ศาลพันท้ายนรสิงห์

ศาลพันท้ายนรสิงห์

ศาลพันท้ายนรสิงห์

ศาลพันท้ายนรสิงห์
ตามประวัติท่านชอบชกมวยและตีไก่ จึงมีคนนำนวม, ไม้พายและรูปปั้นไก่มาแก้บน

เรื่องราวของพันท้ายนรสิงห์ปรากฏอยู่ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับต่างๆ กล่าวถึงเหตุการณ์ใน พ.ศ. 2247 สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8(พระเจ้าเสือ) ประพาสปากน้ำสาครบุรี (ปัจจุบันคือจังหวัดสมุทรสาคร) เพื่อทรงเบ็ดตกปลา ด้วยเรือพระที่นั่งเอกไชย มีพันท้ายนรสิงห์เป็นนายท้าย เมื่อเรือพระที่นั่งไปถึงตำบลโคกขาม คลองในบริเวณดังกล่าวมีความคดเคี้ยวมาก

พันท้ายนรสิงห์พยายามคัดท้ายเรือพระที่นั่งอย่างระมัดระวัง แต่ไม่อาจหลบเลี่ยงอุบัติเหตุได้ หัวเรือพระที่นั่งจึงชนกิ่งไม้ใหญ่หักตกลงไปในน้ำ พันท้ายนรสิงห์รู้โทษดีว่าความผิดครั้งนี้ถึงประหารชีวิตตามโบราณราชประเพณี ซึ่งกำหนดว่าถ้าผู้ใดถือท้ายเรือพระที่นั่งให้หัวเรือพระที่นั่งหักผู้นั้น หมายถึง มรณะโทษให้ตัดศีรษะเสียจึงกราบทูลพระกรุณาน้อมรับโทษตามพระราชประเพณีสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ทรงพิจารณาเห็นว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นการสุดวิสัย มิใช่ความประมาท จึงพระราชทานพระอภัยโทษให้ แต่พันท้ายนรสิงห์กราบบังคมยืนยันขอให้ตัดศีรษะตนเพื่อรักษาขนบธรรมเนียมพระราชกำหนดกฎหมาย

สุดท้ายก็ได้ตรัสสั่งให้ประหารชีวิตพันท้ายนรสิงห์ตามคำขอ ทรงจำพระทัยปฏิบัติตามพระราชกำหนดดำรัสสั่งให้เพชรฆาตประหารพันท้ายนรสิงห์ และโปรดให้ตั้งศาลสูงประมาณเพียงตานำศีรษะพันท้ายนรสิงห์กับหัวเรือพระที่นั่งเอกไชยซึ่งหักนั้น ขึ้นพลีกรรมไว้ด้วยกันบนศาล ภายหลังเหตุการณ์สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ทรงโปรดให้นำศพพันท้ายนรสิงห์มาแต่งกายพระราชทานเพลิงศพอย่างสมเกียรติยศ

พันท้ายนรสิงห์ สร้างความศรัทธา และความนับถือ ในด้านความซื่อสัตย์และจงรักภักดี

 

ศาลพันท้ายนรสิงห์

ศาลพันท้ายนรสิงห์
เต็มไปด้วยรูปปั้นไก่ที่นำมาแก้บน

พันท้ายนรสิงห์ถือเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ ศาลนี้จึงเป็นที่พึ่งทางใจของคนอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งนิยมมาขอพร ในเรื่องของการประสบผลสำเร็จ เมื่อขอไปแล้วสัมฤทธิ์ผล ผู้คนจึงนำนวมชกมวยและไม้พายเรือ แต่ในช่วงหลังมีคนนำรูปปั้นไก่แก้วมาแก้บน เนื่องจากตามประวัติท่านชอบชกมวยและตีไก่

ศาลพันท้ายนรสิงห์

 

ด้านข้างศาลจะมีเรือโบราณ ซึ่งคาดว่ามีอายุกว่า 300 ปี สร้างจากไม้ตะเคียนทอง ชาวบ้านเชื่อว่าเรือลำนี้อาจเป็นเรือในขบวนเสด็จ หรืออาจเป็นเรือในการลำเลียงทหาร

