วันนี้จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยววัดเเถบริมเเม่น้ำเจ้าพระยากัน วัดพระแก้ว >> วัดระฆังโฆสิตาราม >> วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
วัดกัลยาณมิตร >> ศาลเจ้าแม่กวนอิมเกียนอันเกง
พานั่งเรือ..เพราะเเอดมินเองต้องการความเเอดเวนเจอร์ โดยส่วนตัว555 เริ่มด้วยวัดเเรกกันเลย คือ “วัดพระเเก้ว” การเดินทางเเสนง่าย ถ้าใครกลัวลำบาก bts โล้ด!! ลงสะพานตากสิน หรือจะนั่งรถเมล์ก็ได้นะ มีผ่านเหมือนกัน
การเดินทาง
BTS : ลงสะพานตากสิน แล้วต่อเรือด่วน (ถ้าวิธีนี้ตามแอดมินมาเล้ยยยย)
สายรถเมล์ : 1, 2, 3, 9, 15, 19, 25, 30, 32, 33, 39, 42, 43, 44, 47, 53, 59, 60, 64, 65, 68, 70, 79, 80, 82, 91, 123, 124, 201, 203, 503, 507, 508
เรือ : นั่งเรือด่วนลงท่าช้าง (ราคาคนละ 15 บาท)
เเต่วันนี้เเอดมินลง bts เเล้วเดินออกทางด้านซ้าย จะเป็นท่าเรือสาธร ขึ้นเรือด่วนธงสีส้ม ราคากันเอง คนละ 15บาท เเต่เอ้ะ!!ใครอย่านั่งเรือด่วนสำหรับต่างชาติเชียว เพราะเห็นไปทางเดียวกัน เเอดมินเลยโดนเงินฟาดหัวไปคนละ 40บาท!! ด้วยประการฉะนี้ กินเเกลบไปเลย 🙁
ชดเชยความช้ำใจ ก็ชมทิวทัศน์ไปพรางๆระหว่างแว้นเรือ
พอได้ยิน “ท่าช้าง” ให้เตรียมเด้งเลย ลงท่านั้นเลยจ้า เดินออกจากท่า ก็จะเจอตลาดท่าช้าง เด็กๆ นศ ธรรมศาสตร์ เดินสวนสนามกันให้เพียบ!! พอให้เป็นอาหารสายตา หุหุ ^^ จากนั้นเดินผ่านตลาดตรงมาทางถนนใหญ่จะเห็น กำเเพงสีขาวใหญ่ๆทั้งแถบ นั่นเเหละ!! จุดหมายเรา “วัดพระเเก้ว” ถึงแล้วเดินเข้าประตูไปจะพบกองทัพคนจำนวนมาก หัวดำหัวเหลือง คาคร่ามไปหมด สักพักอาจจะมีเสียงตะโกนบอกคุณว่า “ชุดคุณไม่ผ่าน” บางคนตกใจ เอ้ย !! อะไรกัน ชั้นใส่กางเกงสามส่วนมานะยะ ทำไมจะไม่เรียบร้อบ ขอบอกเลยว่าถ้าวัดทั่วไปอาจจะได้ แต่วัดพระแก้ว ‘เซโนว’ไม่ผ่านแน่นอนค่ะ แต่ด้วยความที่แอดมินเป็นคนเรียบร้อย จึงเตียมตัวมาดี ใส่กางเกงขายาว เสื้อมิดชิดสมกุลสตรีไทยเลยค่ะ เอาเป็นว่าแต่งตัวเรียบร้อย โนว ขาสั้น,เปิดอก หรือ สามส่วน ถ้าจะเอาชัวร์ก็ขายาวไปเลยนะจ้ะ แต่สำหรับคนที่ไม่ผ่าน อย่าเพิ่งตกใจจนเดินออกนะคะ เพราะที่นี่เค้ามีชุดสวมทับค่ะ(คิดค่ามัดจำ 100 บาทจ้า แต่ถ้าเอาชุดมาคือก็ได้เงินคืนนะ)พอเดินเข้ามา โอ้ว!! นี่แหละที่คนดั้นด้นกันมา จะบอกว่ามันสวยมากกก สนามหญ้าเขียวขจีเป็นทางยาวมีเจดีย์ทองเป็นฉากหลัง ใครเล่นกล้องเก่งๆบอกคำเดียว ต้องมา!! แดดดี แสงได้ เฟอเฟคสุดๆ เผื่อใครไม่เห็นภาพ แอดมินเอามาฝาก (ขนาดถ่ายแบบกากๆมายังแบบนี้!!)
