เพิ่มพูนความรู้ในช่วงกักตัวอยู่บ้าน เรียนภาษาอังกฤษแบบสนุก ๆ ฟรีกับแอป Cake

ในช่วงนี้ที่สถานการณ์วิกฤตจากพิษโควิด-19 ถ้าเบื่อจากการกักตัวอยู่บ้าน เรามาหากิจกรรมน่าสนใจทำ อย่างการเรียนภาษาอังกฤษผ่านแอปพลิเคชันกันดีกว่า เพราะนอกจากเป็นการใช้เวลาไม่ให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์แล้วยังทำได้ทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา แถมสนุกอีกด้วย !

 

แอปพลิเคชัน Cake ที่เปิดตัวเวอร์ชันภาษาไทยไปเมื่อปีที่แล้ว เป็นแอปเรียนภาษาอังกฤษฟรีจากวิดีโอสนุก ๆ ที่มีเนื้อหาอัปเดตใหม่ทุกวัน ทำให้รู้สึกไม่ซ้ำซากจำเจ ซึ่งการเรียนผ่านคลิปวิดีโอบน Youtube เราจะได้เรียนรู้ทั้งการใช้ประโยค  สำนวนและวลีต่าง ๆ จากสถานการณ์จริง! 

Cake มีหลายโหมดให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นโหมดเรียนภาษาอังกฤษจากวิดีโอสั้น ๆ  โหมดพูดที่จะได้เรียนไวยากรณ์ คำศัพท์และบทสนทนาต่าง ๆ และล่าสุด Cake เพิ่งเปิดตัวเนื้อหาใหม่ – บทสนทนาประจำวัน ที่คัดสรรประโยคเด็ด ๆ ให้นำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยอัปเดตเนื้อหาใหม่ ๆ ทุกวันให้เรียนกันได้อย่างไม่มีเบื่อ แถมผู้ใช้ยังสามารถตรวจสอบสำเนียงของตัวเองกับ AI เพื่อจะได้ไว้ฝึกออกเสียงให้เป๊ะราวกับเจ้าของภาษากันเลยทีเดียว

 

และเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาแอป Cake ได้จัดกิจกรรมดี ๆ อย่าง Cake – Weekly Challenge ให้ผู้ใช้บริการได้ร่วมสนุกและลุ้นชิงรางวัลเงินสดสัปดาห์ละ 1,000 ดอลลาร์ โดยมีผู้เล่นจากทั่วทุกมุมโลกให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมนี้เป็นจำนวนมาก

แอป Cake ยังมีเนื้อหาดี ๆ ภาษาอังกฤษสนุก ๆ อีกมากมายที่จะแบ่งปันกับผู้ใช้ รวมถึงกิจกรรมดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตรอทุกคนอยู่ คุณสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ Cake ได้ที่ https://www.facebook.com/cakeapp.global/ หรือสามารถค้นหาคำว่า “Cake English” บน Play Store หรือ App Store และดาวน์โหลดได้เลย ฟรี 100% หรือดาวน์โหลดได้ที่ลิงก์นี้ https://mycake.me/?locale=en

รีวิวเมนูอร่อยจาก ‘สีฟ้า’ ต้นฉบับตำนาน ‘อย่าลืม…สีฟ้า…เวลาหิว’

สีฟ้า ร้านอาหารไทย-จีนชื่อดัง ต้นตำรับราชวงศ์ นับตั้งแต่ยุคบนถนนราชวงศ์ มาจนถึงปัจจุบัน 83  ปี เจ้าของสโลแกนติดหูคนไทย “อย่าลืม…สีฟ้า…เวลาหิว” จนกลายเป็นตำนานร้านอาหารคู่เมืองไทย ตั้งแต่ยุคบุกเบิก จนล่าสุดล่วงเข้าสู่เจเนเรชั่นที่ 3 ในการบริหารงานแล้ว

