สวัสดีจ้าาา วันนี้จะมารีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roomba e5 จากแบรนด์ IRobot บริษัทอันดับต้นๆเรื่องนวัตกรรมเลยก็ว่าได้ ซึ่งเขาพัฒนาเครื่องดูดฝุ่นกันมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบันรุ่น Roomba e5 แล้วจ้าา เรียกได้ว่า อัดเเน่นทุกเทคโนโลยีใหม่ๆในเครื่องนี้กันเลยทีเดียว
ทำไมถึงเลือกใช้เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น?
เพราะที่บ้านมีน้องหมาไซบีเรียน แล้วปัญหาใหญ่ที่พบก็คือ ขนของน้องหมาจะกระจายอยู่เต็มบ้านตลอดเวลา แม้จะกวาดบ้านทุกวันก็ยังเจอปัญหาขนที่กระจายทั่วบ้านตามมุมต่างๆ ขนาดจุดที่เข้าไม่ถึงอย่างใต้เตียงเพียง 1 สัปดาห์ก็จะเยอะเป็นพิเศษ!! ขนาดเอามายัดหมอนแทนนุ่นได้!! หมาอะไรปัญหาจะเยอะขนาดนี้
ครั้นจะใช้เครื่องดูดฝุ่นธรรมดาก็ขี้เกียจไปอี้กกก ต้องเดินรอบบ้านเหมือนกวาดบ้านอยู่ดี ก็เลยคิดเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเนี่ยมันน่าจะตอบโจทย์ความขี้เกียจกับบ้านที่แสนสะอาดของเราได้ดีที่สุดแล้ว ว่าแล้วก็ลองใช้กันเลยดีกว่าว่าเจ้าเครื่องดูดฝุ่น Roomba e5 จะตอบโจทย์ของเรากันไหม
เปิดกล่อง รีวิว Roomba e5
เปิดกล่องมาดูกันว่าทาง IRobot เขาให้อุปกรณ์อะไรมาบ้าง เริ่มจาก
- หุ่นยนต์ทำความสะอาด รุ่น Roomba e5
- แท่นชาร์จแบตเตอรี่ (Home Base) 1 เครื่อง พร้อมสายไฟ
- ฟิลเตอร์กรองฝุ่น 1 ชิ้น (ไม่รวมภายในเครื่อง ที่มีมาให้อยู่แล้ว)
- อุปกรณ์สร้างผนังจำลอง Virtual Wall 1 เครื่อง
- แบตเตอรี่ไซส์ AA 2 ก้อนคู่มือการใช้งาน
- ใบรับประกันเครื่องเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอร์รี่ 1 ปี*
สำหรับตัวเครื่องRoomba e5 ดีไซน์จะเป็นทรงกลม เหมือนหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วไป มีหูหิ้วสำหรับยกจับตัวเครื่องได้อย่างสะดวกสบาย
ส่วนด้านบนตัวเครื่องจะเป็นหน้าจอแบบ LED เเสดงผลไฟและสถานะต่างๆของตัวเครื่อง มีปุ่มที่กดได้อยู่ด้านบน 3 ปุ่ม เป็นเเผงควบคุมตัวเครื่อง ซึ่งการใช้งานไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด
1. ปุ่ม Home สั่งการให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นกลับเข้าแท่นชาร์ต (Home Base)
2. ปุ่ม Clean สั่งการเปิด/ปิด เครื่อง
3. ปุ่ม Clean Spot สั่งการให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำการดูดฝุ่นเฉพาะจุดที่ต้องการ ในพื้นที่ประมาณ 1 ตารางเมตร โดยหุ่นยนต์จะหมุนวนเป็นก้นหอยออกไป
และด้านบนสุดของตัวเครื่องจะมีปุ่มเซ็นเซอร์ (Sensor) ซึ่งถ้าพูดถึงเซ็นเซอร์ของตัวเครื่องRoomba e5 แล้ว รุ่นนี้มีระบบเซ็นเซอร์ (Sensor) อยู่หลายจุด เป็นระบบนำทางเทคโนโลยีใหม่ iAdapt 1.0 ที่คิดคำนวณการเดินแต่ละครั้งด้วยเซ็นเซอร์รอบตัว และ ระบบประมวล เดินเลาะขอบ เดินวนรอบเฟอร์นิเจอร์
