สวัสดีทุกท่านอีกครั้งนะคะ สำหรับคอลัมน์สัญจรเล็กๆ ของ Saturday Night เมื่อครั้งมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่โอซาก้า ณ เมืองอาทิตย์อุทัยมา ด้วยเหตุที่โอนี่ซังพี่ชายชาวญี่ปุ่นสุดหล่อของเราแต่งงาน และได้มีโอกาสได้พักผ่อนที่โรงแรม The Ritz Carlton ใจกลางเมืองโอซาก้า
จริงๆแล้ว The Ritz Carlton นี่มีหลายสาขานะ แต่ก่อนยังไม่ค่อยรู้จักแต่พอได้มาพักเลยต้องรีบไปทำความรู้จักทันที ฮ่าๆ หลังจากที่เข้าไปก็พบกับความโ่อ่อ่าของล๊อบบี้ที่เน้นโทนสีน้ำตาลขอไม้ต้นใหญ่ ดวงไฟสีส้มจากแชนเดอร์เลียร์ตรงกลางทำให้ห้องดูสว่างไสวในฟีลอบอุ่น แขกเหรื่อที่มาพักส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจ เพราะเห็นใส่สูทเดินไปมาขวักไขว่อยู่หลายท่าน และสำหรับ The Ritz Carlton นี่ที่ดีมากกว่าความสวยคือทำเลอยู่ใจกลางโอซาก้า และห่างจากสถานีรถไฟไม่ไกลเลยค่ะ เดินจากสถานีรถไฟใต้ดิน Nishi Umeda (西梅田) โดยเดินเพียงแค่ 5นาที อีกทั้งสถานี Nishi Umeda นี้ยังเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟอื่นๆที่สำคัญ โดยเฉพาะ สถานี Umeda (梅田)(สามารถหาข้อมูลเพิ่มได้ที่ >> https://en.wikipedia.org/wiki/Nishi-Umeda_Station) ซึ่งเป็นสถานีท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้าทีเดียวค่ะ
สำหรับThe Ritz Carlton ใครอยากช๊อป ชม ชิว ไม่ต้องห่วงเลยนะคะ เพราะใกล้กับห้างที่เชื่อมกับสถานีอุเมดะที่ได้บอกไปคือห้างชื่อดังอย่าง Hanshin และ Daimaru ซึ่งจริงๆแล้วใครอยากได้บรรยากาศอารมณ์เหมือนเป็นแม่บ้านญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ แนะนำที่ชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าต่างๆเลยค่ะ ที่นั่นคุณจะได้พบกับซุปเปอร์มาเก็ต ที่เรียงรายไปด้วยร้านขายอาหารอร่อย สุดยอดขนมชิ้นโต สตอเบอรี่ชิ้นอวบ พูดไปก็น้ำลายสอ แล้วอย่าลืมนะคะ ใครที่ไปช๊อปปิ้งอย่าลืมไปเอา Tax Refund ลองเช็คกับประชาสัมพันธ์แต่ละห้างดูว่าอยู่ที่ชั้นไหน ที่ห้างเขาเคยชินกับการขอคืนภาษีของเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสะดวกดีค่ะ อาจจะต่อคิวนิดหน่อยแต่ได้เงินคืนเอาไปซื้อขนมอร่อยๆได้นะ
ข้ามเรื่อง The Ritz Carlton มานานเชียว เล่าให้ฟังต่อสำหรับใครที่อยากจะช๊อปปิ้งเรื่องของเครื่องใช้ไฟฟ้า ตรงข้ามโรงแรมเยื้องไปหน่อยจะมีร้านที่ชื่อ Yodobashi ค่ะ แนะนำให้ซื้อที่ร้านนั้นเพราะราคาไม่แพง และทำ Tax Refund ได้เช่นเดียวกัน แต่อาจจะมีความกังวลตรงที่ว่าเวลาเราซื้อกล้อง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้ามา เขาจะรับประกันเฉพาะแต่ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่ได้เป็น World Insurance ยังไงก็ชั่งใจให้ดีนะคะ แต่ถ้าเราคิดว่าเรารักษาของได้ดี แนะนำค่ะ ราคา และคุณภาพที่นี่จัดว่าเด็ดทีเดียว
เล่ามา 3 พารากราฟยังไม่ได้เข้าเรื่องตัวโรงแรมเสียที คิคิ ของข้างนอกมันน่าตื่นตาตื่นใจพอๆกับโรงแรมเลยค่ะ ภายในโรงแรมก็เน้นโทนสีน้ำตาลค่ะ ชั้นต่างๆก็จะประดับประดาไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ประดับชิ้นโต โอ่อ่า ดูอย่างตู้วางจานด้านล่างนี่ประดับอยู่ในชั้นที่เราพัก ก็เป็นสไตล์ของที่นั่น หรูหรา ดูเป็นยุโรเปี้ยนสมัยโบราณกาล ตามคอนเซ็ปที่เขาได้กล่าวไว้ในเว็บไซต์ (http://www.ritzcarlton.com/en/Properties/Osaka/Default.htm)
Pass through the Gateway of Western Japan and marvel at ancient traditions and accents that punctuate the ultra-modern landscape. The Ritz-Carlton, Osaka business hotel is a place of elegant serenity and ease, yet is perfectly placed amidst the bustling activity of the city’s center.
