เกาะเกร็ด

เกาะเกร็ด เที่ยวชมชุมชนชาวมอญเก่า

เกาะเกร็ด ชุมชนชาวมอญเก่า มนต์เสน่ห์ของเมืองนนท์ ชุมชนเก่าแก่ ล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา

วันนี้มีโอกาสต้อนรับแขกผู้มาเยือนจากต่างจังหวัด เราต้องเดินทางไปรับเพื่อน แถวปากเกร็ด ในเวลาครึ่งวันเช้าของวันอาทิตย์ เรามีเวลาอีกครึ่งวันบ่าย ก็คิดว่าจะพาเพื่อนไปเที่ยวไหนดี สถานที่แรกที่นึกถึงเลย “เกาะเกร็ดไงเพื่อน” ไหนๆก็มาแถวนี้แล้ว ก็ไปสิ พูดแล้วก็หยิบมือถือ ค้นหาใน google ก่อน “การเดินทางไปเกาะเกร็ด” ก็เจอว่าจะต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือ “วัดสนามเหนือ” จากนั้นก็ทำการเปิด google map แล้วก็ตาม GPS เลย

มาถึงซอยทางเข้าแล้ว แต่ว่ารถติดมากกก ขับเข้าไปในซอย จะมีที่จอดรถหลายที่ทั้งในวัดและบ้านของชาวบ้านแถวนั้นที่เปิดบริการให้จอดรถ แต่ก็มีค่าบริการประมาณ 40-50 บาท แต่วันนี้ เราหาที่จอดรถไม่ได้เลย วิ่งเข้าไปในซอยลึกเรื่อยๆก็ไม่มีที่จอด เลยวนรถกลับคืนมาหน้าวัดก็ยังไม่มี สักพักมีลุงคนนึงยืนโบก เราก็รับบึ่งรถไปเลย ซึ่งตรงนั้นเป็นร้านขายเครื่องปั้นดินเผา ที่ใหญ่พอสมควร ลุงแกก็โบกรถเข้าไป ข้างในจะมีลานกว้าง และมีโรงจอดรถของร้านด้วย เราเข้ามามีรถจอดอยู่2-3คัน เดาว่าน่าจะเพิ่งเปิดให้เข้ามาจอด ซึ่งเราก็โชคดีมากที่ได้จอด จอดเสร็จก็จ่ายเงินไป 50 บาท

เดินเข้าไปที่ท่าเรือข้างวัดสนามเหนือ

ท่าเรือวัดสนามเหนือ ท่าเรือไปเกาะเกร็ด
ท่าเรือวัดสนามเหนือ ท่าเรือไปเกาะเกร็ด

คิวยาวมากๆเลย ระหว่างยืนต่อแถว ข้างๆก็มีอุปกรณ์กันแดดขายมากมาย ตั้งแต่แว่นตา หมวกหลากหลายแบบ บ่ายๆแบบนี้ อย่าถามว่าร้อนมั้ย ขอตอบเลยว่า มากกก

ขึนเรือไปเกาะเกร็ด
ขึนเรือไปเกาะเกร็ด

ยืนรอคิวซักพัก ก็ถึงคิวขึ้นเรือแล้วว คนเยอะมาก เรือไปเกาะเกร็ด

นู่นไงเกาะเกร็ดอยู่ไม่ไกล นั่งเรือไม่ถึง 5 นาที

ชุมชนริมน้ำเจ้าพระยา เกาะเกร็ด
วิวชุมชนริมน้ำเจ้าพระยา เกาะเกร็ด

ระหว่างทาง ชมวิวรอ

พอไปถึงเกาะแล้วก็ขึ้นฝั่ง จ่ายเงินค่าโดยสารคนละ 2 บาท

บนเกาะมีจักรยานให้เช่า 40 บาท หรือใครจะนั่งเรือเที่ยวชมรอบเกาะก็ได้ ราคาเท่าไหร่จำไม่ได้ ส่วนเราขอเดินแล้วกัน

วัดปรมัยยิกาวาส (วัดปากอ่าว)
วัดปรมัยยิกาวาส (วัดปากอ่าว)

วัดแรกที่เจอ “วัดปรมัยยิกาวาส (วัดปากอ่าว)” จะเจอเจดีย์ทรงรามัญที่จำลองแบบมาจากพระธาตุเจดีย์มุเตา เกาะเกร็ด

มีของขายมากมาย ของเล่นโบราณ ขนมโบราณ งานฝีมือ หยูกยาสมุนไพร พืชผลจากชาวบ้านในชุมชนร้านอาหารเกาะเกร็ด

เดินมาซักพัก เริ่มหิวละ แวะร้านก๋วยเตี๋ยวหน่อยนะ ชามที่เห็นในภาพ 30 บาท คีบประมาณ 3 คำ หมดละ คือมันน้อยมาก ชามเดียวพอ ตั้งใจจะเดินชิมอาหารแปลกๆ ที่ไม่เคยกินด้วย รองท้องไปก่อน เสร็จแล้วก็เดินต่อไป

งานฝีมือที่เกาะเกร็ด
งานฝีมือที่เกาะเกร็ด หัวโขน

เจอพี่เขาวาดหัวโขนอยู่ สวยๆมากๆ ค่ะ ส่วนด้านซ้ายล่าง เป็นการนำขยะมารีไซเคิล ใส่ไอเดียออกมา กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์เก๋ๆ

 

