พามาเที่ยวเกาหลีในอีกมุมมอง ได้อารมณ์เหมือนฉากในซีรีส์แนวสืบสวน กับการชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เรือนจำซอแดมุน (Seodaemun Prison History Museum) หรือเรียกสั้นๆว่า ‘คุกเกาหลี’ นั่นเอง ที่นี่คือคุกจริงที่ทางการญี่ปุ่นใช้ขังและทรมานนักโทษเกาหลีสมัยสงครามโลกครั้งที่1
ตั้งอยู่ในสวนอิสรภาพซอแดมุน (Seodaemun Independence Park) ถูกสร้างขึ้นในช่วงใกล้สิ้นสุดราชวงศ์โชซอน การเดินทางง่ายมาก สถานี Dongnimmun สายสีส้มทางออก 5 แล้วเดินตรงขึ้นเนินมาอีก ประมาณ 5 นาที ก็เจอเลย อยู่ไม่ไกลจากอินซาดง ถนนช็อปปิ้งอีกสายที่สำคัญของเกาหลี
ค่าเข้าชมคนละ 3,000₩ เมื่อได้เข้าไปพ้นกำแพงสูง จะเห็นบรรยากาศภายในกว้างขวางมาก มีต้นไม้ปลูกเป็นแนว ยิ่งช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะยิ่งสวย บวกกับตึกสีอิฐหลายหลังตั้งกระจายกันภายในรั้ว ให้ความรู้สึกสวยงาม และเงียบสงบวังเวง ไปในเวลาเดียวกัน วันที่เราไปมีเด็กๆมาทัศนศึกษาด้วย
คุกแห่งนี้ถูกญี่ปุ่นใช้เป็นที่คุมขังและทรมานนักโทษเกาหลีหลายพันคน ที่พยายามปฏิวัติในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ต่อเนื่องเกือบ 80 ปี (1908-1987) ถ้าคนเกาหลีได้ไปเที่ยวคงมีอารมณ์เกลียดชังชาวญี่ปุ่นมากๆเลยทีเดียว
ผ่านเข้าห้องโถงใหญ่มีรูปคนติดเต็มผนังนับพันๆภาพ เมื่อดูใกล้ๆก็คือรูปของชาวเกาหลีที่เคยถูกคุมจงขังที่นี่ นอกจากผู้ชายแล้ว ยังมีเด็ก ผู้หญิง คนแก่ มีการเปิดคลิปเสียงของนักโทษ เป็นอะไรที่ขนลุกและสะเทือนใจสุด แล้วบรรยากาศวังเวงมาก เราทนอยู่ได้ไม่นานก็ต้องเดินออกไป เพราะเกิดความรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก
เดินต่อไปเจอห้องประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ บรรยากาศห้องมืดๆทึมๆ ใครขวัญอ่อนจะรู้สึกกลัวเลยทีเดียว มีภาพของนักโทษที่ต้องจบชีวิตที่นี่ คือแค่ห้องมืดอย่างเดียวก็น่ากลัวแล้ว นี่ยังมีคลิปเสียงมาบิ้วให้น่ากลัว×10ไปอีก
มีการจำลองวิธีทรมานนักโทษ เช่นห้อยหัวราดน้ำร้อน ตอกเล็บ อุปกรณ์ทำร้ายและใช้คุมขัง โซ่ตรวน ฯลฯ
อีกหนึ่งการทรมานคือตู้ห้องขังเดี่ยวซึ่งแคบและมืดมาก แล้วก็เปิดคลิปเสียงนักโทษกรีดร้องตอนทรมาน มีการจำลองชีวิตนักโทษในห้องขัง ซึ่งดูเหมือนคนจริงๆเลย หันไปเจอนี่หัวใจจะวาย
ตัวอย่างของใช้ของนักโทษ เราเคยอ่านเจอชีวิตนักโทษที่นี่ลำบากมาก โดนทรมานสารพัด ต้องถูกใช้แรงงานทาส แล้วอากาศก็หนาวติดลบ ทรมานแสนสาหัส โดยเฉพาะนักโทษหญิง บางคนต้องคลอดลูกในคุก แล้วยิ่งช่วงนั้นมีโรคเรื้อนระบาด ยิ่งทำให้หดหู่ไปกันใหญ่
เดินต่อมาอีกอาคารจะเป็นห้องคุมขังนักโทษ ภายในบางห้องจะจัดนิทรรศการบรรยายเรื่องราวที่เกี่ยวกับนักโทษ
แหงนหน้ามองตรงเพดาน มีผู้คุมเข้าเวรคอยจ้องมองนักโทษอยู่ตลอดเวลา
เดินมาด้านนอกจะมีลานให้นักโทษออกกำลังกาย ซึ่งเป็นช่องแคบมากได้แค่คนเดินสวนกัน และกำแพงหลังมีประตูช่องเล็กๆเอาไว้ขนศพนักโทษที่เสียชีวิตนั่นเอง
ปิดท้ายบรรยากาศรอบๆทั้งสวยทั้งวังเวง มุมมหาชนคือธงชาติเกาหลีผืนยักษ์ ที่ใครมาถึงก็ต้องแวะแชะภาพเป็นที่ระลึก
และนี่เป็นอีกสถานที่เที่ยวเกาหลีอีกรูปแบบที่อยากให้ได้ลองไปสัมผัส เพราะจะได้เห็นอีกมุมของเกาหลีในมิติที่ไม่เคยรู้จัก ได้เห็นบาดแผลและคราบน้ำตาของประวัติศาสตร์ ที่จะให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ และระลึกถึงความทรงจำนี้ตลอดไป