ฝนกระหน่ำก็สู้ ‘มิสซูปร้าฯ’ ลุยกิจกรรมภูเก็ต ไหว้พระ-บูชาองค์เทพเจ้า

วันที่ 28 ส.ค. 60 กองประกวดมิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ นำสาวงามผู้เข้าประกวดมิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ 2017 ทำกิจกรรม ระหว่างเก็บตัวที่ จ.ภูเก็ต ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ท่ามกลางฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก โดยเน้นไปที่การทำกิจกรรมทางศาสนา

ในช่วงเช้า สาวงามผู้เข้าประกวดตัวแทนจาก 77 จังหวัด ได้เดินทางไปยังศาลเจ้าฮกหงวนก้ง หรือ ศาลเจ้าจ้อซูก้อง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งตั้งอยู่ที่วงเวียนหอนาฬิกา ถ.ตลิ่งชัน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต กราบไหว้ขอพรพระประธานในศาลเจ้า คือองค์เฉ่งจุ้ยจ้อซู หรือ จ้อซูก้ง คนทั่วไปรู้จักกันในนาม ปรมาจารย์ตั๊กม้อ เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกับเสี่ยงเซียมซีทำนายดวงชะตา ก่อนเดินทางไปเยี่ยมชมมัสยิดยาเมี๊ยะ และโบสถ์แม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ ซึ่งตั้งอยู่ในละแวกเดียวกัน

จากนั้น ได้เดินทางไปชมวิวเมืองภูเก็ตบนเขารัง และชื่นชมอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ ที่สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ซึ่งเป็นปูชนียบุคคลผู้สร้างคุณูปการมากมาย ให้กับจังหวัดภูเก็ตและภาคใต้

ในช่วงบ่ายผู้เข้าประกวดเดินทางไปยัง ศาลเจ้ากวนอู บ้านนาบอน ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านนาบอน ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อกราบไหว้บูชาองค์เทพเจ้ากวนอู เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ โชคลาภ บารมี และชมการแสดงเชิดสิงโตต้อนรับ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน จากนักเรียน โรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน กันอย่างเพลิดเพลิน

ต่อมาได้เดินทางไปยัง วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราม วัดคู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของ จ.ภูเก็ต ที่นี่เหล่าสาวงามได้ชื่นชมความงามของพระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมี ที่ประดิษฐสถานของ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกา และนมัสการหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง

จากนั้นเหล่าสาวงามเดินทางไปเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.กระทู้ ชมการแสดงนิทรรศการแบบมีชีวิต เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของการทำเหมืองแร่ดีบุก และวิถีชีวิตของชาวเหมือง

อย่างไรก็ตาม แม้ตลอดทั้งวันสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย มีฝนตกกระหน่ำสลับกับแดดออก แต่เหล่าสาวงามก็ไม่หวั่น โชว์สปิริตแรงกล้า ฉีกยิ้มทำกิจกรรม ได้ใจชาวภูเก็ตที่มารอชื่นชมความงามตามสถานที่ ที่เดินทางไปทำกิจกรรมกันอย่างคึกคัก

เอ็นซีอาร์เปิดตัวสุดยอดเทคโนโลยี ช่วยธุรกิจธนาคาร-สถาบันการเงินไทย ก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจ 4.0

ด้วยโซลูชั่นที่ครอบคลุมทุกช่องทางและแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ NCR ช่วยให้ธนาคารสถาบันการเงินสามารถสร้างความยืดหยุ่นจากการนำเอาเทคโนโลยียุคใหม่มาใช้ พร้อมลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

 