ขนมไทยเกาะเกร็ด
ขนมไทยโบราณ เกาะเกร็ด

ขนมไทยหน้าตาดีมาก บางอย่างไม่เคยได้ยินชื่อ ไม่เคยกินมาก่อน

เกาะเกร็ด
คุณยายนั่งทำขนมบ้าบิ่นจากเตาถ่าน
เกาะเกร็ด
ยาสมุนไพร เครื่องสำอางจากธรรมชาติ
ขนมไข่ปลา เกาะเกร็ด
การทำขนมไข่ปลา เกาะเกร็ด

เกาะเกร็ด

เดินชมนั่น ชมนี่จนเหนื่อยละ ก็เหลือบไปเห็นในซอยเล็กๆ มีท่าน้ำเขาเรียกอะไรไม่รู้ ที่เป็นศาลายื่นออกไป เราก็ไปนั่งพัก ก็ได้เห็นวิวสวยๆ จากฝั่งตรงข้าม

โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม
โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม

เดินสักพัก เจอป้าย เขียนประมาณว่า ศูนย์การเรียนรู้เครื่องปั้นดินเผา ประมาณนี้ เราก็เดินเข้าในซอย ตามป้าย จะเจอ “โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม” มายืนดูลุงเขาปั้น อยากลองทำมั่ง ดูสนุกดีค่ะ

โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม
โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม

เหนื่อยแล้วได้ ก็กลับกัน เดินย้อนกลับไปที่เดิม จริงๆมีท่าเรือหลายที่ แต่เรายังไม่แวะหลายที่เลย เดินย้อนกลับไปที่เดิม

เกาะเกร็ด
เกาะเกร็ด

บายๆ เกาะเกร็ด

เก็บตก

  1. ใครคิดจะเช่าจักรยาน อาจจะได้จูงในบางช่วง เพราะคนเยอะ ปั่นไม่ได้ ถ้ามาช่วงคนไม่เยอะน่าจะดีกว่า
  2. มีวัดเยอะมาก เดินไปไม่กี่เมตรก็มีวัด
  3. พืชทอดอร่อย ไม่แพง ซื้อเดินกิน ชิวๆ (เป็นการนำดอกไม้ใบไม้ อาทิ ดอกอัญชัน ใบชะพลู กุ้ง ปู หน่อกะลาทอด ฯลฯ ชุบแป้งทอด)
  4. ไอศกรีมกะทิสดรถเข็นก็อร่อย
  5. ควรเตรียมอุปกรณ์กันแดดไปนิดนึง แต่ช่วงเดินเข้าชุมชนไม่แดดแล้ว

 

รีวิวหน้าจะเป็นอะไรอย่าลืมมาติดตามกันนะคะ บายๆ sunday.morning

sudio vasa

ไอเท็มห้ามพลาด!!! สำหรับนักเดินทาง

ใกล้วันหยุดยาวแล้ว หลายคนวางแผนไปเที่ยวไว้แล้วสินะ วันนี้เรารวบรวมไอเท็มที่สำคัญสำหรับการเดินทาง สำหรับใครที่ไม่อยากพลาดความสุข ในการเดินทาง มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1. อันดับหนึ่งที่ท่องไว้และเก็บใส่กระเป๋าเป็นอย่างแรก “กล้องถ่ายรูป” จ้า ไปเที่ยวจะขาดกล้องได้ไงว่ามะ มันน่าเสียดายนะถ้าไม่มีรูปเก็บไว้ แต่บางคนอาจจะบอกว่าแค่มือถือก็เพียงพอ อันนี้ก็แล้วแต่นะคะ ส่วนตัวเราชอบถ่ายรูปมากกกก กล้องเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ใช้กล้อง fuji x-m1 คือถูกใจที่ดีไซน์เก๋ สไตล์วินเทจหน่อย น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย สาวๆหลายคนน่าจะชอบ รุ่นนี้มีหลายสีให้เลือก

fujifilm-x-m1
fujifilm-x-m1 (credit: http://www.letsgodigital.org/)

2. “หูฟัง” เราเป็นคนที่ชอบฟังเพลงมาก เรียกได้ว่าดนตรีแทรกซึมอยู่ทุกอณูของจิตใจ (เว่อร์ไป) เราชอบฟังเพลงเวลาเดินทาง หูฟังที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็คือ sudio sweden รุ่น vasa หูฟังสัญชาติสวีเดน ดีไชน์สวยหรูดูดี คือหลงไหลในดีไซน์ มันเก๋ไก๋ เหมาะกับเราอย่างมาก (คิคิ) ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์ แต่คุณภาพคับแก้ว มีกระเป๋าหนังใบเล็กให้ด้วย ง่ายต่อการจัดเก็บ สายแบน พันกันยาก สามารถคลี่ออกได้ง่าย

sudio vasa
sudio vasa (เครดิตภาพ @moa_home)

จริงๆมีหลายสีให้เลือก คืออยากได้ทุกสีเพราะสวยๆทั้งนั้น ใครสนใจเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.sudiosweden.com ได้เลยค่ะ

3. “หนังสือ” เลือกหนังสือที่ชอบสักเล่ม ตอนออกเดินทาง ใช้เป็นเพื่อนแก้เบื่อสำหรับการเดินทางได้เป็นอย่างดี แถมยังได้พัฒนาสมองและความคิด ของเราให้กว้างไกลมากยิ่งขึ้น

เหตุผลที่เราจึงยังมีชีวิตอยู่
หนังสือดีๆอีกเล่มที่น่าอ่านของนิ้วกลม

4. “สมุดโน้ต” สำหรับขีดเขียนไอเดียที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง

(credit: http://www.aliexpress.com/)
(credit: http://www.aliexpress.com/)

การเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละครั้ง มันคือกำไรของชีวิต เชื่อเถอะว่าคุณจะได้ไอเดียและแรงบันดาลใจมากขึ้นแน่นอน ออกไปเที่ยวกันค่ะ

สำหรับเราก็มี 4 ไอเท็มนี้ค่ะ ลืมไม่ได้ ถ้าลืมคงต้องเซ็งกับการเดินทางครั้งนั้นแน่ๆ แล้วเพื่อนๆมีไอเท็มโปรดตัวไหนที่ขาดไม่ได้บ้าง อย่าลืมมาแชร์กันนะคะ

เชียงใหม่หน้าฝน ชิลไปตามสภาพอากาศ2วัน2คืน(วันที่2)

มาต่อวันที่ 2 ตามที่นัดไว้กับเพื่อนเป็นเวลา 8:00 น. แต่ก็เลทกันนิดหน่อย
ร้านโจ๊กต้นพยอม
เริ่มต้นมื้อเช้ากันที่ร้านโจ๊กต้นพยอม ซึ่งหมายตาไว้ตั้งแต่เมื่อวานแต่คิวยาวมาก วันนี้คนไม่ค่อยเยอะ จริงๆก็เยอะ แต่ยังพอมีโต๊ะว่าง
ร้านโจ๊กต้นพยอม ตั้งอยู่บนถนนสุเทพ ทางขึ้นดอยสุเทพ ร้านตั้งอยู่ซ้ายมือ สังเกตง่ายๆจะมีต้นพยอมอยู่หน้าร้าน

ร้านโจ๊กต้นพยอม
ร้านโจ๊กต้นพยอม

อาหารราคาไม่แพงค่ะมื้อนี้ประมาณ 160 บาทค่ะ มีโจ๊ก 3 ถ้วย และปาท่องโก๋ชุดนี้ ร้านนี้ไม่ได้มีแค่โจ๊กนะคะ ยังมีเครื่องดื่มอย่างชา กาแฟสด ด้วยค่ะ

วัดผาลาด
หลังจากทานมื้อเช้ากันเรียบร้อย อิ่มท้องเบาๆ ก็เดินทางมุ่งหน้าสู่ดอยสุเทพ ระหว่างทางขึ้นดอยสุเทพ จะมี “วัดผาลาด” หลายคนอาจไม่ได้สนใจกับวัดเล็กๆแห่งนี้ ที่ข้างทางดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เราก็ไปเจอว่าข้างในมีน้ำตกไหลผ่านด้วย

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาด
วิหารพระพุทธเจ้า 5

มีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา สร้างได้ลงตัวกลมกลืนกับธรรมชาติมากๆ

วัดสกิทาคาหรือวัดผาลาดถ้าอยากอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่ หน้าฝนน่าเที่ยว “วัดผาลาด” ลงตัวท่ามกลางธรรมชาติ (ถ้าไม่เขียนแยกรีวิวจะยาวเกินไป)

ดอยปุย

หลังจากเดินเที่ยวชมไหว้พระเรียบร้อยแล้ว ก็ไปต่อที่ดอยปุย ทางขึ้นดอยปุยจะค่อนข้างแคบหน่อยหากใครไม่มั่นใจจะขับเองก็สามารถจอดรถไว้แถวพระตำหนักภูภิงคฯ แล้วเหมารถแดงขึ้นไปก็ได้ค่ะ แต่จริงๆทางก็ไม่ได้น่ากลัวมากขนาดนั้นนะคะ ยังขับเองได้ ส่วนเรากับเพื่อนก็ขับไปกันเอง(หญิงแกร่ง)

ดอยปุยหน้าฝน
รถแดงพาเที่ยวดอยปุย

ที่ดอยปุยจะมีหมู่บ้านม้ง ระหว่างทางขึ้นไปดอยจะมีร้านค้าขายของงานฝีมือของชาวม้ง ตลอดทาง

หมู่บ้านม้งดอยปุย
หมู่บ้านม้งดอยปุย

จะต้องมีค่าขึ้นดอยด้วยคนละ 10 บาท บนดอยก็จะมีดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิดดอยปุย

ร้านกาแฟดอยปุย
ด้านบนมีร้านกาแฟดอยปุย ซึ่งวิวสวยมากถ้ามองจากร้าน ราคากาแฟอยู่ที่แก้วละ 60 บาท ซึ่งเทียบกับวิวและบรรยากาศแบบนี้ ถือว่าไม่แพงเลยค่ะ

ร้านกาแฟม้งดอยปุย
ร้านกาแฟม้งดอยปุย

นั่งจิบกาแฟไป ชมวิวไป สักพักก็มีหมู่ก้อนเมฆที่เคลื่อนมาบดบังภูเขาอีกลูกนึง ทำให้ได้เห็นภาพที่สวยงามมาก แต่ภาพที่เห็นนี้อีกไม่นาน ฝนก็ตก เราก็เลยรีบลงจากดอยเพราะเกรงว่าจะติดฝนอีกนาน กลัวจะเป็นอันตรายตอนเดินทาง

ดอยปุย
ดอยปุย

ดูรีวิวและภาพจากดอยปุยเพิ่มเติมได้ที่ หน้าฝนน่าเที่ยว “ดอยปุย-บ้านม้งดอยปุย”

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
กลับมาจากดอยปุยเราก็แวะพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ที่นี่จัดแสดงสวนดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิดมาก บนเนื้อที่ประมาณ 400 ไร่ ไปถึงพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ แปบนึงฝนก็ตกปรอยๆ ตกๆหยุดๆค่ะ แต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะไม่ได้ตกหนักเป็นแค่ละอองฝน แต่ถ้าใครจะพกผ้ากันฝนหรือร่มไปก็ดีค่ะDSCF1316

สำหรับภาพจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ทั้งหมดสามารถดูได้ที่  หน้าฝนน่าเที่ยว “ชมดอกไม้งามที่พระตําหนักภูพิงค์” 

หลังจากเดิมชมดอกไม้ ถ่ายภาพกันจุใจแล้วก็กลับ จริงๆจุดหมายต่อไปคือวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร แต่เนื่องด้วยน้ำมันรถที่ใกล้หมด เพราะลืมเช็คก่อนออกเดินทาง ประกอบกับหิวข้าวกันแล้ว เราเลยเปลี่ยนแผนกลับเข้าไปในตัวเมือง บริเวณที่จอดรถนอกพระตำหนักมีร้านขายอาหารของกินอยู่หลายร้าน ก็รองท้องเบาๆกันไป เพราะจุดหมายหลักของมื้อนี้ที่เพื่อนไกด์แนะนำคือ ส้มตำหลวงพระบาง

ส้มตำหลวงพระบาง
ที่นี่มีอาหารลาว แบบสไตล์หลวงพระบางแท้ๆ โดยเมนูเด็ด 2 ศรีพี่น้องที่พลาดไม่ได้คือ ส้มตำหลวงพระบางและส้มตำเวียงจันทร์ 

ส้มตำหลวงพระบาง ส้มตำเวียงจันทร์
ส้มตำหลวงพระบาง(ซ้าย)  ส้มตำเวียงจันทร์(ขวา)

ซึ่งจากการลงคะแนนเสียงของทั้ง 3 สาว โหวตเป็นเสียงเดียวกันว่า ส้มตำหลวงพระบาง(ซ้าย) ชนะเลิศค่ะ
ส้มตำหลวงพระบาง ใส่น้ำปูเข้มข้น ไม่มีปลาร้า รสชาดไม่เผ็ด ตัวเส้นส้มตำจะบางและแผ่นใหญ่ ส่วนส้มตำเวียงจันทร์(ขวา) เส้นจะเล็ก คล้ายๆแบบที่เห็นทั่วไปรสชาดคล้ายส้มตำปูปลาร้า เผ็ดนิดหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆให้อีกมากมาย อาทิ ไคแผ่น, ต้มแซ่บ ฯลฯ

ส้มตำหลวงพระบาง
เมนูอาหารร้านส้มตำหลวงพระบาง

ซึ่งทั้งหมดนี้คิดค่าเสียหายแล้วอยู่ที่ประมาณ 400++ บาท อิ่มกันถ้วนหน้า

อิ่มหนำสำราญกันด้วยเวลาประมาณ 14:00 น. ก็กลับที่พัก นั่งพักชาร์ตแบตกันสักพัก ก็ออกไปเที่ยวต่อ โดยทริปจากนี้ไปก็คือไหว้พระในตัวเมืองเชียงใหม่

วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
เชียงใหม่มีวัดเยอะมาก  ด้วยเวลาที่ยังเหลืออีกเยอะ ตอนเย็นเราจะไปเดินถนนคนเดินที่ใหญ่กว่าเมื่อวาน เรียกว่าถนนคนท่าแพ เพื่อนไกด์เลยแนะนำให้จอดรถไว้ในซอยแถวๆถนนคนเดิน ซึ่งวัดที่เราจะไปก็อยู่บนถนนคนเดินด้วย ดังนั้นเราก็จะได้เดินถนนนคนเดิน พร้อมกับแวะไหว้พระไปด้วย ขณะนี้เวลาประมาณ 16:00 น. ร้านหลายๆร้านบนถนนคนเดิน ตั้งร้านยังไม่เสร็จ เราจึงแวะเข้าวัดกันก่อน โดยเริ่มต้นกันที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร พระอารามหลวงเก่าแก่ของเชียงใหม่ เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ วัดเจดีย์หลวง

พระวิหาร พระอุโบสถ พระวิหารหลวง หรือพระวิหารกลาง งดงามตระการตามากกับศิลปะแบบล้านนา

วัดเจดีย์หลวง
วัดเจดีย์หลวง

เดินไปด้านหลังพระอุโบสถ จะมีพระธาตุเจดีย์หลวง พระธาตุเก่าแก่ สมัยพระเจ้าแสน เป็นพระธาตุที่มีความสูงใหญ่ที่สุดในอาณาจักรล้านนา อายุกว่า 600 ปี

พระธาตุเจดีย์หลวง
พระธาตุเจดีย์หลวง
พระมหาสังกัจจายน์
พระมหาสังกัจจายน์

ที่นี่มีสถาปัตยกรรมหลายอย่างที่เก่าแก่ให้เราได้ชม ไม่ว่าจะเป็น พระนอน หรือ พระพุทธไสยาสน์, พระมหาสังกัจจายน์, ต้นยางใหญ่ 3 ต้น อายุกว่า 200 ปี, หอธรรม (หอพระไตรปิฏก), กุฏิแก้วนวรัฐ กุฏิหลังแรกของวัด สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง, เสาอินทขีล เชื่อกันว่าเป็นหลักเมืองเชียงใหม่ ฯลฯ

วัดพันเตา
ออกจากวัดเจดีย์หลวงก็เดินมาไม่กี่ก้าว ข้างๆก็มีอีกวัดหนึ่งคือ วัดพันเตา เดิมเป็นพื้นที่ในเขตวัดเจดีย์หลวง สร้างจากไม้สักทั้งหลัง ที่มีสภาพสมบูรณ์และสวยงามที่สุดของเชียงใหม่ เพื่อนไกด์เล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนบริเวณนี้เป็นที่ตั้งเตาหลอม ในการหล่อพระอัฏฐารสในวิหารวัดเจดีย์หลวง

