พลังงานยั่งยืนสีเขียว ที่คุณมีส่วนร่วมสร้างได้ หอการค้านานาประเทศ จับมือจัดงานสัมมนาเพื่อความยั่งยืน “Multi-Chamber Sustainability for Business Forum 2019”

เป็นที่ทราบกันดีว่า การใช้พลังงานเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศในภูมิภาคนี้ ความต้องการพลังงานสูงสุดมาพร้อมจากการก่อสร้างอาคาร การคมนาคม และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นต้องพึ่งแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลัก ภาครัฐนั้นนับเป็นหน่วยงานสำคัญในการวางกฎระเบียบและเครื่องมือทางการเงินเพื่อเตรียมรับการเปลี่ยนแปลง แต่ภาคธุรกิจเป็นฝ่ายที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างการดำเนินงาน หากเรามุ่งหวังให้เกิดมาตรการจำเป็นในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เราจำเป็นจะต้องกระตุ้นให้อาเซียนก้าวกระโดดไปสู่การผสมผสานการใช้พลังงานที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

 

การรักษาอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นให้ต่ำกว่าระดับที่กำหนด 2 องศาเซลเซียส ในทางเทคนิคแล้วนั้นสามารถทำได้ แต่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ได้แต่ การคมนาคม การก่อสร้าง อุตสาหกรรม และพลังงาน ในการปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจและใช้แนวปฏิบัติที่ได้ผลดีที่สุด

ในงานสัมมนาเพื่อความยั่งยืน งาน Multi-Chamber Sustainability For Business Forum 2019 (SBF19)” ที่จัดโดยหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย (FTCC) ร่วมมือกับหอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย และหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย และได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ องค์การมหาชน (สสปน.) ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับผู้ประกอบการธุรกิจหลากหลายสาขาที่ประสบความสำเร็จและทรงอิทธิพลในการสร้างแรงบันดาลใจ ที่จะมานำเสนอและแบ่งปันข้อมูล นวัตกรรม กลยุทธ์ทางธุรกิจ ตลอดจนแนวปฏิบัติที่น่าสนใจ และเทรนด์ล่าสุดด้านการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ โดยวิทยากรและผู้บรรยายทุกท่านจะร่วมกันส่งต่อแนวคิดอันเฉียบคมในการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน เพื่อผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมของบุคลากรภายในองค์กร อีกทั้งสร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่ดีให้กับบริษัท ไปจนถึงเพิ่มความได้เปรียบทางธุรกิจ

 

หนึ่งในหัวข้อการอภิปรายที่น่าสนใจและเป็นหนึ่งในหัวข้อหลักของงานนี้ คือ “Green Energy Transition” ซึ่งมีผู้ร่วมอภิปรายประกอบด้วย นายอูโก ซีกฟรีด เบอร์นาล (Mr. Ugo Siegfried Bernal) Senior Business Manager บริษัท Symbior Solar ผู้ออกแบบและให้บริการเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าแทนการใช้ก๊าซและถ่านหิน นายไฮน์ โอมอง (Mr. Hein Oomen) Head of Asia-Pacific บริษัท ENGIE Solar ผู้ผลิตพลังงานใหญ่ที่สุดในโลก มีอัตราการผลิตเต็มกำลังการผลิตติดตั้งที่ 103 กิกะวัตต์ และนางสาวอนุลักษณ์ จั่นยาว EHS supervisor บริษัท บริษัทเอสไอจี คอมบิบล็อค ประเทศไทย เจ้าของเกียรติบัตรฉลากทองลดโลกร้อน ในฐานะผู้ประกอบการแบบอย่างที่ดีจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยเนื้อหาจะมุ่งเน้นที่การนำเสนอและแบ่งปันกลยุทธ์และวิธีดำเนินการในการปรับเปลี่ยนเป็นบริษัทพลังงานสีเขียวในภูมิภาคอาเซียน

 

นอกจากนี้ ยังมีหัวข้อหลักอีก 4 หัวข้อที่นำมาอภิปรายภายในงาน คือ มลภาวะและของเสีย (Pollution& Waste) การศึกษาในที่ทำงาน (Education at the Workplace) สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Well Being) และการทำการตลาดจากจัดงานอย่างยั่งยืน (Marketing)

 

