ศิลปินเชียงรายเยือนกระบี่ สร้างสรรค์ผลงานบนผืนผ้าใบ Chiang Rai Street Art Thailand, Krabi 2018

ศิลปินเชียงรายเยือนกระบี่ สร้างสรรค์ผลงานบนผืนผ้าใบ Chiang Rai Street Art Thailand, Krabi 2018

ศิลปินเชียงรายจำนวนกว่า 40 คน นำโดย นายสุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่เยี่ยมชมผลงานศิลปะร่วมสมัย ภายใต้งาน Thailand Biennale, Krabi 2018 ณ จังหวัดกระบี่ บริเวณพื้นที่เขาขนาบน้ำ เกาะกลาง สวนสาธารณะธารา อ่าวนาง หาดนพรัตน์ธารา อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี และปิดท้ายค่ำวันที่ 8 ก.พ. 2562 ด้วยการขึ้นเวทีการแสดง ณ ถนนคนเดิน จังหวัดกระบี่ เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมแถลงข่าวและการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ Chiang Rai Street Art Thailand, Krabi 2018 บนผืนผ้าใบ ขนาด 100×3 เมตร  ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 9 ก.พ. 2562 เวลา 13.30 น. ณ บริเวณพื้นถนนอุตรกิจ หน้าลานปูดำ จังหวัดกระบี่ ในการนี้ นายสมโภช โชติชูช่วง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วนนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ , นายบุญเลิศ คำดี รองผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และนายสุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ จังหวัดเชียงราย เข้าร่วมการแถลงข่าว เกี่ยวกับงานศิลปะชิ้นประวัติศาสตร์ ที่จะเกิดขึ้น ณ จังหวัดกระบี่ โดยกิจกรรมการวาดภาพบนผืนผ้าใบได้ดำเนินต่อเนื่องจากเช้าวันเสาร์ที่ 9 ก.พ. 2562 ไปจนถึงเย็นวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 โดยมีประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมวาดภาพกับศิลปินได้ ตลอดทั้งสองวันอย่างคึกคัก ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านศิลปะระหว่างกันและประสานสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างสองเมืองศิลปะ คือจังหวัดเชียงรายและจังหวัดกระบี่  อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน ประชาชนทั่วไปที่สนใจ ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์ด้านศิลปะร่วมกับกลุ่มศิลปินอีกด้วย  

แคสเปอร์สกี้ แลป เผยอันดับผู้ใช้ออนไลน์ไทย ‘ปลอดภัยกว่า-ดีกว่า’ ประเทศเพื่อนบ้าน

แคสเปอร์สกี้ แลป ประกาศรายงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ล่าสุดประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2018 ซึ่งเป็นรายงานข้อมูลวิเคราะห์เรื่องการโจมตีผ่านเว็บ ภัยคุกคามทั่วไป และแหล่งที่มาของภัยคุกคาม รายงานเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ แลป สามารถสกัดกั้นภัยไซเบอร์ผ่านเว็บที่คุกคามผู้ใช้ในประเทศไทยได้มากกว่า 5 ล้านรายการ ในช่วงระยะเวลาเพียงสามเดือนที่ผ่านมา

 

จากข้อมูลของ Kaspersky Security Network หรือ KSN พบว่าในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม ปี 2018 ผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ แลป สามารถสกัดกั้นภัยไซเบอร์ผ่านเว็บที่คุกคามคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ในประเทศไทยได้ทั้งสิ้น 5,677,465 รายการ คิดเป็นผู้ใช้จำนวน 22.8% ที่โดนโจมตีโดยภัยคุกคามผ่านเว็บ ทำให้ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 75 ของโลกที่โดนโจมตีขณะใช้งานอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็จัดอยู่ในอันดับที่แตกต่างกันไป ดังนี้ ฟิลิปปินส์อันดับที่ 13 มาเลเซียอันดับที่ 24 อินโดนีเซียอันดับที่ 35 เวียดนามอันดับที่ 58 และสิงคโปร์อันดับที่ 142

 