วัดพันเตา
วัดพันเตา

ฝนเริ่มลงเม็ดมาแล้ว เพื่อนไกด์บอกว่า ถ้าฝนไม่ตก ตอนกลางคืนวัดพันเตาจะจุดเทียนตามทาง สวยงามมากวัดพันเตา

วัดพันเตา
วัดพันเตา

อนุสาวรีย์สามกษัตริย์
ฝนปรอยๆไม่หนักมาก สักพักก็หยุด เราก็เดินออกจากวัด ผ่านถนนคนเดิน แวะดูร้านนั้นร้านนี้ เพื่อเดินต่อไปยัง อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ซึ่งไม่ไกลจากกันมากนัก
พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ หรือ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทย 3 พระองค์ ผู้สร้างเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ คือ พญามังราย, พญางำเมือง และ พ่อขุนรามคำแหง เป็นที่นิยมในการมาสักการะบูชากัน

อนุสาวรีย์สามกษัตริย์
อนุสาวรีย์สามกษัตริย์
อนุสาวรีย์สามกษัตริย์
อนุสาวรีย์สามกษัตริย์

ตรงข้ามกับอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จะเป็นศาลแขวงเชียงใหม่เก่า

ศาลแขวงเชียงใหม่เก่า
ศาลแขวงเชียงใหม่เก่า

จะเห็นว่าพื้นถนนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ เพราะฝนตกๆหยุดทั้งวันค่ะ และตอนนี้ฝนก็ลงเม็ดอีกแล้ว เดินมาถึงตรงนี้ก็สุดทางถนนคนเดินแล้ว เราก็เดินกลับทางเดิม เพื่อเดินถนนคนเดินด้วย แต่ระหว่างทางฝนตกหนัก ซึ่งถ้าเดินฝ่าต้องเปียกแน่ๆ ระหว่างถนนคนเดิน ก็อย่างที่บอกว่ามีวัดอยู่ติดๆกันเยอะแยะไปหมด เราก็เลยแวะที่วัดอินทขีลสะดือเมือง

วัดอินทขีลสะดือเมือง

วันอินทขีลสะดือเมือง
วันอินทขีลสะดือเมือง

ด้านข้างจะเห็นร่มและเต้นท์ที่กางอยู่มากมาย ซึ่งก็คือตลาดถนนคนเดินนั่นเอง

วันอินทขีลสะดือเมือง
หลวงพ่อขาว วันอินทขีลสะดือเมือง

ภายในวัดอินทขีล มีพระพุทธรูปสำคัญอยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มาเป็นเวลานาน ซึ่งก็คือ หลวงพ่อขาว อายุกว่า 700 ปี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปแบบล้านนา มีพระพักตร์อิ่มเอิบ ตั้งอยู่ภายในวิหารทรงล้านนาที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง

อยู่ในอุโบสถกันสักพัก ฝนไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย เราก็เลยตัดสินใจส่งตัวแทนวิ่งไปซื้อเสื้อกันฝนมา แล้วก็เดินกลับกันไปที่รถ เพื่อไปหาอะไรกินกัน ด้วยเวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ ตัดสินใจกันยังไม่ได้ว่าจะกินไร ขับรถไปกับสายฝนที่ตกปรอยๆตลอดทาง สุดท้ายเพื่อนเสนอร้านแถวกาดมอ ซึ่งก็คือตลาดหลังมอนั่นเอง (คนเชียงใหม่เรียก ตลาด ว่า กาด) ด้วยเวลาประมาณ 2 ทุ่ม

ร้านท่าช้าง
หลังจากอิ่มท้องแล้ว เพื่อนไกด์ได้พูดถึง เมนูใหม่สูตรหมาใจดำ แค่ชื่อก็น่าสนใจแล้ว ไม่รอช้า ขณะนี้เวลา 3 ทุ่ม บึ่งรถไปที่ร้านท่าช้าง ที่ถนนแถวเจเจมาร์เก็ต เพื่อนไกด์บอกว่า ร้านท่าช้าง เป็นสถานที่เที่ยวกลางคืนยอดฮิตของวัยรุ่นเชียงใหม่ มีเครื่องดื่มรสชาดดีๆ ชื่อแปลกๆให้ได้ลองกัน ไหนก็มาแล้วเนอะ สัมผัสให้ครบทุกบรรยากาศ ทุกไลฟ์สไตล์ จะได้คุ้มกับการมาเที่ยว

ร้านท่าช้าง
ร้านท่าช้าง

บรรยากาศในร้านตกแต่งเก๋ๆแนวๆ ออกแนวย้อนยุคสไตล์วินเทจหน่อยๆ ประดับด้วยโคมไฟที่เป็นชื่อปั๊มน้ำมัน ใช้ถังน้ำมันมาเป็นโต๊ะ ทาสีเข้มจัดสะดุดตา ลูกค้ามีตั้งแต่เด็กวัยรุ่น ไปจนถึงคนวัยทำงาน

สำหรับรีวิวนี้ประสบการณ์ที่เชียงใหม่ 2 วัน 2 คืน เราไม่สามารถไปได้ครบทุกที่ เชียงใหม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าหากมีโอกาสเราจะกลับไปเยี่ยมเชียงใหม่อีกแน่นอนค่ะ