นอกจากนี้ ใต้ตัวเครื่องยังมีความพิเศษมากมาย อย่างเซ็นเซอร์ (Sensor) 4 จุด ที่ตรวจจับเพื่อป้องกันการตกจากพื้นต่างระดับหรือบันได
ที่พิเศษคือเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละออง Dirt Detect หุ่นยนต์จะทำงานซ้ำในบริเวณที่ตรวจจับฝุ่นพบเป็นพิเศษ อีกทั้งกรองสารก่อภูมิแพ้และไรฝุ่นได้ โดยเฉพาะสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง 99% เหมาะสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงอย่างมากกกก
ใต้เครื่องยังมีแปรงปัดแบบหมุนได้ ที่ใช้ปัดเศษผงรอบๆให้เข้าสู่ตัวเครื่อง พร้อมทั้งชุดแปรงยางคู่ สีเขียวที่ออกแบบมาใหม่ รูปตัว V ทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น ส่วนการเคลื่อนไหวเป็นระบบขับเคลื่อนสองล้อและล้อหน้าสำหรับการหมุนตามทิศทาง
ข้างล้อหน้าจะมีเซ็นเซอร์ 2 ตัว เป็นหน้าสัมผัสอลูมิเนียมธรรมดาสำหรับชาร์จไฟ โดยตอนชาร์จจับตัวเครื่อง หันให้ปุ่มด้านบนเครื่องดูดฝุ่นและปุ่มบนแท่นชาร์จ ที่คาดว่าน่าจะเป็นตัวเซ็นเซอร์ของทั้งคู่ให้เข้าหากัน จากนั้นไฟที่แท่นชาร์จก็ขึ้นก็เป็นอันเรียบร้อย
หรือจะเรียกให้หุ่นยนต์กลับเข้า Home Base แบบอัตโนมัติก็ให้กดที่ปุ่ม Home บนตัวเครื่อง เครื่องดูดฝุ่นก็จะนำตัวเองกลับเข้าแท่นชาร์จ ซึ่งการชาร์ตครั้งหนึ่ง สามารถได้งานได้ถึง 90 นาที ก็ยาวนานที่จะให้บ้านสะอาดได้เลย
ขั้นตอนการใช้งาน
วิธีการใช้งานค่อนข้างง่าย ตรงๆกดปุ่ม Clean เครื่องก็เปิดหุ่นนังเเจ๋ว Roomba ก็ทำงานดูดฝุ่นไป ไม่ต้องตั้งค่าเซทอะไรให้ยุ่งยาก ง่ายๆหุ่นยนต์มันก็จะเดินเป็นเส้นตรงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชนสิ่งกีดขวาง แล้วก็จะหมุนตัวเพื่อหันไปเดินทางอื่น เออ ง่ายดี พอเจอทางต่างระดับเซ็นเซอร์ที่ตัวเครื่องก็รับรู้ หมุนตัวไปทางอื่น
และด้วยคุณสมบัติพิเศษตรวจจับฝุ่นละออง Dirt Detect หุ่นยนต์จะทำงานซ้ำในบริเวณที่ตรวจจับฝุ่นพบเป็นพิเศษ ทำให้การเดินของหุ่นยนต์จะซ้ำบริเวณเดิมๆ แต่ทำความสะอาดได้ทั่วถึงทุกพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งตัวหุ่นยนต์ยังสามารถเคลื่อนที่บนพรมได้อีกด้วย
ที่ถูกใจกว่าก็คือความสามารถของหุ่นยนต์ที่ เข้าถึงจุดที่ยากต่อการทำความสะอาดอย่างใต้เตียง!!! เพราะเป็นจุดอับและขนหมาเข้าไปอยุ่เยอะที่สุด หลังจากได้ใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roomba e5 แล้วรู้สึกประทับใจ แค่เปิดทิ้งไว้ให้หุ่นยนต์เดินรอบบ้านก็ช่วยให้ขนหมาน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
การใช้งาน Visual Wall*
อุปกรณ์สร้างผนังจำลอง Virtual Wall จะมีสวิตต์เปิด-ปิด 3 ระดับ คือ
