Fushimi Inari Taisha ศาลเทพอินาริและสุนัขจิ้งจอกหลังฝนพรำ


fushimi-inari-taishi15

 

Dudes Next Door

EP. เกียวโตที่รัก ปฐมบท / ศาลเทพจิ้งจอกหลังวันฝนพรำ

บ่ายย่ำเย็นเกือบตะวันคล้อย ลมแรงพัดละอองฝนปะทะใบหน้าเมื่อประมาณชั่วยามที่ผ่่านมา บัดนี้เมืองใหญ่อย่างเกียวโตกลับอบอวลไปด้วยกลิ่นแห่งธรรมชาติ และร่องรอยแห่งความชื้น ผู้คนต่างกางร่มใสแบบ 500 เยนตามร้านสะดวกซื้อบ้าง หรือลวดลายสีสันสดใสที่พกมาจากบ้านตามที่ได้ฟังพยากรณ์อากาศไปเมื่อเช้ากันให้ขวักไขว่  แต่เรายังคงมีจุดหมายเดิมตามแผนการท่องเที่ยวที่ได้คุยกับโอโต้ซังเอาไว้

 

วันนี้จะไปเยี่ยมเยียนท่านสุนัขจิ้งจอกกัน

 

fushimi-inari-taishi05

สถาปัตยกรรมแนวญี่ปุ่นโบราณตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า หากใครเปรียบเมืองเกียวโตเหมือนความสดใสนั่นคงจะปฎิเสธไม่ได้เป็นแน่แท้ เพราะหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่ขับให้ภาพที่ว่านั้นชัดเจนขึ้นเห็นจะเป็นศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ แห่งนี้ ศาลเทพเจ้าสีส้มสด ไม่ว่าไปกี่ครั้งความสดนี้ก็ยังคงอยู่ ดูติดตา และไม่เลือนไปจากใจ คล้ายกับสถาปัตยกรรมหลายที่ของเกียวโต ไม่ว่าจะเป็น วัดทองอย่าง คินคางุจิ หรือ คิโยมิสึเดระก็ตาม  มองไปแล้วก็อดย้อนคิดไปถึงวรรณกรรมญี่ปุ่นโบราณสุดโรแมนติกแห่งเมืองเกียวโตอย่างเก็นจิโมโนกาตาริไม่ได้ ช่างระยิบระยับวับวาวนัก

fushimi-inari-taishi04

ศาลเจ้าฟูชิมิอินารินี้ เป็นศาลของท่านเทพเจ้าอินาริ ท่านเทพเจ้าอินาริเป็นเทพเจ้าที่คอยดูแลเกี่ยวกับเรื่องของพืชผล เกษตรกรรม และผู้ที่เป็นตัวแทนของท่านนั้นก็คือสุนัขจิ้งจอก https://Meet-Babes.com ตามตำนานเล่าว่าสุนัขจิ้งจอกเหล่านี้จะนำความอุดมสมบูรณ์มาให้แก่บ้านเมือง และเมื่อเราได้เดินเข้าไปเราก็จะเป็นรูปป้านของท่านสุนัขจิ้งจอกนั้นเรียงรายอยู่มากมาย แต่คงจะไม่มากมายเท่ากับเสา “โทริอิ” สีส้มสดที่เรียงรายกันเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรเลยทีเดียว ศาลเจ้าฟูชิมิอินารินี้ ถูกสร้างโดยจักรพรรดิ “มุราคามิ” ในยุคเฮอัน อันแสนรุ่งเรือง องค์จักรพรรดิทรงมีรับสั่งให้สร้าง ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์จำนวน 16 ศาล เพื่อให้องค์คามิซามะ (เทพเจ้า)ปกป้องคุ้มครองญี่ปุ่นในสมัยนั้น และศาลของเทพเจ้าอินาริ ก็เป็นหนึ่งใน 16 ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วย

fushimi-inari-taishi16

เดินเข้าไปข้างในศาลของเทพเจ้าอินาริแล้ว สิ่งที่สะดุดตาที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นเสาสีส้มแดงที่เรียงรายและทอดยาวอย่างสวยงาม แต่เดิมทีแล้วเสา “โทริอิ” นี้ถูกสร้างขึ้นโดย โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ไดเมียวคนสำคัญของญี่ปุ่นในยุค ทั้งยังเป็นผู้สร้างโอซาก้าโจว​(ปราสาทโอซาก้า)อีกด้วย เมื่อโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ได้สร้างเสา “โทริอิ” ต้นแรกแล้ว หลังจากนั้นบรรดาเศรษฐี บริษัท ห้างร้านต่างๆ ก็ได้มาสร้าง “โทริอิ” ให้ยาวต่อเนื่องไปจนถึงยอดเขา “อินาริ” เนื่องจากพวกเขาเชื่อกันว่า การสร้าง“โทริอิ” ถวายเทพเจ้าอินาริ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งพืชพรรณและความอุดมสมบูรณ์นั้น จะทำให้พวกเขาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และหน้าที่การงานด้วย