เรือโบราณ

 

เรือโบราณ

ตลาดน้ำอัมพวา

อัมพวา พาเพลิน

อัมพวา พาเพลิน

 

เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร 2 แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม

“จังหวัดสมุทรสงคราม”ตั้งอยู่ในเขตภาคกลางตอนล่างติดทะเลอ่าวไทย เป็นจังหวัดที่มีขนาดเล็กที่สุด และมีประชากรน้อยเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากจังหวัดระนอง เป็นเมืองที่มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ และที่โดดเด่นคือ วิถีชีวิตแบบไทยดั้งเดิมสมุทรสงครามมีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวมากมายหลายแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอยากไปสัมผัส อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร และมีการคมนาคมสะดวก จึงเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญอีกจังหวัดหนึ่งในภูมิภาค และมีนักท่องเที่ยวนิยมไปมากในปัจจุบัน

วัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือ วัดบ้านแหลม

สำหรับคนที่ไปสมุทรสงครามแล้วไม่ได้แวะไปนมัสการ “หลวงพ่อบ้านแหลม” เราถือว่าไปไม่ถึงสมุทรสงครามนะคะ

ความเชื่อและวิธีการบูชา เชื่อกันว่าหากได้มาสักการะปิดทองคำเปลวหลวงพ่อบ้านแหลม แล้วจะช่วยเสริมอำนาจบารมีแก่ชีวิต บังเกิดแต่ความเป็นสิริมงคลสืบไป

วัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือ วัดบ้านแหลม
วัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือ วัดบ้านแหลม

ภายในบริเวณวัดเพชรสมุทรยังมีการจัดแสดงพระพุทธรูป และพระเครื่องสมัยต่าง ๆ โบราณวัตถุ เครื่องลายคราม และธรรมมาสน์บุษบกสมัยกรุงศรีอยุธยา

วัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือ วัดบ้านแหลม
วัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือ วัดบ้านแหลม

ตลาดร่มหุบ หรือ ตลาดแม่กลอง

อยู่ไม่ไกลจากวัดหลวงพ่อบ้านแหลม สามารถลัดเลาะจากท้ายวัดเดินตามซอยประมาณ 500 เมตร เดินไปถามชาวบ้านไป เพราะเป็นเขตชุมชนมีร้านขายของตลอดทาง

ตลาดร่มหุบเป็นตลาดที่หวาดเสียวที่สุดที่เคยเจอมา เป็นตลาดที่อยู่ข้างทางรถไฟ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะวางของขายข้างรางรถไฟและกางร่มเข้าหากันทั้งสองข้างของรางรถไฟ เมื่อรถไฟมาร่มก็จะถูกหุบเข้า และข้าวของที่วางขายก็จะถูกเก็บอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่ได้วางของขายข้างรางรถไฟ

บรรยากาศที่ตลาดร่มหุบ ก็เหมือนกับตลาดทั่วไป มีทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา ผัก และผลไม้

ตลาดร่มหุบ
บรรยากาศตลาดร่มหุบ

บรรยากาศสถานีรถไฟแม่กลอง สถานีสุดท้ายที่รถไฟจะจอด

สถานีรถไฟแม่กลอง
บรรยากาศสถานีรถไฟแม่กลอง

เมื่อรถไฟมา เราตื่นเต้นกันมาก 😀

ตลาดร่มหุบ

รถไฟตลาดร่มหุบ

ระยะใกล้ชิดมาก บอกเลยว่าหวาดเสียวสุดๆ

รถไฟตลาดร่มหุบ

ตลาดร่มหุบ

สถานีรถไฟแม่กลอง
นักท่องเที่ยวเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

สำหรับใครที่อยากไปดูความอินดี้ของตลาดแห่งนี้จะต้องไปให้ตรงเวลาที่รถไฟเข้า-ออกนะจ๊ะ ไม่งั้นจะผิดหวังไม่รู้ด้วยนะ

เวลาที่รถไฟเข้า-ออก มีดังนี้ ออก : 6.20 น.,9.00 น. ,11.30 น.,15.30 น. เข้า :8.30 น. 11.10 น.15.30 น.

