เชียงใหม่หน้าฝน ชิลไปตามสภาพอากาศ2วัน2คืน(วันที่1)

ทริปนี้จัดเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาค่ะ แน่นอนว่าช่วงนี้มันฤดูฝน ใครจะอยากเที่ยว ช่วงนี้ก็เลยเป็นช่วง low season สำหรับการท่องเที่ยว ด้วยความที่อยากเที่ยว เงินในกระเป๋าก็น้อยนิด เราก็ถือโอกาสนี้แหละ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินราคาเท่าตั๋วรถทัวร์ ที่พัก ลดครึ่งราคา ลดกระหน่ำกันจริงจัง รอช้าอยู่ใยแพคกระเป๋าโลด
ออกเดินทางในวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม ค่ะ โดยสายการบินราคาประหยัด Airasia เราจองไป-กลับ ได้ในราคาประมาณ 1,800 บาท จองผ่านเว็บไซต์ https://www.traveloka.com/th-th/airasia ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่ต้องรูดบัตรเครดิต เพราะใช้วิธีโอนเงินเอาผ่านตู้ ATM ได้ตั๋วราคาถูกไม่ชาร์ทเพิ่ม

พร้อมกันนั้น หลังจองตั๋วเสร็จ ก็มีหน้าจอโรงแรมเด้งขึ้นมาแนะนำ ราคาแบบล่อตามากคืนละ 400 บาท ซึ่งลดจากราคา 1,200 บาท แต่ยังไม่จอง ขอเอาชื่อโรงแรมไปหาข้อมูลก่อนว่าเป็นยังไง หลังหาข้อมูลแล้ว ทั้งการเดินทาง สภาพโรงแรม และอื่นๆที่เราพอใจ เราก็ตกลงจองโรงแรม โรยัล เพนนินซูลา

ออกจากดอนเมือง 6.40 น. ถึงสนามบินเชียงใหม่ 7.45 น. นั่งรอเพื่อนมารับ หากใครไม่มีเพื่อนหรือคนรู้จักที่จะพาเราเที่ยวได้ ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ มีรถแดงโดยสารเข้ามาถึงสนามบินเลยค่ะ เท่าที่นั่งสังเกตมีทุกๆ 5 นาที สามารถนั่งโดยสารประจำทางหรือเหมาเที่ยวก็ได้ค่ะ รถแดงพาเราไปได้ทุกที่ ราคาก็ตามที่ตกลงกับโชเฟอร์

รถโดยสารเชียงใหม่
รถแดงโดยสารเชียงใหม่

เรายังไม่เข้าโรงแรม เพราะโรงแรมให้เช็คอินเวลา 14:00 น.เป็นต้นไป จึงแพลนไปเที่ยวกันก่อน แต่ท้องก็ร้องหาอาหารแต่เช้า เพื่อนผู้น่ารัก จึงจัดให้ พาเราไปหามื้อเช้ากินกัน

อาหารมื้อแรกที่เชียงใหม่ที่ร้าน “BOAT BAKERY CHIANGMAI” ร้านเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนห้วยแก้ว ทางมุ่งหน้าไปดอยสุเทพ ร้านอยู่ซ้ายมือ ก่อนถึงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บรรยากาศตกแต่งด้วยโทนสีขาว เรียบง่ายมีสองโซน ด้านหน้าติดถนน ด้านหลังประดับตกแต่งด้วยไม้ประดับ ให้ความรู้สึกสดชื่น

ร้าน Boat Bakery chiangmai
ร้าน Boat Bakery chiangmai
ร้าน Boat Bakery chiangmai
บรรยากาศภายในร้าน Boat Bakery chiangmai

ที่นี่มีหลากหลายเมนู ทั้งของคาวของหวาน อาหารไทย หรือเทศ เรียกได้ว่าครบครบครัน ส่วนเซ็ทที่เป็นที่นิยมกันที่สุดสำหรับมื้อเช้าก็คือเซ็ทอาหารเช้า มีอาหารให้เลือก อาทิไส้กรอก แฮม ไข่ดาว ขนมปังปิ้ง เลือกผสมได้ตามใจชอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับกาแฟ และนม

