moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

Money Space สะดวก ปลอดภัย ค่าธรรมเนียมเเสนถูก กับอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ online paymentของเเม่ค้าออนไลน์

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับเเม่ค้าเปิดร้านค้าออนไลน์ ผ่านFacebook/IG ที่กำลังหาช่องทางonline payment , Payment Gateway ที่สะดวก ใช้งานง่าย ปลอดภัยระดัยสากล

ทำไมต้อง Money Space ?

Money space เป็น Payment Gateway ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยด้วยระบบ SSL (Security Socket Layer) ที่เป็นเทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการส่งข้อมูล รวมถึงได้รับการรับรองความปลอดภัยในระดับสากลจาก PCI DSSเเละยังได้รับใบอนุญาตจากธนาคารกลางประเทศสิงคโปร์ และธนาคารแห่งประเทศไทยอีกด้วย ที่สำคัญค่าธรรมเนียมเเสนถูก!! 

เเล้วมีความจำเป็นที่ต้องถอนเงินเข้าออก เพื่อคืนเงินให้ลูกค้าในบางกรณีเเล้วล่ะก็ Money Space ก็จะบริการให้ฟรีก่อนเวลา 20:00 เเต่หากหลังเวลา 20:00 จะคิดค่าเฉพาะค่าธรรมเนียมรูดบัตรเท่านั้น!

เเละร้านค้าของคุณสามารถรับบัตรชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ได้จากทุกธนาคารที่มีเครื่องหมาย VISA / Master Card / JCB และ Union Pay ได้อีกด้วย!!  Money space ไม่มีข้อจำกัดว่าร้านค้าของคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ Money space ก็สามารถให้คุณเปิดบริการ Payment Gateway  ได้โดยไม่ต้องวางมัดจำหรือค้ำประกันใดๆ ถือว่าเป็นตัวเลือกใหม่ที่สะดวก เเละเชื่อถือได้ ว่าเเล้วก็มาดูขั้นตอนการสมัครใช้อย่างง่ายได้เลยจ้า

ขั้นตอนการสมัครใช้ Payment Gateway ของ Money space

  1. เข้าเว็บไซต์ https://www.moneyspace.net/ กดปุ่ม “สมัครบริการ” พร้อมกรอกรายละเอียดข้อมูล

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

2. หลังจากสมัครเรียบร้อยระบบจะทำการส่งอีเมลไปยัง อีเมลที่คุณทำการกรอกตอนสมัครบริการ ให้ทำการเช็คอีเมลของคุณเเละกดเพื่อยืนยันการสมัครที่ลิ้งค์ (เเถบสีเเดง)

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

3. หลังจากทำการยืนยันเรียบร้อยเเล้วให้กลับไป เพื่อกดเข้าสู่ระบบ

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อยเเล้ว ให้ กดที่เเถบเมนูด้านขวาเลือก “เเก้ไขข้อมูลส่วนตัว”

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

4. ทำการยืนยันตัวตนเเละเซ็นสัญญา เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง โดยการส่งข้อมูลตามนี้

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

4.1 กรอกข้อมูลส่วนตัว เพื่อให้ทาง Money Space ติดต่อเเละสามารถตรวจสอบได้

4.2 ทำการถ่ายรูปตนเองคู่กับบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนเเละสามารถให้ทาง Money Space ตรวจสอบได้

4.3 กด เซ็นสัญญา เพื่อกรอกข้อมูลเริ่มดำเนินการบริการ

เมื่อส่งเอกสารเเล้วก็รอทาง Money Space อนุมัติเพื่อยืนยันตัวตน ประมาฯ 2-3 วัน เเล้ว สถานะจะถูกเแลี่ยนเป็น “เอกสารได้รับการยืนยันเรียบร้อยเเล้ว”

5. กด เลือกที่เเถบเมนูขวาบน เเล้วกดเลือก บัญชีธนาคาร เพื่อกรอกข้อมูลบัญชีเเละอัพโหลดภาพน้าบุ๊คเเบงค์เพื่อทำการตรวจสอบ  เท่านี้ก็เป็นอันที่เรียบร้อย

moneyspace-ร้านค้าออนไลน์-ชำระออนไลน์

6. ภายหลังทำการ ยืนยันตัวจนเรียบร้อยเเล้ว คุณก็จะสามารถใช้บริการได้ โดยการนำลิ้งค์ทางเข้าการชำระเงินไปวางได้ที่ร้านค้าของคุณ

