ทริปนี้ 4 วัน 3 คืน ด้วยงบประมาณรวมทุกอย่างแล้ว อยู่ที่คนละ 4,800 บาท
เราเริ่มจากการเดินทางจากกรุงเทพฯ ที่สนามบินดอนเมืองประมาณ 6 โมงเช้า ถึงสนามบินหาดใหญ่ เมื่อเวลา 07:00 น.
เทคนิคประหยัด วางแผนไว้ข้ามปีแล้วจองตั๋วเครื่องบินช่วงมีโปรโมชั่น เราจองแอร์เอเชียตอนมีโปรโมชั่น รวมค่าเครื่องไป-กลับ ประมาณ 1,000 บาท
ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะเพราะไม่ได้จัดทริปของวันแรก เราและผองเพื่อนเลยขอเถลไถลอยู่ที่หาดใหญ่ก่อนซักพัก เนื่องจากได้ยินมาว่ามีร้านติ่มซำเจ้าอร่อยขึ้นชื่อของหาดใหญ่ จึงอยากจะลิ้มลองรสชาติซักหน่อย จากนั้นเราก็ไม่รีรอจัดเลยค๊าา!!! ตรงไปที่ร้าน
“โชคดีเต่าเตี๊ยม”
ราคาไม่แพง เข่งละ 18 บาท หลังจากที่ทานกันอิ่มหนำสำราญกันแล้ว เป็นเวลาประมาณ 09:00 น. เราก็โทรเรียกรถตู้ให้มารับ (รถตู้ที่โทรจองไว้ รวมอยู่ในแพคเกจเรือสปีดโบ๊ท) เนื่องจากมากันหลายคน (6 คน) รถตู้จึงมารับที่ร้านติ่มซำ ซึ่งรถตู้นี้จะไปรับเราที่ไหนก็ได้ในหาดใหญ่ แต่จำนวนคนต้องไม่ต่ำกว่า 6 คน (ถ้าไป 2 คน ไม่มารับนะจ๊ะ) 🙂
จากหาดใหญ่ถึง “ท่าเรือปากบารา” เราก็นั่งเรือสปีดโบ๊ทไปยังเกาะหลีเป๊ะ ใช้เวลาประมาณ 1:30 ชม. (ค่าเรือและค่ารถไป-กลับ คนละ 1,200 บาท) ซึ่งจะต้องไปเปลี่ยนเรือเป็นเรือยาว (เนื่องจากมีกฎห้ามเรือสปีดโบ๊ทเข้าไปใกล้ฝั่ง ด้วยเกรงว่าอาจจะทำให้ปะการังริมหาดเสียหายได้) จะมีโป๊ะตั้งรออยู่สำหรับการขึ้นไปเปลี่ยนเรือ โดยจะต้องจ่ายค่าโดยสารเพิ่มอีกคนละ 50 บาท เป็นค่าเรือยาว ก่อนขึ้นเรือเราจะต้องแจ้งว่าพักที่ไหน เพราะเรือยาวนี้จะพาเราไปยังหาดฝั่งที่อยู่ใกล้ที่พักเรามากที่สุด
เราพักกันที่ “เมาส์เท่น รีสอร์ท (mountain resort)” ถึงที่พักประมาณ 16:00 น. เก็บข้าวของแล้วพักผ่อน
เวลา 16:00 น. ออกไปเดิน walking-street (ถนนคนเดิน) จะมีรถกระบะจากรีสอร์ทรับ-ส่ง walking-street
เราทานอาหารกันที่ walking-street ร้าน “คนเล” ราคาอาหารที่จำได้คร่าวๆ อย่างเช่นข้าวผัดทะเล 120 บาท แต่ราคานี้กุ้งตัวโตๆ ปลาหมึกเต็มๆ คือทุกอย่างจัดเต็ม ที่ walking-street จะมีร้านโรตี ร้านชาชัก ที่ทุกคนจะต้องแวะไปลิ้มชิมรส
เรื่องของอาหารการกิน บนเกาะจะมี 7-eleven ราคาของที่เช็คคร่าวๆคือประมาณ 2 เท่าของราคาบนฝั่ง นอกจาก 7-eleven แล้วยังมีร้านขายของชำด้วย ซึ่งหากเทียบราคากับ 7-eleven จะถูกว่ากันประมาณ 20-30%
ส่วนร้านอาหาร ขอแนะนำเป็นร้านอาหารที่ไม่ได้อยู่ที่ walking-street เพราะถูกกว่า แถมได้บรรกาศริมทะเลอีกด้วย ส่วน walking-street เหมาะกับการเดินซื้อของกินเล่น หรือของใช้ทั่วๆไป
สำหรับทริปดำน้ำที่ walking-street จะมีบริษัทที่จะพานักท่องเที่ยวทัวร์ดำน้ำอยู่ เราจะต้องไปซื้อแพคเกจ โดยจะมีทัวร์ดำน้ำรอบใน ราคาอยู่ที่ 550-650 บาท/คน และทัวร์ดำน้ำรอบนอกอยู่ที่ 750-850 บาท/คน ในราคานี้จะรวมกับอาหารกลางวันด้วย 1 มื้อ
เนื่องจากว่ามาเป็นรอบที่สอง และได้ขอเบอร์ของคนเรือที่จะพาเราไปทัวร์ดำน้ำไว้ตั้งแต่รอบแรก เราเลยโทรติดต่อเขาโดยตรง เขาคิดราคาเหมาอยู่ที่ 2,000 บาท/วัน เฉลี่ยตกคนละประมาณ 335 บาท สำหรับทัวร์รอบใน แต่ไม่มีอาหาร เราจะต้องเตรียมกันไปเอง โดยสั่งไว้กับร้านที่ถนนคนเดินเมื่อตอนเย็น และบอกเวลาให้เขามาส่งเราที่รีสอร์ทในตอนเช้า ส่วนค่าอาหารเฉลี่ยคนละประมาณ 100 บาท
รวมค่าทัวร์ดำน้ำสำหรับรอบใน อยู่ที่ 435 บาท/คน
***ทริคที่ได้จากการติดต่อคนเรือโดยตรงก็คือ เขาสามารถพาเราไปยังจุดดำน้ำอื่นๆ ที่ไม่ต้องไปออกันกับทัวร์อื่นๆ เพราะมีประสบการณ์ในการออกเรือกับบริษัททัวร์ รู้ว่าเรือทัวร์ออกกี่โมง ไปจุดไหนก่อนหลัง ทำให้สามารถหาวิธีหลีกเลี่ยงการพบปะกับทัวร์อื่นๆได้เป็นอย่างดี และแจ้งเวลาในการออกไปดำน้ำก่อนทัวร์อื่นๆครึ่งชั่วโมง ***
เราออกดำน้ำกันตอน 9:00 น. แม้จะเคยมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ก็ยังตื่นเต้นไม่หาย น้ำทะเลสวยมาก เห็นแล้วรู้สึกหายเหนื่อยไปเลย unseen Thailand บางเกาะจะมีค่าเข้าชมเกาะ คนละ 40 บาท
***ทริคดีๆจากคนเรือ พาเราไปยังเกาะใหญ่ก่อนแล้วค่อยไปยังเกาะเล็ก เพื่อนำบัตรผ่านไปใช้กับเกาะเล็ก อื่นๆอีก
หลังจากดำน้ำเสร็จประมาณบ่าย 2 ก็พักผ่อนกัน และเตรียมตัวออกไปดูพระอาทิตย์ตกตอน 5 โมงเย็น