10 ที่พักสวยน่านอน รวมลิสต์ประเทศใกล้ไทย เปิดเดินทางได้แล้วตอนนี้!

อยากไปเที่ยวต่างประเทศกันแล้วใช่มั้ย ?! หลังจากที่สถานการณ์โควิดไม่สู้ดีมาหลายปี ถึงตอนนี้เป็นโอกาสอันดีกับการที่จะเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะหลายประเทศได้ทยอยเปิดให้นักท่องเที่ยวไทยได้เดินทางไป โดยไม่ต้องกักตัว ถ้าฉีดวัคซีนครบก็เข้าประเทศได้เลย รวมถึงการยกเลิกใช้เอกสารผลตรวจโควิดแบบ RT-PCR ด้วย ยิ่งทำให้การจองตั๋วไปเที่ยวต่างประเทศกลายเป็นเรื่องง่ายไปกันใหญ่ แถมประเทศใกล้ไทยยังไม่ต้องใช้วีซ่าหลายประเทศด้วยกัน ได้แก่ กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และเกาหลีใต้ หากคุณต้องการเดินทางไปเที่ยวประเทศใกล้ไทยในตอนนี้ที่เปิดให้เดินทางได้แล้ว เราก็ได้เลือกลิสต์มาแล้วว่า 10 ที่พักสวยน่านอน มาให้เลือกเพื่อเป็นหนึ่งในแนวทาง

และถ้าหากว่าคุณกำลังแพลนทริปเที่ยว แล้วมองหาที่พักในราคาถูกกว่าที่อื่น เน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก อีกทั้งยังได้ราคาพิเศษไม่เหมือนกับที่อื่น เข้าไปเช็คราคาที่พักกันได้ใน Traveloka Travel & Lifestyle Super App ทั้งจอง และจ่ายเงินได้ง่ายมากกว่า แถมยังกดจองได้ครบจบภายในแอพฯ เดียว ที่สำคัญถ้าล็อคอินก่อนการจอง จะสามารถสะสมแต้มกับ Traveloka Priority เพื่อแลกรับดีลพิเศษ และราคาโปรโมชั่น ใครกำลังจะจองที่พักต้องห้ามพลาด

  1. Melia Bavi Mountain Retreat

เก็บเสื้อผ้าจองตั๋วเครื่องบินไปฮานอย แล้วไปพักผ่อนกันที่ Melia Bavi Mountain Retreat ให้ธรรมชาติบำบัดกันดีกว่า จุดเด่นของที่พักแห่งนี้คือการห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ ตั้งอยู่บนภูเขา ภายในอุทยานแห่งชาติบาวี (Ba Vi National Park) ทำให้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่สีเขียวสบายตา เหมาะกับการใช้วันหยุด พักผ่อน ปล่อยใจให้เนิบช้าหลีกหนีจากความวุ่นวาย หากใครได้ไปพักที่นี่ แทบจะไม่ต้องออกไปด้านนอกก็ยังได้ เพราะด้านในโรงแรมฮานอยแห่งนี้จะเต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย หรือจะพักผ่อนอยู่ในห้อง มองวิวสวยที่ริมระเบียงก็ถือว่ารื่นรมย์อยู่ไม่ใช่น้อย นอกเหนือจากส่วนของห้องพักบรรยากาศดี วิวดี ยังมีสปาให้คนที่ชอบนวด หรืออยากผ่อนคลาย การเดินทางก็ไม่ยากเพียงแค่บินมาลงสนามบินโหน่ยบาย แล้วนั่งรถต่อมา

เช็คราคาที่พัก Melia Bavi Mountain Retreat

  • Tan Da Spa Resort

อีกหนึ่งโรงแรมฮานอยแสนพิเศษที่ตั้งอยู่ในเขตบาวี หรืออุทยานแห่งชาติบาวี (Ba Vi National Park) ของเมืองฮานอย ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม เป็นรีสอร์ทที่จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติเป็นอย่างมาก ได้วิวสวยของทะเลสาบ ที่ด้านหลังโอบล้อมไปด้วยภูเขา กิจกรรมที่แนะนำเมื่อเดินทางมาพักผ่อนคือการปั่นจักรยานไปรอบๆ เพื่อชมความงดงามของวิวโดยรอบ ด้านในห้องพักได้มีการตกแต่งสไตล์เวียดนาม มีสระว่ายน้ำ และสปา รายล้อมไปด้วยความร่มรื่น เหมาะกับการแพคกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวในวันหยุด ให้คุณได้ใช้เวลากับครอบครัว หรือไปกับคู่รักก็ให้ฟีลโรแมนติก หากใครกำลังตามหาโรงแรมฮานอยที่ไม่ได้อยู่ในตัวเมือง เดินทางออกไปข้างนอกให้สูดอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย แนะนำที่พักฮานอย Tan Da Spa Resort เลย

เช็คราคาที่พัก Tan Da Spa Resort

  • Sofitel Legend Metropole Hanoi

แนะนำสำหรับคนที่อยากเที่ยวฮานอย กำลังมองหาโรงแรมฮานอยไม่ไกลจากย่านเมืองเก่า ให้คุณได้พักในโรงแรมสไตล์โคโลเนียลคลาสสิกแบบแสนเก๋ คงไม่มีที่ไหนจะดีไปกว่า โซฟิเทลเลเจนด์ เมโทรโพล ฮานอย (Sofitel Legend Metropole Hanoi) ตั้งอยู่ภายในเมืองฮานอย ใกล้กับที่เที่ยวในเมืองฮานอยมากมาย สามารถเดินไปเยือนฮานอย โอเปร่า เฮ้าส์ (Hanoi Opera House) หรือจะเดินถัดไปอีกหน่อยเพื่อเดินเล่นริมทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม รวมถึงการเดินไปบริเวณย่านเมืองเก่าฮานอยก็ได้เช่นเดียวกัน ถือว่าเป็นโรงแรมฮานอยที่ไม่ได้มีดีแค่ทำเล รวมไปถึงความสวยงามของที่พัก การบริการสุดหรูแบบห้าดาว และความครบครัน ที่มีทั้งห้องหาร บาร์ สระว่ายน้ำ และแผนกต้อนรับแบบ 24 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเป็นที่พักโรงแรมฮานอยที่คุ้มค่าแก่การมาพักแน่นอน

เช็คราคาที่พัก Sofitel Legend Metropole Hanoi

  • AYANA Resort and Spa

ในตอนนี้บาหลีก็เป็นหนึ่งในเมืองที่เปิดให้เดินทางไปเที่ยวกันได้แล้ว หากคุณอยากสัมผัสวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม อยากได้ประสบการณ์การเดินทางที่สุดยอด มองหาสถานที่มีทั้งป่าเขา พื้นที่โซนสีเขียว และทะเลภายในที่เดียว อย่ารอช้าบินไปบาหลีแล้วจองโรงแรมในบาหลี AYANA Resort and Spa กันดีกว่า ซึ่งรีสอร์ทบาหลีแห่งนี้ได้ตั้งอยู่ในย่าน Jimbaran ทางตอนใต้ของบาหลี ขึ้นชื่อด้วยวิวทะเล มีชายหาดทอดยาวหลายแห่ง โรงแรมในบาหลีส่วนใหญ่ที่อยู่ในบริเวณนี้จะขึ้นชื่อเรื่องความเงียบสงบ เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มากับครอบครัว นอกเหนือจากจุดเด่นที่ตั้งของโรงแรมอยู่ติดทะเล ยังมีสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้พูล ที่สามารถว่ายไปแล้วชมวิวทะเลไปได้ด้วย อีกทั้งในส่วนของสปา ศูนย์ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ให้ทำเมื่อมาพักก็มีรอคอยคุณอยู่อีกเพียบเลย