กรุงเทพฯ – 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560 NCR Corporation (NYSE: NCR) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นการบริการทางการเงินแบบหลากหลายช่องทาง (omni-channel solutions) เปิดตัวโซลูชั่นสวีทแบบครบวงจร CxBanking สำหรับให้การสนับสนุนธุรกิจธนาคารและสถาบันการเงิน (FIs) ในไทยในการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและสู่รูปแบบการบริการทางเงินผ่านการบริการแบบหลากหลายช่องทาง  การใช้งานโซลูชั่น CxBanking ของเอ็นซีอาร์จะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถนำเสนอช่องทางในการทพธุรกรรมทางการเงินให้แก่ลูกค้าผ่านอุปกรณ์หลากหลายประเภท ได้อย่างลื่นไหล เพิ่มความรวดเร็วให้กับการให้บริการ และลดช่วงเวลาการหยุดทำงานของระบบ แถมด้วยประสิทธิภาพการทำงานในสำนักงานสาขา และวางแผนการใช้ทรัพยากรบุคคลได้ดียิ่งขึ้น

ในงานการเปิดตัวโซลูชั่น มีการสาธิตข้อมูลรายละเอียดและการทำงานของพอร์ตโฟลิโอ CxBanking จากเอ็นซีอาร์ที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานจากกว่า 70 สถาบันการเงินชั้นนำทั้งในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลูกค้าของเอ็นซีอาร์ในงานได้สัมผัสโซลูชั่นการเงินแบบหลากหลายช่องทางในเวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งได้ออกแบบบนหลักการที่เน้นการสร้างประสบการณ์ชั้นเลิศให้แก่ผู้ใช้บริการ  โดยโซลูชั่นสวีทนี้ประกอบด้วยโซลูชั่นการเงินในรูปแบบดิจิทัล และตู้การใช้บริการด้วยตัวเองที่ทันสมัย สามารถสร้างความได้เปรียบสำหรับอนาคตซึ่งจะเป็นยุคของการเชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด

“เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปได้ดีนั้น สถาบันการเงินต่างมองหาทางเลือกในการให้บริการ และไปสู่ช่องทางการบริการในแบบดิจิทัล  ซึ่งเป็นแนวทางที่นำไปสู่รูปแบบการให้บริการทางการเงิน ‘แบบดิจิทัลเท่านั้น’” จอร์จ แมคริยานนิส หัวหน้าฝ่ายขายโซลูชั่น ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เอ็นซีอาร์ กล่าว “โซลูชั่น CxBanking ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการทางการเงินผ่านช่องทางที่มีความหลากหลาย รวมถึงรูปแบบการทำงานของสาขาที่จะมีความแตกต่างออกไป โดยที่เอ็นเตอร์ไพร้ซ์แอพพลิเคชั่นแพลตฟอร์มของเราจะให้ความมั่นใจได้ว่าธุรกรรมทางการเงินของธนาคารนั้นจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นบนโครงสร้างระบบที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน”

 

เอ็นซีอาร์ได้แสดงการสาธิตเทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนการทำงานของสาขา Branch Transformation  รวมถึง NCR Interactive Teller นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ลูกค้าสามารถสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ธนาคารจากทางไกลได้ผ่านระบบวิดีโอและเสียงที่มีคุณภาพสูง นอกเวลาทำการ  ด้วยการย้ายธุรกรรมที่เกิดอยู่เป็นประจำไปสู่ช่องทางการใช้บริการด้วยตนเอง  ในส่วนของเครื่อง Interactive Teller ของเอ็นซีอาร์นั้นก็จะเป็นส่วนที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่ธนาคารสามารถให้เวลาในการบริการลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น  อำนวยความสะดวกแก่ธุรกรรมที่มีมูลค่าทางการเงินสูงกว่า และสร้างความประทับใจในการให้บริการกับลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น

“พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากเทคโนโลยี และเอ็นซีอาร์คือผู้นำในการเปลี่ยนแปลงนั้น”  จอย แยพ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายการบริการทางการเงิน เอ็นซีอาร์ กล่าว “เทคโนโลยีล้ำยุคสำหรับบริการทางการเงินทั้งออนไลน์และบนอุปกรณ์ไร้สายที่เปิดตัวในวันนี้ ผสานสภาพแวดล้อมของการมีปฏิสัมพันธ์ตัวต่อตัวแบบดั้งเดิมเข้ากับการสร้างบริการทางการเงินที่พร้อมเสมอในทุกช่องทาง  สร้างความยืดหยุ่นคล่องตัวในการให้บริการแก่ผู้บริโภค  และยังสามารถที่จะควบคุมธุรกรรมตามความต้องการของลูกค้า ตามรูปแบบแพลตฟอร์มการใช้งานที่เลือกใช้ได้เปนอย่างดี”

 

เอ็นซีอาร์ยังได้เปิดตัวโซลูชั่นประมวลผลธุรกรรมอัจฉริยะ ที่ทำงานได้รวดเร็วและปลอดภัยที่สุดในชื่อ Authentic ซึ่งถือว่าเป็นแพลตฟอร์มระบบชำระเงินเจ้าแรกที่รองรับมาตรฐาน PA-DSS 3.1 และออกแบบมาเพื่อรองรับธุรกิจรับขำระเงินที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว  นี่คือระบบรับชำระเงินบนเทคโนโลยีล้ำหน้าสำหรับธุรกิจธนาคารรายย่อย, บริษัทบัตรเครดิต, บริษัทจัดซื้อ, บริษัทผู้ให้บริการรับชำระเงิน รวมถึงบริษัทห้างร้านที่ต้องผ่านมาตรฐาน ISO ที่มีอยู่ทั่วโลก

การสาธิตการทำงานที่นำมาแสดงในงานเปิดตัวประกอบไปด้วย

  • NCR APTRA Connections – โซลูชั่นที่เปลี่ยนรูปแบบช่องทางสื่อสารกับลูกค้าที่ครบวงจรการสื่อสาร ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และสร้างบริการที่สามารถเพิ่มมูลค่า ไม่ว่าลูกค้าจะเลือกติดต่อผ่านช่องทางใดก็ตาม
  • NCR Connected Payments เทคโนโลยีที่มาในรูปแบบของโซลูชั่นแบบ software-as-a-service (SaaS) ที่ให้ทั้งความปลอดภัยและแม่นยำพร้อมทั้งปกป้องในการส่งผ่านให้กับข้อมูลในการทำธุรกรรม ตั้งแต่การใส่รหัสไปจนถึงขั้นตอนการประมวลผลการชำระเงิน
  • SelfServ ATMs ตู้เอทีเอ็มสำหรับการใช้บริการด้วยตัวเอง ทั้งการฝากเงินและการให้บริการต่างๆ
  • บริการการถอนเงินผ่านทางอุปกรณ์มือถือ
  • จุดให้บริการทางการเงินสำหรับการเปิดบัญชีหรือบัตรเครดิต
  • NCR Fractals โซลูชั่นการตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกง
  • NCR Payment Platform แพลตฟอร์มระบบรับชำระเงิน ที่เป็นสะพานสำหรับช่วยให้กระบวนทำงานแบบดั้งเดิมนั้นสามารถผสานเข้ากับช่องทางการชำระเงินทั้งแบบดิจิทัลและในแบบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

 

เกี่ยวกับเอ็นซีอาร์คอร์ปอเรชั่น (NCR Corporation)

เอ็นซีอาร์ คอร์ปอเรชั่น ( NYSE: NCR ) เป็นผู้นำด้านโซลูชั่นการบริการทางการเงินแบบหลากหลายช่องทาง ที่เปลี่ยนรูปโฉมของการติดต่อสื่อสารเชิงธุรกิจในทุกๆ วัน ให้เป็นประสบการณ์ชั้นยอดอันน่าประทับใจ ด้วยซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และพอร์ตโฟลิโอของการให้บริการด้านต่างๆ เอ็นซีอาร์ให้การรองรับการดำเนินธุรกรรมทางการเงินถึงกว่า 700 ล้านธุรกรรมต่อวัน ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การค้ารายย่อย การเงิน การเดินทาง การบริการต้อนรับ โทรคมนาคมและเทคโนโลยี รวมไปถึงวิสาหกิจขนาดย่อม โซลูชั่นของเอ็นซีอาร์ขับเคลื่อนธุรกรรมในแต่ละวัน เพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้น

