KLM สุดล้ำ! ใช้เทคโนโลยี AI ให้บริการจองตั๋วเสมือนคุยกับเจ้าหน้าที่

สายการบิน เคแอลเอ็ม รอยัลดัตช์ แอร์ไลน์ หรือ  KLM ประกาศเปิดตัวบริการใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารของสายการบิน โดยสามารถทำการจองตั๋วโดยสารได้เองผ่านแอพพลิเคชั่น Messenger ของ KLM ที่เรียกว่า BlueBot (BB) ที่สนับสนุนด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำของระบบ AI โดย BB นี้มีหน้าที่ให้บริการแก่ลูกค้าของสายการบินในการรับสั่งจองตั๋วการเดินทางผ่านแอพพลิเคชั่น Messenger ด้วยการสนทนาแบบธรรมดาเหมือนติดต่อกับเจ้าหน้าที่ปกติ จากการนำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้นี้ช่วยให้ลูกค้าของสายการบินสามารถจองตั๋วได้ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องรอติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของทางสายการบิน KLM อีกต่อไป

ระบบ BB มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง และมีบุคลิกส่วนตัวที่ชอบช่วยเหลือ, เป็นกันเอง มีความเป็นมืออาชีพและมีความเฉลียวฉลาดในการสนทนา และระบบ BB เองก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าตนนั้นรับหน้าที่เป็นตัวเชื่อมของลูกค้ากับเทคโนโลยีต่างๆ ที่ KLM มีอยู่พรั่งพร้อม โดยมีทีมงานถึง 250 คนคอยสนับสนุนการทำงานของ BB อยู่เบื้องหลัง เมื่อใดที่ระบบ BB ไม่สามารถให้บริการในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างเต็มที่ ระบบ BB จะทำการส่งต่อลูกค้ารายนั้นไปยังทีมงานที่คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังทันที และอีกไม่นานระบบ BB จะมีบริการเพิ่มมากขึ้นและรองรับการให้บริการกับช่องทางการติดต่อดิจิทัลอื่นๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะการให้บริการด้วยการสนทนากับลูกค้า

 

“KLM เป็นสายการบินที่เป็นที่รู้จักและชื่นชอบเป็นอย่างดีในการนำเสนอบริการที่น่าประทับใจแก่ผู้โดยสารรายบุคคล โดยเฉพาะในโลกเครือข่ายสังคมออนไลน์นั้น KLM มีบริการตลอด 24 ชั่วโมงครบทุก 7 วันด้วยเจ้าหน้าที่พร้อมให้การดูแลถึง 250 คนที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าได้มากกว่า 16,000 เรื่องในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งแน่นอนว่า เราวางแผนเพิ่มสมรรถนะยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันลูกค้าของเราก็ต้องการการตอบสนองที่เร็วขึ้น ดังนั้นเราจึงได้ทดลองนำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้ในการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของเราในการดูแลลูกค้าในแบบที่เป็นส่วนตัว, รวดเร็ว และได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ด้วยระบบ BB ทำให้ KLM ก้าวไปอีกขั้นในเรื่องของกลยุทธ์ด้านนโยบายสื่อเครือข่ายสังคมออนไลน์  ทั้งยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้นำเสนอบริการให้กับลูกค้าแต่ละรายแบบคนต่อคน พร้อมทั้งทีมงานที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเมื่อถึงคราวจำเป็น” ปีเตอร์ โกรเนอวาล์ด รองประธานอาวุโส ฝ่ายสื่อดิจิทัล Air France KLM

 

เกี่ยวกับ KLM และสื่อเครือข่ายสังคมออนไลน์

 