Kaspersky Security Network หรือ KSN เป็นระบบที่รวมเทคโนโลยีคลาวด์ไว้ในผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรและผู้ใช้ทั่วไปของแคสเปอร์สกี้ แลป KSN จะวิเคราะห์ข้อมูลความปลอดภัยไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์หลายล้านคนทั่วโลกที่สมัครใจร่วมส่งข้อมูลให้ KSN ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถตรวจจับมัลแวร์ขั้นสูงและมัลแวร์ใหม่ที่ไม่รู้จักมาก่อนได้อย่างรวดเร็วที่สุด

 

สถิติของ KSN ในปี 2018 พบว่า ในไตรมาส 3 (เดือนกรกฎาคม-กันยายน) มีผู้ใช้ในไทยถูกโจมตีด้วยภัยคุกคามผ่านเว็บจำนวน 24.3% และจัดอยู่ในอันดับที่ 68 ของโลก ขณะที่ไตรมาส 2 (เดือนเมษายน – มิถุนายน) อยู่ในอันดับที่ 70 และไตรมาส 1 (เดือนมกราคม – มีนาคม) อยู่ในอันดับที่ 61 ของโลก

 

นางสาวเบญจมาศ จูฑาพิพัฒน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของแคสเปอร์สกี้ แลป กล่าวว่า “ข้อมูลจาก Kaspersky Security Network ของเราแสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้ในประเทศไทยนั้นมีความปลอดภัยมากขึ้นในด้านการถูกโจมตีออนไลน์และภัยคุกคามทั่วไปเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้ใช้ตระหนักว่าการโจมตีไซเบอร์นั้นมีอยู่จริงและไม่มีอะไรที่ปลอดภัย 100% ประเทศไทยกำลังเติบโตด้านโครงสร้างไอซีทีอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจึงจำเป็นต้องปกป้องตนเองเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมออนไลน์ที่มีความเสี่ยงก่อนที่จะสายเกินไป เพราะไม่มีใครที่จะปลอดภัยจากภัยคุกคามที่จ้องสร้างความเสียหายแน่นอน”

 

ตัวเลขสถิติไตรมาส 4 ปี 2018 ของประเทศไทยที่น่าสนใจ

ภัยคุกคามผ่านเว็บ

  • ผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ แลป สามารถตรวจจับและสกัดภัยคุกคามผ่านเว็บได้ 5,677,465 รายการ จากคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ที่ร่วมกับ KSN
  • ผู้ใช้จำนวน 8% ถูกโจมตีด้วยภัยคุกคามผ่านเว็บ
  • ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 75 ของโลกที่โดนโจมตีขณะใช้งานอินเทอร์เน็ต

ภัยคุกคามทั่วไป

  • ผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ แลป สามารถตรวจจับและสกัดภัยคุกคามทั่วไปได้ 23,742,571 รายการ จากคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ที่ร่วมกับ KSN
  • ผู้ใช้จำนวน 9% ถูกโจมตีด้วยภัยคุกคามทั่วไป
  • ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 79 ของโลก

แหล่งที่มาของภัยคุกคาม

  • มีเหตุการณ์ที่เกิดจากเซิฟเวอร์ในประเทศไทยทั้งสิ้น 169,937 เหตุการณ์ คิดเป็นสัดส่วน 02% จากทั่วโลก
  • ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 40 ของโลก
  • ประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับ 1 คิดเป็นตัวเลขสัดส่วน 12%

 

ข้อมูลนี้ แคสเปอร์สกี้ แลป ได้รับจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ แลปที่อนุญาตให้ KSN ด้วยความสมัครใจ ผู้ใช้ จำนวนหลายล้านคนจาก 213 ประเทศทั่วโลก ได้เข้าร่วมการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อวิเคราะห์กิจกรรมมุ่งร้ายทางไซเบอร์ ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากรายงาน Global Kaspersky Security Bulletin for Q4 2018 ได้ที่เว็บ Securelist.com

 

