การแต่งกายและการเตรียมพร้อม เข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กรมประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ขั้นตอนและข้อควรปฏิบัติของประชาชนเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทร์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ดังนี้

 

การวางแผนและจัดเวลา

เนื่องจากมีการปิดเส้นทางการจราจรหลายเส้นจุด และคลาคล่ำไปด้วยผู้คน เวลาเดินทางต้องเผื่อเวลา โดยจะเปิดให้ประชาชนเริ่มถวายดอกไม้จันทร์ได้ทุกพระเมรุมาศจำลอง ในกรุงเทพทั้ง 9 แห่งประกอบด้วย

 

1) พระลานพระราชวังดุสิต

2) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดิม

3) สวนนาคราภิรมย์

4) ลานปฐมบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 1

5)ลานคนเมือง

6)สนามกีฬากองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์)

7)พุทธมณฑล

8)ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

9) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง

 

และซุ้มถวายดอกไม้จันทร์รอบกรุงเทพมหานครและตามวัดต่างๆ 50เขต รวมทั้งสิน 113 ซุ้ม

เริ่มถวายดอกไม้จันทร์เวลา 09.00 น.- 16.00 น. และ เวลา 18.30 น.- 22.00 น. ยกเว้นบริเวณสวนนาคราภิรมย์ เริ่มเวลา 13.00 น.

ซึ่งการแต่งกายต้องไว้ทุกข์ เหมือนการแต่งกายเข้าถวายพระบรมศพฯ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด

 

สุภาพสตรี

สวมเสื้อดำเรียบๆ ไม่มีลวดลาย ไม่รัดรูป ห้ามเสื้อแขนกุดหรือสายเดี่ยว สวมกระโปรงคลุมเข่า

 

สุภาพบุรุษ

สวมเสื้อดำ เชิ้ตดำ กางเกงดำขายาว

 

สิ่งที่ควรเตรียมนำติดตัวไปร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์

อาทิ เตรียมยาประจำตัวให้พร้อม,บัตรประชาชนติดตัวเสมอ,ร่ม หรือ พัด และ รับประทานอาหารและน้ำดื่มติดตัว

 

อีกทั้งขอความร่วมมือประชาชนเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ควรทิ้งขยะให้ถูกที่ หรือนำไปทิ้งที่บ้าน ,ไม่ควรพกของมีคมติดตัวเข้ามาร่วมพิธี และสุดท้ายควรเขียน ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ พกติดตัวไว้ให้กับ เด็กและผู้ชรา

 

หมายเหตุ : ประการสำคัญที่สุดควรหลีกเลี่ยงเส้นทางที่จะพาดผ่านบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวงและขอให้ประชาชนร่วมพิธีในพื้นที่ของตัวเอง เนื่องด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดสร้างพระเมรุมาศจำลองทั่วประเทศ และมีการถ่ายทอดสดพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

 

fbt outlet show dc

พาส่องแบรนด์ดัง Nike, Adidas ขนทัพสินค้ากีฬาแบรนด์ดังจัดหนักลดกระหน่ำใน Sport Outlet ในกรุงเทพฯ

เฮโหลวววว! ปกติเราเองก็เป็นสาวกไนกี้ หรือ อาดิดาสอยู่แล้วล่ะนะ แต่กว่าจะเก็บเงินซื้อรองเท้าแต่ละคู่มันอาจจะต้องอดกระเพราะไข่ดาวไปสามสี่มื้อ หรืออาจจะอดกินบิงซูไปสามสี่วัน (ดีแล้วจะได้ลดน้ำหนัก)ฮ่าๆๆ แต่วันนี้ฮะ แอดอยากจะพาทุกท่านไปช..ช…ช้อปปิ้งงงงงง ยังไงล่ะ ยังไงล่ะ คืองี้ วันก่อนไปเดิน SHOW DC กับเพื่อนสาวนักกีฬา คือนางชวนไปวิ่งมาราธอนแล้วทีนี้ รองเท้าคู่เก่ามันก็ไม่ได้เก่ามาก แต่ใจอยากได้คู่ใหม่ไง เลยให้นางพาไปซื้อ แล้วคุณเพื่อนก็แนะนำไปทีนี้เลยจ้า SHOW DC  ไอเราอะเคยไปอยู่แล้ว (ไปดูเอ็กซิบิชั่นหนุ่มเกาหลีหล่อๆอะนะ แต่ไม่ได้เคยคิดถึงเรื่องกิจกรรมกีฬาอะไรหร๊อกกก) ก็ต้องยกความดีความชอบให้คุณเพื่อน ที่แจ้งว่าที่นี่มี  Sport Outlet ด้วยค่ะพี่น้อง! โถ่วคุณพระ จิตใจแอดไม่ได้ฝักใฝ่ในกีฬาเท่าไหร่ไงเลยเพิ่งรู้ วันนี้เลยอยากจะพาทุกท่านที่อยากจะไปวิ่งมาราธอน (4โลถือว่าเยอะแล้วสำหรับแอด) ไปช้อปปิ้งรองเท้ากีฬากันนนน…

 

ป.ล.นอกจากsport outlet ของ SHOW DC แล้ว แอดเอาข้อมูลของที่อื่นๆมาฝากไว้ให้ทราบกันด้วยเผื่อขาช้อปสะดวกที่ไหนก็ไปโลดดด

  • FBT Outlet

พิกัด : ชั้น 3 SHOW DC พระราม 9

แบรนด์ : ADIDAS, REEBOK, CONVERSE, FILA, NEW BALANCE, SKECHERS, UMBRO, K-SWISS,CROCS, KRONOS, BAOJI, SPEEDO, BP WORLD, HEAD, TECNIFIBRE