เอ็นซีอาร์มีสำนักงานใหญ่อยู่ ณ เมืองดูลูธ รัฐจอร์เจีย ด้วยพนักงานกว่า 30,000 คน ดำเนินธุรกิจใน 180 ประเทศ
NCR เป็นเครื่องหมายการค้าของ เอ็นซีอาร์คอร์ปอเรชั่น ( NCR Corporation ) ในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ  เอ็นซีอาร์ขอเชิญชวนให้นักลงทุนได้เข้าเยี่ยมเว็บไซต์ของเราเพื่อติดตามข้อมูลที่ได้รับการอัพเดทอยู่เป็นประจำ เพื่อรับรู้ข่าวสารด้านการเงินหรือข้อมูลสำคัญของบริษัทเอ็นซีอาร์

Web site: www.ncr.com

Twitter: @NCRCorporation

Facebook: www.facebook.com/ncrcorp

LinkedIn: www.linkedin.com/company/ncr-corporation

YouTube: www.youtube.com/user/ncrcorporation

แห่ชมความงาม ‘มิสซูปร้าฯ 2017’ ชมเมืองเก่าภูเก็ต โชว์แฟชั่นชุดพื้นเมืองบาบ๋า

วันที่ 26 ส.ค. 60 กองประกวดมิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ นำผู้เข้าประกวด มิสซูปร้าไทยแลนด์ 2017 จาก 77 จังหวัด เก็บตัวทำกิจกรรมที่ จ.ภูเก็ต เป็นวันที่ 2 โดยเวลา 09.00 น. เหล่าสาวงามสวมชุดพื้นเมืองภูเก็ตแบบบาบ๋า เสื้อพื้นเมืองสีขาวใส่กับผ้าบาเต๊ะ เดินทางไปสักการะขอพรอนุสาวรีย์ท้าวเทพกะษัตรี และท้าวศรีสุนทร สองวีรสตรีผู้หาญกล้าแห่งเมืองถลาง ที่สร้างวีรกรรมยิ่งใหญ่ในสมัยสงคราม 9 ทัพ รวบรวมไพร่พลที่อยู่ในเมืองถลางนับพัน ต้านทัพพม่าที่ยกทัพบุกเมืองถลาง ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย

จากนั้นผู้เข้าประกวด พร้อมด้วย นางสาวชินนิดี้ เชตตี้ มิสซูปราเนชั่นแนล 2016 ชาวอินเดีย ได้เดินทางไปเข้าคารวะ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวภูเก็ตให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ต่อมาช่วงในช่วงบ่าย คณะสาวงามผู้เข้าประกวด เดินทางไปที่พิพิธภัณฑ์เพอรานากันนิทัศน์ เพื่อชมนิทรรศการเมืองไทยในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ธนาคารเก่า พร้อมกับศึกษาศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตชาวภูเก็ต ก่อนเดินทางไปชมสถาปัตยกรรมย่านเมืองเก่าภูเก็ต ชมการสาธิตและทดลองทำผัดหมี่ฮกเกี้ยน ที่ ร้านบ้านเก้าสิบสอง ถนนถลาง ร่วมเสวนาวัฒนธรรมท้องถิ่นเรื่องการแต่งกายของชาวภูเก็ต ในรูปแบบของสภากาแฟ

โดยสาวงามทั้ง 77 คนได้ร่วมเดินแฟชั่นโชว์ชุดพื้นเมืองบาบ๋า กลางถนนถลาง สร้างสีสันมีชีวิตชีวาเป็นที่สนใจของชาวภูเก็ต และนักท่องเที่ยวร่วมยลโฉมและบันทึกภาพกันอย่างคับคั่งตลอดสองฝั่งถนน เนื่องจากเป็นวันหยุดมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเยี่ยมความงดงามของเมืองเก่าภูเก็ต

