สุดมันส์ !THAI FIGHT BANGKOK รอบชิงชนะเลิศ ระเบิดศึกกลางกรุง ชิง 4 ถ้วยพระราชทาน

THAI FIGHT 2017 ทำการจัดการแข่งขันชกมวยไทยมาทั่วประเทศ และ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และในครั้งนี้เดินทางมาสู่รอบชิงชนะเลิศแล้วสำหรับ THAI FIGHT BANGKOK 2017 ความพิเศษในครั้งนี้ คือ ชิงถ้วยพระราชทานถึง 4 ถ้วย ได้แก่ ถ้วยพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 3 ถ้วย แบบสวมนวม และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 1 ถ้วยแบบคาดเชือก และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธาน พระราชทานถ้วยรางวัลแก่นักมวยผู้ชนะเลิศ

THAI FIGHT BANGKOK (รอบชิงชนะเลิศ) เป็นความร่วมมือจัดของ บริษัท ไทยไฟท์ จำกัด และ กรุงเทพมหานคร ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเผยแพร่มวยไทยให้กับประชาชนชาวไทย และชาวต่างประเทศให้สนใจมากขึ้น โดย จะมีการแข่งขันทั้งหมด 7 คู่ ทั้งคู่ชิงถ้วยพระราชทาน และ คู่ซุปเปอร์ไฟท์ ประกอบไปด้วย คู่ชกชิงถ้วยพระราชทานฯ ทั้ง 4 รุ่น เช่น รุ่นเวลเทอร์เวท (น้ำหนัก 67 กิโลกรัม) ตัวแทนประเทศไทยคือ แสนชัย พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม, รุ่นจูเนียร์ มิดเดิลเวท (น้ำหนัก 70 กิโลกรัม) ตัวแทนประเทศไทย คือ แสนสะท้าน  พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, รุ่นมิดเดิลเวท (น้ำหนัก 72.5 กิโลกรัม) ตัวแทนประเทศไทย คือ ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง วินดี้สปอร์ต และ ชนะจน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และ รุ่นจูเนียร์ มิดเดิลเวท (น้ำหนัก 70 กิโลกรัม ชกแบบคาดเชือก) ตัวแทนประเทศไทย คือ ปตท. เพชรรุ่งเรือง พร้อมแสง สี เสียง สุดอลังการ

ผลแข่งขันมวยก่อนเวลา (มวยหญิง ชกแบบสวมนวม น้ำหนัก ๕๑ กก.)

เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้มกรมสรรพสามิต – ไทย   ชนะน็อค ยกที่1 คาลิสต้า พาสท์ – เอสโตเนีย

Petchjeeja Lukjaoporongtom-Kromsappasamit – Thailand   Win by knock out round 1 Calista Parts – Estonia

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 1(มวยหญิง ชกแบบสวมนวม น้ำหนัก ๖๕ กก.)

มังกรขาว ผลไม้ปลากัดยิมส์ – ไทย แพ้คะแนน   ไอซ่า ทิดบล๊าด เคสคิแคงกาส – สวีเดน

Mungkornkhao Pollamai-Plakad Gym – Thailand  Lose by point   Isa Tidblad Keskikangas – Sweden

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 2 (Super Fight ชกแบบคาดเชือก น้ำหนัก ๖๕ กก.)

ก้องศักดิ์ ศิษย์บุญมี – ไทย  ชนะน้อค ยกที่2 อาเธอร์ ซอร์เซอร์ – สหรัฐอเมริกา

Kongsuk Sitbunmee – Thailand Win by knock out round2  Arthur Sorsor – United States of America

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 3(ชิงชนะเลิศ รุ่น ๖๗ กก. ชกแบบสวมนวม)

แสนชัย  พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม – ไทย  ชนะน็อค ยกที่3  เฮนริเก้ มุลเลอร์– บราซิล

Saenchai  P.K.Saenchai Muaythai Gym – Thailand  Win by knock out round3  Henrique  Muller – Brazil

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 4 (ชิงชนะเลิศ รุ่น ๗๐ กก. ชกแบบคาดเชือก)

ป.ต.ท. เพชรรุ่งเรือง – ไทย  ชนะน็อค ยกที่1  ดานี่ เอ็นจิบา – ฝรั่งเศส

P.T.T. Petchrungrueng – Thailand  Win by knock out round1 Dany Njiba – France

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 5(Super Fight ชกแบบคาดเชือก น้ำหนัก ๖๑ กก.)