นายอองรี เดอเรอบุล ประธานคณะทำงานร่วมระหว่างหอการค้าต่างประเทศด้านความยั่งยืน (Multi-Chamber Sustainability Committee) กล่าวว่า “ปัจจุบันในภูมิภาคอาเซียนนั้นมีโครงการล้ำหน้ามากมายที่พยายามพัฒนานวัตกรรม ระบบ และเทคโนโลยีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อการใช้พลังงานที่ไม่ผลิตคาร์บอน การกระจายข้อมูล และการปรับระบบทำงานของตลาดพลังงานสู่ระบบดิจิทัล (Decarbonize, Decentralize and Digitalize) ซึ่งการพัฒนาอย่างยั่งยืนนี้ จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เราขอเชิญชวนองค์กรที่มีบทบาทหลักในวงการเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง เพื่อช่วยกันพัฒนาระบบการจัดเก็บแบตเตอรี่ พลังงานทางเลือก การผลิตพลังงานหมุนเวียน ระบบการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน และเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ เป็นต้น”

 

หลากหลายคำถามที่ท่านต้องการคำตอบ โซลูชั่นสำหรับตลาดพลังงานคืออะไร สามารถนำมาใช้ในภูมิภาคอาเซียนเพื่อผลักดันการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานได้อย่างไร เราจะเร่งให้เกิดเศรษฐกิจสีเขียวได้อย่างไร ภาคธุรกิจหลักจะมีส่วนในการปรับเปลี่ยนและสังคมคาร์บอนต่ำอย่างไร ท่านสามารถพบคำตอบได้ที่งาน “Multi-Chamber Sustainability for Business Forum 2019” จะจัดขึ้นวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ณ โรงแรมเมอเว่นพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพฯ ถนนวิทยุ

 

ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

https://www.francothaicc.com/en/events/events-calendar/e/event/sustainability-for-business-forum-2019.html

ซีเมนส์ จัดงาน SPACe กระชับสัมพันธ์กลุ่มลูกค้าไทย ผู้ใช้โซลูชั่นของซีเมนส์

  • SPACe คืองานสัมมนาที่จัดขึ้นทุกๆ สองปี ในหัวข้อที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี กรณีศึกษาและการนำเสนอข้อมูลจากวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจากหลากหลายอุตสาหกรรมในกระบวนผลิต

  • การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ SIMATIC PCS 7 Version 0 ซอฟต์แวร์ระบบควบคุมกระบวนการผลิตอัจฉริยะในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเสริมความสามารถให้กับผู้ผลิตในประเทศในการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในตลาดได้รวดเร็วและยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าเดิม

 

ซีเมนส์ ผู้นำการคิดค้นนวัตกรรมด้านระบบจัดการกระแสไฟฟ้า ระบบสั่งการทำงานอัตโนมัติและดิจิทัล เป็นเจ้าภาพจัดงาน Siemens Process Automation Conference & Exhibition (SPACe) ที่กรุงเทพเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 100 คน ประกอบด้วยลูกค้าผู้ใช้งาน พันธมิตรธุรกิจ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจากซีเมนส์

 

SPACe คือรูปแบบของงานสัมมนาที่ได้รับความสนใจจากส่วนต่างๆ ของโลก มีผู้เข้าร่วมงานเพื่อมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อแนวโน้มและความท้าทายที่กำลังท้าทายอุตสาหกรรมการผลิต โดยจะจัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกสองปี ประกอบด้วย การนำเสนอข้อมูลและนวัตกรรมเทคโนโลยี รวมถึงการเปิดตัวและจัดแสดงผลิตภัณฑ์ เช่น การสัมมนาในหัวข้อที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมและระบบเครือข่าย ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ผู้ที่ใช้งานระบบอยู่แล้วและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีโอกาสได้สัมผัสกับระบบที่ใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม และประสบการณ์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมสัมผัสกับเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดที่ซีเมนส์นำมาจัดแสดงสาธิตอีกด้วย

 

สำหรับงาน SPACe ในปีนี้ได้จัดให้ครอบคลุมถึง 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในระยะเวลา 3 เดือน ภายใต้แนวคิด “Driving the Digital Enterprise in Process Industries of Southeast Asia” โดยมีเป้าหมายที่การนำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมให้แต่ละตลาด และประเภทอุตสาหกรรม ตั้งแต่กระบวนการและการทำงานที่มีความเฉพาะตัว ในการควบคุมการเปลี่ยนแปลงและผลักดันธุรกิจให้บรรลุไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ในงานสัมมนา ได้มีการนำเสนอหัวข้อ “การปรับกระบวนผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ สู่ระบบดิจิทัล” “โซลูชั่นจากซีเมนส์สำหรับอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และเหมืองแร่” และ “ระบบสื่อสารไร้สายและรักษาความปลอดภัยเครือข่ายสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต” จากผู้เชี่ยวชาญของซีเมนส์ด้วย

