เวียดนามใต้

ตะลุยฝูงมอเตอร์ไซค์ ดื่มด่ำวิวทะเลทราย ใส่ชุดอ๋าวหญ่ายที่ ‘เวียดนาม’

‘เวียดนาม’ ประเทศที่หลายคนวางไว้เป็นคู่แข่งไทยในหลายๆด้าน ตั้งแต่แข่งกันส่งออกข้าว ไปจนถึงแข่งกันเป็นเจ้าอาเซียนในกีฬาฟุตบอล และการเกทับกันในวงการนางงาม

ทริปนี้จึงเกิดขึ้น เพราะอยากไปสัมผัสด้วยตัวเองว่าเวียดนามจะเป็นอย่างไร? เทียบแล้วเจริญเท่าไทยไหม? พร้อมแล้วก็ไปพิสูจน์กันเลย!

บินไปกับVietJet Air
ทริปนี้เราจองตั๋วของVietJet Air โลว์คอสสัญชาติเวียดนาม ที่นางเพิ่งมาเปิดตลาดในไทยไม่นาน ได้ราคาไปกลับ2พันกว่า แต่!ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตแพงไป เลยไปจบที่3พันต้นๆ
ไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ สภาพเครื่องก็พอถูๆไถๆได้ ถ้าไม่คิดมาก เบาะก็กว้างพอประมาณ อย่าคาดหวังเยอะกับราคาเท่านี้

VietJet Air
ทีเด็ดอยู่ที่สจ็วตของเขาที่เลือกหนุ่มๆสไตล์ Dark Tall Handsome กล้ามแน่น คือไม่ขาวตี๋แบบสายการบินอื่น มาในยูนิฟอร์มเสื้อยืดสีแดงทะมัดทะแมง บางเที่ยวบินไม่มีแอร์ชะนีเลยจ้า มีแต่ผู้ อื้อหือออออ นั่งไปชม.นิดๆ แลนดิ้งถึงสนามบินในโฮจิมินห์ปลอดภัยจ้า

โฮจิมินห์ถิ่นลุงโฮโฮจิมินห์
ด้วยขนาดของเวียดนามที่ก็ไม่เล็กนะครับ มีการแบ่งภูมิประเทศเป็นเวียดนามเหนือ-ใต้ ซึ่งจากข้อมูลแล้วพบว่าเมืองเอกของประเทศคือโฮจิมินห์ อยู่ในเขตเวียดนามใต้ (นางไม่ใช่เมืองหลวงนะจ๊ะ เมืองหลวงนางคือฮานอย อยู่ทางเหนือ)

โฮจิมินห์

โฮจิมินห์ถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ผู้คนพลุกพล่านมากสุด
มีสนามบินซึ่งถือว่าใหญ่สุดของประเทศแล้ว แต่ในสายตาเราและเพื่อนก็ว่ายังเล็กกว่าดอนเมือง นี่ให้เทียบเท่าประมาณสนามบินเชียงใหม่ ภูเก็ตไรงี้ ร้านDuty Freeน้อยนิด จัดที่นั่งให้คนรอเก้าอี้แบบหมอชิต ยังไม่ค่อยInternationalเท่าไร

(มีทริคการแลกเงินคือที่สนามบินเรทดีกว่าร้านข้างนอก เพราะฉะนั้นแลกไปเลยค่ะ แต่อย่าเทหมดหน้าตัก เหลือไว้เป็นUSดอลลาร์บ้าง ค่าเงินก็คิดยากชิบหาย จ่ายกันเป็นหมื่นเป็นแสนแบบแบงค์กงเต๊ก อย่าถามว่าคิดเป็นเงินไทยยังไง เพราะนี่ก็มั่ว55555)

ส่วนในเมืองไม่ค่อยมีตึกสูง แหล่งช็อปปิ้ง หรือโรงแรมหรูยังน้อย ร้านสะดวกซื้อแทบไม่ค่อยมี ยังเป็นมินิมาร์ทท้องถิ่นขายผ้าอนามัยโกเต็ก (โกเต็กที่บ้านเราเลิกขายไปแล้วอ่ะ) แต่เริ่มมีคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟสวยๆเอาใจวัยรุ่นมาเปิดเยอะขึ้น แต่สรุปแล้วกรุงเทพเราศิวิไลซ์กว่าโฮจิมินห์ เวียดนาม

(เออ ว่าแต่ลุงโฮเป็นใครวะ นี่ก็ไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์เขามาก รู้แค่เป็นผู้นำคนสำคัญเคยไปอยู่ไทย แล้วไงต่อไม่รู้ ไปหาอ่านที่อื่นเอานะ5555)

ตะลุยฝูงมอเตอร์ไซค์

vietnam
เกิดมาไม่เคยเจอะเคยเจอ ขอยกเป็นประเทศที่มี ฝูงมอเตอร์ไซค์เยอะที่สุดในโลกกกกก ขอเรียกว่าฝูง เพราะมันไม่ได้มากัน5-6คัน มันมากันเป็นฝูงจริงๆ ยิ่งในเขตโรงเรียนนะ แล้วตอนโรงเรียนเลิก นักเรียนขี่กรูกันออกมาเต็มถนน เมิงเอ๊ยยยยฝูงซอมบี้ จยย.ชัดๆ จะขี่กันตามใจฉัน บีบแตรกันจนปวดกระดูกหูชั้นที่4 ถ้าต้องข้ามถนนคนเดียวนี่คิดหนัก เพราะรถมันไม่หยุดให้จ้า ก่อนข้ามก็ต้องสูดหายใจลึกๆ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วเดินจ้ำๆไปเลย ห้ามหยุดชะงักเด็ดขาด! แล้วคุณจะพิชิตเป้าหมายได้สำเร็จ!!

แต่…แว้นของเขาคือแว้นคุณภาพ แว้นกันเพื่อเลี้ยงชีพไปทำมาหากิน ทุกคนจะใส่หมวกกันน็อกเปิดหน้า ใช้ความเร็วต่ำ ไม่ได้บิดเอาเป็นเอาตาย แว้นกวนเมืองแบบไทย เชื่อไหมว่าถึงรถจะเยอะ แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาเกิดอุบัติเหตุเลยนะ นี่ว่ายอดอุบัติเหตุช่วง7วันอันตรายไทยคงชนะเขาแหละ

ดินแดนมิจฉาชีพ ??

เที่ยวเวียดนามใต้

เรามักจะได้ยินข่าวคนเวียดนามเป็นมิจฉาชีพอยู่บ่อยๆ แม้กระทั่งมากรีดกระเป๋าในงานหนังสือบ้านเรา
ทริปนี้เราไปกัน6คน ชะนี5 ชาย1 (เอาไปยกของ ขี่ จยย.กับหารค่าข้าว) ระหว่างทริปก็ช่วยกันระแวดระวัง เดินคุมหน้าคุมหลัง เอากระเป๋าของมีค่ามาไว้ข้างหน้า สรุปทั้งทริปก็ไม่มีอะไรหาย ไม่เจอเหตุร้ายใดๆ เราว่าเรื่องแบบนี้มีอยู่ในทุกสังคมแหละ จะไทย เวียดนาม หรือประเทศยุโรปอย่างฝรั่งเศสก็ยังมีกระทู้เตือนภัยเลย เพราะฉะนั้นเราในฐานะนักท่องเที่ยวก็ต้องระวังตัวเองเป็นดีที่สุด