เช็คราคาที่พัก AYANA Resort and Spa

  • Kamandalu Ubud

เดินทางมาเที่ยวบาหลีกันทั้งที อย่าลืมแวะมาพักที่อุบูด (Ubud) เพราะย่านนี้ตั้งอยู่ใจกลางเกาะบาหลี โดดเด่นเรื่องสภาพแวดล้อมของธรรมชาติ มองไปทางไหนก็เจอแต่สีเขียวของป่า และมีนาขั้นบันไดเป็นหนึ่งในที่เที่ยว รวมถึงยังสามารถเดินทางต่อไปเที่ยววัดต่างๆ ที่กระจายตัวอยู่ในบริเวณนั้นได้ดี หากคุณมองหาโรงแรมในบาหลีวิวดีสักคืน ขอแนะนำ Kamandalu Ubud หนึ่งในที่พักอุบูดสุดหรู ท่ามกลางวิวป่า เมื่อเดินเข้าไปจะสัมผัสได้ถึงแต่ความร่มรื่น สบายตา เพราะหันไปทางไหนก็เจอแต่สีเขียวของธรรมชาติ ห้องพักจะมีให้เลือกตั้งแต่ห้องวิวสวน ห้องพูลวิลล่าหนึ่งห้องนอน และพูลวิลล่าสองห้องนอน เหมาะกับคนที่ไปพักกับเพื่อนหรือครอบครัว นอกจากฟิตเนส สปา ยังมีวิวสวยให้มองกันเพลิน มาพักแล้วไม่ต้องออกไปที่ไหนก็ยังได้ เพราะมีห้องอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม

เช็คราคาที่พัก Kamandalu Ubud

  • Padma Resort Ubud

หนึ่งในข้อดีของการมาเที่ยวบาหลี คือรับรองว่าคุณจะได้รูปถ่ายสวยๆ กลับบ้านอย่างแน่นอน เพราะบาหลีมีจุดถ่ายรูปสวย โลเคชั่นโดนใจหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือที่พักบาหลี หรือโรงแรมในบาหลีที่มีการตกแต่งสวยอลังการ ขอแค่อย่างเดียวให้คุณเตรียมกล้องมาให้พร้อม หนึ่งในลิสต์โรงแรมสวยเหล่านั้นก็คือ Padma Resort Ubud รีสอร์ทใจกลางอุบูดอีกหนึ่งที่ ห้อมล้อมไปด้วยป่าสีเขียว ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีการลดหลั่นกันลงไป ไฮไลท์คือสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้พูล ที่เปลี่ยนจากวิวทะเล มาเป็นวิวภูเขา เต็มไปด้วยธรรมชาติ และต้นมะพร้าว หรือถ้าหากใครมาเข้าพักแล้วไม่อยากเดินทางไปที่อื่น การใช้เวลาอยู่ในโรงแรมก็ดีต่อใจ เพราะมีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย อย่างเช่น โยคะ ฟิตเนส ยิงธนู หรือจะว่ายน้ำชมวิวสวยก็ไม่รู้เบื่ออย่างแน่นอนทีเดียวเชียวหล่ะ

เช็คราคาที่พัก Padma Resort Ubud

  • PARKROYAL COLLECTION Pickering

เก็บไว้ในลิสต์โรงแรมดีไซน์สวยกันได้เลย สำหรับโรงแรมสิงคโปร์ PARKROYAL COLLECTION Pickering ตั้งอยู่ในย่านดังอย่าง Clarke Quay เอาใจสายไนท์ไลฟ์ หรือคนที่มองหาที่พักสิงคโปร์ใกล้แหล่งท่องเที่ยว และเดินทางง่าย โรงแรมสิงคโปร์แห่งนี้โดดเด่นทั้งสถาปัตยกรรมด้านนอก และด้านในอาคาร ตัวอาคารมีการผสมผสานกันระหว่างทั้งลายเส้น ผสมรวมกับความโมเดิร์น ไฮไลท์คือสระว่ายน้ำที่ตั้งอยู่ชั้นบน ทำให้เวลาว่ายน้ำไปจะมองเห็นวิวเมืองสิงคโปร์ไปได้ด้วย นอกจากนั้นละแวกที่ตั้งของโรงแรมยังอยู่ใกล้กับร้านอาหาร คาเฟ่ หรือแม้แต่จะเดินทางด้วยการขนส่งสาธารณะก็สะดวก จัดว่าเป็นหนึ่งในที่พักดีไซน์สวยของสิงคโปร์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางไปเยือนสิงคโปร์

เช็คราคาที่พัก PARKROYAL COLLECTION Pickering

  • Amara Sanctuary Resort Sentosa

เปลี่ยนบรรยากาศจากการพักผ่อนในตัวเมืองสิงคโปร์ หรือย่านดาวน์ทาวน์ ข้ามไปพักผ่อนที่เกาะเซโตซ่า (Sentosa) กันดีกว่า เพราะบริเวณนี้มีที่เที่ยวให้เลือกเพียบ ไม่ได้มีแค่สวนสนุกยูนิเวอร์แซลเท่านั้น สำหรับที่พักโรงแรมสิงคโปร์ที่อยากจะแนะนำก็คือ Amara Sanctuary Resort Sentosa อยู่ใกล้กับหาด Panlawan หรืออยากจะเดินทางต่อไปเที่ยวที่อื่นบนเกาะก็ไปได้โดยง่าย สไตล์ของรีสอร์ทตกแต่งด้วยโทนสีขาวสบายตา บ้านพักหรือตัวอาคารยังคงความคลาสสิก ผสมผสานสไตล์ของเปอรานากันเอาไว้ ด้านในห้องพักก็สวยไม่แพ้กัน แม้ตัวที่พักเองจะไม่ใหญ่ แต่ก็เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อย่างเช่น สระว่ายน้ำ ร้านอาหาร บาร์ ห้องจัดเลี้ยง และบริเวณสวนที่ร่มรื่น หากใครอยากได้ที่พักสิงคโปร์ค่อนข้างเงียบสงบ ไม่พลุกพล่านเหมือนในเมือง หรืออยากลองเปลี่ยนบรรยากาศกันดูบ้าง ขอเสนอให้จองโรงแรมสิงคโปร์ Amara Sanctuary Resort Sentosa แล้วนอนพักกันสักคืนสองคืน พร้อมแพลนเที่ยวเกาะเซนโตซ่าให้ทั่วกันไปเลย

เช็คราคาที่พัก Amara Sanctuary Resort Sentosa

  • Villa Samadhi Singapore

ทั้งคลาสสิก และทั้งสวย เมื่อนำอาคารดั้งเดิมแบบเปอรานากันมาดัดแปลง เพื่อเพิ่มความลักชัวรี่เข้าไปเพิ่มเติม และ Villa Samadhi Singapore ก็เป็นหนึ่งในที่พักสิงคโปร์ที่อยากจะแนะนำ เพราะไม่ใช่แค่ความสวย และดูดีแต่เพียงเท่านั้น ยังอยู่ในตำแหน่งที่พักที่เหมาะสม ในย่าน HarbourFront ใกล้กับที่เที่ยวในเมืองสิงคโปร์มากมาย หรือจะเดินทางไปยังเกาะเซนโตซ่าก็ใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับ MRT ประมาณ 400 เมตร ทำให้การเดินทางเที่ยวสิงคโปร์ของคุณจะสะดวกอย่างแน่นอน ภายในห้องพักจะตกแต่งได้อย่างคลาสสิก แต่ยังแฝงไปด้วยความหรูหรา และความสะดวกสบาย นอกจากนั้นภายในโรงแรมยังเต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปมากมาย ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี หากใครกำลังมองหาที่พักในสิงคโปร์ ที่สวย บรรยากาศดี และทำเลเดินทางสะดวก

