Author: Izple
หน้าฝนน่าเที่ยว “ดอยปุย-บ้านม้งดอยปุย”
หน้าฝนน่าเที่ยว เดินทางต่อจากวัดผาลาด รีวิวไว้ที่นี่ หน้าฝนน่าเที่ยว “วัดผาลาด” ลงตัวท่ามกลางธรรมชาติ จากวัดผาลาดเรามุ่งหน้าไปยังดอยปุยต่อค่ะ ซึ่งจะผ่านพระตําหนักภูพิงค์ด้วย แต่เราตั้งใจขึ้นดอยปุยก่อนค่อยลงพระตําหนักภูพิงค์ค่ะ

ระหว่างเดินขึ้นไปบนดอยก็จะต้องเดินผ่านหมู่บ้านม้ง จะพบวิถีความเป็นอยู่ของชาวม้ง
มีตลาดขายสินค้าของชาวบ้าน ทั้งงานฝีมือ ของพื้นบ้าน เสื้อผ้า ผ้าฝ้ายทอมือ เครื่องประดับเงิน ชา และอีกมากมาย
มีชุดชาวเขาให้เราได้เช่าใส่ด้วยค่ะ คนละ 50 บาท จะมีเด็กๆมาคอยต้อนรับและอาสาเป็นไกด์ให้ (แต่อาจจะต้องมีค่าตอบแทนให้น้องด้วยนะคะ 🙂 ) น้องๆจะวิ่งมาต้อนรับและพูดกับคุณว่า “พี่สาวคะ สนใจให้หนูเป็นมัคคุเทศน์น้อยพาเที่ยวมั้ยคะ แล้วแต่พี่จะให้ค่าขนมหนูค่ะ” ประมาณนี้ น่ารักค่ะ หรือจะถ่ายรูปกับเด็กดอยก็ได้ค่ะ น้องๆก็จะหารายได้จากนักท่องเที่ยวจากการนำเที่ยวหรือถ่ายรูปคู่กับเราค่ะ แล้วแต่เราจะให้เขาค่ะ
อ้อลืมบอกไปว่าต้องมีค่าเข้าชมดอกไม้ด้วยค่ะ คนละ 10 บาท





เก็บภาพหมู่ดอกไม้มาฝากล้วนๆเลยค่ะ ไม่รู้จะบรรยายอะไร ให้ภาพบอกแทนแล้วกันค่ะ


อากาศเย็นสบายมากค่ะ 

ด้านบนมีร้านกาแฟค่ะ ชื่อร้าน กาแฟม้งดอยปุย


มีหลากหลายเมนูให้เลือกสรร ราคาไม่แพงค่ะ รสชาดดี



จากร้านกาแฟม้งดอยปุย เราจะมองเห็นวิวทั้งหมด คือดีมากค่ะ
จากการอยู่เชียงใหม่ในหน้าฝน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สองทำให้รู้ว่า เมฆหมอกที่หนามากขนาดนี้อีกไม่นานฝนก็ตก แต่ฝนที่ตกพร้อมเมฆหมอกเหล่านี้จะเป็นละอองฝนค่ะ ไม่ใช่ฝนเม็ดโตๆ แบบที่เคยเจอค่ะและไม่ได้ตกบริเวณนี้แต่จะตกบริเวณที่หมอกเหล่านี้ไปเยือนค่ะ ส่วนฝั่งเราก็ได้เห็นวิวดี ภาพสวยๆค่ะ 🙂

นั่งกินกาแฟ ชมบรรยากาศไปซักพัก ก็ได้เวลากลับเพื่อที่จะลงไปยังพระตําหนักภูพิงค์ต่อ เราเดินลงอีกด้านหนึ่งของร้านกาแฟค่ะ