ขอเล่าเรื่องของโทริอิ ให้ฟังเสียสักหน่อย โทริอินั้น มีรากฐานภาษาญี่ปุ่นมาจากคำว่า 鳥居 ไปเปิดวิกิพิเดียเขาว่ามันควรจะแปลว่า “ที่พักของปักษา” เพราะเนื่องด้วยตัวอักษรตัวแรกซึ่งอ่านว่า “โทริ” นั้นแปลว่า นก นั่นเอง โทริอิ ถ้าแปลให้เข้าใจตามความหมายของบ้านเราก็คือ “ซุ้มประตูศักดิ์สิทธิ์” เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของศาสนา “ชินโต” ซึ่งหลังจากที่เราได้เดินผ่านโทริอิเข้าไปในอาณาเขตของศาลเจ้าแล้ว นั่นหมายความว่าที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ กรุณาอย่าทำอะไรไม่ดีในที่แห่งนี้ เป็นต้น

fushimi-inari-taishi03
บรรยากาศฟุชิมิอินาริหลังฝนพรำ ดูอบอุ่น และสงบ

 

fushimi-inari-taishi02
รูปปั้นสุนัขจิ้งจอกอยู่ทุกหนทุกแห่งในบริเวณนี้

 

fushimi-inari-taishi08
มีความเชื่อว่าเทพเจ้าอินารินั้นสามารถจำแลงเป็นสุนัขจิ้งจอกได้ด้วย

fushimi-inari-taishi09

วันนี้โอโต้ซังขับรถพามา แต่โอโต้ซังบอกว่าการเดินทางมาฟุชิมิ อินาริไม่ยากอย่างที่คิดนั่งรถไฟ JR จากสถานี Kyoto ด้วย Nara Line ลงสถานี JR Inari แล้วเดินอีกประมาณ 2 นาทีก็ถึงแล้วส่วนค่าเข้านั้นฟรี และที่นี่ก็เปิดทำการ 24 ชม.อีกด้วย

fushimi-inari-taishi11
คนญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวต่างเขียนข้อความขอพร
fushimi-inari-taishi10
บ่อน้ำไว้ คนญี่ปุ่นมีธรรมเนียมไว้ล้างมือ ล้างหน้า บ้วนปากให้สะอาดก่อนเข้าวัด

fushimi-inari-taishi14

fushimi-inari-taishi01

fushimi-inari-taishi12

เส้นทางของการเรียงรายของโทริอินั้นยาวกว่า 4 กิโลเมตร ฉากสีส้มอันงดงามนี้ หากใครเคยดูหนังเรื่อง Memoir of geisha ฉากนี้เป็นฉากหนึ่งที่นางเอกวิ่งไปขอพรอีกด้วย วันนี้อากาศหลังฝนตกเย็นกำลังดี ได้ไปขอพรจากเทพเจ้าโทริอิพร้อมกับหัวใจอันชุ่มฉ่ำ ครั้งหน้าจะ DUDES NEXT DOOR จะแวะเวียนไปเที่ยวที่ไหนอีกโปรดติดตาม.

-Sandp1989-

fushimi-inari-taishi-cover

แผนที่ของ Fushimi Inari

fushimi-inari-maps

exoluxion in bangkok

The EXO’luXion- in BANGKOK ผ่านไปแล้ว 10 วัน คิดถึงพวกเขากันไหม EXO-L


 

exo-bkk-01ผ่านมาแล้วอาทิตย์กว่าๆสำหรับคอนเสิร์ต TrueMove H presents EXO PLANET #2 -The EXO’luXion- in BANGKOK งานนี้ SMTRUE  ส่งทั้ง 9 หนุ่มEXO  ซูโฮ เลย์ ชานยอล แบคฮยอน ไค เฉิน ซิ่วหมิน เซฮุน และ ดีโอ  มาระเบิดความมันส์ให้เอ็กซ์โซแอลไทยแลนด์ใจละลาย กับการรอคอยถึง 279 วัน ในที่สุดวันที่แฟนๆได้พบกับพวกเขาอีกครั้งก็มาถึง พร้อมภาพลักษณ์ที่เติบโตขึ้น เข้มแข็งขึ้น และยังคงความหล่อเท่ห์ และแอบน่ารักกระชากใจสาวๆได้ไม่เปลี่ยนแปลง

exo-bkk-13

exo-bkk-02

exo-bkk-08

exo-bkk-15

exo-bkk-03

exo-bkk-09

งานนี้นอกจากหนุ่มๆ จะเอาเพลงใหม่อย่าง Call me baby มาไลฟ์ให้ดูกันสดๆในคอนเสิร์ตแล้ว พิเศษไปสุดๆ เมื่อหนุ่มๆ จัดเต็มแสดง Love me right  ซึ่งเป็นเพลงใหม่ของพวกเขาให้เราดูถึงประเทศไทยเลยทีเดียว  ไม่เพียงแค่สองเพลงนั้น งานนี้หนุ่มๆยังหยิบยกเพลงดังไมว่าจะเป็นเพลงเร็ว หรือเพลงช้า มาร้องมาเต้นด้วยท่วงท่ากระชากใจ อาทิ การแสดงของไค กับ เซฮุนในเพลง Baby don’t cry ท่าทางสุดแสนเซ็กซี่ มีเสน่ห์ พอๆกับหนุ่มเลย์ที่ออกมาโชว์สเต็ป โซโล่ แดนซ์ แถมท้ายด้วยการแอบโชว์กล้ามท้องสุดฟิตที่เชื่อเลยว่าตอนที่เห็นสาวๆแถวนั้นคงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หรือจะเป็น My answer น้ำเสียงของแบคฮยอน ซูโฮ และ ดีโอนั้นก็เสนาะจับใจคนฟังได้ทั่วทั้งฮอลล์อิมแพคอารีน่า และที่เท่ห์ไปสุดๆเห็นจะเป็นดีเจชานยอลที่ขึ้นไปมิกซ์ซาวน์ให้ทั้งๆเพื่อนๆ และแฟนๆในฮอล์ได้แด๊นซ์กระจายราวกับอยู่ในไนซ์คลับสุดมันส์

