จบลงอย่างสวยงามกับการประกวด Miss International Queen 2018 ณ โรงละครทิฟฟานี่โชว์ พัทยา ที่ได้ผู้ครองมงกุฎคนใหม่คือ เหงียน ฮวง เกียง จากประเทศเวียดนาม (Nguyen Huong Giang, Vietnam) อายุ 27 สร้างปรากฏการณ์ให้ประเทศเวียดนามเพราะเธอคือชาวเวียดนามคนแรกที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในเวทีประกวดนางงามระดับนานาชาติและที่สำคัญที่สุดคือเธอคือ “ทรานส์เจนเดอร์” สร้างความภาคภูมิใจให้ประชาชนชาวเวียดนามเป็นอย่างมากและเป็นสัญญะของการยอมรับเพศที่สามอย่างเป็นรูปธรรม
เห็นได้จากการต้อนรับ Miss International Queen 2018 คนใหม่กลับบ้านวันแรกด้วยฝูงชนคับคั่งแน่นพื้นที่สนามบินอย่างไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งสื่อมวลชนในประเทศเวียดนามและสื่อมวลชนทั่วโลกต่างเผยแพร่การประกวด Miss International Queen 2018 และกล่าวขานว่าเป็นการประกวดความงามสำหรับทรานส์เจนเดอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
CNN สื่อยักษ์ใหญ่ผู้ทรงอิทธิพลของโลกได้เผยแพร่ภาพผู้ชนะ Miss International Queen 2018 ลงในอินสตาแกรมหลัก ซึ่งไม่เคยมีเวทีการประกวดนางงามใดๆในโลกได้รับการคัดเลือกเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ต้องเผยแพร่มาก่อน อีกทั้งยังมีรายการสารคดีเกี่ยวกับ Miss International Queen ออกอากาศในช่อง CNN แล Sky ของอังกฤษ ระดับ Global ที่ยกทีมข้ามน้ำข้ามทะเลมาถ่ายทำถึงประเทศไทยมาแล้ว นอกจากนั้น สำนักข่าว Reuters, BBC, Voice of America, AFP, AP, EPA ฯลฯ ก็ลงภาพผู้ชนะการประกวดเช่นกันในสื่ออินสตาแกรมหลักและทางโซเชียลมีเดียอื่นๆเช่นกัน
นอกจากสื่อที่มีอิทธิพลระดับโลกที่กล่าวมาแล้ว ยังมีสื่อหลักอีกมากมายที่ประโคมข่าวการประกวด Miss International Queen 2018 ทั้งในประเทศเวียดนามเองที่ทุกพื้นที่เป็นเรื่องราวของผู้ชนะคนล่าสุด สื่อจากฝั่งเอเชียทั้งญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน มาเลเซีย พม่า ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินเดีย ฯลฯ SBS สื่อยักษ์ใหญ่จากออสเตรเลียก็เสนอข่าวจากการประกวดในปีนี้ รวมไปถึงสื่อจากทวีปยุโรปทั้งฝรั่งเศส อิตาลี โปรตุเกส สเปน สื่อทวีปอเมริกาใต้ และอีกมากมาย
กล่าวได้ว่า Miss International Queen เป็นเวทีการประกวดความงามระดับนานาชาติสำหรับทรานส์เจนเดอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหนึ่งเดียวในโลก ได้รับการกล่าวขานและเป็นอีเวนท์ใหญ่ประจำปีที่ทุกมุมโลกจับตามองที่จัดโดยบริษัท ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา จำกัด เป็นผู้บุกเบิกในการจัดเป็นที่แรกของโลกและจัดต่อเนื่องมาตลอด 13 ปี เป็นการแสดงจุดยืนเรื่องสิทธิความเท่าเทียมทางเพศในระดับสากลทั่วโลก การประกวดความงามไม่ใช่เพียงแค่ความงามแต่เป็นพื้นที่ที่ทรานส์เจนเดอร์จะสามารถแสดงตัวตนที่แท้จริงสร้างการยอมรับ ในความสามารถและคุณค่าในความเป็นมนุษย์ และเคารพสิทธิความเท่าเทียมกันทั้งด้านหน้าที่การงาน และความเป็นอยู่ในสังคม สร้างทัศนคติของคนในสังคมทั่วโลกทำให้เรื่อง World Equality เป็นที่ยอมรับมากขึ้น