สิ่งที่ไม่ควรทำบน Passport(พาสปอร์ต)

จากข่าวนักท่องเที่ยวไทย ถูกสายการบินปฏิเสธการเช็กอิน จากสาเหตุไปปั๊มตรายาง ‘คิตตี้’ ลงในหนังสือเดินทาง หรือ #พาสปอร์ต(Passport) วันนี้เรามีสิ่งที่ไม่ควรทำบนพาสปอร์ต ที่หลายคนอาจไม่รู้มาฝากกัน…

1. ห้ามขีด เขียน แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายในเล่มพาสปอร์ต(Passport)

2. ห้ามแกะ ตัด เย็บ เจาะรู ที่อาจทำให้ปกพาสปอร์ต(Passport) เสียหาย

3. ห้ามตัด งอ บิด ที่อาจทำให้พาสปอร์ต(Passport) ยับย่น

4. ไม่ควรเก็บไว้ในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็ก และที่มีคลื่นความถี่วิทยุ เช่น โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ ไมโครเวฟ

5. หลีกเลี่ยงการวางวัตถุสิ่งของที่มีน้ำหนักมากบนพาสปอร์ต(Passport)

6. ควรเก็บไว้ในห้องที่แห้ง อากาศเย็น ไม่อับชื้น

7. หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้วัตถุที่มีความร้อนมีอุณหภูมิสูงกว่า 50 องศาเซลเซียส ที่มีแสงแดดส่องถึงได้เป็นเวลานาน / ที่เปียกแฉะสัมผัสน้ำ / ใกล้สารเคมี / มีฝุ่นละออง

8. กระทรวงต่างประเทศจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น อันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น

ที่มา: กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ

สิ่งที่ไม่ควรทำบน Passport (พาสปอร์ต)
1. ห้ามขีด เขียน แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายในเล่มพาสปอร์ต
สิ่งที่ไม่ควรทำบน Passport (พาสปอร์ต)
2. ห้ามแกะ ตัด เย็บ เจาะรู ที่อาจทำให้ปกพาสปอร์ตเสียหาย
สิ่งที่ไม่ควรทำบน Passport (พาสปอร์ต)
3. ห้ามตัด งอ บิด ที่อาจทำให้พาสปอร์ตยับย่น
สิ่งที่ไม่ควรทำบน Passport (พาสปอร์ต)
4. ไม่ควรเก็บไว้ในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็ก และที่มีคลื่นความถี่วิทยุ เช่น โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ ไมโครเวฟ
สิ่งที่ไม่ควรทำบน Passport (พาสปอร์ต)
5. หลีกเลี่ยงการวางวัตถุสิ่งของที่มีน้ำหนักมากบนพาสปอร์ต
สิ่งที่ไม่ควรทำบน Passport (พาสปอร์ต)
6. ควรเก็บไว้ในห้องที่แห้ง อากาศเย็น ไม่อับชื้น
สิ่งที่ไม่ควรทำบน Passport (พาสปอร์ต)
7. หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้วัตถุที่มีความร้อนมีอุณหภูมิสูงกว่า 50 องศาเซลเซียส ที่มีแสงแดดส่องถึงได้เป็นเวลานาน / ที่เปียกแฉะสัมผัสน้ำ / ใกล้สารเคมี / มีฝุ่นละออง
สิ่งที่ไม่ควรทำบน Passport (พาสปอร์ต)
8. กระทรวงต่างประเทศจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น อันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น

หมอกจางๆ หรือควัน? บนภูบักได

หมอกจางๆ หรือควัน? บน ภูบักได อ.ภูเรือ จ.เลย

“ภูบักได” หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยชื่อนี้มากนัก แต่ส่วนใหญ่ก็จะเคยภาพ “ผาหลอกลวง” ที่เป็นเหมือนผาหินยืนออกมาให้เสียวกันเล่น ไอเราก็อยากลองเสียวบ้างเลยลองไปดูจ้าาา