exo-bkk-07

exo-bkk-012

exo-bkk-13

exo-bkk-11

นอกจากเต็มอิ่มสุดๆกับเพลงฮิตของพวกเขากว่า 28 บทเพลง ความใกล้ชิดที่ยิ่งกว่าชิดใกล้ระหว่าง EXO กับ EXO-L ไทยแลนด์กว่า 3 ชม.แล้ว ที่เห็นจะประทับใจทั้งแฟนๆ ทั้งศิลปินคงจะเป็นอื่นไปไม่ได้นั่นก็คือโปรเจ็คพิเศษที่แฟนๆชาวไทยบรรจงสรรค์สร้างอย่างตั้งใจให้หนุ่มๆได้ประทับใจกัน จนซิ่วหมินพี่ใหญ่ถึงขั้นต้องออกปากขอดูการทำโปรเจ็คอีกครั้ง และหนุ่มเลย์ถึงกับน้ำตารื้นเมื่อเห็นป้ายแบนเนอร์เชียร์เป็นภาษาจีน เขาถึงกับเอ่ยถึงความซึ้งใจนี้ พร้อมทั้งขอบคุณแฟนๆยกใหญ่

exo-bkk-14

exo-bkk-exol
exo-bkk-16

exo-bkk-06

exo-bkk-04

นอกจากนั้นแล้วการมาไทยครั้งนี้เรายังได้เห็นความน่ารักของหนุ่มๆ ไม่ว่าจะเป็นการแซวกันบนเวที เมื่อหนุ่มน้อยน่ารักเสียงดีอย่างดีโอ หรือ คยองซูเอ่ยปากบอกว่าตัวเองชอบทานส้มตำ จนแบคฮยอนเพื่อนรักอดแซวไม่ได้ จนดีโอต้องบอกว่าจริงๆเขารู้จักอาหารไทยอีกตั้งหลายอย่างนะ นอกจากนั้นหนุ่มเฉินยังเอ่ยปากชมว่า EXO-L สุดยอด รู้สึกสนิทกับEXO-L มากขึ้นเลย งานสู้เพื่อแฟนต้องมามักเน่อย่างเซฮุนเลยบอกว่าผมอะสนิทอยู่แล้วครับกับ เอ็กโซแอล พี่เพิ่งสนิท แต่ผมสนิทกันก่อนแล้ว หนุ่มเฉินเลยรีบบอกว่าสนิทกันอยู่แล้วแต่ตอนนี้คือรักมากเลยครับ เรียกเสียงกรี๊ดกันทั่วฮอลล์ ปากหวานขนาดนี้ยกหัวใจให้ทั้งสี่ห้องเลย! รวมไปถึงการที่สมาชิกแอบกระซิบกันวางแผนแกล้งลีดเดอร์คนดีอย่างพี่ซูโฮ จนกลายเป็นความคึกครื้นย่อมๆบนเวที ที่เราเห็นก็ได้แต่อมยิ้มไปกับความน่ารักของหนุ่มๆ และบรรยกาศสนุกสนานในวันนั้น

exo-bkk-05

exo03

exo10

งานนี้นอกจากจะเป็นภาพอันแสนน่าประทับใจแล้ว เชื่อได้เลยว่าแฟนชาวไทยคงจะสร้างความทรงจำแสนวิเศษให้หนุ่มๆ EXO ได้อย่างแน่นอน  แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้ากับ LIVEINBANGKOK

                                            BY     SATURDAY   NIGHT .

xiumin01

leader02

BAEKHYUN02

chanyeol01

chanyeol02

jongdae01

maknae02

maknae01

lay01

kimkai02

kimkai01

kyungsoon

exo18

exo17

exo14

โบสท์คริสต์เมืองจันท์ กับความงามสะกดใจ

โบสท์คริสต์เมืองจันท์ กับความงามสะกดใจ

cover-chantaburi

             ยามบ่ายคล้อยในวันหยุด แสงแดดแม้จะแรงแต่ก็ดูรำไรเมื่ออยู่ใต้เงาไม้ใหญ่ และแล้วเราก็เดินทางมาถึง โบสถ์วัดโรมันคาทอลิก วัดแม่พระปฎิสนธินิรมล หรือโบสถ์คริสต์คาทอลิกแห่งเมืองจันทบุรี

chantaburi02

         เมื่อมองเข้าไปด้านข้างโบสถ์จากที่จอดรถ ก็ได้เห็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคอันโอ่อ่า ดูโดดเด่นท่ามกลางท้องฟ้าสีครามในยามนี้ ความแปลกตาจากสถาปัตยกรรมโดยรอบอย่างชัดเจนทำให้ยิ่งขับให้โบสถ์แม่พระปฎิสนธินิรมลแห่งนี้ยิ่งสะดุดตา โครงสร้างส่วนใหญ่สีขาวและสีนวลของหินตัดกันกับสีเทาอมฟ้าดูคลาสสิค และเข้มแข็ง ลักษณะของตัวอาคารคล้ายหอแหลมสูงด้านบนมีไม้กางเขนประดับอยู่ ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน บุรุษสตรีท่านใดที่แต่งกายไม่เรียบร้อยทางโบสถ์จะมีผ้าเตรียมไว้สำหรับเปลี่ยนให้อยู่ตรงทางเข้า แต่หากเป็นไปได้ควรแต่งตัวไปให้เรียบร้อยเพื่อเป็นการเคารพสถานที่