เพชรสมุย ลูกเจ้าพ่อโรงต้มกรมสรรพสามิต – ไทย   ชนะน็อค ยกที่2  เนียน ลิน อ่อง – เมียนมาร์

Petch-Samui Lukjaoporongtom-Kromsappasamit – Thailand  Win by knock out round2 Nyan Lin Aung – Myanmar

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 6(ชิงชนะเลิศ รุ่น ๗๐ กก. ชกแบบสวมนวม)

แสนสะท้าน  พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม – ไทย  ชนะคะแนน เนมจอน ทัคทาโบเอฟ – อุซเบกิสถาน

Saensatharn   P.K.Saenchai Muaythai Gym – Thailand  Win by point Naimjon Tukhtaboev – Uzbekistan

ผลการแข่งขัน คู่ที่ 7 (ชิงชนะเลิศ รุ่น ๗๒.๕ กก. ชกแบบสวมนวม)

ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วงวินดี้สปอร์ต – ไทย แพ้น็อค ยกที่2  ชนะจน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม – ไทย

Saiyok Pumphanmuang Windy Sport – Thailand Lose by knock our round2 Chanajon  P.K.Saenchai Muaythai Gym – Thailand

ไทยไฟต์พร้อมเปิดสังเวียน ‘THAI FIGHT BANGKOK’ รอบชิงชนะเลิศ 27 ม.ค.นี้

คุณนพพร วาทิน ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไทยไฟท์ จำกัด จัดงานแถลงข่าว THAI FIGHT BANGKOK  โดยมี “คุณสุวัจน์
ลิปตพัลลภ” ขึ้นกล่าวในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน Thai Fight  และ“พล.ต.ท.ชินทัต มีศุข” รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขึ้นกล่าวในฐานะเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขัน

วัตถุประสงค์ของการจัดงานแถลงข่าวในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแถลงความพร้อมการจัดงาน THAIFIGHT BANGKOK รอบชิงชนะเลิศ ชิงถ้วยพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมไปถึงเปิดตัวคู่ชกชิงถ้วยพระราชทานฯ ทั้ง 4 รุ่น เช่น รุ่นเวลเทอร์เวท (น้ำหนัก 67 กิโลกรัม) ตัวแทนประเทศไทยคือ แสนชัย พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม, รุ่นจูเนียร์ มิดเดิลเวท (น้ำหนัก 70 กิโลกรัม) ตัวแทนประเทศไทย คือ แสนสะท้าน  พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, รุ่นมิดเดิลเวท (น้ำหนัก 72.5 กิโลกรัม) ตัวแทนประเทศไทย คือ ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง วินดี้สปอร์ต และ ชนะจน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และ รุ่นจูเนียร์ มิดเดิลเวท (น้ำหนัก 70 กิโลกรัม ชกแบบคาดเชือก) ตัวแทนประเทศไทย คือ ปตท. เพชรรุ่งเรือง

 

ในงานแถลงข่าวยังได้รับเกียรติจากคุณประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทGroup CEO บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) , คุณประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ร่วมเป็นเกียรติภายในงาน นอกจากนี้ได้มีการพูดคุยร่วมกับผู้สนับสนุนต่างๆของการแข่งขัน THAI FIGHT ถึงแนวทางการสนับสนุนและความสำเร็จในการสนับสนุน THAI FIGHT ในปีที่ผ่านมา ทั้ง “คุณปนัดดา เจณณวาสิน” กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด, “คุณสุรพล อุทินทุ” ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), “คุณธเนศวร์  เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ,“คุณบุรณิน รัตนสมบัติ” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน), “คุณนำพร ยมนา” รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มทรัพยากรบุคคลและ “ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ” ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย

การแข่งขัน THAI FIGHT BANGKOK รอบชิงชนะเลิศ ชิงถ้วยพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 27 มกราคมนี้ ณ ลานคนเมือง (เสาชิงช้า) ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 และ 33 เวลา 18.20 – 20.00 น. และ ช่อง 28 เวลา 20.00 – 22.00 น.

