ไปภูเก็ตไม่ต้องรอหยุดยาว ไม่ต้องรอหน้าร้อน 2วัน1คืน เวลาไม่มากแต่ก็เก็บทุกเม็ด
ทริปนี้ใช้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม แม้จะเป็นหน้าฝน แต่ฝนก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคทริปครั้งนี้
วันที่ 1 ตะลุยกินตะลุยเที่ยวเมืองภูเก็ต เริ่มมื้อเช้าที่ร้านโรตีเจ้าฟ้า ไปต่อที่เกาะเฮ เกาะที่ไม่ไกลจากตัวเมือง ตามล่า street art ในเมืองเก่า กินกาแฟในร้านเก๋ๆกลางเมืองอย่างร้าน cafe in เที่ยวงานประเพณีพื้นเมืองงานผ้อต่อ กินอาหารพื้นเมืองที่ร้านระย้า
เราเดินทางด้วยเครื่องบิน ช่วงนี้ราคาถูก มาถึงสนามบินภูเก็ตประมาณ 9 โมงเช้า บึ่งรถไปสืบเสาะหาร้านอาหารเช้าเจ๋งๆ แนะนำว่าถ้ามากันหลายคน เช่ารถเที่ยวก็สะดวกดี
โรตีเจ้าฟ้า
โรตีเจ้าฟ้า ร้านอาหารเก่าแก่กว่า 40 ปี คนมุสลิมที่นี่ส่วนใหญ่กินโรตีเป็นอาหารเช้า เราก็ต้องเอามั่ง ดั่งคำสุภาษิต “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” นะจ๊ะ
เซ็ตโรตี
จะมีทั้ง โรตีธรรมดา, โรตีใสไข่, โรตีจิ้มน้ำแกง ประกอบด้วย แกงเนื้อ แกงไก่ แกงแพะ เพิ่มไข่ดาวได้ มีผักเครื่องเคียงให้ด้วย
กินคู่กับแกง อร่อยมาก น้ำแกงจะออกหวานๆนิดหน่อย
ข้าวหมกไก่, ข้าวหมกเนื้อ
อีกหนึ่งเมนูแนะนำ เพราะข้าวหมกหอมอร่อย ส่วนตัวเราชอบเนื้อมากกว่า
ไก่ทอด กรอบนอกนุ่มใน สั่งมาทานเล่น
ฮู้แช้ สลัดภูเก็ต ผักหลากหลายชนิด น้ำราดมีรสชาติคล้ายกับนน้ำจิ้มหมูสเต๊ะ
ชานมเย็น อร่อยม๊วากกกก คือมีความเป็นชาเข้มข้น ไม่หวานมาก
อีกหนึ่งเมนูแนะนำ น้ำส้ม ใช้ส้มจริงๆ แบบความหวานหรือเปรี้ยวธรรมชาติมาก
เปิดบริการ 6.00-12.00 น.44
สถานที่ตั้ง ถ.เจ้าฟ้า ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต(ข้างธนาคารไทยพาณิชย์)
อิ่มแล้วก็ไปต่อ สถานีต่อไปคือ เกาะเฮ เป็นเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากเมือง นั่งเรือแค่ 15 นาทีก็ถึงแล้ว
เกาะเฮ
น้ำทะเลหน้าฝนก็ใสนะ
เกาะเฮ มีกิจกรรมให้เลือกมากมายทั้งการดำสนอร์กเกิ้ลชมปลาและประการังน้ำตื้น พาราเซลล์ ซีวอร์คเกอร์ รวมไปถึงกิจกรรมบานาน่าโบ๊ท
รีวิวเพิ่มเติมที่นี่ https://goo.gl/jnDhBV
เล่นกิจกรรมอยู่เกาะเฮจนถึงประมาณ 4 โมงเย็น เราก็กลับเข้ามาในเมืองภูเก็ต แวะเติมความหวานให้ร่างกายก่อนทัวร์ต่อ ที่ร้าน Cafe in
Cafe in