แคสเปอร์สกี้ แลป เตือนนายจ้างระวังลูกจ้างเก่าที่คับแค้นแน่นอก ใช้ช่องทางเพื่อแก้แค้นทางไซเบอร์

การเปลี่ยนลูกจ้างนับเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ แต่ในบางกรณีก็ส่งผลร้ายที่แสนเจ็บปวดได้ ลูกจ้างเก่าที่ออกจากบริษัทไปแล้วอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและการเงินของบริษัทได้เช่นกัน แคสเปอร์สกี้ แลป ขอยกเหตุการณ์และวิธีป้องกันลูกจ้างเก่าที่หมายแก้แค้นทางไซเบอร์ต่อบริษัท ดังนี้

 

พาสเวิร์ดมูลค่า 2 แสนเหรียญสหรัฐ

 

ในปี 2016 นายทริโน วิลเลียมส์ ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีได้ยื่นเอกสารร้องเรียนต่อนายจ้าง คือ สถาบัน American College of Education เรื่องการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ จากนั้นไม่นานก็มีคำสั่งโยกย้ายให้ไปทำงานที่ออฟฟิซในเมืองอื่น ซึ่งนายทริโนได้ปฏิเสธคำสั่งนี้เพราะได้แจ้งเงื่อนไขการทำงานทางไกล หรือ teleworking ตั้งแต่แรกเข้าทำงาน ท้ายที่สุดนายทริโนก็ต้องออกจากงานและแม้จะได้รับสินไหมทดแทนก็ไม่พอใจอย่างมาก จึงตัดสินเอาคืนนายจ้างด้วยการเปลี่ยนพาสเวิร์ดของบัญชี Google ทำให้สถาบันไม่สามารถเข้าใช้งานบัญชีเพื่อส่งอีเมลและเอกสารให้นักเรียนกว่า 2 พันคนได้

 

นายทริโนอ้างว่าพาสเวิร์ดนี้เซฟอัตโนมัติเองในแล็ปท็อปที่ใช้ทำงานของเขา ซึ่งได้ส่งคืนหลังจากถูกไล่ออกทันที แต่ทางนายจ้างระบุว่า นายทริโนลบข้อมูลทุกอย่างในเครื่องทั้งหมดก่อนส่งคืน

 

นายจ้างจึงได้ติดต่อ Google เพื่อขอกู้คืนบัญชีนี้ แต่กลายเป็นว่าบัญชีอีเมลนี้จดทะเบียนเป็นบัญชีส่วนบุคคลของนายทริโน ไม่ใช่บัญชีของสถาบัน ทนายของนายทริโนได้กล่าวเป็นนัยๆ ว่า นายทริโนอาจจะจำพาสเวิร์ดได้หากสถาบันจ่ายเงิน 2 แสนเหรียญ พร้อมจดหมายรับรองการทำงานในแง่บวก

 

การโจมตีต่อหน้าต่อตา

 

นายริชาร์ด นีล ผู้ก่อตั้งร่วมและอดีตผู้อำนวยการฝ่ายไอทีของบริษัทด้านความปลอดภัยไอทีชื่อ Esselar ต้องออกจากบริษัทแบบจบไม่สวยและใช้เวลานาน 6 เดือนเพื่อวางแผนแก้แค้นเพื่อให้เพื่อนร่วมงานเก่าเสียชื่อเสียง นายริชาร์ดรอถึงวันที่บริษัท Esselar ถึงกำหนดสาธิตเซอร์วิสให้ลูกค้ารายใหญ่ชื่อ Aviva ในวันนั้นเองนายริชาร์ดได้แฮ็กโทรศัพท์มือถือของพนักงานบริษัท Aviva กว่า 900 เครื่องและลบข้อมูลทั้งหมด

 

เหตุการณ์นี้ทำให้ Aviva ยกเลิกธุรกิจและเรียกร้องเงิน 7 หมื่นปอนด์เป็นค่าเสียหาย แต่มูลค่าความเสียหายโดยรวมทั้งด้านชื่อเสียงและโอกาสทางธุรกิจของ Esselar นั้นคาดว่าสูงถึง 5 แสนปอนด์ ทำให้บริษัทต้องดำเนินการปรับเปลี่ยนแบรนด์เพื่อความอยู่รอด