เชียงใหม่ทำให้เราได้สัมผัสกลิ่นอายความเป็นล้านนา วัฒนธรรมที่แม้ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปกี่ยุคกี่สมัย แต่เมืองนี้ก็ยังสามารถบอกเล่าเรื่องราวของคนรุ่นเก่าให้คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี  แม้ว่าจะมีวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่เข้ามา แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันกับวัฒนธรรมเก่าและผสานกันได้อย่างลงตัว

ที่สำคัญคือมิตรภาพ ที่ได้รับจากเพื่อนไกด์ ขอบคุณที่เสียสละเวลาพาเราเที่ยว ไม่บ่นซักคำ 🙂

สามารถดูรีวิววันที่ 1 ได้ที่ เชียงใหม่หน้าฝน ชิลไปตามสภาพอากาศ(วันที่1)

สำหรับแผนที่หากมีเวลาจะมีอัพเดทเพิ่มเติมค่ะ หรือใครอยากได้เป็นพิเศษ สามารถคอมเม้นถามได้เลยค่ะ

sunday.morning

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

หน้าฝนน่าเที่ยว “ชมดอกไม้งามที่พระตําหนักภูพิงค์”

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงยอดฮิต ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
หมอกลงหนามาก

ในช่วงนี้ฤดูฝน ดอกไม้ใบหญ้าที่นี่เขียวชะอุ่มชุ่มชื่น อากาศเย็นสบาย ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกที่คิดว่าอีกไม่นานฝนคงตก เหมือนทริปอื่นๆที่ผ่านมา

สำหรับการเข้าชมสถานที่แห่งนี้ จะต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่โป๊ ใครใส่เสื้อแขนกุด กางเกงหรือกระโปรงสั้น รวมถึงกางเกงยืนแฟชั่นที่ฮิตทำให้ขาดด้วย จะต้องเช่าชุดที่เขาเตรียมไว้ให้เพื่อใส่ก่อนเข้าไปด้านใน

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ถังขยะที่ตกแต่งได้น่ารักมากค่ะ

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
อากาศเย็นสบายมาก กับไอหมอกก่อนฝนตก หมอกฟุ้งๆ รู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์เลยค่ะ 🙂
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ที่นี่รายล้อมไปด้วยดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิด แข่งกันเบ่งบานต้อนรับนักท่องเที่ยว เราก็ไม่ค่อยจะรู้จักชื่อดอกไม้แต่ละชนิดเท่าไหร่ แต่พยายาม รวบรวมข้อมูลรายชื่อดอกไม้เมืองหนาวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ดอกกุหลาบ
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ดอกกุหลาบ

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ไฮเดรนเยีย
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ดอกไฮเดรนเยีย
ดอกไฮเดรนเยีย
ดอกไฮเดรนเยีย
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่
Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่
Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่
Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่
Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่

นอกจากจะได้เห็นดอกไม้สวยๆแล้ว เรายังได้เห็นการจัดแต่งสวนสวยๆ ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญช่วยให้ดอกไม้ดูสวยมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

มีต้นไม้ทั้งเล็กใหญ่ตลอดทาง ชมดอกไม้ไป ช่วงไหนที่ฝนตกลงมาเราก็หลบฝน แต่ฝนตกแป๊ปเดียวก็หยุดแล้ว จึงไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆกับเราสำหรับการเที่ยวหน้าฝนนี้

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ใบไม้หลังฝนตก ก็ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

เดินไปเรื่อยๆจะมีทางเดินสำหรับขึ้นไปดูอ่างเก็บน้ำ จะเจอสะพานข้าม ค่อนข้างสูง มองลงไปด้านล่างจะเห็นถนน ก็สวยไปอีกแบบค่ะพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ดอกรักเร่ที่มีน้ำเกาะอยู่ตามกลีบหลังจากฝนตก

Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่
Dahlia รักเร่ ดอกรักเร่
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ทางขึ้นไปดอ่างเก็บน้ำ
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
มุมจากบนลงล่างบ้าง

ดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว DSCF1412

ดอกไม้เมืองหนาว
ธรรมชาติสรรค์สร้าง

ตามโขดหินจะมีมอสเกาะอยู่มากมายค่ะ บ่งบอกว่าที่นี่มีความชุ่มชื่นมากๆดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว

เดินมาถึงจุดนี้ฝนทำท่าจะตกอีกแล้ว แต่เราก็ไม่หวั่น ยังคงสนุกกับการถ่ายรูป ถ่ายเพลินๆก็ขึ้นมาถึงอ่างเก็บน้ำแล้วอ่างเก็บน้ำพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ อ่างเก็บน้ำพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นการตกแต่งสวนดอกไม้เป็นชั้นๆ แต่ตอนนี้ฝนเริ่มลงเม็ดอีกรอบ เราเลยถ่ายภาพมาได้เท่านี้แล้วต้องรีบวิ่งไปหลบฝนในศาลาอ่างเก็บน้ำพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ตกได้ประมาณ 5 นาที ฝนก็หยุด เราก็ออกเดินทางต่อ

ต้นไม้แกะสลัก
ต้นไม้แกะสลัก

ต้นไม้แกะสลักที่สวยและงดงามมาก เราก็ทึ่งในความสามารถของคนเหมือนกัน เพราะแกะได้เนี๊ยบและละเอียดมากค่ะ

มีหลายต้นเลยค่ะ

ต้นไม้แกะสลัก
ต้นไม้แกะสลัก

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

สำหรับทริปนี้ จุใจไปด้วยธรรมชาติ ของหน้าฝนมากๆค่ะ

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
เก็บรายละเอียดริมทาง

การเดินทางมีคุณค่าทางจิตใจเสมอ

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ค่าใช้จ่าย

ค่าเข้าชม : คนละ 20 บาท
ค่าเช่าชุด : ชิ้นละ 10 บาท

ดูรีวิวหน้าฝนน่าเที่ยวอื่นๆ

ดอยปุย

หน้าฝนน่าเที่ยว “ดอยปุย-บ้านม้งดอยปุย”