ร้านสีฟ้า สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 6  

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สีฟ้าไม่ได้หยุดนิ่งที่จะพัฒนาธุรกิจและบริการให้เข้ากับยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้านให้มีบรรยากาศในการรับประทานอาหารที่สดใสและดูทันสมัย หากแต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงไว้ไม่ลดเลือนลงไปแม้แต่น้อย นั้นคือคุณภาพและรสชาติของอาหาร ซึ่งถูกถ่ายทอดต่อๆ กันมาอย่างบรรเจียดบรรจง จากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน

หลากหลายเมนูอร่อยของสีฟ้า

สีฟ้า ให้บริการอาหาร และเครื่องดื่ม โดยเปิดให้บริการในสถานที่ ต่างๆ เช่น ศูนย์การค้า, โรงพยาบาล และแหล่งธุรกิจต่างๆ เป็นต้น โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็น กลุ่มครอบครัว, วัยรุ่น, วัยทำงาน รวมถึงกลุ่มลูกค้าเก่าดั้งเดิมของสีฟ้า

ข้าวคลุกกะปิจากข้าวออแกนิก และกะปิคุณภาพพรีเมี่ยม พร้อมเครื่องเคียงครบชุด

ล่าสุดมีการเสิร์ฟโปรโมชั่นสุดคุ้มให้กับลูกค้า ได้ลิ้มลองความอร่อยหลากหลายเมนูของสีฟ้า ภายใต้ชื่อ Happiness Begins

1. HAPPINESS SET เมื่อสั่งเมนูข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาว หรือ บะหมี่แห้งอัศวิน รับสิทธิ์แลกซื้อ เมนูทานเล่น 1 จาน (ขนมจีบ, ปอเปี๊ยะสด, เกี๊ยวกรอบ) และ เครื่องดื่มสมนุไพร 1 แก้ว (ตะไคร้, กระเจี๊ยบ, เก๊กฮวย) ในราคาพิเศษ 99 บาท

ตัวอย่างเซ็ท HAPPINESS มาคนเดียวก็อิ่มได้ (บะหมี่แห้งอัศวิน+ขนมจีบนึ่ง+น้ำมะตูม)

2. HAPPY TOGETHER SET เลือกจับคู่อร่อยได้ด้วยตัวคุณเอง (เลือก 1 เมนู/ หมวด) ในราคาพิเศษ 450 บาท (สำหรับ 2-3 ท่าน)

A ทานเล่น (ขนมจีบนึ่ง, ปอเปี๊ยะสด, ขนมเบื้องญวน)

B บะหมี่แห้ง (บะหมี่แห้งราชวงศ์, บะหมี่แห้งเป็ดย่างสีฟ้า, บะหมี่แห้งเกี๊ยวหมูแดง)

C ข้าว (ข้าวคลุกกะปิ, ข้าวไข่ข้นกุ้ง, ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ)

D ยำ (ยำถั่วพู, ยำวุ้นเส้น, ลาบเป็ดย่างสีฟ้า)

ตัวอย่างเซ็ท HAPPY TOGETHER เหมาะกับ 2-3 คน (ขนมเบื้องญวณ+บะหมี่แห้งเกี๊ยวหมูแดง+ข้าวคลุกกะปิ+ยำวุ้นเส้น)

พิเศษ!  เมื่อสั่งเมนู Happy Together Set รับสิทธิ์แลกซื้อไอศกรีมสีฟ้า ราคา Half Price ไอศกรีมทุเรียน 62.5 บาท ไอศกรีมคลาสสิก กาแฟ / วานิลลา / ช็อกโกแลต 32.5 บาท

3. HAPPY FAMILY SET เลือกจับคู่อร่อยได้ด้วยตัวคุณเอง (เลือก 1 เมนู/หมวด) ในราคาพิเศษ 850 บาท (สำหรับ 4-6 ท่าน)

A.จานกลาง (หมูสะเต๊ะ, เป็ดย่าง, ปีกไก่ทอดสมุนไพร)