สจล. จับมือ ไทยไฟท์ เปิดสังเวียนหลักสูตร ป.โท ต่อยอดสื่อ ‘กีฬา’ สร้างสรรค์

สจล. ตั้ง “KMITL-Thai Fight Academy” ศูนย์กลางการประสานงานและสนับสนุนการศึกษา ด้านกีฬาและสื่อบันเทิงในประเทศไทย

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จับมือ “ไทยไฟท์” เวที แข่งขันทัวร์นาเมนท์มวยไทยชื่อดังระดับโลก ผุดหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง (Master of Business Administration in Sport, Media and Entertainment Management) ครั้งแรกของสถาบันการศึกษาไทย ในการควบรวมองค์ความรู้ด้านวิชาการเข้ากับภาคธุรกิจที่มีประสบการณ์จริง รองรับการเติบโตของกีฬามวยไทยในเชิงอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry) โดยปัจจุบันมูลค่าอุตสาหกรรมกีฬาไทย อยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตเป็น 2 แสนล้านบาท ขณะที่มูลค่าอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงไทยมีแนวโน้มเติบโต แตะ 4.32 แสนล้านบาท ในปี 2564 ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงโอกาสในการสร้างเม็ดเงินจากธุรกิจดังกล่าว ตามแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจไทย 4.0 ของรัฐบาล พร้อมตั้ง KMITL Thai Fight Academy of Sports and Media Management เป็นศูนย์กลางการประสานงานและสนับสนุนการศึกษา ด้านกีฬาและสื่อบันเทิงไทยให้เป็นเลิศ

 

.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจที่ผสมผสานศาสตร์ด้านการจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง เข้าด้วยกัน มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น จากพฤติกรรมการเสพสื่อและการเข้าถึงช่องทางต่างๆ ในการรับชม อันเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) โดยหนึ่งในชนิดกีฬาที่ถูกนำมาผนวกเข้ากับธุรกิจสื่อและบันเทิง และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในคนไทยและชาวต่างชาติ คือ “มวยไทย” ที่ทุกวันนี้มีการจัดแข่งขันและเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ในรูปแบบที่ให้อรรถรสมากกว่าแมทช์การแข่งขันทั่วไป ทำให้มูลค่าของอุตสาหกรรมกีฬามวยไทยในเชิงสร้างสรรค์เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมกลุ่มนี้  สจล. ในฐานะสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นวิชาการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศและบริการสังคม จึงร่วมกับ บริษัท ไทยไฟท์ จํากัด ผู้จัดเวทีแข่งขันมวยไทยระดับโลก พัฒนา หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง (Master of Business Administration in Sport, Media and Entertainment Management) เพื่อสร้างบัณฑิตที่มีความรู้และความเข้าใจ ในการบริหารจัดการธุรกิจที่ผสมผสานศาสตร์ทั้งสองเข้าด้วยกัน ให้ผู้เรียนมีความเป็นเลิศทั้งในด้านการบริหารธุรกิจกีฬา และมีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมการออกแบบ สามารถเลือกใช้สื่อและรูปแบบความบันเทิง เป็นเครื่องมือสนับสนุนการจัดการกีฬาให้ประสบความสำเสร็จ

“หากศึกษามูลค่าการแข่งขันกีฬาแมทช์ดังระดับโลกจะพบว่า ทุกการแข่งขันล้วนมีการผนวกศาสตร์ด้านสื่อและบันเทิงเข้าด้วยกัน โดยผลการสำรวจมูลค่ารายการแข่งขันกีฬาระดับโลกที่แพงที่สุดในปี 2016 (Most Valuable Sport Event Worldwide in 2016) โดย statista.com พบว่า การแข่งขัน “ซูเปอร์โบว์ล” (Super Bowl) มีมูลค่าสูงถึง 630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 20,790 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรายการแข่งขันที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก เมื่อหันกลับมามองโอกาสในประเทศไทย ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่าปัจจุบันมูลค่าอุตสาหกรรมกีฬาไทย อยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท และมีโนวโน้มเติบโตเป็น 2 แสนล้านบาทในเร็วๆ นี้ ขณะที่มูลค่าอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงไทยมีแนวโน้มเติบโต แตะ 4.32 แสนล้านบาท ในปี 2564 ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงโอกาสในการสร้างเม็ดเงินจากธุรกิจดังกล่าว ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ตามแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจไทย 4.0 ของรัฐบาล” ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าว