เมื่อเดินเข้ามาในห้องนอนก็จะพบกับเตียงไม้สุดคลาสสิคที่ถูกคลุมด้วยผ้าคลุมเตียงครึ่งผืนสีทองขาว พอวางกับหมอนอิงสีฟ้าอ่อนโทนเดียวกับผ้าม่านแล้วดูเข้ากันได้ดีมากเลย ด้วยส่วนตัวอาจจะชอบสีฟ้าอยู่ด้วแล้ว ทำให้เข้าห้องนอนมาแล้วรู้สึกสบายใจอยากจะหลับใหลอยู่บนเตียง ส่วนตามห้องก็ประดับประดาไปด้วยภาพเขียนสีน้ำเป็นรูปดอกไม้นานาชนิด เพลิดเพลินเจริญใจดีนะ ที่ประทับใจยิ่งกว่าคือทั้งห้องเขาสามารถหาเฟอร์นิเจอร์ ของประดับตกแต่งเป็นสีโทนเดียวกันหมด พอเอามารวมกันหมดแล้วทำให้เรารู้สึกว่าเป็นห้องที่คล้ายกับอยู่บ้าน รู้สึกน่าพักผ่อน และหย่อนตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม นอกจากนั้นแล้วมุมด้านข้างก็จะพบโซฟาตัวเดี่ยวที่ยืดขาได้อย่างสบายในสีโทนเดียวกัน หลังจากนั้นพอมองผ่านกระจกบานใหญ่ออกไป แล้วก็พบกับวิวของเมืองโอซาก้า ตึกสูงระฟ้าแต่ไม่ได้ดูขัดหูขัดตาเพราะท้องฟ้าเป็นใจ ฮะ ฮิ้ววว คือท้องฟ้ากว้างใหญ่พออยู่กับวิวตีก และแม่น้ำ การมองเห็นบนชั้นสูงของโรงแรมนี้ทำให้ภาพนี้ดูเข้ากันดีไม่ขัดใจ จัดว่าชอบ ฮ่าๆๆ
ที่ประทับใจนอกจากห้องนอนแล้ว เห็นจะเป็นห้องน้ำนี่แหละค่ะ โอ่อ่า สีสะอาดตา น่าแหวกว่ายมาก คือบอกเลยว่าครั้งนี้ไปใช้เวลากับห้องน้ำนานมากมีการแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน เป็นห้องส้วม ห้องอาบน้ำแบบชาวเวอร์ และ โซนอาบน้ำที่เป็นแบบอ่าง เลือกไม่ถูกเลย แต่งานนี้ขอเข้าห้องที่นั่งได้ก่อนละกัน อุอิ บรรยากาศแสงไฟ ทุกอย่างในห้องน้ำเป็นใจมาก นอกจากนั้นแล้ว เขายังใช้ครีมอาบนำ้ที่ชื่อว่า Asprey กลิ่นหอมอ่อนๆ ราวกับอยู่ในสปาทำให้เราถึงขั้นต้องออกค้นหาว่ามีขายที่ไหน (ข้างล่างตรงล๊อบบี้มีช๊อปนะคะ แต่ราคาเอาเรื่องเลยกลับมาอุดหนุนสินค้าคล้ายๆกันบ้านเราแทน อิอิ)
สำหรับเราแล้วส่วนตัวเลยชอบในความละเอียดของโรงแรม ไม่วาจะชุดนอนที่เตรียมให้ (ส่วนใหญ่โรงแรมญี่ปุ่่นจะมีชุดนอนเตรียมไว้ให้นะ) ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ขวดน้ำ แก้ว และทุกๆอย่างมีตราสัญลักษณ์ของโรงแรมประทับไว้หมด ไม่ว่าจะเป็นการปัก เย็บ ถักร้อย สกรีน ทุกอย่าง เรารู้สึกว่าเขาให้ Branding และของใช้ทุกชิ้นเป็นอย่างดี เลยทำให้ยิ่งรู้สึกว่าเขาพิถีพิถันในเรื่องต่างๆมากเลย
มาถึงโซนฟิตเนส เข้ามาก็ยังเจอแชนเดอร์เลีย ราวกับ Sia มาร้องเพลงให้ฟัง…อ๊ะไม่เกี่ยวสินะ ฮ่าๆๆ ทุกพื้นที่ของที่นี่ไม่หลุดคอนเซ็บของความหรูหราและโอ่อ่าค่ะ ทางเข้าฟิตเนส และสปายังคงอลังการงานสร้าง ราวกับผู้ดีอังกฤษในยุคกาลก่อนมาก่อนสร้างสิ่งงดงามนี้ไว้ ศิลปะที่ใช้โคมใหญ่ รูปปั้น และวอลเปอเปอร์สุดอลังการ รวมถึงไม้สีเข้ม แถมด้วยเตาผิง ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนเขาก็ยังทำออกมาได้อย่างไม่หลุดคอนเซ็ป ฟิตเนสก็เช่นเดียวกัน แม้ไม่ได้เล่น แต่รักหมดใจ พูดเลยยย จริงๆมีสระว่ายน้ำด้วยนะคะ แต่เห็นหนุ่มยุ่นว่ายน้ำอยู่ไม่กล้าถ่ายมา กลัวเลือดกำเดาพุ่ง เอ๊ย ไม่ใช่ กลัวละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเขามาเกินไป ใครอยากเห็นสระว่ายน้ำสามารถคลิกเข้าไปดูที่เว็บ http://www.ritzcarlton.com/en/Properties/Osaka/Default.htm ได้เลย หรูหราดีงามทีเดียว