B.กับข้าวคลาสสิก (คะน้าไฟแดงปลากุเลาเค็ม, ตำลึงผัดหมูสับ, ไก่ผัดพริกแห้งเมล็ดมะม่วงหิมพานต์)

C.ยำ (ยำวุ้นเส้น, ยำถั่วพู, ลาบเป็ดย่าง)

D.ทะเล (ไข่ฟูปูทะเล, กุ้งอบวุ้นเส้น, เนื้อปลากะพงผัดขึ้นฉ่าย)

E.แกง (แกงเลียงกุ้งสด, แกงเผ็ดเป็ดย่าง, แกงพริกขี้หนูเนื้อน่อง)

ตัวอย่างเซ็ท HAPPY FAMILY อิ่มกันทั้งครอบครัว (เป็ดย่าง+ตำลึงผัดหมูสับ+ยำถั่วพู+ไข่ฟูปูทะเล+แกงเผ็ดเป็ดย่าง)

พิเศษ!  เมื่อสั่งเมนู HAPPY FAMILY SET รับฟรี Happiness Bag มลูค่า 250 บาท เป็นได้มากกว่ากระเป๋า เพราะเราพร้อมส่งต่อความสุข ไปพร้อมกับการแบ่งปันร่วมกัน Zero Waste วัสดุกระสอบรีไซเคิล ช่วยลดปริมาณ ขยะ ให้โลกใบนี้น่าอยู่ขี้น กระเป๋าถูกตัดเย็บจากคนในชุมชน และคนในกรมราชทัณฑ์ เป็นการเสริมสร้างรายได้ สร้างอาชีพ

หมูสะเต๊ะเนื้อนุ่ม กับน้ำจิ้มรสเด็ด

ชิมแล้วต้องบอกว่า อร่อยและคุ้มค่าในราคาเบาๆ สมกับสโลแกนร้าน “อย่าลืม…สีฟ้า…เวลาหิว” ตามไปอร่อยกันได้ทั้ง 20 สาขาทั่วกรุงเทพ

ตำลึงผัดหมูสับ หน้าตาธรรมดา แต่ขอบอกว่าอร่อยมาก

ได้แก่ สยาม, ธนิยะ, เมเจอร์รัชโยธิน, ทองหล่อ, แฟชั่นไอส์แลนด์, โลตัสพระราม 4, โลตัสพระราม 3, เทอร์มินัล 21, โลตัสประชาชื่น, โลตัสลาดพร้าว, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, เซ็นทรัลเวิลด์, เอสพลานาด รัชดา, เอสพลานาด งามวงศ์งาน-แคราย, เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์, โรงพยาบาลรามาธิบดี, สาธร, เมกาบางนา,เซ็นทรัลพลาซา พระราม3, เซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต

แกงเผ็ดเป็ดย่าง น้ำแกงเข้มข้น เนื้อเป็ดนุ่ม

ขนมเบื้องญวณ เมนูหากินยาก แป้งบางกรอบ อร่อยถึงเครื่อง

บะหมี่แห้งราชวงศ์  เส้นนุ่ม เครื่องแน่นเมนูลับจากสีฟ้า 

ไข่ฟูปูทะเล เนื้อปูมาแบบจัดเต็ม ไม่หวง

ยำวุ้นเครื่อง จี๊ดจ๊าดถึงเครื่อง

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://seefah.com/

เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/seefahfanpage

แคสเปอร์สกี้สนับสนุนความเท่าเทียม ตั้งชุมชมออนไลน์ ‘Women in Cybersecurity’