เช็คราคาที่พัก Villa Samadhi Singapore

  1. Sofitel Phnom Penh Phokeethra

และแล้วก็เดินทางมาจนถึงที่พักสวยน่านอนแห่งสุดท้ายที่อยากจะแนะนำ เป็นหนึ่งในที่พักกัมพูชาภายในเครือโซฟิเทล (Sofitel) ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ เหมาะกับคนที่อยากไปเที่ยวกัมพูชาในตอนนี้ เพราะเปิดให้เดินทางกันได้แล้ว ด้วยเงื่อนไขฉีดวัคซีนครบแล้วไม่ต้องกักตัว สำหรับที่พักโซฟิเทล พนมเปญ เป็นที่พักกัมพูชาที่ตกแต่งได้อย่างหรูหราลงตัว แต่ยังมีกลิ่นอายของความเป็นโคโลเนียลสุดคลาสสิก แถมยังเหมาะกับคนที่เดินทางมาเพื่อธุรกิจ หรือว่าท่องเที่ยว เพราะด้านในจะมีจัดโซนโต๊ะทำงานให้พร้อม อีกหนึ่งอย่างที่เป็นไฮไลท์ของการเข้าพักที่โซฟิเทลพนมเปญ คือสามารถจองห้องพักพร้อมกับสิทธิการเข้าใช้เอ็กซ์เซ็กคิวทีฟเลาจน์ได้ เรียกว่าเป็นการอำนวยความสะดวก สำหรับคนที่อยากจะพักผ่อนอยู่แต่ในโรงแรม หรือทุกกลุ่มนักเดินทาง แถมอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าอย่าง Aeon Mall Phnom Penh ด้วย

เช็คราคาที่พัก Sofitel Phnom Penh Phokeethra

และทั้งหมดนี้คือลิสต์ที่พักน่านอนในประเทศใกล้ไทย ที่ลิสต์มาแล้วว่าคุณจะต้องชอบ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ ทำเลที่ตั้ง หรือการดีไซน์ สำคัญตรงที่เข้าไปจองที่พักกับ Traveloka Travel & Lifestyle Super App แล้วเดินทางได้เลยตอนนี้ เพราะแต่ละประเทศที่เลือกมา เปิดรับนักเดินทางสัญชาติไทยแล้ว หากวันหยุดหน้ายังมีวันลาเหลืออยู่ อย่าคิดนานรีบแพลนเที่ยว เข้าไปจองที่พักให้เรียบร้อย และหวังว่าลิสต์ของเราจะช่วยให้คุณเลือกจองโรงแรมได้ง่ายมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคย

อีกหนึ่งสุดยอดสารคดีสำหรับคนชอบเดินทางทุกคน…”ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น”

[Around Thailand] “ทุกความทรงจำมีจุดเริ่มต้น แต่ยังไม่มีจุดจบ ตราบเท่าที่ศิลปะชิ้นนี้ยังคงอยู่”กับภาพยนตร์สารคดี “ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น” 

LINK TO YOUTUBE : https://www.youtube.com/watch?v=Ev2CjHx_MXI

ที่จะพาคุณออกเดินทางท่องไปในความทรงจำที่มีทั้งใหม่และเก่าปะปนกันไปจากคำบอกเล่าของผ่านผู้คนมากมายที่แตกต่างกันแต่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกระลึกถึงวันวานอันอบอุ่นที่มีกับเวสป้าพบกับทุกความทรงจำของทุกคนที่ถูกบอกเล่าด้วย “เวสป้า” ไปด้วยกัน- ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น (Ars Longa, Vita Brevis)#ศิลปะยืนยาวชีวิตสั้น#VespaDocumentary#VespaThailand#Vespa

15 พิกัดสุราษฎร์ธานี ไปเที่ยวคราวนี้ IG ฉันต้องปัง!

ช่วงปลายฤดูหนาวก่อนเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์แบบนี้ ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นที่เหมาะกับการลงใต้แบบสุดๆ เลยละ แล้วถ้ายังไม่รู้จะปักหมุดที่ไหน ขอแนะนำให้ไปสุราษฎร์ฯ กันจ้า เพราะมาจังหวัดนี้แค่ที่เดียวจะได้เห็นวิวสารพัดแบบไม่ซ้ำเลยนะ ใครตามหาพิกัดแจ่มๆ ถ่ายรูปลง IG บอกเลยว่าดีงามจ้ะ จะมีที่ไหนบ้างวันนี้เรารวมมาฝากกันไว้ที่นี่แล้วนะ ถ้าสนใจ รีบไปจองตั๋วเครื่องบินสุราษฎร์ธานีกับ Traveloka เค้าก่อนได้เลยจ้า อย่าคิดนานนะ เดี๋ยว IG ร้างเพราะไม่มีรูปลงแล้วจะตกเทรนด์เด้อ!

เอาให้ชัวร์ เช็คให้แน่ใจก่อนที่จะเดินทาง อย่าลืมกดเข้าไปเช็คมาตรการสนามบินกับ Traveloka กันได้เลย เพราะอัพเดทตลอดเวลา มีทั้งมาตรการสนามบินทั้งใน และนอกประเทศ คลิก

จองตั๋วเครื่องบินไปสุราษ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Surat-Thani.URT

จองรถเช่า หรือเช่ารถ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental

15 พิกัดสุราษฎร์ธานี ถ่ายรูปลง IG สวยปัง

1.เกาะนางยวน

เกาะเล็กๆ แต่ชื่อเสียงในเรื่องความสวยนั้นโด่งดังในระดับโลก ความเก๋ของเกาะนางยวนก็คือการเป็นหมู่เกาะเล็กๆ 3 เกาะที่เชื่อมกันไว้ด้วยสันทรายสีขาวจนกลายเป็นอ่าวสวย 3 อ่าวใกล้ๆ กัน ด้วยความที่น้ำทะเลรอบเกาะนั้นเป็นสีฟ้าใสแจ๋ว ใต้ท้องน้ำก็ยังอุดมสมบูรณ์พอสมควรเลยละ มาเล่นน้ำก็เพลินหรือจะเลือกมาดำน้ำก็ชิลล์ใช้ได้ แถมยังมีจุดชมวิวมุมสูงให้แวะไปแชะรูปเก๋ๆ กันได้ด้วยนะ คนรักทะเลต้องมาให้ไว

2. เขื่อนรัชชประภา

เป็นอีกพิกัดที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะสำหรับคนที่อยากได้วิวสวยๆ ไว้ลง IG เลยละ ในเขื่อนรัชชประภาหรือที่รู้จักกันว่าเขื่อนเชี่ยวหลานนั้นมีพื้นน้ำสีฟ้าใสสะอาดเหมือนอยู่ในทะเล มีภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตาล้อมรอบ 360 องศาแบบไม่ซ้ำกัน มีป่าไม้ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์น้อยใหญ่โดยเฉพาะนกเงือกซึ่งหาดูได้ไม่ง่ายนัก มีที่พักกลางน้ำสุดชิลล์ มีวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกให้ชมกัน ครบทุกโลเกชั่นแบบนี้มาสุราษฎร์ฯ ทั้งทีต้องมาโดน

3.อุทยานธรรมเขานาในหลวง

อีกหนึ่งพิกัดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะสำหรับคนที่อยากได้พิกัดถ่ายรูปแบบอเมซิ่งกันซักหน่อยนะ เชื่อว่าต้องแฮปปี้ เริ่มจากซุ้มทางเข้าซึ่งเป็นประตูพุทธวดี 9 ยอดแลดูแปลกตา ตามมาด้วยเจดีย์ลอยฟ้าซึ่งด้านในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ตั้งอยู่บนความสูงประมาณ 300 เมตร ด้านบนเห็นวิวสวยโดยรอบได้แบบ 360 องศา จะให้ปังสุดๆ ต้องมาถึงที่นี่กันก่อนพระอาทิตย์ขึ้นนะ รับรองว่าได้รูปแบบแสงสวยเว่อร์วังแน่นอน