ริมทางเดินลงจากร้านกาแฟ ด้วยความชุ่มชื้นของป่าไม้ ทำให้เห็นมอสตามโขดหินและต้นไม้มากมายค่ะ
เราจะต้องเดินอีกทางจากทางขึ้น จะมีป้ายบอก ว่าเป็นทางลงค่ะ ระหว่างทางก็มีตลาดขายของเช่นเดียวกับทางขึ้นค่ะ
ขับรถออกจากดอยปุยมาซักพัก แวะถ่ายรูปซักหน่อย เพราะตื่นเต้นกับหมอกเหล่านี้มากๆค่ะ
มีรถมา
ถ้าหากเราไม่ได้เอารถมาเองก็มีรถแดงพาเที่ยวนะคะหรือหากขับไม่เก่งไม่ชำนาญเพราะทางค่อนข้างแคบและชันนิดหนึ่งค่ะ จะเหมารถสองแถวแดงหรือมาเป็นรถโดยสารกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆก็ได้ค่ะ ตรงพระตําหนักภูพิงค์จะมีรถสองแถวแดงจอดรอเรียกนักท่องเที่ยวอยู่หลายคันค่ะ
ดูรีวิวหน้าฝนน่าเที่ยวอื่นๆ
หน้าฝนน่าเที่ยว “วัดผาลาด” ลงตัวท่ามกลางธรรมชาติ
หน้าฝนน่าเที่ยว อีกตอนวันที่สองของการเที่ยวหน้าฝนที่เชียงใหม่ แวะริมทางก่อนขึ้นดอยสุเทพ-ดอยปุย
หลายคนที่ไปเชียงใหม่จะต้องขึ้นดอยสุเทพอย่างแน่นอน เพราะเป็นสถานที่เที่ยวที่อยู่ใกล้ตัวเมืองมากที่สุด เดินทางสะดวกและง่าย แต่ไหนๆก็ไปทางนั้นแล้ว ถ้าไม่แวะ วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด ก็น่าเสียดายนะคะ เพราะที่นี่คุณจะได้เห็นการผสมผสานงานศิลปะกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืมลงตัวมากๆ ซึ่งสิ่งปลูกสร้างของที่นี่เป็นศิลปะร่วมสมัยระหว่างล้านนาและพม่า

เมื่อเห็นป้ายต้องขับรถลงไปอีก 200 เมตร
ลงจากรถปุ๊บ จะได้ยินเสียงน้ำไหล เพราะมีน้ำตกอยู่ในวัดด้วย


จะเห็นรูปปั้นช้างอยู่หลายจุดมาก คงเป็นเพราะว่าช้างมีความสำคัญในการทำให้เกิดวัดนี้ขึ้นมา จากเรื่องเล่าตามตำนานการสร้างดอยสุเทพ เล่าว่า “ในการเสี่ยงทายหาสถานที่สร้างพระธาตุ ได้ปล่อยให้ช้างเดินไป หากช้างหยุดที่ใดก็จะประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่นั่น ซึ่งช้างได้ย่อเข่าลงบริเวณที่ตั้งวัดผาลาดในปัจจุบัน แต่ก็ลุกเดินต่อไปจนถึงดอยอ้อยช้างซึ่งก็คือพระธาตุดอยสุเทพ จึงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ ณ พระธาตุดอยสุเทพ ส่วนบริเวณที่ช้างหยุดย่อเขาลงครั้งแรกก็สร้างเป็นวัดผาลาดเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสี่ยงทายหาสถานที่สร้างพระธาตุ”
พระเจดีย์ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนา ศิลปะแบบล้านนาผสมศิลปะพม่า

วิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ภายในประดิษฐานพระพุทธเจ้า 5 พระองค์



พระพุทธรูปหน้าผา เดิมคาดว่าที่ตั้งวิหารแบบพม่าที่ตั้งนิยมสร้างบนแนวผา ปัจจุบันหลงเหลือให้เห็นเพียงส่วนฐาน เคยประดิษฐานพระพุทธรูปเชียงแสน หนึ่งในนั้นคือ “พระไล่กา” ว่ากันว่าคนโบราณลงอาคมเอาไว้ในพระพุทธรูปดังกล่าว เพื่อไม่ให้อีกา สัตว์แห่งความโชคร้าย บินผ่านวัด ต่อมาถูกทำลายไปสมัยทำสงครามกับพม่า ภายหลังชาวไทใหญ่ที่อพยพลี้ภัยสงครามมาอาศัยในบริเวณนี้ได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่ แต่เป็นศิลปะแบบไทใหญ่

บ่อน้ำทิพย์ ซึ่งจากการสังเกตทำให้ทราบว่ามีการสร้างทับขึ้นหลายครั้ง จึงสันนิษฐานว่า ครั้งที่หนึ่งสร้างขึ้นโดยชาวเมืองสุโขทัย ที่ติดตามงานบุญอัญเชิญพระธาตุร่วมกับพระเจ้ากือนา เพื่อเอาน้ำไว้กิน อาบ โดยเป็นวิธีการกรองน้ำอย่างหนึ่งของคนโบราณ จะได้ไม่ต้องใช้น้ำจากลำห้วยโดยตรง ครั้งที่สองน่าจะเป็นสมัยที่พม่าครองเมืองเชียงใหม่ (ดูจากอิฐที่ปากบ่อ น้ำ) และครั้งที่สามในสมัยครูบาศรีวิชัย การสร้างมณฑปครอบบ่อน้ำนี้ เป็นประเพณีที่นิยมทำกันในถิ่นชาวไทใหญ่และทางภาคเหนือของพม่า