พร้อมเผยผลสำรวจ องค์กรเพียง 37% ที่มีนโยบายสนับสนุนการรับพนักงานหญิงเข้าแผนกไอที

จากการสำรวจของ Kaspersky ร่วมกับ 451 Research ระบุว่า ในเอ็นเทอร์ไพรซ์ 45% พบสัดส่วนจำนวนผู้หญิงที่ทำงานในแผนกไอทีซีเคียวริตี้น้อยกว่าแผนกอื่นๆ ในองค์กร และมีองค์กรเพียง 37% ที่รับพนักงานหญิง / กำลังพิจารณารับสมัคร / หรือมีแผนงานอย่างเป็นทางการที่จะรับพนักงานหญิงเข้าทำงานในแผนกไอทีซีเคียวริตี้

 

ความหลากหลายของกำลังคนในการทำงานจะทำให้เกิดความสามารถพิเศษขึ้นในองค์กร และยังปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น องค์กรที่มีกำลังคนหลากหลายจะมีรายได้สูงขึ้น 19% จากนวัตกรรม แนวคิดเรื่อง ความเสมอภาคทางเพศไม่ได้เป็นเพียงแค่ประเด็นทางจริยธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยหลักสำคัญสำหรับประสิทธิภาพของธุรกิจอีกด้วย จึงมีความคิดริเริ่มในสาขาอาชีพต่างๆ เพื่อช่วยให้ผู้หญิงได้ประสบความสำเร็จในธุรกิจและก้าวหน้าทางอาชีพ เช่น เทคโนโลยี และผู้ประกอบการ

 

นอกจากนี้ยังพบว่า เฉลี่ยทั่วโลกมีผู้หญิงทำงานในองค์กรคิดเป็น 39% ของแรงงานทั้งหมด และมีเพียง 25% ที่ทำงานในตำแหน่งบริหาร สำหรับแผนกความปลอดภัยไซเบอร์และแผนกไอทีทั่วไปอาจกล่าวได้ว่าเป็นสาขาที่ผู้ชายเป็นใหญ่ และอาจเป็นกำแพงกั้นผู้หญิงที่จะเข้ามาทำงานในสาขานี้ จากรายงานเรื่อง “Cybersecurity through the CISO’s eyes: Perspectives on a role” โดย Kaspersky ร่วมกับ 451 Research ระบุว่า ผู้บริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ หรือ CISO จำนวน 45% ยืนยันว่าผู้หญิงเป็นคนกลุ่มน้อยในสาขานี้

รายงานยังระบุว่า มีองค์กรเพียง 37% ที่รับพนักงานหญิง / กำลังพิจารณารับสมัคร / หรือมีแผนงานอย่างเป็นทางการที่จะดึงดูดใจให้ผู้หญิงเข้ามาสมัครทำงานในแผนกไอที วิธีการที่เป็นที่นิยมเพื่อดึงดูดคือการฝึกอบรมพนักงานหญิงที่มีพื้นฐานด้านไอที (80%) ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบครึ่งระบุว่ามีโครงการ / กำลังมีโครงการจะรับนักศึกษาหญิงเข้าฝึกงานโดยเฉพาะ (42%) และพร้อมฝึกอบรมผู้สมัครที่ไม่มีคุณสมบัติ (40%) นอกจากนี้พบองค์กร 22% ที่จ้างผู้สมัครเพศหญิงจากแผนกอื่นในองค์กรเพื่อเข้าแผนกไอที ขณะที่องค์กร 63% ระบุว่าจะจ้างเฉพาะผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเท่านั้นโดยไม่เกี่ยงว่าจะเพศใด อย่างไรก็ตาม CISO จำนวน 70% ระบุว่า การหาผู้เชี่ยวชาญไอทีที่มีทักษะในสาขาต่างๆ นั้นยากมาก จึงต้องมองหาช่องทางอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาช่องว่างของทักษะ (Talent Gap)

 