SHOW DC เพราะเป็นห้างเปิดใหม่ (แต่ใหญ่โคตร) เลยบอกวิธีการไปเพิ่มเติมหน่อย SHOW DC ไปไม่ยากนะแอดว่า คือปกติไปแถวฟอร์จูน รัชดาอะไรงี้อยู่แล้วอะ ทีนี้วิธีการของแอดก็คือนั่งรถไปลง MRT  พระราม 9 แล้วก็ไปนั่ง shuttle bus  ของห้างที่มารับแถวนั้นเลย  และที่ F.B.T Outlet ก็จะมีสปอร์ตแบรนด์ไทยคุณภาพที่ขายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาครบชุด แล้วยังรวบรวมหลากหลายแบรนด์ดัง ๆ อย่าง ADIDAS, REEBOK, CONVERSE, SKECHERS ไว้ในที่เดียวแล้ว ราคาที่ขายใน Outlet นี้จะถูกกว่าราคาปกติตั้งแต่ 20-50% ไปจนถึง 80% เลยทีเดียว

fbt outlet

fbt outlet show dc

 

  • Nike Factory Outlet SHOW DC

พิกัด : ชั้น 3 SHOW DC พระราม 9

แบรนด์ : NIKE

 

ไม่ไกลจาก F.B.T Outlet เดินเลยมาอีกหน่อยก็จะเจอ Nike Factory Outlet ที่เรียกได้ว่ากันว่าเป็น Outlet ของ Nike ที่ใหญ่ที่สุดในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีคอลเลคชั่นใหม่ๆ ส่งตรงจาก Nike Shop ทั่วโลกมาอัพเดทกันทุกสัปดาห์ งานนี้สาวก Nike ไม่ควรพลาดที่จะลองแวะเข้าไปเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่ง Outlet ทั้งสองนี้ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ของห้างเหมือนกัน  รอบนี้แอดได้รองเท้าผ้าใบมาคู่นึง แล้วก็เสื้อมาตัวนึง (ไม่ขอโพสนะ อายหุ่น ฮี่ๆ)

 

 

อะรอบนี้เสียหายแต่ได้ลดน้ำหนักก็โอเค เป็นห้างที่เปิดใหม่ แต่ร้านอาหารเยอะอยู่ ใครว่างลองเป็นเดินเล่นได้ แปลกตาดีแอดว่า ว่างๆก็มีคอนเสิร์ตให้ฟังด้วย เพลิ๊นนน

มาต่อกันอีกที่ อันนี้ไปหาข้อมูลมาฝากกัน

 

  • Outlet square เมืองทองธานี

 พิกัด : เมืองทองธานี

แบรนด์ : NIKE , ADIDAS, Ari, REEBOK, Oakley, Crocs, New balance

 

อาจจะอยู่ไกลขึ้นอีกสักนิด แต่ถ้าพูดถึงความครบครัน Outlet square เมืองทองธานี ก็มีทั้ง outlet ที่รวมหลากหลายแบรนด์ไว้ด้วยกันอย่างร้าน Supersport และ Outlet เฉพาะของแบรนด์ดัง ๆ โดยเฉพาะ อย่างเช่น  NIKE , ADIDAS  แอดว่าอันนี้คือถ้าใครไปคอนเสิร์ต หรืองานแสดงแถวนั้นก็เผื่อเวลาไปเดินเล่นสักหน่อย ไม่ไกลจากอิมแพ็คอารีน่าเลยยย เผื่อวันไหนแด๊นซ์กระจายจนรองเท้ากระจุย คริ แซวเล่นหรอกน่ะ

Outlet Square ที่ อิมแพ็ค เมืองทอง ธานี

ขอบคุณรูปภาพจาก www.impact.co.th

 

  • Supersport JTC

พิกัด : ชั้น 3 Bangkok Fashion Outlet ตึก JTC (Jewelry Trade Center) ,สีลม

แบรนด์ : Nike,Adidas, New balance, Fila, Umbro, Wilson, K-swiss

 

มาีอีกที่คราวนี้เข้าเมืองมาอีกนิด ที่ย่านสีลม ที่ตึก JTC (Jewelry Trade Center)  ตรงบริเวณชั้น 3 มี Supersport Outlet แอดยังไม่เคยไปแต่ไปหาข้อมูลมาเขาบอกว่า

ที่นี่ครบครันด้วยอุปกรณ์กีฬาแทบทุกชนิด โดยเฉพาะเรื่องรองเท้าที่ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่ โดยจำนวนชั้นวางรองเท้าแทบจะกินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของร้านเลยทีเดียว ใครเคยไปสอยอะไรมามาเล่าให้ฟังหน่อยนะจ๊ะ

 

ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.bangkokfashionoutlet.com/

 

  • Sam’s Sports อัมรินทร์ พลาซ่า ชิดลม

พิกัด : ชั้น 1 อัมรินทร์ พลาซ่า ,ชิดลม

แบรนด์ : Nike, ADIDAS, Onitsuka Tiger , New Balance, SKECHERS, Fila, Umbro, Wilson, K-swiss

 

นี่ยิ่งเข้าเมืองเข้าไปใหญ่เลย อัมรินทร์พลาซ่า ชิดลม อันนี้เคยผ่าน เพราะเคยไปนั่งกินแมคโดนัลล์ชั้นบนตึกนั้น ที่นี่มีร้านชื่อ Sam’s Sports บริเวณชั้น 1  อัมรินทร์ พลาซ่า  แถมทางร้านชอบจัดSale เป็นประจำ บางครั้งมีลดสูงสุดถึง 70-80% กันเลยทีเดียว อันนี้ก็ไปง่ายลงรถไฟฟ้าชิดลมก็ถึงแล้ว แต่ตัวห้างไม่ได้ใหญ่มากขนาดนั้น ถ้าแบบเอาเดินทางสะดวก แล้วอยากแค่ซื้อรองเท้า ไปลองดูที่นี่ก่อนแอดว่าก็ดีนะ