4.เกาะพะงัน

อีกหนึ่งพิกัดชื่อดังของสุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก ก็คงต้องมอบมงให้กับเกาะพะงัน โดยเฉพาะกับงาน Full Moon Party ที่หาดริ้นบนเกาะนี้ และถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่ช่วงที่เหมาะกับการปาร์ตี้กันซักเท่าไหร่ แต่บนเกาะพะงันนั้นก็ยังมีมุมสวยๆ ที่น่าสนใจให้แวะเช็คอินกันอีกเพียบเลยนะ ช่วงนอกเวลาจากงานปาร์ตี้ เกาะนี้คือเกาะที่เงียบ สงบ เป็นส่วนตัว และมีจุดสวยๆ ให้แวะพักผ่อนหรือถ่ายรูปกันได้แบบจุกๆ เลยจ้า ลองมาพะงันช่วงไร้ปาร์ตี้ดูนะ เชื่อว่าหลายคนต้องชอบเลย

5.หินพัด

ขอบอกว่าเป็นอีกสถานที่ซึ่งเหมาะกับการมาแชะรูปลง IG มากจ้า เพราะตรงนี้มีหินรูปทรงแปลกตาความสูงประมาณ 5 – 6 เมตร ตั้งซ้อนกันบนเนื้อที่กว้างแค่หนึ่งฟุตนิดๆ แบบไม่มีอะไรยึดด้วยนะ แถมหินก้อนล่างซึ่งเป็นฐานนั้นยังเล็กเชียวละเมื่อเทียบกับหินก้อนบน ได้ความลุ้นปนความอเมซิ่งไปอีกจ้า มาโพสต์ท่ากับหินพัดก็เก๋นะ หรือจะมาแชะรูปกับวิวสวยรอบด้านก็เริ่ดอยู่เด้อ ยิ่งถ้ามาช่วงเช้าจะได้เจอกับแสงแรกตอนพระอาทิตย์ขึ้นสวยเพิ่มไปอีกจ้า กะเวลามาให้ดี

6.เกาะเต่า

เกาะเล็กๆ กลางอ่าวไทยที่มีน้ำทะเลสวยใสจนสายดำน้ำหลายคนถวิลหา นี่คือพิกัดระดับโลกที่คนรักความสวยใต้ท้องทะเลต้องมาสัมผัสกันให้ได้ซักครั้งเลยนะ เกาะเต่านั้นอยู่ห่างจากเกาะนางยวนไม่ถึง 500 เมตรเองจ้า แต่ว่ามีความสวยแปลกตาไม่ซ้ำกัน นอกจากจะเป็นสวรรค์ของคนรักการดำน้ำแล้วนะ บนเกาะเต่ายังมีที่พักและแหล่งรวมความบันเทิงยามค่ำที่หลากหลาย แนะนำให้พกกล้องถ่ายรูปใต้น้ำมาที่นี่ด้วยน้า รับรองว่าได้รูปแบบสุดปังกันแน่นอน

7.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง

อุทยานแห่งชาติทางทะเลซึ่งรวบรวมเกาะน้อยใหญ่เอาไว้ถึง 42 เกาะด้วยกัน หนึ่งในเกาะที่สำคัญของอุทยานฯ แห่งนี้ ก็ต้องมีเกาะวัวตาหลับติดอยู่ในลิสต์ด้วยละ เพราะนอกจากจะเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ แล้ว บนเกาะนี้ยังมีจุดชมวิวผาจันทร์จรัสซึ่งถือเป็นหนึ่งวิวแลนด์มาร์คที่ต้องมาชมด้วยตา นอกจากนั้นยังมีหาดอ่าวคาซึ่งสวยงามเหมาะกับการมาเล่นน้ำหรือนอนอาบแดดแบบสบายๆ และยังมีทะเลในซึ่งให้อารมณ์คล้ายทะเลสาบกลางหุบเขาอยู่ไม่ไกลอีกด้วยจ้า สวยคุ้มสุดๆ เลยละ ปักหมุดมาด่วนๆ เลย

8.เนินทรายเหมืองแกะ

เบรคแบ็คกราวนด์ใน IG ที่มีแต่รูปทะเลสวยๆ กันแป๊บนึงนะ แล้วมาโพสต์ท่าเท่ๆ กับคอสตูมเริ่ดๆ กลางภูเขาทรายกันดูบ้างดีกว่า ที่นี่นับเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอิน Unseen เมืองสุราษฎร์ฯ เลยจ้า ก็ใครจะไปคิดว่าอยู่ๆ เมืองทะเลก็จะมีเนินทรายเก๋ๆ ให้ฟีลตะวันออกกลางนิดๆ โผล่ขึ้นมาซะอย่างนั้นละ เนินทรายตรงนี้เกิดจากการทำเหมืองแร่ในสมัยก่อนนั่นเองนะ เค้ามีการดูดดินทรายขึ้นมาเพื่อคัดแยกแร่แล้วเอาทรายมากองทับถมกันไว้ เกิดเป็นเนินทรายให้เราได้มาเช็คอินกันในคราวนี้ จัดคอสตูมมาให้ดี รับประกันว่าตรงนี้ปังแน่นอน

9.บึงขุนทะเล

อีกหนึ่งวิวสวยในบรรยากาศที่แตกต่าง ก็คือพื้นที่บึงน้ำจืดตามธรรมชาติซึ่งกินพื้นที่กว้างขวางกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีการปรับปรุงให้กลายเป็นพื้นที่สวนสาธารณะ ซึ่งมีเครื่องออกกำลังกายและเลนปั่นจักรยานทั้งรอบเล็กและรอบใหญ่ซึ่งจะได้ออกกำลังพร้อมชมวิวสวยรอบๆ บึงไปพร้อมกัน ที่สำคัญคือเราจะได้ชมวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นซึ่งใช้ชีวิตหาอยู่หากินในบึงน้ำแห่งนี้ ได้เห็นสัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่รอบๆ พื้นที่ตามธรรมชาติด้วยนะ จะให้ปังต้องมาชมวิวพระอาทิตย์ตกกันที่นี่จ้า แสงดี อากาศสบาย รับรองว่าได้รูปสวยๆ กลับไปเพียบชัวร์

10.ถ้ำขมิ้น

ถ้ามองหาแบ็คกราวนด์ในบรรยากาศที่แตกต่างออกไป แนะนำให้มาถ่ายรูปฟีลตื่นเต้นเร้าใจกันในถ้ำนี้ดูเลยจ้า ที่นี่คือถ้ำหินปูนอายุหลายร้อยปีซึ่งมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามอยู่ด้านใน นอกจากความสวยของธรรมชาติซึ่งถือเป็นไฮไลท์แล้วนะ ที่นี่ยังมีทีเด็ดเป็นรถจี๊ปเก่าจอดอยู่กลางถ้ำ ซึ่งรถคันนี้เป็นพาหนะที่ใช้ในการขนย้ายมูลค้างคาวในสมัยที่ถ้ำนี้มีการทำสัมปทานมูลค้างคาวกันอยู่ด้วยจ้า ว่ากันว่านี่คือถ้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้เลยนะ ถ่ายรูปออกมาเก๋แน่นอนจ้ะ ปักหมุดมาได้เลย

11.น้ำตกตาดฟ้า

อีกหนึ่งบรรยากาศที่น่าปักหมุดมาชิลล์มาแชะกัน ก็คือการมาชมความสวยของน้ำตกตาดฟ้า ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีขนาดสูงที่สุดของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีจำนวนทั้งหมด 13 ชั้น ชั้นที่สูงที่สุดเป็นหน้าผาสูงชันถึงประมาณ 80 เมตรกันเลยจ้า ในช่วงฤดูน้ำหลากจะเห็นสายน้ำตกลงมาเต็มหน้าผาจนดูเหมือนว่าตกลงมาจากท้องฟ้ากันเลยนะ ความสวยแต่ละชั้นนั้นให้บรรยากาศที่แตกต่างกันไป จะมาเดินชมวิวก็ได้ มาเล่นน้ำก็เย็นสบายดีจ้ะ แวะมาเช็คอินกันได้เลย