รายงานฉบับนี้ยังพบว่า ในส่วนของผู้นำด้านไอทีซีเคียวริตี้นั้นผู้บริหารชายมีจำนวนมากกว่าหญิง ผู้ตอบแบบสอบถามหนึ่งในห้า (23%) ระบุในแบบสอบถามว่าตนเองเป็นเพศหญิง อย่างไรก็ดี พบว่าผู้หญิงที่ทำงานในตำแหน่งบริหารแผนกไอทีซีเคียวริตี้มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ผู้ตอบแบบสอบถามหญิงจำนวน 20% ระบุว่า ได้รับตำแหน่งผู้บริหารในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราเติบโตเป็นสองเท่าเมื่อเทียบผู้ชาย (10%)

 

“ข้อมูลจากรายงานฉบับนี้ชี้ว่าสถานการณ์ในวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้กำลังเปลี่ยนแปลงไป และในปัจจุบันเรากำลังขาดแคลนบุคลากรหญิง ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่สัดส่วนผู้ชายและผู้หญิงในองค์กร แต่ในการสัมภาษณ์ CISO ระบุว่าไม่มีผู้สมัครเพศหญิงเพียงพอ ดังนั้นเพื่อลดช่องว่างในวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้ เราจึงอยากสนับสนุนและให้กำลังใจผู้หญิงให้พิจารณาเลือกสายงานนี้” เอฟเจนิยา โนโมวา รักษาการกรรมการผู้จัดการประจำทวีปยุโรป แคสเปอร์สกี้ กล่าว

 

แคสเปอร์สกี้ได้ริเริ่มสร้างชุมชนออนไลน์ ชื่อ “Women in Cybersecurity” เพื่อสนับสนุนความก้าวหน้าทางอาชีพของผู้หญิงในอุตสาหกรรมไซเบอร์ซิเคียวริตี้และสาขาอื่นๆ และยังจับมือกับ Girls in Tech เพื่อสนับสนุน AMPLIFY การแข่งขันเพื่อให้ทุนแก่สตาร์ตอัพที่มีผู้หญิงเป็นผู้ก่อตั้ง นอกจากนี้แคสเปอร์สกี้ยังจัดงาน CyberStarts ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือคนรุ่นใหม่และลดช่องว่างระหว่างเพศในสายงานไซเบอร์ซีเคียวริตี้

 

สุดยอดอลังการความยิ่งใหญ่ระดับโลก ‘เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา’

เมืองพัทยา พร้อมแล้วสำหรับการจัดงานสุดยอดการแสดงพลุนานาชาติระดับโลก กับ “เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา (Pattaya International Fireworks Festival)” พร้อมด้วยคอนเสิร์ตสุดประทับใจจากศิลปินชั้นนำระดับประเทศ และตื่นตากับขบวนคาร์นิวัลสร้างสีสรร วันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2562 อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาเมืองพัทยา ซึ่งตรงกับวันที่ 29 พฤศจิกายน ของทุกปี

 

และในปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ทางเมืองพัทยาถือโอกาสมอบการจัดงานอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ให้เป็นของขวัญแห่งความสุขให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติในช่วงบรรยากาศส่งท้ายปี ด้วยการเนรมิตทั่วผืนฟ้ากลางทะเลเมืองพัทยายามค่ำคืนให้เจิดจรัสสว่างไสว ภายใต้แนวความคิด “The Grand Illumination” ซึ่งภายในงาน พลุหลากสีสุดอลังการจาก 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย อาร์เจนติน่า แคนาดา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ) เยอรมัน และฟิลิปปินส์ จะถูกจุดประกายความสวยงามอย่างยิ่งใหญ่ด้วยเทคนิคพิเศษและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ ผสมผสานกับจังหวะของเพลงประกอบการแสดงที่จะเรียกเสียงปรบมือและสร้างความตราตรึงใจมิรู้ลืม

 

#ThailandInternationalFireworksFestival #ThailandIFF #ThailandFireworks

#PattayaInternationalFireworksFestival #Fireworks #PattayaFireworksFestival

#InternationalFireworks #เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา #พลุพัทยา