  • Sam’s Sports Gateway Ekamai, เอกมัย

พิกัด : ชั้น 3  Gateway Ekamai, เอกมัย

แบรนด์ : Nike, ADIDAS, Onitsuka Tiger , New Balance, SKECHERS, Fila, Umbro, Wilson, K-swiss

 

เป็นอีกหนึ่ง Outlet ของ Sam’s Sports   อันนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 3  เกตเวย์เอกมัย (Gateway Ekamai) ไปง่ายที่นี่ แค่ลงรถไฟฟ้าสถานทีเอกมัยก็ถึงแล้ว ตึกเกตเวย์นี่เชื่อมกับรถไฟฟ้าเลย ห้างนี้จะต่างกับSHOW DC อยู่หน่อยตรงที่เน้นความเป็นญี่ปุ่น ส่วน SHOW DC นี่ดิวตี้ฟรีเกาหลีก็มาจ้าาา เคยไปเดินเล่นเกตเวย์ เอกมัย(นานมาละ) ตอนนั้นจำได้ว่าเจอร้าน Maid Café แบบแบ๊วใสคาวาอี้ด้วย แต่เอาเถอะ Maid Café ยังคงอยู่หรือเปล่าแอดก็ไม่แน่ใจ แต่ว่าถ้าใครจะไปช้อป Outlet  สินค้ากีฬาก็จัดไปโลดดด

 

ขอบคุณรูปภาพจาก Sam’s Sports

ข้อมูลทั้งหมดประมาณนี้ครัชชชช เวลาช้อปของดีราคาสบายกระเป๋าก็อย่าช้อปเพลินเด้อ ช้อปทีละคู่สองคู่ก่อน วิ่ง(เพื่อสุขภาพ)จนมันเปื่อยก่อนแล้วให้รางวัลตัวเองด้วยการไปช้อปอีกรอบ! คริ อะอะ รอบนี้มารีวิว Outlet แบรนด์กีฬา หวังว่ารอบหน้าแอดคงได้พาทุกคนไปรีวิววิ่งมาราธอนบ้างล่ะนะ ฮึบ สู้โฟ้ยยยย!

 

-แอดชิวหา-

ภาคเหนือ ท่องเที่ยว unseen

อเมซิ่ง 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน

ถ้าพูดถึงจังหวัดทางภาคเหนือ หลายคนจะนึกถึงแต่เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แต่รู้หรือไม่ว่า!? ยังมีอีก 5 จังหวัด ทางผ่านที่ไม่ควรแค่ผ่านไป!! วันนี้แอดน้องเลยพาตะลุย 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง กับแหล่งท่องเที่ยวที่ดีต่อใจมาฝากกัน ให้รู้ว่าเมืองไทยมีดี!!

วันที่ 1 : เจาะกันที่แรกกับพิษณุโลก

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร  หรือ วัดใหญ่ ที่เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองชาวพิษณุโลก มีองค์พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่” และมีปะติมากรรมที่งดงาม

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดใหญ่ พิษณุโลก

ต่อด้วยตะลุยของฝากขึ้นชื่อเมืองพิษณุโลก อย่าง โรงงานบางแก้วเซรามิค ที่นำเอาสัญลักษณ์สุนัชพันธุ์บางแก้ว มาเป็นโลโก้ของผลิตภัณฑ์ พร้อมคุณภาพที่ดีเยี่ยมจนเจ้าของการันตีหล่นไม่แตกกันเลยจ้า

บางแก้วเซรามิค พิษณุโลก

 

ต่อไปยังจังหวัดสุโขทัย เมืองลือชื่อด้านประวัติไทย เราจะพลาดไม่ได้กับ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย  ที่องค์การยูเนสโก (UNESCO) ยังประกาศให้เป็นสถานที่หนึ่งในมรดกโลกอีกด้วย ภายในถูกทะนุบำรุงอย่างดี แม้จะเหลือร่องรอยโบราณสถานพระราชวังและวัดอยู่ ก็ยังทำให้เราได้เพลิดเพลินกับสิ่งแวดล้อมรอบๆได้อย่างดี

อัตราค่าบัตรเข้าชมอุทยาน

ค่านั่งรถรางชมรอบ ค่าเช่าจักรยาน (ทั้งวัน)
คนไทย คนละ 30 บาท

คนไทย คนละ 30 บาท

คนละ 10 บาท

ต่างชาติ คนละ 100 บาท

ต่างชาติ คนละ 60 บาท

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

พักเหนื่อยสักนิด มื้อเที่ยงแอดนำไปชิมกับ ร้านก๋วยเตี๋ยวขึ้นชื่อ ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยเจ๊แฮ อร่อยในจานเดียว ไม่ต้องปรุง

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยเจ๊แฮ

จบแล้วเราก็แว้บพักชิวกันต่อที่ร้านของฝาก ณาณา กาแฟ ที่ไม่แค่ฝาก เพราะ ร้านนี้กาแฟหอมกรุ่นตั้งแต่เดินผ่านหน้าร้านกันเลยทีเดียว แต่ถ้าแวะเข้าไป ก็จะเป็นจุดขายของฝากจำพวกเครื่องเงิน และผ้าทอสวยงามนานาชนิด