ปิดท้ายกันด้วยเรื่องของอาหาร อาหารเช้ามีให้เลือกสารพัดสารเพ ทั้งเจแปนนิสสไตล์ และเวสเทิร์นสไตล์ มี EGG STATION แปลสั้นๆว่าสถานีไข่ ให้เราได้เลือกเมนูไข่ที่เราชื่นชอบแล้วคุณเชฟก็จะทำให้เดี๋ยวนั้น มีตั้งแต่ไข่ดาว ยันเอ้กเบเนดิกส์ แถมมี โคลด์คัทวางให้เราได้ไปกวาดทั้งพาร์ม่าแฮม ซาลามี่ มารับประทานกันให้เพลิดเพลินปาก แถมไปปิ้งขนมปังนานาชนิดมาให้เพลิดเพลินใจ อาหารอร่อยจนต้องตักแล้วตักอีก อันนี้ไม่ได้อวย แต่กินไปเยอะจริงๆ คือชอบมากกกฮ่ะะะะ
ถ้าจะให้พูดความประทับใจสำหรับ The Ritz Carlton แห่งเมืองโอซาก้า แล้ว ต้องบอกเลยว่าประทับใจในการให้สีสัน และสไตล์ที่ชัดเจน ถ้าจะเปรียบกับคาแร็คเตอร์ของคน The Ritz Carlton แห่งเมืองโอซาก้า ทำให้เราคิดถึงชายหนุ่มผู้ดีอังกฤษที่มีความสุขุม เข้มแข็งด้วยความโอ่อ่า และโทนสีที่ใช้ หากแต่อบอุ่น และละเอียดอ่อน ด้วยรายละเอียดภายในห้องต่างๆ รวมถึงการให้ความสำคัญกับเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น และการเลือกสรรเมนูอาหารอย่างที่ได้เล่าให้ฟังไปเช่นเดียวกัน หากใครมีโอกาสได้ไปก็อยากให้ได้ไปพักผ่อน และเดินเล่นชมโรงแรมกันนะคะ แต่ถ้าหากจะให้พูดถึงข้อเสียเปรียบของโรงแรมนี้แล้ว The Ritz Carlton ถ้ามองในมุมที่ยามนี้มีคู่แข่งเป็นโรงแรมสวยๆที่ถูกผลิตในหัวเมืองใหญ่ขึ้นมามากมายแล้ว The Ritz Carlton ถือว่าราคาค่อนข้างสูงทีเดียวสำหรับยุคดิจิตัลนี้ที่มีดีลออนไลน์ของโรงแรมผุดขึ้นมากมาย อย่างไรก็ตามเมื่อเราลองดูช่วงเดือน พฤศจิกายน (ประมาณวันที่ 8 พ.ย.นี้ เพราะว่าที่เกียวโตจะมีเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีที่ Arashiyama)ราคาของ The Ritz Carlton จะอยู่ที่ประมาณ 15,000++ เปรียบเทียบจากตารางด้านล่างนี้ด้วยเว็บไซต์ www.hotelscombined.com
cr. http://kyoto.travel/en/planyourvisit/events/schedule/75
แผนที่โรงแรม
ระยะทางระหว่างสนามบิน และโรงแรม
- Osaka International Airport (11.2Km)
- Kansai International Airport (37.1Km)
ทั้งนี้ใครอยากลองไปสัมผัสบรรยกาศหรูหราสไตล์ยุโรปใจกลางเมืองญี่ปุ่นดูสักที จะยกมือบอกว่าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ใครเคยบอกว่าโรงแรมญี่ปุ่นจะต้องเล็กและแคบ งานนี้คุณจะบอกได้ว่ามันไม่จริง! (แล้วแต่ที่น่ะน่ะ ฮ่าๆๆ) อย่างไรก็ตามคิดว่า The Ritz Carlton เป็นโรงแรมที่ดีอีกแห่งหนึ่งที่ใส่ใจทั้งคุณภาพ และบริการ หากใครมีโอกาสไปอย่าลืมกลับมาเล่ามาแชร์ให้ฟังนะคะ เปิดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ritzcarlton.com/en/Properties/Osaka/Default.htm เลย วันนี้ขอตัวไปเขียนสถานที่เที่ยวต่างๆเพิ่มเติมก่อนนะคะ แล้วจะกลับมาหาใหม่
สวัสดี แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า
Saturday Night.