moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

Money Space สะดวก ปลอดภัย ค่าธรรมเนียมเเสนถูก กับอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ online paymentของเเม่ค้าออนไลน์

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับเเม่ค้าเปิดร้านค้าออนไลน์ ผ่านFacebook/IG ที่กำลังหาช่องทางonline payment , Payment Gateway ที่สะดวก ใช้งานง่าย ปลอดภัยระดัยสากล

ทำไมต้อง Money Space ?

Money space เป็น Payment Gateway ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยด้วยระบบ SSL (Security Socket Layer) ที่เป็นเทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการส่งข้อมูล รวมถึงได้รับการรับรองความปลอดภัยในระดับสากลจาก PCI DSSเเละยังได้รับใบอนุญาตจากธนาคารกลางประเทศสิงคโปร์ และธนาคารแห่งประเทศไทยอีกด้วย ที่สำคัญค่าธรรมเนียมเเสนถูก!! 

เเล้วมีความจำเป็นที่ต้องถอนเงินเข้าออก เพื่อคืนเงินให้ลูกค้าในบางกรณีเเล้วล่ะก็ Money Space ก็จะบริการให้ฟรีก่อนเวลา 20:00 เเต่หากหลังเวลา 20:00 จะคิดค่าเฉพาะค่าธรรมเนียมรูดบัตรเท่านั้น!

เเละร้านค้าของคุณสามารถรับบัตรชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ได้จากทุกธนาคารที่มีเครื่องหมาย VISA / Master Card / JCB และ Union Pay ได้อีกด้วย!!  Money space ไม่มีข้อจำกัดว่าร้านค้าของคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ Money space ก็สามารถให้คุณเปิดบริการ Payment Gateway  ได้โดยไม่ต้องวางมัดจำหรือค้ำประกันใดๆ ถือว่าเป็นตัวเลือกใหม่ที่สะดวก เเละเชื่อถือได้ ว่าเเล้วก็มาดูขั้นตอนการสมัครใช้อย่างง่ายได้เลยจ้า

ขั้นตอนการสมัครใช้ Payment Gateway ของ Money space

  1. เข้าเว็บไซต์ https://www.moneyspace.net/ กดปุ่ม “สมัครบริการ” พร้อมกรอกรายละเอียดข้อมูล

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

2. หลังจากสมัครเรียบร้อยระบบจะทำการส่งอีเมลไปยัง อีเมลที่คุณทำการกรอกตอนสมัครบริการ ให้ทำการเช็คอีเมลของคุณเเละกดเพื่อยืนยันการสมัครที่ลิ้งค์ (เเถบสีเเดง)

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

3. หลังจากทำการยืนยันเรียบร้อยเเล้วให้กลับไป เพื่อกดเข้าสู่ระบบ

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อยเเล้ว ให้ กดที่เเถบเมนูด้านขวาเลือก “เเก้ไขข้อมูลส่วนตัว”

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

4. ทำการยืนยันตัวตนเเละเซ็นสัญญา เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง โดยการส่งข้อมูลตามนี้

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

4.1 กรอกข้อมูลส่วนตัว เพื่อให้ทาง Money Space ติดต่อเเละสามารถตรวจสอบได้

4.2 ทำการถ่ายรูปตนเองคู่กับบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนเเละสามารถให้ทาง Money Space ตรวจสอบได้

4.3 กด เซ็นสัญญา เพื่อกรอกข้อมูลเริ่มดำเนินการบริการ

เมื่อส่งเอกสารเเล้วก็รอทาง Money Space อนุมัติเพื่อยืนยันตัวตน ประมาฯ 2-3 วัน เเล้ว สถานะจะถูกเแลี่ยนเป็น “เอกสารได้รับการยืนยันเรียบร้อยเเล้ว”

5. กด เลือกที่เเถบเมนูขวาบน เเล้วกดเลือก บัญชีธนาคาร เพื่อกรอกข้อมูลบัญชีเเละอัพโหลดภาพน้าบุ๊คเเบงค์เพื่อทำการตรวจสอบ  เท่านี้ก็เป็นอันที่เรียบร้อย

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

6. ภายหลังทำการ ยืนยันตัวจนเรียบร้อยเเล้ว คุณก็จะสามารถใช้บริการได้ โดยการนำลิ้งค์ทางเข้าการชำระเงินไปวางได้ที่ร้านค้าของคุณ

อีกหนึ่งบริการดีดีที่สะดวกสบาย เเละเชื่อถือได้ เเม่ค้าออนไลน์สนใจ ติดตามบริการเเละช่องทางสมัครได้ที่ https://www.moneyspace.net/

Nigh-Oil-Control-Moisturiser-SPF-Oriental-Princess-สิวหน้ามัน-

คุมมัน ปราบสิวครอบคลุมทั้งกลางวันเเละกลางคืนด้วย Oriental Princess

ฮ้ายยย…สาวไหนมีปัญหาหน้ามัน เป็นสิวใช้อะไร เป็นสิวทำอย่างไร เรื่องสิวๆ ที่ไม่สิวเมื่ออยู่บนหน้า  ครั้นจะหาครีมสักตัว ก็ไม่รู้ตัวไหนจะดีถูกใจ ไม่ทำให้ให้หน้ามันไปอีก วันนี้เลยจะมาเเนะนำครีมอีกหนึ่งตัว ซึ่งป้องกันลดสิวเเละรักษาสิวได้ดีไม่เเพ้กันเลยทีเดียว นั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์จากเเบรนด์ Oriental Princess 2 ตัว อย่าง Clarifying Night Serum (เคลียริไฟร์อิ่ง ไนท์ ซีรั่ม) เเละ Oil Control Moisturiser SPF 15 (ออยล์ คอนโทรล มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เอสพีเอฟ 15)

Nigh-Oil-Control-Moisturiser-SPF-Oriental-Princess-สิวหน้ามัน-

โดยคุณสมบัติของสองตัวนี้จะช่วยป้องกันความมันอันเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว พร้อมทั้งเสริมสร้างผิวใหม่ที่เกิดจากเเผลเป็นของสิว เดี๋ยวเราจะมาเจาะลงดีเทลเเต่ละตัวกันเลยจ้า ว่าเเล้วก็ไปดูผลิตภัณฑ์กันเลยจ้า…..

ตัวเเรก Clarifying Night Serum (เคลียริไฟร์อิ่ง ไนท์ ซีรั่ม)

เสริมสร้างผิวใหม่ให้กับผิวที่มีรอยด่างดำจากแผลสิว และหมองคล้ำ พร้อมฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวชั้นนอก ที่ถูกทำร้ายจากการอักเสบของผิวหนัง ปรับผิวให้เรียบเนียน ในเวลากลางคืน โดยไม่เพิ่มความมัน

Nigh-Oil-Control-Moisturiser-SPF-Oriental-Princess-สิวหน้ามัน-

Nigh-Oil-Control-Moisturiser-SPF-Oriental-Princess-สิวหน้ามัน-

Package & Texture (บรรจุภัณฑ์เเละตัวผลิตภัณฑ์)

ตัวบรรจุภัณฑ์จะเป็นขวดพลาสติกหัวปั๊ม มีโลโก้ Oriental Princess เเละ บอกชัดเจนว่าAnti Acne Formula with Natural expert care สูตรป้องกันสิว ส่วนตัวผลิตภัณฑ์จะเป็นน้ำเซรั่ม Serum ใสๆ ซึมเร็วดี ติดตรงกลิ่น ไม่หอมเท่าที่คิด กลิ่นจะเหมือนคลอรีนหน่อยๆ