ณาณา กาแฟ ขายเครื่องเงิน

พักจนหายเหนื่อยเราก็ตะลุยของฝากอีกที่ ขึ้นชื่อเรื่องเซรามิคและสังคโลกที่ร้าน ประเสริฐ แอนติค   เจ้าของโรงงานใจดี เปิดให้พวกเราลองปั้นกันได้ แอดลองแล้ว ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลยกว่าจะได้ชิ้นงานนึง เขาพิถีพิถันทุกขั้นตอนจริงๆ

เซรามิคและสังคโลก

คืนแรกและครั้งแรกกับการพักแบบโฮมเสตย์

แอดได้มีโอกาสพักแบบโฮมเสตย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการส่งเสริมอาชีพชุมชน ให้ชาวบ้านรู้จักทำงานร่วมกันตั้งแต่ให้นักท่องเที่ยวเข้าพักไปจนถึงมีกิจกรรมร่วมกับชาวบ้าน และ ตลอดทริปนี้ แอดจะไปเจาะลึกกับการอยู่แบบโฮมสเตย์พร้อมสนุกสนานกับกิจกรรมชาวบ้านกันได้แบบไทยๆ ซึ่งการต้อนรับและบรรยากาศเป็นกันเองมากๆเหมือนเราเป็นครอบครัวเดียวกับชาวบ้าน กับข้าวกับปลา ไม่ขาดมือ อุ่นใจในความรู้สึกแอดมาก

สุโขทัย โฮมสเตย์ homestay

รวมทั้งการนั่งรถอีแต๋นไปชมกิจกรรมอาชีพชาวบ้าน อย่างชุมชนสานกระติ๊บจากใบตาล และใบจาก ที่เป็นผลิตภัณฑ์น่ารักๆจากชุมชนอีกหนึ่งอย่าง

อาชีพชุมชน สานกระติ๊บจากใบตาล

จากนั้นเราเดินทางข้ามไปจังหวัดตาก ไปชม อุทยานไม้กลายเป็นหิน ต.ตากออก อ.บ้านตาก  โอ้โห!! ใครจะรู้ไม้กลายเป็นหินได้ ถูกต้องแล้วที่นี่เป็นป่าอนุรักษ์ ที่่ค้นพบซากฟอสซิลไม้กลายเป็นหินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและยาวที่สุดในโลก มีความยาวประมาณ 72.22 เมตร แอดลองไปยกมาแล้ว ตาเห็นเป็นไม้แต่ยกแล้วหินแน่นอน!!

จากนั้น มาสักการะ พระมหาสากะยะมุณีศรีสรรเพชร ที่วัดพระพุทธบาทดอยโล้น ต.ท้องฟ้า อ.บ้านตาก พระพุทธรูปองค์ขาวขนาดใหญ่ พร้อมวิว 360 องศา ที่บรรยากาศไม่น่าพลาดกันเลยทีเดียว

และต่อกันด้วยวัดพระบรมธาตุ  ที่ ต.เกาะตะเภา ซึ่งองค์พระบรมธาตุนั้น จำลองแบบมาจากเจดีย์ ชเวดากอง ประเทศเมียนม่า พร้อมพระพุทธรูปหลวงพ่อทันใจ ที่พร้อมให้นักท่องเที่ยวมาขอพรกันได้ดังใจ

จากนั้นช่วงยามเย็นแอดพาไปเที่ยว กาดก้าตง กัน ถนนของเดินประจำจังหวัดตากริมแม่น้ำปิง ซึ่งคล้ายกับตลาดขายของชาวบ้าน ทั้งอาหาร เสื้อผ้าและการแสดงต่างๆ พร้อมบรรยากาศยามเย็น ให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ กับจุดถ่ายภาพสุดชิครอบๆตลาดกันอีกด้วย

ถนนคนเดินกาดก้าตง ริมแม่น้ำปิง จังหวัดตากถนนคนเดินกาดก้าตง ริมแม่น้ำปิง จังหวัดตาก

ถนนคนเดินกาดก้าตง ริมแม่น้ำปิง จังหวัดตาก

วันที่ 3 : วัดผาซ่อนแก้วกับบรรยากาศบนปลายยอดเขา

เราก็เดินทางต่อไปยังจังหวัดเพชรบูรณ์ พลาดไม่ได้กับ วัดผาซ่อนแก้ว ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ที่ตั้งอยู่บนปลายยอดเขาสูง มีองค์พระพุทธรูปขาวล้วนขนาดใหญ่ ที่มีลักษณะองค์ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ท่ามกลางบรรยากาศวิว 360 องศา เป็นสถานที่สักการะ มีองค์พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ และรอบๆตกแต่งด้วยกระจกสีอย่างสวยงาม

วัดผาซ่อนแก้ว เพชรบูรณ์ องค์พระเจดีย์

คืนนี้เป็นครั้งที่สองของการพักโฮมสเตย์

แบบชาวบ้านๆ ซึ่งราคาย่อมเยาว์อยู่ที่คนละ 300 บาท ถือว่าเป็นการพักที่ถูกมากและคุ้มค่าสุดๆ เพราะรวมค่าที่พักและอาหารหมดแล้ว!! เริ่มด้วย การต้อนรับจากชาวบ้านด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆจากชุมชน ที่คัดสรรมาแล้ว มาให้เราได้ชิมกัน พร้อมทั้งอาหารการกินแบบชาวบ้านที่ตักได้ไม่อั้นกันเลยทีเดียว พอเข้าที่พัก ที่พักก็จะเป็นบ้านของชาวบ้านระแวกนั้นที่ถูกคัดสรรว่ามีมาตรฐานสามารถเข้าโครงการบ้านพักโฮมสเตย์ได้ ซึ่งเกณฑ์ของการเป็นบ้านพักโฮมสเตย์ของชุมชนได้นั้นต้อง บ้านพักมีขนาดตามที่กำหนด และสะอาดถูกสุขอนามัย ขนาดเครืองทำน้ำอุ่นยังมีให้ เจ๋งมั้ยล่ะคะ!!

