชว์ความสด ความเป็นตัวเองอย่างที่ไม่โดนปรุงแต่ง ก็เป็นอีกหนึ่งงานที่อยากแนะนำให้ลองไปสักที บางทีในอนาคตเราอาจจะเป็นผู้นำเทรนด์ในยุคหน้าว่าเราเป็นผู้นำเทรนด์ก่อนใครก็เป็นได้

ดูอย่าง Twenty One Pilots สิ คราวที่เพิ่งแล้วมาเล่นที่ เมืองไทย GMM LIVE HOUSE เซ็นทรัลเวิล์ด บ้านเรา แต่ได้ข่าวว่าตั๋วคอนเสิร์ตในปีหน้าของพวกเขาซึ่งจะจัดขึ้นที่ MADISON SQUARE GARDEN ณ มหานครนิวยอร์คเป็นครั้งแรก SOLD OUT! ในพริบตา

โหดดีแท้…

 

twentyonepilots-msg

 

เดี๋ยวไปค้นข้อมูล Broods ให้เยอะๆก่อนแล้วจะเอามาเล่าให้ฟัง ตอนนี้ลองดูไลฟ์ของพวกเขาไปก่อนละกันนะ ส่วนใครอยากจะดูของจริงซื้อบัตรที่นี่นะ http://bit.ly/tid-soundbox
งานดีช่วยขายของหน่อยละกัน ฮ่าๆๆ

 

ขอบคุณรูปจาก soundbox.asia

สวัสดีจ๊ะ.

Saturday Night ณ Thailandindy

 

คลายเครียด

5 วิธีฉุกเฉินคลายเครียดเมื่อมีเรื่องกระทบใจ

relieve-stress

บางครั้งความเครียด ความทุกข์ ความเสียใจมักจะมาแบบฉุกเฉินเสมอ บางเวลาเราโดนจู่โจมด้วยสิ่งเหล่านี้แบบยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ จนทำให้ความรู้สึกของเราเสียหายหลายครั้งหลายครา วันนี้แอดมินเอาวิธีที่ศึกษามาจากหลายๆศาสตร์ที่ลองใช้แล้วได้ผลมาฝากชาวไทยแลนด์อินดี้กันค่ะ

1.จินตนาการถึงคนตัวเล็กในใจ แล้วกอดตัวเองไว้ให้แน่นๆ

tjacket2-537x407

cr photo. http://assets.inhabitots.com/

เวลาเรามีเรื่องมากระทบใจทุกสิ่งรอบกายดูเหมือนจะใหญ่เกินไปที่จะรับมือไหวเสมอ เราคล้ายกับเป็นคนตัวเล็กๆในสังคมคนหนึ่งที่บางครั้งจะไม่รู้จะหาทางออกตรงไหน ณ เวลานั้นให้หาเวลาให้ตัวเองค่ะ นั่งจินตนาการมองเข้าไปมองพื้นที่ว่างในจิตใจ มองหาตัวเองในความรู้สึกนั้นๆ มองตัวเองว่ากำลังรู้สึกอย่างไรอยู่ ตัวเรากำลังหัวเราะอยู่ หรือร้องไห้อยู่ มองให้เห็นภาพของเราในใจ แล้วสร้างตัวเราอีกคนนึงในจินตนาการมาแล้วให้คนๆนั้นเข้าไปกอดตัวเองไว้ค่ะ กอดตัวเองไว้ให้แน่นที่สุด ทั้งกอด และปลอบ ให้รู้ว่าต่อให้ใครไม่รักเราก็ยังรักตัวเองได้นะ เมื่อเรากอดและปลอบตัวเราเองในความรู้สึกนั้น ความรู้สึกที่เราไม่เหลือใครจะบรรเทาลง และทำให้เรารู้สึกดีขึ้นนะ

2.เล่าให้ใครสักคนฟัง

tell-someone

cr photo. https://castlepersonaltraining.files.wordpress.com

การเล่าให้ใครสักคนฟัง หากเป็นเพื่อนสนิทที่คอยรับฟังเราทุกเรื่องคงจะดี ใครสักคนที่คุณเชื่อใจว่าเขาจะรับฟังคุณได้ ขอเวลาเขาสักครู่แล้วระบายออกมาให้เขาฟังค่ะ บอกเขาว่าแค่ขอให้รับฟัง แค่ได้พูดออกมาก็ทำให้ปัญหาในใจเราเบาลงได้นะคะ หากถ้าวันนั้นไม่รู้จะหันไปหาใคร ลองเขียนระบายความในใจออกมาค่ะ เขียนออกมาให้หมด แต่เมื่อเขียนระบายออกมาหมดแล้ว ตอนสุดท้ายต้องเขียนปิดจบความรู้สึกพวกนั้นด้วยการให้ บอกรัก และให้กำลังใจตัวเองนะคะ เช่น “รักเธอนะ เธอทำได้ เชื่อเรา เธอทำได้ รักเธอจริงๆ เราจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอนะ” เราลองแล้ว มันดีจริงๆค่ะ