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552  สายการบิน เคแอลเอ็ม รอยัลดัตช์ แอร์ไลน์ หรือ  KLM เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะองค์กรธุรกิจผู้นำในการให้บริการและนำเสนอแคมเปญผ่านทางเครือข่ายสังคม โดยมีผู้ติดตามในเครือข่ายสังคมแพลตฟอร์มต่างๆ ทั่วโลกมากถึง 25 ล้านราย การสื่อสารผ่านทางช่องทางเครือข่ายสังคมนี้ KLM ถูกพูดถึงมากกว่า 1 แสนครั้งในหนึ่งสัปดาห์ กว่า 15,000 คำถามหรือข้อสอบถาม โดยที่คำถามทั้งหมดได้รับการตอบแบบตัวต่อตัวด้วยเจ้าหน้าที่มากกว่า 250 คนที่ถือว่าเป็นทีมงานด้านเครือข่ายสังคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทั้งหมดครอบคลุมแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้ง WhatsApp, Facebook, Messenger, Twitter, LinkedIn, WeChat และ KakaoTalk ปัจจุบัน KLM เปิดให้บริการลูกค้าแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียวไม่มีวันหยุดตลอด 24 ชั่วโมงทั้ง 7 วันใน 9 ภาษาได้แก่ ดัตซ์, อังกฤษ, เยอรมัน, สเปน, ปอร์ตุเกส, ฝรั่งเศส, จีน, ญี่ปุ่นและเกาหลี รวมถึงภาษาอิตาลีในช่วงเวลาเปิดทำการ ซึ่ง KLM ถือเป็นสายการบินพาณิชย์แรกที่เสนอตัวเลือกให้ลูกค้ารับข้อมูลเอกสารและอัพเดตสถานการณ์บินผ่านทางแอพพลิเคชั่น Messenger, Twitter และถือเป็นสายการบินชาติตะวันตกรายแรกที่ให้บริการผ่านทาง WeChat

 

ตะลุย ‘ไต้หวัน’สวรรค์ของ STREET FOOD

 ไปหาของกินที่ ‘ไต้หวัน’ กันเถอะ!! นอกจากชาไข่มุกแล้ว ที่นี่ยังเป็นสวรรค์ของ street food ให้ได้ชิมเยอะแยะเลย พร้อมแล้วไปลัดเลาะหาของกินยามค่ำคืนที่ตลาดในไต้หวันกันดีกว่า!!

ชาไข่มุก ที่มีร้านอยู่แทบจะทุกมุมเมือง ถ้าจะให้ดีต้องซื้อชิมร้านละแก้วไปเลย

 

สุดยอดเอกลักษณ์ของไต้หวัน ‘เต้าหู้เหม็น’ เหม็นแค่ไหนถามใจดู??

 

เกี๊ยวน้ำ ลูกชิ้นไส้ต่างๆ กินกับน้ำซุปร้อนๆ คล่องคอดีทีเดียว

 

อันนี้ดูเหมือนเหมือนพวกกุ่ยช่ายบ้านเราเลย

 

ทำกันสดๆ พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้ชิม

 

ข้าวโพดปิ้งราดซอสรสต่างๆ ทั้งแบบคาว และะแบบหวาน อร่อยเว่อๆๆๆ

 

ไอติมถั่วตัดผักชี เป็นของที่ไม่น่าเข้ากัน แต่รับประกันอร่อยสุดๆ

 

ปลาหมึกทอดตัวใหญ่ไซส์บิ๊กบึ้ม ฟินสะใจมาก

 

ผลไม้สด มีชมพู่ น้อยหน่า เหมือนบ้านเราเลย
น้ำมะระ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่เห็นแล้วขมคอเลย
ปลาหมึกตัวใหญ่ราดซอสสูตรเฉพาะ น่ากินจัง

 

ไส้กรอกสารพัดแบบ มีหลายเนื้อให้เลือกเลย
กุนเชียงย่าง มันก็จะเลี่ยนๆหน่อย

Wishing Well Camp 2017

คุณสามารถร่วมเป็นหนึ่งในเส้นทางความสุขของเด็ก ๆ ได้
Wishing Well Camp 2017
6 – 8 ตุลาคม 2560

มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง ( Wishing Well Foundation) ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยสานฝันให้แก่เด็กป่วยโรคมะเร็งที่รักษายากให้เป็นจริง ตลอดจนการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้เด็กได้มีคุณภาพชีวิตที่เหมาะสม ได้กำหนดจัดกิจกรรมค่าย ประจำปี 2560 ภายใต้ชื่อ ‘Wishing Well Camp 2017’

กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งหมดประมาณ 150 คน แยกเป็นเด็ก 50 คน ผู้ปกครอง 50 บุคลากรทางการแพทย์จากแต่ละโรงพยาบาลและอาสาสมัคร

ทางมูลนิธิฯ จึงขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ขอรับบริจาค เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่ใจดีในสังคม ได้เป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางความสุขของเด็กๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้

• ให้การสนับสนุนด้านอาหาร เช่น
– ขนม ที่สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน เช่น ขนมกรุบกรอบทั่วไป, ลูกอม, คุกกี้, เวเฟอร์ ฯลฯ ทั้งนี้ขอเป็นห่อขนาดเล็กที่สามารถทานได้หมดในครั้งเดียว
– นม UHT ยกเว้นนมเปรี้ยว
– น้ำผลไม้แบบกล่อง
• ให้การสนับสนุนด้านของขวัญ สำหรับเด็กในช่วงวัย 4-18 ปี ทั้งชายและหญิง
• ให้การสนับสนุนของรางวัลสำหรับการเล่นเกมในช่วงกลางวันและงานเลี้ยงกลางคืน

หากท่านสนใจร่วมสนับสนุนในกิจกรรมดังกล่าว สามารถจัดส่งของให้มูลนิธิฯ ได้โดย
1. จัดส่งด้วยตนเอง
ในเวลาทำการ จ – ศ เวลา 10.00 – 17.00 น. และรบกวนโทรศัพท์สอบถามก่อน เนื่องจาก จนท.อาจ ต้องไปปฏิบัติงานข้างนอก
2. จัดส่งทางไปรษณีย์
มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง
25 อาคารกรุงเทพประกันภัย ชั้น 9
ถ. สาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. 10120
โทร 02-677-4117 / โทรสาร 02-677-4118 มือถือ081 – 859 – 9299 / 081-615-9993

ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 29 กันยายน 2560

สามารถชมกิจกรรมของมูลนิธิฯ เพิ่มเติมได้ที่
www.wishingwellthai.org
email : wishingwellthai@windowslive.com / wishingwellthai@yahoo.com 

๓๖๕ วัน ถักอุ่น ให้คลายหนาว ปีที่ ๗ ครั้งที่ ๙

โครงการ ๓๖๕ วัน ถักอุ่น ให้คลายหนาว ปีที ๗ ครั้งที่ ๙
ตอน ๒๑๙๐ วัน รักเราไม่เก่าเลย เพิ่มเติมคือความห่วงใยที่ใส่ใจทุกห่วงที่ถักทอ

กิจกรรมวันอาทิตย์ที่ ๑ ตุลาคม  ๒๕๖๐
ตั้งแต่เวลา ๑๒.๓๐ น. – ๑๖.๓๐ น.

* * * * รับบริจาคของและชิ้นงานแล้วนะจ๊ะ * * * *

**** ตอนนี้ชิ้นงานที่ยังต้องการ จะเป็นผ้าพันคอไหมพรม * * *

สถานที่นัดหมายทำกิจกรรม
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน(MRT)จตุจักร
ลานกิจกรรมจตุจักรเซ็นเตอร์ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน(MRT) จตุจักร
– ลงมาใต้ดิน ค่ะ ก่อนชั้นขายตั๋ว ทางขึ้นลงประตู ๑ หรือ ๔
“หากเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT ปลายทางสถานีสวนจตุจักร ทางออก ๔”
อยู่ใต้ดิน สถานีจตุจักร ฝั่งติดห้องน้ำ

หรือลงมาใต้ดิน ค่ะ ก่อนชั้นขายตั๋ว ประตูไหนก็ได้ ลงมาแล้วเดินมาทางฝั่งที่มีห้องน้ำใต้ดิน มองหาในเวลาที่กำหนดก็จะเห็นกลุ่มอาสานั่งทำงานกัน ค่ะ

* * สิ่ ง ที่ ผู้ เ ข้ า ร่ ว ม ต้ อ ง เ ต รี ย ม ม า * *
– อุปกรณ์สำหรับถัก เช่น ไม้บล๊อก/นี๊ตติ้ง/โครเชต์ ตามความถนัดของผู้สนใจ