(อ่อ!มีโดนลุงเฝ้าที่จอดรถโกงค่าจอดครั้งหนึ่ง แต่พอเราบอกว่าเพื่อนจ่ายแค่นี้ นางก็ทำหน้างี้ดๆ ประมาณว่า อุ่ยตายแล้ว! โดนจับได้ แล้วก็รีบโบกมือให้เราเข้าจอดฟรีเลย)

อาหารการกิน

เฝอ เวียดนาม
เราขอแนะนำให้คุณพกน้ำปลา น้ำจิ้มแจ่ว สุกี้ ซีฟู้ดไปด้วย เพราะ80%ของอาหารเวียดนามคือจืด! ของขึ้นชื่อของประเทศนางคือ เฝอ ก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวจืดๆบ้านเราอ่ะแก มีหมู ไก่ เนื้อ ให้เลือก บางร้านก็ดี๊ดีสั่งเฝอไก่ เพราะไม่กินเนื้อ แต่ทางร้านก็ใช้น้ำซุปเนื้อราดมาให้เลยจ้าาาา

ขนมปังเวียดนาม
อีกอย่างที่ขึ้นชื่อคือแซนวิชพื้นเมืองที่ทำจากขนมปังฝรั่งเศสบ้องใหญ่ๆมาหั่น ใส่ผัก ใส่ไก่ ใส่หมู ราคาไม่แพง มีขายเกือบทุกมุมถนน
พิซซ่าเวียดนาม
พิซซ่าเวียดนามห่อหนังสือเรียน พิซซ่าเวียดนาม เป็นแผ่นแป้งกรอบ ราดซอสพริก โรยผัก โรยถั่ว ก็อร่อยดี ร้านนี้ขายหน้าโรงเรียน ป้าก็เอากระดาษหนังสือเรียนมาห่อซะเลย

จะกินไรก็ดูร้านนิดนึง พยายามเข้าร้านที่ดูสะอาด เชื่อถือได้ แล้วก็สังเกตป้ายเวลาสั่งอาหารด้วย เพราะคำว่าThit cho มันคือเนื้อหมาค่ะเมิงงงงง

อาหารเวียดนาม
เวลากินอะไรก็ตาม เขาจะเสิร์ฟคู่ผักสด เพราะเวียดนามคือดินแดนเกษตรกรรม
IMG_6060
ผักที่นี่จะดูสด ขนาดใหญ่เบิ้มมาก กะหล่ำปลีสามารถฟาดหน้าคนตายได้ เพราะมันใหญ่มากกกกกก ก็ไม่รู้ว่าปุ๋ยชั้นดีคือขี้หรือเปล่า 55555 แต่ขอเตือนอย่ากินผักมั่วซั่ว เพราะอาจมีสารพิษตกค้าง พี่เราเคยไปทำงานเวียดนาม ได้กินผักสดแล้วเกิดอาหารเป็นพิษ เข้าโรงพยาบาลกันยกคณะมาแล้ว

แต่ขอแนะนำนมดาลัท อร่อยจริงจัง สดจากเต้าจริงๆ แล้วถ้าไปเมืองชายทะเลอย่างมุยเน่ อย่าลืมไปกินอาหารทะเลรสชาติแปลกๆ หอยย่างโรยถั่ว ต้มยำกุ้งน้ำข้นหนืดเหมือนราดหน้ากันดูนะ

รีวิวเวียดนาม

สำรวจประชากร
คนเวียดนามจะจีนก็ไม่ใช่จีนจ๋าอ่ะ คือมีความตี๋หมวยนะ แต่ก็ไม่ใช่จีนอ่ะ บอกไม่ถูก ส่วนใหญ่จะร่างเล็กทั้งหญิงและชาย ไม่ค่อยสูง แต่สิ่งนึงที่ชนะเลิศของชะนีเวียดนามคือผิวพรรณจ้า ผิวนางดี ขาวเหลือง ฮาดะลาโบะมาก ไม่ค่อยมีใครเป็นสิวเป็นฝ้า แล้วชะนีบางคนแต่งตัวแรง ใส่ชุดรัดรูปสีสดตัดกับสีผิวขาวๆ เอ็กซ์แตกมาก ส่วนผู้ชายก็จะแอบมีความล่ำกรำแดดประปรายประชากรเวียดนาม

เหนือสิ่งอื่นใด อิประเทศนี้ไม่มีคนอ้วนค่ะ เดินมา100คนนี่แทบไม่เจอคนอ้วน เราคนไทยที่ไปเรานี่แหละอ้วนสุดในประเทศ ณ จุดนี้ต้องกราบความผัก ความสู้ชีวิตของคนในชาตินี้ที่ทำให้พวกนางหุ่นดีกันนะคะ

ส่วนใหญ่ก็สื่อสารภาษาอังกฤษรู้เรื่องกันนะ บางคนก็รู้ภาษาไทยด้วย แต่ถ้านอกๆเมืองหน่อยก็ใช้ภาษามือโบ๊เบ๊กันไป วัยรุ่นที่นี่ก็ติดสมาร์ทโฟน ก็ใช้ชีวิตชิคๆเก๋ๆไม่ต่างจากไทย แต่คนเวียดนามจะหน้านิ่ง ไม่ค่อยยิ้ม ไม่บ้าเหมือนคนไทยเอะอะๆยิ้มทุกเรื่อง

รถนอนในตำนาน

รถนอน เวียดนาม
รถนอน เวียดนาม

อีกหนึ่งประสบการณ์ที่อยากให้ได้ลองกันคือการนั่งรถนอนในตำนาน! ที่จะพาเราออกจากโฮจิมินห์ไปเมืองรอบนอก บอกเลยว่ามันเป็นการเดินทางบนพาหนะที่อเมซิ่งมาก ลองนึกภาพเตียง2ชั้นเรียงกันสิบ ยี่สิบเตียง อยู่บนรถที่เคลื่อนที่ได้

ขึ้นไปปุ๊ปสิ่งแรกที่ต้องทำคือการถอดรองเท้าใส่ถุงก๊อปแก๊ปที่เขาเตรียมไว้ให้ เพื่อไม่ให้กลิ่นรบกวนผู้โดยสารคนอื่น มีการแจกน้ำดื่ม แล้วก็ขึ้นประจำที่บนเตียง ซึ่งแล้วแต่ดวงว่าอิเด็กรถจะเลือกให้คุณอยู่ชั้นบนหรือล่าง ถ้าอยู่ชั้นบนก็ปีนขึ้นระวังๆหน่อย อย่าไปเหยียบหัวอิคนข้างล่างล่ะ 55555

ตอนแรกก็กังวลว่าจะนอนได้ไหม แต่พอได้สัมผัสแล้วบอกเลยว่าสบายมาก คือเราสามารถเหยียดได้ทั้งตัว หรือใครไม่อยากนอนก็ปรับเอนเบาะได้ตามสะดวก มีผ้าห่ม(ที่ไม่รู้ว่าซักล่าสุดเมื่อไหร่)ให้บริการ พอถึงครึ่งทางก็มีพักรถให้ลงไปเข้าห้องน้ำล้างอ้วก (ล้างอ้วกจริงๆ เพราะบนรถที่เรานั่งมีคนเมารถอ้วกจริงๆ เสียงดังมาก โอ้กอ้ากขากถุย อื้อหือ ดีที่กลิ่นไม่สาหัส)
เวลาลงรถเขาก็มีรองเท้าแตะไว้บริการ เราไม่ต้องแกะห่อรองเท้าให้ยุ่งยาก
ความอเมซิ่งยังไม่จบเพราะบนรถมีWiFiฟรีให้เล่นด้วยจ้า ไม่ว่ารถจะขับขึ้นเขาลงห้วยลัดเลาะไปไหนต่อไหน สัญญาณก็ยังไม่หลุด อเมซิ่งมาก เห็นอย่างนี้แล้วอยากให้เจ๊เกียวและบริษัทรถทัวร์ในไทยมาดูงานซะจริงๆ