เป็นร้านกาแฟเก๋ๆ ตั้งอยู่บนถนนพังงา ติดกับภิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว ร้านเล็กๆในเมืองเก่าภูเก็ต ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องที่มีกลิ่นอายความเป็นชิโนโปตุกีส
ตอนมาถึงร้านฝนกระหน่ำลงมาพอดี โชคดีที่มาถึงร้านแล้ว
ที่หลังร้านก็มีที่นั่งอีกมาก
เมนูเด็ด เครปเค้กมะม่วงอร่อยมาก เนื้อเนียนนุ่ม เข้ากันดีกับมะม่วงสุก หอม หวาน รสชาติกลมกล่อมกำลังพอดี ไม่หวานจนเลี่ยน
และเมนูที่พลาดไม่ได้คือ โอวเอ๋ว น้ำผึ้งเลม่อน มีความเปรี้ยวของเลม่อนและความหวานของน้ำผึ้ง กินแล้วสดชื่นดี
เติมพลังแล้วก็ออกเดินทัวร์เมืองเก่า ตามล่าภาพวาดบนฝาผนังGraffiti Street art โดยจอดรถไว้แถวๆร้าน cafe in เริ่มจาก ตลาดดาวน์ทาวน์ ไม่ไกลจากร้าน Cafe in
ตามล่าภาพวาดบนฝาผนัง Graffiti Street art
เดินวนรอบเมืองเก่าภูเก็ต แต่ละจุดของภาพ มีเรื่องเล่าวิถีชีวิตของคนภูเก็ต
เดินผ่านเมืองภูเก็ต กับสถาปัตยกรรมชิโนโปตุกีส
สามารถอ่านรายละเอียดรีวิว Street art และพิกัดของแต่ละภาพได้ที่ รีวิวนี้ค่ะ https://goo.gl/IWRJO9
หลังจากเดินชม street art จนครบรอบแล้วเราก็แวะเที่ยวงานประเพณีผ้อต่อ
ประเพณีผ้อต่อ
งานประเพณีพื้นบ้านของภูเก็ต จัดทำเพื่อเป็นการรำลึกถึงและอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วซึ่งก็คือวันสารทจีนนั่นเอง จัดเป็นประเพณีประจำจังหวัด จัดที่ศาลเจ้าเซ่งเต็กเบ่ว หรือ พ้อต่อก๊ง อยู่บริเวณบางเหนียว 
ชาวบ้านจะมาถวายขนมเต่าสีแดงหรือตั๋วกู้ ซึ่งก็เป็นสัญลักษณ์ของงานนี้ ถ้าจำภาพ street art น้องมาร์ดี้ในชุดเต่าสีแดงได้ จะอ่อทันที เพราะที่มาของภาพนั้นก็คือสัญลักษณ์ของประเพณีผ้อต่อนั่นเอง
ขนมเต่าสีแดงหรือตั๋วกู้ ทำด้วยแป้งข้าวสาลี ผสมกับน้ำตาล ปั้นเป็นรูปเต่า ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ที่ต้องทำเป็นรูปเต่าเพราะเป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุยืน โดยมีความเชื่อว่าถวายแล้วจะมีอายุมั่นขวัญยืนและมีความเจริญรุ่งเรืองแก่ครอบครัว
ถือเป็นความบังเอิญปนโชคดีที่ได้มาร่วมงานประเพณีผ้อต่อด้วย ไหว้ศาลขอพรเป็นศิริมงคลกับตัวเอง
ระย้า
ปิดท้ายอาหารมื้อค่ำที่ร้านระย้า ร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ชื่อดัง เป็นร้านเก๋ๆ อยู่ในบ้านเก่า 2 ชั้น สไตล์ชิโนโปตุกีส ร้านตั้งอยุ่บริเวณสี่แยกถนนดีบุกตัดใหม่