วันที่ 4 : ธรรมชาติกับวิถีชาวบ้านที่ไม่เคยสัมผัส

พอตื่นเช้ามา ชาวบ้านจะทำอาหารเช้าให้เรา ขอบอกอร่อยมากๆ หลังจากนั้น จะพาเราไปชมวิวที่จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ ที่เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา บรรยากาศท่ามกลางหมอกยามเช้า ถ้าใครใคร่อยากมานอนเต้นท์ตื่นมาเจอวิวดีๆแบบนี้ ชาวบ้านบอกว่า เขาคิดแค่ 300 บาทถ้วนทั้งนั้น!! ค่าพาขึ้นเขามาที่จุดนี้พร้อมเต้นท์ ทุกอย่างตั้งต้นที่ 300 หมดเลย อะไรจะถูกและดีอย่างนี้!!

จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ จังหวัดเพชรบูรณ์ หมอกยามเช้า

สายๆหน่อยชาวบ้านจะพาเรานั่งรถอีแต๋นไปชมสวนและไร่ผลไม้ที่เขาทำเกษตรกรรมกันค่ะ เช้าๆแบบนี้ได้ทำกิจกรรมแบบนี้อากาศเยี่ยง ขอบอกว่าดีสุดๆกันไปเลย

วิถีชาวบ้าน จังหวัดเพชรบูรณ์ หมอกยามเช้า

จากนั้นเราก็ร่ำลาแล้วไปต่อกันที่ เกษตรกรรมชุมชนแบบหมุนเวียนค่ะ ไปชมการทำเกษตรกรรมและปศุสัตว์ต่างๆที่ชาวบ้านเริ่มกันทำ พร้อมทั้งอาชีพต่างๆในชุมชน อาทิเช่น ชุมชนทำกระเป๋า และหมอน เป้นการรวมตัวคล้ายๆกับสหกรณ์ของชุมชน เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านมีอาชีพ และผลักดันให้เกิดแรงงานค่ะ

วิถีชาวบ้าน จังหวัดเพชรบูรณ์ หมอกยามเช้า

และคืนนี้ก็เป็นคืนที่สาม ที่มีโอกาสได้พักแบบโฮมสเตยเช่นเคย เป็นโฮมสเตย์สังกัด อบต วังท่าดี  แต่โฮมสเตย์ที่นี่ขอบอกบ้านน่ารักมากเลย แอดชอบมากที่สุดแล้ว บ้านหลังนี้เป็นของตายายคู่นึงที่อาศัยอยู่ด้วยกัน เขาเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้แขกมาอยู่ร่วมด้วย เพราะจะได้มีแขกไปมา ตายายก็ชอบที่มีคนมาอยู่ร่วมกันเยอะๆ คุณยายคำปักน่ารักมากเลยค่ะ เขาต้อนรับอย่างดีมาก

วันที่ 5 : ทางรถไฟที่ไม่ใช่แค่รางรถไฟ

เดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำแม่เฉย ซึ่งกำลังจะถูกพัฒนาเป็นอีกหนึ่งแหล่องที่ท่องเที่ยวที่ชาวบ้าน บรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติแสนดีจริงๆ เเละไปต่อกับธรรมชาติ อุโมงค์เขาพลึง จังหวัดอุตรดิตถ์ บรรยากาศทางรถไฟเป็นทางยาวบนเนินเขา รอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ และวิวหน้าผา ฟ้าเปิดกว้าง เราสามารถเดินลัดเลาะตามทางรถไฟได้เลย ถ่ายรูปสวยๆตลอดทาง

อุโมงค์เขาพลึง จังหวัดอุตรดิตถ์ บรรยากาศทางรถไฟ

แต่ต้องระวังเพราะเป็นทางรถไฟที่ยังสามารถใช้งานอยู่ปัจจุบัน ดังนั้นจึงเป็นทางผ่านของรถไฟตลอดเวลา แต่มีรอบเวลาที่ชัดเจนว่ารถไฟจะตัดผ่านช่วงไหน และที่สำคัญจุดนี้ยังเป็น เขตเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดแพร่ ให้ได้ถ่ายรูปเก๋ๆกันไปอีก

อุโมงค์เขาพลึง จังหวัดอุตรดิตถ์ บรรยากาศทางรถไฟ

แล้วต่อกันที่การเดินชมสวนผลไม้ที่ชาวบ้านนำผลไม้มาเสริ์ฟให้กินกันแบบสดๆกันเลยทีเดียว ทั้ง ทุเรียน มังคุดและลองกอง

 

วันที่ 6 : บอกลาวิถีชาวบ้านกลับสู่เมืองกรุง

วันสุดท้าย แต่อาจะไม่ท้ายสุด เราวนกลับมายัง จ.พิษณุโลก เพื่อพบปะกับกลุ่มเกษตรกรรมธรรรมชาติ บ้านผารังหมี อ.เนินมะปราง กลุ่มชาวบ้าน ทอผ้าไหม/ผ้าปะดิด พร้อมเสื่อกกสานย้อมสี ต่อด้วยน้ำเห็ดหูหนูขาว ที่เปิดให้ชิมกันเลยพร้อมสรรพคุณมากมายแถมรสชาติดีบอกต่อ จบด้วยน้ำพริกแม่มานิตย์ เป็นของ OTOP ห้าดาวเลยนะเออ เขาให้กลับมาเป็นของฝากแอดชิมแล้ว อยากโทรสั่งอีกเลย ของเขาอร่อยจริงถึงได้ติดโผของฝาก OTOP กันเลยทีเดียว