ปล.โปรดระมัดระวังเป็นพิเศษตอนรถไฟมา เพราะอาจเกิดอันตรายได้

ค่ายบางกุ้งหรือวัดบางกุ้ง

ความอินดี้ของที่นี่คือ “โบสถ์ในต้นไม้” เป็นไปได้ไงที่โบสถ์อันใหญ่โตจะถูกต้นไทรครอบจนกลายเป็นโบสถ์ในต้นไทร

โบสถ์ในต้นไม้
โบสถ์ในต้นไม้
โบสถ์ในต้นไม้
โบสถ์ในต้นไม้ ค่ายบางกุ้ง

ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา

เป็นตลาดริมคลอง ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม (จอดรถที่วัดอัมพวันเจติยารามได้) ทุกวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์  ในช่วงเวลาเย็นตั้งแต่ช่วงเวลา 02.00-20.00 น. ในคลองอัมพวาจะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหารและเครื่องดื่ม เช่น หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวานต่างๆ  และมีรถเข็นขายของบนบกด้วย บรรยากาศสบายๆ มีเพลงฟัง จากเสียงตามสายของชาวชุมชน ประชาชนสามารถเดินเที่ยวชมตลาดหาซื้ออาหารรับประทานและเช่าเรือไปเที่ยวชมดูหิงห้อยในยามค่ำคืนได้

ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวา

[huge_it_slider id=”5″]

ขอบคุณข้อมูลจาก http://thai.tourismthailand.org/
หัวหิน

เที่ยวหัวหิน 1 วัน ไป-กลับ ทริปประหยัดเวลาและเงินในกระเป๋า

สำหรับคนที่มีเวลาไม่มากนัก(รวมทั้งเงินในกระเป๋าที่ไม่มาก) แต่อยากเที่ยว เราขอเสนอทริปนี้เลย

“เที่ยวหัวหิน วันเดียวไป-กลับ”

หลังจากที่ศึกษาเส้นทางคร่าวๆและสถานที่ที่ต้องการไป  ในเย็นของวันศุกร์ (29 ส.ค. 57) เช้าวันเสาร์เราก็ออกเดินทาง โดยมีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 5 คน

ทริปนี้รู้สึกเสียดายมากที่ไม่มีเวลาจริงๆ แต่ใครมีเวลาหน่อยค้างคืนก็จะได้เที่ยวพักผ่อนแบบสบายๆหน่อย ที่พักหัวหินน่าพักหลายที่เลย ลองไปดูในเว็บ Traveloka ได้ จองมาหลายทริปแล้ว จองง่ายสะดวก มีโปรโมชั่นส่วนลดบ่อยมาก

แถมใครไม่มีบัตรเครดิตก็จองได้อีกต่างหาก เพราะเค้ามีช่องทางการโอนเงิน

ตอบโจทย์วัยรุ่นสุดๆ

08:00 ออกเดินทาง

จากถนนรามคำแหง ขึ้นทางพิเศษศรีรัชค่าทางด่วน 50 บาท ไม่เคยไป ไปไม่เป็น google map ช่วยคุณได้

แผนที่ไปหัวหิน
แผนที่จับจากถนนรามคำแหงไปหัวหิน

ตรงไปยังสมุทรสาคร

แผนที่ไปหัวหิน
เกาะทางด่วนไปยังสมุทรสาครไว้

ถึงชะอำเมื่อเวลาประมาณ 10:30 น. 
เนื่องจากเป็นห่วงน้องๆพยาธิที่ดิ้นอยู่ในท้อง เพราะฉะนั้น เป้าหมายแรกที่เราจะไปก็คือ

“สะพานปลา”

เลี้ยวซ้ายจากถนนเพชรเกษมไปยังชายหาดชะอำ ตรงไปยังสะพานปลาซึ่งอยู่ติดกับชายหาดชะอำ ข้างในจะมีร้านขาย

อาหารทะเลสด กุ้ง หอย ปลาหมึก ปู

ตัวเป็นๆ ให้เลือกเอง ที่ร้านจะมีบริการทำให้ทุกอย่างค่ะ ตั้งแต่ ปิ้ง ย่าง หรือนึ่ง (ค่าทำอย่างละ 20 บาท) พร้อมน้ำจิ้มรถเด็ด(ฟรี)