หน้าฝนน่าเที่ยว เดินทางต่อจากวัดผาลาด รีวิวไว้ที่นี่ หน้าฝนน่าเที่ยว “วัดผาลาด” ลงตัวท่ามกลางธรรมชาติ จากวัดผาลาดเรามุ่งหน้าไปยังดอยปุยต่อค่ะ ซึ่งจะผ่านพระตําหนักภูพิงค์ด้วย แต่เราตั้งใจขึ้นดอยปุยก่อนค่อยลงพระตําหนักภูพิงค์ค่ะ

ดอยปุย-ดอยสุเทพ
ทางระหว่างขึ้นดอย โค้งมากค่ะ แต่ไม่น่ากลัว

ระหว่างเดินขึ้นไปบนดอยก็จะต้องเดินผ่านหมู่บ้านม้ง จะพบวิถีความเป็นอยู่ของชาวม้ง

หมู่บ้านม้งดอยปุย หมู่บ้านม้งดอยปุยมีตลาดขายสินค้าของชาวบ้าน ทั้งงานฝีมือ ของพื้นบ้าน เสื้อผ้า ผ้าฝ้ายทอมือ เครื่องประดับเงิน ชา และอีกมากมายหมู่บ้านม้งดอยปุย pageมีชุดชาวเขาให้เราได้เช่าใส่ด้วยค่ะ คนละ 50 บาท จะมีเด็กๆมาคอยต้อนรับและอาสาเป็นไกด์ให้ (แต่อาจจะต้องมีค่าตอบแทนให้น้องด้วยนะคะ 🙂 ) น้องๆจะวิ่งมาต้อนรับและพูดกับคุณว่า “พี่สาวคะ สนใจให้หนูเป็นมัคคุเทศน์น้อยพาเที่ยวมั้ยคะ แล้วแต่พี่จะให้ค่าขนมหนูค่ะ” ประมาณนี้ น่ารักค่ะ หรือจะถ่ายรูปกับเด็กดอยก็ได้ค่ะ น้องๆก็จะหารายได้จากนักท่องเที่ยวจากการนำเที่ยวหรือถ่ายรูปคู่กับเราค่ะ แล้วแต่เราจะให้เขาค่ะ

อ้อลืมบอกไปว่าต้องมีค่าเข้าชมดอกไม้ด้วยค่ะ คนละ 10 บาทหมู่บ้านม้งดอยปุยดอยปุยดอยปุยดอยปุย DSCF1052

ดอยปุย
ดอกไม้ในหน้าฝนก็สวยงามไม่แพ้หน้าหนาวนะคะ
ดอยปุย
พึ่งพาอาศัย

ดอยปุยเก็บภาพหมู่ดอกไม้มาฝากล้วนๆเลยค่ะ ไม่รู้จะบรรยายอะไร ให้ภาพบอกแทนแล้วกันค่ะดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุย ดอยปุยดอยปุย DSCF1093 ดอยปุย

อากาศเย็นสบายมากค่ะ ดอยปุยดอยปุย ดอยปุย ดอยปุยหน้าฝน

ด้านบนมีร้านกาแฟค่ะ ชื่อร้าน กาแฟม้งดอยปุย 

ร้านกาแฟม้งดอยปุย
ร้านกาแฟม้งดอยปุย

ดอยปุยหน้าฝน

มีหลากหลายเมนูให้เลือกสรร ราคาไม่แพงค่ะ รสชาดดีร้านกาแฟม้งดอยปุย ร้านกาแฟม้งดอยปุย ร้านกาแฟม้งดอยปุยร้านกาแฟม้งดอยปุย

ร้านกาแฟม้งดอยปุย
ลาเต้ร้อนแก้วละ 60 บาท

จากร้านกาแฟม้งดอยปุย เราจะมองเห็นวิวทั้งหมด คือดีมากค่ะ ดอยปุยหน้าฝนจากการอยู่เชียงใหม่ในหน้าฝน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สองทำให้รู้ว่า เมฆหมอกที่หนามากขนาดนี้อีกไม่นานฝนก็ตก แต่ฝนที่ตกพร้อมเมฆหมอกเหล่านี้จะเป็นละอองฝนค่ะ ไม่ใช่ฝนเม็ดโตๆ แบบที่เคยเจอค่ะและไม่ได้ตกบริเวณนี้แต่จะตกบริเวณที่หมอกเหล่านี้ไปเยือนค่ะ ส่วนฝั่งเราก็ได้เห็นวิวดี ภาพสวยๆค่ะ 🙂ดอยปุยหน้าฝน ดอยปุยหน้าฝนดอยปุยหน้าฝนนั่งกินกาแฟ ชมบรรยากาศไปซักพัก ก็ได้เวลากลับเพื่อที่จะลงไปยังพระตําหนักภูพิงค์ต่อ เราเดินลงอีกด้านหนึ่งของร้านกาแฟค่ะ

ดอยปุยหน้าฝน
น่าจะเป็นเครื่องตำข้าวมั้งคะ

ริมทางเดินลงจากร้านกาแฟ ด้วยความชุ่มชื้นของป่าไม้ ทำให้เห็นมอสตามโขดหินและต้นไม้มากมายค่ะดอยปุยหน้าฝนดอยปุยหน้าฝน ดอยปุยหน้าฝนเราจะต้องเดินอีกทางจากทางขึ้น จะมีป้ายบอก ว่าเป็นทางลงค่ะ ระหว่างทางก็มีตลาดขายของเช่นเดียวกับทางขึ้นค่ะ