บ้านผารังหมี อ.เนินมะปราง

สุดท้ายแอดอยากฝากบอกว่า เมืองไทยมีของดีอีกมากให้เราไปค้นหา ขอบคุณการเดินครั้งนี้และชาวบ้านทุกชุมชนที่ให้การต้อนรับอย่างดีและอบอุ่นจริงๆ

ม. นเรศวร เดินหน้าชูของดี 5 จังหวัด!! ที่สักครั้งในชีวิตต้องไป

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญ และมุ่งพัฒนา ผลิตภัณฑ์และการท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community Based Tourism – CBT) โดยการท่องเที่ยวชุมชน มีการพัฒนาภายใต้โครงการ “5 จังหวัด สักครั้งในชีวิต” ซึ่งพัฒนาคนและชุมชน ต่อยอดผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนเพื่อผลักดันเส้นทาง 5 จังหวัดทางภาคเหนือตอนล่าง อย่าง พิษณุโลก , สุโขทัย , ตาก , เพชรบูรณ์ เเละอุตรดิตถ์

ม. นเรศวร เดินหน้าชูของดี 5 จังหวัด!! ที่สักครั้งในชีวิตต้องไป

โดยครั้งนี้มหาวิทยาลัยนเรศวร ผศ.ดร.พีรธร บุณยรัตพันธุ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดงานเเถลงข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางการท่องเที่ยว 3 เส้นทางของภาคเหนือตอนล่างให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพเเละชมนิทรรศการผลิตภัณฑ์จากชุมชนทั้ง 5 จังหวัด

เเละทั้งนี้ได้จัดทริปโปรโมทการท่องเที่ยวภาคเหนือตอนล่าง 1 ประชาสัมพันธ์เส้นทางการท่องเที่ยว “5 จังหวัด สักครั้งในชีวิต” ระหว่างวันที่ 4-9 สิงหาคม ตามเส้นทางดังนี้

เส้นทางที่ 1 สุโขทัย- ตาก (พระพุทธบาทดอยโล้น-อุทยานไม้กลายเป็นหิน – วัดพระบรมธาตุ- กาดต้าตง -ถนนคนเดินย้อนยุควิถีแม่ปิง)

พระพุทธบาทดอยโล้น-อุทยานไม้กลายเป็นหิน - วัดพระบรมธาตุ

กาดต้าตง -ถนนคนเดินย้อนยุควิถีแม่ปิง

เส้นทางที่ 2 พิษณุโลก – เพชรบูรณ์ (วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว- จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ-อ่างเก็บน้ำคลองลำกง)

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว- จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ-อ่างเก็บน้ำคลองลำกง

เส้นทางที่ 3 พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ (ม่อนลับแล – ป่าวนอุทยานแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ – ศูนย์การเรียนรู้เห็น -สปาส้มซ่า)

ม่อนลับแล - ป่าวนอุทยานแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ - ศูนย์การเรียนรู้เห็น -สปาส้มซ่า

โดยคำนึงถึงความยั่งยืนจึงจัดทำโครงการจัดการแหล่งท่องเที่ยวชุมชน แหล่งท่องเที่ยวนิเวศ แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ซึ่งจะมีกิจกรรมในการฝึกอบรบ สร้างเครือข่ายภายในชุมชนของแต่ละจังหวัด และมีการจัดแลกเปลี่ยนปรับแนวคิดซึ่งกันและกัน พร้อมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เพิ่มศักยภาพสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว พร้อมจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ 3 ปี ปี 2561 – 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม

ดาวน์โหลดได้ที่  http://thaipurchasing.com/uploads/pdf/Plan-PR.pdf

รบ.ยันไม่ได้ยกเลิกกรอกใบ ตม. แต่เปลี่ยนแบบฟอร์มใหม่ให้สะดวกขึ้น

ข้อสงสัยต่อกรณีกระแสข่าวการยกเลิกการกรอกแบบรายการบุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร (ตม.6) หรือที่เรียกว่าใบ ตม.

ใบ ตม.แบบเก่าที่ผู้โดยสารต้องกรอกเมื่อเวลาเข้า-ออกประเทศไทย

 

ล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ชี้แจงถึงประกาศกฎกระทรวงกำหนดแบบเอกสารตามกฎหมายว่าคนเข้าเมืองและวิธีการขอหลักฐานการแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับเข้ามาอีกว่า เป็นการเปลี่ยนแบบฟอร์มใหม่ ไม่ใช่การยกเลิกใช้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 1 ต.ค.นี้

โดยแนวคิดขอยกเลิกฝ่ายเศรษฐกิจเป็นผู้เสนอเพราะเห็นว่าไม่ได้นำข้อมูลนี้ไปใช้ประโยชน์ แต่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เห็นว่ายังมีความจำเป็นต้องใช้เพื่อเก็บข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งนี้ขั้นตอนการกรอกเอกสารใหม่จะง่ายขึ้น เพื่อลดปัญหาความแออัดการที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบิน

ใบ ตม.รูปแบบใหม่ อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารมากขึ้น

 

สูดโอโซนป่าโกงกาง ฟินปูกล้ามโต งบ 1,700 ที่พาเพลิน โฮมสเตย์…จันทบุรี

วันหยุดสุดสัปดาห์ หากใครไม่อยากอุดอู้อยู่ใน กทม. ขอแนะนำที่เที่ยวสุดคุ้ม พาเพลิน โฮมสเตย์ จ.จันทบุรี เพราะไม่ว่าจะเที่ยวกลุ่มเพื่อน เที่ยวแบบครอบครัว หรือ outing ของบริษัท ที่นี่พร้อมให้บริการทุกรูปแบบ เดินทางสะดวกไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก แถมยังมีอาหารจัดเต็มไม่อั้น 3 มื้อ ได้ชิมปูกล้ามโตฟินสุดๆ พร้อมแล้ว ออกไปเที่ยวด้วยกันเลย! 