โบสถ์แม่พระปฎิสนธินิรมล
ด้านในของโบสถ์แม่พระปฎิสนธินิรมล เน้นสีโทนชมพูโอรสพาสเทล บรรยากาศอบอุ่นและดูโอ่โถง

          เมื่อเดินทางมาถึงด้านในแล้วรู้สึกอบอุ่น และศักดิ์สิทธิ์ บรรยากาศโอ่โถง กับเพดานไม้ที่อยู่สูงด้านบนทำให้โบสถ์แลดูกว้างขวาง สีภายในโดยรอบจะค่อนข้างเป็นโทนสีชมพูกึ่งโอรส และภาพกระจกโดยรอบเป็นรูปของเหล่านักบุญโดยตัวกระจกนั้นใช้สีที่เรียกว่า สเตนกลาส ฉูดฉาดตัดกับโทนพาสเทลของตัวผนังพอสมควร

chantaburi11
กระจกที่เรียกว่าสเตนกลาส เป็นภาพของนักบุญ มีอายุกว่า100ปีแล้วแต่สีสันยังคงเด่นชัด

พระแม่มารีปฎิสนธินิรมล

          และเมื่อเดินเข้าไปก็จะได้พบกับพระรูปปั้นของ พระนางมารีอาปฎิสนธินิรมล องค์ประธานของวัดตั้งอยู่ องค์ท่านส่งรอยยิ้มให้แก่ผู้พบเห็นด้วยความเมตตา ประติมากรรมทีนี่ทุกชิ้นค่อนข้างจะละเอียดอ่อนและนุ่มนวล  ยิ่งมองยิ่งรู้สึกสบายใจ

โบสถ์แม่พระปฎิสนธินิรมล
ด้านหน้าของโบสถ์แม่พระปฎิสนธินิรมลเป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค

          และเมื่อเดินออกมาด้านหน้าตัวโบสถ์ ความสวยงามยิ่งจับใจนัก หน้าอาคารมีรูปป้ั้นขององค์พระแม่มารีตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตัวฐานสลักไว้ว่า “วันทามารีอา” บางครั้งน้ำพุที่ล้อมรอบองค์อยู่จะเปิดทำการด้วย ความคลาสสิคที่ลงตัวนี้ทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยถึงกับกล่าวว่า โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่ และกล่าวกันว่าเป็นโบสถ์ที่มีความงดงามมากที่สุดในประเทศอีกด้วย

chantaburi07
โบสถ์แม่พระปฎิสนธินิรมลมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมมากมาย

หากใครต้องการเดินทางไป ปัจจุบัน มีกำหนดเวลาการเข้าชม โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล ตามเวลาการถวายมิสซาในวันธรรมดา 2  ครั้ง เวลา 6.00-7.00 . และ 18.00 – 19.45. และในวันอาทิตย์ 3  ครั้ง เวลา 6.15 . 8.30 . และ 19.00 . หรือติดต่อล่วงหน้า โทร. (039) 311-578  ให้แต่งกายสำรวมสุภาพ หากไปช่วงกลางคืนจะมีการเปิดโคมไฟประดับสวยงาม

การเดินทาง คือ ไปตามเส้นทางสุขุมวิท เพื่อไปวัดไผ่ล้อม ตรงไปยัง โรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ ถนนตรีรัตน์ (เลยวัดไผ่ล้อมไปประมาณ 1 กม.) ตรงเข้าถนนจันทมิตร แล้วเลี้ยวขวา 

โบสถ์แม่พระปฎิสนธินิรมล

โบสถ์แม่พระปฎิสนธินิรมล

โบสถ์แม่พระปฎิสนธินิรมล
โบสถ์แม่พระปฎิสนธินิรมล อีกหนึ่งที่เที่ยวเมืองจันทบุรีที่ไม่ควรพลาด

ครั้งนี้ได้ไปเที่ยวที่ๆนอกจากจะสวยงามเป็นอย่างมากแล้ว ยังเปี่ยมไปด้วยความเคารพอีก ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่มีคุณค่ายิ่งนัก สักครั้งหนึ่งไทยแลนด์อินดี้อยากให้คุณได้ลอง แล้วคุณจะรู้ว่า สวรรค์(บนดิน)มีอยู่จริง

แล้วพบกันใหม่.

SandP.

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

chantaburi12

ลองของใหม่! กับเพลงนอกกระแส และท่วงทำนองที่แตกต่าง

เป็นอีกงานชิคงานนึง นี่วันนี้ชิคกี้ขอพาเพื่อนๆชาวไทยแลนด์อินดี้แวะเวียนไปเยี่ยมเยียนอีกหนึ่งมิติใหม่ของเทศกาลดนตรีที่มาจัดขึ้นในบ้านเรากันนะคะ

งานนี้ได้มีโอกาสจูงไม้จูงมือกับเพื่อนรักชาวญี่ปุ่นไปกระโดดโลดเต้นด้วยกันกับงานที่มีชื่อว่า HOSTESS CLUB BANGKOK

ไอ่เราเองไม่ค่อยจะรู้จักเสียเท่าไหร่กับวงดนตรีนอกกระแสแบบนี้ แต่ด้วยความที่มีอารมณ์อยากเสพย์อะไรใหม่ๆดูบ้างเลยตกลงปลงใจด้วยจำนวนเงิน 1,000 บาท

