
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงยอดฮิต ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

ในช่วงนี้ฤดูฝน ดอกไม้ใบหญ้าที่นี่เขียวชะอุ่มชุ่มชื่น อากาศเย็นสบาย ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกที่คิดว่าอีกไม่นานฝนคงตก เหมือนทริปอื่นๆที่ผ่านมา
สำหรับการเข้าชมสถานที่แห่งนี้ จะต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่โป๊ ใครใส่เสื้อแขนกุด กางเกงหรือกระโปรงสั้น รวมถึงกางเกงยืนแฟชั่นที่ฮิตทำให้ขาดด้วย จะต้องเช่าชุดที่เขาเตรียมไว้ให้เพื่อใส่ก่อนเข้าไปด้านใน


อากาศเย็นสบายมาก กับไอหมอกก่อนฝนตก หมอกฟุ้งๆ รู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์เลยค่ะ 🙂

ที่นี่รายล้อมไปด้วยดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิด แข่งกันเบ่งบานต้อนรับนักท่องเที่ยว เราก็ไม่ค่อยจะรู้จักชื่อดอกไม้แต่ละชนิดเท่าไหร่ แต่พยายาม รวบรวมข้อมูลรายชื่อดอกไม้เมืองหนาวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ









นอกจากจะได้เห็นดอกไม้สวยๆแล้ว เรายังได้เห็นการจัดแต่งสวนสวยๆ ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญช่วยให้ดอกไม้ดูสวยมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ 

มีต้นไม้ทั้งเล็กใหญ่ตลอดทาง ชมดอกไม้ไป ช่วงไหนที่ฝนตกลงมาเราก็หลบฝน แต่ฝนตกแป๊ปเดียวก็หยุดแล้ว จึงไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆกับเราสำหรับการเที่ยวหน้าฝนนี้
ใบไม้หลังฝนตก ก็ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ

เดินไปเรื่อยๆจะมีทางเดินสำหรับขึ้นไปดูอ่างเก็บน้ำ จะเจอสะพานข้าม ค่อนข้างสูง มองลงไปด้านล่างจะเห็นถนน ก็สวยไปอีกแบบค่ะ

ดอกรักเร่ที่มีน้ำเกาะอยู่ตามกลีบหลังจากฝนตก





ตามโขดหินจะมีมอสเกาะอยู่มากมายค่ะ บ่งบอกว่าที่นี่มีความชุ่มชื่นมากๆ

เดินมาถึงจุดนี้ฝนทำท่าจะตกอีกแล้ว แต่เราก็ไม่หวั่น ยังคงสนุกกับการถ่ายรูป ถ่ายเพลินๆก็ขึ้นมาถึงอ่างเก็บน้ำแล้ว

มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นการตกแต่งสวนดอกไม้เป็นชั้นๆ แต่ตอนนี้ฝนเริ่มลงเม็ดอีกรอบ เราเลยถ่ายภาพมาได้เท่านี้แล้วต้องรีบวิ่งไปหลบฝนในศาลา
ตกได้ประมาณ 5 นาที ฝนก็หยุด เราก็ออกเดินทางต่อ

ต้นไม้แกะสลักที่สวยและงดงามมาก เราก็ทึ่งในความสามารถของคนเหมือนกัน เพราะแกะได้เนี๊ยบและละเอียดมากค่ะ
มีหลายต้นเลยค่ะ


สำหรับทริปนี้ จุใจไปด้วยธรรมชาติ ของหน้าฝนมากๆค่ะ

การเดินทางมีคุณค่าทางจิตใจเสมอ

ค่าใช้จ่าย
ค่าเข้าชม : คนละ 20 บาท
ค่าเช่าชุด : ชิ้นละ 10 บาท
ดูรีวิวหน้าฝนน่าเที่ยวอื่นๆ



มีตลาดขายสินค้าของชาวบ้าน ทั้งงานฝีมือ ของพื้นบ้าน เสื้อผ้า ผ้าฝ้ายทอมือ เครื่องประดับเงิน ชา และอีกมากมาย
มีชุดชาวเขาให้เราได้เช่าใส่ด้วยค่ะ คนละ 50 บาท จะมีเด็กๆมาคอยต้อนรับและอาสาเป็นไกด์ให้ (แต่อาจจะต้องมีค่าตอบแทนให้น้องด้วยนะคะ 🙂 ) น้องๆจะวิ่งมาต้อนรับและพูดกับคุณว่า “พี่สาวคะ สนใจให้หนูเป็นมัคคุเทศน์น้อยพาเที่ยวมั้ยคะ แล้วแต่พี่จะให้ค่าขนมหนูค่ะ” ประมาณนี้ น่ารักค่ะ หรือจะถ่ายรูปกับเด็กดอยก็ได้ค่ะ น้องๆก็จะหารายได้จากนักท่องเที่ยวจากการนำเที่ยวหรือถ่ายรูปคู่กับเราค่ะ แล้วแต่เราจะให้เขาค่ะ





เก็บภาพหมู่ดอกไม้มาฝากล้วนๆเลยค่ะ ไม่รู้จะบรรยายอะไร ให้ภาพบอกแทนแล้วกันค่ะ









จากการอยู่เชียงใหม่ในหน้าฝน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สองทำให้รู้ว่า เมฆหมอกที่หนามากขนาดนี้อีกไม่นานฝนก็ตก แต่ฝนที่ตกพร้อมเมฆหมอกเหล่านี้จะเป็นละอองฝนค่ะ ไม่ใช่ฝนเม็ดโตๆ แบบที่เคยเจอค่ะและไม่ได้ตกบริเวณนี้แต่จะตกบริเวณที่หมอกเหล่านี้ไปเยือนค่ะ ส่วนฝั่งเราก็ได้เห็นวิวดี ภาพสวยๆค่ะ 🙂

นั่งกินกาแฟ ชมบรรยากาศไปซักพัก ก็ได้เวลากลับเพื่อที่จะลงไปยังพระตําหนักภูพิงค์ต่อ เราเดินลงอีกด้านหนึ่งของร้านกาแฟค่ะ

เราจะต้องเดินอีกทางจากทางขึ้น จะมีป้ายบอก ว่าเป็นทางลงค่ะ ระหว่างทางก็มีตลาดขายของเช่นเดียวกับทางขึ้นค่ะ
มีรถมา
ถ้าหากเราไม่ได้เอารถมาเองก็มีรถแดงพาเที่ยวนะคะหรือหากขับไม่เก่งไม่ชำนาญเพราะทางค่อนข้างแคบและชันนิดหนึ่งค่ะ จะเหมารถสองแถวแดงหรือมาเป็นรถโดยสารกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆก็ได้ค่ะ ตรงพระตําหนักภูพิงค์จะมีรถสองแถวแดงจอดรอเรียกนักท่องเที่ยวอยู่หลายคันค่ะ

ลงจากรถปุ๊บ จะได้ยินเสียงน้ำไหล เพราะมีน้ำตกอยู่ในวัดด้วย




พระเจดีย์ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนา ศิลปะแบบล้านนาผสมศิลปะพม่า







































หลังฝนตก ท้องฟ้าเปิด ฟ้าใสมากค่ะ
ระหว่างทางลงจากม่อนแจ่ม ก็มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทางให้ได้กดชัตเตอร์รัวๆ ขับมาได้สักพัก จะมีจุดชมวิวม่อนล่อง ที่สามารถแวะเพื่อชมวิว ซึ่งจากจุดนี้สามารถมองเห็นพื้นที่โครงการหลวงและหมู่บ้านม้ง