ส้วมเวียดนาม
ยินดีด้วยค่ะ เพราะห้องพักที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชักโครก มีที่ฉีดตูด แต่ อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะคุณจะได้เจอประสบการณ์แปลกใหม่จากส้วมบางแห่ง เพราะนางจะไม่มีน้ำให้ค่ะ!
ที่จุดพักรถนอกเมืองไกลๆ ทุรกันดาร จะมีห้องน้ำแบบนั่งยอง ซึ่งในห้องจะไม่มีน้ำ ไม่มีจริงๆ ไม่ได้หลอก คือมันเนียนเหมือนห้องน้ำปกติมาก มีประตู มีโถส้วม แต่ แต่ แต่เมื่อคุณเสร็จภารกิจแล้ว จะต้องสะดุ้งโหยงและกวาดสายตาหาว่าน้ำอยู่ไหนนนนน? 55555

ส้วมเวียดนาม

ก่อนที่คุณจะต้องเดินออกมาอย่างเหนียมอาย และมาพบว่าน้ำมันอยู่ในถังใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้าส้วมนั่นเอง! โดยมีถังสีวางข้างๆให้ตักหิ้วเข้าไปในห้องน้ำเอง ฮัลโหลลลล นวัตกรรมอะไรของเมิงงง นี่ก็แยกไม่ออกว่าเขายังสร้างส้วมไม่complete ยังวางท่อน้ำไม่เสร็จ หรือว่ามันเป็นสไตล์ของเขาหว่า? ดูแลตัวเองกันนะคะ นัดแนะเพื่อนที่ต่อแถวกันดีๆ ว่าอย่าเพิ่งจ๊ะเอ๋ไป ขอเราตักน้ำไปราดก่อน ไม่งั้นจะเจอของดี เห็นขี้ฝรั่งเหมือนเรา

ทะเลทรายAEC
ใครจะไปคาดคิดว่าภูมิภาคASEANของเราก็มีทะเลทราย! ถ้าอยากสัมผัสต้องนั่งรถไปที่เมืองมุยเน่ จากนั้นก็ซื้อทัวร์ มีรถจี๊ปขับพาเที่ยว พาไปเดิน Fairy Stream (Suoi Tien) อารมณ์เดินเล่นหิ้วรองเท้าบนทางน้ำขังตอนน้ำท่วมหลังบ้าน แต่ข้างๆจะมีวิวดินแดงโดนกัดเซาะเหมือนแพะเมืองผีบ้านเรา

Fairy Stream (Suoi Tien)
Fairy Stream (Suoi Tien)

จากนั้นจะพาไปดูหมู่บ้านชาวประมง และขับรถทางไกลไปดูไฮไลท์ของเรา นั่นคือทะเลทรายนั่นเอง ซึ่งจะมี2แห่งที่แรกคือ White Sand Dunes (Mui Ne, Vietnam) เลอค่าาาาาฟ้าจรดทรายมาก ประหนึ่ง วิ่งหยอกกับท่านชีคบนเนินทรายในอาหรับ ขาดแต่เพียงอูฐเท่านั้นแหละ ทรายขาวละเอียดกองเป็นภูเขาสุดลูกหูลูกตา แต่อย่าถามเรื่องอากาศเพราะแดดเปรี้ยง ร้อนมากเช่นกัน

หมู่บ้านชาวประมง มุยเน่ เวียดนาม
หมู่บ้านชาวประมง
ทะเลทราย เวียดนาม
White Sand Dunes (Mui Ne, Vietnam)

(ขอเตือนคนผิวบอบบางแพ้ง่าย ให้โบกครีมกันแดดให้ทั่วตัวนะคะไม่เฉพาะแค่หน้า เพราะแดด ที่นี่ความเข้มข้นสูงมาก สูงกว่าไทย เรากลับมาแล้วเป็นกระขึ้นเต็มหลังมือเหมือนคนแก่เลย ไปหาหมอ หมอบอกเป็นเอฟเฟ็คจากแดดทะเลทรายนี่แหละ

แต่ในจุดนี้ เราจะโพสต์ท่าเอ้อระเหยมากไม่ได้นะคะ เพราะอิคนขับรถจี๊ปมันจะเร่งเรา ให้เราอยู่ในที่สวยๆได้ไม่นาน มันจะพาเรามาปล่อยที่ทะเลทรายแดง Red Sand Dunes Mui Ne ซึ่งไม่สวยเท่าขาว ด้วยเหตุผลที่ว่าจะให้เราได้ดูดดื่มกับวิวพระอาทิตย์ตก (แต่ความจริงแล้ว มันอยากจะเสร็จงานไวๆต่างหาก)

Red Sand Dunes Mui Ne
Red Sand Dunes Mui Ne

ที่นี่ก็จะสไตล์บ้านๆมีคนหอบของมาขาย เด็กมาหลอกขายแผ่นเล่นสไลเดอร์ ทิ้งตัวจากเนินทราย มีคนให้เช่าเสื่อปูนั่งปิคนิคกินไข่ปิ้ง กินข้าวหลาม อารมณ์แบบบางแสนบ้านเรา ทรายตรงนี้ก็จะสกปรกกว่า ไม่หรูเท่าทะเลทรายขาว แต่เราก็จะได้วิวพระอาทิตย์ตก ซึ่งเมื่อหมดแดดแล้วอากาศจะเย็น สดชื่นขึ้นเยอะเลย

ชิลล์ๆที่ดาลัท
นี่ชอบชื่อเมืองนี้นะ รู้สึกว่าเพราะ รู้สึกเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน ช้าๆเนิบๆ ซึ่งบรรยากาศในเมืองนี้ก็ดูอ่อนหวาน บ้านตุ๊กตา สโลว์ไลฟ์สมชื่อจริงๆ ที่นี่เป็นเมืองตากอากาศยอดฮิต เป็นเมืองที่อากาศดีมาก อุณหภูมิตอนเช้านี่แค่สิบต้นๆ มีหมอกจางๆ ต้องใส่เสื้อกันหนาวกันเลยทีเดียว มีที่เที่ยวที่หลากหลาย ทั้งสวนดอกไม้ ไร่สตรอเบอร์รี่ น้ำตกโรลเลอร์โคสเตอร์ โบสถ์ บ้านประหลาด มีทะเลสาปกลางเมืองที่ขี่มอเตอร์ไซค์วนรอบแล้วจะเป็นลม เพราะกว้างมากกก มีที่พักสวยๆให้นักท่องเที่ยวเลือกเยอะแยะเลย เท่าที่สังเกตจะมีชาวต่างชาติมากันเยอะ การจราจรก็ไม่แออัดเท่าโฮจิมินห์ เหมาะสำหรับการมาพักชิลล์ๆไม่เร่งรีบ สูดอากาศดีๆ ฟอกปอดก่อนต้องกลับไปผจญภัยในเมืองใหญ่

