ไป Penzance กินปลาทูฝรั่ง

ไป Penzance กินปลาทูฝรั่ง
– K I D C O O P E R S –

Penzance7

Penzance :  เป็นเมืองพักผ่อนชายฝั่งทะเลที่อยู่ด้านตะวันตกสุดของเกาะอังกฤษ (แต่แค่ Penzance ยังไม่ใช่ Lands end แค่นั้นเอง)ใครจะมาเที่ยวทะเลฝั่งนี้ ก็จะบอกว่ามา Cornwall จริงๆ แล้ว Cornwall มีช่ือเรื่องของกินหลายอย่าง ทั้งนมเนยทีเค้าว่าอร่อยนักหนา เวลาที่กินสโคนเค้าจะเสิร์ฟกับ clotted cream ซึ่ง Cornish clotted cream ก็ขึ้นชื่อมากๆ ที่นี่ ร้านในไทยหลายๆ ร้านก็นำเข้ามานะ (เนื่องจากมันสดใหม่ หมดอายุเร็วสุดๆ จ้า) มา หรืออาหารทะเล ซึ่งก็แน่นอนเพราะมันติดทะเลนี่

เมืองท่องเที่ยวที่เรารู้จัก (แปลว่ามันต้องดังมากๆ แหละ เพราะเรารู้จักอะไรๆ น้อย) ก็มี St. Ives (คนท้องถิ่นเค้าอ่านว่า เซ้นท์ ไอฟ์ ล่ะ เราไปอ่านอีฟอยู่นาน) เมืองตากอากาศขึ้นชื่อเหมือนเป็นหัวหิน (แต่ไม่ใกล้แบบหัวหินนะ) และ Penzance นี่ล่ะ โดย Cornwall ยื่นเข้าไปในทะเลเซลติก ซึ่งเป็นส่วนของมหาสมุทรแอตแลนติกแล้วล่ะ

อะ เรื่อง Cornwall ขอเท่านี้พอ เพราะจริงๆ จะอวดร้านอาหารที่เรากดเจอในกูเกิ้ลโดยบังเอิญ (แต่จริงๆ คือเพื่อนที่ไปด้วยกินรีวิวมาแล้วแหละว่าร้านนี้ดีงาม) แต่กว่าจะได้กิน ไม่ใช่จะง่ายนะ เพราะว่าเราไม่ได้จองกันก่อนไปโดยชะล่าใจคิดว่าไปนอกฤดูกาลท่องเที่ยวคงไม่เป็นไร วันแรกไปถึงร้านเต็มทั้งที่มองเข้าไปร้านว่างๆ นะ จุดนั้นรู้เลยว่าอร่อยแน่จองกันเต็มแบบนี้ แต่ที่พีคกว่านั้นคือตอนจังหวะที่เพื่อนเราเปิดประตูร้านเพื่อจะไปขอโต๊ะ modalert 200mg กลิ่นอาหารมันลอยออกมาปะทะจมูกของเรา ตอนนั้นถึงกับร้องว่า โหววววววว พอรู้ว่าวันนี้ไม่ได้กินแน่ ถึงกับบอกเพื่อนว่าเราจองร้านนี้เหอะ พรุ่งนี้ขอมาอีกที ถ้าไม่ได้กินก็ไม่อยากจะไปที่อื่นต่อ

Potted mackerel อาหารจำพวก potted เช่น potted shrimp เป็นการถนอมอาหารแบบหนึ่ง โดยเอาเนื้อสัตวืมาผสมกับเครื่องปรุง เน้นให้ออกมันๆ เค็มๆ ใส่เครื่องเทศเล็กน้อยแล้วแต่สูตร ก่อนปิดฝาใส่น้ำมันอีกหน่อยทีนี้ก็จะเก็บได้นาน ทั้งในขวดแก้วหรือกระป๋อง ได้ออกมาเป็น pate รึก็คือ sandwich spread ที่เราแสนคุ้นเคยนั่นแหละ ตอนเด็กๆ เราเคยได้ยินว่าไปอังกฤษต้องกิน Yorkshire pudding ซึ่งก็คือแป้งทำเป็นรูปถ้วยทอดในน้ำมัน เช่น น้ำมันวัว ร้านอาหารก็จะเสิร์ฟมากับ potted beef bacon ตอนเด็กๆ อ่านแมกกาซีนก็จะมีความเห็นทำนองว่าเค็มๆ มันๆ ไม่อร่อยเลย แต่คนที่ชอบก็บอกว่าอร่อยดี antibiotics for sale online ซึ่งหลายคนบอกว่ามันเป็นคาแรคเตอร์ของอะไรก็ตามอังกฤษ (made in England) นะ คือ คนที่ชอบก็จะชอบแบบสนิทสนมรักใคร่ คนไม่ชอบก็จะออกแนวไม่ชอบมากๆ

สำหรับ potted mackerel เราชอบม้ากกกกกกกกกกก อาจจะเพราะชอบปลาตระกูลปลาทูอยู่แล้ว เลยทำให้สมัครรักใคร่จานนี้ได้ไม่ยาก แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันไม่ชอบปลาทูเลย กินปุ๊บก็บอกว่าไม่ชอบ ไม่กินแล้วนะ (เห็นมั้ย ชอบก็จะรักไปเลย ไม่ชอบก็เลิกคบ) เค้าจะเสิร์ฟกับขนมปังกรอบแล้วก็ sourdough (พูดถึง sourdough ก็คิดได้ว่ามีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับขนมปังนี้ ไว้มีโอกาสจะเล่าให้ฟัง) แล้วก็มะกอกดองบดหยาบ กินรวมกันแล้วหอมๆ กรุบกรอบ เค็มๆ มันๆ เป็นอาหารจานเปิดที่ดีเลย

penzance01

Local lobster ตามสไตล์ ใครไปใครมาอังกฤษต้องได้กิน lobster สักครั้งไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง ไม่รู้มีใครว่าไว้หรือเปล่า แต่แน่ๆ เรานี่แหละคิดเองเออเอง เพราะว่ามันเป็นหนึ่งใน tourist checklist (ไม่ชอบคำนี้เลย มันดูอ่านออกเสียงแล้วงง)

สรุปแล้วไม่รู้เพราะอะไรทั้งเกาะนี้ไปจนถึง Ireland ต้องมีเมนู lobster เรียกลูกค้า จานนี้เค้าย่างมากำลังดี เนื้อไม่แข็งไป แล้วก็หอมหวาน lobster มากๆ ไม่มีน้ำจิ้มพริกเกลือแล้วกินกับมาโยสูตรที่ร้านมันๆ หอมๆ ยังฟินเลยอะ

Penzance

Mussels mariniere buy tramadol หรือก็คือหอยแมลงภู่อบไวน์ขาว หอยทางฝั่งนี้จะไม่ใหญ่โตเท่านิวซีแลนด์นะ แล้วก็สีเปลือกจะเข้มกว่าบ้านเรา สำหรับเราเราว่าหอยทางนี้ทำแบบนี้แล้วได้รสและกลิ่นที่ดี คือยังมีความทะเลของหอยแมลงภู่อยู่ ผ่านความร้อนเร็วๆ เนื้อไม่แข็ง กินได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อ จริงๆ แล้วเราว่าการปรุงหอยแมลงภู่มันก็ดูคล้ายกันไปทุกภูมิภาค คือบ้านเราก็นึ่งกับโหระพา ทางนี้ก็ต้มกับไวน์ หอม ต้นหอม บางสูตรก็ใส่ผงกะหรี่ หรือชีส คิดว่าคงเพื่อช่วยกลบคาว ส่วนผู้บริโภคอย่างเรา สบายสิครัชชช กินโลดดดดดด

Penzance

Cornish crab rarebit ปูอร่อย อร่อย อร่อย คือปูทางนี้มันจะไม่ได้เป็นก้อนเป็นช่อเหมือนปูไทย เราไม่มีความรู้ ไม่รู้ว่าเป็นลักษณะของเนื้อปูหรือฝรั่งแกะปูไม่เก่งก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คือใครบอกว่าปูฝรั่งไม่อร่อย ขอเถียง เราว่ามันคงมีอร่อยไม่อร่อยปะปนกัน แต่ปูบนขนมปังชีสอันนี้มันอร่อย เนื้อมันหวานธรรมชาติ ไม่ต้องปรุงหนัก แค่เน้นรสจากวัตถุดิบพอแล้ว เหมือนเดิมกินกับผักแนมแบบฝรั่ง

Penzance4

 

Penzance5

Salt & pepper squid, aioli อาหารหลัก ไม่ว่าไปไหนกับใครเป็นต้องได้กินปลาหมึกทอดทุกที รสชาติอร่อยสมฐานะเหมือนที่อื่นๆ ไม่พีค

Penzance6

Mackerel fillets จานนี้ขอยกให้เป็นฟินาเล่ คือมันดีอะ ปลาทูตัวโตที่มีความมันทุกสัมผัสที่เคี้ยวลงไป มีความหอมกระจายไปทั้งปาก โรยเกลือบางๆ ก่อนนำไปย่าง อร่อยมากกกกก ซอสบีทรูทและสลัดที่ให้มาด้วยกันตัดรสมันของปลาได้ดี หอมมาก อร่อยมาก สมที่ร้านชื่อ mackerel

Penzance7

 

วันนี้ไม่มีขนม เพราะอาหารจานใหญ่มาก อิ่มมากจนกินต่อไม่ไหว เลยไปเดินเล่นแล้วพึ่งไอติมนอกร้านแทน (เอ้า ก็เมืองนี้ไอติมอร่อยนี่นา)

พิกัดร้าน Mackerel Sky Seafood Bar, Penzance, TR18 2LZ

 

Penzance8

 

 

 

 

 

 

[Dudes Next Door]ขอต้อนรับสู่ดินแดนSMTOWN สถานที่ที่จะทำให้แฟนSMฟิ๊นฟิน!