เซ็ทอาหารเช้า
เซ็ทอาหารเช้าร้าน Boat Bakery chiangmai

อาหารมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้ม สเต็ก อาหารตามสั่ง ฯลฯ Boat Bakery chiangmai

อิ่มหนำสำราญกับอาหารมื้อเช้ากันเรียบร้อย มื้อนี้จ่ายไปประมาณ 350 บาท มีเซ็ทอาหารเช้า 3 ที่ ข้าวผัดน้ำพริกหนุ่ม ไก่ทอด เฟรนฟราย อิ่มมาก

อิ่มแล้วก็ออกเดินทางต่อเลย มุ่งหน้าไปยังม่อนแจ่มตามที่ได้หาข้อมูลกันมาก่อน ในระหว่างทางเพื่อนผู้น่ารักใจดี ทำหน้าที่ไกด์ที่ดี พาเราแวะสถานที่ที่เราไม่รู้จักมาก่อน แต่ยังไงก็เป็นทางผ่านก่อนขึ้นม่อนแจ่มอยู่แล้ว (ได้กำไรมา 1 สถานที่)

พระตำหนักดาราภิรมย์ เป็นที่ประทับของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่นี่ถูกตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆระหว่างบรรพชนในอดีต กับอนุชนรุ่นหลัง มีการจัดห้องพักผ่อนพระอิริยาบถ จัดแสดงจานชาม เครื่องเสวย ของใช้ส่วนพระองค์ และเครื่องดนตรี ให้เหมือนเดิมมากที่สุด

พระตำหนักดาราภิรมย์
พระตำหนักดาราภิรมย์

พระตำหนักดาราภิรมย์

มีคนเข้ามากราบไหว้ ขอพรกันประปราย ส่วนใหญ่ถวายดอกกุหลาบ ขอกระซิบว่าเพื่อนผู้น่ารัก ก็อธิษฐานและก็ได้สมหวังตามที่อธิษฐานด้วย (ความเชื่อส่วนบุคคล)พระตำหนักดาราภิรมย์ พระตำหนักดาราภิรมย์ พระตำหนักดาราภิรมย์

แวะสักการะและถ่ายรูปเสร็จก็ออกจาก พระตำหนักดาราภิรมย์ เพื่อนผู้น่ารักก็พาแวะอีกสถานที่ ทางผ่านอีกแล้ว “ศาลากาแฟ” (กำไรอีกแล้ว) ร้านกาแฟที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติมากๆ นอกจากจะมีกาแฟและเครื่องดื่ม ของหวานแล้ว อาหารคาวก็มีให้เลือกหลากหลายศาลากาแฟ ศาลากาแฟ ศาลากาแฟ

สำหรับรีวิวร้าน ศาลากาแฟ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ  “ศาลากาแฟ” ชิวกับธรรมชาติ

เราชิลถ่ายรูปกันที่ร้านศาลากาแฟ กันสักพัก ประมาณบ่ายโมงก็ไปกันต่อ คราวนี้ไม่ได้แวะแล้ว ตรงดิ่งไปที่ม่อนแจ่ม ไปถึงม่อนแจ่มก็บ่ายแก่ๆ แต่เราตื่นเต้นมาก เพราะหมอกที่หนาตาเอามากๆ คิดว่าเป็นหน้าหนาว แต่อากาศไม่หนาว เย็นสบาย สำหรับที่ม่อนแจ่มจะต้องจ่ายค่าจอดรถประมาณ 20 หรือ 40 บาท จำไม่ได้ค่ะ แล้วก็เดินขึ้นไปอีกนิดหน่อย

ก่อนที่เราจะมาม่อนแจ่มก็ศึกษาข้อมูลมาก่อน เห็นหลายรีวิวบอกม่อนแจ่มไม่มีอะไร แต่เราไม่เชื่อค่ะ ต้องมาเห็นกับตา

ท้องฟ้าดูครึ้มๆ ฝนใกล้มาแล้ว ก็หน้าฝนเราจะไปห้ามไม่ให้ฝนตกคงไม่ได้ เราลุยกันต่อค่ะ
มีของขายจากชาวบ้านริมทาง

ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
มันเผา หอมมาก
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ดอกไม้ ที่ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
มีรอยยิ้มจากเจ้าถิ่นส่งให้