นอกจากนี้ในช่วงค่ำวันเดียวกัน ผู้เข้าประกวดได้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ และชมการแสดง ที่สยามนิรมิต ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ใช้จัดการประกวดรอบตัดสิน ในเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ก.ย. โดยผู้ที่ได้ครองตำแหน่งมิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ 2017 จะได้เป็นตัวแทนไปประกวดมิสซูปร้าเนชั่นแนล 2017 ซึ่งปีนี้จัดประกวดที่ประเทศโปแลนด์

มิสซูปร้าฯ ไทยแลนด์ 2017 เปิดตัวประชันชุดว่ายน้ำ สุดแซ่บ!

เมื่อวันที่ 24 ส.ค.60 เวลา 09.00 น.ที่สระว่ายน้ำโรงแรมพูลแมน บางกอก คิงพาวเวอร์ กองประกวด มิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ ซึ่งจัดการประกวดมิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ 2017 ขึ้นเป็นครั้งแรก ได้เปิดให้สื่อมวลชนสัมผัสสาวงามผู้เข้าประกวดตัวแทนจาก 77 จังหวัดเป็นครั้งแรก ในชุดว่ายน้ำวันพีช และทูพีชสลับกันไป หลังจากมารายงานตัวและเริ่มทำกิจกรรมกับกองประกวด โดยเหล่าสาวงามต่างโพสท่าโปรยเสน่ห์ นำเสนอความงามตนเองกันอย่างเต็มที่ ก่อนเปลี่ยนเป็นชุดราตรีให้กองประกวดได้บันทึกภาพโปรไฟล์ผู้เข้าประกวด

โดยหลังจากนี้สาวงามทั้ง 77 คน จะเดินทางไปเก็บตัวทำกิจกรรมที่จังหวักภูเก็ต ในวันที่ 25 ส.ค. ถึง 1 ก.ย.และจะประกวดรอบตัดสินในวันที่ 2 ก.ย. เวลา 10.00 น. ณ สยามนิรมิต ภูเก็ต สาวงามที่ได้ครองตำแหน่งมิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ 2017 จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทย ไปประกวดมิสซูปร้าเนชั่นแนล 2017 ซึ่งปีนี้จัดการประกวดที่ ประเทศโปแลนด์

 

สจล. จับมือ ไทยไฟท์ เปิดสังเวียนหลักสูตร ป.โท ต่อยอดสื่อ ‘กีฬา’ สร้างสรรค์

สจล. ตั้ง “KMITL-Thai Fight Academy” ศูนย์กลางการประสานงานและสนับสนุนการศึกษา ด้านกีฬาและสื่อบันเทิงในประเทศไทย

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จับมือ “ไทยไฟท์” เวที แข่งขันทัวร์นาเมนท์มวยไทยชื่อดังระดับโลก ผุดหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง (Master of Business Administration in Sport, Media and Entertainment Management) ครั้งแรกของสถาบันการศึกษาไทย ในการควบรวมองค์ความรู้ด้านวิชาการเข้ากับภาคธุรกิจที่มีประสบการณ์จริง รองรับการเติบโตของกีฬามวยไทยในเชิงอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry) โดยปัจจุบันมูลค่าอุตสาหกรรมกีฬาไทย อยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตเป็น 2 แสนล้านบาท ขณะที่มูลค่าอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงไทยมีแนวโน้มเติบโต แตะ 4.32 แสนล้านบาท ในปี 2564 ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงโอกาสในการสร้างเม็ดเงินจากธุรกิจดังกล่าว ตามแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจไทย 4.0 ของรัฐบาล พร้อมตั้ง KMITL Thai Fight Academy of Sports and Media Management เป็นศูนย์กลางการประสานงานและสนับสนุนการศึกษา ด้านกีฬาและสื่อบันเทิงไทยให้เป็นเลิศ