ขอต้อนรับสู่ดินแดนSMTOWN สถานที่ที่จะทำให้แฟนSMฟิ๊นฟิน

INDY SUMMARY:
สถานที่ : SM TOWN ณ ห้าง COEX
สถานี : Samseung ทางออก 5 หรือ 6 หาป้ายที่เขียนว่า COEX MALL เลยฮะ หาไม่ยากๆ
เว็บไซต์ : SMTOWN THEME PARK IN THE CITY
เปิดให้บริการ :
MAP :

sm map

 

ชั้น 2 : SUM (Celebrity shop)
ชั้น 3 : SMTOWN STUDIO
ชั้น 4 : SUM CAFE X SUM MARKET
ชั้น 5 : SMTOWN THEATER

ขอต้อนรับเข้าสู่ดินแดนแห่ง อปป้า นูน่า ฮยอง อนนี่ ทงแซง ของใครหลายๆคน วันนี้เราจะพาคุณบุกตะลุยดินแดนที่จะทำให้แฟนคลับค่าย SM ฟินสุดใจ

อะแน่นอน หลายคนที่เคยแวะ เคยเวียน เคยเยือนแดนกิมจิ อาจจะได้มาที่นี่แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่เราได้มา

อื้อหือ…

smtown02

smtown03

บอกเลยประทับใจ และเสียหายหลายแสน..(วอน)

SUM เหมือนเป็นห้องนั่งเล่นระหว่างแฟนนคลับ กับศิลปิน SM เพียงแค่ขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้นแรก จอโทรทัศน์ด้านข้างก็ฉายภาพมิวสิควีดีโอที่เราแสนจะเคยคุ้น และคุ้นเคย จำได้ว่าระหว่างขึ้นบันไดเลื่อน เอ็มวีที่ถูกนำมาเล่นเป็นเพลง lion’s heart ของ SNSD

SUM ช๊อปนี้พี่รักก

smtown05

       เลื่อนขึ้นมาที่ชั้นสอง เราก็คงต้องกำกระเป๋าตังค์ให้แน่นซะแล้ว หนุ่มหล่อ สาวสวยหน้าตาดี ที่มีหน้าประทับอยู่บนสินค้าคุณภาพมากมาย เรียงรายกันให้เราได้ซื้อ สินค้าศิลปินวงโปรด ในราคาที่สำหรับเรา เราก็คิดว่าโอเคนะ สมเหตุสมผล ดูจากดีไซน์ และคุณภาพ ถือว่าน่าจับจองเป็นเจ้าของหลายชิ้นเลยทีเดียว สินค้าให้ shopนี้ก็จะมีตั้งแต่ คุกกี้ ยันเทียนหอม ลืมเล่าไปว่าระหว่างเดินเข้าร้านเมื่อหันซ้ายก็จะพบว่าวอลเปเปอร์ชั้นนี้ ก็เป็นรูปของหนุ่มๆชายนี่สุดหล่อ แต่พอหันขวาก็โดนอปป้า EXOกระชากใจ (ยังจะกล้าเรียก EXO ว่าอปป้า ฮ่าๆๆ) แถมช่วงนี้หนุ่มๆ EXO ยังร่วมกับแบรนด์เสื้อผ้าแบรนด์หนึ่งทำแคมเปญจน์เกี่ยวกับหนัง CIVIL WAR งานนี้เลยมีแบ่งฝั่ง แบ่งฝ่ายกันเรียบร้อย ใครอยู่ทีมไหนไปเลือกดูเอานะจ๊ะ

smtown07

 

smtown16

 

smtown15
พี่ชานยอลเป็นพรีเซนเตอร์ต้อนรับแขกบ้านแขกเรือนแทบทุกชั้นเลยจย้าา

 

smtown14

 

smtown13

กด 1 ทีมชานยอล กด 2 ทีมเซฮุน #แอดขอกด 12 ละกันงั้น อุ๊บสสส์ !

 

smtown12
ไม่ได้ลำเอียง เพียงแต่รักพี่ไคมากที่สุดเท่านั้นเองง เอิ๊กๆ

 

smtown10

 

smtown09
ทีมไหนดีล่ะะทีนี้

 

smtown08

 

_smtown06
ทักทายชายนี่กันหน่อยเร้วววว

ชั้น 3 นี้มีไว้ให้ขาแด๊นซ์

 

smtown20

พอขึ้นมาที่ชั้น 3 ชั้นนี้แม้เราจะเดินเลยผ่าน เพราะเหมือนเป็นคลาสที่คนธรรมดาสามารถลงเรียนเพื่อฝึกการเป็นศิลปินได้ เห็นป้ายเขียนไว้ว่า SMTOWN STUDIO แต่นี่อาจจะแก่เกินเต้นไหว แต่ก่อนที่จะผ่านเลยไป แอบไปสนใจภาพวอลเปเปอร์ของชั้นนี้เสียที หาดีๆ คนไหนเมนเรา?!

smtown29

 

smtown23
คงต้องขอชื่นชม VM (visual merchandiser) รวมไปถึงมัณฑนากรของที่นี่เสียหน่อย ที่จัดดิสเพลย์ทั้งสินค้า รวมไปถึงการตกแต่งสถานที่ ที่ทำให้แฟนคลับเดินไปทางไหนก็รู้สึกว่าเหมือนโดนโอบล้อมด้วยศิลปินที่ชื่นชอบ และไม่ใช่ภาพจากเอ็มวี หรือจากแต่ละอัลบั้มนะ หรือรูปที่แตกต่างกันนะ แต่เหมือนเขาจะลงทุนทำภาพให้คล้ายกับ Exhibition ของศิลปิน SMเลยทีเดียว เรียกได้ว่า MOOD & TONE ของแต่ละดิสเพลย์ค่อนข้างจะมีความกลมกลืนที่สวยงาม อันนี้ชอบมากโดยส่วนตัว

smtown31
รูปนี้เราไม่ได้จิ้นแต่อย่างใด เชื่อเราสิ #หราาาา

 

smtown30
พี่ชีวอนเซ็นไว้ทุกหัวโค้ง น่ารักจริงๆ ฮ่าๆๆ
smtown28
ละลานตาไหมถามใจเธอดูวว

 

smtown27
ถ้วยรางวัลต่างๆ อลังการจริงๆ

 

smtown26

 

smtown25

 

smtown24
smtown22

 

smtown21

 

smtown19
พี่ยุนรุ่นใหญ่ กับ พี่ชิมสุดเท่ห์

smtown17

 

ชั้นสี่ มีไว้ให้ช๊อป ช๊อป ช๊อปปปปป

 

smtown34
ดิสเพลย์ SNSD น่าจะเป็น Exhibition จาก MV นะฮะ

 

มาต่อกันที่ชั้น 4 ชั้นนี้มีตู้กระจกที่น่าจะเป็นที่รวบรวมของในเอ็มวีของ SNSD เอาไว้ แต่เราก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากเท่าไหร่นัก ถึงอย่างนั้นก็อดจะถ่ายภาพไม่ได้ สวยอะชอบ ด้านหน้าเป็นที่เทเงินในกระเป๋าอีกแล้ว ที่นี่เราได้พบเจอกับ SUM CAFE ร้านกาแฟสุดคิ้วท์ของที่นี่ รวมไปถึง SUM MARKET ที่มีขายตั้งแต่ซีดียันมาม่าเกาหลีในสไตล์ดงบังชินกิทีเดียว เดินชอปปิ้งเรื่อยๆ แอบคิดเหมือนกันว่าเขามีกลยุทธ์อย่างไรในการคัดเลือกสินค้ามาขาย เหตุผลเช่นไรทำไมถึงเลือกสินค้าชนิดนี้ มีตั้งแต่มาม่ายันป๊อปคอร์น รวมไปถึงชาฝรั่งในสไตล์ EXO (พอมาชิมแล้วเป็นชามิ้นท์) เราเองก็อยากรู้เหมือนกันทำไมเขาจึงเลือกชามิ้นท์มาเป็นรสชาติของ EXO (แต่อร่อยนะชอบ) พอเบนสายตาไปทางซีดี ก็เห็นว่ามีตั้งแต่ Official CD,DVD รวมไปถึง Vinyl ชั้นดีที่นำมาเรียงรายอย่างงดงาม โอ้ย ไม่เสียเงินตรงนี้ ก็ไม่รู้จะเสียเงินตรงไหน มีแต่ของสวยๆงามๆ เต็มไปหมด เหมือนเขาทำวิจัยเกี่ยวกับนิสัยและความคิดของผู้หญิงมาแล้ว ว่าต้องแพ้อะไรพวกนี้

smtown40

smtown38

 