ที่นี่มีดอกไม้และรอยยิ้ม น้องๆเขาน่ารักมากเลยนะคะ ถ้าคนที่มีเที่ยวแล้วกลับไปพูดว่าที่นี่ไม่มีอะไรน่าเที่ยว เด็กและชาวบ้านที่นี่เขาก็น่าจะได้รับผลกระทบนะคะ ยังไงก็อยากให้มาเห็นกันเองกับตา ก่อนตัดสินใจอะไร

สำหรับรีวิวม่อนแจ่มทั้งหมดสามารถดูได้ที่นี่ค่ะ หน้าฝนน่าเที่ยว “ม่อนแจ่มม่วนใจ๋

กลับจากม่อนแจ่มประมาณห้าโมงเย็น เอากระเป๋าไปเก็บ เช็คอินที่โรงแรม โรยัล เพนนินซูลา  และนั่งพักสักพักโรงแรม โรยัล เพนนินซูลา

โรงแรม โรยัล เพนนินซูลา
ภายในห้องพักของโรงแรม โรยัล เพนนินซูลา

วันนี้ยังพอมีเวลา เพื่อนไกด์ผู้น่ารัก ก็พาไปไหว้พระที่วัดเก่าแก่ประจำเมืองเชียงใหม่ พระพุทธสิหิงค์ พระธาตุประจำปีมะโรง ณ วัดพระสิงห์ ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องสุพรรณหงส์และสังข์ทอง ซึ่งพบเพียงที่นี่แห่งเดียววัดพระสิงห์
วัดพระสิงห์

ไหว้พระเสร็จก็ถึงเวลามื้อเย็นของวันแล้ว  กินอีกแล้นน เพื่อนไกด์ที่น่ารักก็ถามเราว่าอยากกินอะไร เราก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารเมือง นางเลยจัด พาเราไปร้าน “เฮือนม่วนใจ๋” ร้านชื่อดัง เก่าแก่กว่า 100 ปี โดยเชฟก็เป็นถึงผู้ท้าชิงเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทยด้วย

มาถึงร้านกล้องถ่ายรูปแบตหมด โทรศัทพ์แบตก็หมด เลยเก็บภาพบรรยากาศมาได้นิดหน่อย
ตัวร้านเป็นเรือนไม้ ทางเข้าประดับไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับ บรรยากาศในร้านดูอบอุ่น ตกแต่งด้วยโคมแบบชาวเชียงใหม่ การประดับตกแต่งผนังด้วยรูป เหมือนบ้านเรือนสมัยก่อน

เฮือนม่วนใจ๋
ร้านเฮือนม่วนใจ๋

ถึงเวลาสั่งอาหาร มีกันสามคนแต่ด้วยความหิวและเมนูที่เพื่อนไกด์แนะนำ ก็สั่งกันมาเยอะมาก 😉

อาหารเมือง เฮือนม่วนใจ๋
อาหารเมือง เฮือนม่วนใจ๋

นี่ไม่ได้อวยนะ จะบอกว่าอาหารอร่อยมาก อร่อยทุกอย่าง อาทิ
ชุดออเดิฟเมือง ก็จัดเต็มทั้งน้ำพริกหนุ่ม, น้ำพริกอ่อง, แคปหมู, ไส้อั่ว, หมูทอด, แกงฮังเล(อร่อยมาก) พร้อมกับผักเครื่องเคียง
แอ๊บหมู ซึ่งก็คือหมกหมู คือแบบว่ามันอร่อยมากเราติดใจ แกงฮังเล อร่อยมากกกก ก็ไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้กินไปได้ยังไง ถ้าท้องยังรับไหวนี่คงสั่งเพิ่มแน่ๆ สำหรับมื้อนี้จ่ายไปประมาณ 450 บาท แต่อิ่มมากกกก อร่อยมากกกกกกกกกก

อิ่มกันแล้วก็ไปเดินย่อยต่อที่ถนนคนเดิน ซึ่งถ้าใครมาเชียงใหม่แล้วไปเดินนี่เรียกได้ว่าไปไม่ถึงเชียงใหม่แน่นอนค่ะ

ถนนคนเดิน
ถนนคนเดิน

บรรยากาศที่นี่ก็เหมือนตลาดนัด ของที่ขายส่วนใหม่เป็นงานฝีมือ มีการแสดงความสามารถ ศิลปะวัฒนธรรมของคนบางกลุ่ม ส่วนใหญ่คนที่เห็นจะเป็นท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