 

.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจที่ผสมผสานศาสตร์ด้านการจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง เข้าด้วยกัน มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น จากพฤติกรรมการเสพสื่อและการเข้าถึงช่องทางต่างๆ ในการรับชม อันเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) โดยหนึ่งในชนิดกีฬาที่ถูกนำมาผนวกเข้ากับธุรกิจสื่อและบันเทิง และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในคนไทยและชาวต่างชาติ คือ “มวยไทย” ที่ทุกวันนี้มีการจัดแข่งขันและเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ในรูปแบบที่ให้อรรถรสมากกว่าแมทช์การแข่งขันทั่วไป ทำให้มูลค่าของอุตสาหกรรมกีฬามวยไทยในเชิงสร้างสรรค์เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมกลุ่มนี้  สจล. ในฐานะสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นวิชาการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศและบริการสังคม จึงร่วมกับ บริษัท ไทยไฟท์ จํากัด ผู้จัดเวทีแข่งขันมวยไทยระดับโลก พัฒนา หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง (Master of Business Administration in Sport, Media and Entertainment Management) เพื่อสร้างบัณฑิตที่มีความรู้และความเข้าใจ ในการบริหารจัดการธุรกิจที่ผสมผสานศาสตร์ทั้งสองเข้าด้วยกัน ให้ผู้เรียนมีความเป็นเลิศทั้งในด้านการบริหารธุรกิจกีฬา และมีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมการออกแบบ สามารถเลือกใช้สื่อและรูปแบบความบันเทิง เป็นเครื่องมือสนับสนุนการจัดการกีฬาให้ประสบความสำเสร็จ

“หากศึกษามูลค่าการแข่งขันกีฬาแมทช์ดังระดับโลกจะพบว่า ทุกการแข่งขันล้วนมีการผนวกศาสตร์ด้านสื่อและบันเทิงเข้าด้วยกัน โดยผลการสำรวจมูลค่ารายการแข่งขันกีฬาระดับโลกที่แพงที่สุดในปี 2016 (Most Valuable Sport Event Worldwide in 2016) โดย statista.com พบว่า การแข่งขัน “ซูเปอร์โบว์ล” (Super Bowl) มีมูลค่าสูงถึง 630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 20,790 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรายการแข่งขันที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก เมื่อหันกลับมามองโอกาสในประเทศไทย ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่าปัจจุบันมูลค่าอุตสาหกรรมกีฬาไทย อยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท และมีโนวโน้มเติบโตเป็น 2 แสนล้านบาทในเร็วๆ นี้ ขณะที่มูลค่าอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงไทยมีแนวโน้มเติบโต แตะ 4.32 แสนล้านบาท ในปี 2564 ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงโอกาสในการสร้างเม็ดเงินจากธุรกิจดังกล่าว ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ตามแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจไทย 4.0 ของรัฐบาล” ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าว