 

การลบข้อมูลฉับไวและเสียหายสาหัส

 

ไม่เพียงแต่ลูกจ้างเก่าเท่านั้นที่อันตราย อีกเหตุการณ์หนึ่งที่น่าสนใจนั้นเกิดจากพนักงานที่สงสัยว่าตัวเองจะโดนไล่ออก นางสาวแมรี่ ลูเป้ คูลี่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการของบริษัทสถาปนิกแห่งหนึ่ง ได้บังเอิญไปเห็นประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งของเธอ ซึ่งมีข้อมูลให้ติดต่อเจ้านายของเธอหากสนใจสมัครงาน

 

นางสาวแมรี่คาดว่าตัวเองกำลังจะโดนไล่ออก จึงได้ลบข้อมูลโครงการต่างๆ ย้อนหลังไปถึง 7 ปีทิ้งหมด ทำให้บริษัทเสียหายราว 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่แท้จริงแล้ว ประกาศรับสมัครงานนั้นเป็นประกาศของบริษัทอื่นที่คู่สมรสของเจ้านายฝากให้ติดต่อแทนนั่นเอง

 

วิธีการป้องกันการตกเป็นเหยื่อการแก้แค้นทางไซเบอร์

 

เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกจ้างเก่าสร้างความเสียหายแก่ระบบโครงสร้างไอทีของบริษัท แคสเปอร์สกี้ แลป ขอแนะนำบริษัทให้ปฏิบัติดังนี้

  • เก็บล็อกสิทธิ (right) ด้านไอทีของพนักงาน รวมถึงบัญชีและรีซอร์สที่พนักงานเข้าใช้งาน ให้สิทธิเพิ่มเติมอื่นๆ เฉพาะเมื่อพนักงานจำเป็นต้องใช้เท่านั้น
  • รีวิวและปรับปรุงรายการ right ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ และยกเลิก permission ที่เก่าหรือหมดอายุใช้งาน
  • จดทะเบียนรีซอร์สของบริษัทด้วยชื่อที่อยู่ของบริษัทเท่านั้น ไม่ว่าบัญชีแบบบุคคลทั่วไปจะมีสิทธิประโยชน์แบบไหน หรือพนักงานคนนั้นน่าเชื่อถือเพียงใดก็ตาม โปรดระลึกไว้เสมอว่าความสัมพันธ์เชิงธุรกิจย่อมเป็นธุรกิจทุกอย่าง โดเมนเนม บัญชีโซเชียลมีเดีย แดชบอร์ดควบคุมเว็บไซต์ ควรเป็นทรัพย์สินของบริษัท และการยกการควบคุมดูแลให้พนักงานถือเป็นการไม่มองการณ์ไกล
  • ปิดกั้นสิทธิการเข้าถึงและบัญชีของพนักงานเก่าโดยเร็วที่สุด ถ้าเป็นไปได้ คือปิดทันทีที่เลิกจ้าง
  • ไม่เปิดเผยเรื่องการเลิกจ้างหรือการปรับปรุงโครงสร้างบริษัท และระลึกว่าการประกาศรับสมัครพนักงานในตำแหน่งเฉพาะเจาะจงนั้นอาจมีพนักงานพบเห็นได้
  • พยายามรักษาความสัมพันธ์อันดีกับพนักงานทุกคน สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีและเป็นมิตร การโจมตีทางไซเบอร์จากพนักงานเก่านั้นมักมีสาเหตุจากความคับแค้นใจมากกว่าความละโมบ

 

ไม่แวะฮานอย ไม่ไปฮอยอัน! อิ่มแบบเฮลท์ตี้ กับอาหารเวียดนามกลางกรุงที่ Viet Concept