– สิ่ ง ที่ ท า ง โ ค ร ง ก า ร มี ใ ห้
ไหมพรม หลากสี หลากชนิด ที่ได้รับจากการแบ่งปัน จากอาสา
โต๊ะสำหรับนั่งถัก สำหรับผู้สูงวัย

***สำคัญมาก***
– ไม่มีลายเซ็น
– ไม่มีใบประกาศเกียรติคุณใดๆให้ แต่คุณจะมีเกียรติจากการลงมือแบ่งปัน
– แต่ที่นี่มีน้ำใจ มีมิตรไมตรี

ตารางกิจกรรม
๑๒.๓๐ น. – ๑๓.๐๐ น. ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมโครงการ
*** ลงทะเบียน(ฟรี)/ลงทะเบียนหน้างาน ได้ ร่วมกิจกรรมตามเวลาที่กำหนดหากมาสายหลังเวลา ๑๓.๐๐ น. ขอไม่รับร่วมกิจกรรม ต้องรอคราวต่อไป โปรดรักษาเวลา ***
๑๓.๐๐ น. – ๑๓.๑๐ น. จากใจถึงใจ ห่วงใยถักไออุ่น
(Check in)
** ปิด รับการลงทะเบียน **
๑๓.๓๐ น. กิจกรรมถักสายใย (ถักไหมพรม ผ้าพันคอ/หมวก)
๑๖.๓๐ น. แบ่งปันวันดีๆ (Check out)
*** ผู้ร่วมกิจกรรม กรุณาอยู่จบเสร็จกิจกรรม ตลอดกิจกรรม ****

มีคำถามว่า ทำไม่เป็น
ตอบว่า สอนถักสำหรับผู้ที่สนใจ แต่ยังทำไม่เป็น

สอนถักสำหรับผู้ที่สนใจ แต่ยังทำไม่เป็น
เชิญชวนท่านที่ทำเป็นแล้วมาร่วมกันแบ่งปันความรู้ร่วมกัน โดยไม่จำกัดรูปแบบของงาน

ทำอะไรกัน
๑.ชักชวนกันมานั่งถักไหมพรมทั้งหมวกและผ้าพันคอ เพื่อแบ่งปันพื้นที่ประสบภัยหนาวปลายปี ๒๕๕๙
๒.ชวนมาแบ่งปันความรู้ สอน การถักไหมพรม หลากประเภทของการถัก เช่น นี๊ตติ้ง โครเช หรืออื่นๆ
๓.แบ่งปันความรู้กันระหว่างท่านที่ทำเป็นอยู่แล้วแบ่งปันให้กับท่านที่ยังไม่เป็น
-ผ้าพันคอเด็ก/ผู้ใหญ่ (ไม่จำกัดแบบ ไม่จำกัดสี และประเภทการถัก)
-หมวกไหมพรม เด็ก/ผู้ใหญ่ (ไม่จำกัดแบบ ไม่จำกัดสี และประเภทการถัก)
-หมวกไหมพรมสำหรับพระภิกษุ / แม่ชี (มีข้อจำกัดเรื่องสีและแบบ **สีสำหรับพระ/แม่ชี แบบเรียบง่ายไม่มีลวดลาย)
-หมวกสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่รอการฉายแสง (ไหมใยธรมชาติ ๑๐๐% เหยื่อไผ่)

– ไม่มีค่าใช้จ่าย
– มีไหมพรมให้ฟรี

-ผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องเตรียมอุปกรณ์การถักมาเอง
อธิเช่น ไม้นิตติ้ง เบอร์ ๔ หรือ เบอร์ ๖ ความยาว ๔๐ เซนติเมตร หรืออื่นๆ ตามความเหมาะสมของท่านเอง
-หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการถักไหมพรม
-ทางโครงการไม่มีอุปกรณ์ให้ยืม ดังนั้น ผู้เข้าร่วม ต้องเตรียมอุปกรณ์ในการถักมาเอง
– ขนาดหมวกมาตรฐานที่ถัก คือ ใช้ไม้นิตเบอร์ ๕.๕ หรือ เบอร์ ๖ ใช้ไหมพรมเส้นใหญ่ ๑ เส้น หรือ ไหมพรมเส้นเล็ก ๒ เส้น ขนาดฐานหมวก ๗๐-๘๐ ห่วง ความสูงประมาณ ๗-๘ นิ้ว ลายอะไรก็ได้ตามความชอบและความถนัด
*** อุปกรณ์ที่ผู้เข้าร่วมต้องเตรียมมาเอง ***
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=494329707269469&set=a.494329617269478.96168.100000773318534&type=3&theater