ดาลัด เวียดนาม
ดาลัด เวียดนาม

เก็บตกเวียดนาม
-สื่อที่นี่ เช่น ช่องทีวียังไม่ทันสมัยเท่าไทย ละครยังดูโปรดักชั่นต้นทุนต่ำ MV เพลงยังดูตลกๆอยู่
-แต่อินเทอร์เน็ตที่นี่เร็ว แรงกว่าไทย แม้จะในเขตทุรกันดารก็ยังมีสัญญาณครอบคลุม
-เวียดนามยังไม่มีรถไฟฟ้าทั้งใต้ดิน บนดิน ได้ข่าวว่ามีแพลนจะสร้างเร็วๆนี้(มั้ง)เวียดนาม
-ผู้คนเดินทางส่วนใหญ่ด้วยมอเตอร์ไซค์ รถยนต์บ้างประปราย มีรถเมล์ แท็กซี่ และอูเบอร์ให้บริการ
-นอกเมืองของเวียดนามยังล้าหลัง เป็นดินแดง บางจุดมีขยะเต็ม2ข้างทางรีวิวเวียดนาม
-ห้องน้ำบางจุดจะถูกถอดฝาชักโครกออกทุกห้องเหลือแต่โถ
-ตามตลาด ตจว.มีการแขวนขายเนื้อสุนัข
-ผลไม้ที่นี่มีคล้ายๆไทย ทั้งน้อยหน่า มะม่วง แก้วมังกร สับปะรด เงาะ รสชาติใกล้เคียงกัน
-เบเกอรี่วางแบในตู้โชว์ บางอันก็วางบนกระดาษ ไม่มีถาดใดๆ ดูไม่ค่อยน่ากินอ่ะ

รีวิวเวียดนาม
-ชุดอ๋าวหญ่าย ชุดประจำชาติของชาวเวียดนาม ราคาไม่ใช่ถูก ขนาดไซส์ก็รองรับหุ่นชาวเวียดนาม ผอมๆเล็กๆ ใครอ้วนใส่ไม่ได้นะจ๊ะ

ชุดอ๋าวหญ่าย
ชุดอ๋าวหญ่าย

-ไปเวียดนาม แต่ก็ไม่ได้เจอแหนมเนืองขายตามร้านนะ คาดว่าคนไทยน่าจะมาประยุกต์กันเอง
– เบียร์เวียดนามถูกมาก ถูกยังกะน้ำเปล่า รสชาติมีตั้งแต่อ่อนๆกินนุ่มๆ ไปยันเข้ม แก้วเดียวก็ได้ความมึน

ส่งท้ายเวียดนาม
การมาเปิดประสบการณ์ที่เวียดนามครั้งนี้ ได้รู้ได้เห็นอะไรเยอะแยะเลย นั่งเครื่องบินจากไทยแค่ชั่วโมงกว่าๆ นาฬิกาก็ไม่ต้องปรับ เพราะเวลาตรงกับไทย วีซ่าก็ไม่ต้องทำ ใช้เงินก็ไม่เปลือง ทริปนี้รวมแล้วหมดแค่หลักพันเอง
หากอยากลองเที่ยวทะเลทรายในงบประหยัด ไม่ต้องเสียค่าเครื่องไปดูไบ ที่นี่ก็เป็นชอยส์ที่ดีเลยแหละ หรือหากใครชอบธรรมชาติภูเขา ป่า นาขั้นบันได สถาปัตยกรรมสวยๆ ก็ลองไปเวียดนามเหนือ จะได้อีกรสชาติที่แตกต่างไปอีก

รีวิวเวียดนาม

ขอฝากเวียดนาม อีกหนึ่งประเทศไว้ในอ้อมใจขาลุยชาวไทย เพราะเราคือ…อาเซียนร่วมใจ อาเซียนเรามาร่วมใจ (จับมือคล้องกันแบบผู้นำตอนประชุมอาเซียน) ขอดุ๋มได๋ด๋าวเพียงเท่านี้ สวัสดีจ้าาาา

-อาจุมม่า-

ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท

หนาวติดลบกับวิวหิมะหลักล้านที่’ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท’ ณ เกาหลีใต้

หลังจากต้องเหงื่อไหลไคลย้อยกับอากาศร้อนๆของไทยในช่วงนี้ วันนี้ ‘อาจุมม่า’ ก็อยากจะชวนแฟนๆไปเปลี่ยนบรรยากาศ สัมผัสความเย็นยะเยือกแบบติดลบ กับหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกาหลีใต้ในช่วงฤดูหนาว ในสไตล์สกีรีสอร์ท กับที่นี่เลย! ‘ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท’

ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ลานสกีขาวโพลนรอต้อนรับนักท่องเที่ยว
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
กงยูอปป้า ยิ้มทักทายรออยู่เลยจ้า

‘ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท’ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของเกาหลีใต้ ที่เมืองพยองชาง จังหวัดคังวอนโด ถือเป็น 1 ใน 12 แห่งของสกีรีสอร์ทของเกาหลี อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 700 เมตร เพียบพร้อมด้วยความหรูหรา สะดวกสบายในระดับ 5 ดาว ลานสกีกว้างใหญ่ จึงได้รับเลือกให้เป็น 1 ในสถานที่ที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวในปี 2018 อีกด้วย

ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท

ที่นี่มีห้องพักหลายประเภท หลายตึก ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งโซนที่จะแนะนำเป็นโซนคอนโดค่ะ ตามมาเปิดห้องดูกันเลย

ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ตึกสูงตระหง่าน มีห้องพักหลายร้อยห้องเลย
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
เปิดประตูมาเจออุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ทั้งไฟฉาย ถังนิรภัย แผนผังเส้นทางหนีไฟ ให้ผู้พักอุ่นใจ
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ถัดมาเจอโซนห้องครัวที่อุปกรณ์ครบครัน
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
มีเตาไว้ทำอาหารภายในห้องพักด้วย
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
มีจานชาม มีด ช้อน ฯลฯ เพื่อใช้ทำอาหารอย่างครบเซ็ต
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ตู้เย็นไซส์กะทัดรัด พร้อมด้วยตู้นิรภัย ผ้าห่ม ที่นอน และที่กวาดพื้น ให้ได้ใช้อย่างสะดวก
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ต่อด้วยโซนห้องน้ำ ที่มีอ่างล่างหน้าอยู่ด้านนอก
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
อ่างอาบน้ำให้นอนแช่น้ำอุ่นๆ คลายหนาวในช่วงอากาศติดลบ
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
โซฟาที่ห้องรับแขกไว้นั่งดูทีวีเพลินๆ
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
มีประตูกั้นระหว่างห้องรับแขกและห้องนอน
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ที่นอนของเรา!! นอนกันแบบสบายๆกับพื้น ไม่ต้องใช้เตียง แล้วก็ต้องปูกันเองด้วยนะ
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
เปิดระเบียงออกไป เจอหิมะตกเต็มเลย บรื่อออ!

ได้ดูบรรยากาศห้องนอนกันไปแล้ว ที่นี้ลองมาดูวิวรอบนอกกันบ้าง

ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ทางเดินที่เต็มไปด้วยหิมะ
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
มีคาเฟ่และมินิมาร์ทให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
เด็กๆมาฝึกสกีกันเยอะเลย แต่ต้องใส่ชุดและใช้อุปกรณ์จากทางลานสกีเพื่อความปลอดภัยด้วยนะ
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
เจ้าหน้าที่ลงตรวจลานสกี ก่อนเปิดให้นักท่องเที่ยวใช้บริการในแต่ละวัน
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
เล่นสกีเหนื่อยแล้ว แวะไปเติมพลังที่ห้องอาหารกันบ้าง มีกิมจิหลากหลายประเภทให้เลือกชิมกันเพียบเลย
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
โซนผลไม้ เจอเงาะหน้าตาคล้ายๆบ้านเราด้วย
กงยู
ก่อนกลับก็เจอ กงยูอปป้า พรีเซ็นเตอร์สุดหล่อยิ้มส่งเราอีกด้วย

บอกเลยว่าฟินสุดๆกับห้องพักแสนสบาย กับวิวหลักล้านของลานสกีที่นี่ หวังว่าจะได้เจอกันใหม่นะคะ ‘ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท’

-แอดมินอาจุมม่า-

เกาหลี

25 เรื่องที่ไม่ต้องรู้ก็ได้ในเกาหลี by อาจุมม่า

ก่อนที่เราจะไปตามรอยอปป้า หรือตามรอยแดจังกึม เราลองมาทำความรู้จักประเทศเกาหลีใต้กันสักหน่อยดีกว่า ประเทศยอดฮิตของคนไทยที่ไปกันได้ทุกฤดู

พร้อมแล้วเริ่ม…!