ทริปนี้เราไปจองตั๋วผ่าน Traveloka.com เลือกไปลงที่พิษณุโลกเพราะว่าจะลัดเลาะเที่ยวจาก พิษณุโลก – เลย แล้วก็ได้พบว่าจองทาง Traveloka มันดีมากๆ ได้ตั๋วถูกสุดๆ ในวันที่เราจะไป(ก็คนมันงบน้อยอะนะ)

การเดินทางนั้นก็ค่อนข้างทรหดอยู่เหมือนกัน เพราะว่าต้องนั่งรถอีแต็ก เป็น ช.ม. และต้องเดินขึ้นเขาทางลาดชันอีกหลายกิโล รวมทั้งข้างบนจะไม่มีที่พัก ไม่มีอาหาร และห้องน้ำด้วยครับ แต่ขึ้นไปได้เห็นวิวสวยๆ ก็หายเหนื่อยได้ทันที

ขั้นตอนการเดินทางไปภูบักได
1. ติดต่อ “ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนปลาบ่า” โทร 096 415 1467 (คุณแสงเดือน)

2. สอบถามเรื่องรถนำเที่ยวขึ้นภูบักได และเต้นท์ กับถุงนอน แต่สามารถเตรียมไปเองได้นะครับ
– ค่ารถขึ้นเขาจะราคา 3,000 บาท จะมีคนขับรถช่วยขนของ ก่อไฟ ตั้งเต้นท์ และนำทางให้ด้วย
– เต้นท์ ราคา 100 บาท นอนได้ 2 คน
– ถุงนอน 50 บาท

3. ต้องเตรียมอาหาร และน้ำขึ้นไปเอง เพราะด้านบนไม่มีที่พัก และห้องน้ำ จะมีคนขับรถช่วยแบกสัมภาระบางส่วนให้ระหว่างเดินเขา

4. แนะนำว่าควรมาถึง “ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนปลาบ่า” ก่อนเที่ยงเพราะถ้าเดินทางช่วงบ่ายจะร้อนมากๆ

5. ที่สำคัญต้องใส่รองเท้าให้เหมาะสำหรับเดินเขาด้วยนะครับ

6. การเดินทางเมื่อมาถึงชุมชนปลาบ่า ขนสัมภาระขึ้นรถอีแต๊ก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม. หลังจากนั้น ต้องเดินทางชัน ประมาณ 300 เมตร ต้องเดินแบบระมัดระวัง ต่อไปจะเป็นทางราบประมาณ 3 กิโลเมตร

เมื่อขึ้นไปถึงจะเห็นว่าวิวสวยมาก และคุ้มค่ากับการเดินทางมาก แต่โชคไม่ดีนิดหน่อยเมื่อตอนที่เราไปคือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่เขากำลังเผาป่ากันพอดี ทำให้แสบจมูกมาก และจากรูปก็จะเห็นควันป่า เป็นจุด กระจายไปทั่ว แต่ก็ยังเป็นสถานที่ที่สวยงาม คุ้มค่าแก่การเดินทางอยู่นะครับ

 

เปิด 14 พิกัดห้ามพลาดในไต้หวัน

เปิด 14 พิกัดที่ห้ามพลาดในไต้หวัน

ไต้หวันเป็นเป็นประเทศที่ไม่ใหญ่ แต่มีที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆ ไปอบเที่ยวอาจจะเก็บ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำที่ท่องเที่ยวที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เป็นพิกัดห้ามพลาดของที่นี่..