– โครงการไม่ได้ขอทุนหรือรับทุนสนับสนุนจากที่ใด แต่ได้รับน้ำใจจากอาสาด้วยกันขอบคุณทุกๆน้ำใจ
-ไหมพรม (เพิ่มเติม….สำหรับเด็กอ่อนหรือผู้ป่วยมะเร็งที่รอการฉายแสง ชนิด นุ่มนวน ใยธรรมชาติ ๑๐๐%)
รูปแบบกิจกรรมอื่นๆ
-จะมีการนัดสอนและเรียนรู้ร่วมกันในการถัก สำหรับผู้ที่สนใจแต่ถักไม่เป็น ยังถักไม่เป็นก็ร่วมได้ กิจกรรมเราจะแบ่งปันความรู้กัน
-ชักชวนอาสาที่ เป็นงานแล้วมาแบ่งปันความรู้สอนเพื่อนๆอาสาด้วยกันเอง
(หากมีการเปลี่ยนแปลงจะมีการแจ้งให้ทราบ ในแต่ละเดือนและจะอัฟเดทข้อมูลให้เรื่อยๆครับหากมีการเปลี่ยนแปลง)

สถานที่ ที่จะนำไปแบ่งปัน
โรงพยาบาลสำหรับเด็กอ่อนและผู้ป่วยมะเร็ง
วัดในพื้นที่ประสบภัยหนาว
พื้นที่ประสบภัยหนาว ปลายปี ๒๕๖๐

ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วม
ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม

***** ขอขอบคุณน้ำใจเพื่อนๆอาสาที่ สมทบไหมพรมสำหรับสมาชิก มากมาก

*** โครงการไม่ขอรับบริจาคเงินทุนใดๆ***

โครงการขอขอบคุณเป็นพิเศษและมากๆสำหรับความอนุเคราะห์สถานที่ในการทำกิจกรรมด้วยดีและเสมอมา
* * * รถไฟฟ้าใต้ดิน * * *

สิ่งที่ผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับ
ไหมสำหรับถัก รับได้ไม่จำกัด(ตามสถานะการจำนวนคนเพื่อจัดสรรค์ให้เพียงพอกับผู้เข้าร่วมแต่ละครั้ง)

*** สำหรับชิ้นงานที่จะส่งทางพัสดุ เริ่มรับชิ้นงานิ้ผ่านไปรษณีย์ สามารถส่งมาได้ ***
ตั้งแต่วันนี้ – ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เท่านั้น
***และไม่ต้องใส่ถุงพลาสติกมาก็ได้ครับเพื่อลดการใช้ถุงพลาสติก***

ชื่อที่อยู่สำหรับการจัดส่งทางไปรษณีย์
นายจิระพงค์ รอดภาษา (นุ้งนิ้ง)
สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
เลขที่ ๑๖ ถ.วิภาวดี-รังสิต
ลาดยาว จตุจักร กทม. ๑๐๙๐๐

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
นายจิระพงค์ รอดภาษา (นุ้งนิ้ง)
E-mail: Sunday2309@hotmail.com
หมายเลขโทรศัพท์ : ๐๘๑-๕๑๕ ๘๕๖๔
(081-515 8564)
กรุณาอ่านรายละเอียดก่อนโทรสอบถามใดๆ จะให้คำตอบที่มีคำถามต่อเมื่อคำถามนั้นไม่มีคำตอบไว้ให้
– อย่าถามว่าคนเต็มหรือไม่ / อย่าถามว่าต้องลงทะเบียนล่วงหน้ามั้ย หากมา มาได้เลย ลงทะเบียนหน้างานได้ แค่ ตรงต่อเวลา ไม่มีพิธีรีตรอง ไม่มีพิธีกรรมใดๆ