3.ฟังเพลงดังๆ ไปพร้อมการออกกำลังกาย

listentomusicandworkout

cr photo. http://www.gannett-cdn.com

หา Playlist ที่ชอบเลยค่ะ สร้าง Playlist ได้ง่ายๆใน Youtube ขอเป็น Playlist มันส์ๆ เพลงจังหวะโดนๆที่เขย่าอะดรีนาลีนในร่างกายพลุ่งพล่านไปเลยนะคะ! แล้วออกไปวิ่งค่ะ วิ่งหรือตีแบดกับเพื่อนก็ได้ ให้ร่างกายขยับ และโฟกัสกับสิ่งที่เราทำจนลืมเรื่องเครียดไปก่อน เมื่อเราเหงื่อออก และลืมเรื่องคิดไปพักนึงแล้ว เอ็นโดรฟินของเราจะหลั่งออกมา รวมถึงทำให้สมองเราปลอดโปร่ง อาจจะคิดหาวิธีแก้ไขเรื่องราวต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ

4.ร้องไห้

cry

cr photo. http://www.papermag.com/

ร้องไห้ไปเลยค่ะ บางครั้งความอึดอัดก็ต้องขับออกมาทางน้ำตานะคะ มีผลวิจัยหลายอันที่บอกว่าเมื่อร้องไห้แล้วเราจะรู้สึกผ่อนคลายลง การร้องให้ไม่ใช่ไม่ดีนะคะ สังเกตตัวเองจะพบว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้ร้องไห้เพราะทุกข์ใจเสมอไปเท่านั้น เวลาเราสุขใจสุดๆ หรือดูหนังที่เรารู้สึกซาบซึ้งใจสุดๆ บางครั้งเราก็จะเกิดความรู้สึกที่น้ำตามันจะไหลออกมาใช่มั้ยคะ นั่นแหละค่ะ นั่นคือกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกาย อธิบายง่ายๆคือ เมื่อร่างกายเกิดความรู้สึกต่างๆขึ้นมา สารในสมองก็จะสั่งการให้เกิดปฎิกริยาต่างๆแก่ร่างกาย รวมไปถึงต่อมน้ำตาด้วย ต่อมน้ำตานี้เป็น ซึ่งนักชีวเคมีแห่งศูนย์วิจัยน้ำตา William Frey ซึ่งศึกษาวิจัยเรื่องของน้ำตามานานกว่า 15 ปี รายงานว่าการหลั่งน้ำตาถูกควบคุมโดยต่อมน้ำตา ซึ่งจะกำหนดความเข้มของน้ำตา และควบคุมปริมาณการขับถ่ายธาตุต่างๆที่ร่างกายสร้างขึ้นขณะในช่วงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆไม่ว่าจะเป็น เศร้า ทุกข์ สุข เหงา ซาบซึ้งใจ ฯลฯ และเนื่องจากมีปริมาณธาตุในน้ำตานั้นมีมาก เวลาเสียน้ำตาผู้ที่ร้องไห้จะรู้สึกสบายขึ้น เพราะร่างกายได้ขจัดสารเคมีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะที่มีความทุกข์ออกไปจากร่างกายพร้อมน้ำตา เพราะฉะนั้นการร้องไห้ทำให้เราคลายเครียดได้นะคะ (ขอบคุณข้อมูลจากhttps://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20091015082832AATdNJT)

5.เขียน mind map ชีวิต กำหนดเป้าหมาย แล้วมุ่งตรงไปหามัน

SuccessMindMap_iStock_000017205914XSmall-300x207

cr photo. http://www.creativeimplementations.com

เป้าหมายคือสิ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนทุกๆวันของชีวิตให้มีความหมายนะคะ พยายามหาเป้าหมายที่ไม่ต้องไกลมาก วางแผนชีวิตในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี แล้วค่อยวางเป้าหมายในสเต็ปต่อไป มองเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ แล้วเขียนช่องทางรอบตัวที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมายนั้น พร้อมทั้งเขียนอุปสรรค และส่ิงที่ทำให้เราเกิดความเครียดลงไปในนั้น ก่อนจะเขียนตัวเลือกทางแก้ปัญหา สรุปคือวาดแผนผังเกี่ยวกับสิ่งที่มีอยู่รอบตัวที่สามารถนำมาปรับใช้ให้เราไปถึงเป้าหมายได้ เมื่อเราเห็นเป้าหมายใหญ่ขึ้น ปัญหาและอุปสรรคของเราก็จะลดลง และเห็นภาพในชีวิตเป็นระบบมากขึ้น นำไปแปะไว้ที่โต๊ะทำงาน หรือที่ไหนก็ได้ที่เรามองเห็นได้บ่อยๆ แล้วปัญหา หรือความเครียดก็จะลดลงเหลือนิดเดียวค่ะ