ยุคนี้ใครๆก็พากันใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ซึ่งอาหารเวียดนามก็เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่ได้ชื่อเฮลท์ตี้สุดๆ เพราะขึ้นชื่อในเรื่องผัก และวัตถุดิบจากท้องถิ่น วันนี้เราขอแนะนำร้านอาหารเวียดนามสายพันธุ์ใหม่ ที่ไม่ต้องบินไปไกลที่ฮานอย ไม่ต้องแวะฮอยอัน เพราะอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็อิ่มอร่อยได้ที่นี่ Viet Concept (เวียด คอนเซ็ปต์) ร้านอาหารแนวฟิวชั่นผสมผสานความเป็นเวียดนามและไทยได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ

พิกัดร้านอยู่ใน Glowfish Dining Hall ชั้น 2 ของตึกสาทรธานี 2 เป็น Co-Working Space น้องใหม่ของกรุงเทพ พื้นที่กว้างขวาง จะนั่งเม้าท์มอยกับกลุ่มเพื่อน หาทีมขายตรง ติวหนังสือ ทำโปรเจค ป.โท นัดประชุมลูกค้า หรือนั่งชิลๆกับคนรู้ใจก็ไม่มีปัญหา ที่สำคัญคือเดินทางสะดวกมากกกก มาด้วย BTS ก็ลงสถานีช่องนนทรี ทางออก 2 ก็ถึงเลย หรือใครจะจับรถมาก็มีที่จอดสะดวกรองรับได้เยอะเช่นกัน

เดินเข้ามาด้านในก็จะเจอหน้าร้าน Viet Concept ที่ตกแต่งได้อย่างเวียดน๊าม เวียดนาม มีแม่หญิงใส่ชุดชุดอ๋าวหญ่าย แล้วก็หมวกเวียดนามอันเป็นเอกลักษณ์ แถมมีให้ลูกค้าได้ใส่ถ่ายรูปเช็คอินชิคๆด้วยนะ

มาถึงเมนูอร่อยของทางร้านกันดีกว่า

เฝอแห้งหมู

เส้นเฝอจากเวียดนาม เหนียวนุ่มอร่อยมากกกก สาบานเลยว่าไม่เคยกินเส้นเฝอแบบนี้มาก่อน ทำจากข้าวเจ้าล้วนๆไม่มีอะไรเจือปน แอบคล้ายเส้นบะหมี่เลย แต่รับประกันว่าแคลน้อยกว่า ปรุงในสไตล์เฝอแห้ง แปลกใหม่ หอมกระเทียมเจียว คลุกเคล้าซอสสูตรเฉพาะ อร่อยกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมน้ำซุป คล่องคอ หมูเด้งกับหมูยอก็งานดีมาก หมูล้วนๆไม่มีแป้งผสม

เฝอต้มยำ

เฝอฟิวชั่น ลูกครึ่ง ไทย-เวียดนาม สีจี๊ดจ๊าดแค่เห็นก็แซ่บมาเลย ถ้าไม่บอกว่าเฝอก็เนียนเป็นราเมนได้เลยนะเนี่ย ชามนี้ปรุงด้วยเครื่องต้มยำเข้มข้นสูตรพิเศษและเส้นเฝอต้นตำรับแบบเวียดนามแท้ๆ ถือความแตกต่างที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ฉีกทุกกฎของเฝอ และลืมภาพจืดๆที่เราเคยรู้จักไปโดยปริยาย

ก๋วยจั๊บญวนหมูต้มยำน้ำใส

เปลี่ยนจากเส้นเฝอมาชิมเส้นก๋วยจั๊บญวนกันบ้าง เด็ดไม่แพ้กันเลยทีเดียว เพราะเส้นนุ่มได้อีก เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปใสสไตล์ต้มยำแท้ๆ ขนมาทั้งสวนพริกขิงข่าตะไคร้ เข้นข้นจัดจ้านพริก 10 เม็ด เหมือนต้มยำกุ้งแซ่บๆเลยล่ะ แล้วยังจัดเต็มทั้งหมูสันในไร้มัน ซี่โครงหมู และหมูยอ