สถานที่นัดหมายทำกิจกรรม
ลานกิจกรรมจตุจักรเซ็นเตอร์ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน(MRT) จตุจักร
ลงมาใต้ดิน ค่ะ ก่อนชั้นขายตั๋ว ประตูไหนก็ได้ ลงมาแล้วเดินมาทางฝั่งที่มีห้องน้ำใต้ดิน มองหาในเวลาที่กำหนดก็จะเห็นกลุ่มอาสานั่งทำงานกัน ค่ะ

ประกาศ ประกาศ เปิดรับอาสาที่ถักเป็นแล้ว เพื่อเลื่อนชั้น ขึ้นมาเป็นครู ช่วยๆกันสอน ครับ เนื่องจากทางโครงการมีคนช่วยสอนในจำนวนน้อยและ ขาดอาสาที่ช่วยสอนสำหรับสมาชิกใหม่แต่ยังถักไม่เป็น จึงขอชักชวนอาสาที่ถักเป็นแล้วมาช่วยๆกันสอนเพื่อนๆกันต่อไปครับ

ความห่วงใย ที่ใส่ใจในทุกๆห่วง.

ถ้าชอบกด Like
http://www.facebook.com/HappySeedsGroup
ถูกใจชวนไปแบ่งปัน

เครือข่ายอาสาอิสระ “โรงบ่มอารมณ์สุข”
บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ความดี แบ่งปันความสุข

มิตรภาพที่ปราศจากแอลกอฮอล์
ความสนุกที่ไร้การพนัน
พื้นที่สร้างสุขปลอดอบายมุข ทุกชนิด

http://www.facebook.com/Volunteaw 

จีเอฟเค เผยตลาดอาเซียนตื่นตัวรับทีวีความละเอียดสูงแบบ UHD และจอแสดงผลแบบ OLED

ผู้บริโภคทั่วโลกต่างเต็มใจจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อประสบการณ์ในการรับชมทีวีที่ดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม อ้างอิงจากรายงานผลสำรวจทางการตลาดจากจีเอฟเคที่พบว่ามีการตื่นตัวรับเทคโนโลยียุคใหม่อย่างทีวีความละเอียดสูงระดับ UHD และจอภาพแบบ OLED โดยยอดขายทีวีทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2560 พบว่า 478,000 เครื่องเป็นรุ่นที่ใช้หน้าจอแบบ OLED และมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 94% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนั้น อัตราการเติบโตของทีวีความละเอียดสูงแบบ UHD ทั่วโลกอยู่ในทิศทางเดียวกัน โดยมีมูลค่าเกือบเป็นครึ่งหนึ่งของมูลค่าของทีวีทั้งตลาด หรือเป็น 48%

 

ข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในบทความนี้ เป็นส่วนหนึ่งของผลสำรวจทางการตลาดกลุ่มสินค้าทีวีทั่วโลกโดยจีเอฟเคที่เผยแพร่ในงาน IFA 2017 ที่เมืองเบอร์ลิน

 

ภาพรวมตลาดสินค้าทีวีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงครึ่งปีแรกพบว่ายอดขายขยับขึ้นเพียง 1% ในด้านของจำนวนที่ขายออกไป และหากคิดเป็นตัวเม็ดเงินนั้นคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 2% แต่กลุ่มสินค้าทีวีความละเอียดสูงแบบ UHD หรือที่เรียกกันว่า 4K และ OLED พบว่ายอดขายในแง่จำนวนทะยานขึ้น 92% และ 69% ตามลำดับ และ 53% และ 85% ในแง่ของตัวเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้น

 

“OLED เป็นเทคโนโลยีของทีวีล่าสุดที่สร้างความสนใจให้กับตลาดปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่แบรนด์ต่างๆ เริ่มนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีนี้ หลังจากที่มีผู้เล่นเพียงรายเดียวครองตลาดมานาน” เจอราร์ด แทน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายติดตามธุรกิจค้าปลีกสินค้าเทคโนโลยี จีเอฟเค เอเชีย กล่าว “จากการแข่งขันที่เริ่มดุเดือดขึ้นนี้ เราจะได้เห็นความคึกคักของตลาดจากการแข่งขันจากทั้งแบรนด์เจ้าของสินค้าและร้านค้าปลีกเพื่อหวังดูดเงินที่อยู่ในมือผู้บริโภคนั่นเอง”