12.หิน Overlap เกาะสมุย

พิกัดถ่ายรูปเช็คอินล่าสุดบนเกาะสมุยซึ่งเพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นานเท่าไหร่ ที่นี่เป็นอีกจุดที่เหมาะจะไปแชะรูปลง IG กันจ้า ด้วยวิวที่สวยแปลกตาของก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งซ้อนกันในพื้นที่จำกัด ด้านหลังเป็นวิวสวยแบบพาโนรามาจากมุมสูง 150 เมตรเหนือระดับน้ำะเล ซึ่งมีทั้งสีเขียวของต้นไม้และสีฟ้าของอ่าวละไมที่อยู่ด้านล่าง ก่อนไปโพสต์ท่ากับวิวสวยปังของที่นี่ ก็ต้องผ่านความเสียวบนสะพานแขวนวัดใจกันซักนิดก่อนนะ โพสต์จัดเต็มไปเลยจ้า รับรองว่าเริ่ดแน่นอน

13.ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด

บ่อน้ำผุดสีฟ้าใสแจ๋วเหมือนอยู่ในสระว่ายน้ำกลางผืนป่า ซึ่งมีพื้นด้านล่างเป็นทรายสีขาวสบายตา เสริมความสวยเคลียร์ให้บ่อน้ำแห่งนี้ยิ่งน่ากระโดดลงไปแหวกว่ายกันอีกหลายเท่าเลยเชียวละ ด้วยความที่น้ำใสจนเหมือนแผ่นกระจก ทำให้ที่นี่นั้นเหมาะอย่างยิ่งในการมาเก็บภาพใต้น้ำแบบเก๋ๆ กันด้วยนะ หาชุดว่ายน้ำแจ่มๆ แล้วมาโพสต์ท่าเป็นนางเงือกน้ำจืดกันได้ที่นี่จ้า มาเช้าๆ หน่อยจะเริ่ดสุดนะ เพราะคนยังน้อยอยู่จ้ะ คราวนี้ละ ได้รูปสวยๆ สมใจกันแบบจุกๆ แน่นอน

14.เกาะมัดสุม

เกาะสวยกลางทะเลสุราษฎร์ธานีที่ให้ฟีลเหมือนได้ไปเยือนบาฮามาส เพราะบนเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวๆ แห่งนี้นั้นมีหมูเป็นเจ้าถิ่น! เกาะมัดสุมนั้นเดินทางมาได้ง่ายๆ แค่นั่งเรือจากเกาะสมุยมาราวๆ 20 นาทีเท่านั้นเองนะ นอกจากเราจะได้มาถ่ายรูปกับน้องหมูกันแล้ว ที่นี่ยังเหมาะจะมาเล่นน้ำ ดำน้ำ หรือพายคายัคกันด้วยละ มาแค่สุราษฎร์ฯ แต่เหมือนได้ไปบาฮามาส ไม่มาก็คงน่าเสียดายเชียว

15.สะพานแขวนเขาพัง

ปิดท้ายกันที่อีกหนึ่งพิกัดซึ่งเหมาะจะมาจัดรูปเก๋ๆ ลง IG กันสุดๆ เลยจ้า กับสะพานแขวนขนาดไม่ใหญ่ซึ่งทอดตัวผ่านแม่น้ำสายเล็กๆ ที่อยู่ด้านล่าง เพิ่มความปังขึ้นไปอีกด้วยยอดเขารูปหัวใจที่อยู่ด้านหลัง กับแบ็คกราวนด์สีเขียวสดของบรรดาต้นไม้ที่อยู่ริมฝั่งแบบแน่นๆ เลยนะ ใกล้ๆ กับตัวสะพานยังเป็นที่ตั้งของตลาดท้องถิ่นเล็กๆ กลางป่า มาเดินเล่นก็เพลิน มาเดินถ่ายรูปก็ฟินนะ มาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกจากตัวสะพานกันได้ด้วยจ้า ไม่มาไม่ได้แล้วเด้อ

และนี่คือ 15 พิกัดซึ่งเป็นโลเกชั่นถ่ายรูปเว่อร์วังในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เชื่อว่าถ้ามาแล้วต้องได้รูปปังๆ ลง IG กันแบบจุกๆ แน่นอนจ้า สุราษฎร์ธานียังมีพิกัดเริ่ดๆ อีกเพียบเลยนะ ไว้จะรวบรวมมาให้ลงลิสต์เพิ่มกันวันหน้าจ้า เตรียมปักหมุดตามรอยกันได้เลยนะ รับรองว่าแจ่มแน่นอน

[18++]มิวเซียม ณ ‘พัฒน์พงศ์’ ถนนสุดเซ็กซี่ที่อบอวลไปด้วยประวัติศาสตร์แห่งสงคราม

 Main points :

พื้นที่แห่งความลับแห่งสงคราม’ : ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาระหว่าง และหลังสงคราม เจ้าหน้าที่ CIA มากมาย

  • ความเจ็บปวดที่ไม่เคยเปิดเผย’ : ในห้องลับ มิวเซียม กำลังฉายสารคดีเกี่ยวกับสงครามที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 200,000 ศพ สงครามที่เราแทบไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน นั่นก็คือ ‘Secret war in laos’
  • ที่ประจำของคนดังระดับเวิล์ดคลาส’ : CIA ชื่อดังอย่าง TONY POE ที่ตัดหูเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายส่งไปแทนรายงาน ต้นแบบผู้พันสุดเหี้ยมในหนังเรื่อง Apocalypse Now ได้ใช้ชีวิตของเขาอยู่ที่พัฒน์พงศ์ในช่วงเวลาระหว่าง และ หลังสงคราม รวมถึง David Bowie, Kendall Jenner ก็เคยมาเยือนที่แห่งนี้เช่นเดียวกัน
  • โซนสุดซาบซ่าน นั่งจิบเบียร์ ชมโชว์ผ่าน LED’ : อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้คือ โซนเครื่องดื่มที่บาร์  และเปียโนสุดคลาสสิค ที่โดดเด่นเห็นจะเป็นจอ LED ที่ฉายภาพสาวเต้นอะโกโก้สุดวาบหวิวอยู่ในจอ
  • โซนสุดเสียว แซ่ฟาด!” :  เป็นโซนที่น่าสนใจแบบสุดๆไปเลย เพราะมีทั้ง เครื่องโยนลูกปิงปอง (ที่แซ่บมากๆ) แบบอัตโนมัติมาให้เแขกได้ลองรับกัน รวมไปถึงกรงขังที่มีโซ่ แซ่ กุญแจมือพร้อมสำหรับผู้ที่หลงใหลเรื่องราวแบบ S&M ไปกระทั่งเกมพิสูจน์เพศของสาวสวยทั้งหลายว่าเป็น สตรีที่เห็นในภาพตรงหน้านั้นเป็นเพศชาย
  • คำเตือน รีวิวนี้อาจจะมีภาพที่เซ็กซี่มากๆอยู่ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ควรได้

 


 

 

ได้ยินชื่อของพัฒน์พงศ์ ใครหลายคนคงมีภาพจำเป็นถนนที่ส่องสว่างไปด้วยดวงไฟประดับประดาตามท้องถนน กับโชว์สุดวาบหวิว และป้ายโฆษณาที่เด่นหราอยู่หน้าร้านต่างๆ  แต่ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา แน่นอนว่าย่านแห่งการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์เช่นนี้ย่อมเงียบเหงา และมืดกว่าปกติ มีเพียงแสงสีขาวจากไฟถนนข้างทางเพียงเท่านั้น

พัฒน์พงษ์ ดูแปลกตาไปกว่าที่เคย

วันนั้นได้รับการชวนไปดูงานศิลปะที่จัดที่ แกลอรี่ของตะวัน วัตุยา ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของสตรียามค่ำคืนที่ทำงานอยู่ในถนนเส้นนี้ที่ผู้คนหลายคนอาจจะใช้สายตามองว่าพวกเธอนั้นเป็นเพียงอาชีพที่ให้ความสำราญทางเพศเท่านั้น แต่หากมองด้วยอีกมุมของสายตาแล้ว พวกเธอเหล่านั้นก็เป็นมนุษย์คนนึงที่ทำอาชีพสุจริต เพื่อสร้างความสุขให้แก่ผู้คนเฉกเช่นอาชีพทั่วไปเช่นกัน