 

ดร. ฟรีดเฮล์ม ไกเกอร์ หัวหน้าแผนก Process Automation Engineering ASEAN บริษัท ซีเมนส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “SPACe เป็นงานที่ช่วยให้เราได้เข้าถึงและเสริมสร้างสมรรถนะความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มลูกค้าผู้ใช้โซลูชั่นต่างๆ ของซีเมนส์ และยังเป็นเวทีเปิดกว้างในการแบ่งปันความรู้ประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรมระบบจัดกระบวนการผลิตอัตโนมัติ ในหลายปีที่ผ่านมานั้น เราได้เห็นผู้คนในอุตสาหกรรมนี้ร่วมมือกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งได้นำไปสู่การสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจ และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ซีเมนส์ได้ขยายจำนวนประเทศให้ครอบคลุมมากขึ้นในปีนี้ และหวังที่จะเห็นการรวมตัวเช่นนี้จากหลากหลายประเทศทั่วภูมิภาค และยังเป็นการรุกหาพันธมิตรธุรกิจเพื่อช่วยส่งเสริมศักยภาพให้แก่อุตสาหกรรมนี้รุดหน้าต่อไป”

 

นอกจากนั้นยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาให้กับผู้ใช้งานขึ้นในแต่ละประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในภาคอุตสาหกรรม

 

ภายใต้แนวคิดของงานส่วนแสดงสินค้านั้น ซีเมนส์ ยังได้ทำการเปิดตัว SIMATIC PCS 7 Version 9.0 ซอฟต์แวร์ระบบควบคุมกระบวนการผลิตเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทย ซึ่ง PCS7 เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดที่แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว และยังมั่นใจได้ถึงเสถียรภาพของระบบในการดำเนินการผลิตอย่างต่อเนื่อง และ Version 9.0 ได้รับการออกแบบให้รองรับ Profinet ซึ่งเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมด้านระบบการเชื่อมต่อเครือข่ายสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต ที่มาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลแยกอิสระถึง 2 ช่อง เพื่อรองรับกระบวนการทำงานแบบดิจิทัลในระดับการทำงานของระบบการผลิต และยังได้เพิ่มลักษณะการทำงานใหม่ให้ซอฟต์แวร์ ทำให้การทำงานภายในโรงงานนั้นมีประโยชน์มากขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น มีความสะดวก และยังมั่นใจได้ว่าระบบจะพร้อมรับกับอนาคต สามารถวางใจได้ว่าจะใช้งานร่วมกับระบบเดิมที่มีอยู่แล้วได้อย่างไร้ปัญหา ด้วยซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่นี้ ถือได้ว่าซีเมนส์ได้เปิดมุมมองใหม่ในเรื่องการทำงานของภาคการผลิตที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ และสร้างโอกาสใหม่ที่เหมือนเป็นแนวทางให้กับภาคอุตสาหกรรมในการเปลี่ยนไปสู่องค์กรดิจิทัลอีกด้วย

 

SPACe Innovation Tour 2017 เริ่มต้นที่ประเทศเวียดนามในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตามด้วยสิงคโปร์และไทย และจะจัดขึ้นที่ฟิลิปปินส์และมาเลเซียตามลำดับ

 

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานสัมมนา SPACe สามารถเยี่ยมชมได้ที่

http://www.siemens.com.sg/SPACe/about_space.asp

 

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ SIMATIC PCS 7 v9.0 สามารถเยี่ยมชมได้ที่

http://w3.siemens.com/mcms/process-control-systems/en/distributed-control-system-simatic-pcs-7/pages/distributed-control-system-simatic-pcs-7.aspx

เที่ยวรอบเขื่อนแก่งกระจานสัมมนาที่แจ่มจันทร์รีสอร์ท

ทริปนี้เป็นทริปจัดสัมมนาของแผนก เราเลือกพักที่แจ่มจันทร์ รีสอร์ท 2 วัน 1 คืน โดยเลือกแพคเก็จที่รีสอร์ทจัดไว้ให้แล้ว คือ แพคเก็จ 2 วัน 1 คืน พร้อมอาหาร 2 มื้อ 1,600 บาท/ท่าน ในแพคเก็จประกอบไปด้วยกิจกรรม ดังนี้
– เล่นน้ำหน้าแจ่มจันทร์รีสอร์ท
– ล่องแก่งเรือยาง แม่น้ำเพชร
– นั่งเรือยนต์รอบเขือน ชมพระอาทิตย์ตก
– รับประทานอาหารเย็น
– ขึ้นเขาพระเนินทุ่ง ชมทะเลหมอก ชมผีเสื้อ
– รับประทานอาหารเช้าบนยอดเขา