1.หวยเกาหลีออกทุกวันจันทร์ (งั้นก็ถี่กว่าไทยสิ)

2.อาหารไทยในเกาหลีแพงมาก เป็นของหรู แต่คนเกาหลีไม่ชอบผักชี ผักมีกลิ่น ต่างจากญี่ปุ่นที่บ้าผักชีสุดๆ

3.ผลไม้ในเกาหลีมีน้อย ไม่หลากหลายเหมือนไทย จึงต้องนำเข้าจากชาติอาเซียน

เกาหลี
เจอเงาะในเกาหลีด้วย แต่สภาพไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่ น่าจะข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกล

4.ในเกาหลียังมีมุมทิ้งขยะ ก้นบุหรี่บนถนนไปเรื่อย บางจุดยังมีความสกปรก สายไฟยังไม่นำลงดิน ยังไม่เนี๊ยบเท่าญี่ปุ่น

5.เกาหลีเป็นชาตินิยม รัฐบาลส่งเสริมให้คนใช้ของในประเทศ โดยจะเลือกสินค้าเกรดดีๆให้คนในชาติใช้ก่อน ที่เหลือค่อยส่งออก

เกาหลี
ยังคงมีประชาชนเดินประท้วงขับไล่ ปธน.ปาร์คกึนเฮ ที่มีมรสุมข่าวฉาวอยู่เป็นประจำ

6.Sumsung everywhere ไปไหนก็เจอ ทั้งรพ. ตึกโน่นนี่ อพาร์ทเม้นท์ กิจการบลาๆๆๆ สินค้าทุกอย่างในประเทศที่มีคุณภาพ เช่น โสมเกาหลี ยา วิตามิน เครื่องสำอาง จะต้องมีตราซัมซุงรับประกัน สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค คือรวยชิบหาย ซึ่งวิกฤต note7ที่ไฟไหม้นี่สั่นคลอนมาก

7.แน่นอนว่ารถยนต์ในประเทศต้องเป็นแบรนด์ของเกาหลีเอง ฮุนไดเยอะมากกกกก โตโยต้า ฮอนด้านี่แทบไม่เห็น

เกาหลี
แท็กซี่ที่เกาหลี หากใช้บริการในยามวิกาล จะชาร์จค่าโดยสารเพิ่มนะจ๊ะ

8.ปีนี้หนาวน้อยกว่าปีที่แล้ว ไกด์บอกว่าเคยหนาวสูงสุด-26องศา

เกาหลี
สตรอเบอร์รีเกาหลี ต้องปลูกในกระโจมมีหลังคากันแดด กันหนาวแบบนี้นะ แล้วจะได้ผลผลิตออกมาลูกใหญ่มากเลย

9.ชาติแห่งศัลยกรรม จนมีถนนศัลยกรรมที่รวมคลินิกตั้งเต็ม2ฝั่งถนน แต่ถึงศัลยกรรมได้ทุกส่วน แต่ผิวทำไม่ได้นะจ๊ะ ต้องบำรุงเอง

10.ราคาบ้านแพงมาก อย่างต่ำๆที่แบบธรรมดาสุดๆก็ประมาณ16ล้านบาท

11.ร้านค้าในเกาหลีนิยมรับบัตรเครดิต ในแหล่งท่องเที่ยวจะรับเงินทุกสกุล ยกเว้นเกาหลีเหนือ

เกาหลี
ไก่ตุ๋นโสม อาหารขึ้นชื่อ ที่เลือกใช้ไก่อายุ15วัน (โถ เกิดมาอายุสั้นจัง) มาตุ๋นจนเปื่อย ข้างในยัดข้าว พุทราจีนและโสม ต้มกับน้ำซุปผสมเหล้าขาว คนไทยกินแล้วรู้สึกว่าจืดค่ะ!

12.จะกินอะไรก็ต้องมีกิมจิอยู่บนโต๊ะ ซึ่งแม่ๆใน ตจว.จะนัดเพื่อนบ้านมาลงแขกทำกิมจิกันแล้วไปดองในโอ่งเก็บไว้กินตลอดปี แบบวันนี้ไปบ้านแม่ตระกูลคิม พรุ่งนี้เป็นคิวตระกูลปาร์คไรงี้

13.ที่นี่จะไม่ใช้ตำรวจยืนตามจุด แต่มีกล้องวงจรปิดติดทั่วเมือง ทุกๆ2ชม.กล้องวงจรปิดจะจับภาพเราได้ประมาณ 50 ช็อต คือไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร กล้องวงจรปิดจะเป็นหลักฐาน และเป็นพยานให้เราหมด

14.หน้าร้อนประมาณเดือนมิ.ย-ก.ย. ก็ร้อนตับแล่บเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน อุณหภูมิแตะ30ปลายๆเลยก็มี

15.ทุกที่ไม่มีที่ฉีดตูด (ไทยนี่เจ๋งสุดและ)

16.วัยรุ่นเข้าผับได้ถึงอายุ30 ถ้าเกินกว่านั้นก็ต้องไปเข้าผับผู้ใหญ่เอานะ

17.เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวต้องทำบัตร ปชช.ให้สัตว์เลี้ยงด้วยนะ จะปล่อยเรี่ยราดไม่ได้ หมาขี้ในที่สาธารณะก็ต้องเก็บให้เรียบร้อย

เกาหลี
จูงน้องหมาไปเที่ยวกันเถอะ

20.ไปในเขตทำเนียบรัฐบาล จนท.จะตรวจในกรุ๊ปทัวร์ว่ามีสายลับเกาหลีเหนือแฝงตัวมาหรือไม่

21.เจออากาศหนาวติดลบ ไอโฟนน็อกทุกเครื่อง แต่ซัมซุง,oppoไม่เป็นไรนะ

22.วิธีคิดเงินเกาหลีเป็นไทยคือตัดศูนย์2ตัวหลังแล้วคูณด้วย3 เช่น 15,000 วอนตัดศูนย์ออกเหลือ 150×3ได้ 450บาท

23.เมื่อก่อนทัวร์เกาหลีแพงมาก จึงมีนโยบายดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ราคาทัวร์ถูกลง ไม่ถึงหมื่นก็ไปได้ แต่ต้องบังคับให้เข้าร้านของรัฐบาล เช่น โสม สมุนไพร

เกาหลี
อุ่ย! โสมต้นนี้ดูเหมือนคนเลยอ่ะ

24.มหาวิทยาลัยเกาหลีมีทุนให้นักเรียนไทย ซึ่งบางทุนจะให้สิทธิลูกหลานของทหารผ่านศึกสงครามเกาหลีจะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ

25.ความตึงเครียดของ2เกาหลีที่คนในชาติเรียกว่า เป็นสงครามสายเลือด ซึ่งก็ไม่รู้จะลงเอยอย่างไร และจะปรองดองกันได้เมื่อไรคนในชาติก็ตอบไม่ได้เช่นกัน