ก่อนจะไปก็ต้องจองตั๋วเครื่องบินทริปที่เราไปก็จองผ่าน traveloka เปรียบเทียบราคาตั่วเครื่องบินต่างๆ หรือจองโรงแรมไปพร้อมกันด้วยก็ได้

เราพักที่ Hostel ย่าน Ximending ที่นี่ก็เป็นที่นึงที่คนนิยมมาช้อปกัน คล้ายกับสยามสแควร์บ้านเรา

Day 1
– Longshan Temple (วัดหลงซาน)
– Bopiliao historical block
– Liberty Square (จัตุรัสเสรีภาพแห่งไทเป)
– World Trade Center Station / Military Village (หมู่บ้านทหาร)
– Xiangshan (Elephant Mountain / เขาช้าง

Day 2
– National Palace Museum (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู่กง)
– Beitou Thermal Valley
– Tsumsui Old Street
– Tsumsui Lover’s Bridge

Day 3
– The Red House
– Huashan 1914 Creative Park
– Houtong Cat Village
– Jiufen Old Street
– Taipei Fish Market
—————
จบทริป 3 วันแต่ 4 คืน นะครับเพราะคืนสุดท้ายนอนสนามบินเอา ที่สนามบิน Taoyuan เขามีห้องอาบน้ำให้อย่างดี

ส่วนสถานที่แต่ละเป็นยังไง มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง จะมีคำอธิบายอยู่ใต้ภาพแต่ละภาพเพื่อนๆสามารถกดเข้าไปดูแต่ละสถานที่ได้เลย บ้างอันก็จะรีวิวเต็มๆไปบ้างแล้วก็จะแปะ Link ไว้ที่ใต้ภาพนะครับ

DAY 1

Longshan Temple – เป็นวัดเก่าแก่ของไต้หวัน และเป็นที่รู้จักกันดีของชาวไทย โดยเฉพาะชาวโสด 555 มาขอแฟนขอเนื้อคู่ ได้กันไปหลายคู่กันเลยทีเดียว
การเดินทางก็ง่ายมากลง MRT Longshan Temple ซึ่งสถานีนี้ก็ออกแบบใน Theme วัดอีกต่างหาก

剝皮寮歷史街區 Bopiliao Historic Block – ที่นี่เมื่อก่อนเป็นตึกเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ หลังจากนั้นได้เปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความสวยงามของตึกอิฐแดงที่มีความสวยงาม และร่องรอยความคลาสสิคของบ้านเมืองในอดีต สามารถเดินทางมาเก็บรูปสวยๆ หลังจากไหว้พระวัดหลงซานเรียบร้อยแล้วได้เลย อยู่ไม่ไกลกันสามารถเดินมาได้เลย

Liberty Square (Taipei) – จัตุรัสเสรีภาพแห่งไต้หวัน เป็นสถานที่ที่ต้องห้ามภาพอีกที่หนึ่ง โดยจัตุรัสแห่งนี้มีพื้นที่มาก 160 ไร่ เป็นสถานที่จัดกิจกรรมาสำคัญๆต่างๆของที่นี่เลย และภายในจัตุรัสแห่งยังประกอบไปด้วย

– อาคารอนุสรณ์เจียงไคเชค 中正紀念堂 Chiang Kai-shek Memorial Hall

– ซุ้มประตูจตุรัสเสรีภาพ Freedom Square Memorial Arch

–  โรงละครและคอนเสิร์ตแห่งชาติNational Theater and Concert Hall

การเดินทาง ลง MRT สถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall ออก Exit 5

MRT Taipei101/ World Trade Center Station – ตอนแรกจุดมุ่งหมายของเราคือไปเที่ยว หมู่บ้านทหาร แต่ว่าพอโผล่ขึ้นมาจาก MRT ก็เห็นความชิคของวิวบริเวณสถานีนี้ ทั้งตึก World Trade Center สีออกชมพูๆ รวมถึงรูปทรงของตึกก็ดูแปลกตาตัดกับตึก Taipei101 และท้องฟ้าสีฟ้า รวมถึงฟุตบาทรอบๆบริเวณนี้ยังคุมโทนอีกด้วย(อยากให้บ้านเราทำฟุตบาทดีดี สวยๆได้แบบนี้บ้าง) เห็นแล้วก็เลยต้องเก็บภาพไว้เลย นับว่าเป็นอีกมุมนึงที่เหมาะแก่การถ่ายกับตึก Taipei101 ด้วยนะ