 

ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จ่ายเงินไปกับทีวีแบบ UHD รวมมูลค่า 725 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2560 อย่างไรก็ตาม ด้วยความต้องการของทีวีที่มีราคาถูกและมีขนาดหน้าจอที่เล็กมากขึ้น ทำให้ราคาสินค้าทีวีในกลุ่มนี้ตกลง 20% ภายในหนึ่งปีเหลือราคาเฉลี่ยที่ 836 เหรียญสหรัฐต่อเครื่องจากการแข่งขันในตลาดทีวีแบบ UHD ที่เริ่มรุนแรงขึ้น การติดตามข้อมูลตลาดของ จีเอฟเคพบว่ามีหลายแบรนด์มากขึ้นที่เปิดตัวสินค้าในรุ่นที่สามารถซื้อหาเป็นเจ้าของได้ง่าย และมีทีวีแบบ UHD ที่เล็กลงหลายรุ่นเข้าตลาดแต่ละประเทศ เช่น ประเทศเวียตนามมีจำนวนรุ่นของทีวีแบบ UHD โดดขึ้นถึง 50% จากเดิมเพียง 192 รุ่น มาถึง 303 รุ่นในปีนี้

 

“การที่ผู้บริโภคให้ความสนใจในทีวีความคมชัดสูงแบบ UHD และ 4K เราคาดว่าบริษัทผู้ผลิตทีวีต่างต้องสรรหาแนวทางใหม่ๆ ในการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง อย่างหนึ่งก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมาร์ททีวีด้วยการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่มีความพิเศษเฉพาะตัวตรงใจของผู้บริโภค” เจอราร์ด แทน เสริม “ความนิยมและความพร้อมของการให้บริการคอนเทนต์แบบ Over-The-Top (OTT) ก็น่าจะเป็นอีกปัจจัยที่สามารถชักจูงให้ผู้บริโภคเปลี่ยนเครื่องทีวีเก่าที่มีอยู่ เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม”

 

คาดการณ์ว่าความต้องการทีวีแบบ UHD นั้นจะเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปลายปีนี้อย่างแน่นอน ด้วยยอดขายจำนวนสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 60% ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

จากการศึกษาแยกต่างหากโดยจีเอฟเคที่อ้างอิงข้อมูลจากการติดตาม ณ จุดขาย (POS) พบว่าวงจรอายุสินค้ากลุ่มทีวีนั้นลดสั้นลงอย่างมีนัยยะสำคัญ จากการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ค่อนข้างเร็ว สะท้อนให้เห็นว่าทุกแบรนด์มีช่วงเวลาเพียงสั้นๆในการทำตลาดกับตัวสินค้าของตัวเองให้ได้ผล ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องมีความเข้าใจ มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้แนวการตลาดแบบผสมผสานและลงทุนอย่างถ่องแท้ เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการขาย สามารถที่จะวางกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพได้รวดเร็ว เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดในผลงานที่เกิดขึ้น

 

จีเอฟเคได้เผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกตลาดสินค้าทีวีทั่วโลกภายในงาน IFA 2017 ณ เมืองเบอร์ลิน วันที่ 1-6 กันยายน พ.ศ. 2560

 

###

 

วิธีการเก็บข้อมูล

จีเอฟเคทำการเก็บข้อมูล ณ จุดขายเป็นประจำผ่านกลุ่มธุรกิจค้าปลีกทั่วโลกจากกว่า 100 ประเทศ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับไอทีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมทั้งอุปกรณ์เสริม และทำการวิเคราะห์ด้านความต้องการของผู้บริโภคในสภาวการณ์ปัจจุบัน ในตลาดนานาชาติ ยุโรป และเยอรมันในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2560 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา จีเอฟเคได้รวบรวมข้อมูลที่รวบรวมมาจากตัวแทนจำหน่าย และผู้ให้บริการไอทีโซลูชั่นมาไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน เป็นศูนย์เก็บรวบรวมข้อมูลที่แม่นยำเที่ยงตรงนำมาใช้ในการระบุความเป็นไปได้ที่มีอยู่ในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการปรับปรุงกระบวนการทำงานและประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งนำมาใช้ในการวางกลยุทธ์การกระจายสินค้าให้ได้รับความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจและศักยภาพในการสร้างกำไร