กับการซื้อบัตรหน้างานคอนเสิร์ตหลังจากตัดสินใจตามคำชวนเพื่อนอยู่ 3 วันถ้วน ด้วยการการันตีของเพื่อนตัวเล็กตาตี่ อินดี้สุุดๆว่า “ยูต้องมานะ งานนี้ที่ญี่ปุ่นดีมากเลย”

ก็เลยตัดสินใจลองไป….พบได้ว่า

ชาวต่างชาติพลุกพล่านมากกก

 

20150219_193802

บรรยากาศหน้าคอนเสิร์ต

 

วันนี้เลยขอรีวิวงานตามประสาคนไม่ค่อยจะอินดี้แต่ชอบไปงานอินดี้สักหน่อยนะฮ้า วันนี้มีวงมาเล่น 3 วงถ้วน พรุ่งนี้จะมีอีก 3 วงแต่ยังจำชื่อไม่ได้  3 วงนี้เริ่มต้นด้วย tUnE-yArDs

วงนี้มาแบบแนวน่ารักๆ ดนตรีมีบีทเล็กๆ เห็นว่าเป็นสไตล์ World Beat หรือจะเรียกว่าเป็น อินดี้ ป๊อปก็ได้

เหล่านักดนตรีนำหน้ามาโดยนักร้องนำที่ไปดูชื่อมาทีหลังเห็นว่าชื่อเมอร์ริล การ์บัส มาเล่นอูกูเล่เล่ กับการเล่นเพอร์คัสชั่นมาเป็นองค์ประกอบ  เพลงเพราะโยกได้ มีจังหวะสนุกพอให้ออกเสต็ปได้เบาๆ ชิวๆ ตามเสียงอูคูเลเล่เท่ห์ๆของศิลปิน

ขอบคุณภาพ และคลิปจาก bectero.com  (ถ่ายเองไม่ค่อยสวย ฮ่าๆ)

 

ต่อกันที่อีกหนึ่งศิลปิน ต้องขอบอกเลยว่าเป็นเพอร์ฟอรแมนซ์ที่เราชอบมากที่สุดในวันนี้  Caribou  ดนตรีที่มีกลิ่นอายแนวอิเล็กโทรนิค

น่าจะเรียกเป็นแนว EDM (Electronic Dance Music) เลยก็ได้ ฟีลลิ่งในฮอลล์เหมือนเรากำลังอยู่ในผับในบาร์แถวทองหล่อ-เอกมัยบ้านเรา งานนี้มีเบียร์สิงห์มาเป็นสปอนเซอร์ ฝรั่งตาน้ำข้าวต่อแถวยาวซื้อเบียร์ไทยกินจนได้ข่าวว่าเบียร์ขายหมดเกลี้ยง!

งานนี้ประทับใจตรงที่มีจังหวะที่พอดีและลงตัว ทั้งซาวนด์ดนตรีแปลกใหม่แต่เร้าใจให้โยก แสงไฟบนเวทีที่ไลท์ติ้งพอดีกับจังหวะเพลง แถมไฟสีต่างๆตัดไปตัดมา บางทีสว่าง บางทีสลัว ไฟหลากสีสันวิบวับพรับพราว สนองต่ออารมณ์ที่กำลังมีแอลกอฮอลล์อยู่ในกระแสเลือดบางๆ เรียกได้ว่าพอมาผสมผสานกัน แม้คนที่ไม่ค่อยถนัดเพลงอินดี้ ก็ยังโยกตัวตามได้อย่างฟิน!  ที่เอ่ยว่าชอบCaribou มากที่สุดเพราะเป็นช่วงที่มันส์ที่สุดของวันจริงๆ ซาวน์ดนตรีจากเบาๆ แล้วค่อยไต่ระดับขึ้นเป็นเมามัน ทำให้ค่อยออกสเต๊ปตามเพลงก่อนจะสนุกสุดเหวี่ยงเมื่อท่อนฮุควนลูปไปให้ได้แด๊นซ์ถึงใจ  คราวหน้ามาเดี่ยวจะไม่พลาดไปดูแน่นอนสำหรับหนุ่มคนนี้

                     สำหรับวงสุดท้าย วงอินดี้ชื่อดังสุดน่ารักที่หลายคนอยากจะมีโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะดูคอนเสิร์ตของพวกเขา กับวง Belle&Sebastian

ที่เรียกได้ว่าคออินดี้ทุกคนคงจะรู้จักพวกเขาและเคยฟังผลงานของพวกเขากันมาจนต้องร้องได้เป็นแน่แท้

เพราะขนาดเรายังรู้จักเลยบางเพลง เพลงที่ชอบส่วนตัวคือเพลงนี้ The Party Line  ดนตรีเบาลงกว่า Caribou พอสมควร เรียกว่าคนละสไตล์กันดีกว่า แต่ความมันส์ไม่ได้ลดน้อยไปกว่ากันเลย Belle&Sebastian นำเพลงเพราะมาบรรเลงแบบจัดเต็ม พร้อมฉากหลังสุดอลังการที่เพื่อนอินดี้บอกนี่ไม่ใช่เอ็มวี แต่เขาสร้างภาพเคลื่อนไหวประกอบเพลงมาเพื่องานนี้เลยนะเธอ  งานนี้เพลงดีงาม บรรยากาศชวนสนุก แถมได้ฟีล กึ่มๆ ฝันๆ โยกๆ มันส์ๆ ในอารมณ์คละเคล้ากันไป  ถือว่าเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งของการเสพย์ดนตรีที่ดีอีกครั้งในชีวิตที่ไม่ได้หาได้ง่ายๆในเมืองไทย วันนี้เลยยอมตัดใจควักกระเป๋าตังค์อีก 1,000 ไปดูสามวงที่เหลือไมว่าจะเป็น Real estate, Temple และ Thurston moore band อยากจะชวนชาวไทยแลนด์อินดี้ไปดู บัตรยังหาซื้อได้งาน แล้ววันนี้จะสนุกขนาดไหน บรรยกาศจะเป็นเช่นไร เดี๋ยวมาเล่าให้ฟัง