Si Si Nan Cun Village – หรือ Old Military Village คืออดีตหมู่บ้านทหารตั้งแต่สมัย ก๊ก มิน ตั๋ง ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไต้หวันเป็นอย่างมาก ทางรัฐบาลได้อนุรักษ์ไว้ และเปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชมความน่ารักๆ ของหมู่บ้านแห่งนี้อีกด้วย ในวันอาทิตย์ก็ยังมีตลาดนัดที่ชาวไต้หวันมาขายของกันด้วย

การเดินทาง นั่ง MRT มาลงสถานี Taipei101 / World Trade Center ได้เลยง่ายมั่กๆ

Xiangshan, Taipei – Elephant Mountain หรือเขาช้างที่คนไทยเรียกกัน เป็นสถานที่ยอดฮิตที่คนนิยมขึ้นไปถ่ายรูปมุมสูงของ Taipei โดยเฉพาะเวลาพระอาทิตย์ตกดินนี่สวยสุดยอดมาก ในแต่ละเวลาก็จะได้บรรยากาศต่างๆกันไป

สามารถเข้าไปดูรูปเพิ่มเติมได้ตาม Link นี้เลย
https://www.facebook.com/346849988825274/posts/1170481426462122/

DAY 2

國立故宮博物院 National Palace Museum – พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพระราชวังกู้กง เป็นหนึ่งสถานที่ Landmark ห้ามพลาดของไต้หวันเลย โดยตัวพระราชวังออกแบบสวยงามตามแบบจีนโบราณ ภายในพิพิธภัณฑ์มีจัดแสดงวัตถุโบราณหายากจากพระราชวังต้องห้ามจากเมืองจีน(อันนี้ต้องเสียค่าเข้าชมนะ เราไม่ได้เข้าไปดู)

การเดินทาง นั่ง MRT สายสีแดง ลงสถานี Shiling ออก Exit 1 และต่อรถเมล์สาย R30 ลงป้าย national Palace Museum ได้เลย

北投地熱谷 – Beitou Thermal Valley​ – เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีความเป็นธรรมชาติ เดินเข้ามาจะสัมผัสได้ถึงควัน และไอร้อนมาปะทะร่างกาย บางทีควันลอยสูงเหนือหัวคนเลยนะ เพราะว่าน้ำพุร้อนแห่งนี้มีอุณหภูมิสูงกว่าร้อยองศาเลยทีเดียว

เพื่อนๆสามารถเข้าไปดูรูปเพิ่มเติม และการเดินทางได้ที่โพสนี้เลยครับ
https://www.facebook.com/thailandIndyOfficial/posts/1166800066830258

Tumsui Old Street – ที่นี่เป็นตลาดแหล่งรวมของกิน ของช้อปอีกแหล่งนึงของไต้หวันเลยก็ว่าได้ ดูซิ ไก่ทอดแผ่นใหญ่เท่าหน้า, หมืกชุบแป้งทอดร้านดังก็มีอยู่ที่นี้ และอื่นๆอีกมากมาย แถมยังมาสะดวกเดินทางง่ายอีกต่างหาก

การเดินทางนั่ง MRT ลงสถานี Tumsui ก็ถึงแล้ววว

Lover’s Bridge Tamsui, New Taipei City – สะพานแห่งความรักของไต้หวัน อยู่บริเวณ Tamsui fisherman’s wharf (ท่าเรือประมง Tumsui) คู่รักนิยมเดท ชมวิวพระอาทิตย์ตก และแสงไฟยามค่ำคืนให้บรรยากาศโรแมนติกมากก ซึ่งในวันเปิดตัวสะพานแห่งนี้ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และมีคู่รักมาเริ่มงานเปิดตัวจำนวนหลายคู่

การเดินทาง นั้ง MRT สายสีแดงลงสถานี Tumsui (แวะเดินเล่น Tumsui Old Street ก่อนก็ได้) จากนั้นเดินมาซื้อตั๋วที่ท่าเรือไป Tamsui fisherman’s wharf