Nigh-Oil-Control-Moisturiser-SPF-Oriental-Princess-สิวหน้ามัน-

วิธีใช้ : ลูบไล้ทั่วใบหน้า และลำคอในเวลากลางคืน ควรใช้ต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน

ตัวที่สอง Oil Control Moisturiser SPF 15 (ออยล์ คอนโทรล มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เอสพีเอฟ 15)

ดูแลความมันตามธรรมชาติของผิวให้อยุ่ในภาวะสมดุล พร้อมดูดซับความมันส่วนเกินบนผิวหน้าให้ลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผิวอักเสบระคายเคืองลดลง สิวแห้ง และยุบตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมค่า SPF ที่ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำลายของรังสียูวีในแสงแดด

Nigh-Oil-Control-Moisturiser-SPF-Oriental-Princess-สิวหน้ามัน-

Package & Texture (บรรจุภัณฑ์เเละตัวผลิตภัณฑ์)

ตัวบรรจุภัณฑ์จะเป็นหลวดพลาสติกหัวบีบ มีโลโก้ Oriental Princess เเละ บอกชัดเจนว่าAnti Acne Formula with Natural expert care สูตรป้องกันสิว ส่วนตัวผลิตภัณฑ์จะเป็นครีมเนื้อเเน่น มันๆ มุกๆ กลิ่นคล้ายๆกับตัว Clarifying Night Serum (เคลียริไฟร์อิ่ง ไนท์ ซีรั่ม)เเต่หอมกว่า

วิธีใช้ : ใช้ทาบำรุงทั่วใบหน้าและลำคอ เพื่อบำรุงและปกป้องสภาพผิวในช่วงเช้าเป็นประจำทุกวัน

Nigh-Oil-Control-Moisturiser-SPF-Oriental-Princess-สิวหน้ามัน-

 

สาวๆคนไหนสนใจมาตำกันได้ที่

ช่องทางการติดตามข้อมูลข่าวสาร
http://www.orientalprincess.com/

 

 

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

เปิดว้าป!! ห้างใหม่ของชาว Sylvanian กับชุด Grand Department Store

สวัสดีจ๊ะ สาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลายตอนเด็กๆเราต้องมีอารมณ์อยากได้ของเล่น บ้านครบชุดกัน หรือห้างสรรพสินค้า ครบเซตกันบ้างใช่ไหมละ  กว่าจะมีออกมาขาย ก็ต้องรอกันมานาน  แต่!!! ตอนนี้ไม่ต้องรอให้เสียเวลาแล้ว  เพราะตอนนี้ซิลวาเนี่ยนได้ยกเซตใหม่ มาครบชุดกันถึงประเทศไทยแล้ว  แน่นอนมาครั้งนี้ต้องไม่ธรรมดา ไปดูกันเลยดีกว่า  แอบตื่นเต้น  แค่กล่องก็กินขาด ความอลังแล้วว

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

ชุดใหม่ของซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ รอบนี้จัดเต็มกับ คอลเล็กชั่น Sylvanian Grand Department Store  มาพร้อมกับชุดสินค้าจากห้างสรรพสินค้า ยกมาอยู่ในเซตนี้แล้วว ไม่ว่าจะเป็นเซตโต๊ะเครื่องแป้ง ที่มาพร้อมกับเซตแต่งหน้าและน้ำหอม ร้านเค้กช้อคโกแลต  หรือแม้กระทั้ง แผนกเสื้อผ้า เครื่องประดับกุ๊กกิ๊กน่ารัก  กระเป๋า   หมวก

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

มีตัวละครที่น่ารักมาร่วมด้วยแจมในเซตนี้ เป็น แรบบิท สาวที่พร้อมจะช็อปปิ้ง ทุกแผนกในห้าง ส่วนของห้างสรรพสินค้า  เราสามาถดัดแปลงรูปแบบตามที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นมุมหน้าตึก หรือเชื่อมตึกเข้าด้วยกัน พร้อมทั้งหน้าต่าง กระจก และมีโดมที่สามารถปรับตำแหน่งได้วางหลายหลากมุม

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

 

มาเริ่มแกะกล่องกันเลย ชาว Sylvanian Families  ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้า และอาคารทรงโดม บันไดเชื่อม ตัวของห้างสรรพสินค้า เป็นแบบพับได้ สามารถกลางออก  หรือต่อเข้ากับโดม ได้ทั้งซ้ายและขวา และมีรั้ว และอุปการณ์ต่างๆถูกแพคใส่กล่องแยกออกมาอีก  พร้อมทั้งคู่มืออยู่ภายในกล่อง  ภายในกล่องยังมีสมุดนิทานเล่มเล็ก ให้อ่านได้เพลินเพลินอีกด้วย

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

ในส่วนของอุปกรณ์เล็ก มีถุงห่อแยกอยู่ในกล่อง  บรรจุมาอย่างสวยงาม  การประกอบตัวอาคาร สามารถดัดแปลง ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยน รั้วได้ที่กั้นได้ตามใจชอบ  มีลิฟท์ในตัว สามารถปรับขึ้นลงได้ตามใจชอบ อีกทั้งทางเข้าห้าง สามาถหมุนได้ ทั้งซ้ายและขวา ตามใจชอบ เดินเข้าออกได้ทั้งวัน พร้อมทั้งแรบบิทสาว 1 ตัว โซฟา  ชุดเครื่องแต่งกาย   เซตเครื่องสำอางค์ ที่บรรจุมาในแกน

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

เราสามารถหมุนแกะออกได้ อย่างง่ายดาย  ร้านเค้ก  เสื้อผ้า ที่มาพร้อมกับกล่องเก็บเข้าที่อย่างสวยงาม และข้างในมีสติ๊กเกอร์สำหรับติดกับตัวสินค้า การติดสติกเกอร์นั้นจะมีคู่มือให้เราดู  ว่าต้องติดยังไง ติดตรงไหน ไม่ทำให้เราสับสนแน่นอน การติดสติกเกอร์ ทำให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น  น่ารักมาก  มีทั้งเสื้อ ผ้า กระเป๋าให้เลือกช็อปกันอีกมากมาย  เก๋ไก๋ไปอีกแบบ

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

ชุดไม่ซ้ำใคร สามารถเปลี่ยนเครื่องแต่งกายได้ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ที่คาดผม ร่ม และ หมวก  มีมุมร้านเค้ก สำหรับพักผ่อนที่มาพร้อม บาร์ และโซฟาในเซตนี้ พร้อมทั้งเครื่องภาชะ จาน ซ้อม แก้วน้ำ ตัวเค้ก และขนมใส่ห่อ อย่างสวยงาม  ทุกอุปกรณ์ถูกแพคมาอย่างดีมาก จนไม่กล้าแกะเลย!!เอ๊ะ!! มุมนี้ก็ได้นะหรือจะมุมนี้ก็เก๋ไก๋เหมือนกันนะ

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

จุดเด่น

เซตนี้เป็น Grand Department Store ที่มีกลิ่นอายห้างสรรพสินค้าความเป็นยุโรป  แผงไปด้วยความหรูหรา สวยงาม  ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการช็อปปิ้งด้วย นั้นคือ ลิฟท์ สำหรับ ขึ้นลง สะดวกกับการช็อปปิ้ง  และยังมีมุมเก๋ๆ ประตูหมุนทางเข้าห้าง สีทองทำให้ดู อลังกาลไปอีก ตัวของอาคารสามารถปรับเปลี่ยน ตามที่เราต้องการ