Mellanox Technologies นำเสนอโซลูชั่นระบบความปลอดภัยอนาคต และการเร่งประสิทธิภาพคลาวด์ดาต้าเซ็นเตอร์

เปิดตัวเวิร์กช้อปการอบรมความรู้ใหม่ภายใต้ชื่อ “What Just happened” ในการช่วยผู้ดูแลระบบสามารถตรวจพบปัญหาประสิทธิภาพการทำงานของระบบเครือข่ายได้ก่อนที่จะเกิดปัญหาใหญ่จนส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานในระบบ

 

Mellanox Technologies เมลลาน็อกซ์ เทคโนโลยีส์ผู้นำด้านโซลูชั่นอัจฉริยะประสิทธิภาพสูงแบบ End-to-End สำหรับการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจในศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ประกาศเปิดตัวหลักสูตรการเรียนรู้ในประเทศไทยภายใต้ชื่อ “What Just Happened” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ให้แก่ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลและจัดการระบบเครือข่ายในประเทศไทยได้มีความเข้าใจ และสามารถระบุชี้ปัญหาในการทำงานของระบบเครือข่าย หรือแอพพลิเคชั่นได้ก่อนส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานในองค์กร ทั้งนี้ เมลลาน็อกซ์ เทคโนโลยีส์ได้จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขึ้นที่โรงแรมไอบิสสไตล์บางกอกรัชดา โดยร่วมมือกับ Agile Distribution (Thailand) ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (VAR) ของเมลลาน็อกซ์ในประเทศไทย โดยได้รับความสนใจจากตัวแทนจากหลายภาคส่วนอุตสาหกรรมในประเทศไทยเข้าร่วมสัมมนา

 

โซลูชั่นการเชื่อมต่ออัจฉริยะของเมลลาน็อกซ์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของศูนย์ข้อมูลด้วยการรองรับปริมาณงานสูงสุด ลดความหน่วงแฝง เพิ่มความเร็วการส่งข้อมูลสื่อสารกับแอพพลิเคชั่น  ปลดล็อคประสิทธิภาพให้ระบบ และยกระดับความปลอดภัย  ทั้งนี้เมลลาน็อกซ์เสนอทางเลือกที่ครอบคลุมการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นนระบบเครือข่าย  ระบบประมวลผลหลายแกน  เน็ตเวิร์ดอะแดปเตอร์  อุปกรณ์สวิตช์  สายเคเบิ้ล  ไปจนถึงซอฟท์แวร์และระบบซิลิคอน เพื่อช่วยเร่งการทำงานของแอพพลิเคชั่นและผลลัพธ์ธุรกิจที่แตกต่างกัน  รวมถึงคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (HPC) ศูนย์ข้อมูล  ระบบคลาวด์  ระบบสตอเรจ  ระบบความปลอดภัยไซเบอร์  ระบบสื่อสารโทรคมนาคม และบริการการเงิน

 

อีกทั้ง ภายใต้สถานการณ์ที่ระบบเครือข่ายล่ม หรือทำงานช้าลง  เมลลาน็อกซ์มีโซลูชั่นให้ผู้ดูแลและผู้จัดการระบบเครือข่ายตรวจสอบกิจกรรมเครือข่าย และวัดการตอบสนองของแอพพลิเคชั่น เพื่อระบุจุดและจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาต่อระบบเครือข่ายหรือแอพพลิเคชั่นได้ก่อนส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั้งองค์กร โซลูชันที่ทำงานเฝ้าระวังและสอดส่องระบบเครือข่ายแบบเรียลไทม์จะสนับสนุนข้อมูลต่างๆ ให้ผู้ดูแลระบบเครือข่ายในการวิเคราะห์ว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเครือข่าย” และสามารถอธิบายต่อผู้ใช้และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลกระทบได้ทันที ไม่เสียเวลาในการตรวจสอบเหมือนในอดีต

 