หมดไปแล้ว 1 วัน รู้สึกเหนื่อยและเพลียมาก เราก็เลยกลับไปพักผ่อนกัน

สำหรับวันที่สองของทริปนี้เราจะเขียนแยกโพสต์นะคะ เพราะไม่อย่างนั้นหน้าจะยาวมากๆ จนคุณขี้เกียจอ่าน 🙂

แผนที่การเดินทางทั้งหมดmap01

map01

map02

map03

map04

รีวิววันที่ 2  เชียงใหม่หน้าฝน ชิลไปตามสภาพอากาศ(วันที่2)

sunday.morning

รวมภาพ bento ที่ต้องคิดหนักมากก่อนจะหยิบเข้าปาก

bento (เบนโตะ) หรืออาหารกล่องสไตล์ของคนญี่ปุ่น คล้ายปิ่นโตของบ้านเราค่ะ 😉  bento เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากๆในญี่ปุ่น

วันนี้เราได้รวบรวมภาพการตกแต่ง bento น่ารักหน้าตาดี ที่หลายคนเห็นแล้วจะต้องเสียดายที่จะต้องกลืนลงคอ เพราะมันน่ารักจริงๆค่ะbento bento bento bento bento bento

เป็นไงล่ะ หิวกันหรือยัง ว่าแต่จะกินลงจริงๆหรอ

Sippa House ร้านฝั่งธน ของคนมีสไตล์

Explorer :


sippa02-2

‘People who love to eat are always the best people’

วลีเด็ดบนอักษรสีดำที่แปะอยู่บนกำแพงสีส้มจัด ฉาบด้วยไฟสีเหลืองอุ่น  หันทางซ้ายเสียนิดจะพบกับภาพเขียนสีน้ำมันสไตล์ยุโรป เรียงรายกันอยู่เมื่องมองดูให้ความรู้สึกราวกับกำลังเลือกซื้อภาพเขียนในร้านเก๋ๆของศิลปินอิสระอยู่ที่เวนิช อิตาลี บรรยากาศของSippa House ร้านอาหารเล็กๆน่ารักในสไตล์ฟิวชั่นอิตาลี คงตอบโจทย์ผู้คนที่ปรารถนาร้านอาหารรสชาติดี ทัศนียภาพสวยๆ ในราคาที่คุ้มค่าได้

นอกจากการตกแต่งร้านให้เป็นสไตล์แบบของตัวเองแล้ว รสชาติอาหารของที่นี่เรียกได้ว่าอร่อยหาตัวจับยากทีเดียว เมื่อเราได้นั่งพูดคุยกับเจ้าของร้านอย่างคุณแจม จึงรู้ที่มาที่ไปของอาหารรสกลมกล่อมในแต่ละจานที่ผลิตออกมาเพื่อลูกค้าผู้น่ารัก คุณแจมกล่าวว่า “อาหารทุกจานเราเลือกคุณภาพ ใช้ความรู้สึก และใส่ใจทุกครั้งที่ทำอาหาร เราคำนึงถึงลูกค้าว่าถ้าเราเป็นลูกค้าเองเราต้องการรับประทานอาหารแบบไหน เราทำอาหารเหมือนให้ญาติพี่น้องเราเองทาน จะคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ด้านเงินอย่างเดียวไม่ได้ คงต้องคำนึงถึงประโยชน์ด้านใจด้วย”

sippa01-2

sippa11-2

Amazing Menu :