แกลอรี่นี้ตั้งอยู่ที่ ถนนพัฒนพงศ์​ หลายคนที่คุ้นเคยกับถนนเส้นนี้คงคิดถึงพอสมควร  รออีกอึดใจอาจจะได้กลับมาเที่ยวอย่างปกติ แต่ในขณะที่สถานบันเทิงหยุดพักผ่อนกันชั่วขณะหนึ่ง เราอาจจะคลายความคิดถึงถึงพัฒน์พงศ์ ด้วยการไปท่องโลกของพัฒน์พงศ์ที่ย้อนจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านร้อน ผ่านหนาว ใน hidden place แห่งนี้

พัฒน์พงษ์ มิวเซียม

เริ่มต้นเรื่องราว ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของครอบครัว พัฒน์พงศ์ และหลวงพัฒน์พงศ์พานิช ที่พลิกวิกฤติเป็นโอกาส จากการค้นพบดินที่ไม่เหมาะสมแก่การทำไร่ ทำนา ท้ายที่สุดจึงพบว่าดินนั้นมีส่วนผสมของแคลไซต์ค่อนข้างมาก จึงเหมาะแก่การทำปูน และหลังจากนั้นธุรกิจปูนซีเมนต์ตราช้าง ก็ถือกำเนิดขึ้น รวมถึงศักดินาของตระกูลพัฒนพงศ์ด้วยเช่นเดียวกัน

คนที่เป็นคีย์แมนสำคัญสำหรับ พัฒน์พงศ์ คือคุณ อุดม พัฒน์พงศ์ ทายาทรุ่นที่ 3 เขาสร้างได้เริ่มเปิดพื้นที่ให้บริษัทต่างๆได้เข้ามาจับจองเช่าทำออฟฟิศหลายบริษัท โดยบริษัทส่วนใหญ่ไม่ใช่บริษัทเล็ก บริษัทน้อย แต่กลับเป็นบริษัทข้ามชาติ อย่างปั๊ม Shell, สายการบิน Trans World Airline, ปั๊ม Caltex รวมไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง IBM ด้วยเช่นกัน

พื้นที่แห่งความลับแห่งสงคราม

ด้วยประชากรในพื้นที่เริ่มหนาแน่นแล้ว ร้านอาหาร รวมถึงบาร์ต่างๆจึงเริ่มเปิดขึ้นที่นี่ บาร์แห่งแรกที่เปิดขึ้นมีชื่อว่า THE GRAND PRIX ที่เปิดทำการมายาวนาน และมีลูกค้ามากมาย ทั้งไทยทั้งเทศ และเนื่องจากช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาระหว่าง และหลังสงคราม เจ้าหน้าที่ CIA มากมายที่มาตั้งฐานทัพที่ประเทศไทย จึงมาสังสรรค์กันที่นี่เป็นว่าเล่น ราวกับเป็นโต๊ะน้ำชาหลังทำงานเสร็จที่จะมาพูดคุย ผ่อนคลาย จากความเครียดของภาวะสงครามที่เจอเลยก็ว่าได้ เรื่องราวต่างๆของสงครามที่ไหลเวียนผ่านกระแสสนทนา ที่แห่งนี้คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้แต่ถนนพัฒน์พงศ์รู้

ที่น่าสนใจคือเรื่องราวของอุดม พัฒน์พงศ์พานิช ซึ่งในเว็บไซต์ของ www.patpongmuseum.com ได้เล่าถึงการเชื่อมโยงระหว่าง อุดม และ หน่วยสืบราชลับของอเมริกา ซึ่งเป็นที่มาของเขตธุรกิจในพัฒน์พงศ์ และเป็นการต่อยอดมาถึงปัจจุบันไว้ว่า

อุดม พัฒน์พงศ์พานิช เคยศึกษาที่ประเทศอเมริกา นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ท่านได้เข้าร่วมกับหน่วยสืบราชการลับ (OSS) ซึ่งต่อมาคือหน่วยสืบราชการลับของอเมริกา (CIA)

อุดม คือกุญแจสำคัญ เพราะหน่วยสืบราชการลับของอเมริกา มีแผนที่จะรบกับทหารญี่ปุ่น ซึ่งในขณะนั้นญี่ปุ่นสนใจในประเทศไทย อย่างไรก็ตามอุมได้ถูกฝึกให้เป็นเสรีไทย เพื่อเข้าร่วมที่จะต่อต้านญี่ปุ่นในขณะนั้น

ทีนี้คุณก็ได้เข้าใจแล้วว่า อุดมไม่ได้วางแผนไว้ว่าหน่วยสืบราชการลับ จะเข้ามามีบทบาทในเรื่องราวของเขา’ (patpongmuseum.com,2019)

 

 

 

 

 

ความเจ็บปวดที่ไม่เคยเปิดเผย

ในห้องลับ มิวเซียม กำลังฉายสารคดีเกี่ยวกับสงครามที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 200,000+ ศพ สงครามที่เราแทบไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน นั่นก็คือ ‘Secret war in laos’ สารคดีฉายเรื่องราวต่างๆราว 10 นาที บ่งบอกถึงการก่อสงครามในประเทศลาวช่วงที่มีสงครามเวียดนาม เนื่องจากตัดสายเส้นทางส่งลำเลียงอาหารจากลาว ไปเวียดนาม ที่น่าตกใจคือ จำนวนระเบิดที่อเมริกาทิ้งลงไปในสงครามครั้งนั้นรวมกันมากกว่าจำนวนระเบิดที่อเมริกาทิ้งในสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียอีก  เรื่องราวเหล่านี้เพิ่งได้รับการเปิดเผยไม่นานมานี้ มันสุดแสนจะสะเทือนใจ และในห้องฉายวีดีโอนี้ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่เป็นอีกกระบอกเสียงที่บอกให้โลกได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นเวลาพอๆกันกับที่ทหารอเมริกันมาสร้างฐานทัพที่ประเทศไทย ถ้ามีโอกาส ใจจริงอยากให้ทุกคนได้ไปชมสารคดีเรื่องนี้จริงๆ

เรื่องราวบางส่วนเกี่ยวับ Secret War in Laos.

ที่ประจำของคนดังระดับเวิล์ดคลาส

ใครเคยดูหนังเรื่อง Apocalypse Now ของฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นภาพยนตร์ที่ทุกคนควรจะได้ไปดูก่อนตาย ก็จะต้องรู้จักกับ Colonel Kurtz ผู้พันที่ถูกตามฆ่า และตั้งตนเป็นใหญ่ในพื้นที่ถิ่นกัมพูชา หลังจากคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากมายในสงครามเวียดนาม โมเดลของตัวละครนี้คือ Tony Peo หรือ Anthony Poshepny  CIA สุดโหดที่สังหารและ ตัดหูเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ส่งไปแทนรายงาน  ในมุมหนึ่งของมิวเซียมได้มีส่วนของนิทรรศการที่จัดแสดงเรื่องราวของเขามากพอสมควร แม้กระทั่งหูของเหยื่อที่เขาตัดมาก็มาร้อยให้เห็นกันชัดๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของมิวเซียมก็ว่าได้ เรื่องความโหดร้าย และการใช้ชีวิตหลังสงครามจนถึงบั้นปลายของเขา ถนนพัฒน์พงศ์แห่งนี้ 

นอกจาก Tony Poe แล้วยังมีโซนของ David Bowie ร๊อกสตาร์ชื่อดังระดับโลก และรวมถึงโซนเซเล็ปเวิล์ดคลาสทั้งหลาย เช่น  Kendall Jenner ที่มาเยือนพัฒน์พงศ์อีกด้วย

 

โซนสุดซาบซ่าน นั่งจิบเบียร์ ชมโชว์ผ่าน LED’

อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้คือ โซนเครื่องดื่มที่บาร์  และเปียโนสุดคลาสสิค ที่โดดเด่นเห็นจะเป็นจอ LED ที่ฉายภาพสาวเต้นอะโกโก้สุดวาบหวิวอยู่ในจอ ที่วันนี้เราก็ได้พบกับตัวจริงเสียงจริงของพวกเธอ ตามความรู้สึกแล้ว พวกเธอน่ารักมากๆ 

 

โซนสุดเสียว แซ่ฟาด!’