DAY 3

The Red House – ตึกสีแดงแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน Ximen เป็นอาคารทรงแปดเหลี่ยม สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณานิคมญี่ปุ่นเข้ามาครอบครองไต้หวัน โดยในปัจจุบันภายในเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะ และละครเวที ส่วนลานด้านหน้าจะมีตลาดในวันเสาร์ อาทิตย์อีกด้วย

การเดินทางนั่ง MRT ลงสถานี Ximending ออก Exit 1

華山1914文創園區 Huashan1914 – เป็นแหล่งรวมตัวงานสร้างสรรค์ของชาวไต้หวัน เมื่อก่อนที่นี่เขาเป็นโรงผลิตไวน์ และบุหรี่แต่เมื่อโรงงานถูกทิ้งร้างไป ก็ได้ถูกปรับปรุงให้เป็น Creative Park แบบเก๋ๆ มีที่สวยๆให้ถ่ายรูปมากมายๆ รวมถึงได้ชมงานศิลปะไปอีกด้วย งานเขาดีจริงๆ

การเดินทาง ลง MRT สถานี Zhongxiao Xingsheng ออก Exit 1 และเดินตรงมาเรื่อยๆ ข้ามถนนใต้ทางด่วนก็ถึงแล้วครับ

Houtong Cat Village – ในอดีตที่เมือง Houtong แห่งนี้เคยเป็นเหมืองมาก่อน แต่เมื่อเหมืองยุติลง ผู้คนก็ต่างย้ายเข้าไปทำงานกันในเมือง ทำให้เกือบกลายเป็นหมู่บ้านร้าง แต่ด้วยคนเก่าแก่ที่นี่ชอบเลี้ยงแมวกัน เมื่อผู้คนย้ายออกไปแต่แมวยังอยู่ น้องเหมียวทั้งหลายก็ออกลูกออกหลานกันมากมาย จนกลายเป็นหมู่บ้านแมว ทางไต้หวันจึงได้เข้ามาพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว น่ารักๆ ที่ทาสแมวต้องห้ามพลาด

ในรูปนี้เอาภาพน้องน้องจอมกวนมาเป็น Presenter ถ้าใครอยากดูรูปเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูโพสต์นี้ได้เลย
https://www.facebook.com/thailandIndyOfficial/posts/1050446501798949

Jiufen, Taipei, Taiwan – เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของไต้หวัน โคมสีแดงๆตามทางเดินแบบ Spirited Away เมืองแบบขั้นบันไดตามเชิง ของกินอร่อยๆ บัวลอยสุดฮิตก็หาได้ที่นี่

เพื่อนๆสามารถเข้าไปดูรีวิวแบบเต็มพร้อมรูปอีกเพียบตาม Link นี้เลย

ไต้หวันวันไร้ฝน ทอดน่องดูโคมแดง ตามรอย Spirited Away ที่เมืองโบราณ ‘จิ่วเฟิ่น’ (九份)

Taipei Fish Market – สายกินต้องมาห้ามพลาดที่นี่ อาหารทะเลสดๆ ราคาไม่แพง แถมอร่อยอีกต่างหาก ซูชิ ซาชิมิ ปู หอย กุ้ง จัดเต็ม เรียกได้ว่าเป็นน้องๆญี่ปุ่นได้เลยทีเดียว แต่ราคาถูกกว่ามากกกก น่าจะถูกว่าบ้านเราอีกนะ

การเดินทางเพื่อนๆสามารถขึ้นรถเมล์สาย 49 มาได้เลยตอนเราไปเราขึ้นจากป้าย Ximen ป้ายจะอยู่ระหว่าง Exit 1 และ Exit 2 เมื่อขึ้นไปก็สามารถดูจากป้ายบอกสถานีที่จะถึงบนรถเมล์ได้เลยไม่ต้องกลัวหลง ลงที่สถานี Taipei Fish Market