หมดเงินในกระเป๋าไปกับ มาม่าEXO ป๊อปคอร์นTVXQ (ที่เพื่อนที่ได้รับไปบอกว่าอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกก) ห่อละประมาณ 60 บาทถ้าคิดเป็นเงินไทย เรายังได้กระเป๋า F(X)มาอีกใบนึง ด้านหน้าเขียนว่า LOVE IS 4WALL ที่ดึงมาจากเพลงฮิตของพวกเธอ ชอบเพลงนี้ และชอบกระเป๋านี้เลยซื้อมา ราคาอยู่ที่ 12,000 วอน (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 360 บาท) ยอมให้เขาจากวัสดุ และดีไซน์ พอหมดเงินไปสักพัก เราเลยต้องไปสะดุดรักที่พักใจที่ร้านกาแฟ อยู่ในชั้นเดียวกันนั่นแหละ เดินไปสั่งคาปูชิโน่เย็นกินย้อมใจ มองผนังไปก็เห็น คิมไคส่งใบหน้าเท่ห์ๆมาให้ใจละลาย จำได้ว่าภาพนี้มาจาก MVตัวล่าสุดอย่าง SING FOR YOU (คนนี้คนโปรดในดวงใจเลยไม่อยากจะบอก ฮ่าๆๆ) รอบนี้มากินกาแฟแล้วโชคดี ตอนนี้ที่ร้านเขากำลังมีโปรโมชั่นพอดี คือซื้อขนม หรือ เครื่องดื่มอะไรก็ได้ครบ 10,000 วอน จับชิงโชคได้ ถ้าได้เบอร์ 1 รับไปเลยของขวัญพิเศษ ส่วนถ้าได้เบอร์ 2 เบอร์ 3 ก็จะเป็นพวกส่วนลด เทือกนั้น ซึ่งแน่นอน คนชอบชิงโชคอย่างเราไม่พลาดสอยดาวอยู่แล้ว พอไปลอง ครั้งแรกได้เบอร์ 3 ครั้งที่ 2 ได้เบอร์ 3 ได้ส่วนลดสินค้ามา 20% และ ส่วนลดเครื่องดื่มมา 10% ได้มั้งถ้าจำไม่ผิด แต่จำได้ว่าไม่ใช้ พอแล้วกระเป๋าฉีก ฮ่าๆๆ แต่เห็นน้องญี่ปุ่นที่ไปได้กระบอกน้ำพร้อมลายเซ็นมา โอ๊ย ดี๊ดี ชะนีมีดวง ฮ่าๆๆ
smtown36

 

smtown35

เอาล่ะ วันนี้พักจิบกาแฟแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ สำหรับ Partแรกของการไปฟินแลนด์ ดินแดน SMTOWN สัปดาห์หน้าจะมาเล่าต่อ Part 2 ให้ฟัง รวมถึงแอบกระซิบว่าไปเยี่ยมร้านชานมไข่มุกที่เหล่าศิลปินชอบไปเยือนมาด้วย เดี๋ยวจะมาบอกพิกัดนะครัชคนดี

 

ปิดกระทู้ด้วยรูปคนหล่อพ่อทูนหัววว

♡♡ 사랑해요 ♡♡

smtown37

 

อิ่มท้องในไต้หวันกับ 8 เมนูที่ควรกินกับ 7 สิ่งที่ไม่กินก็ได้!

[รีวิว]อิ่มท้องในไต้หวันกับ 8 เมนูที่ควรกินกับ 7 สิ่งที่ไม่กินก็ได้!

มาถึงไต้หวันแล้ว ดินแดนที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกิน ที่ต้องจัดทริปตระเวนกิน แต่ก็อย่างว่าล่ะ ว่าคงไม่ใช่ทุกอย่างที่จะอร่อยเสมอไป วันนี้อาจุมม่าขอแนะนำ

8 เมนูที่ควรกินกับ 7 สิ่งที่ไม่กินก็ได้ ว่าแล้วก็เริ่มกันเลย

เมนูที่ควรกิน

1.ชานมในเซเว่น

ชานมในเซเว่น
ชานมในเซเว่น

ชานมอันลือเลื่อง วางขายในร้านสะดวกซื้อทั่วไป คือดีงามพระรามแปด รสชาติกลมกล่อมที่สุด มีหลายรสให้เลือก แต่รสนี้คือตัวท็อป เราว่าอร่อยกว่าชานมไข่มุกตามร้านอีก ราคาย่อมเยาว์จับต้องได้ แพ็คเก็จจิ้งหรูหราน่าถือ ต้องขนซื้อกลับไทยกันหลายขวด เยี่ยมไปเลยจร้าาาา

2.ปลาหมึกยักษ์ทอดกรอบกรุบกริบ

ปลาหมึกยักษ์ทอดกรอบ
ปลาหมึกยักษ์ทอดกรอบกรุบกริบ

ปลาหมึกยักษ์ทอดย่านตั้นสุ่ย ไม้ใหญ่มาก กรอบ รสชาติกลมกล่อม ปลาหมึกไม่เหนียว ไม่เป็นภาระแก่ฟันกราม ไม่ต้องจิ้มซอสใดๆเลย อย่าตกใจไปว่าใหญ่ยังงี้จะกินยังไง เพราะเขามีบริการหั่นให้จ้า มีใบกะเพราปนให้อีกเพิ่มรสชาติมาให้อีก อร่อยและเข้ากันยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก

หมึกสดๆแบบยังไม่ได้ทอด
สภาพน้องหมึกสดๆแบบยังไม่ได้ทอด

3.ข้าวโพดปิ้งมาเฟีย

ข้าวโพดปิ้งมาเฟีย
ข้าวโพดปิ้งมาเฟีย

ข้าวโพดปิ้งเจ้าดังย่านถนนคนเดินซื่อหลิน antibiotics for sale online หน้าร้านจะมีภาพหนังสือพิมพ์คอลัมน์ชวนชิมโน่นนี่ อย่างแม่ช้อยนางรำ เชลล์ชวนชิมแบบบ้านเรา มาทำข่าวแปะเรียงราย การันตีความขึ้นชื่อ เจ้าของร้านดูลุคมาเฟีย มีรอยสัก ใส่ทองเส้นเบ้อเริ่ม ที่จะขายคิดราคาตามน้ำหนักของข้าวโพด เราก็ไมรู้ไงว่าคิดขีดละเท่าไหร่ ก็ชี้ส่งๆ แล้วเขาก็ไปปิ้ง ทาซอสสูตรพิเศษ โรยงา ให้ลูกค้ายืนรอดูเพลิน ก่อนจะใส่ถุง และคิดเงินออกมา แม่เจ้าฝักละร้อยจ้า! เกิดมาไม่เคยกินข้าวโพดฝักละร้อยเลย บุญปากอิช้อยแท้! แต่ก็ต้องยอมนะ รสชาตินางได้จริงๆ ข้าวโพดเม็ดโตหนานุ่มกะซอสที่ทาคือเข้ากั๊น เข้ากัน

4.ไอติมถั่วตัดผักชี

ไอติมถั่วตัดผักชี
ไอติมถั่วตัดผักชี

บางคนอาจแหยะ ไอติมอะไรทำไมต้องมีผักชี modalert 200mg แต่ถ้าลองแล้วจะตะลึงแล้วอยากก้มกราบแก่ผู้คิดค้นขนมนี้ขึ้นมาบนโลก จากส่วนประกอบของแผ่นแป้ง คล้ายๆแผ่นโรตีสายไหม ตามด้วยถั่วตัดรสหวานที่บดละเอียด โปะด้วยไอติมวานิลลา และโรยหน้าด้วยผักชี ก่อนม้วนกินไปเดินไปภายในตลาดโบราณจิ่วเฟิ่น บอกเลยว่ามันอร่อยมากกกกก ยกให้เป้นขนมทรงคุณค่า อยากกินแล้วก็อยากกินอีก แถมลุงคนขายก็ใจดี พูดภาษาไทยได้ด้วยว่า “อาวผากชีหมายยยย (เอาผักชีไหม?)”