สปาเก็ตตี้ปูนิ่มที่เห็นแล้วเป็นน้ำลายสอ
สปาเก็ตตี้ปูนิ่มที่เห็นแล้วเป็นน้ำลายสอ

สำหรับเมนูอาหารนั้น เจ้าของร้านผู้สดใสได้เปิดเผยกับเราว่า บางเมนูเธอ และคุณซีคู่หูสุดแนวของเธอก็ช่วยกันคิดขึ้นมา บางอย่างเคยมีชื่ออยู่บนโลกนี้มาก่อนด้วยซ้ำ จับนู่นนิด ผสมนี่หน่อยออกมาบางครั้งมันก็กลายเป็นเมนูครีเอทที่แสนเก๋ไก๋กลายเป็นไฮไลท์ของร้านได้ดีทีเดียว อยากจะยกตัวอย่างเมนูแสนเก๋ที่ดีกรีความฮอตเรียกได้ว่า ทั้งคนไทย และคนต่างชาติแทบจะเป็นแฟนพันธุ์แท้กันเลยทีเดียว นั่นก็คือ โรตีพิซซ่าคาโบ! อ๊ะ อ้าว หลายคนอาจจะสงสัยเหมือนมีอาหาร 3 ชนิดมาฟีทเจอริ่งกัน มันจะเป็นไปได้อย่างไร แต่ซิปป้าเฮ้าส์ก็สามารถเนรมิตแป้งโรตีมีดีที่ความนุ่มแปรเปลี่ยนแป้งนั้นเป็นพิซซ่าก่อนจะราดหน้าด้วยซอสคาโบ อื้อหือแค่ได้ฟังก็น้ำลายสอเป็นที่สุดแล้วสินะด้วยความหอมกรุ่นของซอสคาโบร้อนๆเสิรฟบนแป้งโรตีกรอบกรุบกำลังโดนเรียกได้ว่าถ้าเข้าปากไปแล้วต้องร้องว้าว! กันเลยทีเดียว

เบอร์เกอร์สูตรพิเศษที่ข้างในจะกรุบกรอบด้วยชีสย่าง
เบอร์เกอร์สูตรพิเศษที่ข้างในจะกรุบกรอบด้วยชีสย่าง
สปาเก็ตตี้ปลาแซลมอนน่าลิ้มลอง
สปาเก็ตตี้ปลาแซลมอนน่าลิ้มลอง

 

นอกจากนั้น เมนูถัดมาที่อยากแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้มาลองชิมกันในวันนี้ก็คือเบอร์เกอร์ก้อนยักษ์สอดไส้ด้วยแฮมเบิร์กก้อนโตผสมผักชนิดต่างๆ และที่เด็ดที่สุดคือส่วนผสมของชีสย่างที่ขับกลิ่นชีสให้หอมโดดเด่นมากกว่าชีสปกติ ผสมผสานเข้าไปทำให้เบอร์เกอร์ก้อนนี้มีทั้งความนุ่มจากเนื้อหมูที่หมักกันมาอย่างดี ทั้งความกรอบจากตัวผักสดและความกรุปจากชีสย่างที่รสชาติกลมกล่อมเข้ากับทั้งขนมปังแฮมเบิร์กและผักสดได้เป็นอย่างดีขอแนะนำว่าหากสามารถกัดทานพร้อมกันได้รับรองฟินมิรู้ลืมทั้งความนุ่มความหอมอีกทั้งความกรุบของชีสมันผสานกันได้อย่างลงตัวจริงๆ

 

sippa07-2 sippa13-2

และอีกอย่างที่สำคัญที่สุดมีของคาวแล้วขาดของหวานคงไม่ได้เมนูของหวานของที่นี่มาจากฝีมือคุณซีล้วนๆตั้งแต่หาซื้อของตีแป้งตีไข่ใส่ใจลงไปทำทุกขั้นทุกตอนทุกเมนูที่เป็นขนมหวานตั้งแต่บราวนี่ยังเค้กมะพร้าวอ่อนที่หอมนุ่มชุ่มชื่นมะพร้าวเต็มคำในปากและที่ฮอตฮิตติดชาร์ตตลอดเวลาเห็นจะเป็นช๊อกคลาสสิคตัวจริงเสียงจริงที่อร่อยจริงๆจนต้องซื้อกลับไปฝากครอบครัวอยากให้ชาวThailandIndyได้มาลองกันสักที

Transportation :

วิธีการมาไม่ยากนัก หากใครอยู่แถวท่าพระยิ่งสบายเข้าไปใหญ่ เพราะร้านตั้งอยู่เลยเดอะมอลล์ท่าพระมานิดเดียว ถ้านับเป็นซอย จะอยู่ตรง ซอยเพชรเกษม 17 ป้ายสีเหลืองใหญ่เห็นเด่นชัด แต่หากใครอยากไปรถสาธารณะ ขอแนะนำให้ลงรถไฟฟ้าสถานีบางหว้า แล้วต่อพี่วินฯมาอีกหน่อยให้มาเพชรเกษม 17 ไม่เกิน 5 นาทีน่าจะถึงที่หมาย