เกี่ยวกับจีเอฟเค (GfK)

จีเอฟเค เป็นบริษัทข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจการตลาดและผู้บริโภคที่ได้รับความไว้วางใจ และช่วยให้ลูกค้าของบริษัทดำเนินการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จีเอฟเคมี ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยธุรกิจการตลาดมากกว่า 13,000 คน ที่พร้อมผนึกกำลัง ความสามารถผนวกกับประสบการณ์อันยาวนานและองค์ความรู้ด้านข้อมูลของบริษัท เพื่อผลิตข้อมูลเชิงลึกที่มีความสำคัญในระดับโลกพร้อมข้อมูลทางการตลาดจากมากกว่า 100 ประเทศ จีเอฟเคเปลี่ยนข้อมูลจำนวนมากเป็นข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ง่ายต่อการใช้งาน โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และองค์ความรู้ด้านข้อมูล ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนา ข้อได้เปรียบในการแข่งขันและสร้างเสริมประสบการณ์และตัวเลือกของผู้บริโภคได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.gfk.com หรือติดตามทางทวิตเตอร์: https://twitter.com/GfK

กรุงเทพมาวิน! แชมป์เมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก 2 ปีซ้อน

Global Destination Cities Index โดย Mastercard รายงานผลสำรวจหัวข้อเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน จากการจัดอันดับ 132 เมืองทั่วโลก โดยวัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พักค้างคืน และเป็นที่น่ายินดีเมื่อ กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย ยังคงครองแชมป์เมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุดในโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

ซึ่ง 10 เมืองที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากที่สุดในปี 2017 มีดังนี้

30.โจฮันเนสเบิร์ก, แอฟริกาใต้ 4.8 ล้านคน

29.เบอร์ลิน, เยอรมัน 5.1ล้านคน

28.โตรอนโต, แคนาดา 5.3 ล้านคน

27.มุมไบ, อินเดีย 5.35 ล้านคน

26.มิวนิค, เยอรมัน 5.4 ล้านคน

25.มาดริด, สเปน 5.5 ล้านคน

24.ดับลิน, ไอร์แลนด์ 5.59 ล้านคน

23.เชนไน, อินเดีย 5.7 ล้านคน

22.ลอสแอนเจลิส, สหรัฐอเมริกา 5.8 ล้านคน

21.ไมอามี่, สหรัฐอเมริกา 6 ล้านคน

20.ปราก, สาธารณเชค 6.4 ล้านคน

19.เวียนนา, ออสเตรีย 6.63 ล้านคน

18.เซี่ยงไฮ้, จีน 6.65 ล้านคน

17.โรม, อิตาลี 7.3 ล้านคน

16.ไทเป, ไต้หวัน 7.8 ล้านคน

15.โอซาก้า, ญี่ปุ่น 7.9 ล้านคน

14.มิลาน, อิตาลี 8.4 ล้านคน

13.อัมสเตอร์ดัม, เนเธอแลนด์ 8.7 ล้านคน

12.บาร์เซโลนา, สเปน 8.9 ล้านคน

11.อิสตันบูล, ตุรกี 9.24 ล้านคน

10.ฮ่องกง 9.25 ล้านคน

9.กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย 12.1 ล้านคน

8.นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา 12.4 ล้านคน

7.โซล, เกาหลีใต้ 12.44 ล้านคน

6.โตเกียว, ญี่ปุ่น 12.5 ล้านคน

5.สิงคโปร์ 13.45 ล้านคน

4.ดูไบ, ยูเออี 16 ล้านคน

3.ปารีส, ฝรั่งเศส 16.1 ล้านคน

2.ลอนดอน, อังกฤษ 20 ล้านคน

1.กรุงเทพ, ประเทศไทย 20.2 ล้านคน

 

ข้อมูลจาก http://www.independent.co.uk/travel/thirty-most-visited-cities-world-a7967901.html