5.ผัดโน่นนี่ตามสั่ง

ผัดโน่นนี่ตามสั่ง
ผัดโน่นนี่ตามสั่ง

อีกหนึ่งอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของไต้หวัน ที่เทียบเท่ากับบ้านเราก็ร้านอาหารตามสั่ง ที่หน้าร้านจะมีแผงลูกชิ้น เต้าหู้ ผัก เส้นก๋วยเตี๋ยว นานาชนิด วางเรียงรายดึงดูดความหิว ให้เราเลือกหยิบใส่ตะกร้าตามใจชอบ คิดราคาขายเป็นขีดๆ ก่อนส่งให้แม่ครัวปรุงด้วยซอสรสพิเศษให้ลิ้มลองกัน ร้านแบบนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะย่านตลาดซือต้า แหล่งช็อปชิมขึ้นชื่อของเด็กมหาลัย ที่มักจะมาตั้งโต๊ะกินกันจานพูน ใครผ่านไปแถวนั้นก็อย่าลืมลองไปคีบๆกันนะจ๊ะ

6.บุฟเฟ่ต์หมาล่า

บุฟเฟ่ต์หมาล่า
บุฟเฟ่ต์หมาล่า
บุฟเฟ่ต์หมาล่า
บุฟเฟ่ต์หมาล่า
บุฟเฟ่ต์หมาล่า
บุฟเฟ่ต์หมาล่า

ซุปหมาล่าอันเผ็ดร้อนฉ่าขึ้นชื่อของไต้หวันที่มาในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ให้คุณตัก ตัก ตัก กับอาหารนานาชนิด ที่นี่มีเนื้อสัตว์มากมายให้กินทั้ง ซีฟู้ดยกมาทั้งทะเลจีนใต้ ตั้งแต่กุ้งหอยปูปลา ที่มากันสดๆ ไล่ไปจนถึงปลาฉลาม! buy tramadol (ชิมแล้ว เนื้อยุ่นๆหนังหนาๆคล้ายปลาสวาย ปลาบึกบ้านเรา) พร้อมด้วยลูกชิ้นโน่นนี่ และผักสดมากมาย หมูสไลด์ก็ดี บุฟเฟ่ต์เบียร์ก็มา ก่อนตบท้ายที่ของหวาน เค้ก ผลไม้ พีคสุดคือไอติม Häagen Dazs ยกกันมาเป็นตู้ๆ รสชาติหลากหลาย คุ้มสุดไรสุด ไปแวะชิมกันได้ย่านซีเหมิงติง แหล่งช็อปสุดฮิตในไทเป

7.ซาลาเปาน้ำแตกเสี่ยวหลงเปา

ซาลาเปาน้ำแตกเสี่ยวหลงเปา
ซาลาเปาน้ำแตกเสี่ยวหลงเปา

เสี่ยวหลงเปา เมนูอาหารจีนขึ้นชื่อพอดีคำ ที่แป้งบาง ไส้แน่นหลากหลาย น้ำซุปกลมกล่อม เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี อร่อยจนกินลูกเดียวไม่เคยพอ แต่เวลากินต้องระวังความร้อนจากน้ำซุปไม่ให้ลวกปากนะจ๊ะ

8.เลย์รสความรัก

เลย์รสความรัก
เลย์รสความรัก

มันฝรั่งทอดยี่ห้อดังที่มีชื่อภาษาจีนว่า ‘เล่อ ซื่อ’ กับคอลเลคชั่นรสพิเศษ ที่เกิด Google Translate แล้วก็ยังงงๆว่ามันคือรสอะไรกันแน่ แต่ดูจากแพคเก็จเลยยกให้เป็นรสแห่งความรักแล้วกัน รสชาติมีความเค็มจากเกลือที่ไม่เหมือนรสออริจินัล ผสานกับรสหวานนิดๆคล้ายวานิลลา คือไม่รู้จะอธิบายยังไง กินไปกินมามันก็เข้ากันดีนะ ใครไปแล้วยังเจอคอลเลคชั่นนี้ก็ลองซื้อมาชิมกันนะจ๊ะ

เอาล่ะ ชิมของอร่อยกันไปแล้ว จากนี้ก็มาถึงตาของกินที่ไม่ต้องกินก็ได้ ที่มีผู้เข้าชิงดังต่อไปนี้

1.ไส้กรอกกุนเชียงหมูมันๆ

ไส้กรอกกุนเชียงหมูมันๆ
ไส้กรอกกุนเชียงหมูมันๆ
ไส้กรอกกุนเชียงหมูมันๆ
ไส้กรอกกุนเชียงหมูมันๆ

ไส้กรอกหมูยอดฮิตที่ใครไปก็ต้องลอง แต่เมื่อได้ลองแล้วกินหมดหรือไม่หมดก็อีกเรื่องหนึ่ง เจ้านี่จะมีขายแพร่หลายมากในไต้หวัน ไปที่ไหนก็เจอ แต่ก็ต้องเสี่ยงดวงเอาเพราะบางร้านมีความมันมาก มันหมูมาเต็ม เจอยังงี้ก็เลี่ยนสิคะ

2.หอยนางรมย่างชีส

หอยนางรมย่างชีส
หอยนางรมย่างชีส

เกือบจะดีถ้ามีอุปกรณ์การกินที่ช่วยอำนวยความสะดวกมากกว่านี้ เพราะนี่อาตี๋เจ้าของร้านย่านตั้นสุ่ยให้ไม้อันน้อยมาแงะนิดเดียว กินไงก็ไม่ถนัดเลอะเทอะไปหมด ตัวหอยนางรมยังคงไม่สุกสนิท มีความเปียก ยิ่งสร้างความรุงรังในการกินx2 ใครเจอแบบนี้แนะนำว่าซื้อไปกินที่บ้านจะดีกว่านะจ๊ะ

3.ซุปราดหน้าหอยนางรม

ซุปราดหน้าหอยนางรม
ซุปราดหน้าหอยนางรม

เมนูนี้ดูก้ำกึ่งระหว่างราดหน้ากับกระเพาะปลา มันคือซุปที่คนท้องถิ่นชอบนั่งกินกันยามเช้าตามรถเข็น จะมีเส้นๆ (ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร จะหน่อไม้ก็ไม่ใช่) ต้มกับหอยนางรม ใส่แป้งยืดๆ โรยหน้าด้วยผักชี ปรุงรสด้วยจิ๊กโฉ่ว และพริกน้ำส้ม ซึ่งคิดว่ากินกระเพาะปลาบ้านเราอรอ่ยกว่า

4.ไข่ดำอมตะ

ไข่ดำอมตะ
ไข่ดำอมตะ

อีกหนึ่งของขึ้นชื่อที่ถูกแนะนำให้ซื้อกลับมาฝากคนที่บ้าน แต่เอาจริงๆแล้วมันก็ไข่พะโล้นี่แหละ ที่เพิ่มมูลค่าอัพเกรดตัวเองด้วยการปรุงรสต่างๆ อาทิ วาซาบิ บาบีคิว ชาเขียว บลาๆๆๆ แพ็คใส่ห่อซื้อกลับบ้านอยู่ได้นานหลายเดือนอยู่ยงคงกระพันมากมาย ถ้าใครเบื่อไข่พะโล้แบบไทย ก็ลองเปลี่ยนมาชิมไข่ดำอมตะนี่ดูก็ได้ ไม่เสียหาย

5.ไอติมโคนทรงสูง

ไอติมโคนทรงสูง
ไอติมโคนทรงสูง

ไอติมรสชาติปลอมเปลือกเหมือนน้ำซาวข้าว ไร้ความเข้มข้นใดๆ แถมยังละลายเร็วมากกกก ซื้อมาแปปๆถ่ายรูปเสร็จ ละลายไหลย้อยเป็นทางน้ำไหล ถ้าซื้อถ่ายรูปขำๆอ่ะได้ แต่ถ้าอยากลิ้มลองรสชาติจริงจังกินไอติมแมคอร่อยกว่า เชื่อพี่

6.เค้กหมอนติดคอ

เค้กหมอนติดคอ
เค้กหมอนติดคอ

เค้กก้อนใหญ่ที่ออกจากเตามาเป็นถาดๆก่อนตัดแบ่งเป็นก้อนๆ ชิ้นใหญ่มากยังกะหมอนหนุนหัว รสชาติเหมือนขนมไข่บ้านเราที่กินแล้วติดคอ แนะนำให้กินคู่ชา กาแฟ อาจจะได้อรรถรสอยู่

7.รวมของทะเลทอด

รวมของทะเลทอด
รวมของทะเลทอด

ของทะเลอย่าง ปู กุ้งเล็ก กุ้งใหญ่ สารพัดชุบแป้งทอด ที่ร้านชายทะเลย่านตั้นสุ่ย รสชาติเบๆ ไม่ต่างจากไทย คือเมื่อเปรียบเทียบกับปลาหมึกยักษ์แล้วมันไม่ฟินเท่าอ่ะ ซึ่งอันนั้นมันที่สุดจริงๆ มาเจอพวกนี้ทอดก็เฉยไปเลย

ครบแล้ว 8 ของที่ควรกินกับ 7 สิ่งที่ไม่กินก็ได้ แต่! อย่าเชื่อทั้งหมดนะ ของอย่างนี้ต้องลองเอง ว่าแล้วก็แพ็คกระเป๋ารัวๆ บินไปไต้หวัน อีกหนึ่งประเทศน่ารัก กับของกินหลากหลาย 我们走吧 !!