เกาหลี
กุญแจที่N Seoul Tower เริ่มขึ้นสนิม…ความรักก็เช่นกัน
Singapore botanic garden

เที่ยวสิงคโปร์ @Singapore botanic garden

ทริปแรกของปี 2017 ของเราเริ่มต้นที่สิงคโปร์ เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองง่ายกว่าปอกกล้วยเข้าปาก เอาภาพความประทับใจจาก Singapore botanic garden ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่น่าสนใจ

Singapore botanic garden สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามและน่าสนใจอีกที่หนึ่ง ด้วยความใหญ่มากๆ ที่นี่จะถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ อาจต้องใช้เวลาทั้งวันในการเดินถึงจะเก็บครบ สามารถเดินตามป้ายบอกทางได้เลย

singapore botanic garden
มีการแบ่งสวนเป็นโซนเยอะมาก
Singapore botanic garden
ด่านแรกเจอเจ้าตัวนี้ แสดงเก่งจริงๆ

Singapore botanic gardenSingapore botanic garden

Singapore botanic garden
เจอหงส์ดำด้วย

Singapore botanic garden Singapore botanic garden

Singapore botanic garden
เจอกิ้งก่าด้วย

Singapore botanic garden Singapore botanic garden Singapore botanic garden Singapore botanic garden Singapore botanic garden
Singapore botanic garden

แนะนำว่าไปเช้าๆจะสดชื่นมากๆ แต่ที่นี่อากาศก็ไม่ร้อนนะคะ เพราะต้นไม้ใบหญ้า ร่มรื่นตลอดทางSingapore botanic garden

เราว่าที่นี่เขาดูแลดีมากๆ ชอบความอลังการของต้นไม้ทุกต้น สมกับการเป็นเมืองสีเขียวจริงๆSingapore botanic garden Singapore botanic garden

Singapore botanic garden
จะเห็นคนมาวิ่งออกกำลังกายเรื่อยๆ

Singapore botanic garden

Singapore botanic garden
มีจุดให้นั่งพักเรื่อยๆ
Singapore botanic garden
ต้นไม้ใหญ่ตลอดทางเลย
Singapore botanic garden
น้ำตกเล็กๆ น่ารัก

Singapore botanic garden Singapore botanic garden

โซน Swan lake Singapore botanic garden

ส่วนของ swan lake ในบึงจะมีปลาคราฟเยอะมาก และใหญ่มากเช่นกัน

Singapore botanic garden
เจอหงส์ด้วย 1 ตัว

Singapore botanic garden

Singapore botanic garden
ต้นไม้ใหญ่มากๆ

Singapore botanic garden Singapore botanic garden

การเดินทางก็ง่ายมากๆ สามารถเดินทางโดย mrt ลงสถานี Botanic Gardens ได้เลย

[Dudes Next Door]ญี่ปุ่น คันไซ อุ่นไอรัก : ดอกไม้ผลิบานที่โกเบ #kobe01

Thailand Indy สวัสดีต่างแดน : DUDES NEXT DOOR

ตอน ญี่ปุ่น คันไซ อุ่นไอรัก : ดอกไม้ผลิบานที่โกเบ #kobe01

kobe-nunobiki-herb03

ตะวันบ่ายคล้อย แสงแดดอ่อนๆรำไรลอดไม้ไผ่มากระทบที่ดวงตา โอโต้ซังกำลังเปิดแผนที่เมืองใกล้กับที่เราอยู่ในตอนนี้ โอโต้ซังเล่าว่าเมืองนี้จากที่นี่คงเดินทางไปไม่ไกล เราจึงเริ่มวางแผนเรื่องราวของวันพรุ่งนี้กัน

แม้ว่าเกียวโตจะเป็นที่แรกที่เราได้ทำความรู้จัก (หลายครั้งหลายคราแล้วก็ตาม) แต่ครั้งนี้อยากจะเริ่มทักทายกับอีกเมืองน่ารักของดินแดนอาทิตย์อุทัยก่อน เชื่อว่าหลายคนคงเคยแวะมาลองลิ้มชิมรสเนื้อยากินิขุขึ้นชื่อของที่นี่บ้างแล้ว แต่ด้วยความที่เราไม่กินเนื้อวัว ประเด็นนี้จึงพับไป ถึงอย่างไร “โกเบ” แห่งนี้ ก็ไม่ได้สวยงามน้อยลงเลย

ใช่แล้ว…วันนี้จะพาไปเที่ยวโกเบกัน

kobe-nunobiki-herb08

เมืองโกเบเป็นเมืองญี่ปุ่น แต่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเป็นตะวันตก เพราะหากย้อนอดีตไปแล้ว ยามที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศเพื่อเริ่มทำการค้าขายกับตะวันตก ท่าเรือโกเบเป็นท่าเรือสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่เหมือนเป็นศูนย์รวมแหล่งการค้านานาชาติ หลังจากนั้นก็มีชาวต่างชาติเริ่มเข้ามาอาศัยอยู่ที่เมืองโกเบ

kobe-nunobiki-herb27

โกเบนั้นขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวัว หลายคนมักจะอยากไปอิ่มอร่อยกับรสชาติอันนุ่มลิ้นที่ขึ้นชื่อของที่นี่ แต่ครั้งนี้อย่างที่บอกด้วยความที่เราไม่ทานเนื้อวัวเลยอดพาไปรีวิว ขออภัยท่านผู้อ่านมา ณ ที่นี้ แต่ไม่ต้องเสียดายไป ครั้งนี้เราจะพาท่านไปอิ่มอร่อยกับอีกหนึ่งสุดยอดเมนูของโกเบ ที่อยากจะแนะนำให้ไปลองในตอนถัดไปเราจะแนะนำให้ท่านได้รู้จักกับสิ่งนั้น!

kobe-nunobiki-herb17

kobe-nunobiki-herb02

เริ่มต้นเดินทางมาที่แรกที่ Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway แปลเป็นไทย(ด้วยตนเอง)เล่นๆว่า สวนสมุนไพรนุโนบิขิ และกระเช้าลอยฟ้าแห่งโกเบ ถ้าหากขึ้นไปที่นี่ในช่วงหน้าซากุระก็จะเป็นซากุระบานสะพรั่งเลยทีเดียว ดอกไม้ผลิผลัดตามฤดูกาลที่ผันผ่าน แต่ไม่ว่าเช่นไรที่นี่ดูเหมือนถูกวางแผนมาเป็นอย่างดีในการจัดแสดงความสวยงามตามธรรมชาติ แย้มบานยิ้มหวานให้กับผู้คนที่มาเที่ยวได้เชยชมกับดอกไม้นานาพรรณในแต่ละช่วงของปีอยู่แล้ว  แม้บางพื้นที่ บุษบาเหล่านั้นจะยังไม่บานสะพรั่ง แต่ด้วยอากาศหนาวนิดๆ และบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาทำให้ที่นี่ดูโรแมนติกจับใจทีเดียว

kobe-nunobiki-herb14

kobe-nunobiki-herb04

kobe-nunobiki-herb10

kobe-nunobiki-herb25

การวางพื้นที่ของที่นี่ดูลำดับสัดส่วนได้กำลังดีนัก เมื่อนักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปชมวิวบนยอดสูงแล้ว เราอาจจะสามารถแวะทานร้านอาหารที่ View Rest House ด้านบน ที่หน้าต่างเป็นกระจก และเห็นวิวทิวทัศน์งดงามของบ้านเมืองเขาได้ หรือจะเดินลงมาอีกนิดหนึ่งเพื่อที่จะมาจิบชาในเรือนกระจก ซึ่งส่วนนี้ก็มีอาหารขายเล็กน้อย แต่เน้นที่ชาสมุนไพรมากกว่า แล้วนอกจากนั้นเดินผ่านเรือนกระจกเข้ามาอีกนิดยังมีพื้นที่ให้ออนเซ็นเท้า ท่ามกลางกลิ่นหอมของพฤกษานานาพรรณที่มนุษย์ได้สร้างสรรค์พร้อมกับธรรมชาติที่แสนสวยให้เราได้พักผ่อน และหย่อนลมหายใจ