ขับรถออกจากดอยปุยมาซักพัก แวะถ่ายรูปซักหน่อย เพราะตื่นเต้นกับหมอกเหล่านี้มากๆค่ะ ดอยปุยหน้าฝนมีรถมา ดอยปุยหน้าฝนถ้าหากเราไม่ได้เอารถมาเองก็มีรถแดงพาเที่ยวนะคะหรือหากขับไม่เก่งไม่ชำนาญเพราะทางค่อนข้างแคบและชันนิดหนึ่งค่ะ จะเหมารถสองแถวแดงหรือมาเป็นรถโดยสารกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆก็ได้ค่ะ ตรงพระตําหนักภูพิงค์จะมีรถสองแถวแดงจอดรอเรียกนักท่องเที่ยวอยู่หลายคันค่ะดอยปุยหน้าฝน

ดูรีวิวหน้าฝนน่าเที่ยวอื่นๆ

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่

หน้าฝนน่าเที่ยว “ม่อนแจ่มม่วนใจ๋”

ถึงช่วงนี้จะเป็นหน้าฝนหลายคนอาจจะกลัวเปียกไม่อยากออกไปไหน อยากเที่ยวแต่ก็กลัวฝน ส่วนเราคิดว่าความสวยของแต่ละฤดูคงให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปแน่นอนค่ะ เหมือนทริป “หน้าฝนน่าเที่ยว” นี้ เราเองก็อยากสัมผัสความรู้สึก อารมณ์ของการเที่ยวหน้าฝน และก็ประทับใจมากเลยต้องบอกต่อ ต้องลองค่ะ

“หน้าฝนน่าเที่ยว” ทริปแรกคือ ม่อนแจ่มม่อน” หมายถึง ดอยที่มีขนาดเล็ก “ม่อนแจ่ม” ตั้งอยู่ในตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที
ม่อนแจ่มมีอากาศเย็นสบายตลอดปีและมีหมอกในยามเช้า มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ ทิวภูเขาสลับกันไกลสุดลูกหูลูกตา ยอดเขาทางทิศตะวันออกมีจุดชมวิวม่อนล่อง เหมาะสำหรับชมทิวทัศน์ของพื้นที่โครงการหลวง ส่วนทางด้านทิศใต้เป็นไหล่เขามองลงไปจะเห็นหมู่บ้านม้งหนองหอยและพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยโดยรอบ ซึ่งเป็นแปลงปลูกผักและวิจัยพืชผักเมืองหนาว เช่น อาติโช๊ค แปลงสมุนไพรเลมอนทาร์ม มิ้น คาร์โมมายด์ โรสแมรี่ ไม้ผล เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอเบอรี่พันธุ์ 80 แปลงผักไฮโดรโพนิค การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น โอ้คลีฟแดง และผักตระกูลสลัด มะเขือเทศดอยคำ ฯลฯ

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ไปถึงประมาณบ่ายโมง แต่หมอกหนาตามากค่ะ
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
หมอกหนาตามากค่ะ
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
แผงขายผักจากชาวบ้าน
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
มันเผา หอมมาก
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
มะเขือเทศปลอดสารพิษ
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
อะโวคาโด จากชาวบ้าน
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ถ่ายกับป้ายม่อนแจ่มนิดนึง เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง 🙂

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ชมวิวโครงการหลวง ที่ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
เด็กๆที่ม่อนแจ่ม รอยยิ้มที่เกิดจากความสุข

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ดอกไม้ ที่ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ไปไหนกันน๊า

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
มีรอยยิ้มจากเจ้าถิ่นส่งให้
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ชมวิวผ่านกระจกรถ ตอนลงจากม่อนแจ่ม
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ภาพจากจุดชมวิวม่อนล่อง มองเห็นพื้นที่โครงการหลวงและหมู่บ้านม้ง

มีฝนตกลงมาเล็กน้อย เราก็หลบฝนกันใต้หลังคามุงจากม่อนแจ่ม เชียงใหม่หลังฝนตก ท้องฟ้าเปิด ฟ้าใสมากค่ะม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ระหว่างทางลงจากม่อนแจ่ม ก็มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทางให้ได้กดชัตเตอร์รัวๆ ขับมาได้สักพัก จะมีจุดชมวิวม่อนล่อง ที่สามารถแวะเพื่อชมวิว ซึ่งจากจุดนี้สามารถมองเห็นพื้นที่โครงการหลวงและหมู่บ้านม้งม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ภาพจากจุดชมวิวม่อนล่อง มองเห็นพื้นที่โครงการหลวงและหมู่บ้านม้ง
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ภาพจากจุดชมวิวม่อนล่อง มองเห็นโครงการหลวง
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ภาพจากจุดชมวิวม่อนล่อง
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ภาพจากจุดชมวิวม่อนล่อง
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ระหว่างทางลงจากม่อนแจ่ม
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
แปลงกะหล่ำของชาวบ้าน

หลังจากฝนตกถนนอาจจะลื่นนิดหนึ่ง หากใครไปเที่ยวก็ขับรถด้วยความระมัดระวังด้วยนะคะม่อนแจ่ม เชียงใหม่

ม่อนแจ่มถึงจะเป็นดอยขนาดเล็ก ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ไปแล้วสิ่งที่เราได้เห็นคือภาพทั้งหมดนี้ ประทับใจค่ะ ถ่ายรูปเพลินมาก

ขอบคุณข้อมูลจาก http://thai.tourismthailand.org/