โอ้โห! ‘ปักกิ่ง’ แปรเปลี่ยนเป็นเมืองร้าง หลังชาวเมืองกลับไปฉลองตรุษจีนที่บ้านเกิด

เพจ China Xinhua News นำเสนอภาพหาดูยากของมหานครปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน เมื่อแปรเปลี่ยนสภาพจากเมืองที่ผู้คนแออัดพลุกพล่าน กลายเป็นเมืองร้าง

หลังจากประชาชนพากันเดินทางกลับบ้านเพื่อไปใช้เวลาร่วมกับครอบครัวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ย่านการค้าสำคัญๆ หรือแม้แต่บนถนนใหญ่ก็ยังเงียบเชียบไร้วี่แววทั้งรถและผู้คน กลายเป็นเมืองร้างที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ

 

ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุดในปี 2017 ที่ผ่านมา พบว่าปักกิ่งมีพื้นที่ 16,808 ตารางกิโลเมตร มีประชากรอาศัยทั้งสิ้น 21.7 ล้านคน ซึ่งมากกว่าลอนดอน และนิวยอร์ครวมกันเสียอีก

เห็นแล้วก็ทำให้นึกถึงบรรยากาศวันปีใหม่หรือสงกรานต์ในกรุงเทพฯบ้านเรา ที่ก็ถนนโล่งไม่แพ้กันเลยเนอะ

คนโสดได้แต่มอง! ชาวระยองจัดพิธี ‘แต่งงานปู’ ต้อนรับเดือนแห่งความรัก

ต้อนรับเดือนแห่งความรักกับอีกหนึ่งกิจกรรมอเมซิ่ง “รักษ์แสม รักเสมอ” (แต่งงานปู) อีกหนึ่งอันซีนของ จ.ระยอง ที่น้อยคนจะรู้ว่าปูก็แต่งงานกันได้ อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำและป่าชายเลนของสะพานรักษ์แสมใน พื้นที่ อ.แกลง อีกด้วย

สะพานรักษ์แสม เป็นสะพานที่เกิดจากชาวบ้านร่วมกันสร้างสะพานไม้ข้ามไปอีกฝั่ง เพื่อเดินทางไปดูแลคอกปูแสม พันธุ์สัตว์น้ำและป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ และมีการเปลี่ยนมาสร้างเป็นสะพานแขวนที่สวยงามมีความยาว 80 เมตรเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติและไม่ขวางทางเรือที่สัญจรไปมา พร้อมทั้งยังสร้างสะพานเดินชมป่าชายเลนยาว 90 เมตรอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวชมความงามตามธรรมชาติของริมคลองสองฝั่ง ต้นโกงกางและต้นแสมอายุกว่า 100 ปี

อีกทั้งสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ในที่เดียวกัน จึงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวคู่รักนิยมเดินทางมาถ่าย Pre-wedding นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังสามารถท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงอื่นๆได้ อาทิ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ที่ตัดกับความงามของทุ่งโปรงทอง ชมความสวยงามของอนุสรณ์เรือรบหลวงประแส สัมผัสวิถีชีวิตของแบบดั้งเดิมของชุมชนบ้านทะเลน้อย และเชื่อมโยงไปยังจังหวัดจันทบุรีผ่านถนนเฉลิมบูรพาชลทิตซึ่งเป็นถนนเลียบทะเลที่สวยที่สุดในประเทศไทย

สำหรับการแต่งงานปู จะจัดให้ปูแสมฝ่ายเจ้าบ่าว มาสู่ขอปูแสมฝ่ายเจ้าสาว  โดยจัดพิธีแต่งงานตามประเพณีเช่นเดียวกับการแต่งงานคน มีการส่งตัวเข้าหอเพื่อเป็นการขยายพันธุ์ปูแสมและปูดำ พัฒนาเป็นแหล่งการเรียนรู้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นอกจากนั้นมีการล่องเรือชมความงามของธรรมชาติสองข้างทางของสะพานรักษ์แสม สัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนประมงพื้นบ้าน และเป็นการผลักดันให้สะพานรักษ์แสมเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ตระหนักถึงการอนุรักษ์ปูแสม ปูดำ สัตว์น้ำและทรัพยากรตามธรรมชาติเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างรู้คุณค่าสูงสุด

นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ ททท. สำนักงานระยอง โทรศัพท์ 0 3865 5420-1 สำนักงานเทศบาลตำบลเนินฆ้อ อำเภอแกลงจังหวัดระยอง โทรศัพท์. 0 380 37611