สปาเก็ตตี้พริกกระเทียมแหนมเนือง

ปิดท้ายเมนูเส้น เปลี่ยนแนวมาทางฝั่งตะวันออก กับเส้นสปาเก็ตตี้ ที่รับประกันเหนียวนุ่ม ผัดกับพริกแห้งและกระเทียมจนหอมจัดเต็มด้วยแหนมเนืองหมูล้วนแน่นๆ เป็นอาหารฟิวชั่นที่เก๋กู๊ดมากเลยค่า

แหนมเนือง Platter

บอกว่ากินแหนมเนืองเฉยๆก็ธรรมดาไป ต้องเติมคำว่า Platter เพิ่มความไฮโซได้ 10 ระดับ ทางร้านคอนเฟิร์มว่าเป็นสูตรต้นตำรับจากเวียดนาม พร้อมผักปลอดสารพิษคุณภาพและแผ่นแป้งเหนียวนุ่ม ที่เรากล้าสาบานเลยว่านุ่มจริง แค่แช่น้ำแปปเดียวก็เอาขึ้นได้เลย แล้วก็เป็นแผ่นแป้งสีขาวใส ต่างจากร้านอื่นๆที่มักเป็นสีขาวขุ่น เพราะทางร้านนำเข้ามาจากเวียดนามโดยตรง

แถมเสิร์ฟกับสลัดปลอดสารพิษนะจ๊ะ อย่างผักกรีนโอ๊ค เร้ดโอ๊ค ไม่ใช่ผักกาดหอมไก่กาอาราเล่ แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์แหนมเนืองแบบออริจินอลมี ผักแพว กล้วยดิบ แตงกวา มะม่วง พริก กระเทียม ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ดและตัวแหนมเนืองหมูล้วนไร้แป้ง กินแล้วหนึบหนับของ Viet Concept

กุ้งพันอ้อย

ปิดท้ายที่เมนูยอดฮิตของอาหารเวียดนาม อย่างกุ้งพันอ้อย ที่ทางร้านคิดค้นสูตรไร้แป้ง ทำจากกุ้งแท้ๆ และวัตถุดิบคุณภาพ ทอดจนกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่น้ำจิ้มสูตรพิเศษ และเส้นหมี่ หอมเจียว อร่อยเริ่ด

นอกจากจะอิ่มที่ร้านแล้ว ทาง Viet Concept ยังมี แหนมเนือง Box Set ให้หิ้วกลับไปอร่อยที่บ้านกันต่อด้วย

แค่แพ็กเกจก็กิ๊บเก๋แล้ว เปิดดูข้างในจะเจอแหนมเนืองหมูล้วน จัดเต็มถึง 5 ไม้ พร้อมเครื่องเคียงแน่นๆ ผักกรีนโอ๊ค เร้ดโอ๊คปลอดสารพิษ แผ่นแป้งเหนียวนุ่มส่งตรงจากเวียดนาม และน้ำจิ้มสูตรเด็ด บรรจุในกล่องสวยงาม และที่ชอบมากคือเครื่องเคียงอย่าง กล้วยดิบ แตงกวา มะม่วง พริก กระเทียม ทางร้านจะหั่นแพ็คใส่ถุงให้เรียบร้อย พร้อมทานได้ทันที สะดวกสุดๆไปเลย

สำรวจราคากันหน่อย

เฝอแห้งหมู 135 บาท

ก๋วยจั๊บญวนหมูต้มยำน้ำใส 145 บาท

เฝอต้มยำ 160 บาท

แหนมเนือง Platter 280 บาท

กุ้งพันอ้อย 190 บาท

สปาเก็ตตี้พริกกระเทียมแหนมเนือง 135 บาท

แหนมเนือง Box Set 300 บาท

บอกเลยว่าราคาน่าคบมาก ไม่ต้องจ่ายแพงก็อิ่มได้ มีเมนูให้เลือกเพียบเลย แถมมีบริการเดลิเวอรี่ อยู่ที่ไหนก็อร่อยได้แบบเฮลท์ตี้ แต่หากอยากได้อรรถรสอย่าลืมแวะไปชิมกันที่ร้าน มีเจ้าของร้านสุดสวย คุณไดน่า-มนนิการ์ ซิงห์ รอต้อนรับอยู่จ้า

 

เปิด: ทุกวันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 10:00 – 20:00 น.