 

-แอดมินอาจุมม่า-

ชาบูซุปหมาล่าสไตล์ไต้หวัน

ยกซีฟู้ดมาทั้งมหาสมุทรแปซิฟิก ชิมไอติมให้ฉ่ำปอด กับบุฟเฟ่ต์ ‘ชาบูซุปหมาล่า’ สไตล์ไต้หวัน

หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อที่ได้รับการรีวิวและแนะนำมากเป็นอันดับต้นๆในการไปเยือนไต้หวันคือ ชาบูซุปหมาล่าสไตล์ไต้หวัน นั่นเอง สวรรค์ของนักชิมบุฟเฟ่ต์ ที่เมื่อได้ลิ้มลองแล้วต้องลืมบุฟเฟ่ต์ที่ไทยไปเลยล่ะ

พิกัด : Mala Yuanyang Hotpot (馬辣頂級麻辣鴛鴦火鍋) ย่านซีเหมิงติง, ไทเป

อย่าเพิ่งงงว่าอะไรคือหมาล่า? ชาบูเนื้อหมาหรอ หรืออะไร ยังไง?? ที่จริงแล้วมันคือศัพท์ภาษาจีนต่างหากล่ะ หมา แปลว่าชา, ล่า แปลว่ารสเผ็ด รวมกันก็เผ็ดจนปากชานั่นเอง! ที่นี่คือสวรรค์ของคนชอบบุฟเฟ่ต์ เพราะเขาให้กินไม่อั้นภายใน 2 ชม. เปิดให้บริการเกือบ 24 ชม. ใครนึกเปลี่ยวใจอยากมากินตอนตี 1 ตี 2 ก็ไม่ว่ากัน แถมมี WiFi ให้เล่นไปด้วยกินไปด้วย

เริ่มที่เขาจะให้เลือก 2 ซุปจากทั้งหมด 5 อย่าง ได้แก่ Mala Spicy Hot Pot / Vegetarian Energy Hot Pot / Chinese Sauerkraut Hot Pot / Collagen Hot Pot / Stir-fried Chicken with Chinese Sauce and Hot Pot

แต่ที่ป็อปปูล่าสุดๆต้องเป็น Mala Spicy Hot Pot ที่จะมีความเผ็ดร้อนฉ่าของการผสมผสานเครื่องเทศเฉพาะ ต้มกับกระดูกหมูและเลือด ให้ซดกันซาบซ่านชาบูซุปหมาล่าสไตล์ไต้หวัน

ที่นี่มีเนื้อสัตว์มากมายให้กินทั้ง ซีฟู้ดยกมาทั้งทะเลจีนใต้ ตั้งแต่กุ้งหอยปูปลา ที่มากันสดๆ ไล่ไปจนถึงปลาฉลาม! (ชิมแล้ว เนื้อยุ่นๆหนังหนาๆคล้ายปลาสวาย ปลาบึกบ้านเรา) พร้อมด้วยลูกชิ้นโน่นนี่ และผักสดมากมาย หมูสไลด์ก็ดี บุฟเฟ่ต์เบียร์ก็มา ก่อนตบท้ายที่ของหวาน เค้ก ผลไม้ พีคสุดคือไอติม Häagen Dazs จ้าาาาา คุ้มสุดไรสุดชาบูซุปหมาล่าสไตล์ไต้หวัน
ชาบูซุปหมาล่าสไตล์ไต้หวัน ชาบูซุปหมาล่าสไตล์ไต้หวัน

ไอติม Häagen Dazs
ไอติม Häagen Dazs

ชาบูซุปหมาล่าสไตล์ไต้หวัน

ราคา : แบ่งตามช่วงเวลา

ช่วงกลางวัน   เวลา 11.30-16.00 น.   ราคา 498 NT

ช่วงเย็น         เวลา 16.000-05.00 น.   ราคา 598 NT

วันหยุด        เวลา 11.30-05.00 น.    ราคา 598 NT

ราคานี้ยังไม่รวมค่าบริการ 10% และหากมาคนเดียว คิดเพิ่มอีก 100 NT

(แอดมินได้ไปกินช่วงค่ำกับเพื่อนอีก 2 คน เฉลี่ยรวมค่าเสียหายประมาณ 600 กว่า NT จ้า)

 

สรุป

-ช่วงเวลาไพรม์ไทม์ อย่างช่วงเที่ยง และค่ำ คนจะเยอะมาก ต้องมีการจองล่วงหน้า มิเช่นนั้นจะต้องรอคิวนานมาก

-ที่นี่ไม่มีช้อนน้ำซุปให้นะ ใครอยากซดต้องกระดกถ้วยซดเอง หรือถ้าไม่ถนัดต้องแอบไปหยิบช้อนของหวานมาตักกินเองแล้วล่ะ

-โถน้ำจิ้มเยอะมาก ไม่รู้อันไหนเป็นอันไหน คนมีบุญเท่านั้นที่จะปรุงได้อร่อย ถ้างวดหน้าไปใหม่ พี่จะไม่ลืมพกน้ำจิ้มสุกี้พันท้ายไปด้วย

-งานดีคือไอติม Häagen Dazs ที่ยกมาทั้งตู้ มีรสชาติมากมาย แต่เวลาตักอย่าคิดนาน เพราะจะเจอสายตากดดันจากอาเจ๊ อาซ้อ ที่กดดันอยู่ข้างหลัง

-พวกเค้กรสชาติยังไม่สุด อย่าเสียเวลาชิมเยอะ ไปทุ่มให้ไอติมดีกว่า

-ผลไม้ให้เลือก เช่น ฝรั่ง ส้ม มะม่วง(ลูกเล็กๆน่ารัก) สดกรอบอร่อย มันเป็นโอกาสที่เราจะกินผลไม้ตุนไว้ เพราะผลไม้ไต้หวันแพงมาก นึกถึงรถเข็นผลไม้ชิ้นละ 20 แถวออฟฟิศที่ไทยเลย

-กินเสร็จ ห้ามนั่งโอ้เอ้ เพราะอาหมวยจะมาเคลียร์โต๊ะทันทีเมื่อครบ 2 ชม. ก็ร้านเขาฮอตอ่ะ มีคนต่อคิวยาวมาก ต้องเข้าใจหมวยนะชาบูซุปหมาล่าสไตล์ไต้หวัน

 

#อาจุมม่า

ฮอกไกโด

โตเกียว ไม่ไป! โอซาก้า ไม่แวะ! เพราะเราจะไปนอนกินหิมะที่ ‘ฮอกไกโด’!

เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ดินแดนยอดฮิตของคนไทย หลายคนอาจจะนึกถึง 2 เมืองใหญ่ที่ชื่อคุ้นเคยอย่างโตเกียว และโอซาก้า แต่อีกหนึ่งดินแดนที่ไม่ควรพลาดและเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ควรไปเยือนไม่แพ้กันนั่นคือ ฮอกไกโดนั่นเอง!

ฮอกไกโด
วิว 2 ข้างทางที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงเดือนธันวาคม

ฮอกไกโด เป็นเกาะที่ตั้งอยู่เหนือสุดของญี่ปุ่น ที่นี่ไม่มีประวัติศาสตร์ใดๆ ไม่มีกิโมโน ไม่มีซามูไร ไม่มีวัด ไม่มีวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นจ๋า เป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลจากรัสเซียและตะวันตกซะส่วนใหญ่ อากาศหนาวสุดขั้ว ปีนึงหิมะตก8เดือน ร้อนแบบสบายๆ2เดือน อีก2เดือนคาบเกี่ยวช่วงอากาศเปลี่ยน คนก็นอนจมหิมะ สลับกับปลูกข้าวโพด ปลูกเมล่อน ปลูกมัน จับปู จับปลากันไป

ฮอกไกโด
เครื่องบินลงจอดที่สนามบิน New Chitose มองออกไปข้างนอกก็เจอหิมะมารอต้อนรับแล้ว
ฮอกไกโด
หิมะเกลื่อนเมือง 
ฮอกไกโด
ต้องเดินอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะการข้ามทางม้าลาย

แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ที่ใครมาแล้วต้องแวะ

เมืองโนโบริเบ็ทสึ (NOBORIBETSU)

เมืองที่เต็มไปด้วยรีสอร์ทและสถานที่ตากอากาศ มีบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะฮอกไกโด มียักษ์ตัวโตเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง แวะชมโกกุดานิหรือที่หุบผานรก ซึ่ งเกิดจากภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิทจึงก่อให้เกิดบ่อน้ำพุร้อน มีควันพวยพุ่ง ท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นยะเยือก มีหิมะโปรยปราย เสียงของฝูงนกอีกาบินทักทาย และกลิ่นของกำมะถันของบ่อน้ำพุร้อน

ฮอกไกโด เมืองโนโบริเบ็ทสึ (NOBORIBETSU)
ดูสิ! ยังมีควันยังพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลาเลย
ฮอกไกโด ศาลเจ้าอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโนโบริเบ็ทสึ
ศาลเจ้าอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโนโบริเบ็ทสึ

ภูเขาไฟอุสึ (Usuzan)

สัมผัสบรรยากาศของภูเขาไฟ Usuzan ตั้งอยู่ที่เมือง Toya ที่มีการคาดการณ์ว่าอีก5ปีจะระเบิด (ใครจะไปต้องรีบไป) เมื่อถึงแล้วต้องขึ้นกระเช้าเพื่อขึ้นไปยังยอดเขา ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น หิมะปกคลุมเต็มพื้นที่เลย บวกกับวิวทะเลสาบ โทยะที่มีเกาะรูปร่าง เหมือนปลาอยู่ตรงกลาง สวยงามตระการตา จนต้องกดชัตเตอร์รัวๆ