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

มีบันไดเชื่อมเข้ากับตัวตึกได้หลากหลาย  เราสามารถเชื่อมเข้ากับ เซตอื่นๆของ Sylvanian Families Town ด้วยน้า ตัวห้างสรรพสินค้าสามารถพับเก็บได้ มาพร้อมกันพื้นทางเดิน สามารถจัดวางทางเดินได้หลากหลายรูปแแบบ เก๋ไก๋ไม่ซ้ำกัน ไม่ว่าจะเป็น ทางเดินที่หน้าตึก หรือ พื้นที่ของตัวห้าง

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

เอ๊ะเราจะเลือกชุดไหนดีน้า  จะเข้ากับกระเป๋าไม่น้าา  มีกระจกสามารถส่องความน่ารัก โหยย น่ารักมากจริงๆหรือเราจะเป็นมุมพักผ่อน นั่งกินเค้ก มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบมุมอยู่ที่โดมช็อปปิ้งก็มานะหรือจะยืมชมวิวก็สวยไปอีกแบบ ><

บ้านตุ๊กตาซิลวาเนียน-Sylvanian-Grand-Department-Store-บ้านตุ๊กตาน่ารัก

ชาวซิลวาเนี่ยนอย่าช้าาาา  สามารถจับเจ้าของได้ที่

ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ Central, The mall , Robinson
ร้าน Toy R Us, ร้าน Sylvanian Market @ Gateway Eakkamai

หรือสามารถสั่งซื้อออนไลน์ที่ www.kidzandkai.com
ราคา 4,990 บาท!!! คุ้มค่ามากสำหรับเซตนี้หรือสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร

Line: @thaisylvanian
Facebook :https://www.facebook.com/SylvanianOfficialThailand/
WEB SITE : http://sylvanianfamilies.net/th/

มาร่วมกันเป็น ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่

Blackmores-Astaxanthin-ผิวพรรณ-จุดด่างดำ-ฝ้า-กระ-ผิวหมองคล้ำจากเเดด-ริ้วรอย-ช่วยบำรุงเลือด-สมอง

เสริมสร้างสุขภาพเเละความงามจากภายในด้วย Blackmores Astaxanthin

ฮ้ายย…ช่วงเเนะนำความงามจากภายใน สำหรับใครที่สุขภาพหักโหม นอนดึก ผิวโทรม หน้าหม่นหมอง สายตาอ่อนล้า ความงามเริ่มถดถอยตามกาลเวลา ให้ Make Up กับครีมช่วย ก็ยังไม่สู้สุขภาพดีจากภายในเลยจ้า

วันนี้…เลยมาเเนะนำวิตามินเเละอาหารเสริมจากเเบรนด์ดังนำเข้าจากออสเตรเลีย อย่าง “Black Mores” ซึ่งตัวรีวิวนี้จะเป็น  Blackmores Astaxanthin 6 MG Plus เป็นอาหารเสริมที่สกัดจากสาหร่ายฮีมาโตคอคคัส พลูเวียลิส ที่มีสาร Astaxanthin (แอสตาแซนธิน) เเละวิตามินอี

Blackmores-Astaxanthin-ผิวพรรณ-จุดด่างดำ-ฝ้า-กระ-ผิวหมองคล้ำจากเเดด-ริ้วรอย-ช่วยบำรุงเลือด-สมอง

ช่วยในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ ดูเเลสุขภาพภูมิคุ้นกัน ผิวพรรณต่างๆ จุดด่างดำ ฝ้า กระ ผิวหมองคล้ำจากเเดด รวมถึงลดเลือนริ้วรอย นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเลือดเเละสมองในส่วนของเซลล์ร่างกายอื่นๆอีกด้วย….ว่าเเล้วก็มาดูตัวผลิตภัณฑ์กันเลยดีกว่า

Packaging (บรรจุภัณฑ์)

ตัวขวดแอสตาขวดสีฟ้า จะเป็นขวดเเก้วสีชา ฝาเปิด-ปิดล็อคเเบบสูญญากาศ มีตัวล็อคที่ฝาเปิด ครั้งเเรกที่ใช้ต้องดึงออกก่อน

Blackmores-Astaxanthin-ผิวพรรณ-จุดด่างดำ-ฝ้า-กระ-ผิวหมองคล้ำจากเเดด-ริ้วรอย-ช่วยบำรุงเลือด-สมอง

ฉลากหน้าขวด เเละด้านข้างมีรายละเอียดชัดเจน ทั้งข้อมูลตัวยาเเละวันผลิต/หมดอายุ รวมถึงมีโภชนการที่ระบุชัดเจนที่ขวด เมื่อลอกเเผ่นที่ขวดออก

Blackmores-Astaxanthin-ผิวพรรณ-จุดด่างดำ-ฝ้า-กระ-ผิวหมองคล้ำจากเเดด-ริ้วรอย-ช่วยบำรุงเลือด-สมอง

Blackmores-Astaxanthin-ผิวพรรณ-จุดด่างดำ-ฝ้า-กระ-ผิวหมองคล้ำจากเเดด-ริ้วรอย-ช่วยบำรุงเลือด-สมอง

ตัวผลิตภัณฑ์

ตัวยาจะเป็นเเคปซูลเนื้อนิ่มสีเเดง กลิ่นหอมหวานๆ ทานง่าย ภายในขวดจะบรรจุ 30 เเคปซูล

Blackmores-Astaxanthin-ผิวพรรณ-จุดด่างดำ-ฝ้า-กระ-ผิวหมองคล้ำจากเเดด-ริ้วรอย-ช่วยบำรุงเลือด-สมอง

ส่วนประกอบใน Blackmores Astaxanthin 1 เเคปซูล จะประกอบด้วย

  • สารสกัดจากสาหร่ายฮีมาโตคอคคัส พลูเวียลิส 120 มก. ให้แอสตาแซนธิน 6 มก.
  • ดี-แอลฟา โทโคฟีรอล 7.47 มก. ให้วิตามิน อี ธรรมชาติ 9.71 หน่วยสากล (ไอ.ยู.)
  • เลซิติน 100 มก. ประกอบด้วย ฟอสฟาติดิลโคลีน 32 มก. (เลซิตินเป็นไขมันชนิดฟอสโฟไลปิดซึ่งมีฟอสฟาติดิลโคลีนเป็นส่วนประกอบหลัก)

คุณสมบัติของ Blackmores Astaxanthin

  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ ให้กระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยเเละผิวหมองคล้ำจากมลภาลวะต่างๆ
  • มีอนุมูลอิสระ ป้องการการเกิดเซลล์มะเร็ง
  • ช่วยบำรุงเซลล์สมองเเละเลือด
  • ช่วยป้องกันโรคหัวใจเเละลดความดันโลหิตสูง
  • ช่วยบำรุงเรื่องสายตาอ่อนล้า รวมถึงป้องกันสุขภาพของดวงตาจากรังสี UV