ด้าน รศ.ดร.อำนวย แสงโนรี คณบดีคณะการบริหารและจัดการ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า จุดเด่นของหลักสูตรนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นจากเป็นความร่วมมือ ระหว่าง สจล​. กับ ไทยไฟท์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสถาบันการศึกษาไทย ในการเปิดหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง ร่วมกับผู้ประกอบการหรือภาคธุรกิจที่เป็นผู้นำ ในด้านการจัดแข่งขันทัวร์นาเมนท์มวยไทยระดับโลกเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้ผู้เรียนมีศักยภาพด้านการคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การค้นคว้าวิจัยและประยุกต์ใช้แนวทฤษฎีด้านการจัดการและบริหารธุรกิจทั่วไป ควบคู่ไปกับแนวทฤษฎีด้านการจัดการและบริหารธุรกิจกีฬา สื่อ และบันเทิง ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านรูปแบบการจัดแผนการเรียนการสอนออกเป็น 39 หน่วยกิต แบ่งเป็น 1. หมวดวิชาปรับพื้นฐาน ได้แก่ หลักการบัญชี , หลักเศรษฐศาสตร์ 2. หมวดวิชาบังคับ ได้แก่ การจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง , การจัดการองค์การและทรัพยากรมนุษย์ , การเงินและการบัญชีบริหาร , กฎหมายกีฬาและจริยธรรม และ 3. หมวดวิชาเลือก ได้แก่ การจัดการนวัตกรรมกีฬา , กิจกรรมทางการตลาดและการผลิตสื่อกีฬา , การจัดการอัตลักษณ์ในธุรกิจกีฬา , การแพร่ภาพสื่อดิจิทัล เป็นต้น พร้อมกับหมวดวิชาวิทยานิพนธ์ และหมวดวิชาการค้นคว้าอิสระ โดยจะเปิดรับสมัครนักศึกษารุ่นแรกในวันที่ 15 ก.ย. – 15 พ.ย นี้ จะเริ่มเปิดสอนนักศึกษารุ่นแรกในปีการศึกษา 2560 ช่วงกลางเดือน ธ.ค.

“ความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ระหว่าง สจล. และ ไทยไฟท์ ถือเป็นก้าวสำคัญในการควบรวมองค์ความรู้ด้านวิชาการ เข้ากับภาคธุรกิจที่มีประสบการณ์ในด้านกีฬา สื่อ และบันเทิง ซึ่งนอกจากนักศึกษาจะได้เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญตัวจริงแล้ว ยังมีโอกาสได้สัมผัสรูปแบบการจัดการกีฬาสู่ระดับสากลด้วย โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ส.ค. ปี 2559 ที่ผ่านมา ได้มีการลงนามความร่วมมือในการจัดตั้ง KMITL Thai Fight Academy of Sports and Media Management ในการพัฒนาหลักสูตรร่วมกัน เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการประสานงานและสนับสนุนการศึกษา สำหรับนักศึกษาด้านกีฬาและสื่อบันเทิงไทยให้เป็นเลิศ เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างและพัฒนาบุคลากร ทั้งทางการกีฬาของไทยและนักธุรกิจนักสื่อสารที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดศักยภาพและความสำเร็จอย่างมีคุณภาพทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ”

 

ขณะที่ นายนพพร วาทิน  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยไฟท์ จํากัด กล่าวเสริมว่า การจัดตั้งสถาบัน Thai Fight Academy มีเจตนารมณ์นำเอา การศึกษา , นวัตกรรม , วัฒนธรรม และกีฬา มาผนวกเข้าด้วยกัน ด้วยวัตถุประสงค์ต้องการผลิตบุคลากร เพื่อมาบริหารจัดการทางด้านกีฬาอย่างมีคุณภาพ รวมถึงการผลิตบุคลากร ให้มีความรู้ความสามารถในการสร้างแบรนด์ขององค์กร ให้เป็นที่รู้จักและให้เป็นที่ยอมรับต่อวงการ ดังนั้น การสร้างแบรนด์ให้มีคุณค่า ถือเป็นสิ่งใหม่ของวงการศึกษา เพราะในยุคไทยแลนด์ 4.0 แบรนด์ที่มีคุณภาพย่อมพาองค์กรสู่ความสำเร็จได้ การที่ Thai Fight ประสบความสำเร็จสามารถสร้างแบนรด์เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จนกลายเป็นแบรนด์ชาติ เพราะการบริหารจัดการด้านมาร์เก็ตติ้งและการจัดการด้านสื่ออย่างถูกวิธี ดังนั้น ผู้เข้ารับการศึกษาจะได้เรียนรู้แนวคิดในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง รู้จักการทำมาร์เก็ตติ้ง รู้จักการใช้สื่ออย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างมูลค่าในการหารายได้ และมีอีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากให้ผู้เข้ารับการศึกษาได้เรียนรู้ควบคู่ไปด้วยกันกับหลักสูตรการบริหารการจัดการ ก็คือ ให้รู้จักและเข้าใจกับคำว่า “Sportsmanship” หรือ “น้ำใจนักกีฬา” เพื่อที่จะได้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพต่อสังคมอย่างแท้จริง

 