ฮอกไกโด ภูเขาไฟอุสึ (Usuzan)
วิวจากยอดเขา สวยระดับ 5 ดาว
ภูเขาไฟอุสึ (Usuzan)
ต้นไม้ 2 ข้างทาง ถูกปกคลุมด้วยหิมะ แล้วเป็นหิมะที่สะอาดมาก ลองชิมแล้วเป็นเกร็ดน้ำแข็งที่ละเอียดสุดๆ ถ้าได้น้ำแดงมาราดนี่แจ่มโคด
ภูเขาไฟอุสึ (Usuzan)
เส้นทางขึ้นสู่ยอดเขา กับวิวเว่อวังอลังการ

ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park)

เจ้าหมีแสนรู้สีน้ำตาล ที่ใกล้สูญพันธุ์ พบได้แต่บนเกาะฮอกไกโด เกาะซาคาริน และหมู่เกาะคูริน ของรัสเซียเท่านั้น เห็นหน้าเหี้ยมๆแบบนี้ แท้จริงแล้วพวกมันมุ้งมิ้งกันสุดๆ นอกจากจะกินกับนอนแล้ว พวกมันยังโบกมือทักทายและทำท่าสวัสดีขอแอปเปิ้ล, คุกกี้จากนักท่องเที่ยว แหม่ รู้งานจริงๆ

ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park)
หมีสีน้ำตาลจอมมุ้งมิ้ง มองแอปเปิ้ลในมือนักท่องเที่ยวตาละห้อย
ฮอกไกโด
แอบเจอน้องแมวตัวนึง ตัวฟูมาก แต่ขี้อาย ย่องไปหลบใต้ท้องรถ

สวนสาธาธารณะโอโดริ (Odori Park)

นั่งรถเข้าเมืองมาซัปโปโร เมืองหลักของเกาะฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางในด้านต่างๆ มีความเป็นเมือง แต่ก็ไม่พลุกพล่านมากเท่าไร อารมณ์ประมาณเชียงใหม่ สโลว์ไลฟ์ได้ ไม่ต้องแก่งแย่งกันแบบเมืองหลวง มีสวนสาธาธารณะโอโดริตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่มีหอนาฬิกาฮอกไกโดตั้งเด่นเป็นสง่า ประดับไฟสวยงามรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ให้นักท่องเที่ยวและชาวเมืองได้ออกมาเดินชิลล์ๆกันยามค่ำคืน

หอนาฬิกาฮอกไกโด
หอนาฬิกาฮอกไกโดตั้งเด่นเป็นสง่า ดูเวลาสิ แค่ 4โมงเย็น 56 นาที แต่ท้องฟ้ามืดอย่างกับ 3 ทุ่ม
ฮอกไกโด
มีการประดับประดาไฟต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ให้ถ่ายรูปกันเพลินเลย

โรงงานเบียร์ Asahi

แวะไปโรงงานเบียร์ Asahi เบียร์ชื่อดังของญี่ปุ่น มีไกด์ผู้หญิงน่ารักๆ พูดเสียงเล็กๆ พาเดินดูโรงงาน(เข้าฟรีแต่บรรยายเฉพาะภาษาญี่ปุ่น+มีเบียร์และน้ำผลไม้ให้ชิมฟรี) ที่นี่มีกำลังการผลิตเบียร์วันละ9แสนกระป๋องต่อวันโดยที่ใช้แรงงานคนน้อยมาก ส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักรทำงานแทนคน มีพนักงานทั้งโรงงานแค่300คน แต่ส่งออกขายไปหลายประเทศทั่วโลก

ฮอกไกโด โรงงานเบียร์ Asahi
เมื่อจบการบรรยายแล้ว มีเบียร์สดให้ชิมฟรี ลิมิตคนละ 3 แก้วด้วยนะ
โรงงานเบียร์ Asahi
ใครไม่ดื่มเบียร์ ก็มีเครื่องดื่มพร้อมขนมให้ชิมกันด้วยจ้า

ย่านทานุกิโคจิ ( Tanuki Koji Shopping Arcade)

ช็อปปิ้งย่านทานุกิโคจิ แหล่งคึกคักยามค่ำคืนของซัปโปโร ที่มีร้านรวงเปิดให้บริการมากมายกว่า 200 ร้าน โดยเฉพาะร้านเครื่องสำอางที่ถูกใจสาวๆ เสื้อผ้า รองเท้า ของใช้ ของกิน ของฝาก ให้เลือกซื้อกันมากมาย และร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ ร้านเกม เปิดให้บริการสร้างความบันเทิงแก่ชาวญี่ปุ่นที่เหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวัน

ย่านทานุกิโคจิ ( Tanuki Koji Shopping Arcade)
ทางเดินมีหลังคา เดินได้สบายๆไม่ต้องกลัวฝนตก
ฮอกไกโด
ร้านขายเครื่องสำอางเยอะมาก ให้สาวๆได้เลือกกันไม่ไหว บางร้านถึงขั้นมีป้ายบอกว่าที่นี่มีพนักงานคนไทย
ฮอกไกโด
สีสันยามค่ำคืนของร้านค้าในย่านทานุกิโคจิ

เมืองโอตารุ (Otaru)

คลองโบราณที่แรงงานคนขุดขึ้นเพื่อขนส่งสินค้า ที่ปัจจุบันให้นักท่องเที่ยวสัมผัสกับบรรยากาศความโรแมนติก ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกได้อย่างลงตัว กับวิวของโกดังเก่าที่สะท้อนบนผิวน้ำได้อย่างสวยสดงดงาม ท่ามกลางวิวข้างทางที่ปกคลุมด้วยหิมะ ก่อนที่จะเดินเที่ยวชมร้านค้าต่างๆในเมือง ทั้งพิพิธภัณฑ์เครื่องแก้ว กล่องดนตรี ร้านกิ๊ฟช็อป ร้านเบเกอรี่ ร้านของฝาก ที่เปิดให้ช็อป ชิม เดินชิลล์กันจุใจ

เมืองโอตารุ (Otaru)
บรรยากาศของคลองโอตารุ สุดแสนโรแมนติก

โรงงานช็อกโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะพาร์ค (SHIROI KOIBITO PARK)

โรงงานช็อกโกแลต ผู้ผลิตขนมขื้นชื่อของฮอกไกโด นั่นคือ ‘Shiroi Koibito’ คุกกี้สอดไส้ไวท์ช็อกโกแลต ที่หอมหวานอร่อย ส่งขายไปทั่วญี่ปุ่น บรรยากาศภายในโรงงานน่ารักสุดๆ อย่างกะหนังเรื่อง Charlie and the Chocolate Factory ทุกอย่างดูกระจุ๊กกระจิ๊กไปหมด มีพิพิธภัณฑ์ของเล่น ของสะสมของเจ้าของ มีการจัดสวนเหมือนเทพนิยาย และมีคาเฟ่จัดเสิร์ฟขนมหวานอร่อยๆให้บริการด้วยนะเออ

โรงงานช็อกโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะพาร์ค (SHIROI KOIBITO PARK)
ขนม Shiroi Koibito อันโด่งดังของญี่ปุ่น ผลิตจากฮอกไกโดนะจ๊ะ ขอบอก
โรงงานช็อกโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะพาร์ค (SHIROI KOIBITO PARK)
ตึกของโรงงานออกแบบได้น่ารักสุดๆ

เดินชมกรรมวิธีการผลิตขนมหวานสุดอร่อย

โรงงานช็อกโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะพาร์ค (SHIROI KOIBITO PARK)
ทางเดินและป้ายสัญลักษณ์เป็นรูปแมว ก็เพราะเจ้าของโรงงานชอบแมวสุดๆเลยล่ะ
โรงงานช็อกโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะพาร์ค (SHIROI KOIBITO PARK)
บรรยากาศสวนด้านนอก โอ้โห! ยังกะผุดมาจากเทพนิยาย

ทำเนียบรัฐบาลเก่า (Farmer Hokkaido Governing Office Building)

อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมอันเป็นสัญลักษณ์ของซัปโปโร ที่สร้างด้วยอิฐแดงทั้งหลัง ใช้อิฐในการก่อสร้างกว่า 2.5 ล้านก้อน แม้ปัจจุบันไม่ได้เปิดใช้งานแล้ว แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปถ่ายภาพและชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมชิ้นเอกนี้อย่างต่อเนื่อง

ทำเนียบรัฐบาลเก่า (Farmer Hokkaido Governing Office Building)
ทำเนียบอิฐแดงตั้งเด่นเป็นสง่ากลางเมืองซัปโปโร
ทำเนียบรัฐบาลเก่า (Farmer Hokkaido Governing Office Building)
ใบไม้ร่วงกับเกล็ดหิมะ พร้อมมีตึกอิฐแดงเป็นฉากหลัง สวยงามสุดๆ