และอีกหนึ่งโซนที่น่าสนใจ และไม่พูดถึงคงไม่ได้ด้วยวันนี้ถูกเปิดให้ชมแบบ Blackout musuem คือ  ปิดไฟชมนิทรรศการเพื่อได้บรรยากาศแบบ Red light district จริงๆ  โซนนี้เป็นโซนสุดแซ่บ ที่เดินเข้าไปเราต้องร้อง อื้อหือ อยู่หลายที ผ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์กันมาพักใหญ่ แต่จะละเลยไฮไลท์ของพัฒน์พงศ์ก็ใช่ที่ โซนนี้เป็นอีกหนึ่งโซนที่น่าสนใจแบบสุดๆไปเลย เพราะมีทั้ง เครื่องโยนลูกปิงปอง (ที่แซ่บมากๆ) แบบอัตโนมัติมาให้เแขกได้ลองรับกัน รวมไปถึงกรงขังที่มีโซ่ แซ่ กุญแจมือพร้อมสำหรับผู้ที่หลงใหลเรื่องราวแบบ S&M ไปกระทั่งเกมพิสูจน์เพศของสาวสวยทั้งหลายว่าเป็น สตรีที่เห็นในภาพตรงหน้านั้นเป็นเพศชาย หรือ เพศหญิง และวีดีโอสารคดีสุดเซ็กซี่ของธุรกิจบันเทิงชื่อดังในพัฒน์พงศ์ที่ฉายการทดลองยิงปิงปอง หรือการเปิดขวดแบบให้เห็นกันสดๆ 

ไม่ไปไม่ได้แล้วมั้ยแบบนี้?

นอกจากพัฒน์พงศ์ มิวเซียมแล้ว เรายังได้มีโอกาสรับชมการจัดนิทรรศการภาพวาด portrait ของเหล่าสตรี พัฒน์พงศ์ โดยฝีมือของส่วนตัวเราว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งแหล่งการเรียนรู้ที่แบบ ดีมากๆ เนื้อหาอัดแน่น และมีหลายมุมให้ได้มองย่านพัฒน์พงศ์ที่ทำให้เราได้เปิดใจมองพัฒน์พงศ์ในรูปแบบใหม่ ที่ก่อนหน้านี้ใครหลายคนเลือกที่จะปิดตา และเมินเฉยกับพื้นที่ที่โดนมองว่าอโคจรแห่งนี้  เหมือนกับสายตาของคุณ  ไมเคิล เมสเนอร์ เจ้าของมิวเซียมที่อยู่กับพัฒน์พงศ์มานานจนเขามองว่าพื้นที่แห่งนี้ไม่ใช่แค่เพียงแหล่งรวมสถานบันเทิงทั่วไป แต่กลับรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ระดับโลกมากมายไว้ และอยากให้ทุกคนได้รับรู้เช่นกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

พัฒนพงศ์มิวเซียม

พิกัด : https://g.page/PatpongMuseum?share  (ลงบีทีเอสสีลม เดินนิดเดียว เลี้ยวขวาเข้าซอยพัฒน์พงศ์ ไม่นานจะเห็นเลยอยู่ขวามือ)

ราคาบัตร : 350 บาท แต่รับรองคุ้มสุดๆแน่นอน

พิพิธภัณฑ์ พัฒน์พงศ์

5 พัฒน์พงษ์ ซอย 2 บางรัก

กรุงเทพฯ 10500

โทร :+66 (91) 8876 829

เวลาเปิดทำการ :

จันทร์อาทิตย์ 11:00 . ถึง 20:00 .

แหล่งอ้างอิง :

https://www.patpongmuseum.com/

https://en.wikipedia.org/wiki/Anthony_Poshepny

https://mgronline.com/indochina/detail/9490000094623

BRICKLIVE IN BANGKOK2019 มหกรรมตัวต่อเลโก้นับล้านกลับมาอีกครั้ง! พร้อมธีมใหม่เอาใจแฟน สตาร์ วอร์ส ‘บริคไลฟ์ ฟอร์ซ’ 14-17 พ.ย. นี้ ที่ไอคอนสยาม

ข่าวดีของคนรักเลโก้ เมื่อ ไอคอนสยาม จับมือ บีอีซี – เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จัดงานสัปดาห์เลโก้แห่งชาติ บริคไลฟ์ (BRICKLIVE) มหกรรมเลโก้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เตรียมนำตัวต่อเลโก้กว่าล้านชิ้น รวมถึงเซ็ตเลโก้สะสมหายาก และโซนกิจกรรมหลากหลาย

      มาสร้างความบันเทิงเชิงสร้างสรรค์ให้กับชาวไทยอีกครั้ง เป็นปีที่ 2 พร้อมธีมใหม่สุดพิเศษสำหรับแฟนๆ สตาร์ วอร์ส ในงานบริคไลฟ์ ตั้งแต่วันที่ 14 -17 พฤศจิกายนนี้ ที่ทรู ไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7, ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร

      ต่อยอดจากความสำเร็จและกระแสตอบรับดีเยี่ยมจากผู้เข้าร่วมงาน บริคไลฟ์ ครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา กับจำนวนยอดผู้เข้าร่วมงานหลายหมื่นคน ปีนี้ บริคไลฟ์ ยังคงสร้างสรรค์พื้นที่สำหรับกิจกรรมและโชว์แบบอินเตอร์แอคทีฟ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานทุกเพศ ทุกวัย ได้สนุกไปกับการต่อเลโก้ในโซนต่างๆ และอีกหนึ่งความพิเศษสุดๆในปีนี้ คือ บริคไลฟ์ ฟอร์ซ (BRICKLIVE FORCE) เอาใจแฟนภาพยนตร์ในตำนานที่กำลังจะกลับมาอีกครั้งอย่าง สตาร์ วอร์ส (Star Wars) เตรียมเปิดสงครามอวกาศสุดยิ่งใหญ่ เสิร์ฟความสนุกให้แฟนสตาร์ วอร์สทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ด้วยโซนเลโก้สตาร์ วอร์ส (LEGO Star Wars) ที่ให้แฟนๆ สนุกแบบจัดเต็มสร้างสรรค์ยานอวกาศในแบบของคุณเอง รวมไปถึงจัดแสดงเซ็ตตัวต่อหายากจากคอลเลคชั่นภาพยนตร์ ฉากตื่นตาที่จะให้แฟนๆ ได้ถ่ายรูปไปในแอ็คชั่นแบบนักรบอวกาศ พร้อมสร้างสีสันด้วยกิจกรรมขบวนพาเหรดเหล่าตัวละครสุดแฟนตาซี และกิจกรรมอีกมากมายที่จะพาเหล่าเจไดเดินทางกลับไปสู่ห้วงอวกาศกันอีกครั้ง

      และยังคงความสนุกสนานเต็มที่ด้วยโซนกิจกรรมที่พาเหรดกลับมาทุกโซน เริ่มด้วย โซนบ่อเลโก้สีต่าง ๆ (GREEN, RED and Duplo Brick pit) โดยบ่อบริคสีแดงและสีเขียวประกอบไปด้วยเลโก้ขนาดมาตรฐาน 2×4 จุด ส่วนบ่อดูโปลจะเป็นบ่อสำหรับเด็กเล็ก 1.5-5 ขวบ เสริมสร้างจินตนาการเด็ก ๆ ด้วยเลโก้ชิ้นใหญ่ที่หยิบจับได้ง่าย