ด้าน รศ.ดร.อำนวย แสงโนรี คณบดีคณะการบริหารและจัดการ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า จุดเด่นของหลักสูตรนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นจากเป็นความร่วมมือ ระหว่าง สจล​. กับ ไทยไฟท์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสถาบันการศึกษาไทย ในการเปิดหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง ร่วมกับผู้ประกอบการหรือภาคธุรกิจที่เป็นผู้นำ ในด้านการจัดแข่งขันทัวร์นาเมนท์มวยไทยระดับโลกเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้ผู้เรียนมีศักยภาพด้านการคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การค้นคว้าวิจัยและประยุกต์ใช้แนวทฤษฎีด้านการจัดการและบริหารธุรกิจทั่วไป ควบคู่ไปกับแนวทฤษฎีด้านการจัดการและบริหารธุรกิจกีฬา สื่อ และบันเทิง ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านรูปแบบการจัดแผนการเรียนการสอนออกเป็น 39 หน่วยกิต แบ่งเป็น 1. หมวดวิชาปรับพื้นฐาน ได้แก่ หลักการบัญชี , หลักเศรษฐศาสตร์ 2. หมวดวิชาบังคับ ได้แก่ การจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง , การจัดการองค์การและทรัพยากรมนุษย์ , การเงินและการบัญชีบริหาร , กฎหมายกีฬาและจริยธรรม และ 3. หมวดวิชาเลือก ได้แก่ การจัดการนวัตกรรมกีฬา , กิจกรรมทางการตลาดและการผลิตสื่อกีฬา , การจัดการอัตลักษณ์ในธุรกิจกีฬา , การแพร่ภาพสื่อดิจิทัล เป็นต้น พร้อมกับหมวดวิชาวิทยานิพนธ์ และหมวดวิชาการค้นคว้าอิสระ โดยจะเปิดรับสมัครนักศึกษารุ่นแรกในวันที่ 15 ก.ย. – 15 พ.ย นี้ จะเริ่มเปิดสอนนักศึกษารุ่นแรกในปีการศึกษา 2560 ช่วงกลางเดือน ธ.ค.

“ความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ระหว่าง สจล. และ ไทยไฟท์ ถือเป็นก้าวสำคัญในการควบรวมองค์ความรู้ด้านวิชาการ เข้ากับภาคธุรกิจที่มีประสบการณ์ในด้านกีฬา สื่อ และบันเทิง ซึ่งนอกจากนักศึกษาจะได้เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญตัวจริงแล้ว ยังมีโอกาสได้สัมผัสรูปแบบการจัดการกีฬาสู่ระดับสากลด้วย โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ส.ค. ปี 2559 ที่ผ่านมา ได้มีการลงนามความร่วมมือในการจัดตั้ง KMITL Thai Fight Academy of Sports and Media Management ในการพัฒนาหลักสูตรร่วมกัน เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการประสานงานและสนับสนุนการศึกษา สำหรับนักศึกษาด้านกีฬาและสื่อบันเทิงไทยให้เป็นเลิศ เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างและพัฒนาบุคลากร ทั้งทางการกีฬาของไทยและนักธุรกิจนักสื่อสารที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดศักยภาพและความสำเร็จอย่างมีคุณภาพทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ”

 

ขณะที่ นายนพพร วาทิน  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยไฟท์ จํากัด กล่าวเสริมว่า การจัดตั้งสถาบัน Thai Fight Academy มีเจตนารมณ์นำเอา การศึกษา , นวัตกรรม , วัฒนธรรม และกีฬา มาผนวกเข้าด้วยกัน ด้วยวัตถุประสงค์ต้องการผลิตบุคลากร เพื่อมาบริหารจัดการทางด้านกีฬาอย่างมีคุณภาพ รวมถึงการผลิตบุคลากร ให้มีความรู้ความสามารถในการสร้างแบรนด์ขององค์กร ให้เป็นที่รู้จักและให้เป็นที่ยอมรับต่อวงการ ดังนั้น การสร้างแบรนด์ให้มีคุณค่า ถือเป็นสิ่งใหม่ของวงการศึกษา เพราะในยุคไทยแลนด์ 4.0 แบรนด์ที่มีคุณภาพย่อมพาองค์กรสู่ความสำเร็จได้ การที่ Thai Fight ประสบความสำเร็จสามารถสร้างแบนรด์เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จนกลายเป็นแบรนด์ชาติ เพราะการบริหารจัดการด้านมาร์เก็ตติ้งและการจัดการด้านสื่ออย่างถูกวิธี ดังนั้น ผู้เข้ารับการศึกษาจะได้เรียนรู้แนวคิดในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง รู้จักการทำมาร์เก็ตติ้ง รู้จักการใช้สื่ออย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างมูลค่าในการหารายได้ และมีอีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากให้ผู้เข้ารับการศึกษาได้เรียนรู้ควบคู่ไปด้วยกันกับหลักสูตรการบริหารการจัดการ ก็คือ ให้รู้จักและเข้าใจกับคำว่า “Sportsmanship” หรือ “น้ำใจนักกีฬา” เพื่อที่จะได้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพต่อสังคมอย่างแท้จริง