ร้านนี้อร่อยทุกอย่าง แต่เมนูที่ห้ามพลาดคือ เส้นหมี่แกงปูใส่ใบชะพูและหมูฮ้อง ส่วนแกงส้มก็อร่อยไม่แพ้กัน
เส้นหมี่แกงปูใส่ใบชะพู
เนื้อปูข้นๆและสดมาก จะกินกับหมี่หรือข้าวสวยก็อร่อย ราคาประมาณ 400-500 บาท
หมูฮ้อง
เนื้อหมูนุ่มๆ กับกลิ่นเครื่องเทศเข้มข้นที่ซึมเข้าไปทุกอณูของเนื้อหมู ขอข้าวด่วน!!! ราคาประมาณ 300 บาท
แกงส้ม
น้ำเข้มข้นอร่อยมาก แต่เผ็ดมากเช่นกัน
หมดไปหนึ่งวัน เดี๋ยวมาต่อวันที่สอง
แผนที่สำหรับภูเก็ตวันที่ 1
จะเห็นว่าสถานที่กินเที่ยวอยู่กระจุกกัน ไปไม่ยาก เที่ยวไม่ยาก
รีวิวภูเก็ต วันที่ 2 https://goo.gl/t9Y3JP
มีตลาดขายสินค้าของชาวบ้าน ทั้งงานฝีมือ ของพื้นบ้าน เสื้อผ้า ผ้าฝ้ายทอมือ เครื่องประดับเงิน ชา และอีกมากมาย
มีชุดชาวเขาให้เราได้เช่าใส่ด้วยค่ะ คนละ 50 บาท จะมีเด็กๆมาคอยต้อนรับและอาสาเป็นไกด์ให้ (แต่อาจจะต้องมีค่าตอบแทนให้น้องด้วยนะคะ 🙂 ) น้องๆจะวิ่งมาต้อนรับและพูดกับคุณว่า “พี่สาวคะ สนใจให้หนูเป็นมัคคุเทศน์น้อยพาเที่ยวมั้ยคะ แล้วแต่พี่จะให้ค่าขนมหนูค่ะ” ประมาณนี้ น่ารักค่ะ หรือจะถ่ายรูปกับเด็กดอยก็ได้ค่ะ น้องๆก็จะหารายได้จากนักท่องเที่ยวจากการนำเที่ยวหรือถ่ายรูปคู่กับเราค่ะ แล้วแต่เราจะให้เขาค่ะ
เก็บภาพหมู่ดอกไม้มาฝากล้วนๆเลยค่ะ ไม่รู้จะบรรยายอะไร ให้ภาพบอกแทนแล้วกันค่ะ
จากการอยู่เชียงใหม่ในหน้าฝน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สองทำให้รู้ว่า เมฆหมอกที่หนามากขนาดนี้อีกไม่นานฝนก็ตก แต่ฝนที่ตกพร้อมเมฆหมอกเหล่านี้จะเป็นละอองฝนค่ะ ไม่ใช่ฝนเม็ดโตๆ แบบที่เคยเจอค่ะและไม่ได้ตกบริเวณนี้แต่จะตกบริเวณที่หมอกเหล่านี้ไปเยือนค่ะ ส่วนฝั่งเราก็ได้เห็นวิวดี ภาพสวยๆค่ะ 🙂
นั่งกินกาแฟ ชมบรรยากาศไปซักพัก ก็ได้เวลากลับเพื่อที่จะลงไปยังพระตําหนักภูพิงค์ต่อ เราเดินลงอีกด้านหนึ่งของร้านกาแฟค่ะ
เราจะต้องเดินอีกทางจากทางขึ้น จะมีป้ายบอก ว่าเป็นทางลงค่ะ ระหว่างทางก็มีตลาดขายของเช่นเดียวกับทางขึ้นค่ะ
มีรถมา 
ถ้าหากเราไม่ได้เอารถมาเองก็มีรถแดงพาเที่ยวนะคะหรือหากขับไม่เก่งไม่ชำนาญเพราะทางค่อนข้างแคบและชันนิดหนึ่งค่ะ จะเหมารถสองแถวแดงหรือมาเป็นรถโดยสารกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆก็ได้ค่ะ ตรงพระตําหนักภูพิงค์จะมีรถสองแถวแดงจอดรอเรียกนักท่องเที่ยวอยู่หลายคันค่ะ