kobe-nunobiki-herb26

หากใครอยากไปเพลิดเพลิน เจริญธรรมชาติแล้วที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากจะแนะนำ ถ้าให้อธิบายก็คล้ายกับเมืองเหนือของบ้านเรา ดอกไม้ของบ้านเราบางพื้นที่อาจจะสวยกว่า แต่ชอบฟังก์ชั่นต่างๆของที่นี่ มีทั้งร้านอาหารดูวิวริมยอดเขา กระเช้าลอยฟ้า ไอติมลาเวนเดอร์ หรือแม้กระทั่งฮอลล์จัดแสดงคอนเสิร์ตเขาก็มีให้นะเออ

kobe-nunobiki-herb15

kobe-nunobiki-herb21

พอเราเดินทางด้วยลมพัดเย็นนิดๆ โชคดีที่ฝนไม่ตก (ใจเต้นๆต่อมๆอยู่รอมร่อ) แต่สุดท้ายฟ้าฝนก็เป็นใจ อากาศกำลังเย็นสบายทำให้เราเดินชิวกันเพลิน ดอกไม้ริมสองข้างทางดูสวยดี ที่นี่เขาจะจัดดอกไม้ตามฤดูกาลค่ะ คือจริงๆแล้วก็ปลูกไว้หมดแหละ แต่ดอกไม้ก็จะบานตามฤดูของเค้าเอง อย่างเราไปเจอปลายๆซากุระ ก็ยังมีสองสามต้นที่มีดอกบานให้เห็น ถ้าถามว่าจริงๆสวยขนาดนั้นมั้ย เอาไว้ถ่ายรูปลงบนเฟซบุ๊คก็ยังพอไหว แต่ถ้าจะให้ตราตรึงใจคงจะต้องมาเร็วกว่านี้สักสองอาทิตย์​น่าจะบานสะพรั่งให้ได้ยลกันเลยทีเดียว สำหรับตารางการบานของดอกไม้ก็ตามรูปด้านล่างนี้เลยจ่ะ ซึ่งหากดูตามฤดูกาลแล้ว เชื่อได้เลยว่าฤดูอากิ หรือ ฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีน่าจะสวยไม่แพ้ที่ไหน

herb-calenderCredits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

kobe-nunobiki-herb11

kobe-nunobiki-herb12

kobe-nunobiki-herb09

ที่นี่แบ่ง Facilities เป็นหลายส่่วน เดี๋ยวเราจะแอบยกข้อมูลจากเว็บ Original มาฝากทุกท่านไว้ในอ้อมอกอ้อมใจละกันนะคะ

ไม่ว่าจะเป็น

View Rest House

view-rest-house

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

View Rest House เป็นสถานที่ที่คุณสามารถอิ่มเอมไปกับอาหารแสนอร่อยที่มีส่วนผสมของสมุนไพร และร้านรวงต่างๆมากมาย ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็น Indoor แต่คุณก็สามารถสัมผัสการตกแต่งด้วยสมุนไพรต่างๆ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ

Mori no Hall (Concert Hall in Forest)/ Fragrance Museum

mori-no-hall

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

เป็นฮอลล์ที่สร้างขึ้นจากไม้ สถานที่ยอดฮิตสำหรับแสดงคอนเสิร์ตแนวอะคูสติก รวมไปถึงที่แห่งนี้ยังเป็นพิพิธภัณฑ์น้ำหอมที่จัดแสดงน้ำหอมทางประวัติศาสตร์ไว้มากมายอีกด้วย

Glasshouse

glass-house

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

สามารถเยี่ยมชมพันธุ์ดอกไม้นานาชนิด รวมถึงผลไม้ต่างตลอดทั้งปีได้ที่เรือนกระจกแห่งนี้

Hanging Baskets (Glasshouse)

hanging-basket

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

สามารถถ่ายรูปกับพวงดอกไม้ที่ห้อยระยะจัดแสดงอยู่ในเรือนกระจกอีกด้วย

Herbal Footbath

footbaht

Credits : http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index2.html

นอกจากนั้น ยังเพลิดเพลิน ผ่อนคลายไปกับออนเซ็นเท้าที่อยู่ติดกับเรือนกระจก ที่นี่ยังแสดงทัศนียภาพของเมืองโกเบไว้อีกด้วย

ต่อมาเราได้มารับประทานอาหารกันที่สวนสมุนไพรแห่งนี้นี่แหละ อาหารรสชาติกำลังโอเค เราสั่งข้าวแกงกะหรี่ไก่มากิน อาหารจานพอเหมาะ แต่ทีเด็ดเห็นจะเป็นชาสมุนไพรเต็มไม่อั้น มองข้างหลังเห็นเกิร์ลแก๊งแห่งแดนอาทิตย์อุทัยกำลังจิบชาพร้อมหัวร่อต่อกระซิก คิกคักกันอย่างสนุกสนาน นอกจากเหมาะแก่การมาแฮงเอ้าท์กับเพื่อนแล้ว ยังเป็นบรรยากาศที่สบายๆ คล้ายอยากให้เรานั่งทอดตัวอยู่ตรงนี้ไปอีกนานๆทีเดียว เพราะกระจกใสที่โอบรอบร้านนั้นทำให้เราเห็นบรรยากาศไปทั่วทั้งเมืองโกเบ

kobe-nunobiki-herb03

kobe-nunobiki-herb23

kobe-nunobiki-herb20

หลังจากผ่อนคลายที่สวนสมุนไพร เราเดินทางต่อเข้าสู่อารยธรรมแห่งตะวันตกอย่างแท้จริง ติดตามเรื่องราวของโกเบได้ในตอนต่อไปนะจ๊ะ.

Sandp1989

kobe-nunobiki-herb19

kobe-nunobiki-herb24

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่อยากเดินทางไปเยี่ยมชม

ค่่าขึ้นกระเช้า + ค่าชมสวน
ผู้ใหญ่(ไปกลับ) : 1,400 เยน
เด็กนักเรียน (ไปกลับ) : 700 เยน
ผู้ใหญ่(เที่ยวเดียว) : 900 เยน
เด็กนักเรียน (เที่ยวเดียว) : 450 เยน
ราคาหลัง 5 โมงเย็น
ผู้ใหญ่(ไปกลับ) : 800 เยน
เด็กนักเรียน (ไปกลับ) : 500 เยน

Screen shot 2015-11-05 at 9.45.35 PM

วิธีการไป

หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index4.html

Screen shot 2015-11-05 at 9.45.54 PM Screen shot 2015-11-05 at 9.45.42 PM

Fushimi Inari Taisha ศาลเทพอินาริและสุนัขจิ้งจอกหลังฝนพรำ


fushimi-inari-taishi15

 