อีกหนึ่งบริการดีดีที่สะดวกสบาย เเละเชื่อถือได้ เเม่ค้าออนไลน์สนใจ ติดตามบริการเเละช่องทางสมัครได้ที่ https://www.moneyspace.net/

แคสเปอร์สกี้ แลป เผยคู่รักยุคดิจิทัล 55% ทะเลาะกันเรื่องการใช้งานดีไวซ์มากเกินไป

ในโลกดิจิทัลปัจจุบัน คู่รักใช้ดีไวซ์ในการติดต่อสานสัมพันธ์รักเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ดี จากการค้นคว้าล่าสุดของแคสเปอร์สกี้ แลป เรื่อง A Digital Kingdom for Two: Securing a Shared Online World พบว่า การพึ่งพาดีไวซ์ไม่ได้มีแต่ข้อดีเท่านั้น หากยังมีข้อเสียอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น คู่รักจำนวน 55% ทะเลาะกันเรื่องการใช้งานดีไวซ์มากเกินไป แสดงให้เห็นว่า นอกจากดีไวซ์จะช่วยให้คู่รักใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว ยังมีส่วนผลักไสให้ความสัมพันธ์สั่นคลอนได้อีกด้วย

 

การค้นคว้าระบุว่า ผู้ใช้จำนวน 8 ใน 10 คนมักติดต่อสื่อสารกับคู่รักออนไลน์อยู่เสมอเมื่อต้องอยู่ห่างกัน ผู้ใช้จำนวน 62% เห็นด้วยว่าการสื่อสารผ่านดีไวซ์และอินเทอร์เน็ตช่วยให้รู้สึกใกล้ชิดกับคู่รักมากขึ้น โดยเฉพาะคู่รักที่ไม่ได้อาศัยอยู่ร่วมกัน (75%)

 

คู่รักยุคดิจิทัลยังเชื่อมความสัมพันธ์ด้วยการใช้ดีไวซ์ร่วมกัน ผู้ใช้จำนวน 53% ระบุว่าความสัมพันธ์ดีขึ้นตั้งแต่มีกิจกรรมออนไลน์ร่วมกัน เช่น ใช้แอคเค้าท์ร่วมกัน เป็นต้น แต่การค้นคว้าพบว่า การใช้งานดีไวซ์สามารถทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งได้ ซึ่งเกิดจากการใช้งานมากไป หรือเกิดเหตุร้ายเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์

 

ยกตัวอย่างเช่น คู่รัก 51% ทะเลาะกันเรื่องใช้ดีไวซ์ระหว่างรับประทานอาหารหรือระหว่างที่พูดคุยกัน ผู้ใช้มากกว่าครึ่ง (55%) ทะเลาะกันเรื่องให้เวลากับดีไวซ์มากเกินไป ซึ่งชี้ให้เห็นว่า คู่รักไม่อยากถูกละเลยและต้องการให้อีกฝ่ายสนใจเมื่อใช้เวลาอยู่ร่วมกัน นอกจากนี้ยังโต้เถียงกันเรื่องการสลับกันใช้งานดีไวซ์ (25%) การลืมชาร์จไฟ (45%) และการทำดีไวซ์สูญหาย (28%)

 

สำหรับประเด็นเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ คู่รักจำนวน 24% ระบุว่าทะเลาะกันเมื่ออีกฝ่ายทำดีไวซ์ติดมัลแวร์ คู่รัก 19% โต้เถียงกันเมื่ออีกฝ่ายสูญเงินออนไลน์จากมัลแวร์หรือจากความผิดพลาดของตัวเอง

 

ดีมิทรี เอลชิน รองประธานฝ่ายการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ บริษัท แคสเปอร์สกี้ แลป กล่าวว่า “ความสามารถของดีไวซ์สมัยใหม่ได้สร้างโอกาสให้คู่รัก ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ หรือการสร้างความสัมพันธ์แม้ว่าจะอยู่ห่างกัน แต่ก็ต้องไม่ลืมนึกถึงข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น จึงควรใช้งานดีไวซ์โดยนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วย”