ของกินอร่อยๆ

ฮอกไกโดได้ชื่อว่า ‘ครัวของญี่ปุ่น’ มีของอร่อยให้ชิมมากมาย ทั้งขาปูยักษ์หลากหลายสายพันธุ์ อาหารทะเลอื่นๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ไข่หอยเม่น และยังขึ้นชื่อผลิตภัณฑ์จากวัว ทั้งนมวัว เนย ครีม ชีส รวมทั้งผลไม้พืชผักผลไม้เมืองหนาวต่างๆ โดยเฉพาะ ลูกพลับ เมล่อน ที่หวานฉ่ำ อร่อยสุดๆ

ฮอกไกโด ขาปูยักษ์ 3
ขาปูยักษ์ 3 ชนิด สดๆใหม่ๆเนื้อหวานมากกก แต่บางพันธุ์แอบแกะยากต้องใช้ความพยายามกันนิดนึง
ฮอกไกโด
ปลาฮอกเกะย่างเตาถ่าน พร้อมด้วยหอยเชลล์ไซส์บิ๊ก กินคู่กับมันเผาและข้าวโพดปิ้ง อร่อยสุดๆไปเลย
ฮอกไกโด
Salmon Teppan Yaki Set + Tempura มีเครื่องเคียงหลากหลายในกินจนอิ่มไปเลย
ฮอกไกโด
ไอติมสายรุ้ง 5 ชั้น 7 ชั้น มีให้เลือกหลากหลายรส หวานฉ่ำสุดๆ ดี๊ดี

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแบบญี่ปุ๊น…ญี่ปุ่น

-มาฮอกไกโด สิ่งดีงามคือลูกพลับ ข้าวโพดปิ้ง และนมฮอกไกโดคือดีจริงๆ ห้ามพลาด

-น้ำก๊อกดื่มได้เลยทุกที่ เปิดเจอในห้องน้ำโรงแรมก็ดื่มได้เลย รับประกันความสะอาด

-หมาแมวจรจัดไม่มี เพราะจะถูกทางรัฐจัดการ ใครจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องแจ้งเกิด แจ้งตาย ดูแลอย่างดี ห้ามปล่อยปละละเลยไม่ได้

-เครื่องรางของขลังที่นี่ไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน ทุกอย่างมีหมดอายุ ซื้อมาแล้วเก็บไว้หมดอายุ ความศักดิ์สิทธิ์ก็จะหายไป รู้ป่ะ ริลัคคุมะ ก็ยังเป็นเครื่องรางของขลังนะ ประมาณว่าเทพเจ้าเพื่อความผ่อนคลาย ตุ๊กตาน่ารักคาวาอี้บางตัวก็เป็นนะจ๊ะ

-ตะเกียบเป็นส่วนสำคัญของชีวิตของคนญี่ปุ่นมากๆๆ เวลาไปกินข้าวบ้านเพื่อนก็ต้องเอาตะเกียบไป ถ้าไม่เอาไป เพื่อนก็ต้องเตรียมให้ กินเสร็จก็ต้องหักทิ้ง ห้ามเก็บ คนญี่ปุ่นมีธรรมเนียมว่า เมื่อก้าวเข้าสู่วาระสำคัญของชีวิต จะได้รับตะเกียบจากพ่อแม่เป็นของขวัญ ทั้งตอนวันเกิดอายุ 7 ขวบ วันแต่งงาน วันเรียนจบ หรือแม้กระทั่งการจัดงานศพ

-ญี่ปุ่นเป็นเมืองน่าเที่ยว ไม่เหมาะกับการมาอยู่ถาวร ทุกอย่างดูตึงเครียด คนอยู่ในกรอบเป๊ะๆ

-เวลากินอาหารต้องสั่งตามเมนู อย่างถ้าจะกินราเมนก็ต้องห้ามบอกว่าไม่เอาโน่นนี่ ไม่เอาผักโรย เพราะมันจะผิดสูตรเขา แล้วเขาจะเครียดมาก คือกลายเป็นเรื่องใหญ่ เขาต้องคิดค้นสูตรใหม่อย่างพิถีพิถัน เพื่อมาเสิร์ฟโดยเฉพาะ

-ห้ามฆ่าตัวตายในที่สาธารณะ ใครทำโดนโทษ7ชั่วโคตร ตายแล้วห้ามทำญาติเดือดร้อน คนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเลยฮิตใช้วิธีรมควันตายในห้อง แต่ก็ต้องซีลห้องให้มิดชิด ไม่ให้แก๊สรั่วกระทบคนอื่น (ไม่แน่ใจว่ากว่าจะได้ฆ่าตัวตาย คงเหนื่อยก่อน)

-ห้องน้ำสาธารณะมาตรฐานเดียวกันหมดคือมีปุ่มกดแบบในTerminal21 บางที่อาจมีแบบนั่งยองๆประปราย แต่ทุกที่คือสะอาด

-ทีวีในโรงแรมส่วนใหญ่จะมีช่องฟรีทีวีให้ดู แต่หากอย่างดูหนังอย่างว่าสไตล์ 18+ ก็จะมีเครื่องหยอดเหรียญขายรหัสให้กดไปดูหนังAV ในเซเว่น มินิมาร์ทขายหนังสือโป๊แบบโจ๋งครึ่ม

-จะซื้ออะไรระวังโดนหลอก เพราะแพ็คเก็จขนมและของในญี่ปุ่น 99% คือน่ารัก ขนมบางอย่างคือไม่อร่อย แต่กล่องคือน่ารักมาก

-การสื่อสารยาก เพราะใช้ภาษาอังกฤษกันน้อยมาก ภาษาจีนมีบ้างประปราย ฉลากแปะข้างขวดก็ญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ จะซื้อไรก็ใช้ภาษามือ แต่คนญี่ปุ่นใจดี น่ารัก เป็นมิตร สามารถสะพายเป้ด้านหลังได้ เพราะไม่มีใครมาล้วงมากรีดกระเป๋าแน่นอน

ฮอกไกโด

บทสรุป

เข้าใจแล้วทำไมคนอื่นถึงมาญี่ปุ่นกันเป็นสิบๆรอบแล้วไม่เบื่อ ก็เพราะเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และน่ารักกกกกก แล้วเก็บเงินมาเที่ยวกันอีกนะ

 

เรื่องและภาพโดย อาจุมม่า ChubbyShiro

[Dudes Next Door]ญี่ปุ่น คันไซ อุ่นไอรัก : ดอกไม้ผลิบานที่โกเบ #kobe01

Thailand Indy สวัสดีต่างแดน : DUDES NEXT DOOR

ตอน ญี่ปุ่น คันไซ อุ่นไอรัก : ดอกไม้ผลิบานที่โกเบ #kobe01

kobe-nunobiki-herb03

ตะวันบ่ายคล้อย แสงแดดอ่อนๆรำไรลอดไม้ไผ่มากระทบที่ดวงตา โอโต้ซังกำลังเปิดแผนที่เมืองใกล้กับที่เราอยู่ในตอนนี้ โอโต้ซังเล่าว่าเมืองนี้จากที่นี่คงเดินทางไปไม่ไกล เราจึงเริ่มวางแผนเรื่องราวของวันพรุ่งนี้กัน

แม้ว่าเกียวโตจะเป็นที่แรกที่เราได้ทำความรู้จัก (หลายครั้งหลายคราแล้วก็ตาม) แต่ครั้งนี้อยากจะเริ่มทักทายกับอีกเมืองน่ารักของดินแดนอาทิตย์อุทัยก่อน เชื่อว่าหลายคนคงเคยแวะมาลองลิ้มชิมรสเนื้อยากินิขุขึ้นชื่อของที่นี่บ้างแล้ว แต่ด้วยความที่เราไม่กินเนื้อวัว ประเด็นนี้จึงพับไป ถึงอย่างไร “โกเบ” แห่งนี้ ก็ไม่ได้สวยงามน้อยลงเลย

ใช่แล้ว…วันนี้จะพาไปเที่ยวโกเบกัน

kobe-nunobiki-herb08

เมืองโกเบเป็นเมืองญี่ปุ่น แต่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเป็นตะวันตก เพราะหากย้อนอดีตไปแล้ว ยามที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศเพื่อเริ่มทำการค้าขายกับตะวันตก ท่าเรือโกเบเป็นท่าเรือสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่เหมือนเป็นศูนย์รวมแหล่งการค้านานาชาติ หลังจากนั้นก็มีชาวต่างชาติเริ่มเข้ามาอาศัยอยู่ที่เมืองโกเบ

kobe-nunobiki-herb27

โกเบนั้นขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวัว หลายคนมักจะอยากไปอิ่มอร่อยกับรสชาติอันนุ่มลิ้นที่ขึ้นชื่อของที่นี่ แต่ครั้งนี้อย่างที่บอกด้วยความที่เราไม่ทานเนื้อวัวเลยอดพาไปรีวิว ขออภัยท่านผู้อ่านมา ณ ที่นี้ แต่ไม่ต้องเสียดายไป ครั้งนี้เราจะพาท่านไปอิ่มอร่อยกับอีกหนึ่งสุดยอดเมนูของโกเบ ที่อยากจะแนะนำให้ไปลองในตอนถัดไปเราจะแนะนำให้ท่านได้รู้จักกับสิ่งนั้น!