      พิเศษ เอาใจคนรักหนัง การ์ตูน และเกมด้วย โซนเลโก้นินจาโก (LEGO Ninjago), โซนเลโก้เฟรนด์ส (LEGO Friends) และ โซนเลโก้มายคราฟต์ (LEGO Minecraft) ที่รวบรวมเซ็ตตัวต่อจากภาพยนตร์และเกมในดวงใจ เปิดให้แฟนๆ ได้สร้างสรรค์ตัวละครและเรื่องราวในแบบของตัวเองแบบไม่รู้จบ นอกจากนี้ ใครที่ชื่นชอบการต่อเลโก้แบบมีกลไกและการวางแผน ยังได้เพลิดเพลินไปกับ โซนเรซแทร็ค (Race Track), โซนเทคนิค (Technic), โซนอาร์คิเทคเจอร์ (Architecture), โซนซิตี้ (City) และโซนแมพ บิวด์ (Map Build) ที่ให้อิสระกับคนรักเลโก้ได้ออกแบบรถ อาคารตึกรามบ้านช่อง และเนรมิตเมืองในฝันด้วยมือของตัวเอง รวมไปถึง โซนกราฟฟิตี้วอลล์ (Graffiti Wall) กำแพงขนาดยักษ์ที่รอให้แฟนเลโก้หยิบเอาชิ้นส่วนไปสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้ตามใจชอบ และแน่นอนว่าที่ แฟนโซน (Fan Zone) ผู้เข้าร่วมงานจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับชุดตัวต่อเลโก้หายาก ของสะสมที่เหล่าแฟนเลโก้ตัวยงจากทั่วทุกมุมโลกขนเอามาให้ได้ชมกันแบบเต็มอิ่มกว่าปีที่ผ่านมา สาวกเลโก้ตัวจริงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

มหกรรมหนังสือระดับโลก   Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2019  Coming Soon !!! 

“ Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2019 ” กลับมาอีกครั้ง!! มหกรรมหนังสือระดับโลกแบบนอนสตอปตลอด 24 ชั่วโมง งานที่รวบรวมหนังสือภาษาอังกฤษชั้นเยี่ยมหลากหลายประเภท หลากหลายสำนักพิมพ์ทั้วโลกกว่า 3 ล้านเล่มมาให้คนรักหนังสือได้เป็นเจ้าของ ในราคาสุดพิเศษที่ลดกระหน่ำถึง 50-90% จากราคาปก พร้อมเปิดประสบการณ์การอ่านหนังสือรูปแบบใหม่ด้วย Augmented Reality (AR)  หนังสือน่าอ่านสุดล้ำภายในงานนี้

คุณสุรเชษฐ วรวงศ์วสุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Ready2Read และผู้จัดงาน แถลงเปิดงานมหกรรมหนังสือสุดยิ่งใหญ่ Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2019 กล่าวว่า สืบเนื่องจากความสำเร็จลุลวงไปด้วยดีกับงานมหกรรมหนังสือปีที่ผ่านๆมา ในปีนี้งานมหกรรมหนังสือ ‘Big Bad Wolf Book’ ได้โคจรกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 -19 สิงหาคม 2562 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 4 (ฟอรั่ม) นอกจากนี้ยังได้จับมือร่วมกับหลายสำนักพิมพ์ไทยชั้นนำ อาทิ นานมีบุ้คส์,ซีเอ็ด,สำนักพิมพ์ยิปซี, แปลน ฟอร์ คิดส แอนต์ แปลน ทอยส์,มติชน และ นายอินทร์ เป็นต้น

ซึ่งนักอ่านทุกท่านจะได้พบกับหนังสือประเภทต่างๆ ทั้งหนังสือขายดี, นิยายรัก, อาชญากรรม,ระทึกขวัญ, สารคดี, นวนิยาย, หนังสือธุรกิจ, หนังสือศิลปะและการออกแบบ หนังสือทำอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีหนังสือสำหรับเด็กให้ผู้ปกครองได้เลือกหลากหลายประเภท เช่น หนังสือกิจกรรมเกม นิทานและหนังสือที่โต้ตอบได้ หรือ อินเตอร์แอคทีฟบุ๊ค

ทั้งนี้ภายในงานจะพบกับ หนังสือ Augmented Reality (AR) ที่พร้อมจะปลี่ยนรูปแบบการอ่านของนักอ่านรุ่นเยาว์ไปโดยสิ้นเชิง เพราะโลกแห่งการอ่านนั้นได้เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีที่การปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบดิจิตอลผ่านทางตัวละครที่สามารถ ‘ปรากฎเสมือนอยู่ในชีวิตริง’ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เด็กสามารถที่จะอ่าน เล่นและเรียนรู้ได้ในเวลาเดียวกัน โดยใช้ผ่านแอพพลิเคชั่น Hippo Magic ซึ่งในปีนี้ภายในงานจะได้พบกับหนังสือประเภท AR ถึง10 เรื่อง เรียงลำดับจากประเภทเกร็ดความรู้หลากหลายไปถึงประเภท นิทานก่อนนอน อาทิ หนูน้อยหมกแดง ,หนูนัอยโกลดี้ล็อคส์กับหมีสามตัว ลูกหมูน้อยสามตัว หนังสือแบบเรียน ABC และอีกมากมาย

“ภารกิจของมหกรรมหนังสือBig Bad Wolf Book คือการที่จะเปลี่ยนโลกด้วยการอ่าน ตามจุดประสงค์หลักตั้งแต่เราเริ่มจัดงานนี้ขึ้นมา ทุกๆมหกรรมหนังสือที่เราจัดขึ้นที่ประเทศไทยนั้น เราได้แนะนำและปลูกฝังนิสัยการรักการอ่านไห้แก่ประชาชน ทั้งนี้ การจับมือกับสำนักพิมไทยนั้น เรายังสามารที่จะส่งสริมการเรียนรู้ตัวยการอ่านทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษไปฟร้อมๆอย่างทั่วถึงในวงกว้างอีกด้วย” คุณสุรเชษฐ วรวงศ์วสุ กล่าว

 

ทั้งนี้ Big Bad Wolf Book ไม่ได้เป็นแค่มหกรรมหนังสือเพียงอย่างเดียว ทางผู้จัดได้ร่วมกับ “เรดรีดเดอร์ฮูด” จับมือกับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรอย่าง “มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก” (Boks for Children Foundation) ที่ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2001เพื่อร่วมทำกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมโดยการรบรวมนำหนังสือไปบริจาคตามห้องสมุด โรงเรียน และชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไทย กว่า 500 เล่ม ไปยังมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กโดยหนังสือจำนวนนี้จะได้รับการสมทบเพิ่มเติมจากผู้เข้าชมงานที่สามารถร่วมซื้อและบริจาคหนังสือตามความสนใจที่ บู๊ธ เร้ด รีดเดอร์ฮู้ด ได้ตลอดระยะเวลาจัดงานมหกรรมงานหนังสือ Big Bad Wolf Book อีกด้วย

 

และสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับนักอ่านที่อยากช็อปปิ้งก่อนใครในรอบพรีวิว เพียงเข้าร่วมกิจกรรมบนโซเชียลมีเดียของ Big Bad Wolf Thailand ทางเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม เพื่อลุ้นรับบัตรผ่านเข้างานรอบพรีวิวของ Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2019 ในวันที่ 8 สิงหาคม 2562 ซึ่งจัดขึ้นเพียงวันเดียว ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 23.00 น. สำหรับผู้ถือบัตรผ่านเท่านั้น

ย้ำอีกครั้ง มหกรรมหนังสือที่ยิ่งใหญ่ ‘Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2019’ ช็อปปิ้งหนังสือคุณภาพแบบนอนสตอปตลอด 24 ชั่วโมง ในวันที่ 9 -19 สิงหาคม 2562 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 4 (ฟอรั่ม) ที่จะขนทัพหนังสือใหม่เอี่ยม มากกว่า 3 ล้านเล่ม ด้วยส่วนลดสูงถึง 50 – 90% จากราคาปก ที่สำคัญไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู

 

สามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดต่างๆเพื่อลุ้นรับบัตรพรีวิวผ่านทางโซเชียลมีเดียของBig Bad Wolf Thailand

ทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม :bbwbooksthailand,@bigbadwolfbooks_th