ส่วนตัวได้ลองทานไป 2-3 วัน ก่อนนอน รู้สึกตื่นขึ้นมาเเล้วหัวโล่ง เเจ่มใส ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเหมือนทุกวันที่เคย สรรพคุณมากมายขนาดนี้จะรอให้ใครมาเเนะนำอีกคะ วันนี้อ่านเเล้วรีบตรงไปหาซื้อได้ตามร้านขายยาชั้นนำทั่วไปเลยจ้า

Blackmores-Astaxanthin-ผิวพรรณ-จุดด่างดำ-ฝ้า-กระ-ผิวหมองคล้ำจากเเดด-ริ้วรอย-ช่วยบำรุงเลือด-สมอง

แคสเปอร์สกี้ แลป ประเทศไทย คาดการณ์ภัยไซเบอร์ครึ่งหลังปี 2018: ภัยไซเบอร์ขั้นสูงเพิ่มความแกร่ง แถมพ่วงทูลใหม่ร้ายแรง

เมื่อช่วงต้นปีนี้ทีมวิเคราะห์และวิจัยของแคสเปอร์สกี้ แลป (Global Research and Analysis Team – ทีม GReAT) ได้เปิดโปงขบวนการภัยคุกคามทางไซเบอร์หลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มล้วนมีความซับซ้อน ใช้ทูลและเทคนิคขั้นสูง เช่น Slingshot, OlympicDestroyer, Sofacy, PlugX Pharma, Crouching Yeti, ZooPark และล่าสุด Roaming Mantis เป็นต้น

Slingshot จัดเป็นภัยไซเบอร์ที่มีความซับซ้อนใช้ในการจารกรรมทางไซเบอร์ในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาอย่างน้อยน่าจะเริ่มตั้งแต่ช่วงปี 2012 จนกระทั่งกุมภาพันธ์ 2018 โดยตัวมัลแวร์จะทำการโจมตีปล่อยเชื้อใส่เหยื่อผ่านเราเตอร์ที่มีช่องโหว่ และทำงานอยู่ในเคอร์เนลโหมด (kernel mode) สามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ของเหยื่อได้อย่างสมบูรณ์

OlympicDestroyer เป็นมัลแวร์ที่ใช้เทคนิคสร้างความเข้าใจผิด (false flag) โดยฝังมาในเวิร์ม ล่อให้ตัวตรวจจับหลงทางพลาดเป้าหมายมัลแวร์ตัวจริง ดังที่เป็นข่าวใหญ่โตในช่วงโอลิมปิกฤดูหนาวที่เพิ่งผ่านมา

Sofacy หรือ APT28 หรือ Fancy Bear เป็นกลุ่มก่อการจารกรรมไซเบอร์ที่ออกปฏิบัติการก่อกวนอยู่เนืองๆ ได้ปรับเปลี่ยนเป้าหมายมายังตะวันออกไกล หันเหความสนใจมายังองค์กรด้านการทหารและป้องกันประเทศ ด้านการทูต นอกเหนือไปจากเป้าหมายที่มักเกี่ยวโยงกับองค์การนาโต้

PlugX เป็นมัลแวร์เกี่ยวกับทูลในการทำรีโมทแอคเซส (RAT) เป็นที่รู้จักดี เมื่อเร็วๆ นี้ถูกตรวจพบในองค์กรด้านเวชภัณฑ์ที่เวียดนาม มุ่งหวังโจรกรรมสูตรยาที่มีค่ายิ่งและข้อมูลด้านธุรกิจ ประเทศไทยเองก็ถูกจัดอันดับเป็นหนึ่งในสามที่องค์กรธุรกิจด้านเวชภัณฑ์ถูกโจมตีมากที่สุด

Crouching Yeti เป็นกลุ่ม APT ใช้ภาษารัสเซียที่ถูกตามรอยมาตั้งแต่ปี 2010 เป้าหมายอยู่ที่ธุรกิจอุตสาหกรรมทั่วโลก โดยมุ่งเน้นไปที่ด้านพลังงาน เทคนิคการโจมตีที่พบใช้งานแพร่หลายได้แก่ บ่อน้ำ (watering hole)

ZooPark เป็นเคมเปญจารกรรมไซเบอร์ เหยื่อเป้าหมายคือผู้ที่ใช้แอนดรอยด์ดีไวซ์ในแถบประเทศตะวันออกกลาง อาศัยแพร่กระจายเชื้อร้ายผ่านทางเว็บไซต์ยอดนิยมที่มียอดผู้เข้าใช้งานสูง น่าจะเป็นเคมเปญที่มีรัฐบาลประเทศใดประเทศหนึ่งหนุนหลัง เน้นโจมตีองค์กรการเมืองหรือนักรณรงค์ทางการเมืองในภูมิภาคนี้

Roaming Mantis เป็นแอนดรอยด์มัลแวร์ล่าสุด แพร่กระจายด้วยการจี้ปล้นระบบโดเมนเนม (DNS) และพุ่งเป้าหมายไปที่สมาร์ทโฟนส่วนมากในเอเชีย และยังคงออกอาละวาดก่อกวนอย่างต่อเนื่อง ออกแบบมาเพื่อโจรกรรมข้อมูลของผู้ใช้ จากนั้นเข้าควบคุมแอนดรอยด์ดีไวซ์นั้น ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์และเมษายนปี 2018 นักวิจัยได้ตรวจับมัลแวร์นี้ได้จาก 150 ยูสเซอร์เน็ตเวิร์ก เช่น เกาหลีใต้ บังคลาเทศ และญี่ปุ่น

ยิ่งไปกว่านั้น นักวิจัยจากแคสเปอร์สกี้ แลปยังได้ค้นพบกิจกรรม APT จำนวนมากในแถบเอเชีย โดยรายงานต่างๆ ในไตรมาสแรกของแคสเปอร์สกี้ แลป ได้ระบุถึงปฏิบัติการภัยไซเบอร์ในภูมิภาคนี้มากกว่า 30% พบกิจกรรมที่ใช้เทคนิคใหม่ในประเทศแถบตะวันออกกลาง เช่น StrongPity APT ที่ปล่อย Man-in-the-Middle (MiTM) ออกมาโจมตีเน็ตเวิร์กของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) หลายครั้ง และผู้ก่ออาชญากรรมไซเบอร์ที่มากด้วยทักษะอีกกลุ่มหนึ่ง ได้แก่ Desert Falcons ได้วกกลับมาก่อกวนแอนดรอยด์ดีไวซ์ด้วยการปล่อยมัลแวร์ที่เคยใช้งานเมื่อปี 2014 นักวิจัยยังพบด้วยว่าหลายกลุ่มยังคงปล่อยเคมเปญเน้นเป้าหมายการโจมตีไปที่เราเตอร์และอุปกรณ์ที่ใช้กับเน็ตเวิร์ก ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันมาหลายปี เช่น Regin และ CloudAtlas เป็นต้น จากข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เราเตอร์จะยังคงเป็นเป้าหมายโจมตีอยู่เช่นนี้เพราะเป็นช่องทางเข้ายึดโครงสร้างระบบของเหยื่อได้อย่างดี

“ช่วงครึ่งแรกของปีพบกลุ่มคุกคามไซเบอร์ที่มีทักษะมีความซับซ้อนทางเทคนิคในระดับต่างๆ เกิดขึ้นใหม่หลายกลุ่ม แต่โดยรวมแล้ว กล่าวได้ว่า ต่างก็ใช้มัลแวร์ทูลที่มีอยู่แล้วทั่วไป ในขณะเดียวกัน กลับไม่พบความเคลื่อนไหวสำคัญใดจากกลุ่มดังๆ บางตัว ทำให้เราเชื่อว่าพวกนี้อาจจะกำลังคิดวางกลยุทธ์และจัดวางทีมใหม่เพื่อปฏิบัติการในอนาคต” วิเซนเต้ ดีแอซ นักวิจัยด้านความปลอดภัยอาวุโส ทีม GReAT แคสเปอร์สกี้ แลป กล่าว