ส่วนจะนั่งทานที่ร้านหรือนำไปทานริมหาดก็ได้ค่ะ มีถ้วยโฟมให้(สามารถขอเพิ่มกับทางร้านได้ฟรีไม่คิดตังค์) รอประมาณ 40-60 นาที เช็คบิลทั้งหมด 1010 บาท โดยสิ่งที่ได้มาคือ

  • ปู 1.5 กก.
  • หอยแครง 1 กก.
  • ปลาหมึก 1 กก.
  • กุ้ง 1 กก.

จากนั้นก็ไม่รอช้าไปเช่าที่นั่งริมหาดเหมา 200 บาท พร้อมด้วยกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ได้มาจากสะพานปลา และสั่งอาหารเพิ่มนิดหน่อยสำหรับ 5 ที่(ไม่อั้น) ราคาอาหารไม่แพงมาก

ริมหาดชะอำ
ริมหาดชะอำ
ทะเลหัวหิน
ทะเลหัวหิน
ริมหาดชะอำ
ที่นั่งริมหาดชะอำ เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ

ด้วยความที่ต่างคนต่างหิว ก็ไม่ได้สนใจถ่ายรูปแต่อย่างใด มุ่งหน้ากับอาหารมากกว่า ดีที่ยังได้ภาพมานิดหน่อยมากๆ คือรูปเดียวค่ะ แฮ่ๆ 😉

อาหารทะเลจากสะพานปลาหัวหิน
อาหารทะเลจากสะพานปลาหัวหิน

พอลงมือกับอาหารข้างหน้า ส่วนอาหารที่สั่งเพิ่มจากร้านริมหาดก็ลืมถ่าย ถ่ายอีกทีก็ได้รูปนี้แล้วค่ะ 🙂

อาหารริมชายหาดชะอำ
เศษซากที่เหลือ

โดยอาหารที่สั่งมาทานเพิ่มก็มี

  • ส้มตำ 50 บาท
  • ข้าวผัดจานใหญ่ 200 บาท 
  • ต้มยำหม้อไฟ 150 บาท

หลังจากกำจัดอาหารจนสิ้นซาก ก็นอนพักผ่อนรับลมทะเลงีบคนละนิดคนละหน่อยก็ได้เวลาออกเดินทาง

15:00 น.

เป้าหมายต่อไปคือ “เพลินวาน” ค่ะ

เส้นทางไปเพลินวาน
เส้นทางไปเพลินวาน

จับ google map เหมือนเดิมค่ะ มาถึงเพลินวานจะมีที่จอดรถหลายที่ค่ะ เราจอดห่างจากเพลินวานประมาณ 300 เมตร ถ้าใครไม่อยากเดินไกล อาจขับเข้าไปอีกนิดนึงเพราะที่จอดที่ติดกับเพลินวานเลยก็มี แต่ด้วยความที่มาครั้งแรกและไม่รู้ว่ามีที่จอดรถใกล้ๆด้วย ส่วนราคาที่จอดรถอยู่ที่ 40 บาท

สังเกตจากพี่คนนี้ก็ได้ค่ะ จะคอยโบกรถเรียกลูกค้าให้เข้ามาจอด สร้างสีสันมากค่ะ

พนักงานโบกรถที่เพลินวาน
พนักงานโบกรถที่เพลินวาน

เพลินวาน

ถึงแล้ว!!! บรรยากาศที่เห็นก็จะดูแบบย้อนยุคหน่อยค่ะตกแต่งด้วยไม้เก่าๆ และสังกะสีเก่าๆ

เพลินวาน
เพลินวาน

เสน่ห์ของที่นี่ก็คงจะเป็นบรรยากาศย้อนยุคนี่แหละค่ะ มีขายของที่ละลึก และขนมโบราณต่างๆมากมาย