แคสเปอร์สกี้ แลป ชี้ผลวิจัย คู่รัก 21% สอดส่องผ่านช่องทางออนไลน์ หวังแก้แค้นอีกฝ่ายยามรักคุด

แนะทำข้อตกลงก่อนใช้บัญชีออนไลน์ร่วมกัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อข้อมูลส่วนบุคคล

 

ดูจะเป็นการยากยิ่งขึ้นทุกวันๆ สำหรับบรรดาคู่รักทั้งหลายที่จะขีดเส้นความเป็นเธอกับฉัน และความเป็นส่วนตัว ในโลกที่เต็มไปด้วยออนไลน์แอ็คเคาท์และอุปกรณ์สื่อสารเชื่อมโยงกันได้เกือบทุกรูปแบบ เรื่องยุ่งยากจึงมาอยู่ที่ว่า หากคู่รักเหล่านี้เกิดรักคุด รักไม่เวิร์ก จนถึงขั้นเลิกรากัน แล้วจะทำอย่างไร? จากรายงานการวิจัยโดยแคสเปอร์สกี้ แลปร่วมกับบริษัทโทลูนา (Toluna) พบว่าผู้ใช้ 21% มักใช้ช่องทางสอดส่องติดตามความเคลื่อนไหวผ่านแอ็คเคาท์ที่เคยใช้ร่วมกัน แต่แฝงเจตนาหวังแก้แค้นหรือหาข้อมูลมาไว้กระแนะกระแหนคนรักใหม่ของอีกฝ่าย และนี่เป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่เกิดจากความเสี่ยงของความเป็นส่วนตัวที่คู่รักสมัยใหม่ทั้งหลายควรต้องตระหนักไว้ให้ดี

 

ความเป็นส่วนตัวนั้นกำลังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในโลกการใช้ชีวิตดิจิทัล และความสัมพันธ์ต่างๆ ของคนเราก็รวมอยู่ในนี้ด้วย เช่น 70% ของบรรดาคู่รักมักใช้พาสเวิร์ด เลขรหัสผ่าน หรือรอยพิมพ์นิ้วมือร่วมกันเพื่อเป็นรหัสในการใช้อุปกรณ์สื่อสารส่วนตัว และ 26% เก็บข้อมูลลับสุดส่วนตัวบางอย่างไว้บนอุปกรณ์ของคู่รักของตน เช่น ข้อความส่วนตัวบางอย่างที่สื่อสารหากันเฉพาะเราสองคน เป็นต้น และ (14%) ก็มักเก็บรูปภาพที่เฉพาะตัวสุดๆ (12%) หรือคลิปวิดีโอ (11%) นอกจากนี้ โดยทั่วไปก็จะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแอ็คเคาท์ออนไลน์ ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลด้านการเงิน (11%) หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการงาน (11%) เป็นต้น

 

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คงไม่ใช่ประเด็นปัญหาเลยหากสัมพันธภาพความรักยังแน่นแฟ้นดีอยู่ และก็ถือได้ว่าข้อมูลอยู่ในมือของคนที่ไว้ใจได้ แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อเลิกร้างกันนั่นเอง เมื่อสัมพันธภาพดูจะคลอนแคลนง่อนแง่น การแชร์ความทรงจำสุดส่วนตัวบนเครื่องที่ใช้ร่วมกันหรือข้อมูลออนไลน์แอ็คเคาท์ จากที่เป็นเรื่องธรรมดาของคนรักกันต้องแชร์กัน ก็เริ่มดำดิ่งสู่ฝันร้ายของความเป็นส่วนตัวของคุณนั่นเอง

 

สำหรับคนที่เคยผ่านประสบการณ์ฝันร้ายของการเลิกราเหล่านี้มาแล้ว พบว่า 12% ได้แชร์หรือต้องการที่จะแชร์ (เปิดโปง) ข้อมูลส่วนตัวของคนรักเก่าให้โลกได้รับรู้เป็นการแก้แค้น ส่วน 12% ได้ทำลายหรือต้องการทำลายอุปกรณ์ที่เคยร่วมกันนั้นให้สิ้นไป และ 21% แอบส่องคนรักเก่าผ่านทางแอ็คเคาท์ที่เคยเข้าได้ นอกจากนี้ ก็ยังอาจจะมีผลกระทบไปถึงด้านเงินๆ ทองๆ อีกด้วย การศึกษาข้อมูลชี้ว่า หนึ่งในสิบ (10%) ของคนที่เลิกรากันไปยอมรับว่าได้แอบใช้จ่ายเงินของคู่รักเก่าทางออนไลน์ด้วย