 

ตู่ภพธร

“ตู่ – ภพธร” AIS MUSIC STORE KKBOX PRESENTS “TWO POPETORN L1VE ! #ครั้งแรกมีได้แค่ครั้งเดียว”

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.bectero.com/en/news/news-concert-event/ais-music-store-kkbox-presents-two-popetorn-l1ve


เรียกได้ว่าเป็นการเรียกน้ำย่อยที่สุดฟิน สำหรับงานแถลงข่าวคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตของศิลปินหนุ่มขวัญใจสาวๆ “ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ” ในคอนเสิร์ต AIS MUSIC STORE KKBOX PRESENTS “TWO POPETORN L1VE ! #ครั้งแรกมีได้แค่ครั้งเดียว” ที่ได้แถลงข่าวไปเมื่อวานนี้ โดย บีอีซี – เทโร และเลิฟ อิส งานนี้ได้ บอย-โกสิยพงษ์ และ โบ-สุรัตนาวี รับหน้าที่เป็นพิธีกร โดยมีบรรดาแฟนคลับ ตู่ – ภพธร มาร่วมให้กำลังใจกันแน่นลานอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเจ้าตัวมีเซอร์ไพร้ส์แจกดอกกุหลาบให้แก่แฟนๆ สื่อมวลชนและผู้มาร่วมงานอีกด้วย

บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยสนุกสนานและเป็นกันเอง เหล่าแฟนคลับขนกันมาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม ซึ่ง ตู่ –  ภพธร ได้เผยว่า “คอนเซ็ปต์ของคอนเสิร์ตครั้งนี้จริงๆแล้วมันเริ่มจากความฝันของผมที่จะได้มีคอนเสิร์ตเดี่ยวเป็นของตัวเอง 9 ปีที่อยู่ในวงการเพลง นี่จะเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกที่มีได้แค่ครั้งเดียวของผม เพราะผมเชื่อว่าอะไรที่เป็นครั้งแรกจะเป็นสิ่งที่เราไม่เคยลืม ไม่ว่าจะเป็นการที่เราไปโรงเรียนครั้งแรก มีความรักครั้งแรก หรือแม้แต่อกหักครั้งแรก คือทุกโมเม้นท์เหล่านั้นที่เป็นครั้งแรกมักจะเป็นสิ่งที่ประทับอยู่ในใจเรา ผมเชื่อว่าคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของผม แฟนๆทุกคน รวมถึงตัวของผมเองคงจดจำความรู้สึกดีแบบนี้ไปตลอดชีวิต รับรองว่างานนี้มีเซอร์ไพร์สพิเศษตลอดโชว์ รวมถึงแขกรับเชิญด้วยที่ผมอยากบอกมาก แต่บอกไม่ได้จริงๆ ขออุบไว้ก่อน แต่รับรองว่าถูกใจทุกคนแน่นอนครับ”


บอย-โกสิยพงษ์ เสริมว่า

“ตู่เป็นคนที่ใส่ใจกับรายละเอียดต่างๆมาก ตั้งแต่ผมรู้จักกับเขามา ตู่มีความใส่ใจในเรื่องการทำเพลง การร้องเพลง ตู่เป็นศิลปินที่เอ็นเตอร์เทนคนดูเก่ง มีเสน่ห์ และที่สำคัญเขามีความฝันว่าจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองสักครั้งหนึ่ งเพราะฉะนั้นเชื่อได้เลยว่าคนที่ซื้อบัตรมาดูคอนเสิร์ตในครั้งนี้ จะไม่ผิดหวังแน่นอนครับ”

 

งานแถลงข่าวในครั้งนี้ปิดท้ายด้วยโชว์มินิคอนเสิร์ตที่จัดเต็มเรียกน้ำย่อยก่อนวันจริง เรียกได้ว่าลีลาบนเวทีสนุก ครบรส ขนาดวันแถลงข่าวยังสนุกขนาดนี้ ในคอนเสิร์ตจะขนาดไหน!! ไปร่วมฟินจิกหมอนและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำในคอนเสิร์ตครั้งแรกของ “ตู่-ภพธร” กันได้ที่

 

คอนเสิร์ต AIS MUSIC STORE KKBOX PRESENTS “TWO POPETORN L1VE ! #ครั้งแรกมีได้แค่ครั้งเดียว” เปิดแสดงวันเสาร์ที่ 28 มีนาคมนี้ ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี       บัตรราคา3,200 / 2,800 / 2,500 และ 1,500 บาท   เปิดขายบัตรแล้วที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา พิเศษ!สำหรับลูกค้า AIS รับส่วนลดสูงสุดถึง 50% ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.thaiticketmajor.com หรือ www.bectero.com

Sippa House ร้านฝั่งธน ของคนมีสไตล์

Explorer :


sippa02-2

‘People who love to eat are always the best people’