 

คาดการณ์ช่วงครึ่งหลังของปี 2018

  1. มีการโจมตีซัพพลายเชนมากขึ้น แคสเปอร์สกี้ แลปตามแกะรอยกลุ่ม APT (advanced persistent threat) และปฏิบัติการของพวกนี้ได้ถึง 100 ครั้ง บางครั้งมีความซับซ้อนเหลือเชื่อ มีหลุมพรางมากมายที่ซ่อน zero-day exploits และ fileless attack tools พร้อมด้วยเทคนิคการแฮคแบบดั้งเดิม ที่ส่งต่อให้กับทีมที่เก่งเทคนิคเพื่อโจรกรรมข้อมูล เราจะเห็นว่ามีหลายกรณีที่แอคเตอร์พยายามเจาะเข้าเป้าหมายมาเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ อาจเป็นเพราะเป้าหมายที่ถูกโจมตีนั้นใช้ซอฟต์แวร์เพื่อความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตที่แข็งแกร่ง จัดอบรมให้ความรู้พนักงาน จึงไม่ตกเป็นเหยื่อผ่านวิศวกรรมสังคม หรือปฏิบัติตามแนวทาง DSD TOP35 ลดความเสี่ยงจาก APT (Australian DSD TOP35 mitigation strategies) อย่างเคร่งครัด โดยทั่วไปแล้ว แอคเตอร์ที่จัดว่าอยู่ในขั้นสูงและมีความมุมานะจะไม่ยอมเลิกลาไปง่ายๆ แต่จะคอยตามแหย่หาจุดอ่อนอยู่จนกว่าจะหาทางเจาะเข้ามาได้

จากการประเมินของเราพบว่าการเข้าโจมตีซัพพลายเชนเพิ่มจำนวนขึ้น และเช่นกันในปี 2018 เราคาดว่าจะมีการใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนเพื่อเจาะเข้าระบบ รวมทั้งการเข้าโจมตีโดยตัวของมันเอง มีการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อสร้างโทรจัน ซึ่งพบได้ในบางภูมิภาคหรือบางกลุ่ม ก็จะกลายมาเป็นวิธีการที่พบได้ เฉกเช่นเดียวกับ เทคนิคบ่อน้ำ (waterhole) ที่เจาะจงเลือกไซต์อย่างแยบยล เพื่อล้วงลึกเจาะเข้ากล่องหัวใจสำคัญของเหยื่อเป้าหมายนั้นจะเป็นวิธีที่ต้องตาต้องใจผู้ร้ายไซเบอร์บางประเภทแน่นอน

  1. มีโมบายมัลแวร์ระดับไฮเอนด์เพิ่มขึ้นเนื่องจาก iOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ จึงค่อนข้างลำบากสำหรับยูสเซอร์ที่จะเช็คเครื่องว่าติดเชื้อหรือไม่ ขณะที่แอนดรอยด์ แม้จะพบช่องโหว่อยู่ไม่น้อย แต่มีโอกาสมากกว่าที่จะใช้โซลูชั่น เช่น Kaspersky AntiVirus for Android ในการตรวจสอบดีไวซ์

จากการประเมินพบว่า จำนวนโมบายมัลแวร์ที่มีอยู่จริงๆ นั้นน่าจะสูงกว่าจำนวนที่รายงานอยู่มาก เนื่องมาจากข้อบกพร่องที่มีอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ยิ่งทำให้การระบุชี้และกำจัดยากยิ่งขึ้น เราคาดว่า ในปี 2018 จะพบ APT มัลแวร์สำหรับโมบายเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากจำนวนการโจมตีที่เพิ่มขึ้น และมีพัฒนาการของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ออกแบบมาเพื่อไล่ล่ามัลแวร์พวกนี้

  1. มีจุดอ่อนแบบ BeEF เพิ่มจำนวนขึ้นเพื่อคอยเก็บข้อมูลเนื่องจากระบบปฏิบัติการปัจจุบันให้ความสำคัญและใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยและบรรเทาความเสียหายที่มีศักยภาพดีขึ้น ทำให้สนนราคาของ zero-day exploits ได้ถีบตัวสูงขึ้นในช่วง 2016 และ 2017 เทคนิคการรวบรวมข้อมูลเหล่านี้สอดคล้องกับกลุ่ม APT เช่น Turla และ Sofacy และ Newsbeef (รู้จักในชื่อ Newscaster, Ajax hacking team หรือ ‘Charming Kitten’) และกลุ่ม APT อีกกลุ่มก็มีวิธีการรวมข้อมูลที่รู้จักกันดี เช่น Scanbox เมื่อพิจารณาวิธีการทำงานเหล่านี้ผนวกกับความจำเป็นในการป้องกันทูลที่มีราคาแพง คาดว่าการใช้ ทูลคิทในการเก็บข้อมูล เช่น ‘BeEF‘ จะเพิ่มจำนวนขึ้นในปี 2018 เพราะหลายกลุ่มได้หันมาประยุกต์ใช้หรือพัฒนาขึ้นมาใช้เอง
  2. การโจมตี UEFI และ BIOS อินเทอร์เฟซแบบ Unified Extensible Firmware Interface (UEFI) คือซอฟต์แวร์อินเทอร์เฟซที่เป็นตัวกลางระหว่างเฟิร์มแวร์และระบบปฏิบัติการบนเครื่องคอมพิวเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อปี 2005 โดยพันธมิตรผู้พัฒนาฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์ชั้นนำ รวมทั้งอินเทล ตอนนี้ล้ำหน้า BIOS มาตรฐานไปอย่างรวดเร็ว คุณสมบัติที่ทำให้ UEFI เป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจนั้นกลับเปิดช่องโหว่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในยุค BIOS ก่อนหน้านี้ เช่น การรัน (run) โมดูล executable ที่ปรับแต่งได้เองนั้น เป็นการเปิดทางให้สร้างมัลแวร์ และ UEFI สามารถปล่อยกระจายได้โดยตรงก่อนที่จะถูกตรวจจับหรือสะกัดกั้นด้วยแอนตี้มัลแวร์โซลูชั่น หรือแม้แต่ตัวระบบปฏิบัติการจะได้ทันไหวตัวเสียอีก

มัลแวร์ UEFI มีไว้ซื้อขายนั้นเป็นที่รู้กันมาตั้งแต่ปี 2015 เมื่อ Hacking team UEFI modules ถูกเปิดโปง เป็นที่น่าแปลกใจว่าไม่ปรากฏมัลแวร์ UEFI น่าจะมาจากความยากที่จะตรวจจับ คาดว่าปี 2018 เราน่าจะได้พบมัลแวร์แบบ UEFI มากขึ้น