พิกัด: ภายใน Glowfish Dining Hall ชั้น 2 ตึกสาทรธานี 2 (รถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี ทางออก 2)

โทร. 098 898 1998

Facebook: www.facebook.com/vietconcept

Instagram: Vietconcept

Line@: @vietconcept

 

วันเดย์ทริปใกล้กรุง แวะกินอาหารทะเลที่อ่างศิลากับร้าน ‘มงคลฟาร์ม’

วันเดย์ทริปชิลๆที่อ่างศิลา ใกล้กรุงเทพแค่นิดเดียว แวะมากินอาหารทะเลอร่อยๆกัน! ฮอตสุดต้องร้านมงคลฟาร์ม รสจัดจ้าน ของสดมาก ราคามิตรภาพ

กรรเชียงปูนึ่งเนื้อหวานมาเลย

กุ้งเผาไซส์10ตัวโล เนื้อกุ้งเด้งมาเลย สดหวานมาก น้ำจิ้มแซ่บ

ยำไข่ปู ไข่ปูมาเต็ม มะม่วงเปรี้ยวกำลังดี น้ำยำครบรส

ปลากระทงทอดน้ำปลา ปลาสดทอดดีไม่แห้งไม่แข็ง กรอบนอกนุ่มใน คัดไซส์มาโดยเฉพาะ

ต้มยำปลาเก๋า จี๊ดจ๊าด ปลาเนื้อแน่น สด ไร้ก้าง

รวมๆแล้วอาหารรสมือดี จัดจ้านมาก กินเปล่าๆไม่ได้เลยเพราะจะเค็ม (ขนาดกินกับข้าวก็ยังเข้มข้น) แถวอ่างศิลาเลียบชายทะเล มีร้านอาหารทะเลเยอะเนอะ แต่ร้านนี้ฮอตติดTop3 คนไปกินเยอะมาก ไปตอนพีคๆต้องรอคิวเด้อ

พิกัด: มงคลฟาร์ม อ่างศิลา ถนนเลียบชายทะเลอ่างศิลา ต.อ่างศิลา อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี (มีที่จอดรถหน้าร้าน)

เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10.00 – 19.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)

เบอร์โทร :  081-399-3833

ไต้หวันวันไร้ฝน ทอดน่องดูโคมแดง ตามรอย Spirited Away ที่เมืองโบราณ ‘จิ่วเฟิ่น’ (九份)

ใครที่เคยดู Spirited Away ต่างต้องประทับใจกับโลกวิญญาณของการ์ตูนเรื่องนี้ ซึ่งแรงบันดาลใจของโลกวิญญาณนี้ก็คือเมือง ‘จิ่วเฟิ่น’ นี่เอง ทั้งโคมแดงตามทางเดิน หรือเมืองที่เป็นขั้นบันไดตามเนินเขา ใครมาเที่ยวที่นี่ต้องนึกถึงบรรยากาศของ Spirited Away แน่นอน

‘จิ่วเฟิ่น’ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมในหมู่ชาวไทยมาก จนบางร้านถึงกับมีป้ายเป็นภาษา เช่น ร้านขนมบัวลอย ที่ใครมาที่นี่ต้องแวะชิม ซึ่งก็อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ อีกอย่างคือไอติมถั่วตัดผักชี ที่ไม่น่าเชื่อว่าผักชีกับไอติมจะไปด้วยกันได้ (ชิมมาแล้ว^^)

นอกจากจะมีวิวเมืองบนเขา มีโคมแดง มีร้านอาหารอร่อยๆแล้วนั้น ก็ยังมีวัด มีวิวทางธรรมชาติ มองออกไปเห็นทะเล อีกต่างหาก ใครมีแพลนไปไต้หวัน แนะนำว่าห้ามพลาด ‘จิ่วเฟิ่น’ กันนะครับ