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เยี่ยมชมนิทรรศการพิเศษ ‘วิถีแห่งศรัทธาจากศิลปทัศน์ญี่ปุ่น’

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) ได้เยี่ยมชมนิทรรศการพิเศษเนื่องในโอกาสครบ 130 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – ญี่ปุ่น “วิถีแห่งศรัทธาจากศิลปทัศน์ญี่ปุ่น” ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

 

โดยนายพนมบุตร จันทรโชติ ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ให้การต้อนรับและนำชมห้องจัดแสดงภายในหมู่พระวิมานวังหน้า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ปรับปรุงใหม่ จำนวน 4 ห้อง คือ พระนครพระที่นั่งอุตราภิมุข (จัดแสดงเรื่องอิสริยพัสตราภูษาภัณฑ์) พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข (จัดแสดงเรื่องโลหศิลป์ : ประณีตศิลป์ในงานโลหกรรม) พระที่นั่งบูรพาภิมุข (จัดแสดงเรื่องศัสตราวุธ : ศาสตร์และศิลป์ในการสงคราม) และพระที่นั่งทักษิณา ภิมุข (จัดแสดงเรื่องนาฏดุริยางค์ : มหรสพและการละเล่นของหลวง)

 

นับเป็นครั้งแรกที่มีการนำศิลปะญี่ปุ่นครบถ้วนทุกยุคสมัยมาจัดแสดงในประเทศไทย  ภายในนิทรรศการพิเศษครั้งนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นได้คัดเลือกโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ชิ้นสำคัญตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยโจมน จนถึงยุคประวัติศาสตร์ สมัยเอโดะ ประกอบด้วยหลักฐานที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดี ประติมากรรม จิตรกรรม และประณีตศิลป์ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่น เพื่อนำเสนอเรื่องการเริ่มต้นของศิลปะญี่ปุ่น ความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา ตระกูลขุนนาง และนักรบ นิกายเซนกับพิธีชงชา และความหลากหลายทางวัฒนธรรมในสมัยเอโดะ รวมจำนวน 106 รายการ (130 ชิ้น)

ที่สำคัญและหาดูได้ยากยิ่งคือ โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติ 3 รายการ และมรดกวัฒนธรรมสำคัญ 25 รายการรวมอยู่ด้วย เพื่อช่วยส่งเสริมให้ชาวไทยสนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มพูนสัมพันธภาพของทั้งสองประเทศให้มั่นคงยั่งยืน

ในการนี้ รมว.กก.ได้สำรวจสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับผู้พิการ และบุคคลทั่วไป เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มให้สามารถเดินทางมาใช้บริการได้อย่างสะดวก

ทั้งนี้ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม กำหนดจัดนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “วิถีแห่งศรัทธาจากศิลปทัศน์ญี่ปุ่น” (The History of Japanese Art: Life and Faith) ในโอกาสครบรอบ 130 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – ญี่ปุ่น ตั้งแต่วันนี้ ถึง 18 กุมภาพันธ์ 2561 ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 2224 1402, 0 2224 1370

 

สุดมันส์ !THAI FIGHT BANGKOK รอบชิงชนะเลิศ ระเบิดศึกกลางกรุง ชิง 4 ถ้วยพระราชทาน

THAI FIGHT 2017 ทำการจัดการแข่งขันชกมวยไทยมาทั่วประเทศ และ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และในครั้งนี้เดินทางมาสู่รอบชิงชนะเลิศแล้วสำหรับ THAI FIGHT BANGKOK 2017 ความพิเศษในครั้งนี้ คือ ชิงถ้วยพระราชทานถึง 4 ถ้วย ได้แก่ ถ้วยพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 3 ถ้วย แบบสวมนวม และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 1 ถ้วยแบบคาดเชือก และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธาน พระราชทานถ้วยรางวัลแก่นักมวยผู้ชนะเลิศ

THAI FIGHT BANGKOK (รอบชิงชนะเลิศ) เป็นความร่วมมือจัดของ บริษัท ไทยไฟท์ จำกัด และ กรุงเทพมหานคร ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเผยแพร่มวยไทยให้กับประชาชนชาวไทย และชาวต่างประเทศให้สนใจมากขึ้น โดย จะมีการแข่งขันทั้งหมด 7 คู่ ทั้งคู่ชิงถ้วยพระราชทาน และ คู่ซุปเปอร์ไฟท์ ประกอบไปด้วย คู่ชกชิงถ้วยพระราชทานฯ ทั้ง 4 รุ่น เช่น รุ่นเวลเทอร์เวท (น้ำหนัก 67 กิโลกรัม) ตัวแทนประเทศไทยคือ แสนชัย พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม, รุ่นจูเนียร์ มิดเดิลเวท (น้ำหนัก 70 กิโลกรัม) ตัวแทนประเทศไทย คือ แสนสะท้าน  พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, รุ่นมิดเดิลเวท (น้ำหนัก 72.5 กิโลกรัม) ตัวแทนประเทศไทย คือ ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง วินดี้สปอร์ต และ ชนะจน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และ รุ่นจูเนียร์ มิดเดิลเวท (น้ำหนัก 70 กิโลกรัม ชกแบบคาดเชือก) ตัวแทนประเทศไทย คือ ปตท. เพชรรุ่งเรือง พร้อมแสง สี เสียง สุดอลังการ