พิกัด : พาเพลิน โฮมสเตย์ ต.หนองซิ่ม อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี

ราคา : 1,700 บาทต่อคน ไม่มีชาร์จเพิ่ม เด็กเล็ก- 6ขวบ ฟรี อายุ 7-12ปี คิดครึ่งราคา

 

ถึงแล้วจ้า มีหลักกิโลยักษ์ตั้งตระหง่านตรงทางเข้า

เดินเข้าไปปุ๊ปก็ไปเช็คอินที่โรงอาหารก่อน เราไปถึงกันช่วงบ่าย คนมาพร้อมกันเยอะมากกกก เลยค่อนข้างชุลมุนหน่อย ยังไม่ทันวางกระเป๋าเลย ก็มีอาหารเที่ยงมาวางตั้งให้กินแล้ว ไม่ต้องรอช้า เราก็จัดเลยละกัน

นั่งโต๊ะปุ๊ป พนักงานก็เอามาเสิร์ฟปั๊ป หากกินไม่อิ่ม อยากเติมจานไหน เรียกเลย เพราะมาที่นี่กินไม่อั้นทั้ง 3 มื้อจ้า
น้ำพริกไข่ปู กินกับผักสด
หมูชะมวง อาหารพื้นเมืองของจันทบุรี อร่อยมากกก หมูนิ่มๆ กับใบชะมวงออกเปรี้ยวๆ ถ้วยนี้เราเติมหลายรอบเลย
ปูผัดผงกะหรี่

นอกจากนี้ยังมีชา กาแฟ ไอติม น้ำอัดลม น้ำเปล่า น้ำแข็ง โซดา บริการฟรีไม่อั้น เรียกว่าแค่มื้อเที่ยง ก็จัดเต็มซะแล้ว พออิ่มแล้ว ลองไปเดินสำรวจรอบๆกันดีกว่า

ห้องพักมีหลายแบบให้เลือก แยกตามจำนวนสมาชิก
แบบนี้หลังใหญ่หน่อย เหมาะกับคณะใหญ่

 

 

 

 

 

วิวสวยๆของที่พัก

 

ตรงกลางเป็นสระน้ำ

 

 

 

หน้าบ้านพักเรา จะมีตาข่ายให้นั่งเล่นกันด้วย แต่ก็กลัวรับน้ำหนักไม่ไหว เลยไม่กล้านั่ง ถถถถ

เข้าไปสำรวจห้องพักกันดีกว่า

มีที่นอน หนอน ผ้าห่ม วางเรียงพร้อมให้บริการ นอนได้ห้องละ 4-5 คน บนหัวนอนมีแอร์ มีปลั๊กไฟ ให้ชาร์จมือถือกันสะดวกเลย สภาพห้องอาจไม่หรูหรามาก แต่อย่าลืมนะคะว่านี่คือโฮมสเตย์ ไม่ใช่รีสอร์ท

มีตู้เย็น ทีวี
อ่างล้างหน้าแยกออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งน้ำไหลเบาไปหน่อย

ห้องน้ำเล็กๆ เพราะพื้นที่มีน้ำ ต้องใช้สอยอย่างประหยัด มีชักโครก ฝักบัว

มีสไลเดอร์ให้เล่นด้วย
มินเนี่ยนตะปุ่มตะป่ำก็มา

มวลเถาวัลย์ป่าใบเขียววววว

พาเพลินมินิมาร์ท ร้านดูเลอะๆหน่อย แต่ก็มีของให้เลือกครบครัน ใครอยากได้เครื่องดื่ม กับแกล้มตอนกลางคืน ก็มาซื้อได้เลยจ้า

กลับห้องไปนอนพึ่งพุงสักหน่อย เพราะเดี๋ยวช่วง 4 โมงมีไปลงแพชมป่าโกงกาง (การลงแพจะมี 2 รอบคือบ่าย 2 กับ 4 โมงเย็น ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ไม่ต้องห่วงความปลอดภัยเพราะมีชูชีพให้ใส่ครบทุกคน ส่วนใครไม่อยากเปียกก็นั่งในเรือได้จ้า)

ได้เวลาลงแพแล้ว
นอกจากขับเรือแล้ว พี่เขายังต้องเป็นดีเจเปิดเพลงที่กำลังฮิตให้ นทท.ฟัง อย่างตอนเราไปก็ผู้สาวขาเลาะกับเพลงที่มีงูวนไป 3 รอบ

 

สูดโอโซน ชมวิวป่าโกงกางข้างทาง

แล่นมาเรื่อยๆจนถึงปากแม่น้ำ อากาศดีจังเลยยยย แล้วก็เจอแพจากบ้านอื่นๆมาสมทบด้วย

เหยี่ยวแดงบินว่อนเลยยยย

เคยเห็นกันหรือเปล่า ฟาร์มหอยนางรม เพาะเลี้ยงกันแบบธรรมชาติ

หน้าตาของน้องหอย

แพแต่ละบ้านก็จะมาเปิดเพลงแข่งกัน แล้วก็ปล่อยให้คนลงเล่นน้ำ

สักพักก็ได้เวลากลับ เหมือนเหยี่ยวแดงที่ต้องบินกลับรังเหมือนกัน

ล่องแพเสร็จแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย นั่นคืออาหารเย็นสุดพิเศษ ไฮไลท์ของเราในวันนี้