เพลินวาน
ห้องจัดรายการวิทยุแบบย้อนยุคที่เพลินวาน
เพลินวาน
ขนมโบราณเพลินวาน

เพลินวาน

เพลินวาน
บรรยากาศที่เพลินวาน

เพลินวาน

เพลินวาน
ร้านขายแผ่นเพลงเก่าๆ
เพลินวาน
ของขายเก๋ๆ

เพลินวานบรรยากาศชิวๆ ที่เพลินวานค่ะ เหมือนเดินเที่ยวงานวัด
เพลินวาน เพลินวาน

หลังจากที่เพลิดเพลินอยู่กับเพลินวานได้สักพัก เราใช้เวลาอยู่ที่เพลินวานประมาณ 1ชั่วโมง ก็เดินจนทั่วแล้ว เพราะไม่ได้ใหญ่มาก เดินหน้าไปยังสถานีต่อไปค่ะ

16:00 น.

มุ่งหน้าต่อไปที่ “for art’s sake” ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ 4D แห่งแรกในประเทศไทย

แผนที่ไปfor art's sake
แผนที่ไปfor art’s sake

สังเกตด้านซ้ายมือ ดูจากข้างนอกแล้วเหมือนยังไม่เสร็จดี พอเลี้ยวซ้ายเข้าไปจะมีพนักงานมาคอยโบกรถให้ (ที่จอดรถฟรี)

for art's sake
ทางเข้า for art’s sake

ราคาบัตรเข้าสำหรับผู้ใหญ่ 180 บาทค่ะ

จะมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ประจำจุด คอยแนะนำว่าจะต้องทำท่ายังไง มีเสียงประกอบในแต่ละโซน ส่วนภายในก็ยังไม่เสร็จดี แต่ก็มีนักท่องเที่ยวประปราย

for art's sake for art's sakeที่นี่ก็เพลิดเพลินไปกับการเล่นและถ่ายรูปกับงานอาร์ต 3D และมีเสียงประกอบในทุกโซนfor art's sake for art's sake for art's sake for art's sake for art's sake for art's sake for art's sakeสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปน่าจะถูกใจค่ะ เล่นสนุกดีค่ะ

เราใช้เวลาอยู่ที่ for art’s sake  ประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ก็เดินทางกลับ

ระหว่างทางกลับกรุงเทพฯ ก็จะผ่าน santorini สำหรับใครที่เที่ยวยังไม่จุใจก็แวะได้ค่ะ แต่เราเหนื่อยกันแล้วเลยไม่ได้แวะ 😉

santorini
santorini

แวะที่สุดท้าย ซื้อของฝากกลับบ้าน

แม่กิมลั้ง

ร้านขายของฝากชื่อดัง มีของฝากมากมายทั้งของคาวและของหวาน อาทิ ขนมหม้อแกง ของฝากชื่อดัง บ้าบิ่น  ขนมเปี๊ยะนมสด เค้กฝอยทอง ชิฟฟ่อนลูกตาลสด และอีกมากมาย มีให้ชิมก่อนซื้อ ขนมหวานอร่อยทุกอย่างคอนเฟิร์ม ( ชิมมาเยอะ 🙂  )

แม่กิมลั้ง
แม่กิมลั้ง

สรุปค่าใช้จ่าย(ไม่รวมของฝาก)
[table  width=”500″ colwidth=”10|490″ colalign=”left|left|”]
,
1. ,ค่าน้ำมัน 800 บาท
2. ,ค่าทางด่วน 50 บาท ไป-กลับ x 2 = 100 บาท
3. ,อาหาร(ไม่อั้น)สำหรับ 5 คน 1810 บาท
4., ค่าจอดรถ 40 บาท
[/table]
รวมค่าใช้จ่าย 2,750 บาท (550 บาท/คน)

 สรุปแผนที่เที่ยวหัวหินสำหรับทริป 1 วัน

แผนที่เที่ยวหัวหิน
แผนที่เที่ยวหัวหินทั้งหมด

ติดตามรีวิวและข่าวสารของเราได้ผ่าน https://www.facebook.com/thailandIndyOfficial , IG: thailand.indy ค่ะ

สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยค่ะ  สามารถแนะนำเพิ่มเติมได้ผ่านทาง facebook: thailandIndyOfficial  หรือ thailandindy.contact@gmail.com