ผลแข่งขันมวยก่อนเวลา (มวยหญิง ชกแบบสวมนวม น้ำหนัก ๕๑ กก.)

เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้มกรมสรรพสามิต – ไทย   ชนะน็อค ยกที่1 คาลิสต้า พาสท์ – เอสโตเนีย

Petchjeeja Lukjaoporongtom-Kromsappasamit – Thailand   Win by knock out round 1 Calista Parts – Estonia

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 1(มวยหญิง ชกแบบสวมนวม น้ำหนัก ๖๕ กก.)

มังกรขาว ผลไม้ปลากัดยิมส์ – ไทย แพ้คะแนน   ไอซ่า ทิดบล๊าด เคสคิแคงกาส – สวีเดน

Mungkornkhao Pollamai-Plakad Gym – Thailand  Lose by point   Isa Tidblad Keskikangas – Sweden

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 2 (Super Fight ชกแบบคาดเชือก น้ำหนัก ๖๕ กก.)

ก้องศักดิ์ ศิษย์บุญมี – ไทย  ชนะน้อค ยกที่2 อาเธอร์ ซอร์เซอร์ – สหรัฐอเมริกา

Kongsuk Sitbunmee – Thailand Win by knock out round2  Arthur Sorsor – United States of America

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 3(ชิงชนะเลิศ รุ่น ๖๗ กก. ชกแบบสวมนวม)

แสนชัย  พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม – ไทย  ชนะน็อค ยกที่3  เฮนริเก้ มุลเลอร์– บราซิล

Saenchai  P.K.Saenchai Muaythai Gym – Thailand  Win by knock out round3  Henrique  Muller – Brazil

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 4 (ชิงชนะเลิศ รุ่น ๗๐ กก. ชกแบบคาดเชือก)

ป.ต.ท. เพชรรุ่งเรือง – ไทย  ชนะน็อค ยกที่1  ดานี่ เอ็นจิบา – ฝรั่งเศส

P.T.T. Petchrungrueng – Thailand  Win by knock out round1 Dany Njiba – France

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 5(Super Fight ชกแบบคาดเชือก น้ำหนัก ๖๑ กก.)

เพชรสมุย ลูกเจ้าพ่อโรงต้มกรมสรรพสามิต – ไทย   ชนะน็อค ยกที่2  เนียน ลิน อ่อง – เมียนมาร์

Petch-Samui Lukjaoporongtom-Kromsappasamit – Thailand  Win by knock out round2 Nyan Lin Aung – Myanmar

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 6(ชิงชนะเลิศ รุ่น ๗๐ กก. ชกแบบสวมนวม)

แสนสะท้าน  พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม – ไทย  ชนะคะแนน เนมจอน ทัคทาโบเอฟ – อุซเบกิสถาน

Saensatharn   P.K.Saenchai Muaythai Gym – Thailand  Win by point Naimjon Tukhtaboev – Uzbekistan

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 7 (ชิงชนะเลิศ รุ่น ๗๒.๕ กก. ชกแบบสวมนวม)

ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วงวินดี้สปอร์ต – ไทย แพ้น็อค ยกที่2  ชนะจน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม – ไทย

Saiyok Pumphanmuang Windy Sport – Thailand Lose by knock our round2 Chanajon  P.K.Saenchai Muaythai Gym – Thailand

ครั้งแรกในไทย! ผู้พิการทางสายตา ปั่นจักรยานสามัคคีจากกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ 867 กม. ระดมทุนสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน

โครงการ “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน สานต่องานที่พ่อทำ No one left behind” เป็นกิจกรรมที่คนตาดีร่วมกับคนพิการทางสายตา ปั่นจักรยานเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระดมเงินบริจาค 67 ล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2561 ขบวนนักปั่นอาสาและคนพิการทางสายตา 40 คน ร่วมกันปั่นจักรยานในโครงการ “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน สานต่องานที่พ่อทำ No one left behind” โดยเริ่มต้นปั่นจักรยานกิโลเมตรแรกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งระยะทางปั่นทั้งหมดในวันนี้อยู่ที่ 120 กิโลเมตร ปลายทางที่ จ.สุพรรณบุรี ตลอดเส้นทางโดยเฉพาะจุดแวะพัก มีประชาชนนำเงินมาร่วมบริจาค

ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ กล่าวถึงที่มาของการปั่นระดมเงินบริจาคครั้งนี้ว่า ปัจจุบันมีคนพิการที่สามารถทำงานได้ แต่ไม่มีงานทำ 455,990 คน เพราะไม่มีสถานที่รองรับในการฝึกอาชีพ ที่มีอยู่เดิมก็แออัดไม่เพียงพอ รวมถึงและสภาพแวดล้อมยังไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต ทำให้คนพิการหมดโอกาสในการหารายได้พึ่งพาตนเอง มูลนิธิสากลเพื่อนคนพิการจึงหวังลดข้อจำกัดนี้ โดยจัดสร้างอาคารสถานที่ในที่ดินของมูลนิธิฯ แต่ยังขาดเงินในการก่อสร้าง 67 ล้านบาท

สำหรับเส้นทางการปั่นจักรยานเริ่มจากกรุงเทพฯ ไปถึง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ รวม 9 วันผ่าน 9 จังหวัด ได้แก่ จ.สุพรรณบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ ลำปาง และ จ.เชียงใหม่ ระยะทางรวม 867 กิโลเมตร โดยประชาชนที่ต้องการร่วมบริจาคเงินสามารถติดตามรายละเอียดและช่องทางการบริจาคได้ที่เว็บไซต์และเฟซบุ๊กมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ

ไทยไฟต์พร้อมเปิดสังเวียน ‘THAI FIGHT BANGKOK’ รอบชิงชนะเลิศ 27 ม.ค.นี้

คุณนพพร วาทิน ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไทยไฟท์ จำกัด จัดงานแถลงข่าว THAI FIGHT BANGKOK  โดยมี “คุณสุวัจน์
ลิปตพัลลภ” ขึ้นกล่าวในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน Thai Fight  และ“พล.ต.ท.ชินทัต มีศุข” รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขึ้นกล่าวในฐานะเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขัน

วัตถุประสงค์ของการจัดงานแถลงข่าวในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแถลงความพร้อมการจัดงาน THAIFIGHT BANGKOK รอบชิงชนะเลิศ ชิงถ้วยพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมไปถึงเปิดตัวคู่ชกชิงถ้วยพระราชทานฯ ทั้ง 4 รุ่น เช่น รุ่นเวลเทอร์เวท (น้ำหนัก 67 กิโลกรัม) ตัวแทนประเทศไทยคือ แสนชัย พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม, รุ่นจูเนียร์ มิดเดิลเวท (น้ำหนัก 70 กิโลกรัม) ตัวแทนประเทศไทย คือ แสนสะท้าน  พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, รุ่นมิดเดิลเวท (น้ำหนัก 72.5 กิโลกรัม) ตัวแทนประเทศไทย คือ ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง วินดี้สปอร์ต และ ชนะจน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และ รุ่นจูเนียร์ มิดเดิลเวท (น้ำหนัก 70 กิโลกรัม ชกแบบคาดเชือก) ตัวแทนประเทศไทย คือ ปตท. เพชรรุ่งเรือง

 

ในงานแถลงข่าวยังได้รับเกียรติจากคุณประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทGroup CEO บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) , คุณประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ร่วมเป็นเกียรติภายในงาน นอกจากนี้ได้มีการพูดคุยร่วมกับผู้สนับสนุนต่างๆของการแข่งขัน THAI FIGHT ถึงแนวทางการสนับสนุนและความสำเร็จในการสนับสนุน THAI FIGHT ในปีที่ผ่านมา ทั้ง “คุณปนัดดา เจณณวาสิน” กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด, “คุณสุรพล อุทินทุ” ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), “คุณธเนศวร์  เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ,“คุณบุรณิน รัตนสมบัติ” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน), “คุณนำพร ยมนา” รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มทรัพยากรบุคคลและ “ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ” ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย

การแข่งขัน THAI FIGHT BANGKOK รอบชิงชนะเลิศ ชิงถ้วยพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 27 มกราคมนี้ ณ ลานคนเมือง (เสาชิงช้า) ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 และ 33 เวลา 18.20 – 20.00 น. และ ช่อง 28 เวลา 20.00 – 22.00 น.