ออกเดินทางจากออฟฟิศแถวพระราม 4 ตอนเวลาประมาณ 9:30 น. ถึงที่พักประมาณ 12:00 น.

แจ่มจันทร์ รีสอร์ทแก่งกระจาน
แจ่มจันทร์ รีสอร์ทแก่งกระจาน
ห้องพักแจ่มจันทร์ รีสอร์ท
ห้องพักแจ่มจันทร์ รีสอร์ท

แจ่มจันทร์ รีสอร์ท ที่พักสไตล์โมเดิร์นตกแต่งด้วยปูนดิบเก๋ๆ ใช้เฟอร์นิเจอร์สีเข้มตัดกับสีของปูนดิบทำให้ดูสดุดตามากค่ะ เนื่องจากเรามากันเป็นหมู่คณะ เลยเช่าแบบทั้งหลังค่ะ ในรูปถ่ายมาจาก 2 ห้อง บางห้องจะเป็นเตียง 2 ชั้น

ห้องพักแจ่มจันทร์ รีสอร์ท
ห้องพักแจ่มจันทร์ รีสอร์ท เตียงสีแดงแจ่มจันทร์จริงๆค่ะ
แจ่มจันทร์ รีสอร์ทแก่งกระจาน
สำรวจ รอบๆ แจ่มจันทร์ รีสอร์ทแก่งกระจาน

รีสอร์ทติดกับแม่น้ำ ทำให้เห็นวิวสวยมาก มีมินิมาร์ทของรีสอร์ทด้วย ในโซนนี้จะให้เราได้นั่งทานอาหารหรือสังสรรค์ไปพร้อมกับการชมบรรยากาศแม่น้ำและภูเขาไปด้วย เราใช้พื้นที่ส่วนนี้ด้านบนในการสัมมนากันค่ะ เราใช้เวลาในการสัมมนาประมาณ 3 ชั่วโมง

สไลเดอร์ที่แจ่มจันทร์ รีสอร์ท
สไลเดอร์ที่แจ่มจันทร์ รีสอร์ท

สามารถลงเล่นน้ำที่หน้ารีสอร์ทได้ และทางรีสอร์ทยังมีสไลเดอร์ให้ได้เล่นกันฟรีๆด้วยค่ะ

แจ่มจันทร์ รีสอร์ทแก่งกะจาน
แจ่มจันทร์ รีสอร์ทแก่งกะจาน
ล่องเรือยางแม่น้ำเพชรบุรี
กิจกรรมล่องเรือยางแม่น้ำเพชรบุรี

พอถึงเวลา 16:00น. ก็เปลียนชุดเพื่อไปทำกิจกรรมล่องเรือยางแม่น้ำเพชรบุรี ด้วยระยะทาง 8 กิโลเมตร มากันหลายคน แข่งกันมันส์เลยค่ะ ประมาณ 1 ชั่วโมง

พระอาทิตย์ตกที่เขื่อนแก่งกะจาน
เดินทางไปชมพระอาทิตย์ตกที่เขื่อนแก่งกะจาน

หลังจากล่องเรือยางแล้ว ก็นั่งรถกลับมาที่รีสอร์ท ประมาณ 17:00 น. ก็จะมีรถมารอรับเพื่อเดินทางไปนั่งเรือยนต์ชมบรรยาการรออบเขื่อนและชมพระอาทิตย์ตก

“อากาศดีมากและวิวก็ดีมากด้วย ลมพัดเย็นสบาย เหมือนได้มาฟอกอากาศบริสุทธิ์ให้กับปอด หลังจากที่อยู่แต่ในเมือง เหมาะสำหรับท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างมาก บรรยากาศ ณ เวลานี้ คือโรแมนติกมากๆ”

พอมาถึงจะเห็นเรือยนต์ที่จอดเทียบท่ามากมายหลายลำ บนเรือจะมีเสื้อชูชีพให้ใส่ด้วย ซึ่งทุกคนจะต้องใส่ เพื่อความปลอดภัยค่ะ