Dudes Next Door

EP. เกียวโตที่รัก ปฐมบท / ศาลเทพจิ้งจอกหลังวันฝนพรำ

บ่ายย่ำเย็นเกือบตะวันคล้อย ลมแรงพัดละอองฝนปะทะใบหน้าเมื่อประมาณชั่วยามที่ผ่่านมา บัดนี้เมืองใหญ่อย่างเกียวโตกลับอบอวลไปด้วยกลิ่นแห่งธรรมชาติ และร่องรอยแห่งความชื้น ผู้คนต่างกางร่มใสแบบ 500 เยนตามร้านสะดวกซื้อบ้าง หรือลวดลายสีสันสดใสที่พกมาจากบ้านตามที่ได้ฟังพยากรณ์อากาศไปเมื่อเช้ากันให้ขวักไขว่  แต่เรายังคงมีจุดหมายเดิมตามแผนการท่องเที่ยวที่ได้คุยกับโอโต้ซังเอาไว้

 

วันนี้จะไปเยี่ยมเยียนท่านสุนัขจิ้งจอกกัน

 

fushimi-inari-taishi05

สถาปัตยกรรมแนวญี่ปุ่นโบราณตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า หากใครเปรียบเมืองเกียวโตเหมือนความสดใสนั่นคงจะปฎิเสธไม่ได้เป็นแน่แท้ เพราะหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่ขับให้ภาพที่ว่านั้นชัดเจนขึ้นเห็นจะเป็นศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ แห่งนี้ ศาลเทพเจ้าสีส้มสด ไม่ว่าไปกี่ครั้งความสดนี้ก็ยังคงอยู่ ดูติดตา และไม่เลือนไปจากใจ คล้ายกับสถาปัตยกรรมหลายที่ของเกียวโต ไม่ว่าจะเป็น วัดทองอย่าง คินคางุจิ หรือ คิโยมิสึเดระก็ตาม  มองไปแล้วก็อดย้อนคิดไปถึงวรรณกรรมญี่ปุ่นโบราณสุดโรแมนติกแห่งเมืองเกียวโตอย่างเก็นจิโมโนกาตาริไม่ได้ ช่างระยิบระยับวับวาวนัก

fushimi-inari-taishi04

ศาลเจ้าฟูชิมิอินารินี้ เป็นศาลของท่านเทพเจ้าอินาริ ท่านเทพเจ้าอินาริเป็นเทพเจ้าที่คอยดูแลเกี่ยวกับเรื่องของพืชผล เกษตรกรรม และผู้ที่เป็นตัวแทนของท่านนั้นก็คือสุนัขจิ้งจอก https://Meet-Babes.com ตามตำนานเล่าว่าสุนัขจิ้งจอกเหล่านี้จะนำความอุดมสมบูรณ์มาให้แก่บ้านเมือง และเมื่อเราได้เดินเข้าไปเราก็จะเป็นรูปป้านของท่านสุนัขจิ้งจอกนั้นเรียงรายอยู่มากมาย แต่คงจะไม่มากมายเท่ากับเสา “โทริอิ” สีส้มสดที่เรียงรายกันเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรเลยทีเดียว ศาลเจ้าฟูชิมิอินารินี้ ถูกสร้างโดยจักรพรรดิ “มุราคามิ” ในยุคเฮอัน อันแสนรุ่งเรือง องค์จักรพรรดิทรงมีรับสั่งให้สร้าง ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์จำนวน 16 ศาล เพื่อให้องค์คามิซามะ (เทพเจ้า)ปกป้องคุ้มครองญี่ปุ่นในสมัยนั้น และศาลของเทพเจ้าอินาริ ก็เป็นหนึ่งใน 16 ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วย

fushimi-inari-taishi16

เดินเข้าไปข้างในศาลของเทพเจ้าอินาริแล้ว สิ่งที่สะดุดตาที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นเสาสีส้มแดงที่เรียงรายและทอดยาวอย่างสวยงาม แต่เดิมทีแล้วเสา “โทริอิ” นี้ถูกสร้างขึ้นโดย โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ไดเมียวคนสำคัญของญี่ปุ่นในยุค ทั้งยังเป็นผู้สร้างโอซาก้าโจว​(ปราสาทโอซาก้า)อีกด้วย เมื่อโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ได้สร้างเสา “โทริอิ” ต้นแรกแล้ว หลังจากนั้นบรรดาเศรษฐี บริษัท ห้างร้านต่างๆ ก็ได้มาสร้าง “โทริอิ” ให้ยาวต่อเนื่องไปจนถึงยอดเขา “อินาริ” เนื่องจากพวกเขาเชื่อกันว่า การสร้าง“โทริอิ” ถวายเทพเจ้าอินาริ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งพืชพรรณและความอุดมสมบูรณ์นั้น จะทำให้พวกเขาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และหน้าที่การงานด้วย

ขอเล่าเรื่องของโทริอิ ให้ฟังเสียสักหน่อย โทริอินั้น มีรากฐานภาษาญี่ปุ่นมาจากคำว่า 鳥居 ไปเปิดวิกิพิเดียเขาว่ามันควรจะแปลว่า “ที่พักของปักษา” เพราะเนื่องด้วยตัวอักษรตัวแรกซึ่งอ่านว่า “โทริ” นั้นแปลว่า นก นั่นเอง โทริอิ ถ้าแปลให้เข้าใจตามความหมายของบ้านเราก็คือ “ซุ้มประตูศักดิ์สิทธิ์” เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของศาสนา “ชินโต” ซึ่งหลังจากที่เราได้เดินผ่านโทริอิเข้าไปในอาณาเขตของศาลเจ้าแล้ว นั่นหมายความว่าที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ กรุณาอย่าทำอะไรไม่ดีในที่แห่งนี้ เป็นต้น

fushimi-inari-taishi03
บรรยากาศฟุชิมิอินาริหลังฝนพรำ ดูอบอุ่น และสงบ

 

fushimi-inari-taishi02
รูปปั้นสุนัขจิ้งจอกอยู่ทุกหนทุกแห่งในบริเวณนี้

 

fushimi-inari-taishi08
มีความเชื่อว่าเทพเจ้าอินารินั้นสามารถจำแลงเป็นสุนัขจิ้งจอกได้ด้วย

fushimi-inari-taishi09

วันนี้โอโต้ซังขับรถพามา แต่โอโต้ซังบอกว่าการเดินทางมาฟุชิมิ อินาริไม่ยากอย่างที่คิดนั่งรถไฟ JR จากสถานี Kyoto ด้วย Nara Line ลงสถานี JR Inari แล้วเดินอีกประมาณ 2 นาทีก็ถึงแล้วส่วนค่าเข้านั้นฟรี และที่นี่ก็เปิดทำการ 24 ชม.อีกด้วย

fushimi-inari-taishi11
คนญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวต่างเขียนข้อความขอพร
fushimi-inari-taishi10
บ่อน้ำไว้ คนญี่ปุ่นมีธรรมเนียมไว้ล้างมือ ล้างหน้า บ้วนปากให้สะอาดก่อนเข้าวัด

fushimi-inari-taishi14

fushimi-inari-taishi01

fushimi-inari-taishi12

เส้นทางของการเรียงรายของโทริอินั้นยาวกว่า 4 กิโลเมตร ฉากสีส้มอันงดงามนี้ หากใครเคยดูหนังเรื่อง Memoir of geisha ฉากนี้เป็นฉากหนึ่งที่นางเอกวิ่งไปขอพรอีกด้วย วันนี้อากาศหลังฝนตกเย็นกำลังดี ได้ไปขอพรจากเทพเจ้าโทริอิพร้อมกับหัวใจอันชุ่มฉ่ำ ครั้งหน้าจะ DUDES NEXT DOOR จะแวะเวียนไปเที่ยวที่ไหนอีกโปรดติดตาม.

-Sandp1989-

fushimi-inari-taishi-cover

แผนที่ของ Fushimi Inari

fushimi-inari-maps