เดินชมความงามของศิลปะโบราณและความงามของธรรมชาติกลางป่า






ถ้าได้ผ่านไปก็อย่าลืมแวะชมความงามนะคะ “อยู่ใต้ฟ้าอย่าไปกลัวฝนค่ะ” หน้าฝนน่าเที่ยว เที่ยวเชียงใหม่กันค่ะ
ดูรีวิวหน้าฝนน่าเที่ยวอื่นๆ หน้าฝนน่าเที่ยว “ม่อนแจ่มม่วนใจ๋”
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.tripchiangmai.com/, http://www.chiangmaitouring.com/
หน้าฝนน่าเที่ยว “ม่อนแจ่มม่วนใจ๋”
ถึงช่วงนี้จะเป็นหน้าฝนหลายคนอาจจะกลัวเปียกไม่อยากออกไปไหน อยากเที่ยวแต่ก็กลัวฝน ส่วนเราคิดว่าความสวยของแต่ละฤดูคงให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปแน่นอนค่ะ เหมือนทริป “หน้าฝนน่าเที่ยว” นี้ เราเองก็อยากสัมผัสความรู้สึก อารมณ์ของการเที่ยวหน้าฝน และก็ประทับใจมากเลยต้องบอกต่อ ต้องลองค่ะ
“หน้าฝนน่าเที่ยว” ทริปแรกคือ ม่อนแจ่ม “ม่อน” หมายถึง ดอยที่มีขนาดเล็ก “ม่อนแจ่ม” ตั้งอยู่ในตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที
ม่อนแจ่มมีอากาศเย็นสบายตลอดปีและมีหมอกในยามเช้า มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ ทิวภูเขาสลับกันไกลสุดลูกหูลูกตา ยอดเขาทางทิศตะวันออกมีจุดชมวิวม่อนล่อง เหมาะสำหรับชมทิวทัศน์ของพื้นที่โครงการหลวง ส่วนทางด้านทิศใต้เป็นไหล่เขามองลงไปจะเห็นหมู่บ้านม้งหนองหอยและพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยโดยรอบ ซึ่งเป็นแปลงปลูกผักและวิจัยพืชผักเมืองหนาว เช่น อาติโช๊ค แปลงสมุนไพรเลมอนทาร์ม มิ้น คาร์โมมายด์ โรสแมรี่ ไม้ผล เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอเบอรี่พันธุ์ 80 แปลงผักไฮโดรโพนิค การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น โอ้คลีฟแดง และผักตระกูลสลัด มะเขือเทศดอยคำ ฯลฯ






















มีฝนตกลงมาเล็กน้อย เราก็หลบฝนกันใต้หลังคามุงจาก
หลังฝนตก ท้องฟ้าเปิด ฟ้าใสมากค่ะ
ระหว่างทางลงจากม่อนแจ่ม ก็มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทางให้ได้กดชัตเตอร์รัวๆ ขับมาได้สักพัก จะมีจุดชมวิวม่อนล่อง ที่สามารถแวะเพื่อชมวิว ซึ่งจากจุดนี้สามารถมองเห็นพื้นที่โครงการหลวงและหมู่บ้านม้ง