เลื่อนขึ้น – เพื่อใช้งานเสมือนกำเเพงล่องหน กันไม่ให้หุ่นยนต์เข้ามาในส่วนพื้นที่ที่คุณไม่ต้องการให้หุ่นยนต์เข้ามา
เลื่อนตรงกลาง – ปิดการใช้งาน
เลื่อนลงสุด – เพื่อสร้างเเนวกำเเพงเสมือนรูปแบบวงกลม ไม่ให้หุ่นยนต์เข้าใกล้ในส่วนเฉพาะที่คุณต้องการปกป้อง อาทิเช่น แจกัน ชามข้าวสัตว์เลี้ยง
*ใส่แบตเตอรี่ AA 2 ก้อน เพื่อใช้งานอุปกรณ์
การสั่งการผ่านเเอพพลิเคชั่น
รุ่นนี้สามารถสั่งงานผ่านเเอพพลิเคชั่น IRobot ผ่าน WI-FI ของเครื่อง Roomba e5 ได้ โดยดาวน์โหลดเเอพลิเคชั่น IRobot
จากนั้นทำการเปิดเเอพ เพื่อทำการตั้งค่าเชื่อมต่อกับเครื่องดูดฝุ่น
- ทำการเพิ่มรุ่นเครื่องดูดฝุ่น Roomba ทำการกด ต่อไปเรื่อยๆ
2. เลือก WIFI ที่จะให้หุ่นยนต์เชื่อมต่อ จากนั้นกดที่ปุ่ม HOME และ SPOT ค้างไว้ 2 วินาที ระบบเชื่อมต่อ WIFI จะถูกเปิด จากนั้นให้ทำการเลือกที่ตั้งค่าในมือถือให้เชื่อมต่อกับชื่อหุ่นยนต์ของเราที่ตั้งไว้ อล้วทำการกดต่อไปจนสิ้นสุดการเชื่อมต่อก็เป็นอันเชื่อมต่อสมบูรณ์
เมื่อเข้ามาในตัวเเอพฯจะพบโหมดสั่งการ การทำงานเครื่อง 3 ส่วนหลัก
- ปุ่มสั่งการ ทำควาสะอาด Clean
- History ประวัติการใช้งานหุ่นยนต์
- Schedule ตั้งเวลาให้หุ่นยนต์การทำความสะอาด
วิธีทำความสะอาดเครื่องดูดฝุ่น
เมื่อพลิกใต้เครื่องจะพบว่าถังที่บรรจุเศษฝุ่นที่ดูดเข้ามาจะเต็มอยู่ในถัง รวมถึงเส้นผมหรือขนสัตว์ที่ถูกดูดเข้ามาในตัวเครื่องก็จะพันยุ่งเหยิง ตามแปรงปัดและแปรงยางรูปตัว V
แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ Roomba e5 เพราะอีกหนึ่งความพิเศษของ Roomba e5 ซึ่งเป็นรุ่นแรกของ iRobot ที่ล้างน้ำได้!! แต่เฉพาะตัวถังบรรจุเศษฝุ่นเท่านั้นนะจ๊ะ ขั้นตอนง่ายๆให้ทำการกดปุ่มด้านข้างตัวเครื่องที่เป็นรูปถังขยะ เพื่อนำตัวถังออกมา ข้างตัวถังจะมีสัญลักษณ์บอกอย่างชัดเจน ว่าส่วนไหนล้างน้ำได้และไม่ได้
ส่วนที่ล้างน้ำไม่ได้จะเป็นฟิลเตอร์ แต่จะสามารถถอดออกมาเพื่อนำมาเคาะเศษผงออกได้ เเละสามารถเปลี่ยนอันใหม่ได้ทุกๆ 2 เดือน ตรงนี้ก็จะมีสัญลักษณ์บอกอย่างชัดเจน ว่าล้างน้ำไม่ได้
ส่วนเส้นผมและขนสัตว์ที่พันยุ่งเหยิงตรงแปรงปัดหมุน ให้ใช้ไขควงหมุน ส่วนล้อหน้าก็สามารถถอดออกมาเพื่อปัดฝุ่นได้เช่นกัน
ส่วนของแปรงรูปตัว V จะมีปุ่มกดเพื่อถอดแปรงออกมาเพื่อทำความสะอาดดึงเส้นผมออกได้ ถือว่าเจ๋งเลยมาก เพราะเครื่องดูดฝุ่นส่วนมากเส้นผมจะเข้าไปพันอยู่เยอะมาก รวมทั้งขนสัตว์ ถือว่าตอบโจทย์การใช้เลยทีเดียว
สำหรับราคาของ IRobot Roomba e5 ค่อนข้างมีราคาหน่อย แต่ถ้าถามถึงประสิทธภาพที่ได้รับ ถือว่าเป็นการใช้จ่ายที่คุ้มค่ากันเลยทีเดียว ใครอ่านแล้วสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ website : https://www.irobotthailand.com/