วลีเด็ดบนอักษรสีดำที่แปะอยู่บนกำแพงสีส้มจัด ฉาบด้วยไฟสีเหลืองอุ่น  หันทางซ้ายเสียนิดจะพบกับภาพเขียนสีน้ำมันสไตล์ยุโรป เรียงรายกันอยู่เมื่องมองดูให้ความรู้สึกราวกับกำลังเลือกซื้อภาพเขียนในร้านเก๋ๆของศิลปินอิสระอยู่ที่เวนิช อิตาลี บรรยากาศของSippa House ร้านอาหารเล็กๆน่ารักในสไตล์ฟิวชั่นอิตาลี คงตอบโจทย์ผู้คนที่ปรารถนาร้านอาหารรสชาติดี ทัศนียภาพสวยๆ ในราคาที่คุ้มค่าได้

นอกจากการตกแต่งร้านให้เป็นสไตล์แบบของตัวเองแล้ว รสชาติอาหารของที่นี่เรียกได้ว่าอร่อยหาตัวจับยากทีเดียว เมื่อเราได้นั่งพูดคุยกับเจ้าของร้านอย่างคุณแจม จึงรู้ที่มาที่ไปของอาหารรสกลมกล่อมในแต่ละจานที่ผลิตออกมาเพื่อลูกค้าผู้น่ารัก คุณแจมกล่าวว่า “อาหารทุกจานเราเลือกคุณภาพ ใช้ความรู้สึก และใส่ใจทุกครั้งที่ทำอาหาร เราคำนึงถึงลูกค้าว่าถ้าเราเป็นลูกค้าเองเราต้องการรับประทานอาหารแบบไหน เราทำอาหารเหมือนให้ญาติพี่น้องเราเองทาน จะคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ด้านเงินอย่างเดียวไม่ได้ คงต้องคำนึงถึงประโยชน์ด้านใจด้วย”

sippa01-2

sippa11-2

Amazing Menu :

สปาเก็ตตี้ปูนิ่มที่เห็นแล้วเป็นน้ำลายสอ
สปาเก็ตตี้ปูนิ่มที่เห็นแล้วเป็นน้ำลายสอ

สำหรับเมนูอาหารนั้น เจ้าของร้านผู้สดใสได้เปิดเผยกับเราว่า บางเมนูเธอ และคุณซีคู่หูสุดแนวของเธอก็ช่วยกันคิดขึ้นมา บางอย่างเคยมีชื่ออยู่บนโลกนี้มาก่อนด้วยซ้ำ จับนู่นนิด ผสมนี่หน่อยออกมาบางครั้งมันก็กลายเป็นเมนูครีเอทที่แสนเก๋ไก๋กลายเป็นไฮไลท์ของร้านได้ดีทีเดียว อยากจะยกตัวอย่างเมนูแสนเก๋ที่ดีกรีความฮอตเรียกได้ว่า ทั้งคนไทย และคนต่างชาติแทบจะเป็นแฟนพันธุ์แท้กันเลยทีเดียว นั่นก็คือ โรตีพิซซ่าคาโบ! อ๊ะ อ้าว หลายคนอาจจะสงสัยเหมือนมีอาหาร 3 ชนิดมาฟีทเจอริ่งกัน มันจะเป็นไปได้อย่างไร แต่ซิปป้าเฮ้าส์ก็สามารถเนรมิตแป้งโรตีมีดีที่ความนุ่มแปรเปลี่ยนแป้งนั้นเป็นพิซซ่าก่อนจะราดหน้าด้วยซอสคาโบ อื้อหือแค่ได้ฟังก็น้ำลายสอเป็นที่สุดแล้วสินะด้วยความหอมกรุ่นของซอสคาโบร้อนๆเสิรฟบนแป้งโรตีกรอบกรุบกำลังโดนเรียกได้ว่าถ้าเข้าปากไปแล้วต้องร้องว้าว! กันเลยทีเดียว

เบอร์เกอร์สูตรพิเศษที่ข้างในจะกรุบกรอบด้วยชีสย่าง
เบอร์เกอร์สูตรพิเศษที่ข้างในจะกรุบกรอบด้วยชีสย่าง
สปาเก็ตตี้ปลาแซลมอนน่าลิ้มลอง
สปาเก็ตตี้ปลาแซลมอนน่าลิ้มลอง

 

นอกจากนั้น เมนูถัดมาที่อยากแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้มาลองชิมกันในวันนี้ก็คือเบอร์เกอร์ก้อนยักษ์สอดไส้ด้วยแฮมเบิร์กก้อนโตผสมผักชนิดต่างๆ และที่เด็ดที่สุดคือส่วนผสมของชีสย่างที่ขับกลิ่นชีสให้หอมโดดเด่นมากกว่าชีสปกติ ผสมผสานเข้าไปทำให้เบอร์เกอร์ก้อนนี้มีทั้งความนุ่มจากเนื้อหมูที่หมักกันมาอย่างดี ทั้งความกรอบจากตัวผักสดและความกรุปจากชีสย่างที่รสชาติกลมกล่อมเข้ากับทั้งขนมปังแฮมเบิร์กและผักสดได้เป็นอย่างดีขอแนะนำว่าหากสามารถกัดทานพร้อมกันได้รับรองฟินมิรู้ลืมทั้งความนุ่มความหอมอีกทั้งความกรุบของชีสมันผสานกันได้อย่างลงตัวจริงๆ