หลังจากฝนตกถนนอาจจะลื่นนิดหนึ่ง หากใครไปเที่ยวก็ขับรถด้วยความระมัดระวังด้วยนะคะ
ม่อนแจ่มถึงจะเป็นดอยขนาดเล็ก ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ไปแล้วสิ่งที่เราได้เห็นคือภาพทั้งหมดนี้ ประทับใจค่ะ ถ่ายรูปเพลินมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก http://thai.tourismthailand.org/
อาสาสร้างฝาย ชะลอรักษ์ (ชะลอน้ำ) จ.เพชรบุรี
รับสมัครอาสาสร้างฝาย ชะลอรักษ์ (ชะลอน้ำ) จ.เพชรบุรี
รายละเอียดโครงการ
วันอาทิตย์ที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘
ตั้งแต่เวลาเวลา ๐๗.๐๐ น. – ๒๐.๓๐ น.
สถานที่: วัดลิ้นช้าง ต.หนองหญ้าปล้อง เขต อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
รับสมัครอาสา: จำนวน ๕๐ ท่าน
เดินทางโดย: รถบัสพัดลม (เพื่อความพร้อมเพียงเป็นหมู
ค่าใช้จ่าย: สมทบทุนกิจกรรมท่านละ ๓๙๐ บาท
โดยแจกแจงดังนี้
- เป็นค่า เช่าเหมารถบัส
- ค่าอาหารและน้ำดื่ม ๑ มื้อ
- ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการทำฝาย
- ค่าเหมารถกระบะเข้าพื้นที่
- ค่าวิทยากรและผู้ช่วยสร้างฝ
าย (ชาวบ้านในพื้นที่) - สมทบทุนค่าน้ำค่าไฟที่วัด
เนื้องานกิจกรรม
- เรียนรู้วิธีการรักษาธรรม
ชาติและดูแลต้นน้ำของทางวัด ลิ้นช้าง - นั่งรถกระบะของชาวบ้านเข้าไ
ปในพื้นที่สร้างฝาย - แบ่งกลุ่มสร้างฝายบริเวณลำห
้วยสาขา - กิจกรรมแบบมีส่วนร่วม
สมัครเข้าร่วมกิจกรรม
เปิดรับสมัคร ตั้งแต่ บัดนี้ จนกว่าจะเต็ม
คลิกที่นี่เพื่อสมัคร https://docs.google.com/
**กรุณา กรอก ข้อมูล ให้ชัดเจนและครบถ้วนแล้ว รอ การติดต่อกลับทาง E-mail จากทีมงาน **
กำหนดการ
วันอาทิตย์ที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘
เวลา ๐๖.๐๐ น.- ๐๗.๐๐ น. ลงทะเบียน เข้าร่วมกิจกรรม บริเวณ ร้าน Cafe’ Amazon ใน ปั๊ม ปตท. สนามเป้า (ห่างจาก BTS สนามเป้า ๕๐๐ เมตร) )
เวลา ๐๗.๐๐ น.- ๑๐. ๓๐ น. ออกเดินทาง โดยรถบัสพัดลมมุ่งหน้าสู่ วัดลิ้นช้าง ต.หนองหญ้าปล้อง เขตอุทยานแห่งชาติ จ.เพชรบุรี
เวลา ๑๐.๓๐ น. – ๑๑.๔๐ น. กิจกรรมสัมพันธ์แบ่งกลุ่ม เตรียมความพร้อม
เวลา ๑๐.๔๐ น. – ๑๑.๐๐ น. ฟังบรรยายวิธีการรักษาธรรมช
เวลา ๑๑.๐๐ น. – ๑๑.๒๐ น. ออกเดินทางเข้าพื้นที่ โดยรถกระบะ ชาวบ้าน
เวลา ๑๑.๒๐ น. – ๑๒.๓๐ น. ปฏิบัติภาระกิจ สร้างฝายชะลอรักษ์
เวลา ๑๒.๒๐ น. – ๑๓.๒๐ น.พักรับประทานอาหารกลางวัน
เวลา ๑๓.๒๐ น – ๑๔.๒๐ น. เดินทางกลับสู่ วัดลิ้นช้างทำความสะอาดร่าง
เวลา ๑๔.๒๐ น. – ๑๕.๐๐ น.สรุปกิจกรรม สร้างพื้นที่การเรียนรู้ร่ว
เวลา ๑๕.๐๐ น. – ๑๖.๐๐ น แวะพักผ่อน ตลาดน้ำ น้ำตกกวางโจว
เวลา ๑๖.๐๐ น. – ๒๐.๓๐ น. เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ อย่างปลอดภัย
(กำหนดการ อาจมีการปรับเปลี่ยน ตามความเหมาะสม)
ข้อมูลเพิ่มเติม – เกี่ยวกับผู้จัดกิจกรรม
เวบไซต์ อาสาสมัคร อนุรักษ์สิ่งดีงาม
http://www.arsa-dd.com/
เพจ อาสาสมัคร อนุรักษ์สิ่งดีงาม
https://www.facebook.com/
ผลงาน การจัดกิจกรรม เพื่อสังคม และ กระบวนการงานอาสา เพื่อพัฒนาจิตใจ ในครั้งที่ผ่านๆมา
ประมวลผลภาพ ตามลิงค์นี้
http://www.youtube.com/
สอบถามเพิ่มเติม
คุณอารีย์ โพธิ์ศรี
https://www.facebook.com/
ผู้ดูแลโครงการ และประสานงาน กิจกรรม
e-mail : arsa_dd@hotmail.com
โทร ๐๘๒ – ๗๗๙ – ๒๒๕๖
รวมภาพ bento ที่ต้องคิดหนักมากก่อนจะหยิบเข้าปาก
bento (เบนโตะ) หรืออาหารกล่องสไตล์ของคนญี่ปุ่น คล้ายปิ่นโตของบ้านเราค่ะ 😉 bento เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากๆในญี่ปุ่น
วันนี้เราได้รวบรวมภาพการตกแต่ง bento น่ารักหน้าตาดี ที่หลายคนเห็นแล้วจะต้องเสียดายที่จะต้องกลืนลงคอ เพราะมันน่ารักจริงๆค่ะ

เป็นไงล่ะ หิวกันหรือยัง ว่าแต่จะกินลงจริงๆหรอ