สำหรับหลักสูตรการอบรมในครั้งนี้ นอกจากฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการระบุปัญหาเครือข่ายหรือการทำงานแอพพลิเคชั่นแล้ว ยังนำเสนอทิศทางแนวโน้มของการใช้งานศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีความทันสมัย  และแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆ จากลูกค้า รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีการตรวจสอบระยะไกล (telemetry) ในการจัดการระบบเครือข่ายอัตโนมัติยุคใหม่ และยังได้นำเสนอเทคโนโลยีระดับผู้นำของเมลลาน็อกซ์ในอุปกรณ์ที่เรียกว่า SmartNIC (NIC คือ การ์ดเชื่อมต่อเครือข่าย ซึ่งทำหน้าที่ลดภาระการทำงานของระบบประมวลผลหลัก) และนำเสนอการออกแบบสถาปัตยกรรมระบบเครือข่าย

 

“ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดหลักที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับเมลลาน็อกซ์  นับเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จในระดับภูมิภาคและระดับโลกของบริษัท  ดังจะสะท้อนให้เห็นในความมุ่งมั่นตั้งใจของบริษัทที่จะเพิ่มการลงทุนที่นี่ ซึ่งเมลลาน็อกซ์ตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้เป็นส่วนหนึ่ง และนำความเชี่ยวชาญและความรู้ของเรามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ศูนย์ข้อมูลของลูกค้า และยังทำให้คู่ค้าในประเทศไทยของเมลลาน็อกซ์เติบโตไปพร้อมกัน” มร. ชาร์ลี ฟู รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น เมลลาน็อกซ์กล่าวและได้เสริมว่า “การถือกำเนิดของนวัตกรรมใหม่ เช่น 5G, ระบบออโตเมชั่น, การเรียนรู้ด้วยตัวเองของคอมพิวเตอร์  (machine learning) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ล้วนเป็นความท้าทายในการออกแบบระบบเครือข่ายและประสิทธิภาพการทำงานของระบบคลาวด์อย่างไม่ต้องสงสัย เมลลาน็อกซ์จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในไทยเพื่อให้พวกเขาได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลรุ่นต่อไป เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน และปลดล็อกเพื่อก้าวออกสู่โอกาสใหม่ๆ ไปกับลูกค้าของพวกเขา”

 

ข้อมูลของไอดีซีระบุว่าภายในปีพ.ศ. 2565 ร้อยละ 61 ของ GDP ของประเทศไทยจะถูกทำให้เป็นดิจิทัล ทุกอุตสาหกรรมจะมีการเติบโตอันมาจากแรงขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ได้รับการส่งเสริมทางดิจิทัล การดำเนินการและปฎิสัมพันธ์ สร้างให้เกิดตัวเลขการใช้จ่ายสินค้ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับไอทีถึง 72,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงปีพ.ศ. 2562-2565  โดยคาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2565 นั้น ร้อยละ 60 ของรายจ่ายด้านไอทีจะถูกใช้จ่ายไปกับเทคโนโลยีที่อยู่บนแพลตฟอร์มยุคที่ 3 นี้ โดยที่มากกว่าร้อยละ 30 ขององค์กรทั้งหมดจะเดินหน้าสร้างสิ่งที่เรียกว่า “Digital-native” ให้กับระบบไอทีให้พร้อมรับการระบบเศรษฐกิจยุคดิจิทัล และในบริบทที่สอดคล้องกันจะมีองค์กรในไทยอีกราวร้อยละ 20 ที่ยังคงมีการใช้งานระบบคลาวด์จะรวมเทคโนโลยีอย่าง Edge Computing เข้าไว้ด้วย อีกร้อยละ 25 ที่ใช้งานอุปกรณ์ปลายทาง (endpoint devices) และระบบจะต้องหันมารองรับการนำเอาระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เข้ามาใช้งาน