เอาล่ะค่ะ 5 ข้อนี้ เราพยายามจะรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ รวมไปถึงการทดลองทำด้วยตัวเองเอามาฝากชาวไทยแลนด์อินดี้ทุกคนคะ ด้วยสภาพสังคมที่มีภาวะการแข่งขันกันสูง ในทุกๆวันเราต้องแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิต ดังนั้นแล้วบางทีเราก็ต้องหาวิธีคลายเครียดในแบบฉบับที่ตัวเองใช้แล้วเวิร์ค! มาพกติดตัวกันเอาไว้บ้างนะจ๊ะ

อย่างไรก็ตามไทยแลนด์อินดี้ขอสนับสนุนให้คนไทยยิ้มในทุกๆวันนะคะ และแน่นอนเลยใครอยากคลายเครียด แวะไปเยี่ยมชมเรื่องราวเที่ยวทั่วไทย ที่เราไปแบบอินดี้มาฝากทุกคนก็ได้ในคอลัมน์ต่างๆได้เลยค่า

Saturday Night.

bon jovi live in bangkok

[Chic-Events]“บอง โจวี่” จัดเต็มความมันส์ กระหึ่มอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

Credit : www.bectero.com

นับเป็นคอนเสิร์ตที่รวมพลคนดนตรีในบ้านเราไว้อย่างมากมาย  และยังคงมีแฟนเพลงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในบ้านเราอย่างเหนียวแน่ว  สำหรับสุดยอดวงร็อคระดับโลก บอง โจวี่ (Bon Jovi) ที่เดินทางกลับมาเปิดคอนเสิร์ตใหญ่ในบ้านเราอีกครั้ง กับคอนเสิร์ต “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พรีเซ้นท์ส บอง โจวี่ ไลฟ์ อิน แบงค็อก”(Singha Corporation Presents Bon Jovi Live in Bangkok) ซึ่งจัดขึ้นโดย สิงห์ คอร์เปอเรชั่น และ ไลฟ์ เนชั่น บีอีซี-เทโร ที่ผ่านพ้นไปอย่างประทับใจ และมันส์กระชากใจสุดๆ เมื่อวันอังคารที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

 

บอง โจวี่ (Bon Jovi) ยังคงโชว์ความเก๋าทางดนตรีได้อย่างไม่มีที่ติ และหอบหิ้วเอาทั้งเพลงฮิตทั้งเก่าใหม่มาฝากแฟนเพลงมากมายกว่า 20 เพลง อาทิ อิตส์ มาย ไลฟ์ (It’s My Life), ยู กีฟ เลิฟ อะ แบด เนม (You Give Love A Bad Name), ลีฟวิ่ง ออน อะ เพรเยอร์ (Livin’ On A Prayer), แฮฟ อะ ไนซ์ เดย์ (Have a Nice Day) รวมถึงเพลงที่ทำให้พวกเขาได้รับรางวัลแกรมมี่ อย่าง ฮู เซย์ส ยู คานท์ โก โฮม (Who Says You Can’t Go Home)และอีกหลายๆ เพลงที่คุ้นเคย งานนี้ พวกเขาถ่ายทอดพลังความมันส์และความสนุกสู่แฟนเพลงชาวไทยอย่างเต็มเหนี่ยวไม่มีกั๊ก ทำเอาช่วงเวลากว่า 2 ชั่วโมง ที่พวกเขาเปิดการแสดงนั้นสั้นไปถนัดตา

 

บอง โจวี่ (Bon Jovi) เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่มีความสำคัญมากที่สุดวงหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการเพลงร็อคและป็อป ด้วยความสำเร็จอย่างท่วมท้น กระแสความนิยมอย่างล้นหลามทั่วโลกและต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 ปีของบอง โจวี่ เรียกได้ว่ามาจากเพลงสุดฮิตจำนวนมากของพวกเขาที่ฮ็อตติดท็อปชาร์ต และแฟนๆ ทั่วโลกต่างร้องตามได้แทบทั้งสิ้น จึงไม่แปลกที่พวกเขาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวงการเพลงร็อคอเมริกัน และเลื่องชื่อลือชาในเรื่องฝีไม้ลายมือทางการแสดงสดอันยอดเยี่ยม