 

sippa07-2 sippa13-2

และอีกอย่างที่สำคัญที่สุดมีของคาวแล้วขาดของหวานคงไม่ได้เมนูของหวานของที่นี่มาจากฝีมือคุณซีล้วนๆตั้งแต่หาซื้อของตีแป้งตีไข่ใส่ใจลงไปทำทุกขั้นทุกตอนทุกเมนูที่เป็นขนมหวานตั้งแต่บราวนี่ยังเค้กมะพร้าวอ่อนที่หอมนุ่มชุ่มชื่นมะพร้าวเต็มคำในปากและที่ฮอตฮิตติดชาร์ตตลอดเวลาเห็นจะเป็นช๊อกคลาสสิคตัวจริงเสียงจริงที่อร่อยจริงๆจนต้องซื้อกลับไปฝากครอบครัวอยากให้ชาวThailandIndyได้มาลองกันสักที

Transportation :

วิธีการมาไม่ยากนัก หากใครอยู่แถวท่าพระยิ่งสบายเข้าไปใหญ่ เพราะร้านตั้งอยู่เลยเดอะมอลล์ท่าพระมานิดเดียว ถ้านับเป็นซอย จะอยู่ตรง ซอยเพชรเกษม 17 ป้ายสีเหลืองใหญ่เห็นเด่นชัด แต่หากใครอยากไปรถสาธารณะ ขอแนะนำให้ลงรถไฟฟ้าสถานีบางหว้า แล้วต่อพี่วินฯมาอีกหน่อยให้มาเพชรเกษม 17 ไม่เกิน 5 นาทีน่าจะถึงที่หมาย

Sipping

ชาผลไม้เลื่องชื่อที่ดีต่อสุขภาพ
ชาผลไม้เลื่องชื่อที่ดีต่อสุขภาพ

มะนาวฝานแผ่นเล็กเสียบบนปากแก้วใส ข้างในบรรจุชาผลไม้กลิ่นหอมหวาน ที่เป็นสูตรเฉพาะผสานลงตัวของที่นี่ คุณเจ้าของร้านใจดีเผยให้ TID ฟังว่าจับนู่นนิด จับนี้หน่อย หาสมดุลของความเปรี้ยวและความหวานในแก้วให้อยู่ในความพอเหมาะพอดี กลายเป็นชาผลไม้หวานอมเปรี้ยวกำลังดีที่เย็นชื่นใจ ใครได้ลองแก้วนี้ ต้องอยากจะละเลียดรสชาติแบบนี้ไปเสียนานๆไม่อยากให้หมด  THAILANDINDYแวะไปกี่ครั้งก็ต้องสั่งเมนูนี้ ไม่ต่างกับเพื่อนญี่ปุ่นโต๊ะข้างๆวันนี้ เขาก็สั่งเครื่องดื่มแก้วโปรดนี้เหมือนกัน

Unique :

sippa14-2

ความเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้ โดดเด่นทั้งเรื่องของสไตล์การตกแต่ง และเรื่องของเมนูอาหารที่เจ้าของร้านพยายามสรรค์สร้างออกมาเองให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว   ยิ่งบรรยากาศชิวๆแถวท่าพระ กับความเป็นท้องถิ่นของแถวนี้ ขับให้ภาพของ Sippa House โดดเด่นเป็นสไตล์ของตัวเองขึ้นมาได้อย่างชัดเจน ทำให้หลายๆคนทั้งในละแวกนี้ และนักปั่นฝีมือดีสะดุดตา และลองแวะเวียนมาจนติดใจ  ชิคนิดๆ อินดี้หน่อยๆ อร่อยเต็มคำ

Price :

sippa04-2 sippa03-2

ราคาสำหรับซิปป้าเฮ้าส์ ถือว่าเป็นมิตรมาก เพราะถ้าเทียบกับคุณภาพอาหารแล้ว  ดีงามทีเดียว

สำหรับอาหารไทย ราคาต่อคนอยู่ที่ประมาณ  70 – 150 บาท

สำหรับอาหารฟิวชั่น หรือ อาหารฝรั่งอยู่ที่ประมาณ 150 – 250 บาท

และนี่ก็คือ EATS UP  ร้านดีๆ เพื่อคนอินดี้อย่างคุณที่เราอยากแนะนำให้ชาว THAILAND INDY ได้ไปลองกันสักที ร้านเล็กๆ แต่คุณภาพไม่เล็กอีกมากมายที่สร้างความรู้สึกดีๆให้แก่ทุกคน เชื่อว่าทุกคนคงจะมีความสุขเมื่อได้ทานอาหารอร่อย อย่างที่ซิปป้าเฮ้าส์บอก‘People who love to eat are always the best people’ และเมืองไทยเป็นอีกที่หนึ่งที่โด่งดังเรื่องของเสน่ห์ปลายจวัก  ดังนั้นอาหารดีๆมีอยู่ทั่วทุกมุมเมือง ตอนนั้น TID จะพาคุณผู้อ่านไปทานอาหารที่ไหนกันอีกโปรดติดตาม

 

ที่เชฟเปิดสอนทำขนมด้วยนะจ๊ะ
ที่เชฟเปิดสอนทำขนมด้วยนะจ๊ะ
พิซซ่าที่ทำด้วยแป้งโรตีเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ทีเดียว
พิซซ่าที่ทำด้วยแป้งโรตีเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ทีเดียว

 

ท่านผู้อ่านท่านใดมีร้านอาหารแนะนำอยากให้เราไปลองทำการ EATS UP! สามารถอีเมลล์มาบอกเล่าความประทับใจพร้อมเบอร์ติดต่อกลับได้ที่ sand.thailandindy@gmail.comแล้วเราจะไป EATS UP!กันถึงที่เลย!