พาเที่ยวตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) ดื่มด่ำช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปี กลิ่นอายแบบ ‘ฝรั่งเศส’ ต้นตำรับ

ช่วงเวลาส่งท้ายปีกับอากาศที่เย็นสบายช่างเป็นเวลาที่แสนเพลิดเพลิน บรรยากาศของเทศกาล สีสันและกลิ่นอายแห่งความสุขล่องลอยมากับเดือนธันวาคมที่ทำให้หลายคนนึกถึงการเดินเล่นหรือเดินเลือกซื้อของขวัญสำหรับเทศกาลเฉลิมฉลองในบรรยากาศเก๋ ๆ อย่างตลาดคริสต์มาส (Christmas Market)

ช่วงเวลาเช่นนี้ในแถบตะวันตกอย่างยุโรป โดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศสนั้นขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องการจัดตลาดคริสต์มาสที่ยิ่งใหญ่อลังการ และในวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักตลาดที่มีความโดดเด่นและมีชื่อเสียงน่าไปเยือนกัน!

ตลาดคริสต์มาสชื่อดังอันดับ 1 ของฝรั่งเศส ต้องยกให้เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) ที่ก่อตั้งมายาวนานที่สุดในฝรั่งเศส สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นกว่า 450 ปี จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงของคริสต์มาส หรือ Christmas Capital บรรยากาศของเมืองในช่วงนี้จะเต็มไปด้วยไฟประดับตกแต่งเต็มถนน บ้านไม้โบราณ ต้นคริสต์มาสยักษ์ พร้อมด้วยร้านขายสินค้าเก๋ ๆ ที่มีขนมนมเนย และอาหารท้องถิ่นจำหน่ายให้ได้เพลิดเพลิน มีเสียงเพลงให้ร้องเต้นกันสนุกสนานไปกับครอบครัวและคนรัก

กับอีกหนึ่งตลาดคริสต์มาสของฝรั่งเศสที่ห้ามพลาดก็ต้องเป็นเมืองกอลมาร์ (Colmar) ที่ถูกจัดอันดับให้เป็นตลาดคริสต์มาสที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของยุโรปเลยทีเดียว ที่นี่มากมายด้วยเรื่องราวศิลปวัฒนธรรมให้เดินชมเพลิดเพลินผ่านถนนเส้นเล็ก ๆ ของเมืองที่มีบ้านรูปทรงกึ่งไม้สีสันสวยงามสะดุดตา มีสินค้าแฮนด์เมดที่เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น อาทิ เครื่องแก้ว เครื่องประดับ วางขายโดยทั่ว สามารถทักทายซานตาคลอส ชมบ้านลูกกวาด พร้อมจิบไวน์ หรือเดินทอดน่องในบรรยากาศสบายในเมืองที่น่ารักแห่งนี้

เห็นความน่าตื่นตาตื่นใจกันอย่างนี้แล้ว เชื่อไหมว่าเราสามารถร่วมสัมผัสบรรยากาศของตลาดคริสต์มาสได้ในเมืองไทย ไม่ต้องไปไกลถึงฝรั่งเศส เพราะ Bonjour France ยกตลาดคริสมาสต์มาให้คุณถึงกลางศูนย์การค้าสยามพารากอน ให้คนไทยได้ฉลองเทศกาลคริสต์มาสกับซานต้าใจดีและต้นคริสต์มาสสวยสุดพิเศษ ประทับใจได้เหมือนอยู่ในฝรั่งเศสเลยทีเดียว

พร้อมพบกับมหกรรมสินค้าคุณภาพจากประเทศฝรั่งเศสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่จะขนแบรนด์ดังสัญชาติฝรั่งเศสให้ได้ช็อปจุใจ พร้อมส่วนลดพิเศษอีกมากมาย แล้วพบกันในงาน Bonjour France 2019 (บงชูร์ ฟรองซ์ 2019) ตั้งแต่วันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/BonjourFranceBkk/