6 เมนูกลิ่นชวนสะพรึง แต่ชิมแล้วบอกเลยอร่อยเริ่ด!

โดยทั่วไปแล้วอาหารไทยช่างมีรสชาติและกลิ่นที่หอมหวนชวนลิ้มลอง แต่ก็มีบางชนิดที่มีกลิ่นแรง ซึ่งทาง CNN ได้มาแนะนำ 6 อาหารไทยกลิ่นชวนสะพรึง แต่เราขอเตือนคุณไว้ก่อนว่าอย่าตัดสินแค่กลิ่นก่อนได้ชิม เพราะมันอร่อยมากกกกกก พร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย

1.ผัดสะตอ

อาหารจานเด็ดจากถิ่นปักษ์ใต้ ที่มีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ มีสะตอเป็นส่วนประกอบหลักผัดกับพริก กะปิ เนื้อสัตว์ เช่นไก่ หมู เนื้อ หรือกุ้ง ซึ่งแม้จะมีกลิ่นแรง แต่คนไทยจำนวนไม่น้อยกลับยกให้เป็นอาหารจานโปรด เพราะมีรสชาติอร่อยที่คาดไม่ถึง อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยมีรายงานว่าสะตอ มีประโยชน์ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมัน ป้องกันภาวะโลหิตจาง ลดความเครียด อาการท้องผูก และช่วยลดอาการเมาค้างได้อีกด้วย

ผัดสะตอเป็นอาหารจานเด็ดที่นิยมรับประทานคู่กับข้าวสวย สามารถหาซื้อได้อย่างแพร่หลายในตลาดทั่วไป ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด แต่น่าเสียดายที่หายากในร้านอาหารหรือซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะกลิ่นของมันนั่นเอง

ระดับความแรงของกลิ่น 5/5

 

2.ข้าวคลุกกะปิ

Cr: Kapook

เมนูอร่อยที่นำข้าวสวยมาคลุกเคล้ากับกะปิ จัดจานเคียงคู่กับหมูหวาน ไข่ทอดชะอม ผักต้ม นับเป็นอีก 1 อาหารจานโปรดของใครหลายๆคน เพราะมีสารอาหารต่อร่างกายครบถ้วนในจานเดียว แต่เมื่อรับประทานอิ่มแล้วต้องหาหมากฝรั่งรสมิ้นท์มาช่วยดับกลิ่นกันเลยทีเดียว

เราสามารถหาซื้อข้าวคลุกกะปิได้ในร้านอาหารทั่วไป ซึ่งบางคนยังชอบที่จะกินคู่กับกุ้งและมะม่วงเปรี้ยวซอย เพิ่มรสชาติให้เด็ดยิ่งขึ้นอีกด้วย

ระดับความแรงของกลิ่น 3/5

 

3.ส้มตำปลาร้า

ส้มตำอาหารยอดฮฺตของไทยที่ดังไกลไปทั่วโลก จากต้นกำเนิดในภาคอีสาน นำมาปรุงใส่ปลาร้า ซึ่งผลิตจากปลาที่ผ่านการหมักดอง รับประกันความแซ่บนัวของรสชาติ ซึ่งบางคนนิยมให้เพียงน้ำปลาร้า แต่ก็มีคนไม่น้อยที่ชอบจะให้ใส่เนื้อปลาเป็นตัวๆลงไปด้วย บางคนสั่งแบบดับเบิ้ลกับเมนูส้มตำปูปลาร้า ที่จะใส่ปูเค็มลงไปด้วย เพิ่มรสชาติไปอีกแบบ

แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกส้มตำแบบไหน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือข้าวเหนียว ขนมจีน ไก่ย่าง ไก่ทอด หมูย่าง น้ำตก ตับหวาน เพิ่มความแซ่บให้มื้อของคุณอร่อยเด็ดสุดๆ

คำเตือน: อย่านำจานส้มตำปลาร้าไปวางในห้องแอร์เด็ดขาด เพราะกลิ่นของมันจะอบอวลอยู่ในห้องเป็นชั่วโมงเลยล่ะ

ระดับความแรงของกลิ่น 4/5

 

4.เต้าเจี้ยวหลน

เต้าเจี้ยวหลน มีส่วนประกอบจากเต้าเจี้ยวที่ทำจากถั่วหมัก มาปรุงกับกะทิ พริก ซึ่งด้วยหน้าตาและกลิ่นของมันแล้ว ทำให้บางคนต้องเบือนหน้าหนีและจินตนาการว่าดูเหมือนอ้วกเด็กเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามก็มีนักชิมจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบเมนูนี้ เพราะรสชาติอร่อย หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป และมีประโยชน์ต่อร่างกายเมื่อได้รับประทานคู่ผักสด ผักต้ม และข้าวสวยร้อนๆ

ระดับความแรงของกลิ่น 3/5

 

5.ปลาเค็ม

Cr: totikky tikky

ปลาเค็ม คือการนำปลามาใส่เกลือแล้วนำไปตากแห้ง จากนั้นนำมาทอดในน้ำมัน พร้อมส่งกลิ่นตุๆอันเป็นเอกลักษณ์คลุ้งไปทั้งครัว ปลาเค็ม เป็นอาหารจานง่าย หั่นพริก หัวหอม บีบมะนาว ส่งกลิ่นเย้ายวนชวนให้ลิ้มลองกับข้าวต้มร้อนๆสักถ้วย ให้อร่อยเสร็จสรรพ

คุณสามารถหาซื้อปลาเค็มแบบสดในเมืองใกล้ชายทะเล เพราะมีปลาทะเลหลากหลายชนิดให้เลือก หรือในกรุงเทพก็มีให้เลือกในตลาดทั่วไปด้วยเช่นกัน

ระดับความแรงของกลิ่น 4/5

 

6.ข้าวเหนียวทุเรียน

Cr: Kapook

ทุเรียน เจ้าของสมญานามว่าเป็นราชาของผลไม้ ที่มาพร้อมกลิ่นอันรุนแรง ที่ว่ากันว่าถ้าใครไม่รักก็จะเกลียดไปเลย ซึ่งนอกจากจะนำมากินสดๆแล้ว ยังสามารถกินกับข้าวเหนียวและน้ำกะทิ ได้อีกด้วย

มีข้อมูลว่าทุเรียน เป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์นานาชนิด เต็มเปี่ยมไปด้วยสิตามิน B, C และ E มีธาตุเหล็กสูง อุดมไปด้วยกรดอะมิโน ช่วยลดความตึงเครียด แก้อาการนอนไม่หลับ เพิ่มความสดชื่น เพิ่มระดับ serotonin ในสมองอีกด้วย

ถึงแม้บางคนจะเกลียดกลิ่นแรงๆของทุเรียน แต่หากได้ลองชิมแล้ว บางทีอาจต้องเปลี่ยนใจ เพราะมีรสชาติอร่อยเด็ด แต่เตือนไว้ก่อนว่าอย่านำเข้าห้องแอร์ รถประจำทาง หรือแม้กระทั่งตู้เย็น หากไม่ได้รับการบรรจุกล่องที่ดี เพราะกลิ่นของมันจะอบอวลไปอีกหลายวันเลยล่ะ

ระดับความแรงของกลิ่น 3/5

ขอบคุณข้อมูลจาก CNN