อ่ะ พอเรียกน้ำย่อย คราวนี้เรามาเข้าไป สักการะ “พระแก้วมรดก” ที่เรื่องชื่อกันดีกว่า ภายในอุโบสถสวยมาก อยากให้เห็น แต่พอดีว่าข้างในเค้าห้ามถ่ายรูป แอดมินเลยได้แต่ แช๊ะ เพียงรอบนอกมาฝากจ้า (แต่ภายในอุโบสถสวยมากๆอยากให้เห็น ท้าพิสูจน์ความงามแบบไทยๆ)
หลังจากสักการะวัดพระแก้วแล้ว แอดมินก็ออกมาตะลอนหาของกินเลยจ้า เหนื่อยโฮกๆกว่าจะได้รูปเลิศๆนี่มันแสนสาหัสอยู่ ออกมาด้านนอกฝั่งตรงข้ามวัดพระแก้วก็จะเห็นว่ามีของขายเป็นทางยาวตลอดแนว ส่วนใหญ่เป็นของที่ระลึก
หลังจากฟาดกระเพราะไก่ไข่ดาวแล้ว เราก็พลังงานเต็มถังอีกรอบ เดินทางต่อ ลุย!! หากใครต้องการสักการะ ศาลหลักเมือง หรือ วัดโพธิ์ ก็ให้เดินยาวๆไปต่อเลยจ้า เพราะวัดเหล่านี้จะอยู่กันหมดเลยมีป้ายบอกตลอดทาง แต่แอดมินขอเบี่ยงไปวัดระฆังโฆสิตารามเลยนะจ้ะ ง้านกลับมาที่ท่าเรือเดิมที่ “ท่าช้าง” นั่งเรือข้ามฝากไป วัดระฆังเลยจ้ะ
ยังไม่ทันถึงวิวก็มาแต่ไกลแล้วจ้า ด้านหน้าท่าเต็มไปด้วยฝูงนกกับผู้คนที่ยืนให้อาหารนก ลองอิเมจิ้นว่าอยู่ท่ามกลางฝูงนกก็ดูฟรุ้งฟริ้งไปอีกแบบนะคะ พอลงท่า เราก็เดินตรงเข้าไป เพื่อสักการะ พระพุทธรูป ด้านในค่ะ แต่มาถึงวัดระฆังทั้งที ก็ต้องตีระฆังยักษ์ซะหน่อย ว่าแล้วแอดมินก็จัดเลยค่ะ!! ตีไปสามทีดังๆ
เสร็จและก็เดินกลับออกมาที่ท่าค่ะ ลุงป้าก็ตะโกนเชิญชวนปล่อยนกปล่อยปลา ใครใคร่ทำบุญเชิญทางนี้เลยค่ะ มีปล่อยแบบเป็นแพคเกตด้วยนะคะ แล้วแต่จิตศรัทธาเลยค่ะ
จากนั้นเราจะไป “วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร” กันค่ะ แอดมินเลยซื้อตั๋วแบบเหมาๆคนละ 30บาท ที่ท่าเรือวัดระฆัง ซึ่งสามารถนั่งเรือไป-กลับแบบบุฟเฟ วัดอรุณ – วัดกัลยา – วัดระฆัง ได้ตลอดจนถึง17.00 น. ว่าแล้ว ก็ไป “วัดอรุณ” กันเลยจ้า พอลงท่าวัดอรุณ จะเห็นพระปรางค์เด่นสง่า รอบตัวพระปรางค์เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเมืองโบราณ
ทางเดินขึ้นฟระปรางค์จะชันมากค่ะเห็นแล้วใจสั่นแต่คนจำนวนมากเดินขึ้นไปเพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบ ส่วนตัวแอดมินเอง แค่เห็นก็เวียนและจ้า แต่เพื่อทุกคน แอดมินเดินขาสั่นหงั่กๆขึ้นไปเพื่อเก็บภาพสวยๆของรอบวัดมาฝากกัน แต่ตอนเดินลงนี่สิ ขาสั่นกว่าขาขึ้นมาเย้อะ!! พลาดไปไม่อยากคิด – -”
จากที่นี่ เราก็นั่งเรือไปต่อที่ ท่าวัดกัลยากันโล้ด!! พอถึงแล้วจะสังเกตเห็น คนเด็ก คนเฒ่าคนแก่ที่นี่จะมีอยู่มาก เค้าจะมานั่งขอทานอยู่ที่แถววัด อาจจะเพราะชุมชนคนพวกเค้าอยู่แถวนั้นด้วยแหละ ดูแล้วก็สงสาร T^T แต่เราเดินเข้าวัดไปจะดีกว่า จากนั้น เราก็เข้าไปส่วนของวัดสักการะองค์พระ และเหล่าเซียน
จากนั้นเราก็เข้าอุโบสถเพื่อไปสักการะ “หลวงพ่อโต” หรือพระพุทธไตรรัตนนายก(ซำปอกง) พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ปางมารวิชัย เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต
ถัดจากวัดกัลยาฯ จะเป็นวัดจีน วัดสุดท้ายแล้ว…ฮูเล่!! โดยเดินลัดลอะไปตามทางเดินท่าน้ำตรงไปนิดนึง จะเจอ “ศาลเจ้าแม่กวนอิมเกียนอันเกง” ซึ่งเป็นวัดจีน พอเดินเข้ามาปุ๊บ บรรยายกาศจีนจ๋าเลย
ตั้งแต่หน้าศาล จนถึงภายใน เราก็มาสักการะเหล่าเทพกันดีกว่า พอเสร็จสิ้นแล้วก็จบวัน แอดมินนั่งเรือกลับไป “เอเชียธิค” เลยจ้า ไปชิวต่อ ง้านวันนี้พอเหนื่อยกันแค่นี้ก่อน แล้ววันหน้า แอดมินจะพาเพื่อนไปแนะนำ สถานที่เที่ยวกันอีกน้า