Sipping

ชาผลไม้เลื่องชื่อที่ดีต่อสุขภาพ
ชาผลไม้เลื่องชื่อที่ดีต่อสุขภาพ

มะนาวฝานแผ่นเล็กเสียบบนปากแก้วใส ข้างในบรรจุชาผลไม้กลิ่นหอมหวาน ที่เป็นสูตรเฉพาะผสานลงตัวของที่นี่ คุณเจ้าของร้านใจดีเผยให้ TID ฟังว่าจับนู่นนิด จับนี้หน่อย หาสมดุลของความเปรี้ยวและความหวานในแก้วให้อยู่ในความพอเหมาะพอดี กลายเป็นชาผลไม้หวานอมเปรี้ยวกำลังดีที่เย็นชื่นใจ ใครได้ลองแก้วนี้ ต้องอยากจะละเลียดรสชาติแบบนี้ไปเสียนานๆไม่อยากให้หมด  THAILANDINDYแวะไปกี่ครั้งก็ต้องสั่งเมนูนี้ ไม่ต่างกับเพื่อนญี่ปุ่นโต๊ะข้างๆวันนี้ เขาก็สั่งเครื่องดื่มแก้วโปรดนี้เหมือนกัน

Unique :

sippa14-2

ความเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้ โดดเด่นทั้งเรื่องของสไตล์การตกแต่ง และเรื่องของเมนูอาหารที่เจ้าของร้านพยายามสรรค์สร้างออกมาเองให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว   ยิ่งบรรยากาศชิวๆแถวท่าพระ กับความเป็นท้องถิ่นของแถวนี้ ขับให้ภาพของ Sippa House โดดเด่นเป็นสไตล์ของตัวเองขึ้นมาได้อย่างชัดเจน ทำให้หลายๆคนทั้งในละแวกนี้ และนักปั่นฝีมือดีสะดุดตา และลองแวะเวียนมาจนติดใจ  ชิคนิดๆ อินดี้หน่อยๆ อร่อยเต็มคำ

Price :

sippa04-2 sippa03-2

ราคาสำหรับซิปป้าเฮ้าส์ ถือว่าเป็นมิตรมาก เพราะถ้าเทียบกับคุณภาพอาหารแล้ว  ดีงามทีเดียว

สำหรับอาหารไทย ราคาต่อคนอยู่ที่ประมาณ  70 – 150 บาท

สำหรับอาหารฟิวชั่น หรือ อาหารฝรั่งอยู่ที่ประมาณ 150 – 250 บาท

และนี่ก็คือ EATS UP  ร้านดีๆ เพื่อคนอินดี้อย่างคุณที่เราอยากแนะนำให้ชาว THAILAND INDY ได้ไปลองกันสักที ร้านเล็กๆ แต่คุณภาพไม่เล็กอีกมากมายที่สร้างความรู้สึกดีๆให้แก่ทุกคน เชื่อว่าทุกคนคงจะมีความสุขเมื่อได้ทานอาหารอร่อย อย่างที่ซิปป้าเฮ้าส์บอก‘People who love to eat are always the best people’ และเมืองไทยเป็นอีกที่หนึ่งที่โด่งดังเรื่องของเสน่ห์ปลายจวัก  ดังนั้นอาหารดีๆมีอยู่ทั่วทุกมุมเมือง ตอนนั้น TID จะพาคุณผู้อ่านไปทานอาหารที่ไหนกันอีกโปรดติดตาม

 

ที่เชฟเปิดสอนทำขนมด้วยนะจ๊ะ
ที่เชฟเปิดสอนทำขนมด้วยนะจ๊ะ
พิซซ่าที่ทำด้วยแป้งโรตีเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ทีเดียว
พิซซ่าที่ทำด้วยแป้งโรตีเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ทีเดียว

 

ท่านผู้อ่านท่านใดมีร้านอาหารแนะนำอยากให้เราไปลองทำการ EATS UP! สามารถอีเมลล์มาบอกเล่าความประทับใจพร้อมเบอร์ติดต่อกลับได้ที่ sand.thailandindy@gmail.comแล้วเราจะไป EATS UP!กันถึงที่เลย!