 

เป็นที่น่าสนใจไม่น้อยว่า มีความแตกต่างทางพฤติกรรมระหว่างหญิงชาย เพราะฝ่ายชายดูจะเป็นฝ่ายที่ปล่อยข้อมูลเพื่อแก้แค้นฝ่ายหญิงมากกว่า (17% vs 7%) และหาประโยชน์จากข้อมูลเหล่านั้น (17% vs 8%) ในขณะที่ฝ่ายหญิงมีแนวโน้มที่จะเลือกทำในสิ่งที่ชอบธรรมมากกว่าด้วยการลบข้อมูลทิ้งจากเครื่องที่เคยใช้ร่วมกันไปเลย (55% vs 49%) รวมทั้งรูปภาพ คลิปวิดิโอหลังเลิกกันไป (56% vs 48%)

 

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายหญิงก็มักจะเป็นฝ่ายที่จะมีกลเม็ดลูกเล่นต่างๆ อยู่ไม่น้อย เช่น 33% ยอมรับว่าอาศัยโซเชียลเน็ตเวิร์ก คอยแอบส่องความเป็นไปของคนรักเก่า เทียบกับฝ่ายชายที่มีเพียง 28% ที่ทำแบบนี้

 

ทั้งนี้ การยุติความสัมพันธ์ต่อกันก็ไม่ควรที่ต้องกลายมาเป็นความเสี่ยงต่อข้อมูลลับส่วนบุคคลทั้งหลาย เราควรหมั่นเปลี่ยนพาสเวิร์ดเข้าแอ็คเคาท์ที่เคยแชร์กับคนรักเก่าอยู่เสมอ การใช้ Kaspersky Password Manager เพื่อช่วยจัดการพาสเวิร์ด ไม่ว่าจะเป็นสร้างพาสเวิร์ดที่ยากต่อการแกะและเก็บในที่ปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้น Kaspersky Total Security มีฟีเจอร์ File Shredder ซึ่งทำการลบไฟล์อย่างถาวร เช่น ไฟล์ที่คุณไม่ต้องการให้ใครเห็นอีกต่อไป ขณะที่ข้อความสุดส่วนตัวต่างๆ ที่อยู่บนเครื่องแอนดรอยด์ก็สามารถอาศัยฟีเจอร์ Privacy Protection เพื่อซ่อนข้อความเหล่านั้นได้

 

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรดักส์ของแคสเปอร์สกี้ แลปว่าจะเข้ามาช่วยท่านได้อย่างไรแม้ในเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวของท่านให้อยู่ในร่องในรอย ได้ที่: https://www.kaspersky.com/home-security

วัดทักษะดิจิทัลพร้อมสู่ไทยแลนด์ 4.0 ที่บูธ ICDL งาน Digital Thailand Big Bang เมืองทองธานี 21-24 ก.ย. ฟรี!

คนไทยเก่งดิจิทัลจริงป่ะ?

อย่ามโนว่าเก่งดิจิทัล! ร่วมทดสอบวัดระดับทักษะด้านดิจิทัลของคุณ ด้วย ICDL Digital Skills Check Up Station โดย The International Computer Driving Licence (ICDL) หรือวุฒิบัตรบัตรรับรองความสามารถคอมพิวเตอร์สากล เรานำระบบออนไลน์การสอบทักษะดิจิทัลมาให้ลองเล่นกันในงานเลยทีเดียว! ตรวจสอบวัดระดับทักษะดิจิทัลของคุณ! รู้ผลทันที! ว่าพร้อมเข้าไทยแลนด์ 4.0 กันหรือยัง? ทดสอบฟรี ของรางวัลเพียบ งานนี้ใครมั่ว ใครตัวจริงได้รู้กัน !!!  ที่บูธ ICDL Digital Skills Check Up Station บริเวณ Digital Playground Challenger Hall 1 เมืองทองธานี วันที่ 21-24 กันยายน ที่งาน DIGITAL THAILAND BIG BANG 2017

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/GlobalDigitalLiteracyStandard/