  1. การโจมตีทำลายล้างดำเนินต่อไป ตั้งแต่พฤศจิกายน 2016 แคสเปอร์สกี้ แลปสังเกตพบคลื่นลูกใหม่ของ wiper มุ่งโจมตีเป้าหมายหลายแห่งแถบตะวันออกกลาง มัลแวร์ที่ตรวจพบเป็นค่าตัวแปรของเวิร์ม Shamoonที่เคยตั้งเป้าไปที่ Saudi Aramco และ Rasgas เมื่อปี 2012 นอกเหนือไปจาก Shamoon และ Stonedrill แล้ว พบว่าปี 2017 เป็นปีสุดโหดของการโจมตีทำลายล้าง ด้วย ExPetr/NotPetya ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นแรนซั่มแวร์นั้น แท้จริงคือการอำพรางตัวอย่างชาญฉลาดของ wiper โดยที่ ExPetr นั้นจะตามติดมาด้วยคลื่นการโจมตีของ ‘แรนซั่มแวร์’ เหยื่อแทบจะไม่เหลือโอกาสกู้ข้อมูลคืนมาได้เลย ผู้ร้ายตัวจริงถูกอำพรางมิดชิดให้เข้าใจว่าเป็น ‘wipers as ransomware’ ซึ่งเคยมีการโจมตีเช่นนี้เมื่อปี 2016 จาก CloudAtlas APT ดูเผินๆ แล้วเหมือนจะเป็น ‘wipers as ransomware’ เป้าหมายที่สถาบันการเงินในรัสเซีย

ปี 2018 คาดว่าการโจมตีทำลายล้างเช่นนี้จะเพิ่มจำนวนขึ้น เกาะกระแสภาพลักษณ์ในบทบาทของการเป็นสงครามไซเบอร์ (cyberwarfare)

  1. มี cryptography เวอร์ชั่นย่อยเพิ่มขึ้น ย้อนไปเมื่อปี 2013 สำนักข่าวรอยเตอร์สมีรายงานข่าวว่า NSA จ่ายเงินให้ RSA เป็นจำนวน 10 ล้านเหรียญเพื่อให้ใส่อัลกอริธึ่มช่องโหว่ลงในโปรดักส์เพื่อให้เป็นวิธีทำลายการเข้ารหัส แม้จะมีการค้นพบความเป็นไปได้ของการใช้แบคดอร์เมื่อปี 2007 แต่ก็ยังมีหลายบริษัท (รวมทั้งจูนิเปอร์) ที่ยังคงใช้ต่อไป แต่เป็นคอนสแตนท์เซ็ตที่ต่างออกไป ซึ่งเชื่อว่าจะปลอดภัย ในเชิงทฤษฎี พบว่าเรื่องนี้ทำให้แอคเตอร์ APT บางกลุ่มไม่พอใจและว่าจ้างให้ดำเนินการแฮคเข้าจูนิเปอร์ เปลี่ยนคอนสแตนท์มาเป็นเซ็ตที่ตนเองสามารถเข้าควบคุม และปลดรหัสการเชื่อมต่อแบบ VPN ได้

การกระทำเช่นนี้ถูกจับได้ และในเดือนกันยายนปี 2017 กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ cryptography จากหลายประเทศได้ร่วมกันกดดันให้ NSA ล้มเลิกความพยายามในการผลักดันให้อัลกอริธึ่มการเข้ารหัสตัวใหม่อีกสองตัวเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม

เมื่อเดือนตุลาคมปี 2017 รายงานข่าวพบข้อบกพร่องใน cryptographic library ที่ Infineon ใช้ในฮาร์ดแวร์ชิปสำหรับการสร้าง RSA primes แม้ข้อบกพร่องที่พบนี้จะดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่ก่อให้เกิดข้อกังขาเกี่ยวกับความปลอดภัยของเทคโนโลยีเข้ารหัสที่ใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทการ์ด เน็ตเวิร์กไร้สาย หรือเว็บทราฟฟิกแบบเข้ารหัส ปี 2018 เราคาดว่าจะได้พบช่องโหว่ cryptographic ที่รุนแรงอันตรายกว่าเดิม และหวังว่าจะได้รับการแพทช์แก้ไข ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขที่ตัวมาตรฐานเองหรือที่การติดตั้งใช้งาน

  1. ข้อมูลเฉพาะบุคคลในธุรกิจอีคอมเมิร์ซเผชิญวิกฤต หลายปีที่ผ่านมานั้น เราเผชิญวิกฤตเกี่ยวโยงกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล personally identifiable information (PII) และล่าสุดพบ Equifax ที่สะเทือนผู้คนชาวอเมริกันถึงกว่า 5 ล้านคน ทั้งปลอมแปลงหรือโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นปัญหาต่อเนื่องมายาวนาน แต่อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อข้อมูลพื้นฐานในการระบุตัวตนนั้นถูกเผยแพร่ทั่วไปจนไม่น่าวางใจอีกต่อไป? องค์กรธุรกิจหรือหน่วยงานภาครัฐต้องเผชิญตัวเลือกระหว่างลดขนาดการทำงานด้วยอินเทอร์เน็ตที่แสนสะดวกสบาย หรือลดการใช้โซลูชั่นแบบมัลติแฟคเตอร์ ทางออกที่ดูน่าจะเป็นไปได้ เช่น ApplePay อาจจะเข้ามาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นอีกหนึ่งวิธีการยอดนิยมในการป้องกันข้อมูลส่วนตัวและธุรกรรมออนไลน์ และเราก็อาจจะได้เห็นการลดบทบาทการใช้อินเทอร์เน็ตเข้ามาสร้างความทันสมัยรื้อความอุ้ยอ้ายในการทำงานและลดค่าใช้จ่ายปฏิบัติการลง
  2. มีการแฮคเข้าเราเตอร์และโมเด็มเพิ่มขึ้นช่องโหว่ที่ถูกละเลยมองข้ามคือช่องโหว่ในเราเตอร์และโมเด็ม ซึ่งที่จริงแล้วมีความสำคัญต่อการปฏิบัติงานประจำวัน และโดยมากมักใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะของตัว ที่ไม่ถูกแพทช์หรือดูแล ท้ายที่สุด คอมพิวเตอร์จิ๋วเหล่านี้นับเป็นอุปกรณ์ต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ตโดยการออกแบบ ดังนั้นจึงเป็นจุดเชื่อมโยงที่มีความอ่อนไหวเหมาะสำหรับที่ผู้ไม่ประสงค์ดีจะอาศัยเป็นช่องทางแฝงเข้ามาในเน็ตเวิร์กได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในบางกรณี ผู้ร้ายสามารถปลอมแปลงตนเป็นผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ทำให้มีทางที่จะแอบเข้าไปยังแอดเดรสอื่นที่ต่อเชื่อมอยู่ได้ ช่วงนี้เป็นช่วงเทคนิคการสร้างความเข้าใจผิดหรือลวงให้ผิดทาง (misdirection and false flags) กำลังเป็นที่สนใจนั้น การเข้าโจมตีดเราเตอร์ โมเด็มนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องเล็ก หากทำการศึกษาวิจัยลงลึก จะได้พบข้อมูลที่น่าสนใจมากขึ้นอย่างแน่นอน
  3. ตัวกลางสำหรับความโกลาหลในวงโซเชียลมีเดียสื่อสังคมโซเชียลมีบทบาทต่อความคิดเห็นต่างๆ ของผู้คนมากมายเกินกว่าที่เราเคยคาดคิด ไม่ว่าจะถูกนำมาใช้เพื่อเสี้ยมหรือก่อกระแส หลายคนก็เริ่มที่จะเรียกร้องให้มีการตรวจสอบยูสเซอร์และบอตที่ส่งอิทธิพลต่อกระแสสังคมหมู่มาก น่าเศร้าที่ว่าเน็ตเวิร์กเหล่านี้มิได้สนใจที่จะตรวจสอบกลุ่มผู้ใช้บอตของตน แม้จะชัดเจนถึงความไม่เหมาะสมของบางบอตส์ และนักวิจัยอิสระก็มีความสามารถติดตามแกะรอยได้ก็ตาม แต่ก็มิได้ดำเนินการใดๆ คาดว่าการกระทำเช่นนี้จะยังคงดำเนินต่อไป และเน็ตเวิร์กของบอตก็จะถูกใช้ประโยชน์กันมากขึ้นจากหลายฝ่ายเพื่อความประสงค์ทางการเมืองหรือการจูงใจ ส่งอิทธิพลทางความคิด ที่จะส่งผลต่อผู้ใช้โซเชียลมีเดีย และเริ่มมองหาทางเลือก นอกเหนือจากผู้ให้บริการปัจจุบัน ที่คอยมุ่งเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการคลิกของผู้คนเท่านั้น