เรือพาชมพระอาทิตย์ตกที่เขื่อนแก่งกะจาน
เรือพาชมพระอาทิตย์ตกที่เขื่อนแก่งกะจาน สีสันน่ารักบาดใจ
วิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน
วิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน

 “ภาพน้ำสีเขียวเข้มถูกแสงจากพระอาทิตย์ตกกระทบ ตัดกับภูเขาที่สลับกัน ไล่สีสัน ตามระยะสายตา เหมือนกับภาพวาดสีน้ำ ที่ดูแล้วสบายตามากๆ”

โชคดีมากที่วันนั้นได้เจอรุ้งกินน้ำ ในระหว่างที่นั่งเรือชมวิวรอบๆเขื่อน ในใจรู้สึกว่ามันน่ารักมาก

ทำให้คิดถึงตอนที่ยังเป็นเด็ก เห็นรุ้งกินน้ำแล้ววิ่งตาม อยากจับรุ้งให้ได้ อยากรู้ว่ารุ้งกินน้ำที่ไหน กินยังไง ใช้อะไรกิน คำถามที่เกิดขึ้นมากมายสำหรับเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง ณ ตอนนี้รู้สึกขอบคุณทุกคนที่ได้ให้ความรู้แก่เรา ดีใจที่ได้เรียนหนังสือ ได้รู้ว่าจริงๆแล้วรุ้งที่เราเห็นคืออะไร

 “ยังมีอีกหลายสิ่งบนโลกใบนี้ ที่เรายังไม่รู้ ยังไม่เห็น และยังรอให้เราออกไปค้นหาคำตอบ “

วิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน
นั่งเรือชมวิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน และชมพระอาทิตย์ตก
นั่งเรือชมวิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน และชมพระอาทิตย์ตก
นั่งเรือชมวิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน และชมพระอาทิตย์ตก
นั่งเรือชมวิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน และชมพระอาทิตย์ตก
นั่งเรือชมวิวรอบเขื่อนแก่งกะจาน และชมพระอาทิตย์ตก

 

ฟินกับวิวสวยๆ อากาศดีๆ ไปตามๆกันค่ะ

อ้อ มีสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังค่ะ คนที่นั่งด้านข้างนี่ เปียกนะคะ น้ำกระเด็นใส่ค่ะ ตอนที่เรือแล่น แต่คนขับเขาก็จะมีจังหวะช่วงเร็วช้าให้ค่ะ ถ้าขับเร็วก็กระเด็นใส่กันถ้วนหน้า

ถ้าเอากล้องไปก็คงต้องระวังค่ะ จริงๆเห็นกับตาสวยกว่าเยอะค่ะ

“ธรรมชาติเขาไม่อยากให้เราเก็บภาพใส่กล้อง เพราะเมื่อไหร่ที่วิวสวยๆเราจะเจออุปสรรคมากมายกว่าจะเก็บภาพได้ เขาคงอยากให้เรามาเห็นเขากับตา ว่ามั้ยคะ เก็บไว้ในใจในความทรงจำดีกว่าค่ะ”

ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน
พระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน
ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน
ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน

แสงสีทองจากท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์ตกดินนี่สวยเกินบรรยายจริงๆนะคะ

ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน
ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน
ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน
ชมพระอาทิตย์ตก ที่เขื่อนแก่งกระจาน

หลังจากฟินกับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินแล้ว เราก็กลับมาอาบน้ำ ทานอาหารเย็น พร้อมปาร์ตี้ตอนเย็นค่ะ ไม่มีภาพเลยค่ะ ขอบรรยายด้วยคำพูดแทนค่ะ ที่นี่มีคาราโอเกะให้ได้ร้องกันถึง 23:00 น. ค่ะ

ส่วนใครอยากต่อก็ไปต่อกันที่ห้อง ส่วนใครใคร่นอนก็ไปหลับฝันดีกันค่ะ จบแล้วกับ 1 วันเต็มๆ

ในตอนเช้าของวันที่ 2 เราตื่นกันตั้งแต่ 04:30 น. เพื่อที่จะออกไปชมผีเสื้อ และทะเลหมอกที่เขาพะเนินทุ่ง ซึ่งจะต้องออกเดินทางตอนตี 5 ด้วยระยะทาง 50 กิโลเมตร ถ้าหากว่าช้ากว่านี้เราจะไม่ได้เห็นทะเลหมอก ที่นี่ขึ้นชื่อว่านักท่องเที่ยวสามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทุกฤดู ไม่จำเป็นจะต้องเป็นฤดูหนาว