อาหารละลานตา มาแบบ full option เลย

 

ไฮไลท์ของเราพี่ปูกล้ามโตตตตตตนั่นเอง

ไม่ต้องกลัวแกะยากนะจ๊ะ เพราะเขามีอุปกรณ์เตรียมไว้ให้ด้วย
แกะออกแล้วเป็นแบบนี้
จิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ด อ๊ากกกกกกกก ฟินน
ไข่ปูก็มาาาา
กุ้งลายเสือ ตัวใหญ่มาก เนื้อเด้งมาก
ขนาดเกือบเท่าฝ่ามือเลย
นอกจากนี้ยังมีพล่าปลา อาหารพื้นเมืองของจันทบุรี คล้ายๆสลัด กินกับน้ำจิ้มถั่ว
ยังมีเมนูเด็ดคือปลากะพงทอดน้ำปลา ข้าวผัดรวมมิตร ต้มยำรวมมิตร กุ้งแช่น้ำปลา หอยนางรมสด
เมนูพิเศษเฉพาะฤดูกาลคือ กั้งกระดาน ตัวใหญ่มากกกก
กั้งกระดาน ไม่ได้หากินกันง่ายๆนะ แต่ที่พาเพลินจัดให้เรา
อิ่มจากของคาวแล้ว ก็มีผลไม้ล้างปาก จะกินเป็นโลๆก็ไม่มีใครว่า
นักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย enjoy อาหารมื้อพิเศษกันถ้วนหน้า อยากเติมจานไหน แค่ยกมือ พนักงานก็จะรีบจัดหาให้เลยจ้า

อิ่มท้องแล้วก็ได้เวลากลับห้องพักผ่อน ก่อนจะตื่นเช้ามาสูดอากาศดีๆและตะลุยอาหารมื้อที่ 3 ของเรา

ข้าวต้มทะเลพร้อมเสิร์ฟในช่วงเช้าแล้วจ้า ใครไม่อิ่ม เติมไม่อั้น

เส้นจันท์ผัดปู อีกหนึ่งอาหารพื้นเมืองของชาวจันทบุรี เส้นนุ่มผัดกับน้ำซอสกลมกล่อม อร่อยไม่ต้องปรุงเลย

ปิดท้ายด้วยปาท่องโก๋ กินคู่กาแฟ โอวัลติน จิ้มนมข้นหวาน และน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ

 

ส่งท้ายที่พาเพลิน….

-ลูกค้าลงเยอะพร้อมๆกัน มันก็จะวุ่นวายหน่อย

-สัญญาณเน็ตอ่อนแรง เรากับเพื่อนใช้ DTAC  ส่งอะไรไม่ไปเลย

-เตรียมผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน มาเองนะจ๊ะ เพราะให้บริการแบบโฮมสเตย์ไม่ใช่รีสอร์ทจ้า

-พนักงานหน้าโหดโหมดมุ้งมิ้ง คือแทบทุกคนจะมีหนวด หน้าตาเหมือนโจรใต้ แต่บริการดีจริงๆ ใจดีมาก อยากได้อะไรหาให้หมด เอามังคุดกลับมากินที่ห้องตอนกลางคืนยังได้

-อาหารจัดเต็มจริงๆ ทั้ง3 มื้อปูเป็นปู เกิดมาไม่เคยกินปูอะไรใหญ่ขนาดนี้ กุ้งก็ใหญ่มาก อาหารรสชาติดี ต้มยำ ข้าวต้ม หมูชะมวง ทุกอย่างอร่อยหมด มีบริการไอติม ผลไม้ น้ำแข็ง น้ำอัดลม โซดา เสิร์ฟไม่อั้น จุใจจริงๆ

-ล่องแพ เอื่อยเฉื่อย ชิลๆ สูดโอโซนป่าโกงกาง บางทีชิลล์มากจนอยากหลับ แนะนำให้หิ้วขนม เครื่องดื่ม ติดมือไปด้วย (แต่ต้องรักษาความสะอาด ห้ามทิ้งลงแม่น้ำนะ) ดูฟาร์มหอยนางรม ดูเหยี่ยวแดง แต่ละบ้านเปิดเพลงแข่งกัน ปล่อยให้ลงเล่นน้ำ บางแพก็อัดเหมือนชาวโรฮิงญาอพยพ

-อยู่ใกล้ป่าโกงกาง มียุงประปราย แต่ไม่ได้ถึงกับรุมทึ้ง

-คาราโอเกะ อยากโชว์พลังเสียงเชิญค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานร้านที่ครองไมค์นะ 5555 ปิดบริการเที่ยงคืน เพื่อไม่ให้รบกวนแขกอื่นๆจ้า

-ราคา 1,700 ต่อคน ไม่มีชาร์จเพิ่ม แค่กินกุ้ง กินปูตัวใหญ่ๆก็คุ้มแล้ว ประทับใจมากกก หากมีโอกาสจะกลับไปอีกแน่นอนค่ะ !

-สอบถามรายละเอียด จองห้องพักได้ที่ Facebook พาเพลิน โฮมสเตย์ จันทบุรี โทร 092-8458365 คุณเกรซ (แอดไลน์ได้เลย) ต้องรีบจองนะจ๊ะ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว เพราะที่นี่เขาฮอตตตตมาก