คุณเบญจมาศ จุฑาพิพัฒน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของแคสเปอร์สกี้ แลป กล่าวว่า “ในปี 2018 เราคาดว่าแอคเตอร์ภัยไซเบอร์จะขยับระดับความแข็งแกร่ง งัดทูลใหม่ออกมาก่อกวน และส่งความรุนแรงเพิ่มขึ้น แนวทางหลักและทิศทางในแต่ละปีนั้น ไม่ควรที่จะแยกออกจากกัน ต่างต้องพึ่งพากันเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กันและกัน เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนยูสเซอร์ที่ต้องเผชิญกับปัญหาภัยไซเบอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระดับบุคคล เอ็นเทอร์ไพรซ์ หรือรัฐบาล สิ่งสำคัญคือการแชร์ข้อมูลเชิงวิเคราะห์เกี่ยวกับภัยไซเบอร์นั่นเอง”

แคสเปอร์สกี้ แลป นำเสนอโซลูชั่นปกป้องไฮบริดคลาวด์ล่าสุด เพิ่มความมั่นใจให้องค์กร

องค์กรธุรกิจต่างตื่นตัวมองหาวิธีรับมือการเปลี่ยนแปลงของการดำเนินธุรกิจรูปแบบออโตเมชั่น หรือปริมาณข้อมูลธุรกิจที่ขยายตัวมหาศาล สถิติชี้ว่า เอ็นเทอร์ไพรซ์จำนวน 66% และ SMB จำนวน 49% กำลังมีแผนขยายโครงสร้างการใช้งานไฮบริดคลาวด์[i] และในเวลาเดียวกัน ทุกวินาที บริษัทองค์กรต่างรู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัยของข้อมูลของตนผ่านบริการคลาวด์ เพราะมีการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอ[ii] เพื่อเป็นการสนับสนุนบริษัทเหล่านี้ในการก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงสู่โลกดิจิทัล และให้การใช้คลาวด์เป็นการตัดสินใจที่ปลอดภัย แคสเปอร์สกี้ แลป จึงได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยด้านเวอร์ช่วลไลเซชั่นและคลาวด์เพิ่มเติม ด้วยผลิตภัณฑ์ล่าสุดในชื่อ Kaspersky Hybrid Cloud Security — วิถีแห่งการป้องกันไฮบริดคลาวด์เน็กซ์เจเนเรชั่น สำหรับปกป้ององค์กรธุรกิจได้ทุกขนาด ใช้งานร่วมกับ Amazon Web Services (AWS) และ Microsoft Azure ได้

 

ขณะที่ธุรกิจต่างพากันวุ่นวายอยู่กับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทีมงานไอทีก็จะต้องเผชิญความท้าทายที่จะสูญเสียการควบคุมความปลอดภัยในโครงสร้างคลาวด์ของพวกเขา การขาดวิสัยทัศน์ที่จะเห็นภาพรวมของระบบ ไฮบริดคลาวด์ จึงเป็นช่องโหว่ของโครงสร้างที่อาจถูกคุกคามโจมตีได้ ยิ่งกว่านั้น ความปลอดภัยที่มาในสภาพแวดล้อมของพับลิกคลาวด์นั้นเน้นไปที่การป้องกัน ‘cloud perimeter’ จึงไม่ครอบคลุมไปถึงข้อมูลขององค์กร ซึ่งอาจจะถูกเจาะเข้าไปก่อนที่จะถึงส่วนที่ได้รับการป้องกันไว้ด้วยซ้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ต้องตกอยู่ในความยุ่งเหยิง องค์กรธุรกิจที่ใช้คลาวด์ จึงควรที่จะต้องมีโซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยโดยเฉพาะมาติดตั้งไว้ป้องกันตัว เช่น Kaspersky Hybrid Cloud Security

 

Kaspersky Hybrid Cloud Security ให้การปกป้องแอพพลิเคชั่นและข้อมูลที่ใช้งานคลาวด์เวิร์กโหลด เวอร์ช่วล รวมทั้งแบบกายภาพ ด้วยการนำประสบการณ์ของแคสเปอร์สกี้ แลป ด้านความปลอดภัยสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์แบบ software-defined ทั้งหมดมาใช้งานอย่างเต็มที่ โซลูชั่นแบบ API-based ทำงานเชื่อมโยงกับ Amazon Web Services (AWS) และบริการสนับสนุนด้านคลาวด์แพลตฟอร์มของ Microsoft Azure ทำให้ทรัพย์สินทุกชิ้นลูกค้าที่ใช้งานได้รับการป้องกันแม้เมื่ออยู่บนพับลิกคลาวด์ วิธีการที่โซลูชั่น Kaspersky Hybrid Cloud Security ใช้ในการป้องกันสภาพแวดล้อมการใช้งานมัลติคลาวด์จากภัยคุกคามไซเบอร์ขั้นแอดวานซ์นั้นรวมเอา unified orchestration และเทคนิคการปฏิบัติการแบบโปร่งใส การทำให้ระบบแข็งแกร่งขึ้น และการป้องกันเวิร์กโหลดไว้ด้วย รวมทั้งการป้องกันรันไทม์ที่มีแมชชีนเลิร์นนิ่งมาคอยสนับสนุนด้วย

 

วิสัยทัศน์ในการมองเห็นกิจกรรมต่างๆ บนคลาวด์ คือกุญแจในการป้องกันการทำงานแบบไฮบริดคลาวด์

 

องค์กรธุรกิจที่ย้ายมาใช้พับลิกคลาวด์มักต้องเผชิญกับปัญหาด้านความปลอดภัยในช่วงย้ายระบบ ซึ่งค่อนข้างซับซ้อน มักจะเป็นปัญหาจากสภาพแวดล้อมเวอร์ช่วลที่ใช้งานขององค์กรธุรกิจและของผู้ให้บริการพับลิกคลาวด์, เวอร์ช่วลมาชีน และเวิร์คสเปซพื้นที่ในการทำงาน

 