ทั้งนี้ สจล. และ ไทยไฟท์ ได้จัดงานเปิดตัวหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง (Master of Business Administration in Sport, Media and Entertainment Management) ณ หอประชุมใหญ่ สจล. เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ภาควิชาการจัดการ หลักสูตรการจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง โทร. 02-329-8000 ต่อ 6378 , 6379 ทางเว็บไซต์ที่ www.fam.kmitl.ac.th หรือส่วนสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โทร.  02-329-8111 ทางเว็บไซต์ที่ www.kmitl.ac.th

กระหึ่มยะลา! ‘ไทยไฟท์’ สร้างความสุขสู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คนแห่เข้าชมทะลักสนาม

หลังจากได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากการจัดการแข่งขัน THAI FIGHT ปัตตานี ปี 2556 , THAI FIGHT นราธิวาส ปี2558 และในปีนี้ 2560 ไทยไฟท์ กลับมาสร้างความสุขอีกครั้งใน “THAI FIGHT เรารักยะลา”

ในครั้งนี้ คุณนพพร วาทิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยไฟท์ จำกัด ร่วมมือ ศอ.บต. และ กองทัพบก ได้นำการแข่งขันชกมวยไทยที่ยิ่งใหญ่ อลังการด้วย แสง สี เสียง และ นักมวยไทยที่มีชื่อเสียงแถวหน้าของประเทศไทย กลับไปสร้างความสุข ความสนุก และ ความมันส์ให้กับพี่น้องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2560 ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ในงาน ‘THAI FIGHT เรารักยะลา’ ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือ ของบริษัท ไทยไฟท์ จำกัด ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ กองทัพบก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดิน ด้วยการนำเอามวยไทยมาสร้างความสุขให้กับพี่น้องชาวยะลาและจังหวัดใกล้เคียง

พร้อมเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวให้กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนส่งเสริมรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ  กระตุ้นเศรษฐกิจเมืองชายแดนใต้ทุกภาคส่วน และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดียิ่ง ประชาชนภาคใต้หลั่งไหลเข้าชมงานกันอย่างล้นหลาม

ผลการแข่งขัน THAI FIGHT เรารักยะลา

คู่แรก ธนัญชัย ปุ๋ยชาลีเฟรท (ไทย)  ชนะน็อคในยกที่2 ไรอัน จากิริ (ฟิลิปปินส์)

Thanunchai Puicharleephate-Thailand win by knockout in 2nd round  Ryan Jakiri-Philippines

 

คู่ที่2 พยัคฆ์สมุย ลูกเจ้าพ่อโรงต้มกรมสรรพสามิต (ไทย)  แพ้น็อคยกที่ 1  คาซเบ๊ค คาบูลอฟ (รัสเซีย)

Payak-Samui Lukjaoporongtom Kromsappasamit-Thailand  lose by knockout Kazbek Kabulov-Russia

คู่ที่3 แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (ไทย)  ชนะ แชดด์ คอลลินส์ (ออสเตรเลีย)

Saenchai P.K.Saenchai Muaythai Gym – Thailand win Chadd Collins – Australia

 

คู่ที่4 ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วงวินดี้สปอร์ต (ไทย)  ชนะ แจ ลิน อ่อง (เมียนมา)

Saiyok Pumphanmuang Windy Sport – Thailand win Kyal Lin Aung – Myanmar

คู่ที่5 ก้องศักดิ์ ศิษย์บุญมี (ไทย) ชนะน็อคในยกที่1 วาฮิด ชาห์บาซี่ (อิหร่าน)

Kongsuk Sitbunmee – Thailand  win by knockout Vahid Shahbazi – Iran

 

คู่ที่ 6 ยูเซฟ บูคคาเนม (โมร็อกโก) ชนะน็อคในยกที่1  ซาเบอร์ อาทารี่ (อิหร่าน)

Youssef Boughanem – Morocco win by knockout Saber Athari – Iran

คู่ที่7 แสนสะท้าน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (ไทย)  ชนะน็อคในยกที่ 1 ลอง โสพีร์ (กัมพูชา)

Saensathan P.K.Saenchai Muaythai Gym – Thailand  win by knockout   Long Sophy – Cambodia

 

คู่ที่8 ป.ต.ท. เพชรรุ่งเรือง (ไทย)  ชนะน็อคในยกที่1 สตีเฟน อ๊อปปอง (แคนาดา)

P.T.T. Petchrungrueng – Thailand  win by knockout Stephen Oppong – Canada

คู่ที่9 สุดสาคร ส.กลิ่นมี (ไทย)  ชนะน็อคในยกที่1 เอริค แมสสัน (เบลเยี่ยม)

Sudsakorn Sor.Klinmee – Thailand  win by technical knockout Erik Massion – Belgium