 

ทั้งนี้ สจล. และ ไทยไฟท์ ได้จัดงานเปิดตัวหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง (Master of Business Administration in Sport, Media and Entertainment Management) ณ หอประชุมใหญ่ สจล. เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ภาควิชาการจัดการ หลักสูตรการจัดการกีฬา สื่อ และบันเทิง โทร. 02-329-8000 ต่อ 6378 , 6379 ทางเว็บไซต์ที่ www.fam.kmitl.ac.th หรือส่วนสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โทร.  02-329-8111 ทางเว็บไซต์ที่ www.kmitl.ac.th

ว้าว.. ‘มิสซูปร้าฯ ไทยแลนด์ 2017’ เปิดตัวมงกุฏเพชรแท้ 3 เม็ดเด็ดจริง!!

เปิดตัวมงกุฏ “มิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ 2017” ตื่นตาตื่นใจความงาม เน้นสวยสตรองสมกับเป็นสาวยุคใหม่

เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 60 ที่ บลูมมิ่ง แกลลอรี่ ทองหล่อกองประกวดมิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ ร่วมกับ ‘อิมปริ้นท์’ (imprint) แถลงข่าวเปิดตัวมงกุฏมิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ 2017

โดยมี ‘เนย-ณหทัย เล็กบำรุง’ รองประธานการจัดประกวดมิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ ‘นริด-นฤธนันท์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา’ ผู้ก่อตั้งแบรนด์อิมปริ้นท์ ตัวแทนผู้สนับสนุนการประกวด และสาวงามผู้เข้าประกวดตัวแทนจากจังหวัดต่างๆ ร่วมงานอย่างคึกคัก

‘นริด-นฤธนันท์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา’ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารแบรนด์อิมปริ้นท์ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบมงกุฏมิสซูปร้าเนชั่นไทยแลนด์ 2017 กล่าวว่า รู้สึกดีใจ และเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่กองประกวดฯ ให้ความไว้วางใจแบรนด์เล็กๆ ที่ไม่เคยออกแบบมงกุฏให้กับเวทีการประกวดไหนมาก่อน ออกแบบมงกุฏให้เป็นครั้งแรก

ได้เชิญ คริสติน่า ซึ่งเป็นดีไซน์เนอร์ชาวเชค ที่เคยร่วมงานออกแบบเครื่องประดับเลอค่าหลากหลายสไตล์ มาช่วยกันออกแบบ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากตึก สถาปัตยกรรมในยุโรป สไตล์ อาร์ท เดกโค ประกอบด้วยเพชรและพลอยจำนวน 2,297 เม็ด น้ำหนัก 880 กะรัต มีเพชรแท้ 3 เม็ด น้ำหนัก 0.90 กะรัต

ความพิเศษของมงกุฏสามารถแยกชิ้นเทียร่าออกมาได้ เพื่อให้นางงามสามารถเลือกสวมใส่ขนาดใหญ่ และเล็กได้ตามโอกาสและความเหมาะสมของงาน ตามคอนเซ็ปท์ ที่อยากเห็นนางงามยุคใหม่มีความเข้มแข็ง มิใช่สวยเพียงอย่างเดียว กล้าคิด กล้าแสดงออก มีความคิดสร้างสรรค์ เหมือนมงกุฏที่ออกแบบ ซึ่งไม่แน่ใจว่า เป็นอันแรกของโลกหรือไม่ แต่ตนตั้งใจดีไซน์รูปแบบใหม่ออกมาให้เลอค่าที่สุด