แม้หลังการผนวกระบบแล้ว ทีมไอทีอาจจะยังคงต้องเผชิญปัญหาความโปร่งใสของการดูแลระบบให้ทั่วถึง เพราะว่าต้องอาศัยใช้งานผ่านพาเนลการบริหารระบบหลายพาเนลทั้งของพับลิกและไปรเวทคลาวด์ โซลูชั่น Kaspersky Hybrid Cloud Security ช่วยให้องค์กรธุรกิจมีระบบความปลอดภัยที่สมบูรณ์ดูแลอย่างต่อเนื่องอยู่ในโครงสร้างเวอร์ช่วล โซลูชั่นทำงานแบบออโตเมทอย่างต่อเนื่องคอยรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เข้ามา และให้ full visibility และศักยภาพในการบริหารจัดการสภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์ทั้งระบบ ทีมงานความปลอดภัยด้านไอทีมีความสามารถในการควบคุมจัดการผู้ที่มีแอคเซสเข้าข้อมูลบริษัททั้งแบบที่อยู่ในบริษัทและที่อยู่บนคลาวด์ ด้วย cloud-integrated security orchestration console ตัวอย่างเช่น ทีมไอทีสามารถเซ็ทอัพตั้งค่าการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจได้ว่าการใช้งานทั้งหมดได้รับการเฝ้าระวัง และธุรกรรมเชิงธุรกิจ รวมทั้งข้อมูล และแอพพลิเคชั่นขององค์กรทั้งหมดได้รับความปลอดภัยถึงขั้นแอดว้านซ์

 

เคล้ดลับการปกป้องข้อมูล: ปกป้องคลาวด์ของคุณ

ในหลายกรณี คลาวด์จัดเป็น พื้นที่สีเทา ของบริษัท มี เอ็นเทอร์ไพรซ์ 28% ที่พิจารณาว่าคลาวด์เป็นภัยคุกคามต่อธุรกิจของพวกเขา มากกว่าที่จะเป็นตัวเปิดโอกาส[iii] การป้องกันข้อมูลเป็นหนึ่งในข้อกังวลหนักหนาสำหรับผู้ที่หันมาใช้คลาวด์ จากภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน แรนซั่มแวร์ที่คอยฉกโอกาส การโจรกรรมข้อมูล การฉ้อโกงทางการเงิน และความผิดพลาดเลิ่นเล่อของมนุษย์ก็เป็นอีกหนึ่งความพลาดที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง

 

ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่าผู้ที่ให้บริการคลาวด์ กำลังทำงานอย่างหนักในการพัฒนายกระดับความปลอดภัยและความเสถียรของคลาวด์แพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชั่นด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่มากับคลาวด์นั้นก็ไม่สามารถที่จะรองรับความจำเป็นด้านต่างๆ ของธุรกิจองค์กรได้ทั้งหมด อาทิ การแบนหรือจำกัดการใช้แอพพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการให้ใช้ในองค์กร เฝ้าระวังตามสอดส่องพฤติกรรมของแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งในองค์กร และการป้องกันระบบที่มีอยู่ให้พ้นจากการอาศัยช่องโหว่ที่อาจมีอยู่เข้ามาโจมตีระบบ เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของธุรกิจเองที่จะต้องจัดหาจัดการเพื่อความปลอดภัยของตนเอง

 

Kaspersky Hybrid Cloud Security ออกแบบเพื่อให้ตอบรับความจำเป็นเรื่องความปลอดภัยของโลก เอ็นเทอร์ไพรซ์ และไม่ลืมความต้องการด้านการป้องกันช่องโหว่ต่างๆ อีกด้วย โดย Kaspersky Hybrid Cloud Security จะทำการป้องกันด้วย ML-assisted protection ทำให้ระบบดูแลความปลอดภัยสามารถจับ บล็อก และแก้ไขเหตุที่ดูน่าจะเป็นอันตรายให้หมดฤทธิ์ก่อนเข้ามาถึงตัวหรือทำร้ายข้อมูลหรือการปฏิบัติงานได้ เพื่อให้เป็นการแน่ใจว่าช่องโหว่หรือจุดอ่อนต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบและซอฟท์แวร์ที่ใช้งานในองค์กรจะไม่ถูกผู้ร้ายไซเบอร์นำไปใช้ประโยชน์ เพื่อเข้าถึงข้อมูลธุรกิจบนคลาวด์ได้ โซลูชั่น Kaspersky Hybrid Cloud Security ใช้เทคนิคขั้นแอดวานซ์หลายตัวด้วยกัน เช่น exploit prevention ประเมินจุดอ่อนช่องโหว่ และการบริหาร automated patch การป้องกันที่มีอยู่หลายเลเยอร์ใน Kaspersky Hybrid Cloud Security เช่น anti-ransomware และ behavior detection นั้น ทำงานด้วยข้อมูลเชิงวิเคราะห์เกี่ยวกับภัยไซเบอร์ที่ทันสมัยใหม่ล่าสุด เพื่อสนับสนุนให้องค์กรธุรกิจสามารถที่จะต่อสู้ ป้องกันตัวจากภัยไซเบอร์ที่เกิดใหม่และวิวัฒนาการเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพและสัมฤทธ์ผล

 

“การป้องกันโครงสร้างคลาวด์และร์คโหลดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ สำหรับบริษัทธุรกิจที่กำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงสู่โลกดิจิทัล” แดเนียล แคทเทดดู ประธานกรรมการบริหารฝ่ายเทคโนโลยี แห่ง Cloud Security Alliance กล่าวว่า “ถือเป็นก้าวสำคัญที่แคสเปอร์สกี้ แลปได้ขยายความสามารถของการป้องกันสำหรับพับลิกคลาวด์แพลตฟอร์มหลัก เป็นการพัฒนาสมรรถนะด้านความปลอดภัยในคลาวด์ให้แก่ Amazon Web Services และ Microsoft Azure และยังปกป้องได้ถึงหลายๆ ส่วนที่ทำให้เอ็นเทอร์ไพรซ์โล่งใจเรื่องการจัดการความปลอดภัยให้การทำงานบนคลาวด์ได้เป็นอย่างดี”

 

“พึงระลึกไว้เสมอว่าข้อมูลธุรกิจของเราที่อยู่บนคลาวด์นั้นมีค่ามากมายเพียงใด จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามที่จะต้องมีระบบป้องกันและเห็นภาพกิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนคลาวด์แพลตฟอร์มที่ใช้งาน ปรัชญาของเรานั้นคือการมีสมดุลการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการป้องกันที่ดีเยี่ยมที่สุด การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และความสามารถในการบริหารจัดการรวบรวมในระดับ เอ็นเทอร์ไพรซ์สำหรับสภาพแวดล้อมของการทำงานทั้งแบบพับลิกและไปรเวทคลาวด์ เราแน่ใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับประสบการณ์ที่ประทับใจและความปลอดภัยในช่วงโอนย้ายมาสู่การทำงานบนคลาวด์ของ Amazon และ Microsoft Azure อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการก้าวเปลี่ยนมาสู่โลกดิจิทัล” กล่าวโดย วิตาลี มาโซคอฟ หัวหน้าธุรกิจโซลูชั่น แคสเปอร์สกี้ แลป

 

ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Kaspersky Hybrid Cloud Security ได้ที่นี่

https://www.kaspersky.com/enterprise-security/cloud-security

 

[i] According to ‘Cloud Zoo: Don’t Let Your Business Data Roam Free’ report

[ii] According to ‘Cloud Zoo: Don’t Let Your Business Data Roam Free’ report

[iii] According to ‘Cloud Zoo: Don’t Let Your Business Data Roam Free’ report