พอถึงเวลา 05:00 รถก็มารับตามนัดหมายที่หน้ารีสอร์ท เป็นรถกระบะ มีที่นั่ง 2 ข้างเหมือนรถสองแถว มีหลังคา โดยจำกัดจำนวนคนต่อคันไม่เกิน 10 คน

ถนนจากรีสอร์ทไปถึงอุทยานเป็นทางเรียบสวย ชมบรรยากาศถนนสวย ที่มีอุโมงต้นไม้ตลอดทาง

เราออกเดินทางจากได้ซักพัก ฝนก็เริ่มตก พี่คนขับรถก็มากเรียกให้ไปขึ้นที่ cap ด้านหน้า ซึ่งแคบและนั่งได้ 4 คน ส่วนที่เหลือก็นั่งด้านนอก

พอไปถึงด่านของอุทยานก็จะมีที่พักรถ และเจ้าหน้าอุทยานมาตรวจคน และก็เดินทางต่อไป ฝนไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตก ยังคงตกเรื่อยๆ ซึ่งรถไม่มีกันสาด ทำให้คนที่นั่งด้านหลังเปียกกันหมด เราไม่สามารถย้อนกลับไปได้เนื่องจากทางขึ้นเขาแคบมากต้องวิ่งทางเดียว ค่อนข้างอันตราย ไม่ได้เรียบเหมือนต้นทางที่ผ่านมา ทางเป็นหลุมบ่อ และชัน พร้อมด้วยโค้งที่เยอะพอสมควร ซึ่งคนที่จะขับได้ต้องมีความชำนาญพอสมควร

ขึ้นเขาไปได้ซักพัก โชเฟอร์ก็ต้องหยุดรถ เพราะมีช้างป่าเดินข้ามถนน โชเฟอร์ต้องดับไฟและเครื่องยนต์เพื่อไม่ให้ช้างตื่นตัว เพราะค่อนข้างอันตราย แต่เราตื่นเต้นมากเลยนะ ช้างตัวใหญ่มาก

ระหว่างทางเราต้องข้ามลำธารเล็กๆ ประมาณ 3 ลำธาร ถ้าฝนไม่ตกเราว่าจะต้องเป็นอะไรที่ดีมากๆ เราไม่สามารถเก็บรูปมาให้ได้แต่เราจำทุกเหตุการณ์ได้

ในที่สุดเราก็มาถึงจุดชมผีเสื้อ ใช้เลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ฝนก็ยังไม่หยุดตก และไม่สามารถลงจากเขาไปได้ เพราะจะมีเวลาขึ้น-ลง และยังคงมีรถตามขึ้นมาเรื่อยๆ มีหลายคณะที่มาเจอชะตากรรมเดียวกับพวกเรา ผิดหวังไปตามๆกัน

ที่นำเรื่องนี้มาเล่าเพราะอยากให้เป็นตัวอย่างกับหลายๆคน เราอาจจะต้องดูเรื่องของฝนฟ้าอากาศนิดนึงนะคะ ถ้ามีโอกาสเราก็อยากจะไปอีกครั้ง ไปชมผีเสื้อให้ได้ และวิวข้างทางค่อนข้างสวย แต่เราไม่สามารถถ่ายรูปมาได้เลย ): แต่เราก็ไม่เสียใจนะ เพราะมันคือ

สีสันของการเดินทาง

ภาพสุดท้ายก่อนออกเดินทางจากรีสอร์ทกลับกรุงเทพฯ

แจ่มจันทร์รีสอร์ท
ภาพสุดท้ายที่แจ่มจันทร์รีสอร์ท นายแบบหล่อ นางแบบสวย 🙂

ปล.หลายคนสงสัยว่ามาสัมมนาแต่ไม่มีรูปสัมมนาเลย เรามาสัมมนาจริงนะ แต่ไม่ได้ลงรูปนะคะ

วัน เวลา 

ต้นเดือน กรกฎาคม 2558

การเดินทางไปแจ่มจันทร์รีสอร์ท

แผนที่จากโลตัสพระรามสี่-แจ่มจันทร์รีสอร์ท
แผนที่จากโลตัสพระรามสี่-แจ่มจันทร์รีสอร์ท
แผนที่จากโลตัสพระรามสี่-แจ่มจันทร์รีสอร์ท
การเดินทางจากโลตัสพระรามสี่-แจ่มจันทร์รีสอร์ท