kobe-nunobiki-herb17

kobe-nunobiki-herb02

เริ่มต้นเดินทางมาที่แรกที่ Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway แปลเป็นไทย(ด้วยตนเอง)เล่นๆว่า สวนสมุนไพรนุโนบิขิ และกระเช้าลอยฟ้าแห่งโกเบ ถ้าหากขึ้นไปที่นี่ในช่วงหน้าซากุระก็จะเป็นซากุระบานสะพรั่งเลยทีเดียว ดอกไม้ผลิผลัดตามฤดูกาลที่ผันผ่าน แต่ไม่ว่าเช่นไรที่นี่ดูเหมือนถูกวางแผนมาเป็นอย่างดีในการจัดแสดงความสวยงามตามธรรมชาติ แย้มบานยิ้มหวานให้กับผู้คนที่มาเที่ยวได้เชยชมกับดอกไม้นานาพรรณในแต่ละช่วงของปีอยู่แล้ว  แม้บางพื้นที่ บุษบาเหล่านั้นจะยังไม่บานสะพรั่ง แต่ด้วยอากาศหนาวนิดๆ และบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาทำให้ที่นี่ดูโรแมนติกจับใจทีเดียว

kobe-nunobiki-herb14

kobe-nunobiki-herb04

kobe-nunobiki-herb10

kobe-nunobiki-herb25

การวางพื้นที่ของที่นี่ดูลำดับสัดส่วนได้กำลังดีนัก เมื่อนักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปชมวิวบนยอดสูงแล้ว เราอาจจะสามารถแวะทานร้านอาหารที่ View Rest House ด้านบน ที่หน้าต่างเป็นกระจก และเห็นวิวทิวทัศน์งดงามของบ้านเมืองเขาได้ หรือจะเดินลงมาอีกนิดหนึ่งเพื่อที่จะมาจิบชาในเรือนกระจก ซึ่งส่วนนี้ก็มีอาหารขายเล็กน้อย แต่เน้นที่ชาสมุนไพรมากกว่า แล้วนอกจากนั้นเดินผ่านเรือนกระจกเข้ามาอีกนิดยังมีพื้นที่ให้ออนเซ็นเท้า ท่ามกลางกลิ่นหอมของพฤกษานานาพรรณที่มนุษย์ได้สร้างสรรค์พร้อมกับธรรมชาติที่แสนสวยให้เราได้พักผ่อน และหย่อนลมหายใจ

kobe-nunobiki-herb26

หากใครอยากไปเพลิดเพลิน เจริญธรรมชาติแล้วที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากจะแนะนำ ถ้าให้อธิบายก็คล้ายกับเมืองเหนือของบ้านเรา ดอกไม้ของบ้านเราบางพื้นที่อาจจะสวยกว่า แต่ชอบฟังก์ชั่นต่างๆของที่นี่ มีทั้งร้านอาหารดูวิวริมยอดเขา กระเช้าลอยฟ้า ไอติมลาเวนเดอร์ หรือแม้กระทั่งฮอลล์จัดแสดงคอนเสิร์ตเขาก็มีให้นะเออ

kobe-nunobiki-herb15

kobe-nunobiki-herb21

พอเราเดินทางด้วยลมพัดเย็นนิดๆ โชคดีที่ฝนไม่ตก (ใจเต้นๆต่อมๆอยู่รอมร่อ) แต่สุดท้ายฟ้าฝนก็เป็นใจ อากาศกำลังเย็นสบายทำให้เราเดินชิวกันเพลิน ดอกไม้ริมสองข้างทางดูสวยดี ที่นี่เขาจะจัดดอกไม้ตามฤดูกาลค่ะ คือจริงๆแล้วก็ปลูกไว้หมดแหละ แต่ดอกไม้ก็จะบานตามฤดูของเค้าเอง อย่างเราไปเจอปลายๆซากุระ ก็ยังมีสองสามต้นที่มีดอกบานให้เห็น ถ้าถามว่าจริงๆสวยขนาดนั้นมั้ย เอาไว้ถ่ายรูปลงบนเฟซบุ๊คก็ยังพอไหว แต่ถ้าจะให้ตราตรึงใจคงจะต้องมาเร็วกว่านี้สักสองอาทิตย์​น่าจะบานสะพรั่งให้ได้ยลกันเลยทีเดียว สำหรับตารางการบานของดอกไม้ก็ตามรูปด้านล่างนี้เลยจ่ะ ซึ่งหากดูตามฤดูกาลแล้ว เชื่อได้เลยว่าฤดูอากิ หรือ ฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีน่าจะสวยไม่แพ้ที่ไหน

herb-calenderCredits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

kobe-nunobiki-herb11

kobe-nunobiki-herb12

kobe-nunobiki-herb09

ที่นี่แบ่ง Facilities เป็นหลายส่่วน เดี๋ยวเราจะแอบยกข้อมูลจากเว็บ Original มาฝากทุกท่านไว้ในอ้อมอกอ้อมใจละกันนะคะ

ไม่ว่าจะเป็น

View Rest House

view-rest-house

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

View Rest House เป็นสถานที่ที่คุณสามารถอิ่มเอมไปกับอาหารแสนอร่อยที่มีส่วนผสมของสมุนไพร และร้านรวงต่างๆมากมาย ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็น Indoor แต่คุณก็สามารถสัมผัสการตกแต่งด้วยสมุนไพรต่างๆ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ

Mori no Hall (Concert Hall in Forest)/ Fragrance Museum

mori-no-hall

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

เป็นฮอลล์ที่สร้างขึ้นจากไม้ สถานที่ยอดฮิตสำหรับแสดงคอนเสิร์ตแนวอะคูสติก รวมไปถึงที่แห่งนี้ยังเป็นพิพิธภัณฑ์น้ำหอมที่จัดแสดงน้ำหอมทางประวัติศาสตร์ไว้มากมายอีกด้วย

Glasshouse

glass-house

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

สามารถเยี่ยมชมพันธุ์ดอกไม้นานาชนิด รวมถึงผลไม้ต่างตลอดทั้งปีได้ที่เรือนกระจกแห่งนี้

Hanging Baskets (Glasshouse)

hanging-basket

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

สามารถถ่ายรูปกับพวงดอกไม้ที่ห้อยระยะจัดแสดงอยู่ในเรือนกระจกอีกด้วย

Herbal Footbath

footbaht

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

นอกจากนั้น ยังเพลิดเพลิน ผ่อนคลายไปกับออนเซ็นเท้าที่อยู่ติดกับเรือนกระจก ที่นี่ยังแสดงทัศนียภาพของเมืองโกเบไว้อีกด้วย

ต่อมาเราได้มารับประทานอาหารกันที่สวนสมุนไพรแห่งนี้นี่แหละ อาหารรสชาติกำลังโอเค เราสั่งข้าวแกงกะหรี่ไก่มากิน อาหารจานพอเหมาะ แต่ทีเด็ดเห็นจะเป็นชาสมุนไพรเต็มไม่อั้น มองข้างหลังเห็นเกิร์ลแก๊งแห่งแดนอาทิตย์อุทัยกำลังจิบชาพร้อมหัวร่อต่อกระซิก คิกคักกันอย่างสนุกสนาน นอกจากเหมาะแก่การมาแฮงเอ้าท์กับเพื่อนแล้ว ยังเป็นบรรยากาศที่สบายๆ คล้ายอยากให้เรานั่งทอดตัวอยู่ตรงนี้ไปอีกนานๆทีเดียว เพราะกระจกใสที่โอบรอบร้านนั้นทำให้เราเห็นบรรยากาศไปทั่วทั้งเมืองโกเบ

kobe-nunobiki-herb03

kobe-nunobiki-herb23

kobe-nunobiki-herb20

หลังจากผ่อนคลายที่สวนสมุนไพร เราเดินทางต่อเข้าสู่อารยธรรมแห่งตะวันตกอย่างแท้จริง ติดตามเรื่องราวของโกเบได้ในตอนต่อไปนะจ๊ะ.

Sandp1989

kobe-nunobiki-herb19

kobe-nunobiki-herb24

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่อยากเดินทางไปเยี่ยมชม

ค่่าขึ้นกระเช้า + ค่าชมสวน
ผู้ใหญ่(ไปกลับ) : 1,400 เยน
เด็กนักเรียน (ไปกลับ) : 700 เยน
ผู้ใหญ่(เที่ยวเดียว) : 900 เยน
เด็กนักเรียน (เที่ยวเดียว) : 450 เยน
ราคาหลัง 5 โมงเย็น
ผู้ใหญ่(ไปกลับ) : 800 เยน
เด็กนักเรียน (ไปกลับ) : 500 เยน

Screen shot 2015-11-05 at 9.45.35 PM

วิธีการไป

หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index4.html

Screen shot 2015-11-05 at 9.45.54 PM Screen shot 2015-11-05 at 9.45.42 PM